ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตาบทที่ 360 ฉู่เชิ่งลงมือ!

Now you are reading ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา Chapter บทที่ 360 ฉู่เชิ่งลงมือ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 360 ฉู่เชิ่งลงมือ!

บทที่ 360 ฉู่เชิ่งลงมือ!

ยามนี้ลู่หยวนสับสนกับการที่ฉู่เชิ่งกำลังต่อสู้เพียงลำพัง ถึงแม้จะเป็นบุตรแห่งโชคชะตา แต่เขาจะพิชิตเส้นชีพจรจักรพรรดิเพื่อกลายเป็นกองกำลังที่สามได้อย่างไร?!

แค่จู่โจมทีเผลองั้นหรือ?!

ฉู่เชิ่งพบสถานที่ซ่อนตัวก่อนจะหยุดนิ่ง บริเวณดังกล่าวอยู่ห่างจากเส้นชีพจรจักรพรรดิเพียงสองอึดใจเท่านั้น!

สองร่างที่อยู่เหนือท้องนภาต่อสู้กันหลายครั้งภายในไม่กี่อึดใจ

พลังของพวกเขายิ่งอ่อนกำลังขณะโลหิตยังคงไหลออกมาจากรูทวารทั้งเจ็ด

ทุกคนต่างก็มีความปรารถนาอยู่ในใจ ถึงกระนั้นก็ต้องรอคอยโอกาส

มู่พ่านซานก็ทราบเช่นกันว่าหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาจะถูกกินทั้งเป็น

เขาจึงรวบรวมพลังและปราณวิญญาณที่เหลือ โคจรไปยังกระบี่เพื่อเตรียมโจมตีเผด็จศึก

ต้วนเวิ่นเทียนก็มีความคิดไม่ต่างกัน หากยังปล่อยเอาไว้แบบนี้ ไม่เพียงจะไม่ได้เส้นชีพจรจักรพรรดิเท่านั้น ยังส่งผลต่อชีวิตด้วย!

พลังของอาวุธในมือทั้งสองคนยังคงเพิ่มขึ้นขณะฟาดฟันเข้าใส่กัน!

ทุกคนที่เฝ้ามองการต่อสู้ครั้งนี้เกิดความตื่นเต้น หากหนึ่งในนั้นถึงแก่ความตาย สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป!

ตู้ม!

อาวุธในมือของทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างรวดเร็วจนเกิดความโกลาหล ทำให้คลื่นอากาศนับไม่ถ้วนกระจายออกไปยังพื้นที่โดยรอบ

แสงสว่างเจิดจ้าสาดส่องไปทั่วทั้งวังจักรพรรดิแดนมัชฌิม จึงยากที่ผู้คนจะเห็นว่าอะไรขึ้นข้างในบ้าง

ยามนี้ลู่หยวนเพ่งเล็งร่างของฉู่เชิ่งไว้แล้ว!

มาถึงขนาดนี้แล้ว หมอนี่ย่อมไม่มีทางห้ามใจได้แน่นอน!

เพียงไม่กี่อึดใจ แสงก็สาดเข้ามา

ความสนใจของทุกคนล้วนอยู่บนท้องนภา พลางเฝ้ามองว่าใครจะสามารถยืนหยัดไหว

ฉู่เชิ่งเลือกลงมือในตอนนี้

เขาทะยานเข้าสู่เส้นชีพจรจักรพรรดิประหนึ่งลูกธนูที่พุ่งออกจากสาย

สวีชู่กับสวี่หลิวอวิ๋นอยู่ใกล้ฉู่เชิ่งมากที่สุด จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะทราบถึงตัวตนของคนคนนี้

แต่คาดไม่ถึงว่าในยามนี้ อีกฝ่ายจะพุ่งเข้ามาหาเพื่อฉกฉวยเส้นชีพจรจักรพรรดิ!

ฉู่เชิ่งรวบรวมปราณวิญญาณทั้งหมดในอากาศด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม หัวใจเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง

เขาทราบว่าตนกำลังจะช่วงชิงเส้นชีพจรจักรพรรดิที่ทุกคนทำได้เพียงอิจฉา!

หากได้มันมาอยู่ในมือ เขาก็จะกลายเป็นราชันของแดนมัชฌิมแห่งนี้!

ราชันฉู่เชิ่ง!

ฉู่เชิ่งเกิดความยินดีขึ้นมาเมื่อคิดถึงตรงนี้ แต่ขณะเดียวกันหัวใจของเขากลับเต้นระรัวด้วยความตื่นกลัวต่ออันตราย

เดิมเขามาที่นี่เพื่อรับดาบสามคมฉิวหลง แต่ทันทีที่เข้ามาก็พบกับอากาศแสบร้อนและทุกสิ่งที่ผิดแปลกไป

มีเรื่องใหญ่โตเกิดขึ้นในแดนมัชฌิม!

ประตูรอบข้างปิดสนิท ไม่มีผู้ใดเดินไปมาในแดนมัชฌิมซึ่งเคยเจริญรุ่งเรือง

ถึงแม้ไม่พบสิ่งใด แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ยิ่งมองเห็นภาพรวมของเรื่องราวได้ชัดเจน

นับแต่ที่ตัดสินใจจะพิชิตเส้นชีพจรจักรพรรดิ เขาได้คำนวณทุกย่างก้าวเอาไว้ในใจแล้ว

เขาเพียงรอให้มู่พ่านซานกับต้วนเวิ่นเทียนต่อสู้จนไร้เรี่ยวแรง จากนั้นค่อยลงมือ!

ฉู่เชิ่งทราบดีว่าผู้ที่ทรงพลังยิ่งกว่าตนเองล้วนมีความลังเล พวกเขายังคงเฝ้ามองสถานการณ์จนไม่กล้าเคลื่อนไปข้างหน้า!

แต่เขากล้า!

ชีวิตเป็นของเขา ไม่ใช่ของทวยเทพ!

หากครั้งนี้ฉู่เชิ่งพิชิตมันได้ ย่อมเป็นการพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน!

บัดนี้เขาเหมือนกับอยู่ห่างจากชัยชนะเพียงก้าวเดียวเท่านั้น!

ฉู่เชิ่งมาถึงม่านภายนอกของเส้นชีพจรจักรพรรดิท่ามกลางสายตาประหลาดใจของทุกคน

ขอเพียงโล่นี้พังทลาย ทุกสิ่งก็อยู่เพียงแค่เอื้อม!

ฉู่เชิ่งรวบรวมเปลวเพลิงสามชนิดในร่าง ก่อนที่พลังทั้งหมดจะระเบิดออกมาในทันที

เขาประสานมือเข้าหากันขณะที่พลังนับไม่ถ้วนเคลื่อนเข้ามา

ย้าก!

สิ้นเสียงตะโกนของฉู่เชิ่ง เขาพลันแบมือออก ก่อนดอกบัวขนาดเล็กจะก่อตัวขึ้น

มันสำแดงพลังมหาศาลทันทีที่ปรากฏออกมา

ไม่มีใครกล้าดูถูกมัน!

แม้กระทั่งสวีชู่กับสวี่หลิวอวิ๋นก็ยังตกตะลึง เมื่อเห็นบัวดอกนั้น แรงกดดันของมันไม่ได้ด้อยไปกว่ามู่พ่านซานเลย!

“ทะลวง!”

ฉู่เชิ่งพลันปลดปล่อยดอกบัวเข้าบดขยี้ม่านป้องกัน

มู่พ่านซานยืนอยู่ในอากาศ ขณะเฝ้ามองบุคคลนิรนามพยายามทำการทะลวงม่านป้องกันในสภาพหอบหายใจ

หากเป็นผู้อื่นก็ว่าไปอย่าง ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีกำลังจะทำได้ แต่บัดนี้ฉู่เชิ่งครอบครองเปลวเพลิงสามชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเพลิงสวรรค์!

เปลวเพลิงที่ก่อตัวจากมหาโชคชะตานี้มีโอกาสทะลวงม่านป้องกันได้!

แต่ยามนี้เขาไม่มีปราณวิญญาณเหลือมากนัก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดยั้งฉู่เชิ่ง!

ตระกูลที่กำลังลังเลต่างรู้สึกเสียดายเมื่อเห็นตัวตนของอีกฝ่าย ต่อให้ลงมือตอนนี้ก็ไม่มีทางชิงความได้เปรียบจากบุคคลนิรนามได้!

ดอกบัวในมือของฉู่เชิ่งกำลังจะระเบิดม่านป้องกัน!

เขาเริ่มเฉลิมฉลองอยู่ในใจ ขอเพียงครอบครองเส้นชีพจรจักรพรรดิได้ เขาย่อมได้ทุกสิ่งที่ต้องการ!

แม้กระทั่งลู่หยวนและตระกูลชิวก็ต้องสงวนท่าทียามอยู่ต่อหน้า!

ส่วนคนที่เคยดูถูกจะต้องเงยหน้ามองแล้วใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ลมหายใจของเขา

เมื่อดอกบัวกำลังจะสัมผัสม่านป้องกัน เจตจำนงกระบี่และเจตจำนงหอกพลันพุ่งลงมาจากสวรรค์ชั้นเก้า ตรงเข้าหาฉู่เชิ่งเพื่อจะหมายจะปลิดชีพ

วิ้ง!

เจตจำนงกระบี่เคลื่อนเข้าหาดอกบัวก่อนจะกระแทกมันไปทางด้านข้าง

ดอกบัวที่มีเปลวเพลิงสามชนิดรวมตัวกันพลันหันเหไปด้านข้าง ก่อนจะกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง

ตู้ม!

เปลวเพลิงลุกลามไปตามพื้นดินทันที ทำให้อากาศนับไม่ถ้วนถูกเปลวเพลิงกลืนกิน

รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เชิ่งพลันแข็งทื่อ ทั้งที่ม่านป้องกันยังคงมีสภาพสมบูรณ์อยู่ตรงหน้า

ส่วนดอกบัวเพลิงที่เขารีดเค้นพลังเพื่อรวบรวมมันขึ้นมากลับแยกออกจากกัน!

เขามองเจตจำนงกระบี่ ก่อนจะพบว่ามีคนผู้หนึ่งยืนเอามือไพล่หลังอยู่ในอากาศ อีกฝ่ายเองก็จ้องมองมาด้วยสายตาเย็นชาประหนึ่งกำลังมองมดปลวกไร้ค่า

ส่วนด้านข้างคนผู้นี้มีหญิงสาวยืนหยัดพร้อมหอก นางสวมชุดสีแดงร้อนแรงด้วยสีหน้าเย็นชา เมื่อมองฉู่เชิ่งผู้อยู่เบื้องล่าง นางยิ่งขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ

“หลิงอวิ๋นหรือ?!”

ฉู่เชิ่งจำร่างที่ยืนหยัดพร้อมหอกได้ทันที

ทันใดนั้น หัวใจของเขาก็เย็นยะเยือก

ก่อนจะทันได้คิดอะไรมากไปกว่านี้ เขาเห็นเจตจำนงหอกสูงสุดกำลังเคลื่อนลงมาเพื่อบดขยี้ทุกสิ่งตรงหน้า!

ฉู่เชิ่งโคจรปราณวิญญาณที่เหลือในร่างกายเพื่อรวบรวมเปลวเพลิงทั้งสามขึ้นมาใหม่ ทำให้ดอกบัวที่มีขนาดเล็กก่อตัวขึ้นมาก่อนจะถูกปล่อยขึ้นสู่ท้องนภา

ตู้ม!

ดอกบัวและเจตจำนงหอกเข้าปะทะกันจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว!

พื้นดินนับไม่ถ้วนพังทลาย

ฉู่เชิ่งเงยหน้าขึ้นเพื่อเอ่ยบางอย่าง แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยมาจากอากาศ

“ฉู่เชิ่งหนอฉู่เชิ่ง คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้ากลับมาอีก ช่างรนหาที่ตายเสียจริง!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด