ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตาบทที่ 261 ข้าหาได้โกหกเจ้าไม่

Now you are reading ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา Chapter บทที่ 261 ข้าหาได้โกหกเจ้าไม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 261 ข้าหาได้โกหกเจ้าไม่

บทที่ 261 ข้าหาได้โกหกเจ้าไม่

มู่พ่านซานรวดเร็วมาก แต่ในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ เขาก็กลับมาที่ซากปรักหักพังวิหคเพลิงอีกครั้ง

ในเวลานี้ฮ่วนซิงไป๋ยังคงอยู่กับจักรพรรดินี และค่อนข้างงุนงงเมื่อเห็นอีกฝ่ายกลับมา

ไปเร็วมาเร็วขนาดนั้นได้อย่างไร?

จักรพรรดินีไอสองสามครั้ง นางระงับความสงสัยในใจและรอคอยเงียบ ๆ อย่างไรเสีย ร่างกายปัจจุบันก็ไม่สามารถใช้พลังงานมากมายไปกับการคิดเรื่องนี้ได้

ส่วนฮ่วนซิงไป๋ยังคงยืนอยู่ที่เดิม เมื่อมองไปมู่พ่านซานก็รู้สึกโล่งใจ แม้ความเจ็บปวดจะกัดกินกล้ามเนื้อ แต่เขาก็พยายามลุกขึ้นอย่างสั่นเครือ

ในใจเปี่ยมสุขนักเมื่อเห็นอีกฝ่ายกลับมาอย่างรวดเร็ว ราชองรักษ์อาจหาลู่หยวนไม่เจอ!

เท่านี้บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ก็ปลอดภัยแล้ว…

มู่พ่านซานเดินไปสองสามก้าว ความสับสนปรากฏขึ้นบนใบหน้า เขามองไปข้างในซากปรักหักพังวิหคเพลิงพลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง คิ้วขมวดแน่น

จักรพรรดินีเห็นดังนั้นจึงตรัสถาม “เกิดอะไรขึ้น?”

ราชองรักษ์ยกมือขึ้นทำความเคารพ “ฝ่าบาทโปรดรอสักครู่ ให้เวลากระหม่อมอีกเล็กน้อย”

หลังจากพูดจบมู่พ่านซานก็สะบัดแขนเสื้อมุ่งหน้าไปยังดินแดนเก้าวิหคเพลิง

ที่นี่ฉู่เชิ่งได้รับสืบทอดโชคชะตาบางอย่าง อาการบาดเจ็บทั่วร่างจึงหายเป็นปลิดทิ้งทันที

เขาลืมตาด้วยความงุนงง ก่อนจะยืนหยัดลุกขึ้น

เมื่อสงบสติอารมณ์ได้ บุตรแห่งโชคชะตาฉู่ก็รู้สึกได้ถึงพลังอันไร้ขอบเขตในร่างกายของตัวเอง กลิ่นอายอันอบอุ่นห่อหุ้มร่างเขาไว้

ทันทีที่ฉู่เชิ่งยื่นมือออกไป เปลวไฟก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือ

แม้ว่าเปลวไฟจะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีร่องรอยความแข็งแกร่ง!

เพลิงลุกโชนวูบไหว…

ฉู่เชิ่งรู้สึกว่าเพลิงเหมันต์สงัดในร่างกายของเขาหวาดกลัวและยอมจำนนต่อเปลวเพลิงนี้

เขาเข้าใจทันทีว่าตนเองได้รับสืบทอดโชคชะตาอันยิ่งใหญ่แล้ว!

เปลวไฟที่สามารถทำให้แม้แต่เพลิงเหมันต์สงัดหวาดกลัว ถ้าเขาเดาถูกต้อง นี่คงจะเป็นเพลิงสวรรค์ของเผ่าวิหคเพลิง!

เพลิงสวรรค์อยู่ในครอบครอง เพลิงวิญญาณทั้งหมดในโลกจะยอมจำนนต่อเขา!

ฉู่เชิ่งหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในใจ

เขาเก็บเพลิงสวรรค์และกำลังจะโคจรพลังวิญญาณของตน ก่อนพบว่าในทะเลลมปราณของตนมีคัมภีร์ที่ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟอยู่

ครั้นมองอย่างตั้งใจก็จะเห็นเปลวไฟลุกโชนอยู่เหนือคัมภีร์ที่มีคำว่า ‘เคล็ดวิชาอัคคี’ สลักไว้!

ขณะที่บุตรแห่งโชคชะตากำลังสงสัย เขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากห้องโถง “เจ้าหนุ่ม เรามีโชคชะตาร่วมกัน ข้าจึงถ่ายทอดเคล็ดวิชาอัคคีนี้แก่เจ้า เจ้าจะสามารถฝึกฝนได้เพียงไหนนั้นขึ้นอยู่กับโชคชะตาของเจ้าเอง!”

เสียงนั้นจางหายไป คัมภีร์ในทะเลลมปราณก็สั่นไหว ก่อนพลิกหน้าถัดไป

ภายในมีคำห้าคำเขียนไว้ด้วยพู่กันอย่างน่าประทับใจ “วิชาเพลิงสวรรค์ผลาญพิภพ”

“วิชาเพลิงสวรรค์ผลาญพิภพ?!”

หัวใจของฉู่เชิ่งสั่นสะท้าน ผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ ร่างกายของเขาก็หยุดสั่นไม่ได้

“ฮะ ฮ่า ๆๆๆ”

เสียงหัวเราะด้วยความหยิ่งผยองดังขึ้นในตำหนัก ฉู่เชิ่งรู้สึกปลาบปลื้มในใจเป็นอย่างมาก

ต้องรู้ว่าวิชาเพลิงสวรรค์ผลาญพิภพนี้แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเคล็ดอัคคี มันคือเคล็ดอัคคีสูงสุด!

เคล็ดอัคคีนี้สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิเหยียนผู้ปราบเพลิงวิญญาณทั้งหมด!

มีเพียงวิชานี้เท่านั้นที่สามารถนำเพลิงวิญญาณทั้งหมดมารวมกันอีกครั้ง!

ด้วยเคล็ดวิชาอัคคีนี้ เพลิงวิญญาณเก้าสิบเก้าดวงถูกสังเวย และอัญเชิญ ‘เพลิงไร้วิถี’ ที่แกร่งยิ่งกว่าเพลิงสวรรค์!

ตำนานเล่าว่าจักรพรรดิเหยียนถือเพลิงไร้วิถี สังหารเซียนสวรรค์สามคน ขึ้นเป็นเทพเซียน ก้าวขึ้นสู่สวรรค์!

รอยยิ้มของฉู่เชิ่งลดลงเล็กน้อย ร่องรอยความคาดหวังในดวงตาจางลงไป ความปีติเข้ามาแทนที่

ลู่หยวน…

มู่พ่านซาน…

และพวกที่ดูถูกข้า พวกเจ้ารอข้าก่อนเถอะ!

เมื่อข้าเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาอัคคีนี้แล้ว ข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเป็นผีไม่มีศาล

“เจ้าหนุ่ม ข้าหวังว่าเจ้าจะฝึกฝนอย่างหนัก อย่าทำให้ข้าผิดหวัง!”

เสียงที่ไม่มีตัวตนดังขึ้นอีกครั้ง ฉู่เชิ่งก็ดึงสติกลับมา

บุตรแห่งโชคชะตามองไปที่รูปปั้นหินหลายองค์ในตำหนัก เขาพอจะรู้ว่าการสืบทอดนี้ได้จากจิตสำนึกของยอดฝีมือที่หลงเหลือไว้ในดินแดนเก้าวิหคเพลิง

ฉู่เชิ่งคุกเข่าลงต่อหน้ารูปปั้นหินในโถงใหญ่ โค้งคำนับสองสามครั้งด้วยความเคารพ “ผู้น้อยฉู่เชิ่งขอบคุณผู้อาวุโส!”

“ฝึกฝนให้ดี และเข้าถึงวิถีสวรรค์โดยเร็ว”

เสียงนั้นจางหายไปและโถงก็กลับมาสงบอีกครั้ง

ฉู่เชิ่งลุกขึ้นยืน กลิ่นคาวเลือดเข้มข้น ตัวเขาเองก็รู้สึกขยะแขยงเล็กน้อย จึงเปลี่ยนอาภรณ์ทันที

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เขาก็เดินออกจากโถงด้วยรอยยิ้ม

มู่พ่านซานออกไปแล้ว น่าจะไปตามหาลู่หยวน!

นั่นหมายความว่า จะไม่มีใครเห็นเขาออกจากที่แห่งนี้

เขาต้องหาที่ซ่อน รอสองสามวันแล้วค่อยไปที่ตำหนักก่อนหน้านี้ ที่นั่นยังมีเจตจำนงแห่งดาบรออยู่!

ฉู่เชิ่งตัดสินใจและทะยานออกไปที่ด้านนอกของโถงทันที

ทันใดนั้นเอง…

ตูม!

เกิดเสียงดังกึกก้องพร้อมกลิ่นอายที่ทรงพลังพุ่งออกมาจากทางเข้าโถงใหญ่ กระแทกประตูแตกกระจาย

ร่างหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมแสงจ้าที่แผ่นหลัง ลมหายใจหนักอึ้ง และพลังวิญญาณถูกยับยั้ง

ฉู่เชิ่งมองอย่างตั้งใจ เห็นเพียงว่าคนที่มาอย่างดุดันก็คือมู่พ่านซาน!

รูม่านตาของบุตรแห่งโชคชะตาหดตัว ในใจตื่นตระหนก

ทำไมมู่พ่านซานจึงกลับมาเล่า?!

เขาเพิ่งออกไปได้ไม่นานมิใช่หรือ?!

พบลู่หยวนแล้วหรือ?!

มู่พ่านซานกวาดสายตามองฉู่เชิ่ง ก็รู้ว่าบนร่างของศิษย์ยอดเขาดาบไม่ได้รับบาดเจ็บแล้ว ลมหายใจของอีกฝ่ายก็กลับมาเป็นปกติ เห็นได้ชัดว่าเจ้าหนุ่มนี่กลับสู่สถานะสูงสุดของตัวเองแล้ว

“ฉู่เชิ่งเจ้าตัวดี กล้ามาปั่นหัวข้าเล่นรึ!”

ราชองครักษ์โกรธเกรี้ยว เขาเห็นอีกฝ่ายมีสภาพเช่นนี้ก็พอจะคาดเดาเรื่องราวได้บ้าง

“เจ้าวางแผนเรื่องนี้เอาไว้กระมัง!”

“ที่บอกว่าลู่หยวนสลับตำแหน่งกับเจ้า ก็เป็นเพียงการหลอกข้าเท่านั้นใช่หรือไม่!”

“เจ้ามีเล่ห์เหลี่ยมมิใช่น้อย หลังจากถูกข้าโจมตีหลายครั้ง ยังยืนหยัดได้!”

“ฮึ! ถ้าข้าเดาไม่ผิด เจ้าคือผู้มีพลังสลับที่! เจ้าค้นพบว่าสุสานราชวงศ์อยู่ที่ใด ในใจจึงบังเกิดความละโมบ หมายจะขโมยสมบัติทั้งหมดไป!”

“แต่ก่อนที่เจ้าจะลงมือ เจ้าได้พบกับท่านบรรพชน! เจ้าใช้กลอุบายเคลื่อนไหวเพื่อกลับไปยังดินแดนเก้าวิหคเพลิงและได้พบกับข้า!”

“เจ้าโกหกและป้ายสีว่าลู่หยวนทำทุกอย่าง จากนั้นก็เล่าเรื่องสุสานราชวงศ์ จงใจหลอกล่อให้ข้าออกไป!”

“หลังจากนั้น เจ้าก็กลับไปที่นั่นอีกครั้ง ทำลายล้างดวงวิญญาณของบรรพบุรุษที่หลงเหลืออยู่ ขโมยสมบัติ และกลับมาที่นี่ใช่หรือไม่”

ในทุกคำพูดของมู่พ่านซาน เขาสะกดอารมณ์โกรธไว้ด้วยความอัปยศอย่างถึงที่สุด

หึ! เขาคือมู่พ่านซานเชียวนะ!

เป็นองครักษ์คนสนิทของจักรพรรดินี ผู้ทรงอำนาจสูงสุดที่สามารถเขย่าโลกทั้งใบด้วยการกระทืบเท้า แต่วันนี้เขาถูกเจ้าหน้าละอ่อนปั่นหัวเล่น!

หากเรื่องนี้เล่าลือออกไป เกรงว่าจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะจนฟันหลุด!

ส่วนฉู่เชิ่งฟังสิ่งที่มู่พ่านซานพูดด้วยสีหน้ามึนงง พึมพำเป็นเวลานาน “ข้าหาได้โกหกท่านไม่!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด