มรรคาสู่สวรรค์ 169 วัดแห่งนี้สวนแห่งนี้สามารถสงบใจได้

Now you are reading มรรคาสู่สวรรค์ Chapter 169 วัดแห่งนี้สวนแห่งนี้สามารถสงบใจได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เจ้าล่า​เยวี่ย​มองดู​เจดีย์​หิน​ที่​ดู​ธรรมดา​นั้น​ ใน​ใจครุ่นคิด​ ใคร​จะรู้​ได้​ว่า​ฮ่องเต้​องค์​ก่อน​จะถูก​ฝังอยู่​ที่นี่​?

จิ๋งจิ่ว​กล่าวว่า​ “ตั้งแต่​เล็ก​เขา​ชอบ​ใช้ชีวิต​เรียบง่าย​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​ไม่มีทางเลือก​อื่น​ เขา​ก็​คง​ไม่มีทาง​เป็น​ฮ่องเต้​อยู่​ที่​เมือง​เจาเก​อ​นาน​ขนาด​นั้น​”

เจ้าล่า​เยวี่ย​เงยหน้า​ขึ้น​มามอง​เขา​ กล่าวถาม​ว่า​ “เพื่อน​ที่​ท่าน​มาหา​ก็​คือ​เขา​?”

ตอน​ที่อยู่​บน​ยอดเขา​เสินม่อ​ จิ๋งจิ่ว​เคย​บอ​กว่าเพื่อน​ของ​เขา​คน​นั้น​ตาย​ไป​แล้ว​

จิ๋งจิ่ว​กล่าวว่า​ “ถึงแม้จะไม่ถูกต้อง​นัก​ แต่​ใน​ใจข้า​ เขา​นั้น​เป็น​เหมือน​เพื่อน​มาโดยตลอด​”

สายตา​ของ​เจ้าล่า​เยวี่ย​มอง​ไป​ยัง​มือซ้าย​ที่​กำ​แน่น​ของ​เขา​ กล่าวว่า​ “เขา​จะช่วย​ท่าน​ได้​อย่างไร​?”

“ข้า​มาที่นี่​เพียง​ไม่กี่​ครั้ง​ แต่​ทุกครั้ง​ที่มา​ ข้า​จะรู้สึก​สงบ​เป็น​ที่สุด​”

จิ๋งจิ่ว​มองดู​เจดีย์​หิน​องค์​นั้น​ สายตา​สงบนิ่ง​ มอง​ไม่ออ​กว่า​รู้สึก​อย่างไร​

สิ่งที่​ยากลำบาก​ที่สุด​ใน​การหลอม​ยันต์​เซียน​นั้น​มิใช่พลัง​เซียน​ที่​ทรงอานุภาพ​ หาก​แต่​เป็น​จิต​เซียน​ที่​ไป๋​เริ่น​ทิ้ง​เอาไว้​

จิต​เซียน​ที่​แท้จริง​ไม่สามารถ​ถูก​พลัง​เต๋า​บน​โลก​มนุษย์​ทำลาย​ได้​ มัน​จะค่อยๆ​ ปนเปื้อน​ใจแห่ง​เต๋า​เหมือน​ฝน​ฤดู​ใน​ใบไม้​ผลิ​ที่​ชุ่มชื้น​ใน​เวลา​กลางคืน​ เหมือน​ดัง​เปลว​เทียน​ที่​ส่องสว่าง​เสาคาน​

ใจแห่ง​เต๋า​และ​ใจแห่ง​ฌาน​ล้วนแต่​คือ​ใจ ใจที่​นิ่ง​ดั่ง​น้ำ​ถึงจะสามารถ​ต้านทาน​การ​ปนเปื้อน​นี้​ได้​

เจดีย์​หิน​เล็ก​ๆ องค์​นี้​ อาทิตย์​ตกดิน​ใน​ป่า​เจดีย์​ วัด​เก่า​ที่อยู่​ใต้​อาทิตย์​อัสดง​ เสียง​ระฆัง​ทำวัตรเช้า​ภายใน​วัด​ เสียง​ไหว​เอน​ของ​ป่าสน​สามารถ​ช่วย​ให้​ใจเขา​สงบ​ได้​ จากนั้น​ก็​นำ​จิต​เซียน​สาย​นั้น​ไป​ยัง​ที่​สถานที่​แห่ง​การ​ทำลาย​

นี่​ก็​คือ​เหตุผล​ที่​จิ๋งจิ่ว​มายัง​วัด​กั่วเฉิง​

แมว​ขาว​ลืมตา​ตื่นขึ้น​มา มองดู​สวน​ที่​สงบเงียบ​ รู้สึก​งุนงง​และ​ตื่นเต้น​

มัน​เงยหน้า​สูดดม​อากาศ​ ไม่รู้​ว่า​ดม​ได้กลิ่น​อะไร​ มัน​ค่อยๆ​ สงบ​ลง​ จากนั้น​ปีน​ลง​มาจาก​บน​ตัว​จิ๋งจิ่ว​

มัน​ไม่ได้​กระโดด​กลับ​ไป​ใน​อ้อม​อก​ของ​เจ้าล่า​เย​วี่ย​ หาก​แต่​ค่อยๆ​ เดิน​ไป​บน​อาสนะ​ที่อยู่​ตรงหน้า​เจดีย์​หิน​องค์​เล็ก​อง​นั้น​ นอนขด​ตัวเอง​เป็น​วงกลม​พร้อมกับ​หลับตา​ เข้าสู่​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​อัน​หอม​หวาน​อีกครั้ง​

เมื่อ​เห็นภาพ​นี้​ เจ้าล่า​เยวี่ย​นิ่งเงียบ​ไป​ครู่​ก่อน​กล่าวว่า​ “ความจริง​ข้า​คิด​มาตลอด​ว่า​การหลอม​ยันต์​เซียน​นั้น​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่มีทาง​ทำได้​ แต่​ตอนนี้​รู้สึก​มั่นใจ​ขึ้น​มาหน่อย​แล้ว​”

จิ๋งจิ่ว​กล่าว​ “ตอนนี้​สภาวะ​ของ​เจ้าเป็น​อย่างไรบ้าง​?”

เจ้าล่า​เยวี่ย​กล่าวว่า​ “อีก​ไม่ไกล​ก็​ถึงคเนจร​ระดับ​กลาง​แล้ว​”

จิ๋งจิ่ว​กล่าว​ “เร็ว​เกินไป​ไม่ใช่ว่า​จะดี​ หลังจากนี้​หยุด​ลง​ก่อน​ สงบ​ลง​ก่อน​ ฟังธรรม​ที่วัด​กั่วเฉิง​สัก​สอง​สามปี​”

สำหรับ​เขา​แล้ว​ สภาวะ​ของ​เสี่ยว​ล่า​เยวี่ย​ใกล้​จะไล่ตาม​ตัวเอง​ทัน​แล้ว​ เช่นนั้น​ก็​ย่อม​ต้อง​ถือว่า​เร็ว​เกินไป​

หาก​เป็นเรื่อง​อื่น​ เจ้าล่า​เยวี่ย​จะต้อง​เชื่อฟัง​เขา​อย่าง​แน่นอน​ แต่​เรื่อง​นี้​กลับ​มิได้​เป็น​เช่นนั้น​ นาง​กัด​ริมฝีปาก​ดื้อรั้น​ ไม่ยอม​พูด​อะไร​ออกมา​

ใน​อดีต​ก่อนที่จะ​เข้า​มายัง​ชิงซาน​ นาง​ได้​มอง​ปรมาจารย์​อา​จิ่งหยาง​เป็นต้นแบบ​และ​เป็น​เป้าหมาย​ที่​ต้อง​ไล่ตาม​ รู้สึก​เสียดาย​ที่​ไม่สามารถ​อยู่ร่วม​ยุคสมัย​กับ​อัจฉริยะ​เช่นนี้​ได้​ ตอนนี้​ไม่ง่าย​เลย​ถึงจะมีโอกาส​เช่นนี้​ นาง​ไหน​เลย​จะยอม​พลาด​ได้​

จิ๋งจิ่ว​รู้​ว่า​ใน​ใจของ​สาวน้อย​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​ จึงยื่นมือ​ไป​ลูบ​หัว​ของ​นาง​พลาง​กล่าวว่า​ “คัมภีร์​ของ​สำนัก​ฌาน​นั้น​ค่อนข้าง​น่าสนใจ​ สือซุ่ย​เรียน​แล้ว​ เจ้าเอง​ก็​น่าจะ​เรียน​ไป​หน่อย​ มัน​มีประโยชน์​กับ​เจ้า”

บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​เสียง​ที่​สงบนิ่ง​ของ​เขา​ค่อนข้าง​มีความน่าเชื่อถือ​ แล้วก็​อาจ​เป็น​เพราะ​มือ​ของ​เขา​มีความอบอุ่น​ ในที่สุด​เจ้าล่า​เยวี่ย​จึงยอม​ตอบ​ตกลง​ จากนั้น​กล่าวถาม​ว่า​ “วัน​ไหน​ไปหา​หลิ่ว​สือซุ่ย​

จิ๋งจิ่ว​ไม่เข้าใจ​ ตัวเอง​เพิ่งจะ​ได้​เจอ​กับ​สือซุ่ย​ที่​เขา​อวิ๋นเมิ่ง​เมื่อไม่นานมานี้​ เรื่อง​ที่​ควรจะ​สั่งก็​สั่งไป​หมด​แล้ว​ ยัง​จะไปหา​เขา​ทำไม​อีก​?

เมื่อ​เห็น​สีหน้า​ของ​เขา​ เจ้าล่า​เยวี่ย​ก็​มั่นใจ​ว่า​เขา​ยังคง​เป็น​คน​ที่​ไม่สนใจ​เรื่องราว​ทางโลก​ ไม่รู้เรื่อง​วิถี​ทางโลก​คน​นั้น​อยู่​ คำพูด​และ​การกระทำ​ดูเหมือน​จะดีขึ้น​กว่า​แต่ก่อน​ แต่​ความจริง​แล้ว​ล้วนแต่​เป็น​ภาพลวงตา​ จึงกล่าว​อย่าง​หงุดหงิด​เล็กน้อย​ว่า​ “บ้าน​เขา​อยู่​ที่วัด​กั่วเฉิง​ พวกเรา​มาถึงแล้วก็​ควรจะ​ไป​เยี่ยม​หน่อย​”

ต่อให้​เรื่อง​ธรรมเนียม​ทางโลก​เหล่านี้​จะไม่สำคัญ​อย่างไร​ แต่​หลิ่ว​สือซุ่ย​ถูก​ท่าน​ส่งมายัง​วัด​กั่วเฉิง​ หาก​มาถึงนี่​แล้ว​ไม่ไป​เยี่ยม​ เจ้านั่น​รู้​เข้า​จะเสียใจ​แค่​ไหน​?

จิ๋งจิ่ว​ครุ่นคิด​เล็กน้อย​ถึงได้​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​นาง​ เขา​กล่าวว่า​ “ข้า​ไม่รู้​ว่า​เขา​อยู่​ที่ไหน​”

เจ้าล่า​เยวี่ย​มองดู​ดวงตา​เขา​พลาง​กล่าว​อย่าง​จริงจัง​ “ข้า​รู้​”

คน​บน​ยอดเขา​เสินม่อ​ที่​รับผิดชอบ​เรื่อง​ติดต่อ​กับ​หลิ่ว​สือซุ่ย​ก็​คือ​กู้​ชิง คน​ที่​ส่งของ​มายัง​สวนผัก​ก็​คือ​กู้​ชิง ก่อนที่​นาง​จะออก​มาจาก​ยอดเขา​เสินม่อ​ คน​ที่​บอก​ที่อยู่​ของ​สวนผัก​และ​เตือน​นาง​ว่า​ให้​เตือน​จิ๋งจิ่ว​ว่า​อย่า​ลืม​ไป​เยี่ยม​หลิ่ว​สือซุ่ย​ก็​คือ​กู้​ชิง

พูด​อีก​อย่าง​ก็​คือ​หาก​ไม่มีกู้​ชิง นาง​เอง​ก็​อาจจะ​ลืม​เรื่อง​นี้​ไป​แล้ว​ ไหน​เลย​จะมีสิทธิ์​ไป​สั่งสอน​จิ๋งจิ่ว​ได้​ แต่ว่า​เรื่อง​นี้​นาง​ย่อม​ไม่มีทาง​พูด​กับ​จิ๋งจิ่ว​

……

……

เจ้าล่า​เยวี่ย​และ​จิ๋งจิ่ว​มาเยือน​พร้อมกัน​ ย่อม​ต้อง​ทำให้​สมณะสำคัญ​ๆ ภายใน​วัด​กั่วเฉิง​พา​กัน​ตกใจ​ จิ๋งจิ่ว​ไม่มีทาง​ไป​จัดการ​เรื่อง​เหล่านี้​ และ​เขา​ก็​คิด​ว่า​เจ้าล่า​เยวี่ย​เอง​ก็​คง​ไม่ยอม​ไป​จัดการ​เช่นเดียวกัน​ จึงได้​ไหว้วาน​ให้​สมณะต้า​ฉางจัดการ​เรื่อง​เหล่านี้​แทน​

ใน​อดีต​สมณะต้า​ฉางเป็นรอง​เจ้ากรม​วัด​ไท่​ฉางอยู่​ใน​เมือง​เจาเก​อ​ รับใช้​ฮ่องเต้​มาตลอดชีวิต​ แล้วก็​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​วัด​กั่วเฉิง​มาอีก​สามร้อย​ปี​ จัดการ​เรื่อง​เหล่านี้​ย่อม​ไม่ยากลำบาก​อะไร​

ทุกปี​เมือง​เจาเก​อ​จะมีกั๋วกง​เดินทาง​มาแก้บน​แทน​ฮ่องเต้​ ทุกครั้ง​จะพัก​อยู่​ใน​วัด​ เมื่อ​มีป้าย​ไม้ก็​จะสามารถ​เข้าออก​ได้​สะดวก​

จิ๋งจิ่ว​และ​เจ้าล่า​เยวี่ย​หยิบ​เอา​ป้าย​ไม้มาสอง​อัน​ จากนั้น​ออก​มาจาก​วัด​กั่วเฉิง​ มายัง​ด้านล่าง​หน้าผา​ที่อยู่​ด้านนอก​ประตู​ข้าง​ของวัด​

แสงอาทิตย์​ใน​ฤดูหนาว​ไม่ค่อย​อบอุ่น​เท่าไร​ ภายใน​สวนผัก​เอง​ก็​มิได้​พืชผล​อะไร​มากมาย​ ดู​ค่อนข้าง​รกร้าง​

เมื่อ​ยืน​มองดู​สวนผัก​อยู่​บน​หน้าผา​ จิ๋งจิ่ว​รู้สึก​ว่า​ที่นี่​มิได้​พิเศษ​อะไร​ กระทั่ง​กอ​ไผ่​เหล่านั้น​ก็​ดู​ไม่ค่อย​มีชีวิตชีวา​ ไม่รู้​จริงๆ​ ว่า​เหตุใด​หลิ่ว​สือซุ่ย​ถึงไม่ยอม​ไป​เรือน​อี้​เหมา​

……

……

ฤดูหนาว​ไม่สามารถ​อบอุ่น​ร่างกาย​ได้​ แต่​สามารถ​อุ่น​หัวใจ​ได้​ หลิ่ว​สือซุ่ย​นั่ง​อ่าน​คัมภีร์​ธรรมะ​อยู่​บน​ม้านั่งยาว​ที่​ตั้งอยู่​ตรงหน้า​ประตู​ เสี่ยว​เห​อ​นั่ง​ปะ​รองเท้า​ให้​เขา​อยู่​ข้างๆ​

เมื่อ​เห็น​จิ๋งจิ่ว​และ​เจ้าล่า​เยวี่ย​เดิน​เข้ามา​ หลิ่ว​สือซุ่ย​ทั้ง​ตกใจ​และ​ดีใจ​ แต่​ที่​มากกว่า​นั้น​ก็​คือ​ไม่เข้าใจ​ เขา​รู้ดี​ว่า​คุณชาย​นั้น​เกียจคร้าน​เป็นอย่างมาก​ ไม่มีทาง​ที่​เขา​จะเดินทาง​มายัง​วัด​กั่วเฉิง​เพื่อ​เยี่ยม​ตน​เป็นการ​เฉพาะ​อย่าง​แน่นอน​ ยิ่งไปกว่านั้น​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​พวกเขา​เพิ่งจะ​ได้​เจอกัน​ ทั้ง​ยัง​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​วัง​ของ​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​ด้วยกัน​เป็นเวลา​หลาย​ปี​ด้วย​

เสี่ยว​เห​อ​รู้สึก​ตกใจ​ นิ้วมือ​ถูก​เข็ม​แทง​ก็​ยัง​ไม่รู้สึก​ นาง​รีบ​ลุกขึ้น​คารวะ​จิ๋งจิ่ว​ จากนั้น​คารวะ​เจ้าล่า​เยวี่ย​ ตามลำดับ​อาวุโส​ของ​ยอดเขา​เสินม่อ​แล้ว​ เจ้าล่า​เยวี่ย​เป็น​เจ้าแห่ง​ยอดเขา​ ย่อม​ต้อง​มีความ​อาวุโส​สูงสุด​ ดังนั้น​จึงควรจะ​คารวะ​นาง​ก่อน​ แต่​เสี่ยว​เห​อม​อง​เห็น​จิ๋งจิ่ว​ก็​รู้สึก​หวาดกลัว​ ไหน​เลย​จะคิดถึง​เรื่อง​เหล่านี้​ได้​

แขก​เดินทาง​มาเยือน​จะไม่ดื่ม​สุรา​ก็ได้​ แต่​หาก​มีญาติ​เดินทาง​มาเยี่ยม​ อย่างไร​ก็​ต้อง​กินข้าว​สัก​มื้อ​

กับข้าว​เต็มโต๊ะ​ ดู​อุดมสมบูรณ์​เป็นอย่างมาก​

จิ๋งจิ่ว​ไม่กินข้าว​ เขา​คีบ​ผักกาด​หอม​ต้น​ที่อยู่​ใน​ผัก​ดอง​รวม​ขึ้น​มา ยังคง​รู้สึก​ว่า​ค่อนข้าง​เปรี้ยว​ จึงวาง​ตะเกียบ​ลง​ไป​

เสี่ยว​เห​อ​เห็น​ความเคลื่อนไหว​ของ​เขา​ อด​รู้สึก​คับแค้น​อยู่​ใน​ใจเล็กน้อย​ไม่ได้​ จนกระทั่ง​เห็น​เจ้าล่า​เยวี่ย​กิน​ปลา​ตุ๋น​ไป​ตัว​หนึ่ง​ อารมณ์​จึงรู้สึก​ดีขึ้น​มาหน่อย​

หลัง​กินข้าว​เสร็จ​ เสี่ยว​เห​อ​ก็​ไป​เปลี่ยน​ชาใหม่​ให้​พวกเขา​ จิ๋งจิ่ว​พลัน​กล่าวถาม​ว่า​ “ทำไม​เจ้าถึงไม่ยอม​ไป​เรือน​อี้​เหมา​?”

นี่​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​ที่​เขา​ถามคำถาม​นี้​

หลิ่ว​สือซุ่ย​ก้มหน้า​ไม่พูด​อะไร​

จิ๋งจิ่ว​คิดถึง​ท่าทาง​ของ​เจ้าล่า​เยวี่ย​ที่​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​เจดีย์​ไม่ยอม​รับปาก​ตน​ รู้สึก​ค่อนข้าง​จนปัญญา​ ใน​ใจครุ่นคิด​ว่า​ทำไม​ถึงได้​ดื้อ​กัน​ขนาด​นี้​?

เจ้าล่า​เยวี่ย​ลุกขึ้น​พา​เสี่ยว​เห​อ​เดิน​ออก​ไป​จาก​กระท่อม​ เพื่อ​จะได้​ไม่รบกวน​การ​สนทนา​ระหว่าง​นาย​บ่าว​คู่​นี้​

“ข้า​จะไม่บอก​ใคร​”

จิ๋งจิ่ว​ให้สัญญา​

สำหรับ​เขา​แล้ว​ นี่​เป็นเรื่อง​ที่​พบเห็น​ได้​น้อย​มาก​

หลิ่ว​สือซุ่ย​ลุกขึ้น​ เดิน​ไป​หยิบ​เอา​กล่อง​ใบ​หนึ่ง​ออก​มาจาก​ใน​ช่อง​ลับ​แห่ง​หนึ่ง​

ภายใน​กล่อง​มีพัด​เล่ม​หนึ่ง​และ​พู่กัน​ด้าม​หนึ่ง​

จิ๋งจิ่ว​มองดู​พัด​เล่ม​นั้น​ กล่าวว่า​ “ธรรมดา​”

จากนั้น​เขา​มองดู​พู่กัน​เล่ม​นั้น​ สีหน้า​ขึงขัง​ขึ้น​มาเล็กน้อย​ กล่าวว่า​ “ไม่เลว​”

การ​ที่​สามารถ​ทำให้​เขา​สามารถ​วิจารณ์​ว่า​ไม่เลว​ได้​ นั่น​จะต้อง​เป็น​อาวุธ​วิเศษ​ที่​ร้ายกาจ​อย่าง​มาก​บน​แผ่นดิน​เฉาเทียน​อย่าง​แน่นอน​

ภายใน​กระท่อม​พลัน​มีเสียง​หวึ่งๆ​ ดัง​ขึ้น​มา

ฤดูหนาว​ไม่มียุง​ ใคร​กำลัง​ส่งเสียงร้อง​กัน​?

หลิ่ว​สือซุ่ย​พลัน​ยก​มือขึ้น​มาด้วย​สีหน้า​เหนื่อยใจ​ เพราะ​นี่​มิใช่ความตั้งใจ​ของ​เขา​

สร้อยข้อมือ​กระบี่​สีเงิน​ที่อยู่​บน​ข้อมือ​ของ​เขา​สั่นสะเทือน​ขึ้น​มาด้วย​ความเร็ว​สูง เสียงดัง​มาจาก​ตรงนี้​

สร้อยข้อมือ​สีเงิน​ส่งเสียงร้อง​หวึ่งๆ​ เหมือนกับ​ที่​หลิว​อา​ต้า​ส่งเสียงร้อง​เมี้ยวๆ​ ออกมา​ ทั้งคู่​ต่าง​กำลัง​เรียก​จิ๋งจิ่ว​ว่า​ มอง​ข้า​สิ มอง​ข้า​สิ

จิ๋งจิ่ว​คิดถึง​คันฉ่อง​ฟ้ากระจ่าง​ของ​สำนัก​จงโจว​ รู้สึก​ไม่พอใจ​มัน​อย่าง​มาก​ เขา​กล่าวว่า​ “หุบปาก​”

มือ​ของ​หลิ่ว​สือซุ่ย​ค่อยๆ​ วาง​ลง​ กระบี่​ไร้​อัตตา​ไม่กล้า​ส่งเสียง​อีก​ ภายใน​ห้อง​เต็มไปด้วย​บรรยากาศ​น้อยเนื้อต่ำใจ​

สายตา​ของ​จิ๋งจิ่ว​มอง​ไป​ยัง​ใบหน้า​ของ​เขา​ กล่าวว่า​ “ว่า​มา”

“เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​มีกั๋วกงคน​หนึ่ง​เดินทาง​มาแก้บน​ให้​ฝ่าบาท​ที่วัด​กั่วเฉิง​ ข้า​ได้​ทำความรู้จัก​กับ​ขุนนาง​คน​หนึ่ง​ จึงแอบ​สอบถาม​ดู​ ถึงได้​รู้​ว่า​ที่แท้​อาจารย์​เหยียน​เป็น​ศิษย์​ทรยศ​ของ​เรือน​อี้​เหมา​ ได้ยิน​ว่า​ตอนที่​ออกมา​จาก​เรือน​อี้​เหมา​ เขา​ได้​แอบ​ขโมย​พู่กัน​ครองเมือง​ออกมา​ด้วย​ หลังจากนั้น​ก็​ถูก​เรือน​อี้​เหมา​ไล่​ฆ่ามาโดยตลอด​ แต่​ข้า​มักจะ​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​มัน​มิได้​ดู​ง่ายดาย​แบบ​นั้น​ ข้า​ไม่รู้​ว่า​อาจารย์​เหยียน​ใช่คนดี​หรือเปล่า​ แต่​ข้า​กล้า​รับรอง​ได้​ว่า​เขา​เป็น​คน​ที่​ยินดี​ช่วยเหลือ​ผู้อื่น​ มิเช่นนั้น​แล้ว​เขา​คง​ไม่ตาย​เพราะ​ช่วยชีวิต​ข้า​….”

หลิ่ว​สือซุ่ย​เล่าเรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​ใน​ตอนนั้น​ออกมา​ คิดถึง​ภาพ​ที่​อาจารย์​เหยียน​แตกสลาย​กลายเป็น​เถ้าถ่าน​ น้ำตาไหล​ออกมา​อย่าง​เงียบๆ​

“ตอนนั้น​จักรพรรดิ​แห่ง​หมิง​ก็​ถูก​พู่กัน​เล่ม​นี้​พันธนาการ​เอาไว้​ จากนั้น​ก็​ถูก​ยันต์​เซียน​สยบ​เอาไว้​ หาก​ให้​เหล่า​บัณฑิต​ของ​เรือน​อี้​เหมา​รู้​ว่า​พู่กัน​เล่ม​นี้​อยู่​ที่​เจ้า คงจะ​เกิด​ปัญหา​ขึ้น​อย่าง​แน่นอน​”

จิ๋งจิ่ว​คล้าย​ว่า​มองไม่เห็น​น้ำตา​ของ​เขา​ กล่าว​ต่อว่า​ “….ดังนั้น​เจ้าก็​อย่า​ให้​พวกเขา​รู้​ก็​สิ้นเรื่อง​”

หลิ่ว​สือซุ่ย​ใช้แขน​เสื้อ​เช็ด​น้ำตา​ กล่าวว่า​ “แต่​ข้า​กลัว​ว่า​ถ้าไป​เรือน​อี้​เหมา​ ข้า​จะอดใจ​ไม่ไหว​จน​เผลอไป​สืบ​เรื่องราว​ใน​อดีต​ของ​อาจารย์​เหยียน​ หาก​เป็น​แบบ​นั้น​จะต้อง​สร้าง​ปัญหา​ให้​แก่​คุณชาย​อย่าง​แน่​นอ​น.​..ตอนนี้​ทุกคน​ต่าง​รู้​ถึงความสัมพันธ์​ของ​คุณชาย​กับ​ข้า​ ต่อให้​ท่าน​ไล่​ข้า​ออกจาก​สำนัก​มัน​ก็​ไม่มีความหมาย​”

จิ๋งจิ่ว​ถอนใจ​ออกมา​ กล่าวว่า​ “เจ้าก็​รู้​หรือ​?”

หลิ่ว​สือซุ่ย​กล่าวว่า​ “ใช่ขอรับ​ ดังนั้น​ข้า​ถึงได้​ไม่ยอม​ไป​เรือน​อี้​เหมา​”

จิ๋งจิ่ว​กล่าวว่า​ “แต่​ถึงอย่างไร​ปัญหา​ปราณ​ก่อกำเนิด​ใน​ร่างกาย​ของ​เจ้าต้อง​ทำการ​แก้ไข​ เจ้าลอง​คิด​เอา​เอง​แล้วกัน​ ถ้าไม่ได้​จริงๆ​ ก็​กลับ​ไป​คุก​กระบี่​ขอร้อง​หมา​ตัว​นั้น​”

หลิ่ว​สือซุ่ย​กล่าว​ “ข้า​เอง​ก็​รู้สึก​แบบนี้​จะดีกว่า​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ท่าน​ซือ​โก่​ว​ก็​ถือเป็น​ผู้อาวุโส​ของ​ข้า​ ยังไง​เขา​ก็​ต้อง​ไม่มีทาง​ปล่อย​ให้​ข้า​ตาย​โดย​ไม่ช่วย​ใช่ไหม​ขอรับ​?”

จิ๋งจิ่ว​กล่าวว่า​ “เรื่อง​นี้​เจ้าผิด​แล้ว​ ถ้าพูดถึง​เรื่อง​เห็น​คนตาย​แล้ว​ไม่ช่วย​ล่ะ​ก็​ นอกจาก​ชางหลง​แล้ว​ เจ้าหมา​ตัว​นั้น​ถือว่า​มีประสบการณ์​ที่สุด​แล้ว​ เพราะ​พวก​มัน​ต่าง​ทำหน้าที่​นี้​”

หลิ่ว​สือซุ่ย​งุนงง​เล็กน้อย​ กล่าวว่า​ “คุณชาย​ ตอนนี้​เหมือน​ท่าน​จะพูด​เยอะ​กว่า​แต่ก่อน​นะ​ขอรับ​”

จิ๋งจิ่ว​ลุกขึ้น​เดิน​ออก​ไปนอก​กระท่อม​ กล่าว​กับ​เจ้าล่า​เยวี่ย​ที่​กำลัง​มองดู​ภาพ​ทิวทัศน์​หิมะ​อัน​น่าเบื่อ​ว่า​ “ไป​”

เขา​กับ​เจ้าล่า​เยวี่ย​เดิน​ออก​ไป​ด้านนอก​สวนผัก​ เตรียม​จะเดินตาม​ทางขึ้น​เขา​กลับ​ไป​ยัง​วัด​ แต่กลับ​พบ​ว่า​หลิ่ว​สือซุ่ย​เดินตาม​อยู่​ด้านหลัง​ ดู​เป็นธรรมชาติ​

“อืม​?” จิ๋งจิ่ว​ส่งเสียง​อืม​ออกมา​

“คุณชาย​ ใน​เมื่อ​ท่าน​จะพัก​อยู่​ที่วัด​กั่วเฉิง​เป็นเวลา​นาน​ แล้​วจะ​ขาด​คนรับใช้​ไป​ได้​อย่างไร​ขอรับ​?”

เมื่อ​คิดถึง​ช่วงเวลา​ใน​อดีต​ตอน​อยู่​ที่​ชิงซาน​ อารมณ์​ของ​หลิ่ว​สือซุ่ย​ก็​ดีขึ้น​มาไม่น้อย​ เขา​ยิ้ม​พลาง​กล่าวว่า​ “จะว่า​ไป​หลัง​ออก​มาจาก​ศาลา​หนาน​ซงแล้ว​ ข้า​ก็​ไม่ได้​ทำ​เรื่อง​เหล่านี้​มานาน​หลาย​ปี​แล้ว​”

จิ๋งจิ่ว​ครุ่นคิด​ กล่าวว่า​ “ก็ดี​เหมือนกัน​”

ประตู​ใน​สวนผัก​ปิด​ลง​

เสียง​แอ๊ด​ดัง​ขึ้น​

คับแค้นใจ​ยิ่งนัก​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด