ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตาบทที่ 200 ฉู่เชิ่ง? ไอ้เดรัจฉาน?

Now you are reading ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา Chapter บทที่ 200 ฉู่เชิ่ง? ไอ้เดรัจฉาน? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 200 ฉู่เชิ่ง? ไอ้เดรัจฉาน?

บทที่ 200 ฉู่เชิ่ง? ไอ้เดรัจฉาน?

ค่ายกลพังทลาย แสงสว่าง และธุลีมลายหาย ชายหนุ่มในชุดสีดำคนหนึ่งย่างเท้าเข้าสู่ความว่างเปล่า มือของเขาถือดาบที่ห้อมล้อมด้วยเปลวเพลิงสีน้ำเงิน ราวกับเซียนดาบจุติสู่โลกหล้า

“ฉู่เชิ่งคนนี้ถึงกับทะลวงค่ายกลปกป้องยอดเขาที่ติดตั้งโดยบรรพชนหลิงอวิ๋นงั้นหรือ?!”

“ฉู่เชิ่งแค่ออกไปหาประสบการณ์มาสองปี แต่กลับมาก็น่าสะพรึงขนาดนี้เชียวหรือ?! ที่นี่ก่อตั้งโดยบรรพชนหลิงอวิ๋น หากไม่ใช่ครึ่งก้าวสู่ปรมาจารย์ยุทธ์ ย่อมไม่สามารถทะลวงได้!”

“ฉู่เชิ่งผู้นี้มาที่นี่เพื่อหาเรื่องลู่หยวน!”

“ข้าก็คิดอย่างนั้น การที่ฉู่เชิ่งผู้นี้กลับมาเพราะทราบเรื่องที่ยอดเขาดาบสูญสิ้นไปแล้ว เมื่อครู่เขายังตะโกนอยู่หน้ายอดเขาไม่ใช่หรือ?”

“นี่ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง แสดงว่าต้องมีการต่อสู้ระหว่างลู่หยวนกับฉู่เชิ่งเป็นแน่!”

“เท่าที่ดู คิดว่าใครชนะ?”

หลังจากพากันตั้งคำถาม หลายคนจึงหันสายตามองตาม

“ข้าคิดว่าลู่หยวน!”

“ข้าก็เหมือนกัน”

“ข้าเองก็คิดแบบนั้น”

คำพูดของทุกคนเข้าหูของฉู่เชิ่ง อีกฝ่ายมองค่ายกลที่พังทลายตรงหน้า มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา

ลู่หยวนปะทะกับตัวเขา แล้วจะชนะหรือ?

ตลกสิ้นดี!

เรื่องที่ลู่หยวนสามารถล้างสังหารทั้งยอดเขาดาบได้ เขาได้ยินมาจากผู้คนรอบข้างแล้ว

บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ผู้นี้น่าจะเป็นคนที่เลือกเดินบนวิถีชั่วร้าย

มันใช้เล่ห์เหลี่ยมกับอาจารย์ซุนอวิ๋นถิง เพื่อให้ท่านลงมือสังหาร จนผู้คนจำนวนมากบนยอดเขาดาบสูญสิ้น

เหอะ มันก็แค่มารยาทั่วไป จะไปทำเรื่องใหญ่ให้สำเร็จได้อย่างไร?!

อีกอย่าง ตอนนี้เขาไม่ใช่ฉู่เชิ่งตัวน้อยที่แสนอ่อนแออีกต่อไปแล้ว เพราะวิญญาณที่อยู่ในใจคือผู้สืบทอดของเผ่าพยัคฆ์โลหิต!

ต้องทราบก่อนว่า เผ่าพยัคฆ์โลหิตนี้เป็นการผสมผสานระหว่างสัตว์เทวะวิหคเพลิงกับสัตว์เทวะพยัคฆ์ขาว พลังของมันจึงสืบทอดมาจากสัตว์เทวะทั้งสอง ถึงแม้สายเลือดจะอ่อนแอไปมาก แต่พลังของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าเผ่าพันธุ์ที่มีสายเลือดสัตว์เทวะแม้แต่น้อย!

เพราะมีท่านหู่อยู่ด้วย ต่อให้ลู่หยวนจะหาทางพลิกกระดานได้ แต่ท่านหู่ก็ยังสามารถโค่นอีกฝ่ายลงได้!

เมื่ออำนาจค่ายกลจางหาย ยอดเขาหอกถูกเปิดเผยอย่างสมบูรณ์ ทุกคนจ้องมองเข้าไป พบเห็นสิ่งปลูกสร้างสูงระฟ้าปรากฏแก่สายตา แต่ไม่มีใครอยู่ที่นั่น

ก่อนที่ใครบางคนจะเห็นแสงสว่างเลือนรางสาดส่องที่มุมหนึ่งของยอดเขาหอก เป็นมังกรขนาดเล็กที่กำลังลอยอยู่เหนือแสงสว่างดังกล่าว

“นั่นมัน! มังกรเจินหลง! ลู่หยวนน่าจะอยู่ที่นั่น!”

ทุกคนเงยหน้าขึ้น ก่อนพากันพยักหน้า

“กลิ่นอายที่แผ่ออกมาเป็นของบุตรศักดิ์สิทธิ์แน่นอน ดูท่าลู่หยวนจะอยู่ที่นั่น!”

ครั้งนี้ดวงตาของฉู่เชิ่งจับจ้องไปที่มังกรเจินหลงเช่นกัน เสียงของท่านหู่ดังขึ้นในใจ

“หืม? นั่นคือมังกรเจินหลง?!”

“ชิ มันคือสัตว์เทวะแท้จริง! ไม่ใช่ว่าสูญพันธุ์ไปนานแล้วหรอกหรือ?!”

ฉู่เชิ่งมองมังกรเจินหลงขนาดเล็กด้วยสายตากระตือรือร้น “ท่านหู่พูดจริงหรือ? มันคือมังกรเจินหลงหรือ?”

ท่านหู่จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้ฉู่เชิ่งกำลังคิดอะไรอยู่?

เขาเผยยิ้มบาง น้ำเสียงลุ่มลึกเอ่ยคำอีกครั้ง “ท่านหู่ จงรับชมเถอะว่าเด็กน้อยของท่านมีวาสนาเพียงใด จึงได้พบเจอของดีเพียงนี้!”

“ท่านไม่เห็นหรือ มันคือสัตว์เทวะมังกรเจินหลงเชียวนะ! ยิ่งกว่านั้น มันยังไม่ได้ทำสัญญาแห่งโชคชะตาด้วย! หากได้มันมา ข้าย่อมก้าวสู่ขั้นปรมาจารย์ยุทธ์ในเร็ววันแน่!”

สายตาละโมบของฉู่เชิ่งเผยบางเบา เขาเลียริมฝีปาก ดวงตาหลุบต่ำขณะมองไปยังถ้ำที่ถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา

“ลู่หยวนอยู่นั่น”

ฉู่เชิ่งยังไม่ทันกล่าวจบ ท่านหู่ก็กล่าวขึ้นมาว่า “ไม่ต้องห่วง ข้าตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เขาอยู่แค่ครึ่งก้าวสู่ขั้นเทียมเทพเท่านั้น ไม่ได้ดีไปกว่าเจ้าหรอก!”

“เจ้าอยู่ขั้นเทียมเทพระดับกลาง แต่สามารถฆ่าครึ่งก้าวสู่ขั้นปรมาจารย์ยุทธ์ในแดนลับหุบเขาเมฆาได้ ยังมีอะไรให้กลัวอีก?”

“ไม่ต้องห่วง ข้ารู้เรื่องเคล็ดวิชาที่อีกฝ่ายใช้เช่นกัน มันเป็นเพียงอุบายที่ทำให้ผู้คนสับสน ข้าสามารถคลี่คลายให้เจ้าได้!”

“มังกรเจินหลง สุดท้ายจะต้องตกมาอยู่ในมือเจ้าแน่!”

เมื่อได้ยินท่านหู่กล่าวเช่นนั้น ฉู่เชิ่งก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาก

ฉู่เชิ่งละสายตาจากมังกรเจินหลง “ถ้าอย่างนั้น ข้าจะปล่อยให้มันรอดอีกสักหน่อยแล้วกัน พอได้รางวัลจากการแข่งขันภายในแล้ว ข้าจะมุ่งหน้าสู่ตำหนักจักรพรรดิแดนมัชฌิมก่อนแล้วค่อยมาคิดบัญชีกับมันอีกครั้ง!”

ท่านหู่พยักหน้า “ใช่! ตอนนี้เพียงจัดฉากให้เรียบร้อยก็พอ!”

ฉู่เชิ่งหรี่ตาเล็กน้อย โทสะทั่วท้องนภาพลันระเบิดออกมา สายลมรอบข้างโหมกระหน่ำ พลังวิญญาณนับไม่ถ้วนกระจัดกระจาย

ดาบในมือของเขาสั่นไหว ปราณดาบนับไม่ถ้วนทะยานออกไป ปราณดาบจำนวนมากเข้าสู่สายลมอันแรงกล้า

ทันทีที่กลิ่นอายกระจายออกไป หลายคนที่อยู่ใกล้ฉู่เชิ่งต่างรู้สึกหายใจไม่ออก

“ลู่หยวน!”

กลิ่นอายของฉู่เชิ่งลึกล้ำ ดวงตาของเขาแดงก่ำ

“จงไสหัวออกมาพบข้าเดี๋ยวนี้!”

ฉู่เชิ่งชี้ดาบไปยังที่ที่ลู่หยวนเก็บตัวอยู่ ก่อนฟาดฟันออกไป

ปราณดาบพุ่งทะยานออกไปเพื่อโจมตีเข้าใส่ชั้นแล้วชั้นเล่า มันไม่ต่างจากพลังของคลื่นขนาดใหญ่ที่ซัดสาดไม่หยุด

ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!

พลังวิญญาณรอบข้างถูกปราณกระบี่ฟาดฟัน ทำให้เกิดเสียงคำรามขนาดใหญ่

ชั้นของปราณดาบกวาดออกจากถ้ำที่ปิดสนิทในทันที

ตอนนี้ กลิ่นอายหนึ่งพลันปรากฏ มุมปากของฉู่เชิ่งยกขึ้น

กลิ่นอายนี้เป็นของเฉิงไท่!

แน่นอนว่าทุกสิ่งเป็นไปตามแผนของเขา!

เฉิงไท่ต้องปกป้องลู่หยวนอยู่แล้ว ขอเพียงอีกฝ่ายลงมือ ฉู่เชิ่งย่อมไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยพละกำลังตอนนี้อย่างแน่นอน ถึงตอนนั้น ฉู่เชิ่งจะต้องถูกเฉิงไท่กำราบ และถูกส่งตัวไปที่อื่น

หากไม่คำนึงถึงเหตุผลนี้ เฉิงไท่ยังคงติดคำอธิบายต่อทั่วทั้งยอดเขาดาบ ไม่ว่าวันนี้ฉู่เชิ่งจะทำตัวโอหังอย่างไร เฉิงไท่ย่อมทำเป็นมองไม่เห็นและยอมให้เขาเข้าร่วมการแข่งขันภายในอย่างแน่นอน!

ต่อให้สุดท้ายเฉิงไท่จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังได้อยู่ในสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ ยังได้ใช้ไพ่ตายที่ไม่ถูกสำแดงออกมา!

ทุกสิ่งเป็นไปตามแผนของเขาแล้ว!

ปราณดาบที่อยู่ไกลออกไปทรงพลังยิ่ง มันกระจายออกมาทีละชั้น ก่อนกระทบเข้ากับถ้ำ

วั่งไฉที่วนเวียนไปมาสัมผัสกลิ่นอายนี้ได้ มันกวัดแกว่งหาง ก่อนจะทะยานขึ้นสู่ท้องนภา

ตูม!

ปราณดาบไร้ที่สิ้นสุดกระแทกลงมา บดขยี้ถ้ำทั้งหมดในทันที ท้องนภาเต็มไปด้วยธุลี บดบังยอดเขาหอกเกือบหมดสิ้น

ฉู่เชิ่งขมวดคิ้ว เขาหันไปมองเฉิงไท่ที่ยืนอยู่ในความว่างเปล่าโดยไม่รู้ตัว สายตาเผยความสงสัย

เฉิงไท่ยืนเอามือไพล่หลัง สายตาของเขาจับจ้องฉู่เชิ่งราวกับกำลังมองเรื่องสนุกก็ไม่ปาน

เจ้าสำนักไม่แม้แต่จะลงมือปกป้องลู่หยวนงั้นหรือ?!

นี่มันต่างจากที่เขาคิดเอาไว้!

หากเฉิงไท่ไม่ปกป้องลู่หยวน แล้วเจ้านั่นเอาความกล้าที่ไหนไปจัดการยอดเขาดาบ?!

แล้วตอนนี้ ทำไมเจ้าสำนักถึงทำหน้าเหมือนกับกำลังดูการแสดง?!

ขณะฉู่เชิ่งสับสน น้ำเสียงไม่พอใจพลันดังขึ้นเหนือยอดเขาหอก“สุนัขตัวไหนทำ? ออกมาหาข้าเดี๋ยวนี้!”

ฉู่เชิ่งหันมองกลับไป พบว่าร่างหนึ่งเดินออกมาจากควันธุลีที่ยังไม่สลายไป

คนในชุดคลุมสีชาดห่มดำเดินออกมาจากควันธุลี ไม่มีคราบอะไรติดอยู่ ตอนนี้พลังรอบข้างของเขาแก่กล้ายิ่ง เผยชัดถึงโทสะที่อยู่ภายใน

ชายหนุ่มที่เดิมเคร่งขรึมหล่อเหลา ตอนนี้กลับมีเส้นโลหิตสีน้ำเงินบนหน้าผาก แววตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะ

เมื่อลู่หยวนกำลังจะพูดต่อ สีหน้าของชายหนุ่มพลันเปลี่ยนไป เขามองอีกฝ่ายด้วยความละโมบอย่างอดไม่ได้

เพราะหลังจากเห็นฉู่เชิ่งเข้า เสียงระบบดังขึ้นในใจของเขา

[ระบบขอแจ้งเตือนว่าฉู่เชิ่งผู้เป็นบุตรแห่งชะตาได้ปรากฏตัวแล้ว ค่าชะตาอยู่ที่ 30,000 แต้ม!]

โทสะของลู่หยวนหายไปในพริบตา!

ค่าชะตาสามหมื่นแต้ม!

ถ้ารวบรวมได้ทั้งหมด รวมแล้วก็มีหกหมื่น!

แต่ว่า…

สายตาของลู่หยวนหลุบต่ำประมาณหนึ่ง ทำไมบุตรแห่งโชคชะตาผู้นี้ถึงชื่อว่าไอ้เดรัจฉาน*[1]?!

ชื่ออะไรอัปลักษณ์ได้ขนาดนี้?!

[1] ไอ้เดรัจฉาน มาจาก 畜生 อ่านออกเสียงว่า ฉู่เชิ่ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด