ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ 85 นางมาแล้ว นางมาอีกแล้ว

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ Chapter 85 นางมาแล้ว นางมาอีกแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แค่ผ่านไปอีกสักพักหนึ่ง แม่บ้านชุยก็กลับมาแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ

ซูหว่านเอ้อร์เห็นเช่นนี้ รีบถามอย่างรีบร้อน”คือชุนหลิงหรือเปล่า?”

“กราบทูลคุณหนู คือชุนหลิงจริงด้วยเจ้าค่ะ”แม่บ้านชวยทำความเคารพใส่”นางบอกว่าเรื่องสำเร็จแล้วให้คุณหนูวางใจได้ ฝั่งของหลิ่วซื่อสั่งคนมาหานาง นางมีแต่ต้องไปก่อน”

แม่บ้านชุยพูดต่อว่า”เอ๊ะ เมื่อกี้เหมือนยังได้ยินสาวใช้ของคุณหนูใหญ่เสี่ยวเถาวิ่งไปทางหน้าประตู เหมือนกับว่าคุณหนูใหญ่ยังไม่ได้กลับมา”

ซูหว่านเอ้อร์ได้ยินเช่นนี้ ก็ปรากฏความดีใจขึ้นมา แสงเทียนในห้องสะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายในสายตาอย่างชัดเจน

“ซูหนานอี!จะดูว่าเจ้ายังแต่งเข้าจวนอ๋องเป่ยลี้ได้ยังไง ไม่มีจวนอ๋องเป็นที่พึ่งพาเจ้ายังหยิ่งได้หรือเปล่า!”

นางนั่งกลับไปในเก้าอี้ใหม่”แต่งหน้าให้ข้า”

แม่บ้านชุยตะลึง”ตอนนี้หรือเจ้าคะ?”

“รีบๆสิ!’

“เจ้าค่ะ”

แม่บ้านชุยไม่กล้าชักช้า กลัวว่านางจะบ้าขึ้นมาอีกครั้ง รีบแต่งหน้าให้นาง ซูหว่านเอ้อร์มองไปดูตัวเองในกระจก รู้สึกพอใจมาก นำกระดาษแดงมาเม้มปาก สวยงามสดใสมาก

แม่บ้านชุยเห็นดวงตาของนางในกระจก ไม่มีอุณหภูมิแม้แต่น้อย เหมือนดวงตาของงูพิษ

ซูหว่านเอ้อร์ค่อยๆอ้าปาก”เอ๊ะ พรุ่งนี้ให้ชุนหลิงฉวยโอการมาครั้งหนึ่งสิ จัดการซูหนานอีเสร็จ ก็ควรที่จะไปจัดการไอ้เหมยซื่อแล้ว ยังฝันว่าจะได้เป็นฮูหยินของจวน นางมีสิทธิ์ที่ไหน?”

“เจ้าค่ะ”แม่บ้านชุยก้มหน้า ไม่ไปดูดวงตาที่โหดร้ายของนาง

เช้าวันรุ่งนี้ ซูหนานอีให้เสี่ยวชีไปรอที่บริเวณหน้าประตูจวน หากหยุนจิ่งมาแล้วก็พาเขาเข้ามาทางหลังประตู อย่าถูกคนอื่นพบเห็น

เสี่ยวเถาปรนนิบัติซูหนานอีอาบน้ำและแต่งตัว”วันนี้คุณหนูใส่ชุดไหนเจ้าคะ?”

ซูหนานอีคิดสักครู่หนึ่ง”ชุดชนชาติหูละกัน”

ราชวงศ์นี้ได้ทำการค้าขายกับชาวต่างชาติ เพราะฉะนั้นจึงเจริญรุ่งเรืองในด้านการค้าขาย ชนชาติหูเป็นชนชาติที่ติดต่อค้าขายกันมากที่สุด ดังนั้น คนจีนหลายๆคนเพื่อความสดใหม่ ก็ใส่ชุดชนชาติหูบ่อยมาก

เสี่ยวเถาใส่ให้ซูหนานอี อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจออกมา”คุณหนูใส่ชุดนี้สวยมากๆเลย หล่อกว่าคุณชายเหล่านั้นอีกเลนเจ้าค่ะ ให้บ่าวมัดผมให้ด้วยไหมเจ้าคะ?*

“ได้”ซูหนานอีพยักหน้ายอมรับ

นางใช้ดินสอเขียนคิ้ว ไม่ใช่แบบพระจันทร์เสี้ยวในเมื่อก่อนอีก มันยาวและหงายขึ้นเล็กน้อย มีความเป็นวีรบุรุษในตัว

ดวงตาของเสี่ยวเถาเต็มไปด้วยความใฝ่ฝัน”คุณหนูเจ้าคะ ถ้าท่านเป็นผู้ชาย งั้นบ่าวจะเป็นเมียน้อยของท่านแน่นอนเจ้าค่ะ!’

ซูหนานอีเลิกคิ้วขึ้น”ไม่มีความทะเยอทะยานเลยหรือ อยากเป็นแค่เมียน้อย?”

หน้าของเสี่ยวเถาแดงขึ้น”บ่าวมีฐานะต่ำต้อย จะคู่ควรที่จะเป็นเมียหลวงที่ไหนได้ล่ะเจ้าคะ

……”

ซูหนานอีเห็นลักษณะที่น่าสงสารของนางก็ไม่อยากพูดต่อไปอีก ถูผมของนาง”เสี่ยวเถาอยากจะแต่งงานแล้วหรือ?”

ใบหน้าของเสี่ยวเถาแดงยิ่งขึ้น รีบส่ายหน้า”ไม่ ไม่เจ้าค่ะ บ่าวจะติดตามคุณหนูตลอดชีวิต ไม่แต่งงานเจ้าค่ะ!”

รอยยิ้มของซูหนานอีค่อนข้างจะขมขื่น”ไอ้สาวโง่”

เมื่อก่อนนวกเอ๋อก็พูดแบบนี้บ่อยๆ

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านเป็นไรหรือเจ้าคะ”เสี่ยวเถากระซิบถาม

“ไม่เป็นไร ทานข้าวเถอะ”

เพิ่งกินข้าวเสร็จ เสี่ยวชีและหยุนจิ่งก็เดินเข้ามาอย่างเร็ว

มือซ้ายของหยุนจิ่งถือกล่องอาหาร

“ภรรยา ข้าเอาของอร่อยๆมาให้!”

เขาเงยหน้ามองเห็นซูหนานอี ดวงตาก็ค่อยๆเบิกกว้าง”ภรรยาใส่ชุดชนชาติหูแล้วสวยมากๆเลย”

ซูหนานอีจัดระเบียบแขนเสื้อของตัวเอง”สวยใช่ไหม?”

“สวยมาก ภรรยาใส่ชุดนี้แล้วหล่อมากเลย!”

เสี่ยวเถาปิดปากหัวเราะ ซูหนานอีหัวเราะเบาๆและให้นางกับเสี่ยวชีไปเฝ้านอกประตู

หยุนจิ่งเข้ามาในห้อง วางกล่องสองกล่องไว้บนโต๊ะ หยิบขนมและผลไม้ออกมาทีละจาน มือชี้ไปพร้อมพูดว่า”นี่เป็นสิ่งที่เสด็จแม่ฝากให้เจ้า ส่วนนี่เป็นสิ่งที่ข้าให้เจ้า”

“ใช่ไง”หยุนจิ่งนั่งอยู่ข้างๆของนาง กระซิบพูดว่า”ภรรยา ข้าเอากระต่ายกลับไป ยังได้สร้างบ้านให้พวกมันด้วย เสด็จแม่บอกว่า นางก็อยากจะไปย่างปลา ย่างเป็ดกับเราเลย ข้ายังเอาไข่เป็ดที่เป็นกลับมาให้นางดูด้วย”

ซูหนานอีเห็นลักษณะที่ดีใจของเขา รู้สึกปลื้มใจมาก แม้ว่านางไม่ได้เจาะจงพาหยุนจิ่งไปเที่ยว แต่สามารถทำให้เขาดีใจขนาดนี้ก็ดีแล้ว

“งั้นรออากาศดีขึ้น เราพาไท่เฟยไปด้วย ไม่งั้นตอนนี้อากาศร้อนมาก กลัวร่างกายของไท่เฟยจะรับไม่ไหว”

หยุนจิ่งครุ่นคิดสักพักหนึ่ง”ภรรยาพูดถูก”

เขาผลักจานไปให้ซูหนานอี”ภรรยารีบกิน ลองชิมดู”

ซูหนานอีเพิ่งกินอาหารเช้าไป ไม่ค่อยหิว แต่เห็นสายตาที่คาดหวังของเขา ก็ได้ชิมอย่างละนิด

ทั้งสองคนกำลังคุยกันอย่างดีใจอยู่ แต่จู่ๆก็ได้ยินข้างนอกมีคนพูดคุยกัน

ซูหนานอีเงียบขรึม หยุนจิ่งก็ไม่พูดอะไรตามนาง

เสียงพูดคุยกันในหน้าประตูส่งมาอย่างชัดเจน

“เสี่ยวเถา ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นแก่หน้า ข้าก็ได้รับคำสั่งเช่นกัน อย่างนี้ละกัน เจ้าเข้าไปบอกสักครั้งหนึ่งได้ไหม?”

คือพ่อบ้านในเรือนของซูซืออวี้นั่นเอง

เสี่ยวเถารู้สึกลำบากใจ”ไม่ใช่ว่าบ่าวไม่ไปบอกคุณหนู เป็นเพราะว่าคุณหนูกำลังปักชุดแต่งงานอยู่ คุณหนูบอกว่าไม่ว่าใครล้วนไปรบกวนไม่ได้”

“แต่ก็ต้องแบ่งแยกว่าเป็นเรื่องสำคัญหรือเปล่าใช่ไหมล่ะ?ตอนนี้คือนายท่านเชิญคุณหนูไปคุยกันที่ห้องหนังสือ เจ้านี่ห้ามอยู่ตอนนี้มันถือว่าเป็นอะไร?”

พ่อบ้านรู้สึกรำคาญเล็กน้อย”แม้ว่าคุณหนูจะแต่งงานได้ดี แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกก็ต้องมีอยู่สื นายท่านเป็นพ่อของคุณหนู คุณหนูก็ควรควรเคารพผู้ใหญ่ นี่คุณหนูคือคิดจะตัดความสัมพันธ์กับพ่อแล้วหรือ?”

สีหน้าของเสี่ยวเถาก็แย่ลงเรื่อยๆ”ท่านพูดแบบนี้มันก็เกินไปแล้ว คุณหนูได้รับความไม่เป็นธรรมมากขนาดไหน?แต่ไม่เคยโทษนายท่านเลย นี่ใกล้จะแต่งงานแล้วเรื่องของสินสอดก็ไม่มีคนดูแลให้ ชุดแต่งงานคุณหนูก็เป็นคนปักเอง ทำไมแค่ปักชุดแต่งงานก็ถูกท่านกล่าวว่าเป็นการไม่เคารพผู้ใหญ่ล่ะ?”

พ่อบ้านถูกเถียงจนไม่รู้จะพูดอะไรดี จ้องมาที่เสี่ยวเถาด้วยสายตาที่สงสัย เสี่ยวเถาไม่กลัวอะไร เผชิญหน้ากับเขาอย่างซื่อตรง พ่อบ้านพึมพำในใจ ไอ้สาวนี่ก็ช่าง……เก่งขึ้นมาแล้ว เมื่อก่อนไม่กล้าพูดเสียงดัง ก้มหน้าอยู่ตลอด ไม่เหมือนตอนนี้พูดเก่งจริงๆ เขาก็ไม่ใช่ว่าต้องมาเชิญซูหนานอีไปแน่นอน ทันใดนั้นก็เอ่ยเสียงเย็นชาออกมา และสะบัดหน้าจากไป

เสี่ยวเถามองไปทางเสี่ยวชี เลิกคิ้วอย่างภูมิใจ”เป็นยังไงบ้าง ข้ามีความเหมือนคุณหนูนิดๆหรือเปล่า?”

ปกติเสี่ยวชีไม่ค่อยได้พูด พอได้ยินเช่นนี้ก็กระตุกปากถือว่ายิ้มแล้ว”มี”

เสี่ยวเถาปิดปากหัวเราะออกมา”คุณหนูบอกแล้วว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ ให้เราเฝ้าไว้”

เสี่ยวชีพยักหน้าอย่างเงียบๆ

ซูหนานอีได้ยินอย่างชัดเจน ในใจเริ่มหัวเราะเย็นชา นี่คือเริ่มวางแผนแล้ว ให้พวกเขาอยากทำอะไรทำไปเถอะ เรื่องพวกนี้ให้ซูซืออวี้จัดการ นางไปเที่ยวข้างนอกกับหยุนจิ่งแล้ว

“จิ่งเอ้อร์ เราออกไปเที่ยวกัน”

หยุนจิ่งปรบมือ”ได้ ไปไหนกัน?”

“ไป……”

ซูหนานอียังพูดไม่จบ จู่ๆก็ได้ยินเสียงกระพือปีก มีเงาดำบินมา และหยุดอยู่บริเวณหน้าต่าง

เป็นตัวที่อยู่ในมือของเซี่ยหล่านในเมื่อคืนนี้นั่นเอง

“เฮ้ย เสี่ยวเฮย!”หยุนจิ่งตาสว่างขึ้นมา วางนกพิราบตัวน้อยในมือเบาๆ

นกพิราบใช้หัวแตะฝ่ามือของเขา และส่งเสียงร้องออกมา

ซูหนานอีรู้สึกตกใจ นกพิราบตัวนี้ของเซี่ยหล่านไม่ธรรมดาเลย นอกจากเจ้านายตัวเองแล้ว น้อยมากที่จะเข้าใกล้คนอื่น ล้วนเป็นแบบที่เย็นชา

หยุนจิ่งเอาซองจดหมายลงมาให้ซูหนานอี ซูหนานอีเปิดออกมาดู

ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา”จิ่งเอ้อร์ ไป เราไปดื่มชากัน”

“ได้สิ”

ซูหนานอีหันไปเอาผลไม้ใส่กลับไปในกล่อง บอกกับเสี่ยวเถาและเสี่ยวชีว่าให้เฝ้าเรือนให้ดี จากนั้นค่อยๆออกจากเรือนจากหลังประตูพร้อมกับหยุนจิ่ง

พ่อบ้านกลับไปบอกซูซืออวี้ ซูซืออวี้ได้ยินว่าเขาถูกเสี่ยวเถาห้ามอยู่ข้างนอก ก็ขมวดคิ้ว”จริงหรือ”

พ่อบ้านพยักหน้า

ซูซืออวี้ครุ่นคิดตั้งนาน เดินรอบเรือนไปสองรอบ ในที่สุดเหมือนตัดสินใจได้”ไป ไปในเรือนของหว่านเอ้อร์!”

พ่อบ้านรีบเดินตามขึ้นไป แม่บ้านชุยได้รับคำสั่งจากซูหว่านเอ้อร์ เฝ้าดูอยู่หน้าเรือน พอเห็นซูซืออวี้มาแล้ว ก็รีบกลับไปบอกซูหว่านเอ้อร์ในเรือน

“คุณหนูเจ้าคะ นายท่านมาทางนี้แล้วเจ้าค่ะ!”

ซูหว่านเอ้อร์รีบนอนตะแคงอยู่บนเตียง ผ้าไปชุ่มน้ำจนเปียกแล้วบีบน้ำหลายหยดใส่บริเวณดวงตา แกล้งทำเป็นว่าเช็ดน้ำตา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ 85 นางมาแล้ว นางมาอีกแล้ว

Now you are reading ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ Chapter 85 นางมาแล้ว นางมาอีกแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แค่ผ่านไปอีกสักพักหนึ่ง แม่บ้านชุยก็กลับมาแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ

ซูหว่านเอ้อร์เห็นเช่นนี้ รีบถามอย่างรีบร้อน”คือชุนหลิงหรือเปล่า?”

“กราบทูลคุณหนู คือชุนหลิงจริงด้วยเจ้าค่ะ”แม่บ้านชวยทำความเคารพใส่”นางบอกว่าเรื่องสำเร็จแล้วให้คุณหนูวางใจได้ ฝั่งของหลิ่วซื่อสั่งคนมาหานาง นางมีแต่ต้องไปก่อน”

แม่บ้านชุยพูดต่อว่า”เอ๊ะ เมื่อกี้เหมือนยังได้ยินสาวใช้ของคุณหนูใหญ่เสี่ยวเถาวิ่งไปทางหน้าประตู เหมือนกับว่าคุณหนูใหญ่ยังไม่ได้กลับมา”

ซูหว่านเอ้อร์ได้ยินเช่นนี้ ก็ปรากฏความดีใจขึ้นมา แสงเทียนในห้องสะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายในสายตาอย่างชัดเจน

“ซูหนานอี!จะดูว่าเจ้ายังแต่งเข้าจวนอ๋องเป่ยลี้ได้ยังไง ไม่มีจวนอ๋องเป็นที่พึ่งพาเจ้ายังหยิ่งได้หรือเปล่า!”

นางนั่งกลับไปในเก้าอี้ใหม่”แต่งหน้าให้ข้า”

แม่บ้านชุยตะลึง”ตอนนี้หรือเจ้าคะ?”

“รีบๆสิ!’

“เจ้าค่ะ”

แม่บ้านชุยไม่กล้าชักช้า กลัวว่านางจะบ้าขึ้นมาอีกครั้ง รีบแต่งหน้าให้นาง ซูหว่านเอ้อร์มองไปดูตัวเองในกระจก รู้สึกพอใจมาก นำกระดาษแดงมาเม้มปาก สวยงามสดใสมาก

แม่บ้านชุยเห็นดวงตาของนางในกระจก ไม่มีอุณหภูมิแม้แต่น้อย เหมือนดวงตาของงูพิษ

ซูหว่านเอ้อร์ค่อยๆอ้าปาก”เอ๊ะ พรุ่งนี้ให้ชุนหลิงฉวยโอการมาครั้งหนึ่งสิ จัดการซูหนานอีเสร็จ ก็ควรที่จะไปจัดการไอ้เหมยซื่อแล้ว ยังฝันว่าจะได้เป็นฮูหยินของจวน นางมีสิทธิ์ที่ไหน?”

“เจ้าค่ะ”แม่บ้านชุยก้มหน้า ไม่ไปดูดวงตาที่โหดร้ายของนาง

เช้าวันรุ่งนี้ ซูหนานอีให้เสี่ยวชีไปรอที่บริเวณหน้าประตูจวน หากหยุนจิ่งมาแล้วก็พาเขาเข้ามาทางหลังประตู อย่าถูกคนอื่นพบเห็น

เสี่ยวเถาปรนนิบัติซูหนานอีอาบน้ำและแต่งตัว”วันนี้คุณหนูใส่ชุดไหนเจ้าคะ?”

ซูหนานอีคิดสักครู่หนึ่ง”ชุดชนชาติหูละกัน”

ราชวงศ์นี้ได้ทำการค้าขายกับชาวต่างชาติ เพราะฉะนั้นจึงเจริญรุ่งเรืองในด้านการค้าขาย ชนชาติหูเป็นชนชาติที่ติดต่อค้าขายกันมากที่สุด ดังนั้น คนจีนหลายๆคนเพื่อความสดใหม่ ก็ใส่ชุดชนชาติหูบ่อยมาก

เสี่ยวเถาใส่ให้ซูหนานอี อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจออกมา”คุณหนูใส่ชุดนี้สวยมากๆเลย หล่อกว่าคุณชายเหล่านั้นอีกเลนเจ้าค่ะ ให้บ่าวมัดผมให้ด้วยไหมเจ้าคะ?*

“ได้”ซูหนานอีพยักหน้ายอมรับ

นางใช้ดินสอเขียนคิ้ว ไม่ใช่แบบพระจันทร์เสี้ยวในเมื่อก่อนอีก มันยาวและหงายขึ้นเล็กน้อย มีความเป็นวีรบุรุษในตัว

ดวงตาของเสี่ยวเถาเต็มไปด้วยความใฝ่ฝัน”คุณหนูเจ้าคะ ถ้าท่านเป็นผู้ชาย งั้นบ่าวจะเป็นเมียน้อยของท่านแน่นอนเจ้าค่ะ!’

ซูหนานอีเลิกคิ้วขึ้น”ไม่มีความทะเยอทะยานเลยหรือ อยากเป็นแค่เมียน้อย?”

หน้าของเสี่ยวเถาแดงขึ้น”บ่าวมีฐานะต่ำต้อย จะคู่ควรที่จะเป็นเมียหลวงที่ไหนได้ล่ะเจ้าคะ

……”

ซูหนานอีเห็นลักษณะที่น่าสงสารของนางก็ไม่อยากพูดต่อไปอีก ถูผมของนาง”เสี่ยวเถาอยากจะแต่งงานแล้วหรือ?”

ใบหน้าของเสี่ยวเถาแดงยิ่งขึ้น รีบส่ายหน้า”ไม่ ไม่เจ้าค่ะ บ่าวจะติดตามคุณหนูตลอดชีวิต ไม่แต่งงานเจ้าค่ะ!”

รอยยิ้มของซูหนานอีค่อนข้างจะขมขื่น”ไอ้สาวโง่”

เมื่อก่อนนวกเอ๋อก็พูดแบบนี้บ่อยๆ

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านเป็นไรหรือเจ้าคะ”เสี่ยวเถากระซิบถาม

“ไม่เป็นไร ทานข้าวเถอะ”

เพิ่งกินข้าวเสร็จ เสี่ยวชีและหยุนจิ่งก็เดินเข้ามาอย่างเร็ว

มือซ้ายของหยุนจิ่งถือกล่องอาหาร

“ภรรยา ข้าเอาของอร่อยๆมาให้!”

เขาเงยหน้ามองเห็นซูหนานอี ดวงตาก็ค่อยๆเบิกกว้าง”ภรรยาใส่ชุดชนชาติหูแล้วสวยมากๆเลย”

ซูหนานอีจัดระเบียบแขนเสื้อของตัวเอง”สวยใช่ไหม?”

“สวยมาก ภรรยาใส่ชุดนี้แล้วหล่อมากเลย!”

เสี่ยวเถาปิดปากหัวเราะ ซูหนานอีหัวเราะเบาๆและให้นางกับเสี่ยวชีไปเฝ้านอกประตู

หยุนจิ่งเข้ามาในห้อง วางกล่องสองกล่องไว้บนโต๊ะ หยิบขนมและผลไม้ออกมาทีละจาน มือชี้ไปพร้อมพูดว่า”นี่เป็นสิ่งที่เสด็จแม่ฝากให้เจ้า ส่วนนี่เป็นสิ่งที่ข้าให้เจ้า”

“ใช่ไง”หยุนจิ่งนั่งอยู่ข้างๆของนาง กระซิบพูดว่า”ภรรยา ข้าเอากระต่ายกลับไป ยังได้สร้างบ้านให้พวกมันด้วย เสด็จแม่บอกว่า นางก็อยากจะไปย่างปลา ย่างเป็ดกับเราเลย ข้ายังเอาไข่เป็ดที่เป็นกลับมาให้นางดูด้วย”

ซูหนานอีเห็นลักษณะที่ดีใจของเขา รู้สึกปลื้มใจมาก แม้ว่านางไม่ได้เจาะจงพาหยุนจิ่งไปเที่ยว แต่สามารถทำให้เขาดีใจขนาดนี้ก็ดีแล้ว

“งั้นรออากาศดีขึ้น เราพาไท่เฟยไปด้วย ไม่งั้นตอนนี้อากาศร้อนมาก กลัวร่างกายของไท่เฟยจะรับไม่ไหว”

หยุนจิ่งครุ่นคิดสักพักหนึ่ง”ภรรยาพูดถูก”

เขาผลักจานไปให้ซูหนานอี”ภรรยารีบกิน ลองชิมดู”

ซูหนานอีเพิ่งกินอาหารเช้าไป ไม่ค่อยหิว แต่เห็นสายตาที่คาดหวังของเขา ก็ได้ชิมอย่างละนิด

ทั้งสองคนกำลังคุยกันอย่างดีใจอยู่ แต่จู่ๆก็ได้ยินข้างนอกมีคนพูดคุยกัน

ซูหนานอีเงียบขรึม หยุนจิ่งก็ไม่พูดอะไรตามนาง

เสียงพูดคุยกันในหน้าประตูส่งมาอย่างชัดเจน

“เสี่ยวเถา ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นแก่หน้า ข้าก็ได้รับคำสั่งเช่นกัน อย่างนี้ละกัน เจ้าเข้าไปบอกสักครั้งหนึ่งได้ไหม?”

คือพ่อบ้านในเรือนของซูซืออวี้นั่นเอง

เสี่ยวเถารู้สึกลำบากใจ”ไม่ใช่ว่าบ่าวไม่ไปบอกคุณหนู เป็นเพราะว่าคุณหนูกำลังปักชุดแต่งงานอยู่ คุณหนูบอกว่าไม่ว่าใครล้วนไปรบกวนไม่ได้”

“แต่ก็ต้องแบ่งแยกว่าเป็นเรื่องสำคัญหรือเปล่าใช่ไหมล่ะ?ตอนนี้คือนายท่านเชิญคุณหนูไปคุยกันที่ห้องหนังสือ เจ้านี่ห้ามอยู่ตอนนี้มันถือว่าเป็นอะไร?”

พ่อบ้านรู้สึกรำคาญเล็กน้อย”แม้ว่าคุณหนูจะแต่งงานได้ดี แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกก็ต้องมีอยู่สื นายท่านเป็นพ่อของคุณหนู คุณหนูก็ควรควรเคารพผู้ใหญ่ นี่คุณหนูคือคิดจะตัดความสัมพันธ์กับพ่อแล้วหรือ?”

สีหน้าของเสี่ยวเถาก็แย่ลงเรื่อยๆ”ท่านพูดแบบนี้มันก็เกินไปแล้ว คุณหนูได้รับความไม่เป็นธรรมมากขนาดไหน?แต่ไม่เคยโทษนายท่านเลย นี่ใกล้จะแต่งงานแล้วเรื่องของสินสอดก็ไม่มีคนดูแลให้ ชุดแต่งงานคุณหนูก็เป็นคนปักเอง ทำไมแค่ปักชุดแต่งงานก็ถูกท่านกล่าวว่าเป็นการไม่เคารพผู้ใหญ่ล่ะ?”

พ่อบ้านถูกเถียงจนไม่รู้จะพูดอะไรดี จ้องมาที่เสี่ยวเถาด้วยสายตาที่สงสัย เสี่ยวเถาไม่กลัวอะไร เผชิญหน้ากับเขาอย่างซื่อตรง พ่อบ้านพึมพำในใจ ไอ้สาวนี่ก็ช่าง……เก่งขึ้นมาแล้ว เมื่อก่อนไม่กล้าพูดเสียงดัง ก้มหน้าอยู่ตลอด ไม่เหมือนตอนนี้พูดเก่งจริงๆ เขาก็ไม่ใช่ว่าต้องมาเชิญซูหนานอีไปแน่นอน ทันใดนั้นก็เอ่ยเสียงเย็นชาออกมา และสะบัดหน้าจากไป

เสี่ยวเถามองไปทางเสี่ยวชี เลิกคิ้วอย่างภูมิใจ”เป็นยังไงบ้าง ข้ามีความเหมือนคุณหนูนิดๆหรือเปล่า?”

ปกติเสี่ยวชีไม่ค่อยได้พูด พอได้ยินเช่นนี้ก็กระตุกปากถือว่ายิ้มแล้ว”มี”

เสี่ยวเถาปิดปากหัวเราะออกมา”คุณหนูบอกแล้วว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ ให้เราเฝ้าไว้”

เสี่ยวชีพยักหน้าอย่างเงียบๆ

ซูหนานอีได้ยินอย่างชัดเจน ในใจเริ่มหัวเราะเย็นชา นี่คือเริ่มวางแผนแล้ว ให้พวกเขาอยากทำอะไรทำไปเถอะ เรื่องพวกนี้ให้ซูซืออวี้จัดการ นางไปเที่ยวข้างนอกกับหยุนจิ่งแล้ว

“จิ่งเอ้อร์ เราออกไปเที่ยวกัน”

หยุนจิ่งปรบมือ”ได้ ไปไหนกัน?”

“ไป……”

ซูหนานอียังพูดไม่จบ จู่ๆก็ได้ยินเสียงกระพือปีก มีเงาดำบินมา และหยุดอยู่บริเวณหน้าต่าง

เป็นตัวที่อยู่ในมือของเซี่ยหล่านในเมื่อคืนนี้นั่นเอง

“เฮ้ย เสี่ยวเฮย!”หยุนจิ่งตาสว่างขึ้นมา วางนกพิราบตัวน้อยในมือเบาๆ

นกพิราบใช้หัวแตะฝ่ามือของเขา และส่งเสียงร้องออกมา

ซูหนานอีรู้สึกตกใจ นกพิราบตัวนี้ของเซี่ยหล่านไม่ธรรมดาเลย นอกจากเจ้านายตัวเองแล้ว น้อยมากที่จะเข้าใกล้คนอื่น ล้วนเป็นแบบที่เย็นชา

หยุนจิ่งเอาซองจดหมายลงมาให้ซูหนานอี ซูหนานอีเปิดออกมาดู

ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา”จิ่งเอ้อร์ ไป เราไปดื่มชากัน”

“ได้สิ”

ซูหนานอีหันไปเอาผลไม้ใส่กลับไปในกล่อง บอกกับเสี่ยวเถาและเสี่ยวชีว่าให้เฝ้าเรือนให้ดี จากนั้นค่อยๆออกจากเรือนจากหลังประตูพร้อมกับหยุนจิ่ง

พ่อบ้านกลับไปบอกซูซืออวี้ ซูซืออวี้ได้ยินว่าเขาถูกเสี่ยวเถาห้ามอยู่ข้างนอก ก็ขมวดคิ้ว”จริงหรือ”

พ่อบ้านพยักหน้า

ซูซืออวี้ครุ่นคิดตั้งนาน เดินรอบเรือนไปสองรอบ ในที่สุดเหมือนตัดสินใจได้”ไป ไปในเรือนของหว่านเอ้อร์!”

พ่อบ้านรีบเดินตามขึ้นไป แม่บ้านชุยได้รับคำสั่งจากซูหว่านเอ้อร์ เฝ้าดูอยู่หน้าเรือน พอเห็นซูซืออวี้มาแล้ว ก็รีบกลับไปบอกซูหว่านเอ้อร์ในเรือน

“คุณหนูเจ้าคะ นายท่านมาทางนี้แล้วเจ้าค่ะ!”

ซูหว่านเอ้อร์รีบนอนตะแคงอยู่บนเตียง ผ้าไปชุ่มน้ำจนเปียกแล้วบีบน้ำหลายหยดใส่บริเวณดวงตา แกล้งทำเป็นว่าเช็ดน้ำตา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+