มรรคาสู่สวรรค์ 172 สุขสันต์วันปีใหม่

Now you are reading มรรคาสู่สวรรค์ Chapter 172 สุขสันต์วันปีใหม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อารมณ์​ใน​ช่วงนี้​ของ​ปรมาจารย์​สำนัก​เสวียน​อิน​มีปัญหา​เล็กน้อย​ ปลายจมูก​แดง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ เส้น​ผม​เอง​ก็​บาง​ลง​เรื่อยๆ​ เวลา​ที่นั่ง​เงียบ​ก็​ยาวนาน​ขึ้น​ กระทั่ง​ขา​หมู​และ​ใบ​งาที่​หมัก​เสร็จ​เรียบร้อย​ก็​ยัง​มิอาจ​ทำให้​เขา​ยิ้ม​ได้​

สำหรับ​เขา​แล้ว​ ไม่ว่า​ใน​จดหมาย​ของ​นักพรต​ฉบับ​นั้น​จะแอบซ่อน​ความหมาย​ลึกซึ้ง​หรือ​แผนการ​อะไร​ไว้​ก็​ล้วนแต่​มีความเสี่ยง​เป็นอย่างมาก​ หาก​จิ๋งจิ่ว​คาดเดา​ได้​ว่า​เขา​เป็น​ใคร​ เช่นนั้น​ก็​มีแต่​ต้อง​ลงมือ​

หาก​สังหาร​จิ๋งจิ่ว​ เจ้าล่า​เยวี่ย​และ​หลิ่ว​สือซุ่ย​ทั้ง​สามคน​ กำลัง​ของ​ศิษย์​รุ่นเยาว์​ของ​ชิงซาน​ก็​จะเสียหาย​ไป​มากกว่า​ครึ่ง​ ถือ​เป็นเรื่อง​ดี​ต่อ​การฟื้นฟู​วิถี​อธรรม​ในอนาคต​อย่าง​มาก​ แต่​ตอนนี้​จะทำ​อย่างไร​?

หลาย​สิบ​วัน​ผ่าน​ไป​ ค่อยๆ​ เข้าสู่​ช่วง​ปลาย​ฤดูใบไม้ผลิ​ เจดีย์​สีขาว​ถูก​ฝนตก​ใส่จน​เปียก​ ป่าสน​เขียว​ขึ้น​ อิน​ซาน​ไป​ยัง​สวนผัก​อีกครั้ง​ หลิ่ว​สือซุ่ย​อยู่​ที่นั่น​พอดี​

หลิ่ว​สือซุ่ย​ได้​เอา​กระดาษ​ที่​เป็น​รอย​ยับ​สอง​สามแผ่น​ส่งคืนให้​เขา​ ก่อน​กล่าว​อย่าง​กระอักกระอ่วน​เล็กน้อย​ว่า​ “คุณชาย​บอ​กว่า​…มัน​ค่อนข้าง​เป็น​สมมติฐาน​ ไม่มีประโยชน์​”

อิน​ซาน​มิได้​โกรธ​ เขา​ยิ้ม​เล็กน้อย​พลาง​กล่าวว่า​ “อย่างนั้น​หรือ​? ดูเหมือน​เขา​จะศึกษา​ธรรม​มาไม่น้อย​เลย​นะ​ ไม่รู้​ว่า​เขา​จะช่วย​ข้า​ไขปัญหา​บางอย่าง​ได้​หรือไม่​?”

เมื่อ​พูด​จบ​ เขา​ก็​หยิบ​เอา​กระดาษ​แผ่น​หนึ่ง​ออก​มาจาก​ใน​แขน​เสื้อ​ส่งให้​หลิ่ว​สือซุ่ย​

ช่วง​ปลาย​ฤดูใบไม้ผลิ​ ฤดูร้อน​ย่อม​ต้อง​ใกล้​เข้ามา​ ภายใน​วัด​กั่วเฉิง​มีเสียง​จักจั่น​ดัง​ขึ้น​มา สวน​จิ้งหยวน​มิได้​สงบเงียบ​เหมือน​อย่าง​ก่อนหน้า​อีก​

แมว​ขาว​ที่อยู่​ใต้​ชาย​หลังคา​เงยหน้า​ขึ้น​มา มอง​ไป​ด้านนอก​สวน​ ใน​ใจครุ่นคิด​ว่า​เป็น​จักจั่น​เหมือนกัน​ แต่​เหตุใด​เจ้าพวก​น่ารำคาญ​ที่อยู่​ด้านนอก​ถึงแตกต่าง​จาก​จักจั่น​เหมันต์​ขนาด​นี้​ ไม่น่ารัก​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​

จิ๋งจิ่ว​มองดู​กระดาษ​ที่​หลิ่ว​สือซุ่ย​ส่งมาให้​เหล่านั้น​ จมดิ่ง​อยู่​ใน​ความคิด​ จากนั้น​ก็​รู้สึก​ว่า​เสียง​จักจั่น​ฟังดู​น่ารำคาญ​เช่นเดียวกัน​ เขา​สะบัด​แขน​เสื้อ​ ลม​สาย​หนึ่ง​พุ่ง​ผ่าน​ตำหนัก​ออก​ไป​ เข้าไป​ใน​ป่า​ จากนั้น​ครู่หนึ่ง​เสียง​จักจั่น​ก็​เงียบหาย​ไป​

หลิ่ว​สือซุ่ย​กล่าวว่า​ “ข้า​จะต้อง​ตอบ​อย่างไร​ขอรับ​?”

จิ๋งจิ่ว​กล่าวว่า​ “ข้า​ต้อง​คิด​หน่อย​”

การ​ที่​เขา​จำเป็นต้อง​ใช้เวลานาน​ใน​การครุ่นคิด​ถึงจะได้​คำตอบ​ แสดงให้เห็น​ว่า​คำถาม​ที่อยู่​บน​กระดาษ​นั้น​มิใช่คำถาม​ธรรมดา​

คน​ที่​สามารถ​ถามคำถาม​แบบนี้​ออกมา​ได้​จะต้อง​มิใช่คนธรรมดา​เช่นเดียวกัน​

เจ้าล่า​เยวี่ย​กล่าวถาม​ว่า​ “ระดับ​ของ​คน​ผู้​นั้น​สูงมาก​?”

จิ๋งจิ่ว​ส่งเสียง​อืม​

เจ้าล่า​เยวี่ย​กล่าว​ “เหตุใด​เขา​ถึงไม่ตาม​หลิ่ว​สือซุ่ย​มาหา​ท่าน​ที่​สวน​จิ้งหยวน​?”

จิ๋งจิ่ว​กล่าว​ “แต่ไหน​มาโรค​ประหลาด​ของ​พวก​พระ​นั้น​มีมากมาย​ ก็​เหมือน​อย่าง​ฉาน​จึที่​ชอบ​เล่น​โคลน​ เล่น​แท่ง​ไม้ เจ้าอาวาส​ของวัด​กั่วเฉิง​เอง​ก็​ไม่ค่อย​ออกมา​พบ​ผู้คน​ ชื่นชอบ​คัด​คัมภีร์​ธรรมะ​”

เจ้าล่า​เยวี่ย​กล่าวว่า​ “ใน​เมื่อ​คน​ผู้​นั้น​รู้เรื่อง​ยันต์​เซียน​ เช่นนั้น​คงจะ​ต้อง​เป็น​สมณะสูงศักดิ์​ใน​วัด​กั่วเฉิง​เป็นแน่​ ไม่แน่​อาจจะ​เป็น​ท่าน​เจ้าอาวาส​”

จิ๋งจิ่ว​นิ่งเงียบ​อยู่​ครู่​ ก่อน​กล่าวว่า​ “ไม่ บางที​เขา​อาจจะ​เคย​เป็น​เจ้าอาวาส​”

วัน​ที่สอง​เขา​ก็​เขียน​คำตอบ​เสร็จ​เรียบร้อย​ ใน​ตอนที่​หลิ่ว​สือซุ่ย​ส่งมัน​ให้​อิน​ซาน​ มัน​ก็​เป็นช่วง​ปลาย​ฤดูร้อน​แล้ว​

หลัง​อ่าน​จดหมาย​ฉบับ​นั้น​จบ​ เขา​ก็​นั่ง​มองดู​ดวงดาว​อยู่​บน​บันได​ด้านหน้า​ตำหนัก​ฌาน​ทั้งคืน​ ปรมาจารย์​สำนัก​เสวียน​อิน​นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ โบก​พัด​อยู่​ทั้งคืน​

เขา​มั่นใจ​แล้ว​ว่า​จิ๋งจิ่ว​เหมือน​จะคาดเดา​ถึงปัญหา​ของ​ข่าย​พลัง​หมอก​ควัน​จางหาย​ได้​แล้ว​ อย่างนั้น​เขา​ยัง​จะเชื่อ​ใน​สิ่งที่​จิ๋งจิ่ว​เขียน​อยู่​ใน​จดหมาย​ได้​หรือไม่​?

อิน​ซาน​นิ่งเงียบ​ไป​นาน​ สุดท้าย​ก็​ไม่ได้​ตอบ​จดหมาย​กลับ​ไป​ แล้วก็​มิได้​ไป​สวนผัก​อีก​ การ​ติดต่อ​หยุด​ลง​เพียงเท่านี้​

……

……

ภายใน​วัด​มีเสียง​สวดมนต์​ดัง​ขึ้น​ทุกที่​ ภายใน​สวนผัก​พืชผล​งอกเงย​ สภาวะ​ของ​เจ้าล่า​เยวี่ย​นับวัน​จะยิ่ง​มั่นคง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ เชื่อ​ว่า​อีก​สอง​ปี​จะต้อง​สามารถ​บรรลุ​เข้าสู่​คเนจร​ระดับ​กลาง​ได้​ และ​สร้าง​ความ​ตกตะลึง​ให้​แก่​ชิงซาน​ได้​อีกครั้ง​

ปราณ​ก่อกำเนิด​ใน​ร่างกาย​ของ​หลิ่ว​สือซุ่ย​เอง​ก็​สงบ​ลง​ไม่น้อย​ ดู​แล้ว​น่าจะ​ไม่มีอันตราย​อะไร​ใน​ชั่ว​ระยะเวลา​สั้น​ๆ

จิ๋งจิ่ว​และ​แมว​ขาว​นอน​อย่าง​สบาย​

เวลา​ไหลผ่าน​ไป​ พริบตา​ฤดูหนาว​ก็​มาเยือน​อีกครั้ง​

ปี​นี้​หนาวเย็น​เป็นอย่างมาก​ ลมหนาว​จาก​ที่ราบ​หิมะ​พัด​ลง​ใต้​ กระทั่ง​วัด​กั่วเฉิง​ที่อยู่​ติด​ทะเล​ตะวันออก​ก็​รับ​ได้รับ​อิทธิพล​จาก​ลมหนาว​อย่าง​มาก​ มีหิมะ​ตกหนัก​ลงมา​สอง​สามครั้ง​ วัด​ฌาน​ที่อยู่​ท่ามกลาง​หิมะ​สวยงาม​เป็นพิเศษ​ ทำให้​นักกวี​บางคน​เดินทาง​มาชมหิมะ​ ขับ​กลอน​ วาดภาพ​

สมณะต้า​ฉางยังคง​ง่วนอยู่กับ​การกวาด​ใบไม้​ ไม่ยอมให้​ใบไม้​ทับถม​ แล้วก็​ไม่ยอมให้​หิมะ​ทับถม​ สวน​จิ้งหยวน​ถูก​กวาด​จน​สะอาดสะอ้าน​

จิ๋งจิ่ว​รู้สึก​ค่อนข้าง​เบื่อ​ จึงพา​ทุกคน​และ​แมว​ย้าย​จาก​ใต้​ระเบียง​ทางเดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​

ภายใต้​เตาไฟ​มีเสียง​เปรียะ​ๆ ของ​ถ่าน​เงิน​ดัง​ออกมา​ น้ำ​ภายใน​กา​น้ำชา​ส่งเสียง​ฟู่วๆ​ หลิ่ว​สือซุ่ย​และ​เจ้าล่า​เยวี่ย​นั่ง​อยู่​ใต้​กำแพง​ทั้งสอง​ด้าน​ หลับตา​ปรับ​ลมปราณ​ เขา​กอด​แมว​ขาว​นอน​อยู่​บน​เก้าอี้​ไม้ไผ่​ที่อยู่​ริม​หน้าต่าง​ มองดู​ทิวทัศน์​ที่​ถูก​หิมะ​ย้อม​จน​เป็น​สีขาว​

ทิวทัศน์​ถูก​จำกัด​อยู่​ภายใน​หน้าต่าง​บาน​เล็ก​ แต่​มัน​กลับ​ให้​ความรู้สึก​ยิ่ง​ห่างไกล​ เพราะ​ผู้​ที่​ชมทิวทัศน์​มักจะ​ยิ่ง​มีสมาธิ

สายตา​เขา​มอง​ไป​บน​มือซ้าย​ รับรู้​ถึงพลัง​เซียน​ที่​เหมือน​จะไหลเวียน​ออกมา​ไม่หยุด​และ​จิต​เซียน​ที่​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ไม่สามารถ​ทำลาย​ทิ้ง​ไป​ได้​ คล้าย​กำลัง​ครุ่นคิด​อะไร​อยู่​

ช่วงเวลา​พลบค่ำ​ ไกล​ออก​ไป​ทาง​ด้านนอก​ของวัด​กั่วเฉิง​มีเสียง​ประทัด​ดัง​ลอย​มา จากนั้น​ก็​ดัง​ขึ้น​ไม่ขาดสาย​

เจ้าล่า​เยวี่ย​ถามอย่าง​ใคร​รู่​ “พวก​ชาวบ้าน​กำลัง​ไล่​สัตว์ป่า​หรือ​?”

จิ๋งจิ่ว​รู้สึก​เหนื่อยใจ​ กล่าวว่า​ “ปลาย​ฤดูหนาว​หิมะ​ตกหนัก​ ภายใน​นา​ก็​ไม่มีธัญพืช​ สัตว์ป่า​ถ้าไม่จำศีล​ก็​หนี​ลง​ใต้​ จะลง​เขา​มาทำไม​? ประทัด​นี้​ดัง​ต่อเนื่อง​ เห็นได้ชัด​ว่า​เป็น​เรื่องใหญ่​ อาจ​เพราะ​ครอบครัว​ไหน​มีคนตาย​กระทั่ง​”

เจ้าล่า​เยวี่ย​ได้รับ​การ​ชี้แนะ​ กล่าวว่า​ “อย่างนี้​นี่เอง​”

“ความจริง​….”

สายตา​ของ​หลิ่ว​สือซุ่ยบน​ไปมา​บน​ใบหน้า​พวกเขา​ จากนั้น​กล่าว​อย่าง​อาย​ๆ ว่า​ “วันนี้​เป็น​วัน​ปีใหม่​”

จิ๋งจิ่ว​เงียบ​ไป​ครู่​ ก่อน​กล่าวว่า​ “ปีใหม่​คึกคัก​จริงๆ​”

เจ้าล่า​เยวี่ย​เบือนหน้า​หนี​ไป​ ไม่อยาก​จะรับคำ​เขา​อีก​

หลิ่ว​สือซุ่ย​ฉวยโอกาส​นี้​กล่าวว่า​ “เสี่ยว​เห​อ​ทำอาหาร​เอาไว้​เยอะแยะ​ทีเดียว​”

จิ๋งจิ่ว​และ​เจ้าล่า​เยวี่ย​ปฏิเสธ​คำเชิญ​ที่จะ​ไป​กินข้าว​มื้อ​ดึก​ใน​วัน​ปีใหม่​ที่​สวนผัก​ นับวัน​พวกเขา​ก็​ยิ่ง​ไม่มีความคิด​เกี่ยวกับ​รื่อง​พวก​นี้​ เช่นนั้น​ก็​ย่อม​ต้อง​ไม่มีความสนใจ​เช่นเดียวกัน​

ประทัด​ดัง​ขึ้น​ไม่หยุด​ ถึงแม้จะอยู่​ไกล​กัน​อย่าง​มาก​ แต่​มัน​ก็​ยัง​ดัง​มาถึงหู​ของ​พวกเขา​

ไม่รู้​เป็น​เพราะเหตุใด​ จิ๋งจิ่ว​จึงมิได้​เลือก​ที่จะ​ปิด​การรับรู้​ทั้ง​หก​ ถึงแม้นี่​จะเป็นเรื่อง​ที่​เขา​ถนัด​มาก​ที่สุด​ก็ตาม​

จนกระทั่ง​ถึงเวลา​กลางดึก​ ในที่สุด​เสียง​ประทัด​ก็​หยุด​ลง​ ท้องฟ้า​ที่​ถูก​แสงไฟส่องสว่าง​กลับ​ไป​เป็น​ความมืด​อัน​มืดมิด​

สมณะต้า​ฉางนอนหลับ​ไป​แล้ว​ สวน​จิ้งหยวน​ไม่มีเสียง​ใดๆ​ ไม่มีแสงสว่าง​ใดๆ​

จิ๋งจิ่ว​ลืมตา​

ในเวลานี้​เป็นช่วง​รอยต่อ​ระหว่าง​ปีใหม่​กับ​ปี​เก่า​ พลัง​ใน​ฟ้าดิน​สมบูรณ์​มาก​ที่สุด​

ยันต์​เซียน​มาจาก​ด้านนอก​ฟ้าดิน​ เมื่อ​อยู่​ภายใต้​แรงกดดัน​ของ​พลัง​แห่ง​ฟ้าดิน​ นี่​คือ​ช่วงเวลา​ที่​มัน​อ่อนแอ​ที่สุด​

เจตน์​กระบี่​สาย​หนึ่ง​พุ่ง​ออก​มาจาก​ใน​ร่าง​ของ​จิ๋งจิ่ว​ ปกคลุม​ทั่ว​ทั้ง​ห้อง​ภาวนา​เอาไว้​

เขา​ยื่น​มือขวา​ออก​ไป​ จุ่มลง​ไป​ใน​เจตน์​กระบี่​ เขียน​คัมภีร์​ธรรมะ​บท​หนึ่ง​ใน​อากาศ​

จากนั้น​เขา​ก็​เอา​มือซ้าย​ที่​กำ​เป็น​กำปั้น​ยื่น​เข้าไป​ใน​คัมภีร์​ธรรมะ​บท​นั้น​ ค่อยๆ​ หลับตา​ลง​

ไม่มีปรากฏการณ์​แปลกประหลาด​ใดๆ​ เกิดขึ้น​ เป็น​เหมือน​รูปปั้น​โคลน​ที่​จมลง​ไป​ใน​ทะเล​ เหมือน​ฝน​ฤดูใบไม้ผลิ​ที่​สร้าง​ความ​ชุ่มฉ่ำใน​ยามค่ำคืน​

ไม่รู้​ว่า​ผ่าน​ไป​นาน​เท่าไร​ เขา​ลืมตา​ขึ้น​อีกครั้ง​ มองดู​มือซ้าย​ ใน​ดวงตา​เผย​ให้​เห็น​สายตา​พึงพอใจ​

“เป็น​อย่างไรบ้าง​?”

เสียง​ของ​เจ้าล่า​เยวี่ย​ดัง​ขึ้น​

จิ๋งจิ่ว​หันหน้า​มอง​ไป​ กล่าวว่า​ “หนึ่ง​ส่วน​”

ใน​ความ​มืดมิด​ ดวงตา​ของ​เจ้าล่า​เยวี่ย​เปล่งประกาย​ขึ้น​มา ดวงตา​สีขาว​และ​สีดำ​ดู​ชัดเจน​ งดงาม​ยิ่งนัก​

เวลา​หนึ่ง​ปี​กว่า​หลอม​จิต​เซียน​ไป​ได้​หนึ่ง​ส่วน​ ดู​คล้าย​เชื่องช้า​ แต่​ความจริง​ถือว่า​เร็ว​มาก​แล้ว​

หาก​เปลี่ยนเป็น​ผู้​บำเพ็ญพรต​คนอื่น​ที่​มีสภาวะ​เหมือน​อย่าง​จิ๋งจิ่ว​ การ​จะหลอม​ยันต์​เซียน​นั้น​เป็นเรื่อง​ที่​เป็นไปไม่ได้​เลย​

ความรู้สึก​ชื่นชม​เลื่อมใส​บัง​เกิดขึ้นในใจ​ของ​นาง​

นาง​คุกเข่า​กราบ​ลง​ไป​กับ​พื้น​

นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​นาง​คารวะ​จิ๋งจิ่ว​เหมือน​อย่าง​ลูกศิษย์​

“สุขสันต์​วัน​ปีใหม่​”

จิ๋งจิ่ว​กล่าว​ “ไม่มีซอง​แดง​”

เขา​ไม่มีแนวคิด​อะไร​เกี่ยวกับ​การ​ฉลอง​ปีใหม่​ แต่​มิได้​หมายความว่า​ไม่เข้าใจ​

ก็​เหมือน​อย่าง​ที่​เหตุใด​เจ้าล่า​เยวี่ย​จึงกราบ​ตน​

ไม่จำเป็นต้อง​สนทนา​ ไม่จำเป็นต้อง​อธิบาย​ ค่ำคืน​จะมืดมิด​แค่​ไหน​ สายตา​บรรจบ​กัน​ก็​รู้​ความหมาย​ของ​อีก​ฝ่าย​ได้​

เจ้าล่า​เยวี่ย​นั่งลง​ข้าง​กาย​เขา​ อิงแอบ​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา​ ดู​หลงใหล​อาลัยอาวรณ์​เป็น​ยิ่งนัก​

ลักษณะ​ท่าทาง​เหมือน​อย่าง​คุณหนู​เช่นนี้​ ไม่เคย​มีใคร​ได้​เห็น​บน​ตัวนาง​มาก่อน​

เหล่า​คุณหนู​ใน​เมือง​เจาเก​อ​ไม่เคย​เห็น​ ศิษย์​ร่วม​สำนัก​ใน​ชิงซาน​ไม่เคย​เห็น​ กระทั่ง​พ่อแม่​ของ​นาง​ก็​ไม่เคย​ได้​เห็น​ มีเพียง​จิ๋งจิ่ว​เท่านั้น​

นาง​ยอมให้​จิ๋งจิ่ว​ได้​เห็น​เพียง​คนเดียว​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด