มรรคาสู่สวรรค์ 176 พูดเรื่องคุกสะกดมารในตอนนั้น

Now you are reading มรรคาสู่สวรรค์ Chapter 176 พูดเรื่องคุกสะกดมารในตอนนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซีอี้​อวิ๋น​กระอัก​เลือด​ไม่หยุด​ ใน​ดวงตา​เต็มไปด้วย​ความ​ตกตะลึง​ ใน​ใจครุ่นคิด​ว่า​คน​ผู้​นี้​เป็น​ใคร​กัน​แน่​ ไฉน​เพียงแค่​คำพูด​ประโยค​เดียว​ถึงกับ​สั่นคลอน​ฐาน​ใจแห่ง​เต๋า​ของ​ตนเอง​ได้​

ผิวหน้า​ของ​คน​ผู้​นั้น​เป็น​มันวาว​ ดู​อ่อนเยาว์​เป็น​ยิ่งนัก​ แต่​ภายใต้​ผิว​หนังกลับ​คล้าย​มีเส้นเลือด​ปูด​นูน​ขึ้น​มา ดู​คล้าย​เถาวัลย์​ที่​แผ่ขยาย​ขึ้นไป​ด้านบน​ สุดท้าย​โผล่​ออก​มาจาก​ด้านบน​หน้าผาก​ กลายเป็น​เขา​สอง​เขา​ที่​มีขนาด​ยาว​เท่า​นิ้วมือ​….นี่​ไม่มีทาง​ใช่ศิษย์​ธรรมดาๆ​ ของ​สำนัก​จงโจว​เด็ดขาด​!

เมื่อ​เห็น​เขา​สอง​ข้าง​นั้น​ ซีอี้​อวิ๋น​และ​คนอื่นๆ​ ที่อยู่​ใน​สวน​จิ้งหยวน​ต่าง​คิดถึง​ความเป็นไปได้​อย่างหนึ่ง​ แต่กลับ​รู้สึก​ว่า​ไม่มีทาง​เป็นไปได้​!

สมณะตู้​ไห่​เป็น​หัวหน้า​อาราม​หลี่ว์​ถังของวัด​กั่วเฉิง​ ถือได้ว่า​เป็น​สมณะสูงศักดิ์​อันดับ​สี่หรือ​ห้า​ภายใน​วัด​ ไม่ว่า​จะเป็น​สภาวะ​หรือ​ความ​อาวุโส​ก็​ล้วนแต่​สูงที่สุด​ใน​ที่นี่​ เขา​สะบัด​จีวร​ดึง​ซีอี้​อวิ๋น​มาไว้​ข้าง​กาย​ มองดู​คน​ประหลาด​จาก​สำนัก​จงโจว​ผู้​นั้น​ ใน​สายตา​เต็มไปด้วย​ความ​ตกตะลึง​และ​ความรู้สึก​ไม่อยาก​จะเชื่อ​ เขา​กล่าวถาม​ว่า​ “ไม่ทราบ​ว่า​ประสก​เป็น​ใคร​กัน​แน่​?”

“ใน​เมื่อ​พวก​เจ้าไม่กล้า​ขาน​เรียก​นาม​อัน​ยิ่งใหญ่​ของ​ข้า​ อย่างนั้น​ก็​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่รู้​ว่า​ข้า​เป็น​ใคร​ต่อไป​ก็แล้วกัน​”

คน​ผู้​นั้น​แค่น​หัวเราะ​ออกมา​พลาง​กล่าวว่า​ “สูงทัด​เทียมฟ้า​ สรรพสัตว์​มีวิญญาณ​ พวก​เจ้าเรียก​ข้า​ว่า​ฉีห​ลิง​ก็ได้​

เมื่อ​ได้ยิน​ชื่อ​นี้​ ทุุกคน​ที่อยู่​ใน​สวน​จิ้งหยวน​ก็​มั่นใจ​ทันที​ รู้​ว่า​คน​ที่มา​คือ​ท่าน​ผู้​นั้น​อย่าง​ที่​คิด​เอาไว้​ ใน​ดวงตา​เต็มไปด้วย​ความรู้สึก​ประหวั่นพรั่นพรึง​

เพียงแค่​เสียงอ่าน​ต่างกัน​เล็กน้อย​ มีหรือ​ที่​ผู้คน​จะเดา​ไม่ได้​ว่า​เขา​เป็น​ใคร​?

สมณะตู้​ไห่​และ​สมณะต้า​ฉางและ​ลู่​กั๋วกง​ต่าง​รีบ​เข้ามา​คารวะ​ ดู​เคารพ​นอบน้อม​เป็น​อย่างยิ่ง​

ฉีหลิน​คือ​สัตว์​เทพ​ประจำ​สำนัก​จงโจว​ สภาวะ​สูงส่งลึกล้ำ​ นับแต่​โบราณ​มาจนถึง​ตอนนี้​ไม่รู้​ว่า​มีชีวิต​อยู่​มากี่​ปี​ มอง​ไป​ทั่ว​ทั้ง​แผ่นดิน​เฉาเทียน​ เกรง​ว่า​คงจะ​มีเพียง​หยวน​กุย​แห่ง​ชิงซาน​เท่านั้น​ที่​มีชีวิต​ยาวนาน​กว่า​มัน​หน่อย​ ไม่ต้อง​พูดถึง​คน​ที่อยู่​ตรงนี้​ ต่อให้​เป็น​ผู้อาวุโส​บางคน​ที่อยู่​ใน​ยอดเขา​เร้นลับ​หรือ​ใน​หุบเขา​ด้านหลัง​ของ​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​ก็​ล้วนแต่​เป็น​อนุชน​รุ่นหลัง​ของ​เขา​

จัว​หรู​ซุ่ย​ก้มหน้า​มองดู​อาสนะ​ที่อยู่​ตรงหน้า​เจดีย์​หิน​องค์​เล็ก​ มิได้​เงยหน้า​ขึ้น​มา แล้วก็​มิได้​คารวะ​ ไม่รู้​ว่า​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​

สมณะตู้​ไห่​โค้ง​คารวะ​พลาง​กล่าวว่า​ “ไม่ทราบ​ว่า​…ท่าน​ฉีหลิน​ปรากฏ​กาย​บน​โลก​มนุษย์​ มีเรื่อง​ใด​ชี้แนะ​อย่างนั้น​หรือ​?”

ฉีหลิน​กล่าว​ด้วย​สีหน้า​เฉยชา​ “ข้า​มาหา​คน​”

สมณะตู้​ไห่​สีหน้า​เปลี่ยนแปลง​เล็กน้อย​ กล่าวว่า​ “ผู้ใด​หรือ​?”

ผู้คน​ที่อยู่​ใน​สวน​จิ้งหยวน​ต่าง​ตกใจ​ ใน​ใจครุ่นคิด​ว่า​บน​โลก​ยังมี​ใคร​คู่ควร​ให้​ท่าน​ผู้​นี้​เดินทาง​ออกมา​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​เพื่อ​มาพบ​อีก​อย่างนั้น​หรือ​?

ฉีห​ลิง​พลัน​ตะโกน​ออกมา​ว่า​ “จิ๋งจิ่ว!​ โผล่​หัว​ออกมา​!”

เสียง​ตะโกน​นี้​คล้าย​ภูเขา​พัง​ถล่ม​ ภายใน​สวน​จิ้งหยวน​พลัน​มีลมกระโชก​ขึ้น​มา ธงขาว​ปลิว​สะบัด​รุนแรง​ ราวกับ​พร้อม​จะฉีกขาด​เป็น​ชิ้นๆ​ ได้​ทุกเมื่อ​ เศษฝุ่น​ที่อยู่​ตาม​ซอก​หิน​ถูก​กระแทก​จน​ฟุ้งกระจาย​ออกมา​ บดบัง​สายตา​ทุกคน​เอาไว้​

หลังจากนั้น​ครู่หนึ่ง​ เสียง​ตะโกน​ที่​ดัง​สะท้อน​ไปมา​ก็​ค่อยๆ​ หาย​ไป​ ฝุ่น​ควัน​ร่วง​ตกลง​อีกครั้ง​ ไม่มีความเคลื่อนไหว​ใดๆ​

ฉีห​ลิง​นิ่งเงียบ​ไป​ครู่​ จากนั้น​หมุนตัว​มอง​ไป​ทาง​จัว​หรู​ซุ่ย​แล้ว​กล่าวว่า​ “เขา​อยู่​ที่ไหน​?”

จัว​หรู​ซุ่ย​ก้มหน้า​มองดู​ฝุ่น​ควัน​ที่​ร่วง​ตก​ลงมา​บน​พื้น​ ดู​คล้าย​สงบนิ่ง​ แต่​ความจริง​ใน​ใจกลับ​รู้สึก​หวาดกลัว​ เสื้อผ้า​ที่อยู่​ด้าน​หลังเขา​เปียกชุ่ม​ไป​ด้วย​เหงื่อ​

สายตา​ของ​ฉีห​ลิง​เป็น​เหมือน​ดั่ง​ดาบ​อัน​คมกริบ​ที่​สะบั้น​ลง​ไป​บน​ต้นไม้​แห่ง​เต๋า​ของ​เขา​

“ไม่รู้​ว่า​ท่าน​กำลัง​พูด​อะไร​…..”

จัว​หรู​ซุ่ย​กล่าว​ด้วย​สีหน้า​ไม่แยแส​ว่า​ “ท่าน​ผู้อาวุโส​อยาก​จะหา​อาจารย์​อา​เล็ก​ของ​ข้า​ เช่นนั้น​ก็​ต้อง​ไป​ชิงซาน​สิ ที่นี่​มัน​คือ​วัด​กั่วเฉิง​นะ​”

ฉีห​ลิง​ไม่สนใจ​เขา​อีก​ กล่าว​เสียง​เย็นยะเยือก​ว่า​ “จิ๋งจิ่ว​มาเรียน​ธรรมะ​อยู่​ที่นี่​ หรือว่า​เรียน​จน​กลายเป็น​เต่า​ไป​แล้ว​? แต่​บรรพชน​ของ​สำนัก​ชิงซาน​ของ​พวก​เจ้าก็​เป็น​เต่า​ตัว​หนึ่ง​นี่​นะ​…”

จัว​หรู​ซุ่ย​เบะ​ปาก​ คิดในใจ​ว่า​หาก​มิเป็น​เพราะ​สู้ไม่ได้​ ในเวลานี้​คงจะ​แทง​เจ้าไป​สัก​สอง​ที​แล้ว​ ไม่อย่างนั้น​หาก​กลับ​ไป​ยอดเขา​เทียน​กวง​แล้ว​จะมีหน้า​ไป​พบ​ท่าน​หยวน​กุย​ได้​อย่างไร​?

ลู่​กั๋วกง​คิด​อยาก​จะก้าว​ออกมา​พูด​อะไร​เล็กน้อย​ แต่​เมื่อ​อยู่​ภายใต้​แรงกดดัน​ของ​สัตว์​เทพ​จาก​บรรพกาล​ท่าน​นี้​ กระทั่ง​หายใจ​ก็​ยัง​ทำได้​ลำบาก​ ไหน​เลย​จะอ้า​ปาก​ได้​?

เสียง​ของ​ฉีห​ลิง​ค่อยๆ​ ดุร้าย​ขึ้น​มา กล่าวว่า​ “หาก​เจ้ายัง​ไม่ออกมา​ ข้า​จะพัง​สวน​กับ​วัด​ผุ​ๆ แห่ง​นี้​ซะ!”

สมณะตู้​ไห่​มิอาจ​ทน​ฟังต่อไป​ได้​อีก​ เขา​ฝ่าแรงกดดัน​ก้าว​ออกมา​ข้าง​หน้าหนึ่ง​ก้าว​ ก่อน​กล่าว​อย่าง​ถอนใจ​ว่า​ “ท่าน​ผู้อาวุโส​ หาก​เป็น​เช่นนั้น​จริงๆ​ อย่างนั้น​วัด​กั่วเฉิง​ของ​อาตมา​ก็​คง​ต้อง​ใช้ข่าย​พลัง​ออกมา​”

สำนัก​บำเพ็ญพรต​บน​แผ่นดิน​เฉาเทียน​แต่ละ​สำนัก​ล้วนแต่​มีรากฐาน​ที่​สั่งสมมาเป็น​ของ​ตนเอง​ แล้วก็​ย่อม​ต้อง​มีข่าย​พลัง​ประจำ​สำนัก​อัน​ร้ายกาจ​อยู่​ด้วย​

ฉีห​ลิง​เหลือบมอง​เขา​ กล่าวว่า​ “พระ​น้อย​ เจ้าคิด​ว่า​ข่าย​พลัง​นั่น​จะขัง​ข้า​ได้​อย่างนั้น​หรือ​?”

สมณะตู้​ไห่​ยิ้มเจื่อน​พลาง​กล่าวว่า​ “หวัง​ว่า​จะขัง​ผู้อาวุโส​เอาไว้​ได้​สัก​สามวัน​ คิด​ว่า​ฉาน​จึน่าจะ​กลับ​มาจาก​ที่ราบ​หิมะ​แล้ว​”

เห็น​ๆ อยู่​ว่า​ควรจะเป็น​คำพูด​ข่มขู่​ แต่​ไฉน​พอ​ออก​มาจาก​ปาก​สมณะสูงศักดิ์​รูป​นี้​ มัน​กลับ​กลายเป็น​ความรู้สึก​จนปัญญา​

วัด​กั่วเฉิง​แทบจะ​ไม่มีประสบการณ์​ใน​การต่อสู้​กับ​คนอื่น​ ยิ่งไปกว่านั้น​วันนี้​ยัง​ต้อง​มาเผชิญหน้า​กับ​ผู้ยิ่งใหญ่​เช่นนี้​ด้วย​

อีก​ทั้ง​กิเลน​ฉีหลิน​แห่ง​สำนัก​จงโจว​ยัง​เป็นเพื่อน​กับ​ปฐม​จารย์​ของ​สำนัก​ฌาน​ ตอนที่​ก่อตั้ง​วัด​กั่วเฉิง​ก็​ได้รับ​ความช่วยเหลือ​จาก​มัน​ แล้ว​วัด​กั่วเฉิง​จะลงมือ​กับ​มัน​เต็มที่​ได้​อย่างไร​?

ฉีห​ลิง​ฟังออก​ถึงความหมาย​ที่​แฝงอยู่​ใน​คำพูด​ประโยค​นี้​ สีหน้า​ดู​เย็น​ลง​เล็กน้อย​ กล่าวว่า​ “นี่​เป็นเรื่อง​ระหว่าง​ข้า​กับ​สำนัก​ชิงซาน​ พวก​เจ้าอย่า​ได้​เข้ามา​ยุ่ง​”

สมณะตู้​ไห่​ถอนใจ​ กล่าว​โน้มน้าว​ว่า​ “ท่าน​ผู้อาวุโส​พอ​จะเห็นแก่​ฮ่องเต้​พระองค์​ก่อน​ได้​หรือไม่​ รอ​ไว้​งาน​สักการะ​เสร็จสิ้น​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​?”

“แต่ไหนแต่ไร​มาข้า​ก็​ให้​ความเคารพ​ต่อ​ราชสำนัก​ตระกูล​จิ่งมาโดยตลอด​ หาก​เป็นเวลา​ปกติ​ ข้า​ก็​พอ​จะยอม​ได้​ แต่​วันนี้​ไม่ได้​”

สายตา​ของ​ฉีห​ลิง​มอง​ไป​ยัง​ส่วนลึก​ของ​สวน​จิ้งหยวน​ แผ่​ไอ​พลัง​ที่​ไม่อาจ​ขัดขืน​ได้​ออกมา​

ที่​เขา​เลือก​ลงมือ​ใน​วันนี้​ย่อม​ต้อง​มีเหตุผล​

ช่วงเวลา​ก่อนที่​จิ๋งจิ่วจะ​หลอม​ยันต์​เซียน​ครั้งสุดท้าย​คือ​ช่วงเวลา​ที่เกิด​ปัญหา​ได้​ง่าย​ที่สุด​ หาก​ถูก​รบกวน​ อาจจะ​ทำให้​ความพยายาม​ที่​ทำ​มาทั้งหมด​พังทลาย​ลง​ได้​

นักพรต​ไป๋​หวัง​จะให้​แผนการ​ที่​วาง​เอาไว้​ใน​ตอนแรก​สุด​ดำเนินต่อไป​ ให้​จิต​เซียน​สาย​นั้น​เข้าไป​ใน​ร่างกาย​ของ​จิ๋งจิ่ว​ได้​สำเร็จ​ หาก​ไม่สำเร็จ​ค่อย​ฆ่าทิ้ง​ก็​ไม่เป็นไร​

เห็นได้ชัด​ว่า​จิ๋งจิ่ว​อยาก​จะอาศัย​การ​สักการะ​สถูป​ของ​ของ​ฮ่องเต้​พระองค์​ก่อน​มาทำให้​ตัวเอง​ผ่านพ้น​ช่วง​เวลานี้​ไป​ แล้ว​เขา​จะยอมให้​เรื่อง​แบบนี้​เกิดขึ้น​ได้​อย่างไร​

เมื่อ​รับรู้​ได้​ถึงไอ​พลัง​อัน​น่ากลัว​ที่​ฉีห​ลิง​แผ่​ออกมา​ คน​ที่อยู่​ใน​สวน​จิ้งหยวน​ต่าง​รู้สึก​ครั่นคร้าม​ ไม่มีใคร​พูด​อะไร​ออกมา​

สีหน้า​ของ​สมณะตู้​ไห่​ขมขื่น​เป็น​อย่างยิ่ง​ เขา​รู้​ว่า​วัด​กั่วเฉิง​จำเป็นต้อง​หยุด​เรื่องราว​ทั้งหมด​นี้​เอาไว้​ให้ได้​ จึงเตรียม​จะฉีก​ลูกประคำ​ที่​ข้อมือ​เพื่อ​แจ้งเจ้าสำนัก​ให้​ออก​มาจาก​การ​เก็บตัว​และ​เปิด​ข่าย​พลัง​ภายใน​วัด​

จู่ๆ ภายใน​สวน​จิ้งหยวน​พลัน​มีเสียง​แอด​ดัง​ขึ้น​

มีประตู​ถูก​เปิด​ออก​

ขณะเดียวกัน​ก็​มีเสียง​ใสกังวาล​และ​ไร้​ซึ่งอารมณ์​ของ​หญิงสาว​ดัง​ขึ้น​มา

“ไต้​ซือ​ช้าก่อน​ อย่า​เพิ่ง​ไป​รบกวน​ท่าน​เจ้าอาวาส​ พวกเรา​เป็น​แขก​ จะทำให้​เจ้าบ้าน​ต้อง​ลำบากใจ​ได้​อย่างไร​?”

เจ้าล่า​เยวี่ย​และ​จิ๋งจิ่ว​เดิน​ออก​มาจาก​ใน​ห้องพัก​ด้านหลัง​สวน​จิ้งหยวน​

เมื่อ​มาถึงสวน​ จิ๋งจิ่ว​มองดู​ฉีห​ลิง​พลาง​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ “เจ้ามาหา​ข้า​มีธุระ​อะไร​

เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ประโยค​นี้​ ทุกคน​ที่อยู่​ใน​สวน​จิ้งหยวน​ต่าง​ตกตะลึง​

คำพูด​และ​การกระทำ​ของ​ฉีห​ลิง​หยาบกระด้าง​เป็น​ที่สุด​ แต่​ต่อให้​ใน​ใจจะรู้สึก​โกรธ​อย่างไร​ก็​ไม่กล้า​แสดงอาการ​ตำหนิ​แม้แต่น้อย​ ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​แสดง​ความเคารพ​นอบน้อม​ออกมา​เป็นอย่างมาก​ด้วย​ กระทั่ง​ซีอี้​อวิ๋น​ที่​ได้รับบาดเจ็บ​เอง​ก็​เป็น​เช่นนี้​เหมือนกัน​ เพราะ​อีก​ฝ่าย​คือ​ฉีหลิน​!

ต่อให้​จัว​หรู​ซุ่ย​จะแสดง​ความ​ไม่เคารพ​ออกมา​แค่​ไหน​ เขา​ก็​ทำได้​เพียง​จ้องมอง​ลง​ไป​ที่​พื้น​ ไหน​เลย​จะกล้า​มอง​ตา​อีก​ฝ่าย​?

แต่​จิ๋งจิ่ว​กลับ​กล้า​ที่จะ​สบตา​อีก​ฝ่าย​ตรงๆ​ ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​สงบ​เยือกเย็น​ถึงเพียงนี้​ หรือ​เจ้ายัง​ไม่รู้​ว่า​อีก​ฝ่าย​คือ​ใคร​?

แต่​ฉีห​ลิง​กลับ​ไม่มีปฏิกิริยา​อะไร​ เพราะ​เขา​คิด​ว่า​หาก​การ​คาดเดา​ของ​นักพรต​ไป๋​ไม่ผิด​ล่ะ​ก็​ จิ๋งจิ่ว​ก็​ควรจะเป็น​เช่นนี้​อยู่แล้ว​

เขา​มอง​ดวงตา​ของ​จิ๋งจิ่ว​ กล่าว​ด้วย​สีหน้า​เฉยชา​ว่า​ “ข้า​มา…ก็​เพื่อ​จะถามเจ้าเรื่อง​หนึ่ง​ ถ้าเจ้าตอบ​ได้​ไม่ดี​ ข้า​จะฆ่าเจ้าซะ”

จิ๋งจิ่ว​กล่าว​ “ว่า​มา”

ใน​ดวงตา​ของ​ฉีห​ลิง​เผย​ให้​เห็น​แววตา​เจ็บปวด​และ​ดุร้าย​ เขา​กล่าว​ตะคอก​เสียงดัง​ว่า​ “ทำไม​เจ้าต้อง​ฆ่าชางหลง​?”

……

……

เมื่อ​ได้ยิน​ประโยค​นี้​ ทุกคน​ภายใน​สวน​จิ้งหยวน​ตกตะลึง​อีกครั้ง​ ไม่กล้า​ที่จะ​เชื่อ​หู​ของ​ตัวเอง​

ใน​อดีต​เกิดเรื่อง​วุ่นวาย​ขึ้น​ใน​คุก​สะกด​มาร​ เมือง​เจาเก​อ​เกิด​แผ่นดินไหว​ต่อเนื่อง​ ชาวบ้าน​ธรรมดา​ย่อม​ไม่รู้​สาเหตุ​ แต่​พวกเขา​ย่อม​ต้อง​รู้​ความจริง​

จักรพรรดิ​แห่ง​หมิง​แหกคุก​ สุดท้าย​ตาย​ไป​พร้อมกับ​ชางหลง​!

เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ฉีหลิน​ หรือว่า​เรื่อง​นี้​มัน​จะเกี่ยวพัน​กับ​จิ๋งจิ่ว?​

ถึงแม้จิ๋งจิ่ว​ใน​ตอนนี้​จะอยู่​ใน​สภาวะ​คเนจร​ระดับ​กลาง​ เป็น​ผู้​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​บรรดา​ผู้​บำเพ็ญพรต​รุ่นเยาว์​ แต่​เขา​ก็​ยัง​ไม่มีคุณสมบัติ​ที่จะ​เข้าไป​ข้อง​เกี่ยวกับ​การต่อสู้​ระดับ​นั้น​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ตัว​เขา​ใน​ตอนนั้น​?

แต่​หลังจากนั้น​ทุกคน​ก็​คิดถึง​รายละเอียด​บางอย่าง​ที่​เกิดขึ้น​ใน​ความวุ่นวาย​ครั้งนั้น​ ก่อนที่​ชางหลง​จะออกมา​จาก​ใต้ดิน​ ได้​มีเงาที่​รวดเร็ว​อย่าง​มาก​หลบหนี​ออกมา​จาก​ใน​คุก​สะกด​มาร​ ว่า​กัน​ว่า​กรม​ชิงเทียน​และ​สำนัก​จงโจว​ต่าง​ตามหา​คน​ผู้​นี้​มาโดยตลอด​ หรือว่า​….สายตา​ของ​ซีอี้​อวิ๋น​และ​ไป๋​เชีย​นจ​วิน​มอง​ไป​ยัง​จิ๋งจิ่ว​ ขณะเดียวกัน​คิดถึง​การเคลื่อนไหว​อัน​พิสดาร​ล้ำลึก​ที่​จิ๋งจิ่ว​ได้​แสดง​ออกมา​ใน​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​ของ​คันฉ่อง​ฟ้ากระจ่าง​ ใน​ใจเกิด​ความรู้สึก​ว่า​มัน​ช่างเหลวไหล​เป็น​ยิ่งนัก​

ใน​บรรดา​คน​เหล่านี้​ คน​ที่​รู้เรื่อง​ดี​ที่สุด​ย่อม​ต้อง​เป็น​ลู่​กั๋วกง​ ใน​ตอนนั้น​เขา​เป็น​คน​จัดการ​ให้​จิ๋งจิ่ว​เข้าไป​ใน​คุก​สะกด​มาร​เอง​

เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ฉีหลิน​ ขา​ของ​เขา​พลัน​อ่อนแรง​ลง​ กล่าวว่า​ “ข้า​เป็น​เจ้ากรม​วัด​ไท่​ฉาง จัดการ​ดูแล​คุก​สะกด​มาร​ ไม่ทราบ​ว่า​ท่าน​พูด​เช่นนี้​ มีหลักฐาน​หรือไม่​?”

“ถ้ามีหลักฐาน​ เขา​ก็​ตาย​ไป​นาน​แล้ว​!” ฉีห​ลิง​แผดเสียง​

ภายใน​สวน​จิ้งหยวน​มีลมกระโชก​ขึ้น​มาอีกครั้ง​ จากนั้น​ก็​มีแรงกดดัน​ที่​รุนแรง​จน​ยาก​จะจินตนาการ​ได้​ ทุกคน​ต่าง​รู้สึก​หายใจ​ยากลำบาก​

จิ๋งจิ่ว​ที่อยู่​ตรง​ใจกลาง​ของ​แรงกดดัน​ดู​คล้าย​เรือ​ที่อยู่​ท่ามกลาง​พายุ​ ดู​แล้ว​คง​ต้อง​อับปาง​ลง​เป็นแน่​

ในเวลานี้​เอง​ ภายใน​สวน​จิ้งหยวน​พลัน​มีเสียง​แมว​ร้อง​ดัง​ขึ้น​มา

ฉีห​ลิง​หมุนตัว​ไป​ทันที​ แต่กลับ​มองไม่เห็น​อะไร​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด