ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ 46 คุณหนูหลี่ที่จริงและเท็จ

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ Chapter 46 คุณหนูหลี่ที่จริงและเท็จ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หยุนจิ่งกินน้ำตาลปั้นอยู่ เหมือนไม่ได้เข้าใจความหมายในคำพูดของซูหนานอี

"หยุนหลิ่วก็คือหยุนหลิ่วไง นางไม่มีความเกี่ยวข้องกับข้าเลย"

"……"ซูหนานอี

ช่างเถอะ ยังไงหยุนหลิ่วคนนี้ตกลงเป็นใครมันก็ไม่สำคัญ

"จิ่งเอ้อร์ ถุงหอมนี้เอาให้ข้าละกัน?"

"ได้สิ ภรรยาชอบก็เอาไปเลย!"

ซูหนานอีก็ไม่มีอารมณ์กินเสี่ยวหลงเปาอีก รู้สึกแต่ว่าพื้นที่ที่กู้ซีเฉินนั่งไปนั้นน่าเกลียดมาก ส่วนหยุนจิ่งก็อิ่มแล้ว ก็เลยจ่ายเงินแล้วเดินลงไป ซื้อขนมหน่อยนึง และก็ไปที่แผงขายหนังสือ ซื้อหนังสือหลายเล่มที่น่าสนใจ พอเดินเที่ยวตลาดเสร็จ สองคนก็ขึ้นรถม้าของจวนอ๋อง ซูหนานอีให้รถม้าเดินมั่วๆไปสองรอบก่อน พอแน่ใจว่าข้างหลังไม่มีคนตามอีก ถึงไปที่ถนนหย่งติ้ง ตอนที่ผ่านหน้าประตูของจวนหลี่ บังเอิญได้เห็นหลายคนยืนอยู่หน้าประตู คนหนึ่งในนั้น เป็นคนใช้ที่วิ่งไล่ตามหลี่จิ้งหว่านนั่นเอง เขากำลังพูดกับคนอื่นอยู่ ฟังไม่ค่อยชัดเจน จากนั้นซูหนานอีก็วางผ้าม่านรถม้าลง คนของจวนหลี่คิดไม่ถึงแน่นอนว่า หลี่จิ้งหว่านที่พวกเขาหาอยู่นั้น อยู่บนถนนเดียวกันกับพวกเขา

รถม้าหยุดลง ซูหนานอีและหยุนจิ่งลงรถม้า ให้คนขับรถม้าจากไป และเตือนเขาว่าให้ขับไปเที่ยวอีกหลายที่ค่อยกลับจวน

พอเข้ามาในเรือน ก็เห็นร่างกายที่สง่างาม กำลังแขวนเสื้อผ้าโดยหันหลังให้พวกเขาอยู่ พอได้ยินเสียงคนนั้นก็หันมา เมื่อเห็นซูหนานอีก็พูดอย่างตกใจ"คุณหนูซู เจ้ามาแล้วหรือ!"

พอนางอ้าปาก ซูหนานอีถึงมองออกว่า ที่แท้เป็นหลี่จิ่งหว่านนี่เอง

เวลาสักครู่นี้ก็ถือว่าเปลี่ยนแปลงไปมากเลย หลี่จิ้งหว่านได้ใส่กระโปรงสีเหลืองอ่อน เผยให้เห็นผิวขาวราวกับหยก ผมก็ได้ล้างแล้ว หวีอย่างเป็นระเบียบ บนศีรษะยังคงเป็นปิ่นปักผมที่ทำจากไม้อันนั้น เดิมทีนางก็มีหน้าตาที่สวยและมีเสน่ห์ ไม่ใช่แบบที่มองแล้วน่าทึ่งทันที แต่สามารถทำให้คนยิ่งมองยิ่งรู้สึกสวย

ซูหนานอีหัวเราะเบาๆ"คุณหนูหลี่ นี่แค่แยกกันนานขนาดไหนเอง ก็ทำให้ข้าเปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่แล้ว"

หลี่จิ้งหว่านก็ไม่ได้เกรงใจ"นี่เป็นสิ่งที่เพื่อนของท่านให้ข้า ขอบพระคุณบุญคุณของท่านเป็นอย่างยิ่ง คุณหนูซู ถ้ามีตรงไหนต้องการความช่วยเหลือของข้า ข้าจะพยายามทำให้เต็มที่"

รอยยิ้มของซูหนานอีลึกกว่าเดิม"คุณหนูหลี่ไม่ต้องเกรงใจ ตอนที่มา ได้เห็นประตูบ้านใช่ไหม?"

หลี่จิ้งหว่านพยักหน้า พูดตามตรง ตอนนั้นนางตกใจจริงๆ ยังนึกว่าจะส่งนางกลับไปอีก

"เจ้าบอกข้ามาได้ไหม ตกลงเจ้าเป็นใคร?"ซูหนานอีถามอย่างตั้งใจ

หลี่จิ้งหว่านตะลึง"ข้าก็คือหลี่จิ้งหว่านแท้ๆ"

ซูหนานอีเลิกคิ้ว"หลายวันก่อนข้าไปจุดธูปที่วัด คนที่ไปด้วยยังมีคุณหนูตระกูลหลี่ด้วย ได้ข่าวว่าชื่อหลี่จิ้งหว่านเหมือนกัน แต่……"

เมื่อกี้ที่ซูหนานอีฟังหลี่จิ้งหว่านแนะนำตัวเองที่ซอยก็นึกขึ้นมาได้ว่า ในวันนั้นที่ไปจุดธูปกับพระสนมเอก ก็มีคุณหนูของตระกูลหลี่ หลี่จิ้งหว่าน แล้วหากคนต่อหน้าคนนี้เป็นหลี่จิ้งหว่าน แล้ว คนที่ไปจุดธูปนั้นเป็นใครล่ะ?

หลี่จิ้งหว่านเข้าใจขึ้นมาทันที"ที่แท้แล้วแล้วคุณหนูซูก็ได้ไปจุดธูปด้วย ไม่น่า ข้าเป็นหลี่จิ้งหว่านแท้ๆ คนที่ไปเป็นน้องสาวต่างมารดา ชื่อหลี่จิ้งหมิ่น"

"น้องสาวต่างมารดา?"ซูหนานอีนึกถึงสถานการณ์ของวันนั้น การแต่งกายและบุคลิกของคุณหนูหลี่คนนั้นไม่เหมือนเป็นลูกสาวของเมียน้อย

"ใช่ไง"หลี่จิ้งหว่านหัวเราะเยาะตัวเอง"รู้สึกว่านางมีชีวิตการเป็นอยู่ที่ดีกว่าข้าในฐานะที่เป็นลูกที่ออกโดยเมียหลวงใช่ไหม?แม่เลี้ยงของข้าเป็นน้าของข้าด้วย เดิมทีนางเป็นเมียน้อยของพ่อข้า หลังจากที่แม่ของข้าเสียชีวิต นางก็ถูกยกย่องเป็นเมียหลวง หลี่จิ้นหมิ่นก็จากลูกของเมียน้อยกลายเป็นลูกของเมียหลวง"

"เดิมทีเรื่องที่ไปจุดธูปทางพระราชวังให้ลูกสาวคนโตไป แต่แม่เลี้ยงของข้ารู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่ดี ก็เลยวางแผนให้หลี่จิ้งหมิ่นไปแทน ข้าก็ไม่อยากไปร่วมงานแบบนี้ ก็เลยทำตามนางไป"

การพูดของหลี่จิ้งหว่านเรียบเรียงได้ดีมาก ไม่นานก็เล่าเรื่องทุกอย่างออกมาอย่างชัดเจน

"แล้ว ได้ข่าวว่าคุณหนูหลี่หายตัวไป คือเกิดอะไรขึ้น?หมายถึงเจ้าหรือ?"

"ไม่ใช่หรอก"หลี่จิ้งหว่านส่ายหน้า"คือหลี่จิ้งหมิ่น ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะหลังจากที่นางออกไปแล้วก็ไม่ได้กลับมาอีก มีคนบอกว่านางหนีกับผู้ชาย แต่ข้าว่ามันไม่ใช่"

ซูหนานอีเห็นนางมั่นใจขนาดนี้ จึงถามด้วยความแปลกใจ"เพราะเหตุใด?"

"หลังจากหลี่จิ้งหมิ่นจุดธูปกลับมาก็ภูมิใจมาก นางว่าตั้งแต่ที่นางไปจุดธูปกลับมาก็มีผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ นางบอกว่ากั๋วจิ้วเหย่ชอบนาง บอกว่าจะแต่งงานกับนาง ดังนั้น นางจะไปหนีกับผู้ชายคนอื่นได้ยังไงล่ะ?"

คิ้วของซูหนานอีกระโดดเล็กน้อย"หลี่ชูยวี่?นางบอกว่าหลี่ชูยวี่ชอบนางหรือ?"

"นางพูดแบบนี้เอง แต่ข้าไม่ได้สนใจ เพราะว่าเรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับข้าเลย แม้ว่านางเข้าวัง ข้าก็ไม่อิจฉาแม้แต่นิด"

สายตาของซูหนานอีปรากฏความสงสัยขึ้นมา"ข้าถามได้ไหมว่า ทำไมคุณหนูหลี่ถึงไม่ยอมไปจุดธูป?"

สีหน้าของหลี่จิ้งหว่านเริ่มแดงขึ้นมา"ข้าไม่ยอมไปจุดธูปก็เนื่องจากข้ามีคนรักแล้ว เราสองคนรักกันมานาน เดิมทีนึกว่ารอปีนี้เขาผ่านการสอบรับราชการระดับชนบทก่อน ก็จะมาขอแต่งงานที่บ้านข้า แต่ตอนนี้……"

"แต่ตอนนี้กลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น"ซูหนานอีพูดต่อ"เขาก็เป็นคนพื้นเมืองหรือ?"

"ใช่ เขาอยู่ในชนบท"หลี่จิ้งหว่านเม้มปาก ทำความเคารพแล้วพูดว่า"คุณหนูซู ข้ามีเรื่องขอร้อง สามารถช่วยข้าส่งจดหมายซองหนึ่งไปให้เขาได้ไหม ให้เขารู้ว่าข้าปลอดภัยอยู่ ข้ากลัวว่าถ้าคนในบ้านหาข้าไม่เจอ เดี๋ยวจะไปหาที่ชนบท จะสร้างปัญหาให้เขา และจะทำให้เขากังวลด้วย"

ซูหนานอีพยักหน้า"นี่ไม่ได้ยากเลย เจ้าเขียนจดหมายมา ข้าจะให้คนไปส่งให้"

"ขอบพระคุณเจ้าค่ะ"หลี่จิ้งหว่านดีใจมาก"ข้า……ข้าจะไปเขียนเดี๋ยวนี้"

นางหันหน้าเดินเข้าไปในห้อง ซูหนานอีมองเงาหลังของนางแล้ว แอบถอนหายใจออกมา

หนุนจิ่งกระซิบพูดว่า"ภรรยาถอนหายใจทำไม?

ซูหนานอียังไม่ทันได้ตอบ หยุนจิ่งก็พูดอีก"ภรรยาไม่ชอบพระสนมเอกหรือ?ข้าก็ไม่ชอบ"

ซูหนานอีสงสัยขึ้นมา"อ้อ?จิ่งเอ้อร์ไม่ชอบพระสนมเอกหรือ?เพราะอะไร?"

หยุนจิ่งทำปากมุ่ย"นาง……นางไม่เหมือนคนอื่น นางมีสองหน้า"

คำพูดนี้แปลกมาก แต่ซูหนานอีเข้าใจความหมายทันที หัวใจสั่นสะท้าน"ทำไมจิ่งเอ้อร์ถึงพูดเช่นนี้ล่ะ?เจ้าเคยเห็นหรือ?"

"ใช่"หยุนจิ่งพยักหน้า"เคยเห็น นางดุร้ายมาก สายตาที่มองข้าก็ทำให้ข้ารู้สึกไม่สบายใจ แต่ตอนที่ฝ่าบาทอยู่ นางก็ยิ้มอย่างสวยงามเลย และก็ดีต่อข้าด้วย"

ซูหนานอีกัดฟันทันที อย่างนี้นี่เอง

นางรู้สึกความเจ็บปวดใจ จับมือของหยุนจิ่งแล้วพูดว่า"จิ่งเอ้อร์ไม่ต้องเสียใจ ถ้านางกล้าดุเจ้าอีก เจ้าก็ดุนางกลับไป ทีหลังนางก็ไม่กล้าแล้ว"

"ได้หรือ?"หยุนจิ่งสงสัย

"ได้ แต่ว่า ดีสุดจิ่งเอ้อร์อย่าไปสนใจนางดีกว่า ทีหลังถ้าเจอนางก็สะบัดหน้าจากไปเลย นางไม่กล้าทำอะไรเจ้าหรอก"

"ได้ ข้าฟังภรรยา ทีหลังไม่สนใจนางแล้ว"

ซูหนานอีพยักหน้า ดึงมุมเสื้อของนางเดินไปข้างใน"ไป เราไปดูซือหยวนกัน"

ลู่ซือหยวนกำลังใจลอยอยู่บริเวณหน้าต่าง มือของเขาวางอยู่บนหัวเข่า บนขามีผ้าห่มบางปิดอยู่ ซูหนานอีเคาะประตูและเข้ามาในห้อง เขาเอียงหน้ามามอง แสงอาทิตย์สีทองตกมายังใบหน้าของเขา เผยให้เห็นหน้าตาที่ประณีต ผิวกายของเขาขาว ริมฝีปากก็มีความซีดขาว เหมือนเป็นเครื่องเคลือบดินเผาที่เปราะบาง อ่อนแอมาก

ซูหนานอีเดินหน้าขึ้นไปหลายก้าว ถามด้วยเสียงเบา"วันนี้รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?"

ลู่ซือหยวนพยักหน้า"ดีขึ้นแล้ว คนที่คุณชายเซี่ยสั่งมานั้นก็ตั้งใจมาก ยาก็ดีมาก

คำพูดนี้ซูหนานอีเชื่อแน่นอน เซี่ยหล่านต้องนำสิ่งที่ดีสุดมาที่นี่แน่นอน

"งั้นเจ้าก็รักษาอยู่ที่นี่ พอร่างกายแข็งแรงขึ้นมาแล้ว จ้าค่อยเปลี่ยนสูตรยาให้เจ้า ช่วงเวลานี้ ข้าจะมาฝังเข็มให้เจ้า"

ลู่ซือหยวนก้มลง ปิดบังอารมณ์ของตัวเอง"ตามจริงแล้วไม่รักษาก็ไม่เป็นไร"

"ไม่ว่าเจ้าจะเดินได้ไหม เราล้วนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ในเมื่อเป็นเพื่อน ข้าก็ต้องพยายามเต็มที่ ซือหยวน ในเมื่อเจ้าไม่กลัว นั้นก็เชื่อข้าเถอะ"

ลู่ซือหยวนเลิกคิ้ว"ได้"

เขาอยากจะลุกขึ้นมาอีกครั้ง อยากจะอยู่ข้างๆของนาง อยากจะกระบี่ อยากจะปกป้องนาง เพียงแค่ว่า……ไม่อยากให้นางกังวลเพราะสิ่งนี้ ยิ่งไม่อยากให้นางต้องเสียใจด้วย

ระหว่างที่คิดอยู่ ซูหนานอีก็หยิบเข็มเงินออกมา"เริ่มเถอะ"

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด