ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม 314 อย่าหลบ!

Now you are reading ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม Chapter 314 อย่าหลบ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ปี้เสี่ยวเหยาก็ไม่ตอบสนองอะไรกับเซี่ยอู่ เค้าเดินตรงเข้าไปในฝูงชนแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า: “ใครจะฝึกกับฉัน ก้าวออกมาข้างหน้า!”

สมาชิกในทีมมองหน้ากัน มันไม่มีใครลุกยืนขึ้นมาเลย

“ปี้เสี่ยวเหยา แกเห็นไหม มันไม่มีใครอยากเสียเวลากับแกเลย” เซี่ยอู่ก็เยาะเย้ยขึ้นมา

ปี้เสี่ยวเหยาก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย สีหน้าของเค้ามันก็ดูบูดบึ้งเป็นอย่างมาก

“หัวหน้าปี้ ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่อยากฝึกกับคุณนะ แต่วิธีการฝึกฝนนั้น… มันยากที่จะอธิบายจริงๆ”

“ใช่แล้วหัวหน้าปี้ ถ้าพวกเราสามารถเปลี่ยนวิธีการฝึกได้หรือย่นเวลาฝึกซะหน่อย พวกเราก็ยินดีที่จะฝึกกับคุณ!”

“ใช่!”

ทุกคนต่างก็ตะโกนขึ้นมา แต่ปี้เสี่ยวเหยาก็ยังคงไม่มีท่าทีอะไร

เค้าก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “ตอนนี้ฉันจะเรียกชื่อก็แล้วกัน!”

สีหน้าของทุกคนก็ดูน่าเกลียดมากขึ้น มันเห็นได้ชัดเลยว่าปี้เสี่ยวเหยาต้องการที่จะบังคับพวกเค้าอย่างจริงจัง

“หูหยู หลี่ชู สวียุน…” ปี้เสี่ยวเหยาเริ่มเรียกชื่อแล้วทุกคนต่างก็ลุกยืนขึ้นมา

ทั้งหมดสิบสี่คนถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม

ทุกคนที่ปี้เสี่ยวเหยาเรียกชื่อต่างก็รู้สึกเซ็ง พวกเค้าบ่นอย่างไม่รู้จบ

ส่วนคนที่ไม่ถูกเรียกออกมา พวกเค้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

“จากนี้ไป พวกนายจะต้องฝึกกับฉัน ส่วนคนอื่นๆก็ไปฝึกกับหัวหน้าเซี่ย!” ปี้เสี่ยวเหยาก็ตะโกนขึ้นมา

แม้ว่าคนทั้งเจ็ดคนนี้จะไม่เต็มใจ แต่พวกเค้าก็ต้องปฎิบัติตามคำสั่งของหัวหน้าสำนักงานความมั่นคง

“ปี้เสี่ยวเหยา แกนี่หยิ่งในศักดิ์ศรีจริงเลยนะ” เซี่ยอู่ก็เหลือบมองพวกเค้า เค้าเดินเข้ามาแล้วพูด

“เจ็ดคนที่แกเลือกไป ปรมาจารย์ซักคนก็ไม่มี มันสามารถพูดได้เลยว่าคนพวกนี้เป็นคนที่อ่อนแอที่สุดเจ็ดคน ทำไม แกต้องการที่จะพิสูจน์อย่างงั้นเหรอ?” เซี่ยอู่ก็เยาะเย้ยขึ้นมา

ปี้เสี่ยวเหยาเหลือบมองเค้าแล้วพูดว่า: “มันไม่ใช่เพราะว่าจะพิสูจน์ให้แกดู แต่เป็นเพราะว่าจะพิสูจน์ให้ผู้บัญชาการกั๋วดูต่างหาก”

หลังจากที่พูดจบ ปี้เสี่ยวเหยาก็วิ่งตาเค้าไป

ที่อีกด้านหนึ่ง ฉินเฉิงก็ยังคงปรุงยาอยู่

ยานี้มันก็ไม่ได้ยากอะไรมากสำหรับฉินเฉิง แต่มันก็มีความต้องการพลังงานทางจิตวิญญาณมาก ฉินเฉิงใช้เวลาสามวันกว่าจะปรุงยารวมชีพจรทั้งสิบสี่เม็ดเสร็จ

“ด้วยยารวมชีพจนทั้งสิบสี่เม็ดนี้เอง มันก็เพียงพอสำหรับสมาชิกในทีมทุกคนที่จะก้าวเข้าสู่ระดับขั้นของปรมาจารย์ ควบคู่ไปกับการฝึกร่างกายแบบนี้ การจะได้ที่หนึ่งมา มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร” ฉินเฉิงเช็ดเหงื่อของเค้า เค้าพูดขึ้นมาอย่างพึงพอใจ . .

เค้าคำนวนเวลาแล้วพูดว่า: “ใกล้จะเสร็จแล้ว วันนี้ก็พักผ่อนก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายของการฝึกซ้อม ค่อยเอายาไปให้ก็แล้วกัน”

การปรุงยานี้มันทำให้ความแข็งแกร่งของฉินเฉิงลดลง ทันทีที่ฉินเฉิงหัวถึงเตียง เค้าก็หลับปุ๋ยไปในทันที

เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว มันก็เป็นบ่ายสามของวันที่สามแล้ว

แผนการฝึกเดิมทีมันก็คือการฝึกสามวัน

แม้ว่าการฝึกร่างกายมันจะเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่คนเหล่านี้ก็ยังคงกัดฟันอย่างพากเพียร

“ฮ่าฮ่า ปี้เสี่ยวเหยา นี่ดูเหมือนจะเป็นวันสุดท้ายแล้ว ใช่ไหมนะ?” เซี่ยอู่ก้าวเข้ามาแล้วพูดจาเย้ยหยัน

ปี้เสี่ยวเหยาไม่สนใจเค้าแล้วตะโกนบอกสมาชิกในทีมว่า: “เหลือเวลาอีกสองชั่วโมง ฝึกต่อไปอย่าหยุด!”

“ฝึกต่อไปมันจะไปมีประโยชน์อะไรกัน? สามวันแล้ว ฉันไม่เห็นว่ามันจะมีผลอะไรเลย” เซี่ยอู่ก็เยาะเย้ยอยู่ที่ด้านข้าง “หลังจากสองชั่วโมงนี่มันจะเป็นไปได้ไหมที่จะมีการเปลี่ยนแปลง?”

ทันทีที่เค้าพูดจบ ทุกคนที่อยู่ฝั่งเซี่ยอู่ต่างก็หัวเราะกันขึ้นมา

ภายในสามวัน ในจุดที่มองไม่เห็น ร่างกายของพวกเค้าก็แข็งแกร่งขึ้นมาแล้วสองสามขั้น

แม้ว่ามันจะเทียบไม่ได้เลยกับการฝึกแบบเหิง แต่คนอื่นๆก็เทียบอะไรไม่ได้เลยกับพวกเค้า

เวลาสองชั่วโมงผ่านไป ทันใดเองนั้นสมาชิกในทีมทั้งเจ็ดก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก พวกเค้าทรุดตัวลงกับพื้นด้วยท่าทีที่ผ่อนคลาย

“มันจบแล้ว” เซี่ยอู่เดินเข้าไปพร้อมกับสมาชิกในทีมของเค้า “เป็นยังไงบ้าง มันมีผลอะไรบ้างไหม?”

ปี้เสี่ยวเหยาก็ไม่สนใจเค้าเลย เค้าตะโกนว่า: “สวียุน ออกมา!”

“ครับ!”

สวียุนก็รีบลุกขึ้นจากพื้นแล้วก้าวออกไป

สวียุนสูงกว่า 1.85 เมตร แต่เค้ากลับผอมมาก เค้าแทบจะเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในทีมฝึกวันนี้

“สวียุน ตอนนี้ฉันให้นายประลองกับสมาชิกของทีมโค้ชเซี่ยในนามของทีมของเรา นายติดอะไรไหม!” ปี้เสี่ยวเหยาก็ตะโกนขึ้นมา

“ตอบกลับโค้ช ไม่มีปัญหาครับ!” สวียุนตะโกนขึ้นมา

“ดี” ปี้เสี่ยวเหยาพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

เซี่ยวอู่ก็อดหัวเราะไม่ได้: “ปี้เสี่ยวเหยา แกบ้าไปแล้วเหรอ ให้สวียุนออกมาท้าทายสมาชิกในทีมของฉัน? สวียุนในใจเธอน่าจะรู้ดีอยู่แล้วนะ?”

“เลิกพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว” ปี้เสี่ยวเหยาพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา

เซี่ยอู่ก็พยักหน้าแล้วพูดว่า: “เธอคงจะไม่ได้คิดที่จะเอาหัวตัวเองวิ่งชนกำแพงใช่ไหม”

จากนั้น เซี่ยอู่ก็หันกลับมาแล้วตะโกนว่า: “ใครอยากสู้กับสวียุน?”

“ผมครับ ผมเอง!”

“หัวหน้า ให้ผมเถอะ ผมจะทำให้เค้าล้มลงด้วยหมัดเพียงแค่หมัดเดียวเท่านั้น!”

“หัวหน้า…”

เซี่ยอู่ก็โบกมือของเค้าขึ้นมา เค้าเอานิ้วใชี้ไปที่ลูกทีมแล้วพูดว่า: “เหยเชียง นายหละกัน”

เฮยเชียงก็ขยี้กำปั้นแล้วก้าวออกมาในทันที

สีหน้าของคนที่อยู่ฝั่งปี้เสี่ยวเหยาก็เปลี่ยนไปในทันที เฮยเชียงสูงกว่า 1.9 เมตร เค้าแข็งแกร่งราวกับหอคอยเหล็ก แม้ว่าเค้าจะไม่ใช่ปรมาจารย์ แต่เค้าก็พอจะเทียบได้กับปรมาจารย์

การต่อสู้ของสวียุนกับเฮยเชียงก็มีแค่ความตายเท่านั้น!

“ตอนนี้ก็มีอะไรสนุกๆให้ดูแล้วสิ”

“นายเดาได้ไหมว่าสวียุนจะต้านหมัดได้กี่หมัด?”

“กี่หมัด? ฉันเดาว่าหมัดเดียวมันก็สามารถล้มเค้าได้แล้ว?”

สีหน้าของสวียุนก็ดูไม่ได้เลย เค้าเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะต้องมาสู้กับเฮยเชียง

“สวียุน มีความมั่นใจที่จะเอาชนะเค้าไหม!” ปี้เสี่ยวเหยาก็ถามขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เย็นชา

“มี!” สวียุนก็เห็นด้วย

“เสียงไม่ดังเลย!” ปี้เสี่ยวเหยาตะโกนอย่างโกรธเคือง

สวียุนก็กัดฟันแล้วตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวัง: “มีครับ!!”

“เอาหละ” ปี้เสี่ยวเหยาก็ก้าวถอยหลัง “งั้นเราก็มาเริ่มกันเลย”

สวียุนก้าวไปข้างหน้า เค้ากำหมัดแล้วมองไปยังเฮยเชียงอย่างกล้าๆกลัวๆ

เฮยเชียงก็เยาะเย้ยแล้วพูดว่า: “สวียุน อย่าหาว่าฉันรังแกนายเลยนะ”

ทันทีที่เค้าพูดจบ เฮยเชียงก็ลงมือก่อน!

เค้าเป็นเหมือนกับเนินเขาที่กำลังเคลื่อนตัว กำปั้นขนาดใหญ่ของเค้ากระแทกเข้าไปที่หัวของสวียุนอย่างดุเดือด!

สวียุนเคลื่อนไหวแล้วหลบหลีกไปอย่างง่ายดาย

เฮยเชียงล้มเหลวในการจับสวียุนด้วยหมัดหลายครั้ง นี่มันก็ทำให้เค้าอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก

“สวียุน แกจะเอาแต่หลบอย่างงั้นเหรอ!” เฮยเชียงก็ตะโกนขึ้นมา

“หึหึ เฮยเชียง ตัวแกใหญ่ขนาดนี้ ใครจะไปกล้าชกแก” คนข้างๆก็หัวเราะกันขึ้นมา

ในตอนนี้เอง ปี้เสี่ยวเหยาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมา: “สวียุน ตอนนี้ฉันไม่อนุญาตให้นายหลบ! เผชิญหน้ากับเค้าซะ!”

สีหน้าของสวียุนซีดลงในทันที เค้ามองไปที่ปี้เสี่ยวเหยาด้วยแววตาที่กลัวเล็กน้อย

“เมื่อทหารไปสนามรบ เค้าจะต้องไม่กลัวความตาย นายจะมากลัวเจ็บอะไรกัน!” ปี้เสี่ยวเหยาพูดอย่างโกรธจัด

สวียุนกัดฟัน เค้ายืดอกขึ้นมาแล้วตะโกนว่า: “อย่ากลัว!”

“ปี้เสี่ยวเหยา แกมันบ้าไปแล้ว” เซี่ยอู่ก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา

ปี้เสี่ยวเหยาไม่สนใจเค้าเลย สายตาของปี้เสี่ยวเหยายังคงจับจ้องที่สวียุน

ในตอนนี้เอง เฮยเชียงก็กำหมัดของเค้าแล้ววิ่งกระโจนเข้ามา!

สวียุนกัดฟันของตัวเองแล้วจิกหนังหัว ด้วยความแข็งแกร่ง ในเวลาเดียวกันนี้เอง เค้าก็ยกหมัดขึ้นเพื่อทักทาย!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม 314 อย่าหลบ!

Now you are reading ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม Chapter 314 อย่าหลบ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ปี้เสี่ยวเหยาก็ไม่ตอบสนองอะไรกับเซี่ยอู่ เค้าเดินตรงเข้าไปในฝูงชนแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า: “ใครจะฝึกกับฉัน ก้าวออกมาข้างหน้า!”

สมาชิกในทีมมองหน้ากัน มันไม่มีใครลุกยืนขึ้นมาเลย

“ปี้เสี่ยวเหยา แกเห็นไหม มันไม่มีใครอยากเสียเวลากับแกเลย” เซี่ยอู่ก็เยาะเย้ยขึ้นมา

ปี้เสี่ยวเหยาก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย สีหน้าของเค้ามันก็ดูบูดบึ้งเป็นอย่างมาก

“หัวหน้าปี้ ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่อยากฝึกกับคุณนะ แต่วิธีการฝึกฝนนั้น… มันยากที่จะอธิบายจริงๆ”

“ใช่แล้วหัวหน้าปี้ ถ้าพวกเราสามารถเปลี่ยนวิธีการฝึกได้หรือย่นเวลาฝึกซะหน่อย พวกเราก็ยินดีที่จะฝึกกับคุณ!”

“ใช่!”

ทุกคนต่างก็ตะโกนขึ้นมา แต่ปี้เสี่ยวเหยาก็ยังคงไม่มีท่าทีอะไร

เค้าก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “ตอนนี้ฉันจะเรียกชื่อก็แล้วกัน!”

สีหน้าของทุกคนก็ดูน่าเกลียดมากขึ้น มันเห็นได้ชัดเลยว่าปี้เสี่ยวเหยาต้องการที่จะบังคับพวกเค้าอย่างจริงจัง

“หูหยู หลี่ชู สวียุน…” ปี้เสี่ยวเหยาเริ่มเรียกชื่อแล้วทุกคนต่างก็ลุกยืนขึ้นมา

ทั้งหมดสิบสี่คนถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม

ทุกคนที่ปี้เสี่ยวเหยาเรียกชื่อต่างก็รู้สึกเซ็ง พวกเค้าบ่นอย่างไม่รู้จบ

ส่วนคนที่ไม่ถูกเรียกออกมา พวกเค้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

“จากนี้ไป พวกนายจะต้องฝึกกับฉัน ส่วนคนอื่นๆก็ไปฝึกกับหัวหน้าเซี่ย!” ปี้เสี่ยวเหยาก็ตะโกนขึ้นมา

แม้ว่าคนทั้งเจ็ดคนนี้จะไม่เต็มใจ แต่พวกเค้าก็ต้องปฎิบัติตามคำสั่งของหัวหน้าสำนักงานความมั่นคง

“ปี้เสี่ยวเหยา แกนี่หยิ่งในศักดิ์ศรีจริงเลยนะ” เซี่ยอู่ก็เหลือบมองพวกเค้า เค้าเดินเข้ามาแล้วพูด

“เจ็ดคนที่แกเลือกไป ปรมาจารย์ซักคนก็ไม่มี มันสามารถพูดได้เลยว่าคนพวกนี้เป็นคนที่อ่อนแอที่สุดเจ็ดคน ทำไม แกต้องการที่จะพิสูจน์อย่างงั้นเหรอ?” เซี่ยอู่ก็เยาะเย้ยขึ้นมา

ปี้เสี่ยวเหยาเหลือบมองเค้าแล้วพูดว่า: “มันไม่ใช่เพราะว่าจะพิสูจน์ให้แกดู แต่เป็นเพราะว่าจะพิสูจน์ให้ผู้บัญชาการกั๋วดูต่างหาก”

หลังจากที่พูดจบ ปี้เสี่ยวเหยาก็วิ่งตาเค้าไป

ที่อีกด้านหนึ่ง ฉินเฉิงก็ยังคงปรุงยาอยู่

ยานี้มันก็ไม่ได้ยากอะไรมากสำหรับฉินเฉิง แต่มันก็มีความต้องการพลังงานทางจิตวิญญาณมาก ฉินเฉิงใช้เวลาสามวันกว่าจะปรุงยารวมชีพจรทั้งสิบสี่เม็ดเสร็จ

“ด้วยยารวมชีพจนทั้งสิบสี่เม็ดนี้เอง มันก็เพียงพอสำหรับสมาชิกในทีมทุกคนที่จะก้าวเข้าสู่ระดับขั้นของปรมาจารย์ ควบคู่ไปกับการฝึกร่างกายแบบนี้ การจะได้ที่หนึ่งมา มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร” ฉินเฉิงเช็ดเหงื่อของเค้า เค้าพูดขึ้นมาอย่างพึงพอใจ . .

เค้าคำนวนเวลาแล้วพูดว่า: “ใกล้จะเสร็จแล้ว วันนี้ก็พักผ่อนก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายของการฝึกซ้อม ค่อยเอายาไปให้ก็แล้วกัน”

การปรุงยานี้มันทำให้ความแข็งแกร่งของฉินเฉิงลดลง ทันทีที่ฉินเฉิงหัวถึงเตียง เค้าก็หลับปุ๋ยไปในทันที

เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว มันก็เป็นบ่ายสามของวันที่สามแล้ว

แผนการฝึกเดิมทีมันก็คือการฝึกสามวัน

แม้ว่าการฝึกร่างกายมันจะเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่คนเหล่านี้ก็ยังคงกัดฟันอย่างพากเพียร

“ฮ่าฮ่า ปี้เสี่ยวเหยา นี่ดูเหมือนจะเป็นวันสุดท้ายแล้ว ใช่ไหมนะ?” เซี่ยอู่ก้าวเข้ามาแล้วพูดจาเย้ยหยัน

ปี้เสี่ยวเหยาไม่สนใจเค้าแล้วตะโกนบอกสมาชิกในทีมว่า: “เหลือเวลาอีกสองชั่วโมง ฝึกต่อไปอย่าหยุด!”

“ฝึกต่อไปมันจะไปมีประโยชน์อะไรกัน? สามวันแล้ว ฉันไม่เห็นว่ามันจะมีผลอะไรเลย” เซี่ยอู่ก็เยาะเย้ยอยู่ที่ด้านข้าง “หลังจากสองชั่วโมงนี่มันจะเป็นไปได้ไหมที่จะมีการเปลี่ยนแปลง?”

ทันทีที่เค้าพูดจบ ทุกคนที่อยู่ฝั่งเซี่ยอู่ต่างก็หัวเราะกันขึ้นมา

ภายในสามวัน ในจุดที่มองไม่เห็น ร่างกายของพวกเค้าก็แข็งแกร่งขึ้นมาแล้วสองสามขั้น

แม้ว่ามันจะเทียบไม่ได้เลยกับการฝึกแบบเหิง แต่คนอื่นๆก็เทียบอะไรไม่ได้เลยกับพวกเค้า

เวลาสองชั่วโมงผ่านไป ทันใดเองนั้นสมาชิกในทีมทั้งเจ็ดก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก พวกเค้าทรุดตัวลงกับพื้นด้วยท่าทีที่ผ่อนคลาย

“มันจบแล้ว” เซี่ยอู่เดินเข้าไปพร้อมกับสมาชิกในทีมของเค้า “เป็นยังไงบ้าง มันมีผลอะไรบ้างไหม?”

ปี้เสี่ยวเหยาก็ไม่สนใจเค้าเลย เค้าตะโกนว่า: “สวียุน ออกมา!”

“ครับ!”

สวียุนก็รีบลุกขึ้นจากพื้นแล้วก้าวออกไป

สวียุนสูงกว่า 1.85 เมตร แต่เค้ากลับผอมมาก เค้าแทบจะเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในทีมฝึกวันนี้

“สวียุน ตอนนี้ฉันให้นายประลองกับสมาชิกของทีมโค้ชเซี่ยในนามของทีมของเรา นายติดอะไรไหม!” ปี้เสี่ยวเหยาก็ตะโกนขึ้นมา

“ตอบกลับโค้ช ไม่มีปัญหาครับ!” สวียุนตะโกนขึ้นมา

“ดี” ปี้เสี่ยวเหยาพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

เซี่ยวอู่ก็อดหัวเราะไม่ได้: “ปี้เสี่ยวเหยา แกบ้าไปแล้วเหรอ ให้สวียุนออกมาท้าทายสมาชิกในทีมของฉัน? สวียุนในใจเธอน่าจะรู้ดีอยู่แล้วนะ?”

“เลิกพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว” ปี้เสี่ยวเหยาพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา

เซี่ยอู่ก็พยักหน้าแล้วพูดว่า: “เธอคงจะไม่ได้คิดที่จะเอาหัวตัวเองวิ่งชนกำแพงใช่ไหม”

จากนั้น เซี่ยอู่ก็หันกลับมาแล้วตะโกนว่า: “ใครอยากสู้กับสวียุน?”

“ผมครับ ผมเอง!”

“หัวหน้า ให้ผมเถอะ ผมจะทำให้เค้าล้มลงด้วยหมัดเพียงแค่หมัดเดียวเท่านั้น!”

“หัวหน้า…”

เซี่ยอู่ก็โบกมือของเค้าขึ้นมา เค้าเอานิ้วใชี้ไปที่ลูกทีมแล้วพูดว่า: “เหยเชียง นายหละกัน”

เฮยเชียงก็ขยี้กำปั้นแล้วก้าวออกมาในทันที

สีหน้าของคนที่อยู่ฝั่งปี้เสี่ยวเหยาก็เปลี่ยนไปในทันที เฮยเชียงสูงกว่า 1.9 เมตร เค้าแข็งแกร่งราวกับหอคอยเหล็ก แม้ว่าเค้าจะไม่ใช่ปรมาจารย์ แต่เค้าก็พอจะเทียบได้กับปรมาจารย์

การต่อสู้ของสวียุนกับเฮยเชียงก็มีแค่ความตายเท่านั้น!

“ตอนนี้ก็มีอะไรสนุกๆให้ดูแล้วสิ”

“นายเดาได้ไหมว่าสวียุนจะต้านหมัดได้กี่หมัด?”

“กี่หมัด? ฉันเดาว่าหมัดเดียวมันก็สามารถล้มเค้าได้แล้ว?”

สีหน้าของสวียุนก็ดูไม่ได้เลย เค้าเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะต้องมาสู้กับเฮยเชียง

“สวียุน มีความมั่นใจที่จะเอาชนะเค้าไหม!” ปี้เสี่ยวเหยาก็ถามขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เย็นชา

“มี!” สวียุนก็เห็นด้วย

“เสียงไม่ดังเลย!” ปี้เสี่ยวเหยาตะโกนอย่างโกรธเคือง

สวียุนก็กัดฟันแล้วตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวัง: “มีครับ!!”

“เอาหละ” ปี้เสี่ยวเหยาก็ก้าวถอยหลัง “งั้นเราก็มาเริ่มกันเลย”

สวียุนก้าวไปข้างหน้า เค้ากำหมัดแล้วมองไปยังเฮยเชียงอย่างกล้าๆกลัวๆ

เฮยเชียงก็เยาะเย้ยแล้วพูดว่า: “สวียุน อย่าหาว่าฉันรังแกนายเลยนะ”

ทันทีที่เค้าพูดจบ เฮยเชียงก็ลงมือก่อน!

เค้าเป็นเหมือนกับเนินเขาที่กำลังเคลื่อนตัว กำปั้นขนาดใหญ่ของเค้ากระแทกเข้าไปที่หัวของสวียุนอย่างดุเดือด!

สวียุนเคลื่อนไหวแล้วหลบหลีกไปอย่างง่ายดาย

เฮยเชียงล้มเหลวในการจับสวียุนด้วยหมัดหลายครั้ง นี่มันก็ทำให้เค้าอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก

“สวียุน แกจะเอาแต่หลบอย่างงั้นเหรอ!” เฮยเชียงก็ตะโกนขึ้นมา

“หึหึ เฮยเชียง ตัวแกใหญ่ขนาดนี้ ใครจะไปกล้าชกแก” คนข้างๆก็หัวเราะกันขึ้นมา

ในตอนนี้เอง ปี้เสี่ยวเหยาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมา: “สวียุน ตอนนี้ฉันไม่อนุญาตให้นายหลบ! เผชิญหน้ากับเค้าซะ!”

สีหน้าของสวียุนซีดลงในทันที เค้ามองไปที่ปี้เสี่ยวเหยาด้วยแววตาที่กลัวเล็กน้อย

“เมื่อทหารไปสนามรบ เค้าจะต้องไม่กลัวความตาย นายจะมากลัวเจ็บอะไรกัน!” ปี้เสี่ยวเหยาพูดอย่างโกรธจัด

สวียุนกัดฟัน เค้ายืดอกขึ้นมาแล้วตะโกนว่า: “อย่ากลัว!”

“ปี้เสี่ยวเหยา แกมันบ้าไปแล้ว” เซี่ยอู่ก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา

ปี้เสี่ยวเหยาไม่สนใจเค้าเลย สายตาของปี้เสี่ยวเหยายังคงจับจ้องที่สวียุน

ในตอนนี้เอง เฮยเชียงก็กำหมัดของเค้าแล้ววิ่งกระโจนเข้ามา!

สวียุนกัดฟันของตัวเองแล้วจิกหนังหัว ด้วยความแข็งแกร่ง ในเวลาเดียวกันนี้เอง เค้าก็ยกหมัดขึ้นเพื่อทักทาย!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+