บัลลังก์หมอยาเซียน 640 การเปลี่ยนแปลงของอ๋องจี้

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 640 การเปลี่ยนแปลงของอ๋องจี้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หยู่เหวินเห้าเดินกลับไปยังตำหนักเซี่ยวเยว่ด้วยฝีเท้าเบาหวิว นั่งรอด้วยใจตื่นตระหนกอยู่ครู่หนึ่ง จึงเห็นหยวนชิงหลิงปรากฏตัวที่หน้าประตู

เขาดึงตัวหยวนชิงหลิงเข้ามาทันที รีบถามขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านย่ารู้เรื่องที่ก่อนหน้านี้ข้าเคยสั่งให้คนโบยเจ้าแล้วใช่หรือไม่ นางมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง โมโหมากใช่หรือไม่”

หยวนชิงหลิงตบที่มือเขาเบาๆ ทำเสียงชู่หนึ่งครั้ง กะพริบตาหนึ่งที ให้สัญญาณว่าข้างนอกยังมีคนอยู่

หยู่เหวินเห้ากระทืบเท้า “ชู่อะไรกันเล่า เจ้ารีบพูดมา เด็กรุ่ยเหอนั่นพูดอะไร……”

เงาร่างสายหนึ่ง ค่อยๆโผล่เข้ามา ใบหน้าที่อยู่ต่ำลงมาจากศีรษะที่เต็มไปด้วยผมขาว เคร่งขรึมและเย็นยะเยือก

หยู่เหวินเห้าปล่อยหยวนชิงหลิงออกด้วยอาการอ้าปากตาค้าง สองมือประสานกันจากนั้นก็ถูไถไปมาทีหนึ่ง พยายามเค้นรอยยิ้มออกมา น้ำเสียงหนักแน่นเปลี่ยนโทนเสียง เบาและประจบสอพลอ “ท่านย่า ท่านก็มาด้วยหรือ”

หยวนชิงหลิงเห็นสีหน้าที่แทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว ก็หลุดเสียงหัวเราะออกมา “ใต้เท้าทังบอกว่าท่านเจ็บที่หน้าอก คุณย่าเป็นห่วงก็เคยตามมาดูด้วย”

หยู่เหวินเห้าหลุบเปลือกตาลง “ขอบคุณท่านย่า”

คุณย่าหยวนเองก็คงท่าทีเคร่งขรึมเอาไว้ไม่อยู่ พูดยิ้มๆว่า “ดูสีหน้าของหลานเขยแล้ว น่าจะไม่เป็นอะไรมาก เช่นนั้นก็พักผ่อนดีๆเถอะ ข้ากลับก่อนล่ะ”

“ท่านย่า ท่านเดินช้าๆนะ”หยู่เหวินเห้ารีบเดินไปข้างหน้าเพื่อส่งแขก

คุณย่าหยวนมองเขา ทันใดนั้นก็ยื่นมือออกมาตบไปที่หลังมือของเขาพูดว่า “หลานเขย ข้าเป็นคนมีเหตุผล เรื่องราวก่อนหน้านี้หลายเรื่องไม่สามารถโทษเจ้าได้ ถือว่าเลิกแล้วต่อกันทั้งหมด ภายหน้าก็ให้ดีต่อชิงหลิงบ้าง”

“แน่นอน แน่นอน ”หยู่เหวินเห้ารีบรับประกันทันที

คุณย่าหยวนยิ้ม “เช่นนั้นก็ดี ไปพักผ่อนเถอะ”

นางพูดจบ ก็หมุนตัวจากไป

ร่างกายของหยู่เหวินเห้าราวกับทรุดลง หน้าผากมีเหงื่อผุดออกมา ในที่สุดหัวใจที่เต้นตุบตับแทบจะหลุดออกมานั้นก็สงบลงได้เสียที “สวรรค์ เจ้าก็จริงๆเลย ข้าให้ทังหยางไปเรียกเจ้ากลับมา ก็อยากจะถามเจ้าก่อนตามลำพัง ทำไมเจ้ายังพาท่านย่ามาด้วยเล่า”

หยวนชิงหลิงพูดยิ้มๆว่า “ท่านกลัวอะไร ไม่ได้ทำเรื่องผิดบาปอะไรสักหน่อย มีอะไรต้องกลัวด้วย คุณย่าเป็นคนเข้าใจและมีเหตุผล”

หยู่เหวินเห้าลากตัวนางเข้ามาอยู่ในอ้อมอก ยื่นมือไปกดที่ท้ายทอยและคอของนาง สัมผัสได้ถึงความบวมเล็กน้อย ถามว่า “ยังเจ็บหรือไม่”

“คุณย่าทายาให้ข้าแล้ว ยังต้มไข่กลิ้งให้ข้าด้วย ตอนนี้ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว”หยวนชิงหลิงพูด

“เจ้าวางใจได้ วันหลังเรื่องเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว”หยู่เหวินเห้าเอ่ยอย่างรับประกัน

หยวนชิงหลิงไม่ได้ใส่ใจมากนัก ดิ้นรนออกจากอ้อมกอดของเขา ตบเบาๆไปที่ใบหน้าที่แข็งกระด้างด้วยความตื่นเต้นก่อนหน้านี้“หาเรื่องเป็นสิ่งที่ทำให้ชั่วคราวเท่านั้น ทำไปทำมาก็จะรู้สึกไม่สนุก รอให้คนป่วยบนเขาโรคเรื้อนต่างก็หายดีแล้ว ย่อมจะสงบลงไปเอง แต่วันนี้พวกเขาตะโกนอยู่ด้านนอกว่าจะสนับสนุนเจ้าหกให้ขึ้นเป็นรัชทายาท เรื่องนี้หากแพร่ออกไปคงจัดการได้ยาก อาจทำให้เจ้าหกลำบากต้องถูกผู้อื่นตำหนิ ”

หยวนชิงหลิงยิ่งรู้สึกได้ว่าวันนี้ที่อ๋องชินสู้เปิดพื้นที่สนทนาสร้างความคึกคักในวันกลับบ้านมารดาของอ๋องหวยกับหรงเยว่นั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง และแล้วก็มีคนฉวยโอกาสเอามาขยายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ว่าพื้นที่สนทนานี้นับว่าเปิดช้าไปเสียหน่อย ได้ถูกคนใช้ให้เกิดประโยชน์เสียแล้ว

แต่ว่า เอาต้าซิงมาพัวพันด้วยในเวลานี้ เกรงว่าทางด้านเสด็จพ่อคงจะโมโหกระมัง

“ลำบากเจ้าแล้ว แต่งเจ้าเข้ามา ไม่เคยได้รับความสุข ได้แต่ทนความลำบากกับข้าตลอด”หยู่เหวินเห้าอดไม่ได้ที่จะสะท้อนใจ

“ตอนนี้ลำบากสักหน่อย ภายหน้าต้องมีเวลาเสพสุขของพวกเราแน่”หยวนชิงหลิงยิ้มและลุกขึ้นมา หอมไปที่หน้าผากเขาหนึ่งที สายตาเต็มไปด้วยอารมณ์อ่อนหวาน“ไป รีบไปอาบน้ำเถอะ ข้าจะรอท่านกลับมา”

แววตาของหยู่เหวินเห้าเป็นประกายขึ้นมาทันที “ไปแช่น้ำที่สระผีด้วยกัน ”

“ข้าเพิ่งไปแช่มา เมื่อครู่ตอนกลับมาบนตัวมีแต่กลิ่นเหม็นของไข่เน่าเต็มไปหมด ถ้าขืนแช่อีกผิวคงลอกแน่”

หยู่เหวินเห้ากระโดดลุกขึ้น “เอาเถอะ รอข้า ข้าจะกลับมาเร็วที่สุด”

ช่วงนี้ยายหยวนได้แต่แบ่งรับแบ่งสู้ บอกว่าเหนื่อยอยู่ตลอด ยากมากที่จะเห็นกระตือรือร้นเองเช่นนี้ ย่อมต้องรักษาโอกาสไว้ให้ดี

คืนนี้สวีอีพาทหารจวนหลายนายไปสั่งสอนพวกหัวโจกที่มาหาเรื่องอาละวาดในวันนี้ สืบจนรู้จากปากของพวกมันว่าเรื่องนี้เป็นการสั่งการจากจวนอ๋องอันจริงๆ

สวีอียิ้มเย็น “หลอกผีหรืออย่างไร ตอนนี้อ๋องอันอยู่ในค่ายทหาร เขาจะสามารถสั่งการให้พวกเจ้าไปทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้ได้อย่างไร”

“จริงนะ”หัวหน้าอันธพาลถูกสั่งสอนจนใบหน้าเขียวช้ำ “แน่นอนว่าอ๋องอันต้องไม่มาพูดกับพวกข้าน้อยโดยตรง เป็นหญิงสาวที่อยู่ในจวนที่มีหน้าตาสวยมาคนนั้น”

“อะหลู?”สวีอีหรี่ตาลง หญิงสาวคนนั้นเขาเคยพบหน้าสองครั้ง หน้าตางดงาม แต่ว่าจิตใจโหดเหี้ยม อ๋องอันยังให้ความสำคัญกับนางเป็นพิเศษ

สวีอีจัดการสั่งสอนพวกมันอีกครั้ง เช้าวันรุ่งขึ้น ก็กลับไปรายงานหยู่เหวินเห้า

ไม่จำเป็นต้องรายงาน หยู่เหวินเห้าก็รู้ว่าเป็นภัยที่ทางเจ้าสี่สร้างขึ้นมา เดิมคิดว่าทำให้เจ้าสี่ไปอยู่ในค่ายทหารและจับตาดูเอาไว้ เขาคงจะสามารถประพฤติตัวอยู่ในลู่ในทางได้ช่วงหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าในจวนยังมีอะหลูที่คอยสร้างกระแสคลื่นลมปั่นป่วน

“ตรวจสอบให้ทีว่าอะหลูคนนี้มีที่มาอย่างไร นางกับเจ้าสี่ออกหน้าโดยไม่รู้สถานะที่ชัดเจนมาสองสามปีแล้ว”

หยวนชิงหลิงประหลาดใจ ถามขึ้นว่า “อะหลูคนนี้กับอ๋องอันมีความสัมพันธ์อย่างไรกันแน่ พี่สะใภ้สี่ไม่มีความคิดเห็นอะไรหรือ”

“พี่สะใภ้สี่นิสัยอ่อนแอ หูก็เบา ใครก็สามารถหลอกนางได้ ”หยู่เหวินเห้าพูด

หยวนชิงหลิงนึกถึงพระชายาอันขึ้นมา เงียบสงบ นั่งอยู่ตรงนั้นถ้าหากไม่พูดจา ก็แทบจะไม่มีคนนึกขึ้นได้ว่ามีนางอยู่ด้วย

หยู่เหวินเห้ามองหยวนชิงหลิง “วันนี้ถ้าหากเจ้าไม่มีธุระอะไร ก็พาท่าน……ฮูหยินเฒ่าไปหาพระชายาจี้ซิ”

พระชายาจี้เป็นผู้รอบรู้ทุกสิ่ง โดยเฉพาะเรื่องในจวนของเหล่าอ๋องทั้งหลายจะเข้าใจเป็นอย่างดี หยู่เหวินเห้าสงสัยอย่างหนักว่านางจะส่งสายลับเข้าไปอยู่ในจวนของผู้อื่น

นางน่าจะรู้ที่มาที่ไปของอะหลู และตำแหน่งของนางในจวนอ๋องอัน

“ได้”หยวนชิงหลิงตอบรับ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพาคุณย่าออกไปเดินเที่ยวในเมืองหลวงที่แสนจะเจริญรุ่งเรืองนี้อยู่แล้ว และไม่ได้เจอกับพระชายาจี้มานานแล้วด้วย

หลังจากหยู่เหวินเห้าออกไปแล้ว หยวนชิงหลิงก็ให้คนเตรียมรถม้า พาอะซี่กับหมันเอ๋อออกเดินทางไปยังจวนอ๋องจี้

หลังจากที่อ๋องจี้ต้องทนทุกข์ทรมานกลับมา ความรู้สึกในการมีตัวตนเป็นศูนย์ ทำตัวเรียบง่ายจนไม่สามารถเรียบง่ายไปกว่านี้แล้ว

ก่อนหน้านี้ยังหาเรื่องพระชายาจี้อย่างรุนแรง จะวางยาพิษบ้างล่ะจะจ้างนักฆ่าบ้างล่ะ แต่หลังจากกลับจวนแล้ว กลับเย็นชาต่อฉู่หมิงหยาง ทำดีต่อพระชายาจี้เพียงคนเดียวเท่านั้น

ตอนที่หยวนชิงหลิงไปถึง อ๋องจี้กำลังชื่นชมดอกเบญจมาศเป็นเพื่อนพระชายาจี้อยู่ในสวน ภาพสองสามีภรรยาที่แสนรักใคร่กลมเกลียว ฉู่หมิงหยางก็ตามมาอยู่ข้างๆ แต่หน้าตาบึ้งตึงโมโหราวกับคางคกที่กำลังฝึกยุทธ

แต่ดูพระชายาจี้ดูใจจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสักเท่าไหร่ แม้แต่ผลซิ่งอบแห้งที่อ๋องจี้ยื่นให้กับนางเองกับมือนางก็ไม่กิน ได้ยินบ่าวไพร่เข้ามารายงานว่าพระชายารัชทายาทมา ปรากฏว่าพระชายาจี้ลุกขึ้นยืนเหมือนผ่อนคลายขึ้นมาทันที

หยวนชิงหลิงมองเห็นอยู่ไกลๆ รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง

บ่าวไพร่พาหยวนชิงหลิงกับคุณย่าหยวนและพวกอะซี่เดินเข้าไป อ๋องจี้ได้ยินว่าคุณย่าหยวนเป็นน้องสาวของหมอหลินแห่งต้าซิง แววตาก็สว่างวาบขึ้น รีบประสานสองมือขึ้นคำนับ ท่าทีเอาอกเอาใจเป็นอย่างยิ่ง

คุณย่าหยวนเป็นอาจารย์แพทย์แผนจีน ชื่นชอบสมุนไพรและพวกดอกไม้ใบหญ้า เห็นว่าในจวนอ๋องจี้แม้จะเป็นต้นฤดูหนาวแล้วยังมีดอกไม้บานสะพรั่งเต็มไปหมด ก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง

อ๋องจี้เห็นเข้า จึงเสนอว่าจะพาคุณย่าหยวนไปเดินรอบๆ ชื่นชมดอกไม้ใบหญ้า

หยวนชิงหลิงไม่ไว้ใจ ให้อะซี่กับหมันเอ๋อตามนางไปด้วย

ฉู่หมิงหยางคนนั้นย่อมไม่อยู่ปรนนิบัติรับใช้ สะบัดมือกลับเรือนไปทันที

การเปลี่ยนแปลงของอ๋องจี้ หยวนชิงหลิงเห็นแล้วก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง หลังจากนั่งลงแล้วก็หยอกล้อพระชายาจี้ว่า “อ๋องจี้ดีกับเจ้ามากแล้ว ก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเรื่องหนึ่ง ใช่หรือไม่ ”

“พังพอนมาสวัสดีปีใหม่ไก่ไม่ได้มาดีแน่นอน มีอะไรที่ควรค่าแก่การดีใจ”พระชายาจี้กลอกตาหนึ่งที โยนผลซิ่งแห้งที่อ๋องจี้ยื่นให้เมื่อครู่ทิ้งไป ฮึหนึ่งเสียง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บัลลังก์หมอยาเซียน 640 การเปลี่ยนแปลงของอ๋องจี้

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 640 การเปลี่ยนแปลงของอ๋องจี้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หยู่เหวินเห้าเดินกลับไปยังตำหนักเซี่ยวเยว่ด้วยฝีเท้าเบาหวิว นั่งรอด้วยใจตื่นตระหนกอยู่ครู่หนึ่ง จึงเห็นหยวนชิงหลิงปรากฏตัวที่หน้าประตู

เขาดึงตัวหยวนชิงหลิงเข้ามาทันที รีบถามขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านย่ารู้เรื่องที่ก่อนหน้านี้ข้าเคยสั่งให้คนโบยเจ้าแล้วใช่หรือไม่ นางมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง โมโหมากใช่หรือไม่”

หยวนชิงหลิงตบที่มือเขาเบาๆ ทำเสียงชู่หนึ่งครั้ง กะพริบตาหนึ่งที ให้สัญญาณว่าข้างนอกยังมีคนอยู่

หยู่เหวินเห้ากระทืบเท้า “ชู่อะไรกันเล่า เจ้ารีบพูดมา เด็กรุ่ยเหอนั่นพูดอะไร……”

เงาร่างสายหนึ่ง ค่อยๆโผล่เข้ามา ใบหน้าที่อยู่ต่ำลงมาจากศีรษะที่เต็มไปด้วยผมขาว เคร่งขรึมและเย็นยะเยือก

หยู่เหวินเห้าปล่อยหยวนชิงหลิงออกด้วยอาการอ้าปากตาค้าง สองมือประสานกันจากนั้นก็ถูไถไปมาทีหนึ่ง พยายามเค้นรอยยิ้มออกมา น้ำเสียงหนักแน่นเปลี่ยนโทนเสียง เบาและประจบสอพลอ “ท่านย่า ท่านก็มาด้วยหรือ”

หยวนชิงหลิงเห็นสีหน้าที่แทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว ก็หลุดเสียงหัวเราะออกมา “ใต้เท้าทังบอกว่าท่านเจ็บที่หน้าอก คุณย่าเป็นห่วงก็เคยตามมาดูด้วย”

หยู่เหวินเห้าหลุบเปลือกตาลง “ขอบคุณท่านย่า”

คุณย่าหยวนเองก็คงท่าทีเคร่งขรึมเอาไว้ไม่อยู่ พูดยิ้มๆว่า “ดูสีหน้าของหลานเขยแล้ว น่าจะไม่เป็นอะไรมาก เช่นนั้นก็พักผ่อนดีๆเถอะ ข้ากลับก่อนล่ะ”

“ท่านย่า ท่านเดินช้าๆนะ”หยู่เหวินเห้ารีบเดินไปข้างหน้าเพื่อส่งแขก

คุณย่าหยวนมองเขา ทันใดนั้นก็ยื่นมือออกมาตบไปที่หลังมือของเขาพูดว่า “หลานเขย ข้าเป็นคนมีเหตุผล เรื่องราวก่อนหน้านี้หลายเรื่องไม่สามารถโทษเจ้าได้ ถือว่าเลิกแล้วต่อกันทั้งหมด ภายหน้าก็ให้ดีต่อชิงหลิงบ้าง”

“แน่นอน แน่นอน ”หยู่เหวินเห้ารีบรับประกันทันที

คุณย่าหยวนยิ้ม “เช่นนั้นก็ดี ไปพักผ่อนเถอะ”

นางพูดจบ ก็หมุนตัวจากไป

ร่างกายของหยู่เหวินเห้าราวกับทรุดลง หน้าผากมีเหงื่อผุดออกมา ในที่สุดหัวใจที่เต้นตุบตับแทบจะหลุดออกมานั้นก็สงบลงได้เสียที “สวรรค์ เจ้าก็จริงๆเลย ข้าให้ทังหยางไปเรียกเจ้ากลับมา ก็อยากจะถามเจ้าก่อนตามลำพัง ทำไมเจ้ายังพาท่านย่ามาด้วยเล่า”

หยวนชิงหลิงพูดยิ้มๆว่า “ท่านกลัวอะไร ไม่ได้ทำเรื่องผิดบาปอะไรสักหน่อย มีอะไรต้องกลัวด้วย คุณย่าเป็นคนเข้าใจและมีเหตุผล”

หยู่เหวินเห้าลากตัวนางเข้ามาอยู่ในอ้อมอก ยื่นมือไปกดที่ท้ายทอยและคอของนาง สัมผัสได้ถึงความบวมเล็กน้อย ถามว่า “ยังเจ็บหรือไม่”

“คุณย่าทายาให้ข้าแล้ว ยังต้มไข่กลิ้งให้ข้าด้วย ตอนนี้ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว”หยวนชิงหลิงพูด

“เจ้าวางใจได้ วันหลังเรื่องเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว”หยู่เหวินเห้าเอ่ยอย่างรับประกัน

หยวนชิงหลิงไม่ได้ใส่ใจมากนัก ดิ้นรนออกจากอ้อมกอดของเขา ตบเบาๆไปที่ใบหน้าที่แข็งกระด้างด้วยความตื่นเต้นก่อนหน้านี้“หาเรื่องเป็นสิ่งที่ทำให้ชั่วคราวเท่านั้น ทำไปทำมาก็จะรู้สึกไม่สนุก รอให้คนป่วยบนเขาโรคเรื้อนต่างก็หายดีแล้ว ย่อมจะสงบลงไปเอง แต่วันนี้พวกเขาตะโกนอยู่ด้านนอกว่าจะสนับสนุนเจ้าหกให้ขึ้นเป็นรัชทายาท เรื่องนี้หากแพร่ออกไปคงจัดการได้ยาก อาจทำให้เจ้าหกลำบากต้องถูกผู้อื่นตำหนิ ”

หยวนชิงหลิงยิ่งรู้สึกได้ว่าวันนี้ที่อ๋องชินสู้เปิดพื้นที่สนทนาสร้างความคึกคักในวันกลับบ้านมารดาของอ๋องหวยกับหรงเยว่นั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง และแล้วก็มีคนฉวยโอกาสเอามาขยายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ว่าพื้นที่สนทนานี้นับว่าเปิดช้าไปเสียหน่อย ได้ถูกคนใช้ให้เกิดประโยชน์เสียแล้ว

แต่ว่า เอาต้าซิงมาพัวพันด้วยในเวลานี้ เกรงว่าทางด้านเสด็จพ่อคงจะโมโหกระมัง

“ลำบากเจ้าแล้ว แต่งเจ้าเข้ามา ไม่เคยได้รับความสุข ได้แต่ทนความลำบากกับข้าตลอด”หยู่เหวินเห้าอดไม่ได้ที่จะสะท้อนใจ

“ตอนนี้ลำบากสักหน่อย ภายหน้าต้องมีเวลาเสพสุขของพวกเราแน่”หยวนชิงหลิงยิ้มและลุกขึ้นมา หอมไปที่หน้าผากเขาหนึ่งที สายตาเต็มไปด้วยอารมณ์อ่อนหวาน“ไป รีบไปอาบน้ำเถอะ ข้าจะรอท่านกลับมา”

แววตาของหยู่เหวินเห้าเป็นประกายขึ้นมาทันที “ไปแช่น้ำที่สระผีด้วยกัน ”

“ข้าเพิ่งไปแช่มา เมื่อครู่ตอนกลับมาบนตัวมีแต่กลิ่นเหม็นของไข่เน่าเต็มไปหมด ถ้าขืนแช่อีกผิวคงลอกแน่”

หยู่เหวินเห้ากระโดดลุกขึ้น “เอาเถอะ รอข้า ข้าจะกลับมาเร็วที่สุด”

ช่วงนี้ยายหยวนได้แต่แบ่งรับแบ่งสู้ บอกว่าเหนื่อยอยู่ตลอด ยากมากที่จะเห็นกระตือรือร้นเองเช่นนี้ ย่อมต้องรักษาโอกาสไว้ให้ดี

คืนนี้สวีอีพาทหารจวนหลายนายไปสั่งสอนพวกหัวโจกที่มาหาเรื่องอาละวาดในวันนี้ สืบจนรู้จากปากของพวกมันว่าเรื่องนี้เป็นการสั่งการจากจวนอ๋องอันจริงๆ

สวีอียิ้มเย็น “หลอกผีหรืออย่างไร ตอนนี้อ๋องอันอยู่ในค่ายทหาร เขาจะสามารถสั่งการให้พวกเจ้าไปทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้ได้อย่างไร”

“จริงนะ”หัวหน้าอันธพาลถูกสั่งสอนจนใบหน้าเขียวช้ำ “แน่นอนว่าอ๋องอันต้องไม่มาพูดกับพวกข้าน้อยโดยตรง เป็นหญิงสาวที่อยู่ในจวนที่มีหน้าตาสวยมาคนนั้น”

“อะหลู?”สวีอีหรี่ตาลง หญิงสาวคนนั้นเขาเคยพบหน้าสองครั้ง หน้าตางดงาม แต่ว่าจิตใจโหดเหี้ยม อ๋องอันยังให้ความสำคัญกับนางเป็นพิเศษ

สวีอีจัดการสั่งสอนพวกมันอีกครั้ง เช้าวันรุ่งขึ้น ก็กลับไปรายงานหยู่เหวินเห้า

ไม่จำเป็นต้องรายงาน หยู่เหวินเห้าก็รู้ว่าเป็นภัยที่ทางเจ้าสี่สร้างขึ้นมา เดิมคิดว่าทำให้เจ้าสี่ไปอยู่ในค่ายทหารและจับตาดูเอาไว้ เขาคงจะสามารถประพฤติตัวอยู่ในลู่ในทางได้ช่วงหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าในจวนยังมีอะหลูที่คอยสร้างกระแสคลื่นลมปั่นป่วน

“ตรวจสอบให้ทีว่าอะหลูคนนี้มีที่มาอย่างไร นางกับเจ้าสี่ออกหน้าโดยไม่รู้สถานะที่ชัดเจนมาสองสามปีแล้ว”

หยวนชิงหลิงประหลาดใจ ถามขึ้นว่า “อะหลูคนนี้กับอ๋องอันมีความสัมพันธ์อย่างไรกันแน่ พี่สะใภ้สี่ไม่มีความคิดเห็นอะไรหรือ”

“พี่สะใภ้สี่นิสัยอ่อนแอ หูก็เบา ใครก็สามารถหลอกนางได้ ”หยู่เหวินเห้าพูด

หยวนชิงหลิงนึกถึงพระชายาอันขึ้นมา เงียบสงบ นั่งอยู่ตรงนั้นถ้าหากไม่พูดจา ก็แทบจะไม่มีคนนึกขึ้นได้ว่ามีนางอยู่ด้วย

หยู่เหวินเห้ามองหยวนชิงหลิง “วันนี้ถ้าหากเจ้าไม่มีธุระอะไร ก็พาท่าน……ฮูหยินเฒ่าไปหาพระชายาจี้ซิ”

พระชายาจี้เป็นผู้รอบรู้ทุกสิ่ง โดยเฉพาะเรื่องในจวนของเหล่าอ๋องทั้งหลายจะเข้าใจเป็นอย่างดี หยู่เหวินเห้าสงสัยอย่างหนักว่านางจะส่งสายลับเข้าไปอยู่ในจวนของผู้อื่น

นางน่าจะรู้ที่มาที่ไปของอะหลู และตำแหน่งของนางในจวนอ๋องอัน

“ได้”หยวนชิงหลิงตอบรับ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพาคุณย่าออกไปเดินเที่ยวในเมืองหลวงที่แสนจะเจริญรุ่งเรืองนี้อยู่แล้ว และไม่ได้เจอกับพระชายาจี้มานานแล้วด้วย

หลังจากหยู่เหวินเห้าออกไปแล้ว หยวนชิงหลิงก็ให้คนเตรียมรถม้า พาอะซี่กับหมันเอ๋อออกเดินทางไปยังจวนอ๋องจี้

หลังจากที่อ๋องจี้ต้องทนทุกข์ทรมานกลับมา ความรู้สึกในการมีตัวตนเป็นศูนย์ ทำตัวเรียบง่ายจนไม่สามารถเรียบง่ายไปกว่านี้แล้ว

ก่อนหน้านี้ยังหาเรื่องพระชายาจี้อย่างรุนแรง จะวางยาพิษบ้างล่ะจะจ้างนักฆ่าบ้างล่ะ แต่หลังจากกลับจวนแล้ว กลับเย็นชาต่อฉู่หมิงหยาง ทำดีต่อพระชายาจี้เพียงคนเดียวเท่านั้น

ตอนที่หยวนชิงหลิงไปถึง อ๋องจี้กำลังชื่นชมดอกเบญจมาศเป็นเพื่อนพระชายาจี้อยู่ในสวน ภาพสองสามีภรรยาที่แสนรักใคร่กลมเกลียว ฉู่หมิงหยางก็ตามมาอยู่ข้างๆ แต่หน้าตาบึ้งตึงโมโหราวกับคางคกที่กำลังฝึกยุทธ

แต่ดูพระชายาจี้ดูใจจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสักเท่าไหร่ แม้แต่ผลซิ่งอบแห้งที่อ๋องจี้ยื่นให้กับนางเองกับมือนางก็ไม่กิน ได้ยินบ่าวไพร่เข้ามารายงานว่าพระชายารัชทายาทมา ปรากฏว่าพระชายาจี้ลุกขึ้นยืนเหมือนผ่อนคลายขึ้นมาทันที

หยวนชิงหลิงมองเห็นอยู่ไกลๆ รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง

บ่าวไพร่พาหยวนชิงหลิงกับคุณย่าหยวนและพวกอะซี่เดินเข้าไป อ๋องจี้ได้ยินว่าคุณย่าหยวนเป็นน้องสาวของหมอหลินแห่งต้าซิง แววตาก็สว่างวาบขึ้น รีบประสานสองมือขึ้นคำนับ ท่าทีเอาอกเอาใจเป็นอย่างยิ่ง

คุณย่าหยวนเป็นอาจารย์แพทย์แผนจีน ชื่นชอบสมุนไพรและพวกดอกไม้ใบหญ้า เห็นว่าในจวนอ๋องจี้แม้จะเป็นต้นฤดูหนาวแล้วยังมีดอกไม้บานสะพรั่งเต็มไปหมด ก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง

อ๋องจี้เห็นเข้า จึงเสนอว่าจะพาคุณย่าหยวนไปเดินรอบๆ ชื่นชมดอกไม้ใบหญ้า

หยวนชิงหลิงไม่ไว้ใจ ให้อะซี่กับหมันเอ๋อตามนางไปด้วย

ฉู่หมิงหยางคนนั้นย่อมไม่อยู่ปรนนิบัติรับใช้ สะบัดมือกลับเรือนไปทันที

การเปลี่ยนแปลงของอ๋องจี้ หยวนชิงหลิงเห็นแล้วก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง หลังจากนั่งลงแล้วก็หยอกล้อพระชายาจี้ว่า “อ๋องจี้ดีกับเจ้ามากแล้ว ก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเรื่องหนึ่ง ใช่หรือไม่ ”

“พังพอนมาสวัสดีปีใหม่ไก่ไม่ได้มาดีแน่นอน มีอะไรที่ควรค่าแก่การดีใจ”พระชายาจี้กลอกตาหนึ่งที โยนผลซิ่งแห้งที่อ๋องจี้ยื่นให้เมื่อครู่ทิ้งไป ฮึหนึ่งเสียง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+