ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม 278 สถานการณ์ในตอนนี้ของนายท่านซู

Now you are reading ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม Chapter 278 สถานการณ์ในตอนนี้ของนายท่านซู at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมืองจิงตู ที่บ้านตระกูลฮั่น

ชายหนุ่มรูปงามกำลังเอนกายอยู่บนเก้าอี้โยก

ในมือของเค้าก็มีนกแก้วขาวอยู่ตัวหนึ่ง มันพูดไม่หยุด

ในสายตาของชายหนุ่มคนนี้ก็เต็มไปด้วยความรักใคร่และเอ็นดู

“พัฟ!”

ในตอนนี้เอง มือของชายหนุ่มก็บีบเข้าไปที่คอของนกแก้วขาวตัวนั้นโดยตรง

ในตอนแรกเค้าก็ดูเต็มไปด้วยความรักและเอ็นดู แต่ต่อมาเค้าก็ฆ่ามัน นี่มันน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก

และดูเหมือนว่าคนที่อยู่รอบข้างเค้าจะคุ้นเคยกับมันแล้ว ไม่มีใครหันไปสนใจอะไรกับมันเลย

ชายหนุ่มคนนี้คือคนที่มีพรสวรรค์ของตระกูลฮั่น ฮั่นจิ่วเถียน เค้าเป็นจอมยุทธ์ที่มีระดับขั้นอยู่เหนือกว่าซูหยู่

“คุณชาย” ในตอนนี้เอง สาวใช้ที่ดูราวกับนางฟ้าก็เดินเข้ามา

เธอเหลือบมองไปที่เลือดที่นองอยู่ในมือของฮั่นจิ่วเถียน จากนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมาว่า: “คุณชายค่ะ นี่มันเป็นสัตว์เลี้ยงตัวที่ห้าที่คุณฆ่ามัน”

แววตาของฮั่นจิ่วเถียน มันดูราวกับน้ำ มันทั้งอ่อนโยนและน่ากลัว

เค้าถอนหายใจออกมา: “พ่อฉันบอกว่าเมื่อเกิดในตระกูลใหญ่ ใจต้องแข็งกว่าก้อนหิน ไม่อย่างงั้นก็จะตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อ”

“เสี่ยวหยา เธอว่าตอนนี้ฉันทำได้แล้วยัง?” ฮันจิ่วเถียนเงยหน้าขึ้นมา เค้ามองไปที่สาวใช้

เสี่ยวหยาส่ายหัวแล้วพูดว่า: “ฉันไม่รู้ แต่ไม่ว่าจะยังไงฉันก็จะสนับสนุนการตัดสินใจของคุณชาย”

ฮั่นจิ่วเถียนก็กระซิบขึ้นมาว่า: “ฉันยังทำไม่ได้เลย เสี่ยวหยา เธอรู้ไหมว่าทำไมกัน?”

เสียวหยายังคงส่ายหัวแล้วพูดว่า: “คุณชาย ฉันเป็นแค่สาวใช้เท่านั้น ฉันจะไปรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน”

“มันต้องบอกว่าฉันยังห่างอยู่อีกไกล” ฮั่นจิ่วเถียนก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้โยก “รู้ไหมว่าทำไม?”

เสี่ยวหยายังคงส่ายหัว

มันมีแสงเย็นวาบในแววตาของฮั่นจิ่วเถียน

เค้าถอนหายใจแล้วพูดว่า: “เพราะเธอยังมีชีวิตอยู่ไง”

เสี่ยวหยาแข็งทื่อ เธอรีบคุกเข่าลงกับพื้นแล้วพูดว่า: “คุณชาย ถ้าคุณอยากฆ่าฉัน คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำมันเอง”

ฮั่นจิ่วเถียนก็โบกมือแล้วถอนหายใจขึ้นมา: “สำหรับฉันแล้ว ฉันทำมันไม่ได้”

หลังจากนั้นฮั่นจิ่วเถียนก็ยิ้มอย่างอบอุ่นแล้วพูดว่า: “มีเรื่องอะไรถึงเข้ามาหาฉัน”

เสี่ยวหยารีบลุกขึ้นจากพื้น เธอยื่นโทรศัพท์ให้กับฮั่นจิ่วเถียน

เนื้อหาบนโทรศัพท์เป็นเรื่องเกี่ยวกับฉินเฉิง

“ชายหนุ่มคนนี้ชื่อฉินเฉิง เร็วๆมานี้เค้ากำลังได้รับความนิยมอย่างมากในโลกของศิลปะการต่อสู้” เสี่ยวหยาก็พูดขึ้นมา

ฮั่นจิ่วเถียนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นที่แปดที่เอาชนะ จอมยุทธ์ได้นั้น มันช่างเป็นพรสวรรค์ที่หาได้ยากจริงๆ ฉันว่าเค้าอาจจะไม่แพ้ซูหยู่ ฉันคิดว่าฉินเฉิงคนนี้จะได้กลายเป็นผู้นำของคนรุ่นใหม่”

เสี่ยวหยายิ้มแล้วพูดว่า: “ถ้าอย่างนั้นเค้าไม่น่าจะดีไปกว่าคุณชายเลย! คุณชายสามารถฆ่าเสื้อได้ด้วยมือเปล่าตั้งแต่ตอนอายุหกขวบ พออายุได้แปดขวบก็ฆ่าจอมยุทธ์ได้ ฉินเฉิงคนนี้เทียบอะไรไม่ได้เลย?”

ฮั่นจิ่วเถียนหัวเราะ เค้าไม่ปฏิเสธอะไร

“ต้องรอดูกันต่อไป” ฮั่นจิ่วเถียนก็เอามือไขว้หลัง “ฉันเองก็ตั้งตารอที่จะได้เห็นฉินเฉิงเติบโตขึ้น”

ที่สมาคมศิลปะการต่อสู้เมืองจิงตู

ที่นี่มีห้องขังพิเศษสำหรับนักศิลปะการต่อสู้ที่ทำผิด

ในส่วนที่ลึกที่สุดของห้องขัง ว่ากันว่าชายผู้มีพลังอำนาจถูกคุมขังไว้ที่นี่

แน่นอนว่านี่เป็นตำนานมาโดยตลอดเพราะว่าสถานที่แห่งนี้มันถูกปิดตาย ไม่ว่าใครก็ตามไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้เลย

“ท่านอาจารย์โจว” สมาชิกสองคนของสมาคมศิลปะการต่อสู้เมืองจิงตูก็โค้งคำนับแล้วพูดขึ้นมา

โจวติ่งเหลือบมองเค้าแล้วพูดว่า: “กุญแจห้องซูเป่ย เอามาให้ฉัน”

“นี่…” ผู้ถูกคุมขังทั้งสองมองหน้ากัน พวกเค้าทำอะไรไม่ถูก

“ทำไม อาจารย์โจวสั่งพวกแกไม่ได้อย่างงั้นเหรอ?” ซูหยู่ที่อยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมาอย่างเฉยชา “จะต้องให้โทรหาผู้คุมหรือประธานสมาคมก่อนเหรอ?”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ทั้งสองก็รีบโค้งคำนับแล้วพูดว่า: “ไม่ครับ ไม่ อาจารย์โจว คุณชายซู ผมจะไปหามาเดี๋ยวนี้แหละครับ”

จากนั้นไม่นาน กุญแจก็ถูกส่งให้กับพวกเค้า

โจวติ่งก้าวข้างหน้า ซูหยู่ก็เดินตามเค้าเข้าไป

“อาจารย์ ท่านคิดว่าตำนานนี่มันเป็นเรื่องจริงอย่างงั้นเหรอ?” ในตอนที่เดินเข้าไปในห้องขังของซูเป่ย ซูหยู่ก็ถามขึ้นมาแล้วมองลึกเข้าไปในคุก

โจวติ่งส่ายหัวแล้วพูดว่า: “ไม่มีใครรู้ แม้แต่ฉัน ฉันก็ไม่มีอำนาจพอที่จะเข้าถึงมัน”

“อาจารย์เองก็ไม่รู้เหรอครับ?” ซูหยู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจขึ้นมาเล็กน้อย

โจวติ่งก็พูดขึ้นมาว่า: “ว่ากันว่าคนๆนี้เป็นคนเดียวในโลกที่สามารถต่อสู้กับกองกำลังสมัยใหม่ได้ ในตอนนั้นเค้าได้กำจัดสงครามมามากมายหลายครั้ง ความแข็งแกร่งของเค้ามันน่าสะพรึงกลัว มันยากที่จะจินตนาการได้”

ซูหยู่ยิ้มแล้วพูดว่า: “ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันจะไปมีคนแบบนี้อยู่บนโลกนี้ได้ยังไงกัน? ต่อให้เป็นปรมาจารย์ระดับหัวจิง เค้าก็ทำไม่ได้ใช่ไหม?”

โจวติ่งส่ายหัวแล้วก็ไม่พูดอะไร

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเค้าก็เดินไปถึงที่ประตูห้องขังของซูเป่ย

หลังจากที่ประตูถูกเปิดออก ในตอนนี้เองซูหยู่ก็โกรธจัดขึ้นมา

ในห้องขังนี้ ซูเป่ยไม่เพียงไม่ได้รับการลงโทษเลยแม้แต่น้อย แต่เค้ายังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอีกด้วย

ในตอนนี้เอง ซูเป่ยก็กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ เค้ากำลังจ้องมองไปที่กระดานหมากรุก

“ใครเป็นคนจัดการเรื่องนี้!” ซูหยู่โกรธจัด เค้ารีบเดินตรงเข้าไปที่ซูเป่ยแล้วเตะโต๊ะและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “กูยังไม่ตาย มึงจะมากินอยู่อย่างมีความสุขได้ยังไงกัน!”

สีหน้าของซูเป่ยไม่ได้มีความตื่นตระหนกอะไรเลย ใบหน้าของเค้ากลับดูไม่แยแสอะไร

เมื่อเห็นแบบนี้ ซูหยู่ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น เค้าเตะซูเป่ย จากนั้นก็ชกเข้าไปอีกที

หลังจากนั้นไม่นาน ซูเป่ยก็ถูกตบตีจนเต็มไปด้วยเลือด

ชายชราวัยแปดสิบปีที่กำลังโดนกระทำอยู่แบบนี้ มันก็ทำให้คนที่มาพบเจอต่างก็ต้องรู้สึกแย่

“ไอ่แก่ ถ้าคุณไม่ส่งมันมาให้ฉัน ฉันจะฆ่าแกซะ!” ซูหยู่กัดฟันของเค้าแล้วพูดว่า “ฉันจะทรมาณแกจนตาย!”

ซูเป่ยไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร แต่เค้ากลับหัวเราะเสียงดังขึ้นมา

“ไอ่แก่ แกหัวเราะอะไร!” ซูหยู่พูดด้วยความโกรธ

“ปู่ของเธอก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันเลยแล้วทำไมฉันจะต้องมากลัวเด็กรุ่นหลานอย่างเธอกันด้วย?”

น้ำเสียงของซูเป่ยดูอ่อนแอ แต่พลังของเค้ามันก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย

ซูหยู่ตบหน้าซูเป่ยแล้วเยาะเย้ยและพูดอย่างเย้ยหยันว่า: “ถ้าปู่ของฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแก ในตอนนั้นเค้าจะขับไล่แกออกไปจากเมืองจิงตูได้ยังไงกัน? พูดสิ พูด!”

ซูหยู่ยังคงใช้เท้าเหยียบไปที่หัวของนายท่านซูอย่างต่อเนื่อง เค้ามันใจว่าการทำแบบนี้มันจะไม่ทำให้ชายชราซูตาย แต่มันจะทำให้รู้สึกเจ็บปวด

ชายชราซูไม่พูดอะไรสักคำ เค้าดูไม่เจ็บปวดอะไรเลย

“เอาล่ะ แกจะไม่พูดใช่ไหม” ซูหยู่ก็หัวเราะเยาะเย้ย “เหลือเวลาอีกแค่สามเดือน มันก็จะเป็นวันที่ฉันกับฉินเฉิงนัดกันไว้ เดี๋ยวฉันจะให้แกดูว่าฉันจะฆ่ามันยังไง! โอ้ ใช่แล้วก็ยังมีหลานสาวของแก ซู่วาน ฉันอยากให้แกเห็นมันด้วยตาของแกเองว่าฉันจะจัดการกับเธอยังไง!”

“ปล่อยเค้า” โจวติ่งโบกมือขึ้นมา

เค้าเดินไปข้างหน้าชายชราซูแล้วก้มลงพูดว่า: “นายท่านคุณซู ตอนนั้นชื่อคุณดังสนั่นมากและคุณก็ยังเป็นไอดอลของฉัน”

ชายชราซูเงียบ เค้าหลับตาลง

โจวตื่งไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร เค้าพูดต่อไปว่า: “ด้วยความสามารถของแก แกสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ตามที่แกต้องการ ทำไมจะต้องมาทนทุกข์อยู่ที่นี่? หัวหน้าตระกูลซูเองก็ยังเป็นพี่น้องกับแกหนิ”

ซูเป่ยยังคงไม่พูดอะไร

โจวติ่งถอนหายใจแล้วพูดว่า: “ฉันจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง ตราบใดที่แกส่งมันมาให้ฉัน ตระกูลซูจะไม่ถือว่าแกเป็นศัตรูอีก แล้วก็ยังจะรับแกกลับเข้าสู่เมืองจิงตูด้วย คิดว่ายังไง?”

ในตอนนี้เอง ในที่สุดนายท่านซูก็ลืมตาขึ้นมา

เค้าอ้าปากขึ้นมาราวกับว่ากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง

เมื่อแบบนี้ โจวติ่งก็รีบยื่นหน้าเข้าไป

แต่เมื่อเค้ายื่นหน้าเข้าไปใกล้ซูเป่ย ซูเป่ยก็ถ่มน้ำลายใส่หน้าโจวติ่ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม 278 สถานการณ์ในตอนนี้ของนายท่านซู

Now you are reading ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม Chapter 278 สถานการณ์ในตอนนี้ของนายท่านซู at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมืองจิงตู ที่บ้านตระกูลฮั่น

ชายหนุ่มรูปงามกำลังเอนกายอยู่บนเก้าอี้โยก

ในมือของเค้าก็มีนกแก้วขาวอยู่ตัวหนึ่ง มันพูดไม่หยุด

ในสายตาของชายหนุ่มคนนี้ก็เต็มไปด้วยความรักใคร่และเอ็นดู

“พัฟ!”

ในตอนนี้เอง มือของชายหนุ่มก็บีบเข้าไปที่คอของนกแก้วขาวตัวนั้นโดยตรง

ในตอนแรกเค้าก็ดูเต็มไปด้วยความรักและเอ็นดู แต่ต่อมาเค้าก็ฆ่ามัน นี่มันน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก

และดูเหมือนว่าคนที่อยู่รอบข้างเค้าจะคุ้นเคยกับมันแล้ว ไม่มีใครหันไปสนใจอะไรกับมันเลย

ชายหนุ่มคนนี้คือคนที่มีพรสวรรค์ของตระกูลฮั่น ฮั่นจิ่วเถียน เค้าเป็นจอมยุทธ์ที่มีระดับขั้นอยู่เหนือกว่าซูหยู่

“คุณชาย” ในตอนนี้เอง สาวใช้ที่ดูราวกับนางฟ้าก็เดินเข้ามา

เธอเหลือบมองไปที่เลือดที่นองอยู่ในมือของฮั่นจิ่วเถียน จากนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมาว่า: “คุณชายค่ะ นี่มันเป็นสัตว์เลี้ยงตัวที่ห้าที่คุณฆ่ามัน”

แววตาของฮั่นจิ่วเถียน มันดูราวกับน้ำ มันทั้งอ่อนโยนและน่ากลัว

เค้าถอนหายใจออกมา: “พ่อฉันบอกว่าเมื่อเกิดในตระกูลใหญ่ ใจต้องแข็งกว่าก้อนหิน ไม่อย่างงั้นก็จะตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อ”

“เสี่ยวหยา เธอว่าตอนนี้ฉันทำได้แล้วยัง?” ฮันจิ่วเถียนเงยหน้าขึ้นมา เค้ามองไปที่สาวใช้

เสี่ยวหยาส่ายหัวแล้วพูดว่า: “ฉันไม่รู้ แต่ไม่ว่าจะยังไงฉันก็จะสนับสนุนการตัดสินใจของคุณชาย”

ฮั่นจิ่วเถียนก็กระซิบขึ้นมาว่า: “ฉันยังทำไม่ได้เลย เสี่ยวหยา เธอรู้ไหมว่าทำไมกัน?”

เสียวหยายังคงส่ายหัวแล้วพูดว่า: “คุณชาย ฉันเป็นแค่สาวใช้เท่านั้น ฉันจะไปรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน”

“มันต้องบอกว่าฉันยังห่างอยู่อีกไกล” ฮั่นจิ่วเถียนก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้โยก “รู้ไหมว่าทำไม?”

เสี่ยวหยายังคงส่ายหัว

มันมีแสงเย็นวาบในแววตาของฮั่นจิ่วเถียน

เค้าถอนหายใจแล้วพูดว่า: “เพราะเธอยังมีชีวิตอยู่ไง”

เสี่ยวหยาแข็งทื่อ เธอรีบคุกเข่าลงกับพื้นแล้วพูดว่า: “คุณชาย ถ้าคุณอยากฆ่าฉัน คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำมันเอง”

ฮั่นจิ่วเถียนก็โบกมือแล้วถอนหายใจขึ้นมา: “สำหรับฉันแล้ว ฉันทำมันไม่ได้”

หลังจากนั้นฮั่นจิ่วเถียนก็ยิ้มอย่างอบอุ่นแล้วพูดว่า: “มีเรื่องอะไรถึงเข้ามาหาฉัน”

เสี่ยวหยารีบลุกขึ้นจากพื้น เธอยื่นโทรศัพท์ให้กับฮั่นจิ่วเถียน

เนื้อหาบนโทรศัพท์เป็นเรื่องเกี่ยวกับฉินเฉิง

“ชายหนุ่มคนนี้ชื่อฉินเฉิง เร็วๆมานี้เค้ากำลังได้รับความนิยมอย่างมากในโลกของศิลปะการต่อสู้” เสี่ยวหยาก็พูดขึ้นมา

ฮั่นจิ่วเถียนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นที่แปดที่เอาชนะ จอมยุทธ์ได้นั้น มันช่างเป็นพรสวรรค์ที่หาได้ยากจริงๆ ฉันว่าเค้าอาจจะไม่แพ้ซูหยู่ ฉันคิดว่าฉินเฉิงคนนี้จะได้กลายเป็นผู้นำของคนรุ่นใหม่”

เสี่ยวหยายิ้มแล้วพูดว่า: “ถ้าอย่างนั้นเค้าไม่น่าจะดีไปกว่าคุณชายเลย! คุณชายสามารถฆ่าเสื้อได้ด้วยมือเปล่าตั้งแต่ตอนอายุหกขวบ พออายุได้แปดขวบก็ฆ่าจอมยุทธ์ได้ ฉินเฉิงคนนี้เทียบอะไรไม่ได้เลย?”

ฮั่นจิ่วเถียนหัวเราะ เค้าไม่ปฏิเสธอะไร

“ต้องรอดูกันต่อไป” ฮั่นจิ่วเถียนก็เอามือไขว้หลัง “ฉันเองก็ตั้งตารอที่จะได้เห็นฉินเฉิงเติบโตขึ้น”

ที่สมาคมศิลปะการต่อสู้เมืองจิงตู

ที่นี่มีห้องขังพิเศษสำหรับนักศิลปะการต่อสู้ที่ทำผิด

ในส่วนที่ลึกที่สุดของห้องขัง ว่ากันว่าชายผู้มีพลังอำนาจถูกคุมขังไว้ที่นี่

แน่นอนว่านี่เป็นตำนานมาโดยตลอดเพราะว่าสถานที่แห่งนี้มันถูกปิดตาย ไม่ว่าใครก็ตามไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้เลย

“ท่านอาจารย์โจว” สมาชิกสองคนของสมาคมศิลปะการต่อสู้เมืองจิงตูก็โค้งคำนับแล้วพูดขึ้นมา

โจวติ่งเหลือบมองเค้าแล้วพูดว่า: “กุญแจห้องซูเป่ย เอามาให้ฉัน”

“นี่…” ผู้ถูกคุมขังทั้งสองมองหน้ากัน พวกเค้าทำอะไรไม่ถูก

“ทำไม อาจารย์โจวสั่งพวกแกไม่ได้อย่างงั้นเหรอ?” ซูหยู่ที่อยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมาอย่างเฉยชา “จะต้องให้โทรหาผู้คุมหรือประธานสมาคมก่อนเหรอ?”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ทั้งสองก็รีบโค้งคำนับแล้วพูดว่า: “ไม่ครับ ไม่ อาจารย์โจว คุณชายซู ผมจะไปหามาเดี๋ยวนี้แหละครับ”

จากนั้นไม่นาน กุญแจก็ถูกส่งให้กับพวกเค้า

โจวติ่งก้าวข้างหน้า ซูหยู่ก็เดินตามเค้าเข้าไป

“อาจารย์ ท่านคิดว่าตำนานนี่มันเป็นเรื่องจริงอย่างงั้นเหรอ?” ในตอนที่เดินเข้าไปในห้องขังของซูเป่ย ซูหยู่ก็ถามขึ้นมาแล้วมองลึกเข้าไปในคุก

โจวติ่งส่ายหัวแล้วพูดว่า: “ไม่มีใครรู้ แม้แต่ฉัน ฉันก็ไม่มีอำนาจพอที่จะเข้าถึงมัน”

“อาจารย์เองก็ไม่รู้เหรอครับ?” ซูหยู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจขึ้นมาเล็กน้อย

โจวติ่งก็พูดขึ้นมาว่า: “ว่ากันว่าคนๆนี้เป็นคนเดียวในโลกที่สามารถต่อสู้กับกองกำลังสมัยใหม่ได้ ในตอนนั้นเค้าได้กำจัดสงครามมามากมายหลายครั้ง ความแข็งแกร่งของเค้ามันน่าสะพรึงกลัว มันยากที่จะจินตนาการได้”

ซูหยู่ยิ้มแล้วพูดว่า: “ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันจะไปมีคนแบบนี้อยู่บนโลกนี้ได้ยังไงกัน? ต่อให้เป็นปรมาจารย์ระดับหัวจิง เค้าก็ทำไม่ได้ใช่ไหม?”

โจวติ่งส่ายหัวแล้วก็ไม่พูดอะไร

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเค้าก็เดินไปถึงที่ประตูห้องขังของซูเป่ย

หลังจากที่ประตูถูกเปิดออก ในตอนนี้เองซูหยู่ก็โกรธจัดขึ้นมา

ในห้องขังนี้ ซูเป่ยไม่เพียงไม่ได้รับการลงโทษเลยแม้แต่น้อย แต่เค้ายังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอีกด้วย

ในตอนนี้เอง ซูเป่ยก็กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ เค้ากำลังจ้องมองไปที่กระดานหมากรุก

“ใครเป็นคนจัดการเรื่องนี้!” ซูหยู่โกรธจัด เค้ารีบเดินตรงเข้าไปที่ซูเป่ยแล้วเตะโต๊ะและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “กูยังไม่ตาย มึงจะมากินอยู่อย่างมีความสุขได้ยังไงกัน!”

สีหน้าของซูเป่ยไม่ได้มีความตื่นตระหนกอะไรเลย ใบหน้าของเค้ากลับดูไม่แยแสอะไร

เมื่อเห็นแบบนี้ ซูหยู่ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น เค้าเตะซูเป่ย จากนั้นก็ชกเข้าไปอีกที

หลังจากนั้นไม่นาน ซูเป่ยก็ถูกตบตีจนเต็มไปด้วยเลือด

ชายชราวัยแปดสิบปีที่กำลังโดนกระทำอยู่แบบนี้ มันก็ทำให้คนที่มาพบเจอต่างก็ต้องรู้สึกแย่

“ไอ่แก่ ถ้าคุณไม่ส่งมันมาให้ฉัน ฉันจะฆ่าแกซะ!” ซูหยู่กัดฟันของเค้าแล้วพูดว่า “ฉันจะทรมาณแกจนตาย!”

ซูเป่ยไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร แต่เค้ากลับหัวเราะเสียงดังขึ้นมา

“ไอ่แก่ แกหัวเราะอะไร!” ซูหยู่พูดด้วยความโกรธ

“ปู่ของเธอก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันเลยแล้วทำไมฉันจะต้องมากลัวเด็กรุ่นหลานอย่างเธอกันด้วย?”

น้ำเสียงของซูเป่ยดูอ่อนแอ แต่พลังของเค้ามันก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย

ซูหยู่ตบหน้าซูเป่ยแล้วเยาะเย้ยและพูดอย่างเย้ยหยันว่า: “ถ้าปู่ของฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแก ในตอนนั้นเค้าจะขับไล่แกออกไปจากเมืองจิงตูได้ยังไงกัน? พูดสิ พูด!”

ซูหยู่ยังคงใช้เท้าเหยียบไปที่หัวของนายท่านซูอย่างต่อเนื่อง เค้ามันใจว่าการทำแบบนี้มันจะไม่ทำให้ชายชราซูตาย แต่มันจะทำให้รู้สึกเจ็บปวด

ชายชราซูไม่พูดอะไรสักคำ เค้าดูไม่เจ็บปวดอะไรเลย

“เอาล่ะ แกจะไม่พูดใช่ไหม” ซูหยู่ก็หัวเราะเยาะเย้ย “เหลือเวลาอีกแค่สามเดือน มันก็จะเป็นวันที่ฉันกับฉินเฉิงนัดกันไว้ เดี๋ยวฉันจะให้แกดูว่าฉันจะฆ่ามันยังไง! โอ้ ใช่แล้วก็ยังมีหลานสาวของแก ซู่วาน ฉันอยากให้แกเห็นมันด้วยตาของแกเองว่าฉันจะจัดการกับเธอยังไง!”

“ปล่อยเค้า” โจวติ่งโบกมือขึ้นมา

เค้าเดินไปข้างหน้าชายชราซูแล้วก้มลงพูดว่า: “นายท่านคุณซู ตอนนั้นชื่อคุณดังสนั่นมากและคุณก็ยังเป็นไอดอลของฉัน”

ชายชราซูเงียบ เค้าหลับตาลง

โจวตื่งไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร เค้าพูดต่อไปว่า: “ด้วยความสามารถของแก แกสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ตามที่แกต้องการ ทำไมจะต้องมาทนทุกข์อยู่ที่นี่? หัวหน้าตระกูลซูเองก็ยังเป็นพี่น้องกับแกหนิ”

ซูเป่ยยังคงไม่พูดอะไร

โจวติ่งถอนหายใจแล้วพูดว่า: “ฉันจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง ตราบใดที่แกส่งมันมาให้ฉัน ตระกูลซูจะไม่ถือว่าแกเป็นศัตรูอีก แล้วก็ยังจะรับแกกลับเข้าสู่เมืองจิงตูด้วย คิดว่ายังไง?”

ในตอนนี้เอง ในที่สุดนายท่านซูก็ลืมตาขึ้นมา

เค้าอ้าปากขึ้นมาราวกับว่ากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง

เมื่อแบบนี้ โจวติ่งก็รีบยื่นหน้าเข้าไป

แต่เมื่อเค้ายื่นหน้าเข้าไปใกล้ซูเป่ย ซูเป่ยก็ถ่มน้ำลายใส่หน้าโจวติ่ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+