บัลลังก์หมอยาเซียน 963 กระดูกมนุษย์หมาป่า

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 963 กระดูกมนุษย์หมาป่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากผ่านความตกตะลึงไปแล้ว ท่านชายสี่เหลิ่งจึงเริ่มพูดถึงเรื่องของหงเย่ขึ้นมา

“มารดาของหงเย่เป็นคนจู้โจวในเป่ยถัง รู้จักกับหงเล่ได้อย่างไร แล้วไปติดตามหงเล่ได้อย่างไร จุดนี้ตรวจสอบไม่พบ

เพื่อนแก่ข้างกายของหงเล่ได้ตายกันไปมากพอสมควรแล้ว และเรื่องนี้ราวกับเป็นเรื่องลึกลับมาก

แต่ว่ากันว่าหงเล่เคยโปรดปรานนางมากอยู่ช่วงหนึ่ง ไหนเลยจะรู้ว่าตอนที่นางตั้งครรภ์ก็ได้ไปจากหงเล่ และได้ให้กำเนิดหงเย่ในจู้โจว ด้วยสาเหตุที่ไม่ได้แต่งงานก็ให้กำเนิดลูกจึงถูกคนในพื้นที่หัวเราะเยาะ

ฉะนั้นจึงได้พาหงเย่ย้ายไปอยู่ที่เมืองตวนโจว ตั้งรกรากอยู่ที่เมืองตวนโจว เพื่อนบ้านเหล่านั้นที่จริงก็ได้ล้มหายตายจากไปมากแล้ว สาเหตุการตายไม่ชัดเจน แต่ว่ามีคนคนหนึ่งเพราะต้องเดินทางออกไปต่างถิ่นหลายเดือน จึงมีชีวิตรอดมาได้ ภาพวาดนี้วาดมาจากการบรรยายของเขา มีนักวาดเป็นผู้วาดออกมา ”

“ใครเป็นฆ่าคนเหล่านั้น”หยวนชิงหลิงถาม

“คาดว่าจะเป็นหงเล่ เขาหาตัวพวกเขาจนเจอ ฆ่าแม่ของหงเย่ ผู้หญิงคนนั้นตายอย่างอเนจอนาถมาก ร่างถูกแยกชิ้นส่วนไม่พอ ก่อนจะตายยังถูกทรมานอย่างสาหัสมากมาย เนื้อบนร่างถูกแล่ออกมาเป็นชิ้นๆ

หงเย่นั้นได้เห็นกับตา หงเล่สั่งให้คนจับตัวเขาเอาไว้บังคับให้เขาดู บอกให้เขารู้ว่า คนที่ทรยศหักหลังจะมีจุดจบเช่นนี้ ให้เขาจำไว้ให้ดี

หงเย่ในตอนนั้น น่าจะอายุสิบสี่ปี เขาอยากจะช่วยแม่ของเขา ปรากฏว่าถูกหงเล่ใช้แส้ฟาดไปหนึ่งที ตอนนี้บนใบหน้าของเขายังมีแผลเป็นอยู่ เพียงแต่ปกติแล้วเขาจะใช้แป้งปกปิดเอาไว้”

หยวนชิงหลิงนึกถึงวันนั้นที่หงเย่มาเยี่ยม บนใบหน้ามีรอยแผลเป็นรอยหนึ่งจริงๆ แต่ว่าตอนนั้นคิดว่าเขาเลียนแบบเจ้าห้า คิดว่าเป็นการจงใจวาดลงไป เพราะว่าแผลเป็นนั้นที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาดูแล้วไม่เข้ากันเลยจริงๆ

นางรู้สึกสั่นสะท้านในใจ นึกภาพไม่ออกว่าพ่อคนหนึ่งจะให้ลูกอายุสิบสี่ของตัวเองมองดูตัวเขาฆ่าแม่ของลูกอย่างโหดเหี้ยม อำมหิตเกินไปแล้ว จะให้เด็กอย่างเขาทนรับไหวได้อย่างไร

ท่านชายสี่เหลิ่งพูดต่อว่า “หลังจากแม่ของหงเย่ตายแล้ว หงเล่ก็จูงหมาป่ามาสองตัว ต่อหน้าหงเย่ ฉีกทึ้งกลืนกินร่างของแม่เขา แม้แต่กระดูกยังกัดจนแหลกและกินเข้าไป

ฉากนี้ เป็นรองแม่ทัพที่อยู่ข้างกายหงเล่เป็นคนเล่า รองแม่ทัพคนนี้ภายหลังตอนที่ออกไปปฏิบัติภารกิจได้รับบาดเจ็บจนเป็นอัมพาต ถูกหงเล่ทอดทิ้ง จึงมีชีวิตรอดจากสงครามครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นได้

แต่ว่าตอนนั้นที่เขาคอยติดตามรับใช้หงเล่นั้น แม่ของท่านชายหงเย่ได้จากไปแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงไม่รู้เรื่องราวก่อนหน้านี้ การฆ่าอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตครั้งนี้ ตอนที่รองแม่ทัพคนนี้หวนนึกขึ้นมา ก็ยังคงรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนไม่หาย ”

เดิมทีหยู่เหวินเห้านั้นเกลียดชังหงเย่มาก แต่พอได้ยินเรื่องนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะโกรธแทนหงเย่“หงเล่เจ้าแก่หนังเหนียว ตายร้อยครั้งก็ไม่พอชดใช้”

ท่านชายสี่เหลิ่งพูดว่า “หงเย่ถูกพาตัวกลับไป แต่ไม่ได้ทำพิธีนับญาติ บอกกับเขาว่า ถ้าหากเขาต้องการจะได้สถานะในการเป็นคนของตระกูลหงเล่ ก็ต้องยอดเยี่ยมให้มากพอ

ฉะนั้นจึงโยนเขาไปที่กระดูกมนุษย์หมาป่า กระดูกมนุษย์หมาป่าเป็นที่ที่หงเล่ใช้ฝึกฝนหน่วยกล้าตาย ความหมายของกระดูกมนุษย์หมาป่าคือ ถ้าไม่เป็นมนุษย์หมาป่า ก็ต้องกลายเป็นกองกระดูก จะเปรียบเทียบว่าเป็นนรกบนดินก็ไม่เกินไป

ในสำนักเหลิ่งหลั่งของข้าก็มีคนคนหนึ่งที่ออกมาจากกระดูกมนุษย์หมาป่า เดิมทีก็ทำงานให้กับหงเล่ ภายหลังก็ยอมจำนนต่อสำนักของข้า หนึ่งพันคนที่เข้าไป จะเหลือเพียงสามสิบคนเท่านั้นที่รอดชีวิตออกมาได้

อยู่ข้างในนั้นไม่มีการพูดถึงเรื่องน้ำใจหรือฐานะ ไม่ว่าจะเขาเป็นใคร เมื่อเข้าไปแล้ว ก็กลายเป็นเป้าหมายในการฆ่าของทุกคน เพราะว่าถ้ามีคนตายหนึ่งคน ก็มีโอกาสที่รอดออกไปเพิ่มมากขึ้นหนึ่งส่วน หงเย่ไม่ตาย

หลังจากนั้นสองปี เขามีชีวิตรอดออกมาจากกระดูกมนุษย์หมาป่า ยืนอยู่ข้างกายของหงเล่ เริ่มทำงานเพื่อเขา รับช่วงต่อในการควบคุมดูแลแผนการสายสืบในต้าโจวของหงเล่ เรื่องราวหลังจากนั้น พวกเจ้าก็น่าจะรู้แล้ว เขาแก้แค้นได้สำเร็จ มีชีวิตจนถึงบัดนี้ ”

อยู่ในกระดูกมนุษย์หมาป่าสองปี มีชีวิตอย่างไร หยวนชิงหลิงกับหยู่เหวินเห้าไม่สามารถนึกภาพออกได้ แต่ว่าคนที่มีชีวิตรอดจากสถานที่แห่งนี้ ต้องน่ากลัวมากแน่ๆ

“สนใจเรื่องกระดูกมนุษย์หมาป่าหรือ ”ท่านชายสี่เหลิ่งมองพวกเขา ร้องเรียกออกไปข้างนอกเสียงหนึ่ง“ฮุ่ยเทียน เข้ามา”

ทั้งสองหันหน้ากลับไป ก็เห็นชายรูปร่างสูงใหญ่อายุราวสี่สิบปีคนหนึ่งเดินเข้ามา  ดวงตาหรี่ยาวไร้สุ้มไร้เสียงราวกับทั้งร่างมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งออกมา

เขาไม่ดุร้าย กระทั่งสามารถพูดได้ว่าไม่มีสีหน้าใดๆด้วยซ้ำ แต่ว่า ตอนที่หยวนชิงหลิงเห็นเขา ในหัวใจก็มีความรู้สึกกลัวอย่างพูดไม่ออก

“ฮุ่ยเทียนก็คือคนที่ออกมาจากกระดูกมนุษย์หมาป่า บางทีเขาอาจจะรู้จักหงเย่”ท่านชายสี่เหลิ่งพูด

“บางที”หยู่เหวินเห้ารู้สึกประหลาดใจกับคำพูดนี้ รู้จักก็คือรู้จัก ทำไมยังมีคำว่าบางทีด้วย

ฮุ่ยเทียนพูดว่า “ในกระดูกมนุษย์หมาป่า ไม่มีชื่อแซ่ มีแต่ตัวเลข ก่อนจะเข้าไปจะถูกคัดกรองความสามารถหนึ่งรอบ คนที่มีความสามารถสูงสุดถูกจัดอยู่ที่หนึ่ง เรียงตามลำดับลงไป หงเย่คนนั้นข้าเดาว่าน่าจะเป็นคนที่ได้หมายเลขสามพัน เพราะว่าในกระดูกมนุษย์หมาป่าทั้งหมด มีเพียงสิบคนเท่านั้นที่มาจากเป่ยถัง ข้าเป็นหนึ่งในนั้น คนอื่นต่างก็มีอายุไล่เลี่ยกัน มีเพียงสามพัน ”

“สามพัน พูดอีกอย่างก็คืออ่อนแอที่สุด”หยู่เหวินเห้าพูด

“ถูกต้อง คนอย่างเขา น่าจะถูกฆ่าตายตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปแล้ว”

“เขาไม่เพียงจะไม่ถูกฆ่าตายในวันแรก กลับสามารถมีชีวิตออกมาได้”

หยู่เหวินเห้ารู้สึกตกตะลึง เด็กอายุสิบกว่าปี อยู่ในสถานที่โหดร้ายเช่นนั้นเผชิญหน้ากับคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาถึงสองพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าคน แต่สามารถมีชีวิตรอดได้รับชัยชนะออกมาในที่สุด เป็นเรื่องที่คาดคิดไม่ถึงจริงๆ

“เข้าไปได้ไม่นาน ทุกคนต่างก็สนใจในตัวเขา เพราะว่าเดือนแรกก็มีคนตายไปกว่าห้าร้อยคน เขาถูกโจมตีอยู่หลายครั้ง แต่ก็หนีรอดได้

อีกทั้งระหว่างการต่อสู้ ก็ร้ายกาจมากขึ้นทุกที จากแรกเริ่มที่ไม่ค่อยรู้เรื่องวรยุทธได้แต่วิ่งหนีจนภายหลังสามารถประลองกับคนอื่นได้ สุดท้ายคนที่เคยจะฆ่าเขาก็ถูกเขาฆ่าไปเสียหมด เขาร้ายกาจมากจริงๆ”

หยู่เหวินเห้ารู้สึกไม่เข้าใจจริงๆ“ตอนที่เขาอยู่ในกระดูกมนุษย์หมาป่ามีคนสอนวรยุทธเขาหรือไม่”

“เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนสอน คนในนั้นทั้งหมดล้วนอยากจะฆ่าคนข้างกายไม่ว่าใครก็ตามเพื่อที่จะได้มีโอกาสรอดออกไป กับใครก็ไม่มีเมตตาให้ทั้งนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการสอนวรยุทธ

แต่ว่าวรยุทธของเขานั้นเรียนรู้ในกระดูกมนุษย์หมาป่าจริง เขาจะแอบดูทุกคนสู้กันอยู่ในที่ลับตา ฉะนั้นวรยุทธของเขามีกระบวนท่าที่ซับซ้อนมาก

ข้าเคยสู้กับเขาครั้งหนึ่ง เดิมที่จะชนะอยู่แล้ว แต่ว่า มีลิงตัวหนึ่งพุ่งออกมา ช่วยเขาไว้ หลังจากครั้งนั้น ก็ไม่มีโอกาสชนะเขาแล้ว ”

“ลิงหรือ”หยวนชิงหลิงหัวใจกระตุกทีหนึ่ง “ลิงช่วยเขาเอาไว้”

“ใช่แล้ว เขามีลิงอยู่ตัวหนึ่ง พวกเราอยู่ในกระดูกมนุษย์หมาป่า ขาดแคลนอาหารการกินมาก รู้สึกหิวมากทุกวัน นอกจากฆ่าคนยังต้องล่าสัตว์

ลิงตัวนั้นเดิมทีบาดเจ็บสาหัส ตกอยู่ในมือของเขา เขากลับไม่กินมัน เลี้ยงมันเอาไว้ และเพราะเขาเลี้ยงลิงเอาไว้ ยิ่งอยู่ก็มีคนอยากจะฆ่าเขามากยิ่งขึ้น ที่จริงจุดประสงค์ก็คืออยากจะกินเจ้าลิงตัวนั้น แน่นอน สุดท้ายก็ไม่ได้กิน ”

“แล้วลิงตัวนั้นเล่า”หยวนชิงหลิงรีบถามขึ้น

ฮุ่ยเทียนส่ายหน้า “ไม่รู้ว่าสุดท้ายลิงตัวนั้นเป็นอย่างไร เพราะตอนที่ออกมาจากกระดูกมนุษย์หมาป่านั้น เขาไม่ได้พาลิงออกมาด้วย”

“ตายแล้ว”หยู่เหวินเห้าคาดเดา

ฮุ่ยเทียนครุ่นคิด “เป็นไปได้ เพราะว่าตอนเดินทางออกจากหุบเขาในช่วงหลายเดือนสุดท้าย แทบจะไม่เห็นเขามีลิงอยู่ด้วย”

ท่านชายสี่เหลิ่งมองหยวนชิงหลิง “ลิงเป็นเบาะแสสำคัญหรือ”

หยวนชิงหลิงรู้สึกสับสนในใจ “ข้าไม่รู้ แต่ว่าลิงตัวนี้ ถ้าหากเป็นลิงตัวนั้นที่ข้ารู้จัก ลิงตัวนี้ต้องร้ายกาจมากแน่ๆ”

“เจ้ารู้จักลิงด้วยหรือ”ท่านชายสี่เหลิ่งมองนาง ลูกศิษย์คนนี้มีสัตว์เดรัจฉานชื่นชอบไม่น้อยทีเดียว

หยู่เหวินเห้ามองหยวนชิงหลิงอย่างประหลาดใจ ลิงตัวนี้คงไม่ใช่ตัวที่มีที่มาตัวนั้นกระมัง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บัลลังก์หมอยาเซียน 963 กระดูกมนุษย์หมาป่า

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 963 กระดูกมนุษย์หมาป่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากผ่านความตกตะลึงไปแล้ว ท่านชายสี่เหลิ่งจึงเริ่มพูดถึงเรื่องของหงเย่ขึ้นมา

“มารดาของหงเย่เป็นคนจู้โจวในเป่ยถัง รู้จักกับหงเล่ได้อย่างไร แล้วไปติดตามหงเล่ได้อย่างไร จุดนี้ตรวจสอบไม่พบ

เพื่อนแก่ข้างกายของหงเล่ได้ตายกันไปมากพอสมควรแล้ว และเรื่องนี้ราวกับเป็นเรื่องลึกลับมาก

แต่ว่ากันว่าหงเล่เคยโปรดปรานนางมากอยู่ช่วงหนึ่ง ไหนเลยจะรู้ว่าตอนที่นางตั้งครรภ์ก็ได้ไปจากหงเล่ และได้ให้กำเนิดหงเย่ในจู้โจว ด้วยสาเหตุที่ไม่ได้แต่งงานก็ให้กำเนิดลูกจึงถูกคนในพื้นที่หัวเราะเยาะ

ฉะนั้นจึงได้พาหงเย่ย้ายไปอยู่ที่เมืองตวนโจว ตั้งรกรากอยู่ที่เมืองตวนโจว เพื่อนบ้านเหล่านั้นที่จริงก็ได้ล้มหายตายจากไปมากแล้ว สาเหตุการตายไม่ชัดเจน แต่ว่ามีคนคนหนึ่งเพราะต้องเดินทางออกไปต่างถิ่นหลายเดือน จึงมีชีวิตรอดมาได้ ภาพวาดนี้วาดมาจากการบรรยายของเขา มีนักวาดเป็นผู้วาดออกมา ”

“ใครเป็นฆ่าคนเหล่านั้น”หยวนชิงหลิงถาม

“คาดว่าจะเป็นหงเล่ เขาหาตัวพวกเขาจนเจอ ฆ่าแม่ของหงเย่ ผู้หญิงคนนั้นตายอย่างอเนจอนาถมาก ร่างถูกแยกชิ้นส่วนไม่พอ ก่อนจะตายยังถูกทรมานอย่างสาหัสมากมาย เนื้อบนร่างถูกแล่ออกมาเป็นชิ้นๆ

หงเย่นั้นได้เห็นกับตา หงเล่สั่งให้คนจับตัวเขาเอาไว้บังคับให้เขาดู บอกให้เขารู้ว่า คนที่ทรยศหักหลังจะมีจุดจบเช่นนี้ ให้เขาจำไว้ให้ดี

หงเย่ในตอนนั้น น่าจะอายุสิบสี่ปี เขาอยากจะช่วยแม่ของเขา ปรากฏว่าถูกหงเล่ใช้แส้ฟาดไปหนึ่งที ตอนนี้บนใบหน้าของเขายังมีแผลเป็นอยู่ เพียงแต่ปกติแล้วเขาจะใช้แป้งปกปิดเอาไว้”

หยวนชิงหลิงนึกถึงวันนั้นที่หงเย่มาเยี่ยม บนใบหน้ามีรอยแผลเป็นรอยหนึ่งจริงๆ แต่ว่าตอนนั้นคิดว่าเขาเลียนแบบเจ้าห้า คิดว่าเป็นการจงใจวาดลงไป เพราะว่าแผลเป็นนั้นที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาดูแล้วไม่เข้ากันเลยจริงๆ

นางรู้สึกสั่นสะท้านในใจ นึกภาพไม่ออกว่าพ่อคนหนึ่งจะให้ลูกอายุสิบสี่ของตัวเองมองดูตัวเขาฆ่าแม่ของลูกอย่างโหดเหี้ยม อำมหิตเกินไปแล้ว จะให้เด็กอย่างเขาทนรับไหวได้อย่างไร

ท่านชายสี่เหลิ่งพูดต่อว่า “หลังจากแม่ของหงเย่ตายแล้ว หงเล่ก็จูงหมาป่ามาสองตัว ต่อหน้าหงเย่ ฉีกทึ้งกลืนกินร่างของแม่เขา แม้แต่กระดูกยังกัดจนแหลกและกินเข้าไป

ฉากนี้ เป็นรองแม่ทัพที่อยู่ข้างกายหงเล่เป็นคนเล่า รองแม่ทัพคนนี้ภายหลังตอนที่ออกไปปฏิบัติภารกิจได้รับบาดเจ็บจนเป็นอัมพาต ถูกหงเล่ทอดทิ้ง จึงมีชีวิตรอดจากสงครามครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นได้

แต่ว่าตอนนั้นที่เขาคอยติดตามรับใช้หงเล่นั้น แม่ของท่านชายหงเย่ได้จากไปแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงไม่รู้เรื่องราวก่อนหน้านี้ การฆ่าอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตครั้งนี้ ตอนที่รองแม่ทัพคนนี้หวนนึกขึ้นมา ก็ยังคงรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนไม่หาย ”

เดิมทีหยู่เหวินเห้านั้นเกลียดชังหงเย่มาก แต่พอได้ยินเรื่องนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะโกรธแทนหงเย่“หงเล่เจ้าแก่หนังเหนียว ตายร้อยครั้งก็ไม่พอชดใช้”

ท่านชายสี่เหลิ่งพูดว่า “หงเย่ถูกพาตัวกลับไป แต่ไม่ได้ทำพิธีนับญาติ บอกกับเขาว่า ถ้าหากเขาต้องการจะได้สถานะในการเป็นคนของตระกูลหงเล่ ก็ต้องยอดเยี่ยมให้มากพอ

ฉะนั้นจึงโยนเขาไปที่กระดูกมนุษย์หมาป่า กระดูกมนุษย์หมาป่าเป็นที่ที่หงเล่ใช้ฝึกฝนหน่วยกล้าตาย ความหมายของกระดูกมนุษย์หมาป่าคือ ถ้าไม่เป็นมนุษย์หมาป่า ก็ต้องกลายเป็นกองกระดูก จะเปรียบเทียบว่าเป็นนรกบนดินก็ไม่เกินไป

ในสำนักเหลิ่งหลั่งของข้าก็มีคนคนหนึ่งที่ออกมาจากกระดูกมนุษย์หมาป่า เดิมทีก็ทำงานให้กับหงเล่ ภายหลังก็ยอมจำนนต่อสำนักของข้า หนึ่งพันคนที่เข้าไป จะเหลือเพียงสามสิบคนเท่านั้นที่รอดชีวิตออกมาได้

อยู่ข้างในนั้นไม่มีการพูดถึงเรื่องน้ำใจหรือฐานะ ไม่ว่าจะเขาเป็นใคร เมื่อเข้าไปแล้ว ก็กลายเป็นเป้าหมายในการฆ่าของทุกคน เพราะว่าถ้ามีคนตายหนึ่งคน ก็มีโอกาสที่รอดออกไปเพิ่มมากขึ้นหนึ่งส่วน หงเย่ไม่ตาย

หลังจากนั้นสองปี เขามีชีวิตรอดออกมาจากกระดูกมนุษย์หมาป่า ยืนอยู่ข้างกายของหงเล่ เริ่มทำงานเพื่อเขา รับช่วงต่อในการควบคุมดูแลแผนการสายสืบในต้าโจวของหงเล่ เรื่องราวหลังจากนั้น พวกเจ้าก็น่าจะรู้แล้ว เขาแก้แค้นได้สำเร็จ มีชีวิตจนถึงบัดนี้ ”

อยู่ในกระดูกมนุษย์หมาป่าสองปี มีชีวิตอย่างไร หยวนชิงหลิงกับหยู่เหวินเห้าไม่สามารถนึกภาพออกได้ แต่ว่าคนที่มีชีวิตรอดจากสถานที่แห่งนี้ ต้องน่ากลัวมากแน่ๆ

“สนใจเรื่องกระดูกมนุษย์หมาป่าหรือ ”ท่านชายสี่เหลิ่งมองพวกเขา ร้องเรียกออกไปข้างนอกเสียงหนึ่ง“ฮุ่ยเทียน เข้ามา”

ทั้งสองหันหน้ากลับไป ก็เห็นชายรูปร่างสูงใหญ่อายุราวสี่สิบปีคนหนึ่งเดินเข้ามา  ดวงตาหรี่ยาวไร้สุ้มไร้เสียงราวกับทั้งร่างมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งออกมา

เขาไม่ดุร้าย กระทั่งสามารถพูดได้ว่าไม่มีสีหน้าใดๆด้วยซ้ำ แต่ว่า ตอนที่หยวนชิงหลิงเห็นเขา ในหัวใจก็มีความรู้สึกกลัวอย่างพูดไม่ออก

“ฮุ่ยเทียนก็คือคนที่ออกมาจากกระดูกมนุษย์หมาป่า บางทีเขาอาจจะรู้จักหงเย่”ท่านชายสี่เหลิ่งพูด

“บางที”หยู่เหวินเห้ารู้สึกประหลาดใจกับคำพูดนี้ รู้จักก็คือรู้จัก ทำไมยังมีคำว่าบางทีด้วย

ฮุ่ยเทียนพูดว่า “ในกระดูกมนุษย์หมาป่า ไม่มีชื่อแซ่ มีแต่ตัวเลข ก่อนจะเข้าไปจะถูกคัดกรองความสามารถหนึ่งรอบ คนที่มีความสามารถสูงสุดถูกจัดอยู่ที่หนึ่ง เรียงตามลำดับลงไป หงเย่คนนั้นข้าเดาว่าน่าจะเป็นคนที่ได้หมายเลขสามพัน เพราะว่าในกระดูกมนุษย์หมาป่าทั้งหมด มีเพียงสิบคนเท่านั้นที่มาจากเป่ยถัง ข้าเป็นหนึ่งในนั้น คนอื่นต่างก็มีอายุไล่เลี่ยกัน มีเพียงสามพัน ”

“สามพัน พูดอีกอย่างก็คืออ่อนแอที่สุด”หยู่เหวินเห้าพูด

“ถูกต้อง คนอย่างเขา น่าจะถูกฆ่าตายตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปแล้ว”

“เขาไม่เพียงจะไม่ถูกฆ่าตายในวันแรก กลับสามารถมีชีวิตออกมาได้”

หยู่เหวินเห้ารู้สึกตกตะลึง เด็กอายุสิบกว่าปี อยู่ในสถานที่โหดร้ายเช่นนั้นเผชิญหน้ากับคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาถึงสองพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าคน แต่สามารถมีชีวิตรอดได้รับชัยชนะออกมาในที่สุด เป็นเรื่องที่คาดคิดไม่ถึงจริงๆ

“เข้าไปได้ไม่นาน ทุกคนต่างก็สนใจในตัวเขา เพราะว่าเดือนแรกก็มีคนตายไปกว่าห้าร้อยคน เขาถูกโจมตีอยู่หลายครั้ง แต่ก็หนีรอดได้

อีกทั้งระหว่างการต่อสู้ ก็ร้ายกาจมากขึ้นทุกที จากแรกเริ่มที่ไม่ค่อยรู้เรื่องวรยุทธได้แต่วิ่งหนีจนภายหลังสามารถประลองกับคนอื่นได้ สุดท้ายคนที่เคยจะฆ่าเขาก็ถูกเขาฆ่าไปเสียหมด เขาร้ายกาจมากจริงๆ”

หยู่เหวินเห้ารู้สึกไม่เข้าใจจริงๆ“ตอนที่เขาอยู่ในกระดูกมนุษย์หมาป่ามีคนสอนวรยุทธเขาหรือไม่”

“เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนสอน คนในนั้นทั้งหมดล้วนอยากจะฆ่าคนข้างกายไม่ว่าใครก็ตามเพื่อที่จะได้มีโอกาสรอดออกไป กับใครก็ไม่มีเมตตาให้ทั้งนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการสอนวรยุทธ

แต่ว่าวรยุทธของเขานั้นเรียนรู้ในกระดูกมนุษย์หมาป่าจริง เขาจะแอบดูทุกคนสู้กันอยู่ในที่ลับตา ฉะนั้นวรยุทธของเขามีกระบวนท่าที่ซับซ้อนมาก

ข้าเคยสู้กับเขาครั้งหนึ่ง เดิมที่จะชนะอยู่แล้ว แต่ว่า มีลิงตัวหนึ่งพุ่งออกมา ช่วยเขาไว้ หลังจากครั้งนั้น ก็ไม่มีโอกาสชนะเขาแล้ว ”

“ลิงหรือ”หยวนชิงหลิงหัวใจกระตุกทีหนึ่ง “ลิงช่วยเขาเอาไว้”

“ใช่แล้ว เขามีลิงอยู่ตัวหนึ่ง พวกเราอยู่ในกระดูกมนุษย์หมาป่า ขาดแคลนอาหารการกินมาก รู้สึกหิวมากทุกวัน นอกจากฆ่าคนยังต้องล่าสัตว์

ลิงตัวนั้นเดิมทีบาดเจ็บสาหัส ตกอยู่ในมือของเขา เขากลับไม่กินมัน เลี้ยงมันเอาไว้ และเพราะเขาเลี้ยงลิงเอาไว้ ยิ่งอยู่ก็มีคนอยากจะฆ่าเขามากยิ่งขึ้น ที่จริงจุดประสงค์ก็คืออยากจะกินเจ้าลิงตัวนั้น แน่นอน สุดท้ายก็ไม่ได้กิน ”

“แล้วลิงตัวนั้นเล่า”หยวนชิงหลิงรีบถามขึ้น

ฮุ่ยเทียนส่ายหน้า “ไม่รู้ว่าสุดท้ายลิงตัวนั้นเป็นอย่างไร เพราะตอนที่ออกมาจากกระดูกมนุษย์หมาป่านั้น เขาไม่ได้พาลิงออกมาด้วย”

“ตายแล้ว”หยู่เหวินเห้าคาดเดา

ฮุ่ยเทียนครุ่นคิด “เป็นไปได้ เพราะว่าตอนเดินทางออกจากหุบเขาในช่วงหลายเดือนสุดท้าย แทบจะไม่เห็นเขามีลิงอยู่ด้วย”

ท่านชายสี่เหลิ่งมองหยวนชิงหลิง “ลิงเป็นเบาะแสสำคัญหรือ”

หยวนชิงหลิงรู้สึกสับสนในใจ “ข้าไม่รู้ แต่ว่าลิงตัวนี้ ถ้าหากเป็นลิงตัวนั้นที่ข้ารู้จัก ลิงตัวนี้ต้องร้ายกาจมากแน่ๆ”

“เจ้ารู้จักลิงด้วยหรือ”ท่านชายสี่เหลิ่งมองนาง ลูกศิษย์คนนี้มีสัตว์เดรัจฉานชื่นชอบไม่น้อยทีเดียว

หยู่เหวินเห้ามองหยวนชิงหลิงอย่างประหลาดใจ ลิงตัวนี้คงไม่ใช่ตัวที่มีที่มาตัวนั้นกระมัง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+