ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม 438 ครึ่งขั้นของจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่

Now you are reading ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม Chapter 438 ครึ่งขั้นของจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คนอื่นๆต่างก็ยิ่งตกใจ เค้าสามารถปลดอาวุธด้วยการตบเพียงแย่างเดียว นี่เป็นลูกศิษย์อันดับหนึ่งของจงหยวนอย่างงั้นเหรอ?

ฉินเฉิงมองเฉียวเซิงอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า: “นายห้ามฉันไม่ได้หรอก ถ้านายไม่อยากตาย อย่าตามมา”

หลังจากที่พูดออกมาแบบนี้แล้ว ร่างของฉินเฉิงก็หายไปอย่างรวดเร็ว

หน้าอกของเฉียวเซิงกระเพื้อมขึ้นลง สีหน้าของเค้าดูไม่ได้เลย

ฝ่ามือที่ดูเหมือนกับการกระพือปีกนั้น มันมีพลังมหาศาล!

หรือว่าตัวเองจะเทียบฉินเฉิงไม่ได้เลย?

“ทุกคน รีบเข้าไปที่สุสานเร็ว” ในตอนนี้เองก็มีคนพูดขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม จู้เหยาก็ส่ายหัวเบาๆแล้วพูดว่า: “ไม่ต้องหรอก ฉันว่าหลุมฝังศพนี้มันว่างเปล่า”

หลังจากพูดออกมาแบบนี้แล้ว จู้เหยาก็หันหลังกลับแล้วจากไป

เซี่ยงเหม่ยเอ๋อถอนหายใจเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆขึ้นมาว่า: “ฉินเฉิง ที่แท้นายก็ไม่เป็นอะไร”

หลังจากนั้น เซียงเหม่ยเอ๋อก็ออกไปจากที่นี่เช่นกัน

มีบางคนที่ไม่เต็มใจที่จะจากไป พวกเค้าเดินเข้ามาในสุสานแห่งนี้

แต่น่าเสียดายที่ด้านในมันเป็นหลุมฝั่งศพที่ว่างเปล่าจริงๆ

คนส่วนใหญ่เดินเข้ามา แต่เฉียวเซิงยังคงยืนนิ่ง ที่หน้าผากของเค้ามันเต็มไปด้วยเหงื่อ

นี่เป็นครั้งแรกที่เค้ารู้สึกหวาดกลัวและตื่นตระหนก ความรู้สึกแบบนี้มันทำให้เค้าหายใจไม่ออกเล็กน้อย

“ไม่ มันจะเก็บฉินเฉิงไว้ในโลกนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว!” ความบ้าคลั่งก็แวบวาบเข้ามาในแววตาของฉินเฉิง

ในตอนนี้เอง ผู้คนจากสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูก็มาถึงที่เกิดเหตุ

แต่สิ่งที่ทำให้เฉียวเซิงประหลาดใจก็คือ คราวนี้มันมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่มา

“ฉินเฉิงหละ?” เค้าเดินเข้าไปหาเฉียวเซิงแล้วถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

เมื่อเห็นคนๆนี้แล้ว สีหน้าของเฉียวเซิงก็เปลี่ยนไปในทันที จากนั้นเค้าก็รีบพูดว่า: “สวัสดีครับท่านยู้!”

คนๆนี้ชื่อยู้หมัว เมื่อหลายปีก่อน เค้าก็มาถึงระดับขั้นของจอมยุทธ์ขั้นสุดยอด ในตอนนี้สถานะของเค้าก็สูงมาในโลกของศิลประการต่อสู้

เฉียวเซิงดีใจมาก เค้าคิดไม่ถึงเลยว่าสมาคมศิลปะการต่อสู้จะส่งยู้หมัวมาออกตามล่า!

“ฉันถาม มันหละ?” ยู้หมัวถามอย่างเย็นชา

“ตอบกลับท่านยู้ เค้า… เพิ่งหนีไปทางนั้น!” เฉียวเซิงชี้นิ้วออกไปแล้วพูดขึ้นมา

ยู้หมัวพึมพำเบาๆ จากนั้นเค้าก็เดินไป

“การที่ท่านยู้ลงมือด้วยตัวเอง ฉินเฉิง มันจะหนีรอดไปได้ยังไงกัน” เฉียวเซิงยิ้มเยาะเย้ย

หากไม่มีหวังที่จะก้าวแซงหน้ามันได้ อย่างงั้นก็มีแค่ทางเดียวเท่านั้น อย่างงั้นก็ต้องปล่อยให้คนอื่นไปตายแทน!

ฉินเฉิงออกมาจากเมืองหยางแล้วมุ่งหน้าไปยังเมืองจิงตู

ครั้งนี้มันแทบจะเป็นการเปิดเผยตำแหน่งของตัวเองโดยสมบูรณ์ ดังนั้น ฉินเฉิงไม่มีเวลาที่จะมามัวล่าช้าอีกต่อไป เค้าจะต้องทำทุกอย่าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เท่านั้น

“เฉียวเซิง…” ฉินเฉิงอดไม่ได้ที่จะพูดชื่อนี้ขึ้นมาระหว่างทาง

ในตอนกลางคืน

ฉินเฉิงยืนอยู่บนสะพานที่ห่างไกลออกไป

ญาณหยั่งรู้ของเค้ากำลังสังเกตสภาพแวดล้อมรอบๆอยู่ตลอดเวลา ตราบใดที่มีคนปรากฎตัวขึ้นมา เค้าก็สามารถที่จะรับรู้ได้ในทันที

สิบนาทีต่อมา

ชายรูปร่างสูงก็ปรากฎตัวขึ้นมา เค้าเดินตรงเข้ามาหาฉินเฉิงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า: “คุณบ้าเหรอ คุณกล้ามาที่เมืองจิงตู ตระกูลซูกับสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูต้องการให้คุณตายนะ”

ฉินเฉิงพยักหน้าแล้วพูดว่า: “ฉันรู้ หยานหยุน การที่ฉันมาหานายครั้งนี้

“หลังจากนั้นหละ?” หยานหยุนขมวดคิ้ว “คุณจะไม่ไปจากที่นี่?”

ฉินเฉิงยิ้มแล้วพูดว่า: “ไม่ไป”

“ไม่ช้าก็เร็วสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูจะหาที่นี่เจอ” หยานหยุนพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “และตระกูลซู ครั้งนี้พวกเค้าตั้งใจที่จะฆ่าคุณ”

“ฉันรู้” ฉินเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ “ไม่ว่าพวกเค้าจะส่งใครมา ฉันจะฆ่ามัน เมื่อฉันหมดแรง นั่นคือเวลาที่นายจะต้องลงมือ”

“อะไรนะ!?” สีหน้าของหยานหยุนก็เปลี่ยนไปในทันที “หมายความว่าไง?”

“ตามฉันไปที่บ้านตระกูลซู” ฉินเฉิงพูดอย่างเย็นชา “จำไว้ว่าไปที่บ้านตระกูลซู ไม่ใช่สมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตู”

หยานหยุนถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว เค้าจ้องมองไปที่ฉินเฉิงแล้วพูดว่า: “คุณบ้าไปแล้วเหรอ ตระกูลซู พวกเค้าจะไม่มีวันปล่อยคุณไป พวกเค้าจะต้องฆ่าคุณอย่างแน่นอน!”

ฉินเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดเบาๆขึ้นมาว่า: “ฉันทำได้แค่ภาวนาให้คนจากสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูหาเจอในเร็วๆนี้”

การไปสมาคมสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตู ฉินเฉิงไม่กลัวเลย การที่จะฆ่าฉินเฉิงนั้น พวกเค้าจำเป็นจะต้องทำหลายขั้นตอน

แต่ตระกูลซูนั้นแตกต่างออกไป เมื่อฉินเฉิงถูกจับโดยตระกูลซู ตระกูลซูจะต้องฆ่าเค้าโดยเร็วที่สุด

“ฉันไม่มีทางเลือกอื่น” ฉินเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “แค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ นี่มันเป็นโอกาสเดียวที่นายจะได้เข้าไปในตระกูลซู”

สีหน้าของหยานหยุนก็ดูไม่ได้เลย เค้ากัดฟันแล้วพูดว่า: “มันจะได้ไม่คุ้มเสียงหรือเปล่า? ตรงไปไหม ถ้าไม่ระวัง คุณอาจจะไปตายที่บ้านตระกูลซูได้เลยนะ”

ฉินเฉิงยิ้มแล้วพูดว่า: “หรือว่านายมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้? ตระกูลซูก็พูดออกมาแล้ว ใครก็ตามที่สามารถส่งข่าวเกี่ยวกับฉันได้ ตระกูลซูก็จะปฎิบัติกับพวกเค้าในฐานะแขก นายเองก็รู้เรื่องของตระกูลซูเป็นอย่างดี มันน่าจะสะดวกกว่ามาก เมื่อถึงเวลาฉันจะให้นายท่านซูแอบติดต่อนายไป”

หยานหยุนต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉินเฉิงก็ขัดจังหวะหยานหยุดด้วยการโบกมือขึ้นมา

“ทำตามที่ฉันบอกก็พอ” ฉินเฉิงพูดอย่างจริงจัง

หลังจากนั้น ฉินเฉิงก็พร้อมที่จะจากไป

ในตอนนี้เอง จู่ๆเค้าก็นึกอะไรบางอย่างได้

“เอานี่ไปด้วย” ฉินเฉิงหยิบหยกเลือดออกมาจากแขนของตัวเอง

“นี่คืออะไร?” หยานหยุนขมวดคิ้วขึ้นมา

ฉินเฉิงก็พูดว่า: “ฉันบ่มเพาะของสิ่งนี้ขึ้นมาเอง มันจะช่วยชีวิตนายเมื่อจำเป็น”

หลังจากพูดคำพูดพวกนี้ออกมาแล้ว ฉินเฉิงก็หายตัวไปในความมืดอย่างไร้ร่องรอย

หยานหยุนมองไปทางฉินเฉิง เค้าไม่รู้จะพูดอะไรอยู่นาน

“แบบนี้ มันคุ้มไหม…” มันเห็นได้ชัดเลยว่าหยานหยุนไม่เข้าใจ

ในตอนแรกเค้าไม่สามารถแก้แค้นได้ ในที่สุดก็เลือกที่จะยอมแพ้ เพราะรู้ดีว่าเค้าตัวเองกำลังทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

แต่สถานการณ์ในตอนนี้ของฉินเฉิงมันแตกต่างจากเมื่อก่อน? ทำไมการเลือกของทั้งสอง มันถึงแตกต่างกันมากขนาดนี้?

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉินเฉิงใส่หมวกกับเสื้อคลุมแล้วปรากฎตัวขึ้นมาอย่างเงียบๆ บนภูเขาซานชา

หยานหยุนก็อยู่ใกล้ๆ ดังนั้นฉินเฉิงก็เลยจงใจเลือกที่นี่

ญาณหยั่งรู้ของเค้ากำลังสำรวจไปรอบๆ มันดูราวกับว่าเค้ากำลังรอใครซักคนปรากฎตัวขึ้นมา

“มาแล้วสินะ”

ในตอนนี้เอง ฉินเฉิงก็รู้สึกได้ถึงรัศมีแห่งการกดขี่ที่ใกล้เข้ามา

หนึ่ง สอง… ร่างมากกว่าหนึ่งโหลอย่างแน่นหนา พวกเค้าก็ตรงเข้ามาใกล้ฉินเฉิงมากขึ้นเรื่อยๆ!

“หยุด”

จากนั้นไม่นาน น้ำเสียงที่เย็นชาก็ดังขึ้นมาที่ด้านหลังของเค้า

ฉินเฉิงหันหลังให้เค้า จากนั้นก็พูดเบาๆขึ้นมาว่า: “มีเรื่องอะไร?”

“ถอดหมวกกับเสื้อคลุมออกซะ” ยู้หมัวพูดอย่างเย็นชา

ฉินเฉิงลังเลอยู่ซักพัก จากนั้นก็วิ่งหนีไป!

“ตูม!”

ในตอนนี้เอง มันก็ร่างอื่นที่ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้า ฝ่ามือของเค้าพุ่งตรงมาจากท้องฟ้า มันตรงเข้ามาขวางฉินเฉิงไว้!

การล้อมนี้ มันทำให้ฉินเฉิงไม่สามารถหลบหนีไปได้เลย!

“ครึ่งขั้นของจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่สองคน?” ฉินเฉิงหรี่ตาลงแล้วพูดขึ้นมาในใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม 438 ครึ่งขั้นของจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่

Now you are reading ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม Chapter 438 ครึ่งขั้นของจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คนอื่นๆต่างก็ยิ่งตกใจ เค้าสามารถปลดอาวุธด้วยการตบเพียงแย่างเดียว นี่เป็นลูกศิษย์อันดับหนึ่งของจงหยวนอย่างงั้นเหรอ?

ฉินเฉิงมองเฉียวเซิงอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า: “นายห้ามฉันไม่ได้หรอก ถ้านายไม่อยากตาย อย่าตามมา”

หลังจากที่พูดออกมาแบบนี้แล้ว ร่างของฉินเฉิงก็หายไปอย่างรวดเร็ว

หน้าอกของเฉียวเซิงกระเพื้อมขึ้นลง สีหน้าของเค้าดูไม่ได้เลย

ฝ่ามือที่ดูเหมือนกับการกระพือปีกนั้น มันมีพลังมหาศาล!

หรือว่าตัวเองจะเทียบฉินเฉิงไม่ได้เลย?

“ทุกคน รีบเข้าไปที่สุสานเร็ว” ในตอนนี้เองก็มีคนพูดขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม จู้เหยาก็ส่ายหัวเบาๆแล้วพูดว่า: “ไม่ต้องหรอก ฉันว่าหลุมฝังศพนี้มันว่างเปล่า”

หลังจากพูดออกมาแบบนี้แล้ว จู้เหยาก็หันหลังกลับแล้วจากไป

เซี่ยงเหม่ยเอ๋อถอนหายใจเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆขึ้นมาว่า: “ฉินเฉิง ที่แท้นายก็ไม่เป็นอะไร”

หลังจากนั้น เซียงเหม่ยเอ๋อก็ออกไปจากที่นี่เช่นกัน

มีบางคนที่ไม่เต็มใจที่จะจากไป พวกเค้าเดินเข้ามาในสุสานแห่งนี้

แต่น่าเสียดายที่ด้านในมันเป็นหลุมฝั่งศพที่ว่างเปล่าจริงๆ

คนส่วนใหญ่เดินเข้ามา แต่เฉียวเซิงยังคงยืนนิ่ง ที่หน้าผากของเค้ามันเต็มไปด้วยเหงื่อ

นี่เป็นครั้งแรกที่เค้ารู้สึกหวาดกลัวและตื่นตระหนก ความรู้สึกแบบนี้มันทำให้เค้าหายใจไม่ออกเล็กน้อย

“ไม่ มันจะเก็บฉินเฉิงไว้ในโลกนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว!” ความบ้าคลั่งก็แวบวาบเข้ามาในแววตาของฉินเฉิง

ในตอนนี้เอง ผู้คนจากสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูก็มาถึงที่เกิดเหตุ

แต่สิ่งที่ทำให้เฉียวเซิงประหลาดใจก็คือ คราวนี้มันมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่มา

“ฉินเฉิงหละ?” เค้าเดินเข้าไปหาเฉียวเซิงแล้วถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

เมื่อเห็นคนๆนี้แล้ว สีหน้าของเฉียวเซิงก็เปลี่ยนไปในทันที จากนั้นเค้าก็รีบพูดว่า: “สวัสดีครับท่านยู้!”

คนๆนี้ชื่อยู้หมัว เมื่อหลายปีก่อน เค้าก็มาถึงระดับขั้นของจอมยุทธ์ขั้นสุดยอด ในตอนนี้สถานะของเค้าก็สูงมาในโลกของศิลประการต่อสู้

เฉียวเซิงดีใจมาก เค้าคิดไม่ถึงเลยว่าสมาคมศิลปะการต่อสู้จะส่งยู้หมัวมาออกตามล่า!

“ฉันถาม มันหละ?” ยู้หมัวถามอย่างเย็นชา

“ตอบกลับท่านยู้ เค้า… เพิ่งหนีไปทางนั้น!” เฉียวเซิงชี้นิ้วออกไปแล้วพูดขึ้นมา

ยู้หมัวพึมพำเบาๆ จากนั้นเค้าก็เดินไป

“การที่ท่านยู้ลงมือด้วยตัวเอง ฉินเฉิง มันจะหนีรอดไปได้ยังไงกัน” เฉียวเซิงยิ้มเยาะเย้ย

หากไม่มีหวังที่จะก้าวแซงหน้ามันได้ อย่างงั้นก็มีแค่ทางเดียวเท่านั้น อย่างงั้นก็ต้องปล่อยให้คนอื่นไปตายแทน!

ฉินเฉิงออกมาจากเมืองหยางแล้วมุ่งหน้าไปยังเมืองจิงตู

ครั้งนี้มันแทบจะเป็นการเปิดเผยตำแหน่งของตัวเองโดยสมบูรณ์ ดังนั้น ฉินเฉิงไม่มีเวลาที่จะมามัวล่าช้าอีกต่อไป เค้าจะต้องทำทุกอย่าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เท่านั้น

“เฉียวเซิง…” ฉินเฉิงอดไม่ได้ที่จะพูดชื่อนี้ขึ้นมาระหว่างทาง

ในตอนกลางคืน

ฉินเฉิงยืนอยู่บนสะพานที่ห่างไกลออกไป

ญาณหยั่งรู้ของเค้ากำลังสังเกตสภาพแวดล้อมรอบๆอยู่ตลอดเวลา ตราบใดที่มีคนปรากฎตัวขึ้นมา เค้าก็สามารถที่จะรับรู้ได้ในทันที

สิบนาทีต่อมา

ชายรูปร่างสูงก็ปรากฎตัวขึ้นมา เค้าเดินตรงเข้ามาหาฉินเฉิงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า: “คุณบ้าเหรอ คุณกล้ามาที่เมืองจิงตู ตระกูลซูกับสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูต้องการให้คุณตายนะ”

ฉินเฉิงพยักหน้าแล้วพูดว่า: “ฉันรู้ หยานหยุน การที่ฉันมาหานายครั้งนี้

“หลังจากนั้นหละ?” หยานหยุนขมวดคิ้ว “คุณจะไม่ไปจากที่นี่?”

ฉินเฉิงยิ้มแล้วพูดว่า: “ไม่ไป”

“ไม่ช้าก็เร็วสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูจะหาที่นี่เจอ” หยานหยุนพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “และตระกูลซู ครั้งนี้พวกเค้าตั้งใจที่จะฆ่าคุณ”

“ฉันรู้” ฉินเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ “ไม่ว่าพวกเค้าจะส่งใครมา ฉันจะฆ่ามัน เมื่อฉันหมดแรง นั่นคือเวลาที่นายจะต้องลงมือ”

“อะไรนะ!?” สีหน้าของหยานหยุนก็เปลี่ยนไปในทันที “หมายความว่าไง?”

“ตามฉันไปที่บ้านตระกูลซู” ฉินเฉิงพูดอย่างเย็นชา “จำไว้ว่าไปที่บ้านตระกูลซู ไม่ใช่สมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตู”

หยานหยุนถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว เค้าจ้องมองไปที่ฉินเฉิงแล้วพูดว่า: “คุณบ้าไปแล้วเหรอ ตระกูลซู พวกเค้าจะไม่มีวันปล่อยคุณไป พวกเค้าจะต้องฆ่าคุณอย่างแน่นอน!”

ฉินเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดเบาๆขึ้นมาว่า: “ฉันทำได้แค่ภาวนาให้คนจากสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูหาเจอในเร็วๆนี้”

การไปสมาคมสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตู ฉินเฉิงไม่กลัวเลย การที่จะฆ่าฉินเฉิงนั้น พวกเค้าจำเป็นจะต้องทำหลายขั้นตอน

แต่ตระกูลซูนั้นแตกต่างออกไป เมื่อฉินเฉิงถูกจับโดยตระกูลซู ตระกูลซูจะต้องฆ่าเค้าโดยเร็วที่สุด

“ฉันไม่มีทางเลือกอื่น” ฉินเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “แค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ นี่มันเป็นโอกาสเดียวที่นายจะได้เข้าไปในตระกูลซู”

สีหน้าของหยานหยุนก็ดูไม่ได้เลย เค้ากัดฟันแล้วพูดว่า: “มันจะได้ไม่คุ้มเสียงหรือเปล่า? ตรงไปไหม ถ้าไม่ระวัง คุณอาจจะไปตายที่บ้านตระกูลซูได้เลยนะ”

ฉินเฉิงยิ้มแล้วพูดว่า: “หรือว่านายมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้? ตระกูลซูก็พูดออกมาแล้ว ใครก็ตามที่สามารถส่งข่าวเกี่ยวกับฉันได้ ตระกูลซูก็จะปฎิบัติกับพวกเค้าในฐานะแขก นายเองก็รู้เรื่องของตระกูลซูเป็นอย่างดี มันน่าจะสะดวกกว่ามาก เมื่อถึงเวลาฉันจะให้นายท่านซูแอบติดต่อนายไป”

หยานหยุนต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉินเฉิงก็ขัดจังหวะหยานหยุดด้วยการโบกมือขึ้นมา

“ทำตามที่ฉันบอกก็พอ” ฉินเฉิงพูดอย่างจริงจัง

หลังจากนั้น ฉินเฉิงก็พร้อมที่จะจากไป

ในตอนนี้เอง จู่ๆเค้าก็นึกอะไรบางอย่างได้

“เอานี่ไปด้วย” ฉินเฉิงหยิบหยกเลือดออกมาจากแขนของตัวเอง

“นี่คืออะไร?” หยานหยุนขมวดคิ้วขึ้นมา

ฉินเฉิงก็พูดว่า: “ฉันบ่มเพาะของสิ่งนี้ขึ้นมาเอง มันจะช่วยชีวิตนายเมื่อจำเป็น”

หลังจากพูดคำพูดพวกนี้ออกมาแล้ว ฉินเฉิงก็หายตัวไปในความมืดอย่างไร้ร่องรอย

หยานหยุนมองไปทางฉินเฉิง เค้าไม่รู้จะพูดอะไรอยู่นาน

“แบบนี้ มันคุ้มไหม…” มันเห็นได้ชัดเลยว่าหยานหยุนไม่เข้าใจ

ในตอนแรกเค้าไม่สามารถแก้แค้นได้ ในที่สุดก็เลือกที่จะยอมแพ้ เพราะรู้ดีว่าเค้าตัวเองกำลังทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

แต่สถานการณ์ในตอนนี้ของฉินเฉิงมันแตกต่างจากเมื่อก่อน? ทำไมการเลือกของทั้งสอง มันถึงแตกต่างกันมากขนาดนี้?

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉินเฉิงใส่หมวกกับเสื้อคลุมแล้วปรากฎตัวขึ้นมาอย่างเงียบๆ บนภูเขาซานชา

หยานหยุนก็อยู่ใกล้ๆ ดังนั้นฉินเฉิงก็เลยจงใจเลือกที่นี่

ญาณหยั่งรู้ของเค้ากำลังสำรวจไปรอบๆ มันดูราวกับว่าเค้ากำลังรอใครซักคนปรากฎตัวขึ้นมา

“มาแล้วสินะ”

ในตอนนี้เอง ฉินเฉิงก็รู้สึกได้ถึงรัศมีแห่งการกดขี่ที่ใกล้เข้ามา

หนึ่ง สอง… ร่างมากกว่าหนึ่งโหลอย่างแน่นหนา พวกเค้าก็ตรงเข้ามาใกล้ฉินเฉิงมากขึ้นเรื่อยๆ!

“หยุด”

จากนั้นไม่นาน น้ำเสียงที่เย็นชาก็ดังขึ้นมาที่ด้านหลังของเค้า

ฉินเฉิงหันหลังให้เค้า จากนั้นก็พูดเบาๆขึ้นมาว่า: “มีเรื่องอะไร?”

“ถอดหมวกกับเสื้อคลุมออกซะ” ยู้หมัวพูดอย่างเย็นชา

ฉินเฉิงลังเลอยู่ซักพัก จากนั้นก็วิ่งหนีไป!

“ตูม!”

ในตอนนี้เอง มันก็ร่างอื่นที่ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้า ฝ่ามือของเค้าพุ่งตรงมาจากท้องฟ้า มันตรงเข้ามาขวางฉินเฉิงไว้!

การล้อมนี้ มันทำให้ฉินเฉิงไม่สามารถหลบหนีไปได้เลย!

“ครึ่งขั้นของจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่สองคน?” ฉินเฉิงหรี่ตาลงแล้วพูดขึ้นมาในใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+