ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตาบทที่ 136 บุตรศักดิ์สิทธิ์เหนื่อยหรือไม่? (ต้น)

Now you are reading ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา Chapter บทที่ 136 บุตรศักดิ์สิทธิ์เหนื่อยหรือไม่? (ต้น) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 136 บุตรศักดิ์สิทธิ์เหนื่อยหรือไม่? (ต้น)

บทที่ 136 บุตรศักดิ์สิทธิ์เหนื่อยหรือไม่? (ต้น)

“โอ้ มีเรื่องแบบนี้อยู่ด้วยหรือ”

ยอดฝีมือมากมายสนอกสนใจ ปกติพวกเขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการคัดเลือกศิษย์มากนัก จึงไม่ได้รับรู้ข่าวนี้

ทว่าหากสามารถบดขยี้บันไดสวรรค์ได้ในสิบก้าว ฝีมือของผู้ฝึกยุทธ์ผู้นี้กล่าวได้ว่าน่าตะลึงนัก!

จะกล่าวว่าเป็นผู้เปี่ยมพรสวรรค์ร้อยปีมีครั้งก็ไม่เกินจริง ด้วยฝีมือเช่นนี้ การบ่มเพาะนั้นง่ายที่สุด และหากรับคนผู้นี้มาเป็นศิษย์ตนได้ ภายหน้าคนผู้นั้นก็อาจมีศิษย์เป็นผู้นำเหนือแดนดิน!

ถึงยามนั้น ทั่วทั้งแดนดิน ผู้ใดบ้างจะกล้าไม่ให้เกียรติ?

กระทั่งเจ้าสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์คนปัจจุบันและจักรพรรดินีแห่งแดนมัชฌิมยังต้องให้เกียรติเขาสามส่วน!

หญิงชราเหลือบหางตามองหลิงอวิ๋นและกล่าวขึ้นยิ้ม ๆ “ใช่แล้ว กล่าวกันว่าวันนั้น เจ้าสำนักแบ่งจิตเทวะส่วนหนึ่งออกไปและเป็นประจักษ์พยานเหตุการณ์นี้ด้วยตนเอง”

บรรพชนกระบี่เอ่ยปากทันที “เด็กคนนั้นคือผู้ใด บรรพชนผู้นี้อยากพบ!”

บรรพชนผู้ใช้ยันต์ตรงไปตรงมายิ่งกว่า “หากเขาเต็มใจจะกราบข้าเป็นอาจารย์ ข้าจะรับเขาเป็นศิษย์ในสำนักทันที และจะถ่ายทอดวิชาให้เลย!”

บรรพชนดาบไม่น้อยหน้า “หากเขากราบข้าเป็นอาจารย์ ดาบเก้าเวิ้งประจำกายข้านี่จะยกให้เขาเลย!”

ยอดฝีมือมากมายแทบงัดทุกสิ่งที่มีออกมา หวังเพียงจะให้คนผู้นี้เป็นศิษย์ตน

หญิงชรากล่าวเนิบ ๆ “พวกเจ้ารีบร้อนอะไรกัน คนผู้นี้เลือกอาจารย์ไปแล้ว”

ทุกคนพลันหยุดคิดหาวิธีเกลี้ยกล่อม หันไปถามว่า “เขาเลือกอาจารย์ผู้ใด?”

“บรรพชนหลิงอวิ๋นน่ะสิ…”

เสียงของหญิงชราชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะกล่าวอย่างแฝงนัย “ข้าเกรงว่าบรรพชนหลิงอวิ๋นได้ศิษย์เช่นนี้มา ในใจอาจสับสน กระทั่งศิษย์ใหม่จึงควบคุมไม่ได้”

“ผู้เหยียบย่ำบันไดสวรรค์น่าจะยังอยู่บนเรือบินอย่างนอบน้อม ทว่าบุคคลผู้ไม่รู้ว่ามาจากที่ใดนี้ยังหลับสบายอยู่ในเรือ!”

เมื่อทุกคนมองหลิงอวิ๋นหนนี้ สายตาของพวกเขาก็แปรเปลี่ยนไป

นางได้รับการเชื้อเชิญจากเจ้าสำนักสู่สำนักมายาศักดิ์สิทธิ์โดยตรงจริง ทว่าในแผ่นดินหยวนหงนี้ ความแข็งแกร่งคือสิทธิ์ขาด

ในหมู่บรรพชนทั้งหลาย ฐานการบ่มเพาะของหลิงอวิ๋นต่ำและด้อยวัยวุฒิที่สุด แม้นางจะมีฐานะเป็นผู้สืบทอดตระกูลหลิง หรือเป็นผู้ใช้หอกที่ทรงพลังเพียงใด ก็ยังไม่เพียงพออยู่ในสายตายักษ์ใหญ่เหล่านี้

ปกติแล้ว การกระทำตนโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ใดของหลิงอวิ๋นทำให้พวกเขาไม่สนใจนางมากนัก คิดกันว่าบรรพชนหญิงอายุน้อยผู้นี้เป็นแค่พวกไม่น่าชายตามอง

แต่ไม่คาดคิดเลยว่า ศิษย์ทั้งสองที่กราบหลิงอวิ๋นเป็นอาจารย์ แต่ละคนล้วนแข็งแกร่งไม่เป็นรองใคร!

ศิษย์เอกหยางอวิ๋นเพิ่งเข้าสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ไม่นาน ทว่ายามนี้เขากลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นไปแล้ว

และศิษย์คนรองกระทั่งเป็นยอดคนแห่งยุคสมัย ผู้เป็นหนึ่งเลื่องระบือทั่วแดนดิน!

ทุกคนหาได้สนใจไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เขารู้เพียงว่าหากปล่อยศิษย์เลิศล้ำเช่นนี้หลุดลอยไป มันจะเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่!

หากบรรพชนที่แข็งแกร่งคนอื่นรับเขาเป็นศิษย์ พวกเขาคงไม่ชอกช้ำใจกันเพียงนี้ เพราะถึงอย่างไร ผู้มีฝีมือก็ควรมีอาจารย์ที่แข็งแกร่งชี้นำ

ทว่าเขากลับกราบหลิงอวิ๋นเป็นอาจารย์…

หัวใจทุกคนล้วนขื่นขม ณ ที่นี้พวกเขาคนใดบ้างไม่แข็งแกร่งกว่าหลิงอวิ๋น?!

ไฉนคนผู้นั้นจึงไปกราบนางเป็นอาจารย์?!

ขอเพียงเขามีสมอง ในหมู่บรรพชนตั้งมากมาย เขาไม่เลือกหลิงอวิ๋นหรอก!

ทุกคนมีความคิดเดียวกันในใจ ต้องเป็นเพราะนางฉวยโอกาสที่ตนเป็นบรรพชนหนึ่งเดียวในยามนั้น ลวงคนผู้นั้นให้กราบตนเป็นอาจารย์แน่แท้!

เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก!

หลิงอวิ๋นย่อมรู้ว่าทุกคนวิจารณ์นางอยู่ในใจ นับแต่ยามที่ยอมรับลู่หยวนเป็นศิษย์ นางก็รู้แล้วว่าบรรพชนคนอื่น ๆ จะคิดแน่ว่านางฉกชิงศิษย์ผู้แข็งแกร่งไปก่อนใคร

และรู้เช่นกันว่าอธิบายเช่นไรก็ไร้ผล

บรรพชนหอกหรี่ตาลง และตอบด้วยเสียงแข็ง “อยู่ในเรือนั่น…”

ก่อนจะทันพูดจบ หญิงชราก็โบกไม้เท้า เกิดพลังอันแข็งแกร่งสายหนึ่งพุ่งไปยังห้องพักในเรือบิน

วายุหวีดหวิวคำราม ห้วงอากาศระหว่างทางถูกฉีกกระชาก เรือบินเองก็ถูกทะลวงเป็นรูมหึมาลึกไปถึงท้ายเรือ เมื่อเห็นว่าพลังนั้นกำลังจะทะลวงสู่พื้นที่นั้น ม่านตาของหลิงอวิ๋นก็หดตัว หอกสะบั้นนิลกาฬพลันพุ่งทะยานไป

ชั่วขณะนั้น ทั่วฟ้าดินเลื่อนลั่นสนั่นไหว

ตูม!

พลังนั้นและเจตจำนงหอกปะทะกัน ก่อนจะสลายไปโดยพร้อมเพรียง เรือบินทั้งลำสั่นสะท้านรุนแรง เหล่าศิษย์บนเรือบินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาล้วนหมอบตัวลง และมองหาเหล่ายอดฝีมือบนฟ้าอย่างหวาดหวั่น

ลมหายใจแผ่วเบาที่ท้องเรือหายไป… คนผู้นั้นตื่นขึ้นแล้ว

เหนือท้องนภา หญิงชราแค่นเสียงเย็นเยียบ “ข้าผู้นี้อยากสั่งสอนศิษย์ใหม่สักหน่อย ไฉนบรรพชนหลิงอวิ๋นต้องเข้ามาแทรกแซง หรือคนผู้นั้นก็เป็นศิษย์ของบรรพชนหลิงอวิ๋นด้วย? หรือว่าศิษย์ทั้งหมดที่เลือกมาจากแดนเหนือจะเป็นศิษย์บรรพชนหอกหมดทุกคน?”

แต่ละคำล้วนเสียดแทงหัวใจ!

ช่างเป็นหญิงชราที่ค่อนแคะกระแนะกระแหนเก่งไม่มีใครเกิน

อารมณ์ของยอดฝีมือคนอื่น ๆ เองก็หวั่นไหวเช่นกัน หลายคนซึ่งเคยคิดจะเกลี้ยกล่อมคนทั้งสองเริ่มเปลี่ยนไปเป็นความนิ่งเฉย หลายคนเลือกจะนั่งบนภูดูเสือกัดกัน

หลิงอวิ๋นเองก็ยืนอยู่ตรงข้ามบรรพชนทั้งหลายเป็นหนแรก ถ้อยคำมากมายผุดขึ้นในใจ กำลังจะปริปากกล่าว

ตูม!

เสียงดังสนั่นลั่นดังออกมาจากเรือบิน

ทุกผู้ทอดสายตาลงตาม และพบชายสวมชุดสีชาดห่มดำผู้หนึ่งเดินออกมาจากรูโหว่นั้น

ชายผู้นั้นถือหอกยาวเล่มหนึ่ง อำนาจมังกรรอบกายโผนทะยาน แววตาเจือจิตสังหาร

ขณะนี้ ทุกย่างก้าวทวีแรงกดดันประหนึ่งบุตรแห่งเทพ

“เจ้าหรือที่รบกวนการพักผ่อนของข้า?”

ดวงตาของลู่หยวนแข็งกร้าว หอกในมือเคลือบพลังวิญญาณชั้นหนึ่ง ขนดมังกรที่พันรอบหอกเริ่มเคลื่อนวน

ในใจขุ่นเคืองยิ่งนัก นอนอยู่ดี ๆ แท้ ๆ แต่พลังสายหนึ่งก็พุ่งเข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ยกตัวเขาขึ้นจากตักของไป๋ชิวเอ๋อร์แทบร่วงลงกองกับพื้น!

เหนือหมู่เมฆา หญิงชราแค่นเสียงเยียบเย็น อำนาจซึ่งเป็นของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ยุทธ์ทะยานลงใส่บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่

“เจ้าเด็กนี่โอหังนัก! รู้หรือไม่ว่าข้าคือใครถึงกล้าพูดจาไร้สัมมาคารวะเช่นนี้?! หากข้าโกรธขึ้นมาจะล้างตระกูลเจ้าให้สิ้น!”

ม่านตาของหลิงอวิ๋นหดตัว รีบร้อนเข้ามาห้าม “บรรพชนเสวียนระวังคำพูดด้วย!”

ในแผ่นดินหยวนหงนี้ ไม่มีผู้ใดกล้าพูดเรื่องอย่างล้างตระกูลของลู่หยวนกันหรอก

หากรู้ถึงตระกูลลู่หรือสำนักอักขระสวรรค์ เกรงว่าคงมีมรสุมละเลงเลือดบังเกิดทั่วแดนดินนี้เป็นแน่!

เห็นได้ชัดว่าหญิงชราหาได้เกรงกลัวไม่ “ด้วยฝีมือข้าผู้นี้ ไม่มีที่ใดในแผ่นดินหยวนหงที่ข้าไม่กล้าเหยียบย่ำ!”

“จริงหรือ?”

ขณะนี้ โทสะของลู่หยวนถูกระงับลงมาก เขาถือหอกอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานมังกรก็ทะยานออกจากหอกมาขนด อำนาจมังกรแผ่ซ่านรอบร่างของชายหนุ่ม สยบพลังของยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์ยุทธ์โดยรอบไว้หมดสิ้น

เขาลอยตัวขึ้นจากเบื้องล่าง ม่านตาเบิกขยาย ดวงเนตรจับจ้องตรงไปยังหญิงชราเหนือเวหา

บุตรศักดิ์สิทธิ์กล่าวแผ่วเบา “แค่จากวาจาเจ้า ก็น่าจะตายไปแปดร้อยหนแล้ว!”

หญิงชราเองก็เดือดดาล “โอหัง! สำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องการศิษย์เช่นเจ้า วันนี้ ข้าผู้นี้จะสะบั้นเนื้อร้ายอย่างเจ้าให้เอง”

พลังอันไร้ขอบเขตพลันกวาดไปทั่วทิศ ลมพายุหอบใหญ่โหมพัด ฟ้าดินทั่วทิศแปรสีสัน พลังอันบ้าคลั่งกดลงใส่บุตรศักดิ์สิทธิ์

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *