มรรคาสู่สวรรค์ 160 ยากจะลืม

Now you are reading มรรคาสู่สวรรค์ Chapter 160 ยากจะลืม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เรื่อง​ของ​ทาง​สำนัก​ชิงซาน​ได้​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​คน​จำนวนมาก​เอาไว้​ สายตา​หลาย​ร้อย​คู่​ต่าง​มอง​ไป​ยัง​มือซ้าย​ของ​จิ๋งจิ่ว​

มือซ้าย​ของ​เขา​กำ​แน่น​ มิใช่เป็น​เพราะ​ตื่นเต้น​ แล้วก็​มิใช่เป็น​เพราะ​โกรธเกรี้ยว​

ทุกคน​ต่าง​มอง​เห็นภาพ​เขา​ชิงกระถาง​สัมฤทธิ์​ใน​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​ของ​คันฉ่อง​ฟ้ากระจ่าง​ จึงพอ​จะคาดเดา​อะไร​บางอย่าง​ได้​

ข่าว​ไป๋​เชีย​นจ​วิน​ถูก​เล่นงาน​จน​บาดเจ็บสาหัส​ได้​แพร่กระจาย​ออก​ไป​แล้ว​ ทุกคน​จึงยิ่ง​มั่นใจ​ว่า​ยันต์​เซียน​วัฒนะ​น่าจะ​อยู่​ใน​มือซ้าย​ของ​จิ๋งจิ่ว​

ทุกคน​รู้สึก​ตกใจ​และ​ไม่เข้าใจ​ ไม่เข้าใจ​ว่า​เหตุใด​จิ๋งจิ่ว​จึงไม่เก็บ​ยันต์​เซียน​ให้​ดี​ หาก​แต่​กำ​อยู่​ใน​มือ​แบบนี้​ หรือ​เขา​ไม่กังวล​ว่า​จะเกิดเรื่อง​?

ใน​มุมมุมหนึ่ง​พลัน​มีเสียง​ที่​ฟังดู​ทุ้ม​ต่ำ​ดัง​ขึ้น​มา “จิ๋งจิ่ว​ทำ​แบบนี้​ เห็นได้ชัด​ว่า​ผิด​กฎ​การ​ประลอง​ หาก​บอก​แต่แรก​ว่า​ทำ​แบบนี้​ได้​ มีใคร​บ้าง​ที่​ไม่คิด​จะบรรลุ​สภาวะ​?”

คน​ที่​พูด​คือ​ผู้อาวุโส​ของ​สำนัก​คุ​น​หลุน​ผู้​หนึ่ง​ ที่​เขา​พูด​ก็​คือ​เรื่อง​ที่​จิ๋งจิ่ว​ชิงเอา​กระถาง​สัมฤทธิ์​มา

ยอด​ฝีมือ​ของ​ต้า​เจ๋อ​ผู้​หนึ่ง​ยิ้มเยาะ​พลาง​กล่าวว่า​ “ต่อให้​เจ้าคิด​ หรือว่า​เจ้าจะสามารถ​ทำได้​?

เหล่า​สำนัก​ที่​ใจเอนเอียง​ไป​ทาง​สำนัก​จงโจว​ย่อม​ไม่พลาดโอกาส​ที่จะ​ได้​ถกเถียง​กับ​สำนัก​ที่​สนิทสนม​กับ​ชิงซาน​ พวกเขา​ต่าง​แสดงความคิดเห็น​ออกมา​ บอก​ว่าการ​ที่​จิ๋งจิ่ว​ได้​ยันต์​เซียน​มาด้วย​วิธี​แบบนี้​ มัน​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​ไม่อาจ​ยอม​รับได้​จริงๆ​ สถานการณ์​ค่อนข้าง​วุ่นวาย​ ดู​แล้ว​เหมือน​จะมีเรื่องราว​เกิดขึ้น​

ในเวลานี้​เอง​ บน​แท่น​ชมการ​ประ​ลองของ​สำนัก​ชิงซาน​มีคน​ส่งเสียง​อืม​ขึ้น​มา

เสียง​อืม​นี้​ดัง​ออก​มาจาก​ใน​จมูก​ ฟังดู​นุ่มนวล​ แต่​มิน่าฟัง​ แผ่​กลิ่นอาย​เกียจคร้าน​เฉื่อย​ช้า แต่กลับ​แฝงเอาไว้​ความรู้สึก​ยั่วยุ​

ทุกคน​ต่าง​ได้ยิน​เสียง​อืม​นี้​ รู้สึก​ไม่ค่อย​สบาย​ จึงเงยหน้า​มอง​ไป​ พบ​ว่า​คนพูด​นั้น​คือ​จัว​หรู​ซุ่ย​

จัว​หรู​ซุ่ยยก​หนังตา​ขึ้น​ กวาดตา​มอง​ไป​บน​ใบหน้า​ของ​คน​เหล่านั้น​อย่าง​ช้าๆ มิได้​พูด​อะไร​

แต่​ทุกคน​ต่าง​รู้​ว่า​เสียง​อืม​ของ​เขา​เสียง​นั้น​ก็​คือ​คำพูดติดปาก​อัน​เลื่องชื่อ​ของ​สำนัก​ชิงซาน​

พวก​เจ้าอยาก​ตาย​หรือ​?

ไม่มีใคร​อยาก​ตาย​

เมื่อ​คิดถึง​ชื่อเสียง​ของ​จัว​หรู​ซุ่ย​และ​ความ​ดุดัน​ของ​เขา​ใน​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​ ทุกคน​รวมไปถึง​ผู้อาวุโส​ของ​สำนัก​คุ​น​หลุน​ผู้​นั้น​ต่าง​หุบปาก​เงียบ​ หุบเขา​หุย​อิน​ตก​อยู่​ใน​ความ​เงียบ​

จิ๋งจิ่ว​ใช้วิธี​เช่นนี้​เอา​ยันต์​เซียน​มาได้​ สำนัก​จงโจว​จะคิด​ว่า​ถูก​ต้องตาม​กฎ​หรือไม่​ อย่างไร​เสีย​ก็​มิใช่สิ่งที่​พวกเขา​จะตัดสินใจ​ได้​

เชื่อ​ว่า​ในเวลานี้​เหล่า​นักพรต​เจ้าสำนัก​น่าจะ​กำลัง​คุย​กัน​ถึงเรื่อง​นี้​อยู่​ใน​ส่วนลึก​ของ​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​

……

……

จิ๋งจิ่ว​คิดในใจ​ว่า​หลิ่ว​ฉือ​และ​จัว​หรู​ซุ่ย​นั้น​ช่างคล้ายคลึง​กัน​จริงๆ​

เขา​ย่อม​ไม่สนใจ​คน​เหล่านั้น​ หาก​แต่​กล่าว​กับ​หนาน​ว่าง​ว่า​ “ที่​ข้า​ยืนกราน​ ข้า​ย่อม​ต้อง​มีเหตุผล​ของ​ข้า​”

หนาน​ว่าง​กล่าว​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ว่า​ “ถึงแม้ข้อเสนอ​ของ​เจ้าจะเหลวไหล​ถึงเพียงนี้​อย่างนั้น​หรือ​?”

สิ่งที่​เกิดขึ้น​นั้น​ไม่เหมือนกับ​ที่​เซ่อ​เซ่อ​คิด​เอาไว้​ เรื่อง​ที่​จิ๋งจิ่ว​และ​หนาน​ว่าง​คุย​กัน​มิใช่เรื่อง​ที่จะ​มอบ​ยันต์​เซียน​ให้​แก่​สำนัก​แม่ชีสุ่ยเยวี่ย​

เป็น​เพราะ​เหลียน​ซาน​เย​วี่ย​ หนาน​ว่าง​จึงไม่ชื่นชอบ​สำนัก​แม่ชีสุ่ยเยวี่ย​มาโดยตลอด​ แต่​มิได้​หมายความว่า​จะไม่สนใจ​เรื่อง​แบบนี้​

หาก​เป็นไปได้​ จิ๋งจิ่ว​ไม่มีทาง​ที่จะ​มาพูดคุย​กับ​หนาน​ว่าง​แน่นอน​ แล้วก็​ยิ่ง​ไม่มีทาง​ที่จะ​เข้าใกล้​นาง​ แต่​เรื่อง​นี้​มัน​ค่อนข้าง​ยุ่งยาก​ เขา​จำเป็นต้อง​รีบ​พบ​หลิ่ว​ฉือ​ให้​เร็ว​ที่สุด​

“ถูกต้อง​” เขา​กล่าว​

หนาน​ว่าง​มอง​เขา​อย่าง​เย็นยะเยือก​ ไม่ได้​พูด​อะไร​อีก​

ใน​ท้องฟ้า​ที่อยู่​ด้านหลัง​นาง​มีสาย​พิณ​เล็ก​ๆ หลาย​สิบ​สาย​ปรากฏ​ขึ้น​มา กระบี่​พิณ​วิจิตร​แหวก​อากาศ​พุ่ง​ออก​ไป​ ไม่รู้​ไป​ยัง​ที่ใด​

ภาพ​เหตุการณ์​นี้​ได้​ดึง​ความสนใจ​จาก​หลาย​ๆ คน​เอาไว้​

หนาน​ว่าง​กล่าว​กับ​ฟางจิ่งเทียน​ว่า​ “ข้า​กับ​จิ๋งจิ่วจะ​ไป​ก่อน​”

เมื่อ​กล่าว​จบ​ประโยค​นี้​ กระบี่​พิณ​วิจิตร​ที่​แหวก​อากาศ​พุ่ง​ออก​ไป​ได้​วก​กลับมา​ใหม่​ สาย​พิณ​เล็ก​ๆ หลาย​สิบ​สาย​ปรากฏ​ขึ้น​อีกครั้ง​

ใน​ตอนที่​สาย​พิณ​ถูก​เก็บ​ไป​ครั้ง​ ร่าง​ของ​นาง​และ​จิ๋งจิ่ว​อยู่​บน​ยอดเขา​ที่อยู่​เบื้องหน้า​แล้ว​

ฟางจิ่งเทียน​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ใน​ใจครุ่นคิด​ว่า​นี่​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ตัว​เขา​เอง​ก็​มีได้​อยาก​รั้ง​อยู่​ที่นี่​อีก​ จึงสั่งให้​ศิษย์​ชิงซาน​มารวมตัวกัน​ จากนั้น​ขี่​กระบี่​ออก​ไป​

……

……

ที่ว่า​ออก​ไป​นั้น​มิใช่ออก​ไป​จาก​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​ หาก​แต่​ออก​ไป​จาก​หุบเขา​หุย​อิน​

พอได้​ยันต์​เซียน​ก็​จากไป​ แบบ​นั้น​มัน​ดูจะ​ข่ม​เห่​งน้ำใจ​คนอื่น​ไป​เสียหน่อย​ แล้วก็​ดู​ไม่ค่อย​มีมารยาท​ ก็​เหมือน​อย่าง​ความเห็น​ที่​นก​ชิงเหนี่ยว​เคย​มีให้​แก่​จิ๋งจิ่ว​

ลำแสง​กระบี่​สว่าง​วาบ​ ศิษย์​ชิงซาน​กลับ​มายัง​เรือน​ลอกคราบ​

ฟางจิ่งเทียน​สีหน้า​เคร่งเครียด​ เขา​เดิน​ไป​ตาม​ทางเดิน​ ไป​ยัง​ด้านหลัง​หน้าผา​ มาถึงหน้า​ห้อง​ของ​จิ๋งจิ่ว​

หนาน​ว่าง​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​หน้า​ประตู​ห้อง​

สาย​พิณ​กระบี่​ที่​มองไม่เห็น​สาย​วาง​กระจาย​อยู่​รอบ​ๆ ล้อม​ห้อง​นี่​เอาไว้​

ฟางจิ่งเทียน​มอง​เห็นภาพ​นี้​ จึงกล่าวถาม​ว่า​ “มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​?”

หนาน​ว่าง​กล่าว​ “เขา​ไม่ยอม​พูด​”

ฟางจิ่งเทียน​กล่าวว่า​ “ตอนนี้​ข้า​เพิ่งจะ​รู้​ว่า​เขา​คิด​จะเอา​ยันต์​เซียน​มอบให้​แก่​สำนัก​แม่ชีสุ่ยเยวี่ย​จริงๆ​”

หนาน​ว่าง​กล่าว​ “ข้า​ไม่มีความเห็น​”

“ใคร​อนุญาต​ให้​เขา​ตัดสินใจ​ด้วยตัวเอง​?”

ฟางจิ่งเทียน​กล่าว​อย่าง​โมโห​ว่า​ “ยันต์​เซียน​วัฒนะ​เป็น​ของ​วิเศษ​ให้​นักพรต​ไป๋​เก็บ​เอาไว้​ มีความสำคัญ​ต่อ​สำนัก​อย่าง​มาก​ อย่า​ว่าแต่​เขา​เลย​ ต่อให้​เป็น​เจ้าหรือ​ข้า​ก็​ไม่มีสิทธิ์​ตัดสินใจ​เช่นกัน​!”

หนาน​ว่าง​มองดู​เขา​พลาง​กล่าว​หยอกล้อ​ว่า​ “หรือ​ท่าน​จะเอาอย่าง​เจี๋ยน​หรู​อวิ๋น​ ไล่​จิ๋งจิ่ว​ออกจาก​สำนัก​?”

ใน​งาน​ชุมนุม​ทดสอบ​กระบี่​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ จิ๋งจิ่ว​ได้​กลายเป็น​ศิษย์​อัจฉริยะ​ที่​ยอดเขา​ทั้ง​เก้า​ของ​ชิงซาน​คอย​แอบ​ฟูมฟัก​อย่าง​เงียบๆ​ และ​เขา​เอง​ก็​มิได้​ทำให้​ผิดหวัง​ คว้า​ที่หนึ่ง​ใน​งาน​ประลอง​วิถี​พรต​ของ​งาน​ชุมนุม​เหมย​ฮุ่ย​ แล้ว​ตอนนี้​ยัง​ได้​ที่หนึ่ง​ใน​งาน​ชุมนุม​แสวง​มรรคา​อีก​ ยิ่งไปกว่านั้น​เขา​ยัง​เป็น​ศิษย์​หลาน​ของ​นักพรต​จิ่งหยาง​ เป็น​ผู้อาวุโส​ของ​ยอดเขา​เสินม่อ​ นอกจาก​เจ้าสำนัก​และ​กฎ​แห่ง​กระบี่​หยวน​ฉีจิงแล้ว​ ยัง​จะมีใคร​ทำ​อะไร​เขา​ได้​อีก​?

สีหน้า​ของ​ฟางจิ่งเทียน​ยิ่ง​ดู​แย่​ เขา​กล่าวว่า​ “ศิษย์​น้อง​ ข้า​จำได้​ว่า​เจ้าไม่ชอบ​ยอดเขา​เสินม่อ​มาโดยตลอด​”

หนาน​ว่าง​กล่าว​ “ตอนนี้​ข้า​ก็​ไม่ชอบ​เช่นกัน​ แต่​ข้า​เพียงแค่​บอก​ความจริง​ให้​ท่าน​ฟัง”

ฟางจิ่งเทียน​นิ่งเงียบ​ไป​ครู่​ ก่อน​กล่าวว่า​ “ให้​ข้า​เข้าไป​คุย​กับ​เขา​”

หนาน​ว่าง​กล่าว​ “ตอนนี้​ไม่ว่า​ใคร​ก็​ห้าม​เข้าไป​”

ฟางจิ่งเทียน​กล่าว​ “มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​?”

หนาน​ว่าง​หลับตา​ ไม่ได้​สนใจ​เขา​อีก​

ฟางจิ่งเทียน​จนปัญญา​ จึงสะบัด​แขน​เสื้อ​เดิน​จากไป​

หนาน​ว่าง​ลืมตา​มองดู​สายลม​และ​ก้อน​เมฆที่อยู่​ด้านนอก​รั้ว​ กล่าวถาม​ว่า​ “ยันต์​เซียน​… มีปัญหา​หรือ​?”

เสียง​ของ​จิ๋งจิ่ว​ดัง​ขึ้น​ที่​ด้านหลัง​นาง​ “ใช่”

เขา​มองดู​กำปั้น​ข้าง​ซ้าย​ของ​ตนเอง​ ยันต์​เซียน​อยู่​ด้านใน​ ถึงแม้จะถูก​มือ​ของ​เขา​กำ​เอาไว้​ แต่​ก็​ยังคง​มีพลัง​เซียน​จางๆ แผ่​กระจาย​ออกมา​ข้างนอก​อยู่​ตลอดเวลา​

ยัง​ดี​ที่​พลัง​เซียน​นั้น​จางเป็นอย่างมาก​ น่าจะ​มีเพียง​เขา​และ​สัตว์​เทพ​บาง​ตัว​ที่​ได้กลิ่น​ของ​มัน​

ก่อน​จะเข้าไป​ใน​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​ เขา​ก็​เคย​ทำการ​คำ​นว​น​เอาไว้​หลายครั้ง​ ผลลัพธ์​ล้วนแต่​ไม่ค่อย​ดี​

ใน​ตอนนั้น​เขา​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​งาน​ชุมนุม​แสวง​มรรคา​ครั้งนี้​อาจจะ​มีปัญหา​บางอย่าง​ จึงได้​ให้​กู้​ชิงกลับ​ไป​ก่อน​

ตอนนี้​ดู​แล้ว​เหมือน​จะเป็น​เช่นนั้น​จริงๆ​ เพียงแต่​ใน​เมื่อ​เรื่องราว​มาถึงขั้น​นี้​แล้ว​ ต่อให้​คิด​มากกว่า​นี้​มัน​ก็​ไม่มีประโยชน์​

เขา​ผลัก​ประตู​ห้อง​ หยิบ​เอา​เก้าอี้​ไม้ไผ่​ออกมา​นอน​

เมื่อ​รับรู้​ได้​ถึงความเคลื่อนไหว​ทาง​ด้านหลัง​ หนาน​ว่าง​จึงเลิกคิ้ว​เล็กน้อย​ ครุ่น​คิดในใจ​ว่า​ภาพ​แบบนี้​มัน​ดู​ไม่เหมาะสม​ ดังนั้น​นาง​จึงนั่งขัดสมาธิ​ลอย​ขึ้นไป​บน​อากาศ​ อยู่​สูงกว่า​เก้าอี้​ไม้ไผ่​ครึ่ง​ฉื่อ​

บริเวณ​หน้าผา​ด้านนอก​รั้ว​มีเสียงดัง​ขึ้น​มา คล้าย​มีคน​กำลัง​ปีน​หน้าผา​ขึ้น​มา

หนาน​ว่าง​และ​จิ๋งจิ่ว​มิได้​ขยับ​ เพราะ​รับรู้​ได้​ว่า​คน​ที่มา​คือ​ใคร​

จิ๋งจิ่ว​ยังคง​นอน​อยู่​บน​เก้าอี้​ไม้ไผ่​

หนาน​ว่าง​ยังคง​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​

หลิ่ว​สือซุ่ย​ปีน​ขึ้น​มาบน​ยอดเขา​ เมื่อ​เห็นภาพ​แปลกประหลาด​เช่นนี้​ เขา​จึงเหม่อลอย​ไป​ครู่​ก่อน​จะได้สติ​ขึ้น​มา

“คารวะ​อาจารย์​อา​หนาน​ คารวะ​คุณชาย​”

เขา​คุกเข่า​ลง​ไป​กับ​พื้น​พลาง​โขก​ศีรษะ​ไป​หก​ที​

จิ๋งจิ่ว​กล่าวว่า​ “ที่​ให้​เจ้ามาก็​เพราะ​อยาก​ดู​ว่า​เจ้าเป็น​อย่างไรบ้าง​ แต่​เห็น​เจ้าปีน​ผา​ขึ้น​มาได้​สบาย​ๆ เช่นนี้​ ดู​แล้วก็​น่าจะ​ไม่เป็นอะไร​ อย่างนั้น​ก็​กลับ​ไป​เถอะ​”

หลิ่ว​สือซุ่ย​งุนงง​ ใน​ใจครุ่นคิด​ว่า​ตอน​อยู่​ใน​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​ ท่าน​ตะโกน​บอก​ข้า​ว่า​มิให้​ไป​ไหน​ไกล​ไม่ใช่หรือ​ ไม่ง่าย​เลย​กว่า​ที่​ตนเอง​จะหลบ​ออกมา​ที่นี่​ได้​ แล้ว​ทำไม​ถึงจะให้​กลับ​ไป​แล้ว​ล่ะ​? คนซื่อ​ไม่ได้​หมายความว่า​ไม่ฉลาด​ เขา​คิด​ขึ้น​มาได้​อย่าง​รวดเร็ว​ว่า​คุณชาย​จะต้อง​มีเรื่อง​อย่าง​แน่นอน​ ไม่แน่​อาจจะ​เจอ​อันตราย​อะไร​บางอย่าง​ ไม่อย่างนั้น​เหตุใด​อาจารย์​อา​หนาน​ถึงต้อง​มาเฝ้าอยู่​ที่นี่​”

เขา​กล่าวว่า​ “ข้า​จะอยู่​ปกป้อง​คุณชาย​ขอรับ​”

จิ๋งจิ่ว​มอง​เขา​

หลิ่ว​สือซุ่ย​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​เขา​ แต่​ก็​ยัง​ลังเล​

“ข้า​จะเฝ้าเอง​ เจ้าไม่ต้อง​เป็นห่วง​ รีบ​กลับ​ไป​ยัง​ที่​ของ​เจ้าเถอะ​”

หนาน​ว่าง​กล่าว​ด้วย​สีหน้า​ขึงขัง​เล็กน้อย​ว่า​ “ลูกศิษย์​ที่​เดิม​ควรจะ​สำนึกผิด​อยู่​ใน​คุก​กระบี่​กลับมา​เดิน​ฉุยฉาย​อยู่​ข้างนอก​ หาก​คนอื่น​รู้​เข้า​ แล้ว​อาจารย์​ของ​ชิงซาน​จะสั่งสอน​ลูกศิษย์​ได้​อย่างไร​?”

จิ๋งจิ่ว​กล่าวว่า​ “เจ้าสำนัก​เป็น​คน​เรียก​เขา​มา”

หลิ่ว​สือซุ่ย​รู้สึก​กระอักกระอ่วน​เล็กน้อย​ ใน​ใจครุ่นคิด​ว่า​เป็น​ดั่ง​ที่​อาจารย์​อา​หนาน​ว่า​จริงๆ​ คุณชาย​ได้​ยันต์​เซียน​มาแล้ว​ ตัวเอง​ควรจะ​รีบ​กลับ​ไป​ยัง​วัด​จะดีกว่า​

ในขณะที่​เตรียม​จะจากไป​ เขา​เหลือบ​มองเห็น​ว่า​เก้าอี้​ไม้ไผ่​ตัว​นั้น​สึกหรอ​ไป​ไม่น้อย​แล้ว​ จึงอด​พูด​ขึ้น​มาไม่ได้​ว่า​ “ตรงนั้น​ข้า​มีปลูก​ไม้ไผ่​เอาไว้​บ้าง​ ให้​ข้า​ทำ​ตัวใหม่​ให้​ไหม​ขอรับ​?”

จิ๋งจิ่ว​กล่าว​ “ก็ดี​”

หลิ่ว​สือซุ่ย​ปีน​รั้ว​ ก่อน​จะไต่​หน้าผา​กลับ​ลง​ไป​ทาง​เดิม​

เมื่อ​คิดถึง​บทสนทนา​ก่อนหน้า​ ไม่รู้​เพราะเหตุใด​หนาน​ว่าง​จึงรู้สึก​ไม่ค่อย​สบายใจ​ นาง​ส่งเสียง​เหอะ​เย็นยะเยือก​ พลาง​กล่าวว่า​ “แล้ว​ศิษย์​อีก​คน​ของ​เจ้าไป​อยู่​ที่ไหน​แล้ว​ล่ะ​?”

จิ๋งจิ่ว​รู้​ว่า​นาง​หมายถึง​กู้​ชิง จึงกล่าวว่า​ “ข้า​ให้​เขา​กลับ​ไป​ก่อน​แล้ว​”

หนาน​ว่าง​เลิกคิ้ว​ กล่าวว่า​ “เจ้ารู้​อยู่แล้ว​ว่า​ตัวเอง​จะชนะ​ตั้ง​แต่ก่อน​เข้าไป​ แล้วก็​รู้​ว่า​ยันต์​เซียน​มีปัญหา​อย่างนั้น​หรือ​?”

จิ๋งจิ่ว​ส่งเสียง​อืม​

หนาน​ว่าง​นิ่งเงียบ​ไป​ครู่​ ก่อน​กล่าวว่า​ “เจ้าสำนัก​ให้​หลิ่ว​สือซุ่ย​ปลอม​เป็น​ศิษย์​สำนัก​อู๋เอิน​เห​มิน​เข้าร่วม​การ​ประลอง​ แล้ว​ยัง​มาบัญชาการ​ด้วยตัวเอง​อีก​ นี่​ก็​คง​เป็น​เพราะ​เห็น​ว่า​เจ้าจะเอาชนะ​ได้​ใช่ไหม​?”

จิ๋งจิ่ว​ส่งเสียง​อืม​อีกครั้ง​

หนาน​ว่าง​มองดู​ทิวทัศน์​ด้านนอก​หน้าผา​ คล้าย​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​

จิ๋งจิ่ว​กล่าวถาม​ “ทำไม​ถึงยัง​ไม่กลับมา​อีก​?”

ที่​เขา​ถามก็​คือ​เจ้าสำนัก​ชิงซาน​หลิ่ว​ฉือ​

หนาน​ว่าง​กล่าวว่า​ “เจ้าไม่ทำตาม​กฎ​ ย่อม​ต้อง​มีคน​ไม่ยอมรับ​เรื่อง​ที่​เจ้าเอา​ยันต์​เซียน​มาได้​ เจ้าสำนัก​กำลัง​จัดการ​เรื่อง​เหล่านี้​ให้​เจ้าอยู่​ ไหน​เลย​จะกลับมา​เร็ว​ขนาด​นั้น​ได้​”

จิ๋งจิ่ว​กล่าวว่า​ “หาก​ข้า​คิด​ไม่ผิด​ เขา​จะกลับมา​เร็ว​กว่า​ที่​คิด​เอาไว้​”

หนาน​ว่าง​กล่าวว่า​ “ปัญหา​ของ​ยันต์​เซียน​ เจ้าจะยอม​พูด​แต่​กับ​เจ้าสำนัก​จริงๆ​ หรือ​? กระทั่ง​ข้า​ก็​ไม่เชื่อใจ​?”

นาง​รู้สึก​ไม่ค่อย​สบอารมณ์​ เมื่อ​คิด​ว่า​ตนเอง​เป็น​ถึงเจ้าแห่ง​ยอดเขา​ชิงหรง​ แต่กลับ​ต้อง​มานั่ง​เฝ้าศิษย์​หนุ่ม​แบบนี้​ นาง​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​โมโห​ขึ้น​มา

จิ๋งจิ่ว​มองดู​แผ่น​หลัง​ของ​นาง​ รู้​ว่า​นาง​กำลัง​โกรธ​อยู่​

เขา​คิดถึง​ก้อนหิน​ก้อน​ใหญ่​บน​ยอดเขา​ชิงหรง​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ก้อน​นั้น​ กับ​หญิงสาว​ดื้อรั้น​ที่นั่ง​ดื่ม​สุรา​อยู่​บน​ก้อนหิน​ หรือ​บางครั้ง​ก็​นั้ง​อยู่​บน​ต้นไม้​ที่อยู่​ด้านหลัง​ก้อนหิน​ใหญ่​ก้อน​นั้น​ มุมปาก​มีรอยยิ้ม​เล็ก​ๆ ปรากฏ​ขึ้น​มา

สำหรับ​เขา​แล้ว​ นี่​เป็น​อารมณ์​ที่​พบเห็น​ได้​น้อย​มาก​

จากนั้น​เขา​คิดถึง​บทเพลง​ที่​หญิงสาว​ผู้​นั้น​มักจะ​ร้อง​ออกมา​หลังจากที่​ดื่ม​จน​เมามาย​ รอยยิ้ม​พลัน​หาย​ไป​ทันที​

……

……

ใน​ส่วน​ที่​ลึก​ที่สุด​ของ​หุบเขา​ลึกลับ​แห่ง​หนึ่ง​ใน​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​มีถ้ำแห่ง​หนึ่ง​แอบซ่อน​ไว้​อยู่​

ข่าย​พลัง​ปิดกั้น​ที่อยู่​ใน​ถ้ำมีความ​ร้ายกาจ​เป็นอย่างมาก​ ต่อให้​เป็นยอด​ฝีมือ​ขั้น​ทะลวง​สวรรค์​ของ​ชิงซาน​ก็​ทน​รับมือ​อยู่​ได้​เพียง​ชั่ว​ระยะ​หนึ่ง​เท่านั้น​

มือ​ข้าง​หนึ่ง​คีบ​ไข่มุก​ทะลวง​สวรรค์​วาง​ไว้​ตรงกลาง​โต๊ะ​หิน​

ลำแสง​จำนวน​นับไม่ถ้วน​สาด​กระจาย​ออก​มาจาก​ใน​ไข่มุก​ ส่องสว่าง​ไป​บน​ผนัง​ทั้ง​สี่ด้าน​ภายใน​ถ้ำ

เพดาน​ของ​ถ้ำแห่ง​นี้​เป็น​ทรง​โค้ง​ ภาพ​เหล่านั้น​เชื่อม​ต่อกัน​ ดู​กว้างใหญ่​ไพศาล​

ภาพ​เหล่านั้น​คือ​ช่วงเวลา​หลาย​สิบ​ปี​ของ​ผู้​แสวง​มรรคา​ใน​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​ของ​คันฉ่อง​ฟ้ากระจ่าง​

ต่อให้​เป็น​หมู่บ้าน​ที่อยู่​ห่างไกล​มาก​ที่สุด​หรือ​สีหน้า​และ​ความเคลื่อนไหว​ที่​ละเอียด​เล็กน้อย​มาก​ที่สุด​ก็​ล้วนแต่​อยู่​ใน​ภาพ​เหล่านี้​

ภาพเคลื่อนไหว​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ กลายเป็น​แถบ​ผ้า​สีสัน​ต่างๆ​ จำนวน​นับไม่ถ้วน​ แต่​ใน​ม่านตา​ที่​ไร้ความรู้สึก​คู่​นั้น​กลับ​ไม่ได้​ต่าง​อะไร​กับ​ภาพ​ที่​เกิดขึ้น​จริงๆ​ ตรงหน้า​

นักพรต​ไป๋​ไม่จำเป็นต้อง​ถามชิงเหนี่ยว​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ใน​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​

ขอ​เพียง​นาง​ยินดี​ นาง​สามารถ​ตรวจดู​โลก​นั้น​ว่า​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​ได้​ทุกเมื่อ​

ชิงเหนี่ยว​ไม่มีทาง​ที่จะ​ปิดบัง​เรื่อง​ใดๆ​ กับ​นาง​ได้​

นักพรต​ไป๋​ไม่ได้​ดู​ผู้​แสวง​มรรคา​คนอื่น​ นาง​ดู​เพียงแค่​จิ๋งจิ่ว​และ​ชิงเหนี่ยว​

นาง​มองดู​ทารก​ใน​พระราชวัง​แคว้น​ฉู่ผู้​นั้น​ถือกำเนิด​ออกมา​โดย​ไม่ร้องไห้​ มองดู​เขา​ลุกขึ้น​ยืน​ มองดู​ฟ้ามองดู​ดิน​ มองดู​เขา​เติบโต​เป็นผู้ใหญ่​ บำเพ็ญ​เพียร​ไม่สนใจ​เรื่อง​ทางโลก​

มั่ว​กง​เข้ามา​ใน​วัง​ จิ๋งจิ่ว​ลงมือ​เป็นครั้งแรก​

“เร็ว​มาก​” นักพรต​ไป๋​พูด​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ “แต่​ยัง​เร็ว​ไม่พอ​”

ภาพ​เคลื่อนที่​ไป​ข้างหน้า​อย่าง​รวดเร็ว​ ไม่นาน​ก็​มาถึงช่วง​สุดท้าย​

ใน​เขา​ปู้​โจว​ ใบไม้​สีแดง​ทั่ว​ทั้ง​ภูเขา​เหมือน​เปลวเพลิง​ บันได​หิน​เป็น​เหมือน​เข็มขัด​หยก​ ฮ่องเต้​แคว้น​ฉิน​เดิน​ขึ้นไป​บน​บันได​

ยอด​ฝีมือ​ของ​แคว้น​ฉิน​จำนวน​หลาย​สิบ​คน​ถูก​ฟัน​จน​กลายเป็น​ชิ้น​เนื้อ​ ฮ่องเต้​แคว้น​ฉิน​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ มือ​ของ​จิ๋งจิ่ว​ยัง​คงอยู่​บน​ด้าน​กระบี่​

ใน​ตอนนั้น​ชิงเหนี่ยว​มองดู​ภูเขา​ มองดู​ใบไม้​สีแดง​ มองดู​ฮ่องเต้​แคว้น​ฉิน​ คล้าย​ตั้งใจ​ แล้วก็​คล้าย​ไม่ตั้งใจ​ จึงพลาด​ภาพ​เหตุการณ์​สำคัญ​ๆ บางอย่าง​ไป​

ตอนนี้​ภาพ​เหตุการณ์​เหล่านี้​ล้วนแต่​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ดวงตา​ของ​นักพรต​ไป๋​

“เร็ว​พอแล้ว​” นาง​กล่าว​

ภายใน​ส่วนลึก​ของ​ถ้ำค่อยๆ​ มีดวงตา​อสูร​ขนาดใหญ่​ประมาณ​จาน​หยก​ปรากฏ​ขึ้น​มา ดู​ดุร้าย​เย็นชา​ เต็มไปด้วย​จิต​สังหาร​

“เจ้าไป​ก่อความวุ่นวาย​ใน​คุก​สะกด​มาร​ ชางหลง​ต้อง​มาตาย​เพราะ​เจ้า ผ่าน​ไป​ไม่กี่​ปี​เจ้ายัง​มาเอา​ของ​วิเศษ​ของ​จงโจว​ของ​ข้า​อี​ก.​..”

นักพรต​ไป๋​มองดู​จิ๋งจิ่ว​ที่​กำลัง​เหยียบ​อากาศ​ทะยาน​ออก​ไป​ภายใน​ภาพ​ พลาง​กล่าว​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ว่า​ “คิด​ว่า​ข้า​จะลืม​อย่างนั้น​หรือ​?”

…………………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด