บัลลังก์หมอยาเซียน 992 เพิ่งจะสามวันเหรอ

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 992 เพิ่งจะสามวันเหรอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ขึ้นมาถึงชั้น พวกเด็กๆก็ต้อนรับอยู่ที่ประตูแล้ว พวกเขาชำนาญทาง ราวกับว่าเป็นบ้านของตัวเองเช่นนั้น ยังจะขึ้นหน้าไปพยุงหยู่เหวินเห้าอีก “ท่านพ่อ สุขภาพเช่นนี้ของท่านไม่ไหวพ่ะย่ะค่ะ กลับไปยังจำเป็นต้องฝึกซ้อมหน่อย”

หยู่เหวินเห้าอดกลั้นความวู่วามที่อยากจะตีพวกเขาสักหนึ่งที เดินตามพวกเขาเข้าบ้าน

ทันทีที่เข้าบ้าน ก็เห็นรูปภาพขนาดใหญ่มากรูปหนึ่งแขวนอยู่ที่ห้องรับแขก รูปภาพก็คือพวกเขาทั้งครอบครัว ขณะที่ถ่ายวิดีโอนั่น สุดท้ายรวมกันเป็นกลุ่มกลุ่มหนึ่งแล้วถ่ายรูปรูปนี้

มีความรู้สึกคุ้นเคยเช่นนี้ จิตใจของหยู่เหวินเห้าก็สงบมั่งคงขึ้นเป็นอย่างมากทันใด

วางเจ้าแฝดไว้บนโซฟา พี่ชายของหยวนชิงหลิงก็อ้าแขนทั้งสองข้างออก กล่าวด้วยดวงตาแดงเล็กน้อย: “ยินดีต้องรับน้องสาวกลับบ้าน”

ตั้งแต่เข้าบ้านหยวนชิงหลิงก็กลั้นน้ำตามาโดยตลอด ทุกอย่างเบื้องหน้า ล้วนเหมือนความฝันเช่นนั้น หากไม่ใช่ลูกๆและเจ้าห้าอยู่ข้างกาย นางจะต้องคิดว่าตัวเองฝันไปจริงๆ

มองดูพี่ชายเบ้าตาแดง นางพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเขา กล่าวสะอึกสะอื้น: “ฉันฝันก็คิดไม่ถึงว่าจะสามารถกลับมาได้”

ความรักความผูกพันเช่นนี้ทำให้คนซาบซึ้ง แต่พวกเด็กๆกลับเรียกให้หยู่เหวินเห้าไปนั่งบนโซฟา ซาลาเปากระโดดโลดเต้นไปเปิดโทรทัศน์ หยู่เหวินเห้ากำลังจะอุ้มเจ้าแฝดขึ้นมา ใครจะรู้ทันใดนั้นได้ยินเสียงดังขึ้น ในโทรทัศน์ยังมีคนปรากฏตัวอีก ทำให้เขาทั้งคนตกใจจนสะดุ้งโหยงขึ้นมา ตะคอกอย่างเฉียบขาดคำหนึ่ง “ผู้ใด?”

“ท่านพ่อ เป็นละครในโทรทัศน์น่ะพ่ะย่ะค่ะ” ซาลาเปาหันกลับไปมองเขาแวบหนึ่ง แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยการเยาะเย้ย

หยู่เหวินเห้าไม่ทันได้สนใจจัดการความไม่เคารพของเขา มองโทรทัศน์นั่นอย่างระมัดระวัง คิดไม่ถึงว่าในกล่องใหญ่นั่นจะมีคนแสดงละคร? นี่เป็นโลกอะไรกันแน่นะ? ตะลึงจนลืมตาอ้าปากค้าง!

ทังหยวนกล่าวด้วยความเข้าอกเข้าใจ: “ท่านพ่อ เป็นการถ่ายทอดสัญญาณพ่ะย่ะค่ะ”

“อ๋อ!” ถ่ายทอด ถ่ายทอดเขาเข้าใจ

ด้านนอกประตูเสียงกุญแจดังขึ้น พี่ชายของหยวนชิงหลิงปล่อยหยวนชิงหลิง เปิดประตูอย่างรวดเร็ว ศาสตราจารย์หยวนถือกุญแจอยู่ ตะลึงครู่หนึ่ง จึงเห็นหยวนชิงหลิงชะโงกหัวออกมาจากด้านหลังของพี่ชาย

แม่ของหยวนชิงหลิงตามอยู่ด้านหลังของเขา ทั้งสองหิ้วสิ่งของมากมายก่ายกอง มองดูหยวนชิงหลิงนิ่งๆ น้ำตาพุ่งขึ้นมาในตาของทั้งสองด้วยความรวดเร็ว พี่ชายของหยวนชิงหลิงเข้าไปรับของ สูดหายใจลึกๆเฮือกหนึ่ง “พ่อครับ แม่ครับ น้องกลับมาแล้วครับ”

ดวงตาทั้งหกประสานกัน ล้วนเป็นความเลือนรางทั้งผืน ใครก็ล้วนมองไม่ชัดว่าเป็นใคร เมื่อครู่ก่อนจะกลับมา ศาสตราจารย์หยวนก็กำชับเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ประเดี๋ยวจะต้องใจเย็นๆระงับไว้ อย่าให้ลูกสาวเห็นถึงความตื่นเต้นเกินไปของเธอ จะได้ไม่ทำให้จิตใจของลูกสาวเป็นทุกข์ เพราะคิดไว้แล้วว่าลูกสาวกลับมาครั้งนี้ ก็อยู่ได้ไม่นาน ยังไงก็ยังต้องจากไปแน่นอน ไม่สามารถทำให้ลูกสาวจากไปด้วยความอาลัยและเป็นห่วงได้

ดังนั้นแม่ของหยวนชิงหลิงเห็นลูกสาวแล้ว แม้ว่าในใจจะตื่นเต้นจนแทบจะทนไม่ไหว อยากเข้าไปกอดเธอทันที แต่ก็ยังอดกลั้นไว้ถึงที่สุด กลั้นน้ำตาไว้แล้วบีบรอยยิ้มออกมา มือสองข้างถูไถกับเสื้อผ้า “ถึงแล้วเหรอ? ลำบากมาตลอดทางเลยสินะ?”

นางพูดเช่นนี้ แต่ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ค่อยอยู่เล็กน้อย จึงรีบหยิบผักจากในมือพี่ชายของหยวนชิงหลิง กล่าวอย่างสะอึกสะอื้นและสับสนว่า: “แม่ซื้อผักมาแล้ว แม่เอาไปในครัวก่อน เดี๋ยวจะทำอาหาร พวกลูกก็น่าจะหิวแล้ว”

เธอหยิบผักแล้วเดินไปทางด้านใน ฝีเท้าเลื่อนลอยและสมองก็สับสน กลับเดินเข้าห้องน้ำ แล้วรีบออกมา ยิ้มให้หยวนชิงหลิงด้วยดวงตาแดงๆ “ดูสิแม่ดีใจจนเลอะเทอะหมดแล้ว เดินผิดทางแล้ว ฮ่าๆ!”

นางพุ่งตรงเข้าห้องครัวทันที

ศาสตราจารย์หยวนพยักหน้าให้หยวนชิงหลิง กล่าวด้วยเสียงแหบพร่า: “ไปเถอะ”

หยวนชิงหลิงเดินขึ้นไปกอดเขาครู่หนึ่ง  เห็นหยวนชิงหลิงเดินเข้ามาก็รีบเช็ดน้ำตาทันที “แม่…..แม่ล้างผัก ล้างผัก…….”

หยวนชิงหลิงกอดเธอจากทางด้านหลัง มือทั้งสองข้างโอบเอวเธอไว้ น้ำตาก็กลั้นไม่ได้ที่จะไหลพรากลงมา “แม่คะ ขอโทษ”

แม่ของหยวนชิงหลิงก็ระงับการเสแสร้งที่แทบจะพังทลายไว้ไม่ได้แล้ว น้ำตาร่วงพรูในพริบตาหันหลังไปกอดเธอไว้ทันที การคร่ำครวญพรั่งพรูออกมาจากปาก กล่าวด้วยความปวดร้าวและคลุมเครือ: “ทำให้แม่คิดถึงจนแทบไม่ไหวแล้ว แม่คิดถึงจนแทบไม่ไหวแล้ว”

จิตใจของหยวนชิงหลิงเกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรงขึ้นฉับพลัน ประโยคนี้ของคุณแม่ ราวกับมีดทิ่มแทงเข้าไปบนหัวใจ ด้านคนเป็นพ่อเป็นแม่รู้ว่าการเกิดตายและจากลาชนิดนี้เป็นความเจ็บปวดสุดแสนสาหัส ในสี่ปีที่ผ่านมา ความคิดถึงบ้านและการสะกดใจในความคิดถึงบ้าน ในน้ำตาของคุณแม่ พังทลายลงมาโดยสมบูรณ์แล้ว

เดิมทีหยู่เหวินเห้าลุกขึ้นยืนด้วยความระมัดระวังอยากทักทายกับพ่อตา แต่ได้ยินเสียงร้องไห้ใจจะขาดดังเข้ามาจากด้านใน เขาวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วทันที เห็นแม่ลูกที่ร้องไห้จนควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาจึงค่อยๆถอยออกไป

เมื่อหันกลับ ก็เห็นแววตาที่เจ็บปวดของพ่อตา หากบอกว่าก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้มีความรู้สึกผูกพันอะไรต่อคนในครอบครัวนี้ แต่ตอนนี้จากความผูกพันของคนเหล่านี้ฝังลึกเข้าในก้นบึ้งของจิตใจเขา เขาอ้าปาก รู้สึกว่าลำคอก็เหมือนกับอุดตันด้วยก้อนไหม เสียงแหบพร่าสะอึกสะอื้น ทำมือเคารพและคำนับลงไป “ลูกเขยคารวะท่านพ่อตา!”

ศาสตราจารย์หยวนมองดูเขา น้ำตาลูกผู้ชายยากจะกลั้นไว้ได้ ชายหนุ่มผู้นี้ได้ประคับประคองลูกสาวขณะอยู่ต่างบ้านต่างมิติทุกอย่าง เขามีใจรู้สึกขอบคุณเขา กุมมือของหยู่เหวินเห้า เขาทอดถอนใจอย่างหนักเฮือกหนึ่ง “ขอบคุณที่พวกเธอกลับมา”

พี่ชายของหยวนชิงหลิงเข้ามาเกลี้ยกล่อมออกไป พวกเด็กๆก็วิ่งเข้ามากอดคุณยาย แม่ของหยวนชิงหลิงได้เห็นเด็กๆตัวจริง ดีอกดีใจทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ แล้วรีบออกไปดูเจ้าแฝดอีก ในเหตุการณ์ทั้งหมดเจ้าแฝดเป็นผู้ที่สงบนิ่งที่สุด ตั้งแต่เข้าบ้านมาจนถึงตอนนี้ พวกเจ้าจะร้องไห้พวกเจ้าจะหัวเราะ ก็ราวกับว่าไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา

พี่ชายของหยวนชิงหลิงเห็นอารมณ์ความตื่นเต้นเช่นนี้ของทุกคน ก็ไม่ทำอาหารแล้ว เขาสั่งอาหารในแอปพลิเคชัน จากนั้นให้ทุกคนนั่งลงสนทนากัน

หยู่เหวินเห้าหยิบของขวัญที่ตัวเองหยิบติดมือมาจากไท่ซ่างหวงทางนั้นออกมา มอบให้ทีละชิ้น มีความละอายใจจนเหงื่อตกเล็กน้อย “เพราะขณะที่รู้ว่าสามารถกลับมาได้ ก็ไม่มีเวลาไปซื้อของขวัญแล้ว ทำได้เพียงเลือกของที่มีอยู่มาอย่างง่ายๆเล็กน้อยเท่านั้น หวังว่าพวกท่านจะไม่รังเกียจ”

แม่ของหยวนชิงหลิงมองดูเขาอย่างอ่อนโยน “ของที่เธอให้ อะไรก็ชอบ”

ทีแรกคิดว่าไม่ใช่ของที่ล้ำค่าอะไร ใครจะรู้เมื่อเปิดออกดู แต่ละชิ้นกลับมีราคาจนน่าตกใจ ดวงตาแม่ของหยวนชิงหลิงเบิกโพลง “นี่……นี่จะต้องจ่ายเงินมากเท่าไหร่กันล่ะเนี้ย?”

“ไม่ได้ใช้จ่ายเงินอะไร” หยู่เหวินเห้าเขินอาย ยื่นดาบให้พี่ชายของหยวนชิงหลิง “หยวนบอกว่าวิธีการใช้มีดของท่านพี่เยี่ยมยอด แต่หามีดล้ำค่าไม่ได้ ทำได้เพียงเอาดาบมาให้ท่านพี่เท่านั้น”

พี่ชายของหยวนชิงหลิงชอบจริงๆ หลังจากกล่าวขอบคุณแล้วก็รับมา คิดไม่ถึงว่าจะลับคมแล้ว ถอนใจและกล่าว: “ยอดเยี่ยม ดาบเล่มนี้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ น้องเขย ความคิดนี้ของนายชั่งถูกใจฉันมาก”

ชายหนุ่มคนไหนที่ไม่เคยฝันว่าจะเป็นอัศวินบ้าง? เขาชื่นชอบแบบสุดๆจริงๆ

หยู่เหวินเห้าเห็นว่าทุกคนชื่นชอบจริงๆ ก็แอบโล่งใจ โชคดีที่ไม่ได้เสียมารยาทมากนัก

เขานึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน กล่าวต่อหยวนชิงหลิงด้วยความงงงัน: “หยวน ไม่ได้พาแม่นมมา เจ้าแฝดจะทำอย่างไร?”

ดวงตาแม่ของหยวนชิงหลิงยังบวมแดงมาก กลับหัวเราะแล้วกล่าว: “วางใจได้ มีนมผง ให้เจ้าแฝดดื่มนมผงไปก่อน”

พี่ชายของหยวนชิงหลิงอุ้มทารกที่นิ่งเฉยทั้งสอง หยอกเล่นครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นถามหยวนชิงหลิง “น้องสาว พวกเธอสามารถอยู่ได้นานเท่าไหร่?”

คำพูดนี้ ศาสตราจารย์หยวนและแม่ของหยวนชิงหลิงล้วนไม่กล้าถาม หยวนชิงหลิงก็ไม่กล้าเอ่ยขึ้นมาก่อน ได้ยินพี่ชายเอ่ยถามขึ้นอย่างฉับพลัน ทุกคนล้วนนิ่งเงียบครู่หนึ่ง สีหน้าล้วนเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

หยู่เหวินเห้าก็สังเกตได้ว่าบรรยากาศไม่ดี แต่คำพูดนี้ก็ต้องพูด ครั้นแล้วจึงกล่าว: “สามวัน หลังจากสามวันพวกเราก็ต้องจากไปแล้ว”

“แค่สามวันเองเหรอ!” แม่ของหยวนชิงหลิงกล่าวพึมพำ นัยน์ตาก็แดงก่ำขึ้นมาอีก เธอฝืนทำตัวมีชีวิตชีวาขึ้นมา จับมือของหยวนชิงหลิงแล้วบีบรอยยิ้มที่น่าเกลียดกว่าการร้องไห้ออกมา “สามวันก็ดี แม่ไม่คาดหวังมากมาย สามารถพบเจอได้ก็ดีแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บัลลังก์หมอยาเซียน 992 เพิ่งจะสามวันเหรอ

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 992 เพิ่งจะสามวันเหรอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ขึ้นมาถึงชั้น พวกเด็กๆก็ต้อนรับอยู่ที่ประตูแล้ว พวกเขาชำนาญทาง ราวกับว่าเป็นบ้านของตัวเองเช่นนั้น ยังจะขึ้นหน้าไปพยุงหยู่เหวินเห้าอีก “ท่านพ่อ สุขภาพเช่นนี้ของท่านไม่ไหวพ่ะย่ะค่ะ กลับไปยังจำเป็นต้องฝึกซ้อมหน่อย”

หยู่เหวินเห้าอดกลั้นความวู่วามที่อยากจะตีพวกเขาสักหนึ่งที เดินตามพวกเขาเข้าบ้าน

ทันทีที่เข้าบ้าน ก็เห็นรูปภาพขนาดใหญ่มากรูปหนึ่งแขวนอยู่ที่ห้องรับแขก รูปภาพก็คือพวกเขาทั้งครอบครัว ขณะที่ถ่ายวิดีโอนั่น สุดท้ายรวมกันเป็นกลุ่มกลุ่มหนึ่งแล้วถ่ายรูปรูปนี้

มีความรู้สึกคุ้นเคยเช่นนี้ จิตใจของหยู่เหวินเห้าก็สงบมั่งคงขึ้นเป็นอย่างมากทันใด

วางเจ้าแฝดไว้บนโซฟา พี่ชายของหยวนชิงหลิงก็อ้าแขนทั้งสองข้างออก กล่าวด้วยดวงตาแดงเล็กน้อย: “ยินดีต้องรับน้องสาวกลับบ้าน”

ตั้งแต่เข้าบ้านหยวนชิงหลิงก็กลั้นน้ำตามาโดยตลอด ทุกอย่างเบื้องหน้า ล้วนเหมือนความฝันเช่นนั้น หากไม่ใช่ลูกๆและเจ้าห้าอยู่ข้างกาย นางจะต้องคิดว่าตัวเองฝันไปจริงๆ

มองดูพี่ชายเบ้าตาแดง นางพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเขา กล่าวสะอึกสะอื้น: “ฉันฝันก็คิดไม่ถึงว่าจะสามารถกลับมาได้”

ความรักความผูกพันเช่นนี้ทำให้คนซาบซึ้ง แต่พวกเด็กๆกลับเรียกให้หยู่เหวินเห้าไปนั่งบนโซฟา ซาลาเปากระโดดโลดเต้นไปเปิดโทรทัศน์ หยู่เหวินเห้ากำลังจะอุ้มเจ้าแฝดขึ้นมา ใครจะรู้ทันใดนั้นได้ยินเสียงดังขึ้น ในโทรทัศน์ยังมีคนปรากฏตัวอีก ทำให้เขาทั้งคนตกใจจนสะดุ้งโหยงขึ้นมา ตะคอกอย่างเฉียบขาดคำหนึ่ง “ผู้ใด?”

“ท่านพ่อ เป็นละครในโทรทัศน์น่ะพ่ะย่ะค่ะ” ซาลาเปาหันกลับไปมองเขาแวบหนึ่ง แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยการเยาะเย้ย

หยู่เหวินเห้าไม่ทันได้สนใจจัดการความไม่เคารพของเขา มองโทรทัศน์นั่นอย่างระมัดระวัง คิดไม่ถึงว่าในกล่องใหญ่นั่นจะมีคนแสดงละคร? นี่เป็นโลกอะไรกันแน่นะ? ตะลึงจนลืมตาอ้าปากค้าง!

ทังหยวนกล่าวด้วยความเข้าอกเข้าใจ: “ท่านพ่อ เป็นการถ่ายทอดสัญญาณพ่ะย่ะค่ะ”

“อ๋อ!” ถ่ายทอด ถ่ายทอดเขาเข้าใจ

ด้านนอกประตูเสียงกุญแจดังขึ้น พี่ชายของหยวนชิงหลิงปล่อยหยวนชิงหลิง เปิดประตูอย่างรวดเร็ว ศาสตราจารย์หยวนถือกุญแจอยู่ ตะลึงครู่หนึ่ง จึงเห็นหยวนชิงหลิงชะโงกหัวออกมาจากด้านหลังของพี่ชาย

แม่ของหยวนชิงหลิงตามอยู่ด้านหลังของเขา ทั้งสองหิ้วสิ่งของมากมายก่ายกอง มองดูหยวนชิงหลิงนิ่งๆ น้ำตาพุ่งขึ้นมาในตาของทั้งสองด้วยความรวดเร็ว พี่ชายของหยวนชิงหลิงเข้าไปรับของ สูดหายใจลึกๆเฮือกหนึ่ง “พ่อครับ แม่ครับ น้องกลับมาแล้วครับ”

ดวงตาทั้งหกประสานกัน ล้วนเป็นความเลือนรางทั้งผืน ใครก็ล้วนมองไม่ชัดว่าเป็นใคร เมื่อครู่ก่อนจะกลับมา ศาสตราจารย์หยวนก็กำชับเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ประเดี๋ยวจะต้องใจเย็นๆระงับไว้ อย่าให้ลูกสาวเห็นถึงความตื่นเต้นเกินไปของเธอ จะได้ไม่ทำให้จิตใจของลูกสาวเป็นทุกข์ เพราะคิดไว้แล้วว่าลูกสาวกลับมาครั้งนี้ ก็อยู่ได้ไม่นาน ยังไงก็ยังต้องจากไปแน่นอน ไม่สามารถทำให้ลูกสาวจากไปด้วยความอาลัยและเป็นห่วงได้

ดังนั้นแม่ของหยวนชิงหลิงเห็นลูกสาวแล้ว แม้ว่าในใจจะตื่นเต้นจนแทบจะทนไม่ไหว อยากเข้าไปกอดเธอทันที แต่ก็ยังอดกลั้นไว้ถึงที่สุด กลั้นน้ำตาไว้แล้วบีบรอยยิ้มออกมา มือสองข้างถูไถกับเสื้อผ้า “ถึงแล้วเหรอ? ลำบากมาตลอดทางเลยสินะ?”

นางพูดเช่นนี้ แต่ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ค่อยอยู่เล็กน้อย จึงรีบหยิบผักจากในมือพี่ชายของหยวนชิงหลิง กล่าวอย่างสะอึกสะอื้นและสับสนว่า: “แม่ซื้อผักมาแล้ว แม่เอาไปในครัวก่อน เดี๋ยวจะทำอาหาร พวกลูกก็น่าจะหิวแล้ว”

เธอหยิบผักแล้วเดินไปทางด้านใน ฝีเท้าเลื่อนลอยและสมองก็สับสน กลับเดินเข้าห้องน้ำ แล้วรีบออกมา ยิ้มให้หยวนชิงหลิงด้วยดวงตาแดงๆ “ดูสิแม่ดีใจจนเลอะเทอะหมดแล้ว เดินผิดทางแล้ว ฮ่าๆ!”

นางพุ่งตรงเข้าห้องครัวทันที

ศาสตราจารย์หยวนพยักหน้าให้หยวนชิงหลิง กล่าวด้วยเสียงแหบพร่า: “ไปเถอะ”

หยวนชิงหลิงเดินขึ้นไปกอดเขาครู่หนึ่ง  เห็นหยวนชิงหลิงเดินเข้ามาก็รีบเช็ดน้ำตาทันที “แม่…..แม่ล้างผัก ล้างผัก…….”

หยวนชิงหลิงกอดเธอจากทางด้านหลัง มือทั้งสองข้างโอบเอวเธอไว้ น้ำตาก็กลั้นไม่ได้ที่จะไหลพรากลงมา “แม่คะ ขอโทษ”

แม่ของหยวนชิงหลิงก็ระงับการเสแสร้งที่แทบจะพังทลายไว้ไม่ได้แล้ว น้ำตาร่วงพรูในพริบตาหันหลังไปกอดเธอไว้ทันที การคร่ำครวญพรั่งพรูออกมาจากปาก กล่าวด้วยความปวดร้าวและคลุมเครือ: “ทำให้แม่คิดถึงจนแทบไม่ไหวแล้ว แม่คิดถึงจนแทบไม่ไหวแล้ว”

จิตใจของหยวนชิงหลิงเกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรงขึ้นฉับพลัน ประโยคนี้ของคุณแม่ ราวกับมีดทิ่มแทงเข้าไปบนหัวใจ ด้านคนเป็นพ่อเป็นแม่รู้ว่าการเกิดตายและจากลาชนิดนี้เป็นความเจ็บปวดสุดแสนสาหัส ในสี่ปีที่ผ่านมา ความคิดถึงบ้านและการสะกดใจในความคิดถึงบ้าน ในน้ำตาของคุณแม่ พังทลายลงมาโดยสมบูรณ์แล้ว

เดิมทีหยู่เหวินเห้าลุกขึ้นยืนด้วยความระมัดระวังอยากทักทายกับพ่อตา แต่ได้ยินเสียงร้องไห้ใจจะขาดดังเข้ามาจากด้านใน เขาวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วทันที เห็นแม่ลูกที่ร้องไห้จนควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาจึงค่อยๆถอยออกไป

เมื่อหันกลับ ก็เห็นแววตาที่เจ็บปวดของพ่อตา หากบอกว่าก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้มีความรู้สึกผูกพันอะไรต่อคนในครอบครัวนี้ แต่ตอนนี้จากความผูกพันของคนเหล่านี้ฝังลึกเข้าในก้นบึ้งของจิตใจเขา เขาอ้าปาก รู้สึกว่าลำคอก็เหมือนกับอุดตันด้วยก้อนไหม เสียงแหบพร่าสะอึกสะอื้น ทำมือเคารพและคำนับลงไป “ลูกเขยคารวะท่านพ่อตา!”

ศาสตราจารย์หยวนมองดูเขา น้ำตาลูกผู้ชายยากจะกลั้นไว้ได้ ชายหนุ่มผู้นี้ได้ประคับประคองลูกสาวขณะอยู่ต่างบ้านต่างมิติทุกอย่าง เขามีใจรู้สึกขอบคุณเขา กุมมือของหยู่เหวินเห้า เขาทอดถอนใจอย่างหนักเฮือกหนึ่ง “ขอบคุณที่พวกเธอกลับมา”

พี่ชายของหยวนชิงหลิงเข้ามาเกลี้ยกล่อมออกไป พวกเด็กๆก็วิ่งเข้ามากอดคุณยาย แม่ของหยวนชิงหลิงได้เห็นเด็กๆตัวจริง ดีอกดีใจทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ แล้วรีบออกไปดูเจ้าแฝดอีก ในเหตุการณ์ทั้งหมดเจ้าแฝดเป็นผู้ที่สงบนิ่งที่สุด ตั้งแต่เข้าบ้านมาจนถึงตอนนี้ พวกเจ้าจะร้องไห้พวกเจ้าจะหัวเราะ ก็ราวกับว่าไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา

พี่ชายของหยวนชิงหลิงเห็นอารมณ์ความตื่นเต้นเช่นนี้ของทุกคน ก็ไม่ทำอาหารแล้ว เขาสั่งอาหารในแอปพลิเคชัน จากนั้นให้ทุกคนนั่งลงสนทนากัน

หยู่เหวินเห้าหยิบของขวัญที่ตัวเองหยิบติดมือมาจากไท่ซ่างหวงทางนั้นออกมา มอบให้ทีละชิ้น มีความละอายใจจนเหงื่อตกเล็กน้อย “เพราะขณะที่รู้ว่าสามารถกลับมาได้ ก็ไม่มีเวลาไปซื้อของขวัญแล้ว ทำได้เพียงเลือกของที่มีอยู่มาอย่างง่ายๆเล็กน้อยเท่านั้น หวังว่าพวกท่านจะไม่รังเกียจ”

แม่ของหยวนชิงหลิงมองดูเขาอย่างอ่อนโยน “ของที่เธอให้ อะไรก็ชอบ”

ทีแรกคิดว่าไม่ใช่ของที่ล้ำค่าอะไร ใครจะรู้เมื่อเปิดออกดู แต่ละชิ้นกลับมีราคาจนน่าตกใจ ดวงตาแม่ของหยวนชิงหลิงเบิกโพลง “นี่……นี่จะต้องจ่ายเงินมากเท่าไหร่กันล่ะเนี้ย?”

“ไม่ได้ใช้จ่ายเงินอะไร” หยู่เหวินเห้าเขินอาย ยื่นดาบให้พี่ชายของหยวนชิงหลิง “หยวนบอกว่าวิธีการใช้มีดของท่านพี่เยี่ยมยอด แต่หามีดล้ำค่าไม่ได้ ทำได้เพียงเอาดาบมาให้ท่านพี่เท่านั้น”

พี่ชายของหยวนชิงหลิงชอบจริงๆ หลังจากกล่าวขอบคุณแล้วก็รับมา คิดไม่ถึงว่าจะลับคมแล้ว ถอนใจและกล่าว: “ยอดเยี่ยม ดาบเล่มนี้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ น้องเขย ความคิดนี้ของนายชั่งถูกใจฉันมาก”

ชายหนุ่มคนไหนที่ไม่เคยฝันว่าจะเป็นอัศวินบ้าง? เขาชื่นชอบแบบสุดๆจริงๆ

หยู่เหวินเห้าเห็นว่าทุกคนชื่นชอบจริงๆ ก็แอบโล่งใจ โชคดีที่ไม่ได้เสียมารยาทมากนัก

เขานึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน กล่าวต่อหยวนชิงหลิงด้วยความงงงัน: “หยวน ไม่ได้พาแม่นมมา เจ้าแฝดจะทำอย่างไร?”

ดวงตาแม่ของหยวนชิงหลิงยังบวมแดงมาก กลับหัวเราะแล้วกล่าว: “วางใจได้ มีนมผง ให้เจ้าแฝดดื่มนมผงไปก่อน”

พี่ชายของหยวนชิงหลิงอุ้มทารกที่นิ่งเฉยทั้งสอง หยอกเล่นครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นถามหยวนชิงหลิง “น้องสาว พวกเธอสามารถอยู่ได้นานเท่าไหร่?”

คำพูดนี้ ศาสตราจารย์หยวนและแม่ของหยวนชิงหลิงล้วนไม่กล้าถาม หยวนชิงหลิงก็ไม่กล้าเอ่ยขึ้นมาก่อน ได้ยินพี่ชายเอ่ยถามขึ้นอย่างฉับพลัน ทุกคนล้วนนิ่งเงียบครู่หนึ่ง สีหน้าล้วนเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

หยู่เหวินเห้าก็สังเกตได้ว่าบรรยากาศไม่ดี แต่คำพูดนี้ก็ต้องพูด ครั้นแล้วจึงกล่าว: “สามวัน หลังจากสามวันพวกเราก็ต้องจากไปแล้ว”

“แค่สามวันเองเหรอ!” แม่ของหยวนชิงหลิงกล่าวพึมพำ นัยน์ตาก็แดงก่ำขึ้นมาอีก เธอฝืนทำตัวมีชีวิตชีวาขึ้นมา จับมือของหยวนชิงหลิงแล้วบีบรอยยิ้มที่น่าเกลียดกว่าการร้องไห้ออกมา “สามวันก็ดี แม่ไม่คาดหวังมากมาย สามารถพบเจอได้ก็ดีแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+