ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม 121 ช่วงที่ฝึกสำเร็จ

Now you are reading ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม Chapter 121 ช่วงที่ฝึกสำเร็จ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การกลับมาของคุณปู่ซูทำให้สถานการณ์สงบลงเล็กน้อย

แต่หลายคนก็ยังวิตกกังวลอยู่มากเพราะกลัวว่า "ปีศาจ" อาจจะออกมาฆ่าคนอีก

"นี่มันก็ผ่านมาก่อนหนึ่งอาทิตย์แล้ว ทำไมยังไม่เห็นหน้าฉินเฉิงเลย?"

"เขาจะกลัวจริงๆเหรอ? ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นคนที่สุดยอด สามารถฆ่าคนได้แค่ชำเลืองมอง!"

"นั่นอาจจะเป็นพวกที่อ่อนแอ" ทุกคนพูดอย่างไม่รู้จบ ในความเห็นของพวกเขาฉินเฉิงอาจกลัวจริงๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงปรากฎตัวออกมาตั้งนานแล้ว

คฤหาสน์ที่เขาหลงไห่

"สวัสดีคุณปู่ซู" เซียงเหม่ยเอ๋อยิ้มและพูดออกมา

คุณปู่ซูพยักหน้าเล็กน้อย ยิ้มและพูดออกมาว่า "เหม่ยเอ๋อ มาตั้งแต่เมื่อไหร่? พ่อของเธอให้เธอออกมาได้อย่างไง?"

เซียงเหม่ยเอ๋อยิ้ม "กว่าฉันจะออกมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ก่อนหน้านี้ไม่นานพ่อก็ยังพูดถึงคุณปู่อยู่เลย"

คุณปู่ซูกับตระกูลเซียงเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาก่อน ทั้งสองคนเคยเป็นที่ยิ่งใหญ่ในจิงตู

แต่หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุ จึงทำให้คุณปู่ซูต้องออกจากจิงตู ส่วนทางด้านของตระกูลเซียงเองก็ออกไปที่ต่างประเทศ

หลายปีที่ผ่านมาทั้งสองครอบครัวไม่ได้ติดต่อกันเลย ความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงจางหายไปบ้าง

"ซูวานไปไหนเหรอ เขาไม่ได้บอกเธอเอาไว้เหรอ?" หลังจากนั้นคุณปู่ซูก็พูดสิ่งที่อยากจะพูดในใจออกไป

เซียงเหม่ยเอ๋อส่ายหน้า "ไม่รู้เหมือนกัน วันนั้นแปลกมากหลังจากที่ซูวานหลายตัวไป ต่อมาอีกสองวันฉินเฉิงเองก็หายตัวไปเช่นกัน"

เมื่อคุณปู่ซูได้ยินแบบนี้คิ้วของเขาก็ขมวดขึ้นมา

เขาเพิ่งจะไปถามหาข่าวเรื่องนี้จากคนที่อยู่ใกล้เคียงแต่ก็ไม่มีใครรู้เรื่องอะไร

"คุณปู่ซูไม่ต้องกังวล ไม่แน่ฉินเฉิงอาจจะพาซูวานออกไปเที่ยวก็ได้" เซียงเหม่ยเอ๋อพูดพร้อมกับยิ้มออกมา

คุณปู่ซูพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไร

เวลาผ่านไปไวมาก แวบเดียวก็ผ่านไปเกือบหนึ่งเดือนแล้ว

และเฮยฉานเองก็ทำตามที่สัญญากันไว้ ภายในหนึ่งเดือนนี้เขาจะไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์

"ตอนแรกคิดว่าฉินเฉิงจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะเป็นแค่เต่าที่เอาแต่หดหัวอยู่แต่ในกระดอง"

"แต่จะไปโทษฉินเฉิงก็ไม่ได้ เขาเพิ่งจะอายุ 20 กว่าๆเอง คนไม่สามารถจัดการอะไรได้ทุกเรื่อง"

"หึ พวกนายไม่เข้าใจอะไร เฮยฉานเป็นถึงผู้นำของ เมืองซวนหมิงทางตะวันตกเฉียงใต้ ความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถคาดเดาได้! ฉินเฉิงจะต้องไม่กล้าสู้หน้ากับเขาแน่นอน!"

คำพูดมากมายเกิดขึ้นในปีนังและเกือบทุกคนรู้สึกว่าฉินเฉิงกำลังซ่อนตัวอยู่

เนื่องจากทางการไม่สามารถหาตัวเฮยฉานพบ พวกเขาจึงล้มเลิกในการตามหา

และในตอนนี้ทำให้เฮยฉานมีความเป็นอยู่ที่สบายมาก มีนักธุรกิจจำนวนมากมายที่ไปบำเรอเขาเพื่อหวังผลตอบแทน

"ชีวิตทางโลกนี่มันสบายอย่างนี้นี่เอง" เฮยฉานอดไม่ได้ที่จะคิดอย่างนั้น

เมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับการฝึกตนนั้นมันช่างต่างกันเหลือเกิน

แต่ถึงอย่างไรเฮยฉานก็ยังมีความภาคภูมิใจเหลืออยู่ในใจ

ในสายตาของเขาไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจหรือผู้ที่ร่ำรวยแค่ไหนมันก็ไม่ต่างอะไรกับขยะข้างถนน

"ฉินเฉิง หรือว่าเขาจะกลัวไปแล้วจริงๆ" หลังจากที่ผ่านไปประมาณเดือนกว่า ทุกคนก็เริ่มขาดความเชื่อใจ

แม้แต่จินฮู่เองก็เริ่มไหวหวั่น

เมืองหลวง ตระกูลเฝิง

ธุรกิจของตระกูลเฝิงครอบคลุมไปทั่วอาณาจักร เป็นธรรมดาที่เขาจะได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นที่ปีนัง

"พ่อ โอกาสที่เราจะฟื้นตัวมาถึงแล้ว!" เฝิงเฉินกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น "เจ้าฉินเฉิงมันไปหดหัวจนไม่กล้าออกมาแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าไม่กล้ากล้าออกมาเผชิญหน้ากับเฮยฉาน!"

เฝิงกงนิ่งไม่พูดอะไร แต่มุมปากของเขาก็มีรอยยิ้มเผยออกมาให้เห็น

ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคิดเอาไว้ ถ้าหากฉินเฉิงตายด้วยน้ำมือของเฮยฉานจริงๆ เขาก็จะได้กลับมาเป็นที่หนึ่งของเมืองหลวงเหมือนอย่างเคย

"วิญญาณของน้องชายฉัน คงสงบสุขเสียที!" เฝิงเฉินกำหมัดพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ดีใจ

ในขณะนี้ ศิษย์คนหนึ่งรีบเข้ามาจากนอกประตู

"รายงานท่านผู้นำเฝิง คุณชายใหญ่กลับมาแล้ว!" สีหน้าของศิษย์รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก และแม้แต่คำพูดของเขาก็สะดุดเล็กน้อย

เฝิงกงตกใจ ถามออกไปด้วยความตื่นเต้น "นายพูดจริงเหรอ?"

"จริงครับ! ตอนนี้เขากำลังเดินทางผมพบท่านอาจารย์!" ลูกศิษย์กล่าวอย่างตื่นเต้น

สีหน้าของเฝิงกงแสดงออกถึงความรู้สึกของเขาได้อย่างชัดเจน

เขาเงยหน้าขึ้นและหัวเราะออกมาดังลั่น "ฮ่าฮ่าฮ่า พระเจ้าเข้าข้างฉันแล้ว!"

ขณะที่เขากำลังหัวเราะ ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาจากนอกประตู

ชายหนุ่มคนนี้แตกต่างไปจากเฝิงเฉินมาก ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยออร่า

"สวัสดีครับพ่อ!" ชายหนุ่มเอนตัวทำความเคารพเฝิงกงด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

เฝิงกงดึงมือเขาขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น "เหยนเอ๋อ ลูกกลับมาแล้ว!"

"พี่ใหญ่!" เฝิงเฉินรีบวิ่งเข้ามา ไม่ทันวิ่งมาถึงเขาก็พูดออกมาว่า "พี่ใหญ่ ช่วงนี้ตระกูลเฝิงของเราเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ น้องชายของพวกเราเขา…."

"ไม่รู้พูดอะไรแล้ว ฉันรู้เรื่องหมดแล้ว" เฝิงเหยนพูดออกมา "ที่ฉันกลับมาครั้งนี้ เรื่องแรกอาจารย์ของฉันให้ฉันเดินทางไปที่ปีนัง ส่วนเรื่องที่สองก็คือ กลับมาแก้แค้นให้กับน้องชายของฉัน!"

เฝิงกงถามออกไปว่า "เหยนเอ๋อ บอกพ่อหน่อย ตอนนี้วรยุทธ์ของลูกอยู่ขั้นไหนแล้ว?"

เฝิงเหยนกล่าวอย่างภาคภูมิใจ "ไม่นานมานี้เพิ่งจะก้าวข้ามเจ้าแห่งพลังปราณไปหนึ่งขั้น"

"สุด…สุดยอดเลย!" เฝิงกงมีความสุขมาก "ตระกูลเฝิงของเราจะต้องกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง คืนนี้พ่อจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับลูกเอง!"

เฝิงเหยนยิ้มออกมา "พ่อ ตอนนี้ฉันจะต้องไปที่ปีนังแล้ว รอหลังจากที่ฉันฆ่าฉินเฉิงเสร็จแล้วเราค่อยมาฉลองกัน!"

"ไม่ได้!" เฝิงกงขวางเฝิงเหยนเอาไว้ และพูดออกมาว่า "ผู้นำของ เมืองซวนหมิง เฮยฉาน กำลังท้าสู้กับฉินเฉิงอยู่ เท่าที่รู้มาเขาเองก็เป็นเจ้าแห่งพลังปราณเหมือนกัน"

"เพื่อความปลอดภัย ไม่สู้ปล่อยให้เฮยฉานทำการต่อสู้ไปก่อนไม่ดีกว่าเหรอ" เฝิงกงพูดออกมาต่อ "ถ้าฉินเฉิงแพ้มันก็จะเป็นเรื่องที่น่ายินดีตามธรรมชาติ แต่ถ้าหากฉินเฉิงเป็นฝ่ายชนะเราก็สามารถดูระดับความสามารถของเขาและค่อยเอามาตัดสินใจภายหลังได้"

เฝิงเหยนเยาะเย้ยและกล่าวว่า "พ่อ ตามที่ผมได้ยินมา ฉินเฉิงคนนี้ก็เป็นแค่เจ้าแห่งพลังปราณ แม้ว่าเขาจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมแค่ไหนเขาก็ไม่มีทางก้าวข้ามระดับเจ้าแห่งพลังปราณไปได้ในระยะเวลาอันสั้นหรอก!"

เฝิงกงถอนหายใจออกมาเล็กน้อย "ฉินเฉิงคนนี้ไม่ธรรมดา ตอนนี้พ่อกำลังสงสัยว่าเขากำลังเขาไปฝึกฝนตัวเองอยู่"

เฝิงเหยนลังเลอยูครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดออกมาว่า "ได้ครับ งั้นผมจะฟังที่พ่อพูด"

หลักการของเฝิงกงนั้นง่ายมาก ถ้าหากฉินเฉิงชนะ และชนะแบบง่ายๆ ก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรต่อไป ชีวิตที่เหลือของเขาก็ยอมเป็นลูกน้องของฉินเฉิงต่อไป

แต่ถ้าหากฉินเฉิงอ่อนแอหรือสู้จนหมดกำลัง ในตอนนั้นแหละจะให้เฝิงเหยนออกไปจัดการ

……

ฉินเฉิงในตอนนั้นกำลังนั่งอยู่ในเขตบ้านริมเขาเฟิงชื่อเพื่อฝึกสมาธิ

ก่อนที่เขาจะมาฝึกฝนเพื่อข้ามขั้นของพลังที่ตนเองมีอยู่เขารู้ดีอยู่แล้วว่าครั้งนี้มันจะต้องใช้เวลานานกว่าปกติมาก เขาจึงไม่ได้หวังอะไรมาก ขอแค่เสร็จก่อนวันขึ้นปีใหม่ก็พอ

น้ำตกกระทบร่างผอมบางของฉินเฉิง กระแสน้ำที่ไหลมากระทบกับจุดตันเถียนของเขาและเกิดเป็นแสงจางๆ

แสงปรากฏเป็นสีฟ้าคราม และเมื่อเวลาผ่านไป แสงก็อ่อนลงเล็กน้อย

เขานั่งอยู่ที่นี่มาเดือนครึ่งแล้ว และเหลือเวลาอีกเพียงครึ่งเดือนก่อนปีใหม่

"ฟู้วววว!"

และในตอนนั้นจู่ๆน้ำที่ตกกระทบรอบตัวเขาก็กระจายออกไปรอบๆทันที

เมื่อมองไปอย่างละเอียดจะเห็นว่ารอบๆร่างกายของฉินเฉิงมีแสงอ่อนๆปกคลุมอยู่ ราวกับว่าแสงนั้นเป็นโล่ที่ป้องกันไม่ให้อะไรกระทบกับตัวของฉินเฉิง!

"ควับ!"

ในขณะเดียวกัน ดวงตาของฉินเฉิง ก็เปิดขึ้นในทันใด และรัศมีอันน่าสยดสยองก็กระจายอยู่รอบตัวเขาโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เขา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด