ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม 433 กับดักของซูหยู่

Now you are reading ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม Chapter 433 กับดักของซูหยู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ก่อนที่จะมั่นใจในพลัง ซูหยู่ไม่เคยเปิดเผยตัวตนมาก่อนเลย

“ศัตรูของแกก็มาด้วย” คราวนี้เสียงนั่นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

หลังจากได้ยินแบบนี้แล้ว ดวงตาของซูหยู่ก็แทบจะโปนออกมาแล้วจ้องมองไกลออกไป

ฉินเฉิงกำลังเดินเข้ามาใกล้สุสานขนาดใหญ่แห่งนี้

ไม่เพียงแค่นั้น เค้ายังไม่หลบซ่อนหรือปกปิดตัวตนอะไรเลย เค้ามาที่นี่อย่างมีศักดิ์ศรี

“หึหึหึ..มันมาได้พอดีจริงๆ มีแพะรับบาปแล้วสิ…” เสียงนั้นก็หัวเราะขึ้นมา

แต่ซูหยู่ก็กำลังตื่นเต้นอยู่กับความโกรธ เค้าไม่สามารถควบคุมลมหายใจของตัวเองได้เลย

“ใจเย็นๆ” เสียงนั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง “จะทำเรื่องใหญ่ใจต้องนิ่ง”

ซูหยู่สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วระงับความโกรธในใจของตัวเอง

….

“ฉินเฉิง มาแล้ว!” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนขึ้นมา! หลังจากนั้นผู้คนต่างก็จ้องมองไปที่ฉินเฉิง!

ในหมู่พวกเค้า คนที่ดูท่าจะตื่นเต้นมากที่สุดก็คือคนจากสมาคมศิลปะหารต่อสู้แห่งเมืองจิงตู!

ร่างกายของพวกเค้าขยับ “หวด” แล้วพวกเค้าก็ตรงเข้ามาขวางหน้าฉินเฉิงในทันที

“แกกล้ามาก!” หัวหน้าของพวกเค้าเป็นชายในชุดคลุมสีแดง

ความแข็งแกร่งของเค้าไม่สูงมากนัก แต่วิธีการของเค้ามันก็แข็งแกร่งมาก! นี่คือเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับนักยุทธ์ของสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตู!

“แกฆ่าผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ตอนนี้แกยังจะกล้ามาที่นี่อีกเหรอ!” อีกคนก็ตะโกนขึ้นมา

หลังจากพูดจบ พลังปราณของหลายคนก็ระเบิดออกมาพร้อมกัน มันกลายเป็นกรงสีทองที่ล้อมรอบตัวฉินเฉิงเอาไว้

ฉินเฉิงเหลือบมองพวกเค้าแล้วก็พูดจาเยาะเย้ยขึ้นมาว่า: “ฉันแนะนำให้พวกแกหยุดซะ พวกแกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน”

คนเหล่านี้ตะโกนขึ้นมาอย่างโกรธเคือง: “สมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูของเรามีเป้าหมายที่จะลงโทษและขจัดความชั่วร้าย พวกเราจะปล่อยคนร้ายอย่างแกไปได้ยังไงกัน!”

หลังจากพูดจบ หลายคนก็ถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วก็พูดขึ้นมา

ทันใดนั้นเอง กรงทองก็ขยับเข้ามาใกล้ตัวฉินเฉิง!

มันดูราวกับเหล็กเส้น ฉินเฉิงถูกล้อมตีกรอบในทันที!

ฉินเฉิงถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา เค้ายกเท้าขึ้นแล้วปล่อยพลังออกมา กรงทองที่ไม่มีใครทำลายได้ก็ถูกฉินเฉิงระเบิดมันออกในทันที!

และสมาชิกของสมาคมศิลปะการต่อสู้ต่างก็ตกใจกับพลังนี้ของฉินเฉิง ทันใดนั้นเองพวกเค้าก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก!

ฉินเฉิงกวาดสายตามองไปที่พวกเค้าแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า: “ถ้าไม่มีอาวุธระดับขั้นของจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ ก็อย่าเสียแรงเปล่าเลย”

ประโยคนี้ไม่เพียงแต่เตือนคนของสมาคมศิลปะการต่อสู้เท่านั้น แต่มันยังบอกเตือนทุกคนที่อยู่ที่นี่ด้วย!

ทุกคนไม่กล้าพูดอะไร แต่พวกเค้าต่างก็ถอยออกห่างจากฉินเฉิงไปโดยไม่รู้ตัว

ฉินเฉิงไม่สนใจอะไร การที่เค้ามาที่นี่ก็มีแค่จุดประสงค์เดียวเท่านั้น นั่นก็คือสุสานขนาดใหญ่

ที่ด้านหน้า ก็มีคนรีบเข้าไปในสุสานก่อน

“ฉินเฉิง ผู้คนต่างก็บอกว่านายหยิ่งมาก พอฉันได้มาเจอนายเอง ฉันถึงรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง” เฉียวเซิงก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดขึ้นมา

ฉินเฉิงเหลือบมองไปที่เฉียวเซิงแล้วพูดว่า: “เกี่ยวอะไรกับนายด้วย?”

เฉียวเซิงขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเยาะเย้ยขึ้นมาว่า: “ตอนนี้ที่ข้างนอกก็มีคนพูดกันว่า นายมันก็แค่เด็กหนุ่มเหยียนเซี่ยนคนหนึ่งก็เท่านั้น ถ้ามีโอกาสหละก็ อยากจะขอลองซะหน่อย”

“ถ้าอยากจะลองหละก็ ตอนนี้เลยก็ได้นะ” ฉินเฉิงเยาะเย้ย

ภ้าหากเฉียวเซิงต้องการที่จะเอาชนะฉินเฉิงหละก็ มันก็ไม่รู้เลยว่าเค้าจะต้องฝึกฝนกันอีกมากแค่ไหนกัน

เฉียวเซิงกลอกตาแล้วไม่สนการยั่วยุของฉินเฉิง จากนั้นก็ก้าวเดินไปข้างหน้า

จู้เหยาที่อยู่ไม่ไกลออกไปก็พยักหน้าเล็กน้อยให้กับฉินเฉิง จากนั้นเธอก็รีบเดินไปข้างหน้า

“ฉินเฉิง เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีคนอื่นอยู่บริเวณรอบๆ เซียงเหม่ยเอ๋อก็เดินเข้ามาแล้วถามฉินเฉิง

ฉินเฉิงปัดมือขึ้นมาแล้วพูดว่า: “ไม่มีอะไร เออใช้สิ กระดองเต๋านั่น เธอใช้มันไปแล้วยัง?”

เซียงเหม่ยเอ๋อยิ้มอย่างกระอักกระอ่วม: “ยังเลย พ่อของฉันเชิญปรมาจารย์มากลั่นมันก่อน ส่วนจะสำเร็จไหม นั่นฉันก็ไม่รู้”

ฉินเฉิงส่งเสียงหืมแล้วพูดว่า: “กระดองเต่านี่มันใช้ทำเกราะได้ดีมากเลยนะ มันมีผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมมาก เอาหละ เธอรีบไปเถอะ จำไว้ อยู่ให้ห่างจากฉัน”

“ได้” เซียงเหม่ยเอ๋อพยักหน้า

ที่หลุมฝังศพขนาดใหญ่ตรงหน้า ซูหยู่จัดสร้างภาพลวงตาไว้ล่วงหน้าแล้ว

ด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของซูหยู่ การสร้างภาพลวงตาของเค้าก็ดีมากขึ้นเช่นกัน นี่มันไม่ต้องพูดถึงจอมยุทธ์เลย แม้ว่าจอมยุทธ์ที่เชี่ยวชาญการใช้ภาพลวงตา พวกเค้าก็ไม่มีทางดูมันออก

“เอ๊ะ?” ห่างออกไปหลายร้อยเมตร ฉินเฉิงที่มีญาณหยั่งรู้ที่แข็งแกร่ง เค้าก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างในพื้นที่แห่งนี้

แม้ว่าจะบรรยากาศโดยรอบมันจะดูทั่วไป แต่มันก็มีพลังที่ละเอียดอ่อนของสวรรค์และโลกที่ลอยอยู่รอบ ๆ

“รูปแบบบางอย่าง?” ฉินเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย

ในตอนที่ฉินเฉิงกำลังจะพูดเค้าก็หยุด เมื่อมองเห็นคนสองสามคนจากสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูที่อยู่ตรงหน้า ฉินเฉิงก็ไม่พูดอะไรซักคำ

“วู้ววววว!”

จากนั้นไม่นาน คนสองสามคนที่สำรวจอยู่ข้างหน้าก็หายตัวไปในอากาศที่ว่างเปล่า!

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ในตอนนี้เองคนที่อยู่หลังคนที่หายตัวไปก็รู้สึกแปลกๆแล้วหยุดเดิน

จู้เหยาเป็นคนที่เริ่มก้าวถอยหลัง เธอขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “แปลก ที่นี่มันดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดปกติ ที่มาของมนต์ดำมันไม่ได้มาจากหลุมฝังศพ มันมาจากอีกทาง แต่เมื่อกี้พลังนี้มันหายไปแล้ว . .”

เวทมนต์ที่อยู่ในอากาศ

ซูหยู่ในเสื้อคลุมสีดำก็กำลังจ้องมองดูคนเหล่านี้ด้วยรอยยิ้ม

คนที่เข้ามาสำรวจหลายต่างก็มองไปรอบๆ พวกเค้าขมวดคิ้วขึ้นมาแล้วพูดว่า: “แกเป็นใครกัน? แล้วคนอื่นไปไหนกันหมดแล้ว?”

ซูหยู่หัวเราะแล้วพูดว่า: “พวกแกคิดว่าไง…”

“ท่าไม่ดีแล้ว! มันคือชายชุดดำ!” มีคนหนึ่งที่ตะโกนขึ้นมา!

“ชายชุดดำนั่นไม่ใช่ฉินเฉิงเหรอ?” ชายชุดแดงก็ขมวดคิ้วขึ้นมา เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้วเค้าก็ตะโกนพูดกับซูหยู่ว่า: “ฉินเฉิง พวกเรารู้ตัวตนของแกแล้ว แกยังจะซ่อนตัวอีกทำไมกัน!”

ซูหยู่ที่อยู่ไม่ไกลออกไปก็หัวเราะออกมา

น้ำเสียงนี้มันเต็มไปด้วยพลังของปีศาจ!

ทั้งสี่คนก็นำทางสำรวจเข้ามาก็เวียนหัว พวกเค้ารู้สึกว่าโลกตรงหน้าพวกเค้ากำลังหมุน!

“พวกแกมันงี่เง่า… มันสมควรแล้วเหรอที่จะเอาฉันไปเปรียบเทียบกับฉินเฉิง?” เสียงที่สองก็ดังขึ้นมาจากลำคอของซูหยู่! มันดูราวกับว่าดังมาจากนรกยังไงยังงั้นเลย!

“แกไม่ใช่ฉินเฉิงเหรอ?” สีหน้าของชายชุดแดงก็เปลี่ยนไปอย่างมาก “พวก…พวกเราถูกหลอก?!”

“ตอนนี้พึ่งจะมาคิดได้เหรอ พวกแกนี่มันงี่เง่าจริง…” ซูหยู่หัวเราะ

สีหน้าของเหล่าคนที่เข้ามาสำรวจก็ดูไม่ได้เลย ตอนนี้พวกเค้าถึงรู้ว่าฉินเฉิงเป็นแค่แพะรับบาป!

แต่น่าเสียดายที่มันสายเกินไปแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม 433 กับดักของซูหยู่

Now you are reading ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม Chapter 433 กับดักของซูหยู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ก่อนที่จะมั่นใจในพลัง ซูหยู่ไม่เคยเปิดเผยตัวตนมาก่อนเลย

“ศัตรูของแกก็มาด้วย” คราวนี้เสียงนั่นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

หลังจากได้ยินแบบนี้แล้ว ดวงตาของซูหยู่ก็แทบจะโปนออกมาแล้วจ้องมองไกลออกไป

ฉินเฉิงกำลังเดินเข้ามาใกล้สุสานขนาดใหญ่แห่งนี้

ไม่เพียงแค่นั้น เค้ายังไม่หลบซ่อนหรือปกปิดตัวตนอะไรเลย เค้ามาที่นี่อย่างมีศักดิ์ศรี

“หึหึหึ..มันมาได้พอดีจริงๆ มีแพะรับบาปแล้วสิ…” เสียงนั้นก็หัวเราะขึ้นมา

แต่ซูหยู่ก็กำลังตื่นเต้นอยู่กับความโกรธ เค้าไม่สามารถควบคุมลมหายใจของตัวเองได้เลย

“ใจเย็นๆ” เสียงนั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง “จะทำเรื่องใหญ่ใจต้องนิ่ง”

ซูหยู่สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วระงับความโกรธในใจของตัวเอง

….

“ฉินเฉิง มาแล้ว!” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนขึ้นมา! หลังจากนั้นผู้คนต่างก็จ้องมองไปที่ฉินเฉิง!

ในหมู่พวกเค้า คนที่ดูท่าจะตื่นเต้นมากที่สุดก็คือคนจากสมาคมศิลปะหารต่อสู้แห่งเมืองจิงตู!

ร่างกายของพวกเค้าขยับ “หวด” แล้วพวกเค้าก็ตรงเข้ามาขวางหน้าฉินเฉิงในทันที

“แกกล้ามาก!” หัวหน้าของพวกเค้าเป็นชายในชุดคลุมสีแดง

ความแข็งแกร่งของเค้าไม่สูงมากนัก แต่วิธีการของเค้ามันก็แข็งแกร่งมาก! นี่คือเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับนักยุทธ์ของสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตู!

“แกฆ่าผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ตอนนี้แกยังจะกล้ามาที่นี่อีกเหรอ!” อีกคนก็ตะโกนขึ้นมา

หลังจากพูดจบ พลังปราณของหลายคนก็ระเบิดออกมาพร้อมกัน มันกลายเป็นกรงสีทองที่ล้อมรอบตัวฉินเฉิงเอาไว้

ฉินเฉิงเหลือบมองพวกเค้าแล้วก็พูดจาเยาะเย้ยขึ้นมาว่า: “ฉันแนะนำให้พวกแกหยุดซะ พวกแกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน”

คนเหล่านี้ตะโกนขึ้นมาอย่างโกรธเคือง: “สมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูของเรามีเป้าหมายที่จะลงโทษและขจัดความชั่วร้าย พวกเราจะปล่อยคนร้ายอย่างแกไปได้ยังไงกัน!”

หลังจากพูดจบ หลายคนก็ถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วก็พูดขึ้นมา

ทันใดนั้นเอง กรงทองก็ขยับเข้ามาใกล้ตัวฉินเฉิง!

มันดูราวกับเหล็กเส้น ฉินเฉิงถูกล้อมตีกรอบในทันที!

ฉินเฉิงถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา เค้ายกเท้าขึ้นแล้วปล่อยพลังออกมา กรงทองที่ไม่มีใครทำลายได้ก็ถูกฉินเฉิงระเบิดมันออกในทันที!

และสมาชิกของสมาคมศิลปะการต่อสู้ต่างก็ตกใจกับพลังนี้ของฉินเฉิง ทันใดนั้นเองพวกเค้าก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก!

ฉินเฉิงกวาดสายตามองไปที่พวกเค้าแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า: “ถ้าไม่มีอาวุธระดับขั้นของจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ ก็อย่าเสียแรงเปล่าเลย”

ประโยคนี้ไม่เพียงแต่เตือนคนของสมาคมศิลปะการต่อสู้เท่านั้น แต่มันยังบอกเตือนทุกคนที่อยู่ที่นี่ด้วย!

ทุกคนไม่กล้าพูดอะไร แต่พวกเค้าต่างก็ถอยออกห่างจากฉินเฉิงไปโดยไม่รู้ตัว

ฉินเฉิงไม่สนใจอะไร การที่เค้ามาที่นี่ก็มีแค่จุดประสงค์เดียวเท่านั้น นั่นก็คือสุสานขนาดใหญ่

ที่ด้านหน้า ก็มีคนรีบเข้าไปในสุสานก่อน

“ฉินเฉิง ผู้คนต่างก็บอกว่านายหยิ่งมาก พอฉันได้มาเจอนายเอง ฉันถึงรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง” เฉียวเซิงก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดขึ้นมา

ฉินเฉิงเหลือบมองไปที่เฉียวเซิงแล้วพูดว่า: “เกี่ยวอะไรกับนายด้วย?”

เฉียวเซิงขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเยาะเย้ยขึ้นมาว่า: “ตอนนี้ที่ข้างนอกก็มีคนพูดกันว่า นายมันก็แค่เด็กหนุ่มเหยียนเซี่ยนคนหนึ่งก็เท่านั้น ถ้ามีโอกาสหละก็ อยากจะขอลองซะหน่อย”

“ถ้าอยากจะลองหละก็ ตอนนี้เลยก็ได้นะ” ฉินเฉิงเยาะเย้ย

ภ้าหากเฉียวเซิงต้องการที่จะเอาชนะฉินเฉิงหละก็ มันก็ไม่รู้เลยว่าเค้าจะต้องฝึกฝนกันอีกมากแค่ไหนกัน

เฉียวเซิงกลอกตาแล้วไม่สนการยั่วยุของฉินเฉิง จากนั้นก็ก้าวเดินไปข้างหน้า

จู้เหยาที่อยู่ไม่ไกลออกไปก็พยักหน้าเล็กน้อยให้กับฉินเฉิง จากนั้นเธอก็รีบเดินไปข้างหน้า

“ฉินเฉิง เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีคนอื่นอยู่บริเวณรอบๆ เซียงเหม่ยเอ๋อก็เดินเข้ามาแล้วถามฉินเฉิง

ฉินเฉิงปัดมือขึ้นมาแล้วพูดว่า: “ไม่มีอะไร เออใช้สิ กระดองเต๋านั่น เธอใช้มันไปแล้วยัง?”

เซียงเหม่ยเอ๋อยิ้มอย่างกระอักกระอ่วม: “ยังเลย พ่อของฉันเชิญปรมาจารย์มากลั่นมันก่อน ส่วนจะสำเร็จไหม นั่นฉันก็ไม่รู้”

ฉินเฉิงส่งเสียงหืมแล้วพูดว่า: “กระดองเต่านี่มันใช้ทำเกราะได้ดีมากเลยนะ มันมีผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมมาก เอาหละ เธอรีบไปเถอะ จำไว้ อยู่ให้ห่างจากฉัน”

“ได้” เซียงเหม่ยเอ๋อพยักหน้า

ที่หลุมฝังศพขนาดใหญ่ตรงหน้า ซูหยู่จัดสร้างภาพลวงตาไว้ล่วงหน้าแล้ว

ด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของซูหยู่ การสร้างภาพลวงตาของเค้าก็ดีมากขึ้นเช่นกัน นี่มันไม่ต้องพูดถึงจอมยุทธ์เลย แม้ว่าจอมยุทธ์ที่เชี่ยวชาญการใช้ภาพลวงตา พวกเค้าก็ไม่มีทางดูมันออก

“เอ๊ะ?” ห่างออกไปหลายร้อยเมตร ฉินเฉิงที่มีญาณหยั่งรู้ที่แข็งแกร่ง เค้าก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างในพื้นที่แห่งนี้

แม้ว่าจะบรรยากาศโดยรอบมันจะดูทั่วไป แต่มันก็มีพลังที่ละเอียดอ่อนของสวรรค์และโลกที่ลอยอยู่รอบ ๆ

“รูปแบบบางอย่าง?” ฉินเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย

ในตอนที่ฉินเฉิงกำลังจะพูดเค้าก็หยุด เมื่อมองเห็นคนสองสามคนจากสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูที่อยู่ตรงหน้า ฉินเฉิงก็ไม่พูดอะไรซักคำ

“วู้ววววว!”

จากนั้นไม่นาน คนสองสามคนที่สำรวจอยู่ข้างหน้าก็หายตัวไปในอากาศที่ว่างเปล่า!

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ในตอนนี้เองคนที่อยู่หลังคนที่หายตัวไปก็รู้สึกแปลกๆแล้วหยุดเดิน

จู้เหยาเป็นคนที่เริ่มก้าวถอยหลัง เธอขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “แปลก ที่นี่มันดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดปกติ ที่มาของมนต์ดำมันไม่ได้มาจากหลุมฝังศพ มันมาจากอีกทาง แต่เมื่อกี้พลังนี้มันหายไปแล้ว . .”

เวทมนต์ที่อยู่ในอากาศ

ซูหยู่ในเสื้อคลุมสีดำก็กำลังจ้องมองดูคนเหล่านี้ด้วยรอยยิ้ม

คนที่เข้ามาสำรวจหลายต่างก็มองไปรอบๆ พวกเค้าขมวดคิ้วขึ้นมาแล้วพูดว่า: “แกเป็นใครกัน? แล้วคนอื่นไปไหนกันหมดแล้ว?”

ซูหยู่หัวเราะแล้วพูดว่า: “พวกแกคิดว่าไง…”

“ท่าไม่ดีแล้ว! มันคือชายชุดดำ!” มีคนหนึ่งที่ตะโกนขึ้นมา!

“ชายชุดดำนั่นไม่ใช่ฉินเฉิงเหรอ?” ชายชุดแดงก็ขมวดคิ้วขึ้นมา เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้วเค้าก็ตะโกนพูดกับซูหยู่ว่า: “ฉินเฉิง พวกเรารู้ตัวตนของแกแล้ว แกยังจะซ่อนตัวอีกทำไมกัน!”

ซูหยู่ที่อยู่ไม่ไกลออกไปก็หัวเราะออกมา

น้ำเสียงนี้มันเต็มไปด้วยพลังของปีศาจ!

ทั้งสี่คนก็นำทางสำรวจเข้ามาก็เวียนหัว พวกเค้ารู้สึกว่าโลกตรงหน้าพวกเค้ากำลังหมุน!

“พวกแกมันงี่เง่า… มันสมควรแล้วเหรอที่จะเอาฉันไปเปรียบเทียบกับฉินเฉิง?” เสียงที่สองก็ดังขึ้นมาจากลำคอของซูหยู่! มันดูราวกับว่าดังมาจากนรกยังไงยังงั้นเลย!

“แกไม่ใช่ฉินเฉิงเหรอ?” สีหน้าของชายชุดแดงก็เปลี่ยนไปอย่างมาก “พวก…พวกเราถูกหลอก?!”

“ตอนนี้พึ่งจะมาคิดได้เหรอ พวกแกนี่มันงี่เง่าจริง…” ซูหยู่หัวเราะ

สีหน้าของเหล่าคนที่เข้ามาสำรวจก็ดูไม่ได้เลย ตอนนี้พวกเค้าถึงรู้ว่าฉินเฉิงเป็นแค่แพะรับบาป!

แต่น่าเสียดายที่มันสายเกินไปแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+