ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตาบทที่ 375 ผู้คุมหมากกระดาน

Now you are reading ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา Chapter บทที่ 375 ผู้คุมหมากกระดาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 375 ผู้คุมหมากกระดาน

บทที่ 375 ผู้คุมหมากกระดาน

“พี่หลี่ ข้าได้รับเส้นชีพจรจักรพรรดิมาแล้ว ถึงเวลาทำตามที่สัญญาไว้กับเจ้าเสียที! ในเมื่อเจ้ามีส่วนช่วยในการปกครองแดนมัชฌิม ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นราชันแซ่อื่นก็แล้วกัน!”

ใบหน้าของเจียงเชียนชิวประดับด้วยรอยยิ้มน่ารังเกียจ

สีหน้าของหลี่เจียงหนานไม่แปรเปลี่ยนแม้ได้ยินเช่นนั้น เขาเพียงเอ่ยอย่างแผ่วเบาว่า “ขอบพระทัยฝ่าบาท”

รอยยิ้มของเจียงเชียนชิวหายไปขณะมองไปทางสวรรค์ชั้นเก้า ซึ่งถูกปกคลุมด้วยหมู่เมฆอยู่ครู่ใหญ่ จิตสังหารฉายชัดในดวงตา

เขาคิดไว้แล้วว่าหากได้รับเส้นชีพจรจักรพรรดิโลหิต สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือบังคับให้หลิงอวิ๋นกลายเป็นนางสนม!

เขารู้สึกร้อนรุ่มอยู่ในใจเมื่อคิดถึงสีหน้าเย็นชาของนาง!

ถึงก่อนหน้านี้จะมีหลายคนคิดว่าเจียงเชียนชิวไม่คู่ควรกับหลิงอวิ๋น แต่ตอนนี้เล่า?!

ถึงอย่างไร ตอนนี้เขาก็มีตัวตนเป็นถึงจักรพรรดิแดนมัชฌิม!

ต่อให้หลิงอวิ๋นประสบความสำเร็จในวิถีหอกแล้วอย่างไร?!

นางก็ต้องก้มหัวต่อหน้าเขาอยู่ดี!

ขอเพียงหลิงอวิ๋นยังอยู่ในแผ่นดินหยวนหง ย่อมไม่มีทางหลบหนีจากเงื้อมมือของเขาไปได้!

ฮ่วนซิงไป๋ผู้กำลังพักผ่อนก็ลืมตาขึ้นในตอนนี้

ทันทีที่เห็นเจียงเชียนชิว เขาก็สัมผัสได้ว่าเส้นชีพจรจักรพรรดิถูกแย่งชิงไปแล้ว!

ทันใดนั้น ฮ่วนซิงไป๋ก็ขมวดคิ้วแน่นขณะมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา

เจียงเชียนชิวสัมผัสได้ถึงสายตาไม่พอใจเช่นกัน เขาจึงเบนสายตามาจ้องฮ่วนซิงไป๋เช่นกัน!

ในอดีต เจียงเชียนชิวคิดมาตลอดว่าฮ่วนซิงไป๋เป็นพระราชบุตรเขยและเป็นคุณชายแห่งตระกูลฮ่วน ดังนั้นเขาจึงต้องยอมก้มหัวให้ แต่บัดนี้สถานะของทั้งสองคนต่างกันแล้ว!

เจียงเชียนชิวยืดตัวตรงขณะเผยสีหน้าไม่เป็นมิตร “ฮ่วนซิงไป๋ ใครบอกให้เจ้ามองหน้าข้าไม่ทราบ?! ยังไม่ทำความเคารพอีก?!”

มุมปากของฮ่วนซิงไป๋กระตุกจนอดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

เจียงเชียนชิวยิ่งเดือดดาลเมื่อเห็นเช่นนี้ จึงตวาดออกมา “เจ้าหัวเราะทำไม?!”

ฮ่วนซิงไป๋หุบยิ้มพร้อมเผยสายตาเหยียดหยัน “ข้าหัวเราะ เพราะรูปลักษณ์ของเจ้าที่สวมชุดคลุมมังกรไม่สมกับเป็นองค์ชายยังไงเล่า!”

เมื่อสิ้นคำ เขาเอนกายกับดาบขณะชำเลืองมองเจียงเชียนชิว จากนั้นก็ส่ายหน้าราวกับตัดสินใจไว้นานแล้ว!

“โอหัง!”

เจียงเชียนชิวพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชาขณะกวัดแกว่งง้าวมังกรครามแปดแดนร้าง ระเบิดพลังสูงสุดของตัวเองออกมา แสงสีทองจะเรืองรองอยู่ตรงส่วนปลาย

เพียงชั่วพริบตา หมู่เมฆเคลื่อนตัวอยู่เหนือท้องนภาขณะที่ง้าวขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้น เมื่อเขากวัดแกว่ง ง้าวเล่มนั้นเคลื่อนตรงเข้าหาฮ่วนซิงไป๋!

แรงกดดันรุนแรงและเจิดจ้ายังคงเข้าจู่โจม ทำให้อากาศรอบข้างแตกสลายประหนึ่งวันสิ้นโลกมาเยือน!

ฮ่วนซิงไป๋ยังคงมีสีหน้าเกียจคร้านขณะเอนกายพิงดาบด้วยสีหน้าเหยียดหยันยิ่ง!

ชิ้ง!

ฮ่วนอวี่หลันยื่นมือไปสัมผัสอากาศ แล้วปราณวิญญาณก็ทะยานออกไปเพื่อหยุดง้าวขนาดใหญ่!

“ตระกูลฮ่วนไม่ให้ความเคารพเส้นชีพจรจักรพรรดิงั้นหรือ?!”

เจียงเชียนชิวเต็มไปด้วยโทสะ ตระกูลฮ่วนช่างอาจหาญนัก!

สรรพสิ่งในแดนมัชฌิมต่างข้องเกี่ยวกับเส้นชีพจรจักรพรรดิ!

หากตั้งรกรากที่นี่ โชคชะตาของพวกเขาก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงเพราะมัน!

ตระกูลฮ่วนขัดขืนเจียงเชียนชิวเช่นนี้ พวกเขาไม่อยากจะอยู่ในแดนมัชฌิมต่อแล้วหรือไร?!

ใช่แล้ว ตระกูลสามารถเคลื่อนย้ายได้โดยง่าย!

แต่อำนาจบนแผ่นดินหลักได้กระจายอย่างเท่าเทียมนานแล้ว จึงกลายเป็นข้อสรุปที่แน่ชัด!

หากตระกูลฮ่วนไม่ต้องการจะอยู่บนแดนมัชฌิมจริง พวกเขาย่อมจากไปได้ทุกเมื่อ!

แต่ผู้ที่อาศัยอยู่แผ่นดินอื่นจะยอมรับพร้อมทั้งมอบส่วนแบ่งให้แก่ตระกูลฮ่วนได้อย่างไร?!

ด้วยเหตุนี้ สถานการณ์จึงถูกตัดสินแล้ว ต่อให้ตระกูลชั้นสูงทั้งหลายจะไม่เต็มใจ แต่หลังจากชั่งน้ำหนักแล้ว พวกเขาก็ยังยอมรับเจียงเชียนชิวเป็นผู้ปกครอง

ตระกูลของพวกเขาหยั่งรากลึกในแดนมัชฌิมมานับแสนปี รู้หรือไม่ว่าบรรพบุรุษต้องลงทุนลงแรงไปมากเท่าไหร่?!

พวกเขาจะทอดทิ้งมันด้วยการตัดสินใจเพียงครั้งเดียวได้อย่างไร?!

เจียงเชียนชิวเชื่อว่าตระกูลฮ่วนก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น!

พวกเขาย่อมไม่ทอดทิ้งรากฐานในแดนมัชฌิมที่บรรพบุรุษพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างขึ้นมาหลายปีเป็นแน่!

แต่คาดไม่ถึงว่าฮ่วนอวี่หลันจะมีสีหน้าเฉยชา “ถ้าไม่ให้ความเคารพเส้นชีพจรจักรพรรดิแล้วจะทำไม?”

“ข้าสมาชิกตระกูลฮ่วนไม่เคยยอมจำนนต่อสิ่งที่เรียกว่าเส้นชีพจรจักรพรรดิ!”

เจียงเชียนชิวเดือดดาลและกำลังจะลงมืออีกครั้ง แต่หลี่เจียงหนานกลับก้าวเข้ามายืนอยู่ข้างกายเขา

หลี่เจียงหนานชำเลืองมองฮ่วนอวี่หลันก่อนจะประสานมือทำความเคารพ “คารวะผู้อาวุโสเจ็ด”

เขาศึกษาเกี่ยวกับตระกูลในแดนมัชฌิมมาหมดแล้ว เพียงมองปราดเดียวก็สามารถบอกได้ว่าคนผู้นี้คือใคร!

“ข้าสงสัยว่าผู้อาวุโสเจ็ดคือตัวแทนของตระกูลฮ่วนทั้งหมดหรือไม่?”

คำพูดอันแผ่วเบาของหลี่เจียงหนานทำให้ฮ่วนอวี่หลันพูดไม่ออก

แม้นางจะเป็นผู้อาวุโสเจ็ดของตระกูลฮ่วน แต่ก็ไม่มีสิทธิ์พูดแทนตระกูลฮ่วนทั้งหมดได้

หลี่เจียงหนานยกยิ้มเมื่อเห็นว่าฮ่วนอวี่หลันจนคำพูด “วันนี้เส้นชีพจรจักรพรรดิยอมรับเจ้าของแล้ว หากตระกูลฮ่วนยังอยากอยู่ในแดนมัชฌิม พวกเขาก็ต้องยอมรับจักรพรรดิด้วย!”

ฮ่วนอวี่หลันไม่เอ่ยสิ่งใด แต่เพียงจับจ้องไปทางฮ่วนซิงไป๋

ฮ่วนปั๋วก็ไม่คิดจะตอบเช่นกัน เขาเพียงก้มหน้าด้วยความอับอายราวกับกำลังตกอยู่ในห้วงความคิด

หมายความว่าอำนาจการตัดสินใจตกอยู่กับฮ่วนซิงไป๋!

รอยยิ้มของหลี่เจียงหนานยิ่งฉีกกว้างขึ้น “คุณชายฮ่วน ข้าขอแนะนำอะไรเสียหน่อย อย่าคิดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรอีก สถานการณ์ได้ถูกตัดสินแล้ว ลู่หยวนตายในภัยพิบัติอัสนี!”

ฮ่วนซิงไป๋พลันก้มหน้าขณะดวงตากลายเป็นสีชาด แล้วอักขระก็ปกคลุมทั่วทั้งร่างกายอีกครั้ง!

เมื่อเขากำลังจะคลุ้มคลั่ง เสียงของเสวียนเทียนชวนก็ดังขึ้น

น้ำเสียงของเสวียนเทียนชวนเบาบางดุจใยแมงมุมที่สามารถขาดสะบั้นได้ทุกเมื่อ

“ถ่วงเวลาไว้! บุตรศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ตาย!”

ดวงตาของฮ่วนซิงไป๋พลันเปล่งประกาย แต่เขาก็รีบปกปิดมันไว้ก่อนกลิ่นอายจะอ่อนกำลังลง

เขารู้อยู่แล้วว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ไม่มีทางตายง่ายขนาดนี้!

เขาทราบว่าเสวียนเทียนชวนอาจจะใช้วิชาทำนายตรวจสอบมาแล้ว

เมื่อสงบสติได้แล้ว คำถามต่อมาของฮ่วนซิงไป๋ก็คือจะถ่วงเวลาอย่างไร!

เขาครุ่นคิดสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีชาดยังไม่จางหายไปทั้งหมด

เขากวาดสายตามองก่อนจะเห็นว่าเจียงเชียนชิวถือง้าวมังกรครามแปดแดนร้างเอาไว้

ง้าวเล่มนี้…

ฮ่วนซิงไป๋พลันนึกถึงบางอย่างก่อนความคิดหนึ่งจะผุดขึ้นมาในใจ

ถึงแม้จะอยู่ในตระกูลฮ่วน แต่เขาก็เฝ้าดูการต่อสู้ทั้งหมดในวังจักรพรรดิแดนมัชฌิมอย่างละเอียด!

ง้าวมังกรครามแปดแดนร้างเล่มนี้คล้ายกับเป็นของตระกูลเยวี่ย!

แต่บัดนี้ง้าวเล่มนี้กลับตกอยู่ในมือของเจียงเชียนชิว ทั้งยังดูเข้ากันได้ดีขณะที่กลิ่นอายทั้งสองตอบสนองกันไปมาจนรวมเป็นหนึ่งเดียว!

ง้าวเล่มนี้คืออาวุธระดับครึ่งก้าวศักดิ์สิทธิ์!

หากจำไม่ผิด ตระกูลเจียงเองก็มีอาวุธระดับครึ่งก้าวศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน!

ฮ่วนซิงไป๋มองหลี่เจียงหนานด้วยสายตาเย็นชา “ตระกูลเยวี่ยกลับมาผงาดได้ก็เพราะฝีมือเจ้าใช่หรือไม่?! ส่วนจุดประสงค์ก็เพื่อให้ส่งง้าวเล่มนี้ไปอยู่ด้านข้างเส้นชีพจรจักรพรรดิงั้นหรือ?!”

“แสดงว่านับแต่ง้าวถูกส่งมาอยู่ข้างมัน เจ้าก็รอให้ตระกูลชั้นสูงทั้งหลายสู้กันจนตัวตาย เมื่อสบโอกาสจึงค่อยลงมือใช่หรือไม่?!”

“เจ้าเป็นคนตระเตรียมทั้งหมดนี้งั้นหรือ?!”

หลี่เจียงหนานยังคงสงบขณะส่ายหน้า “ไม่ใช่”

“ฮ่วนซิงไป๋ เจ้าทราบอยู่แล้วว่าใครเป็นผู้จัดฉากเหตุการณ์ทั้งหมดในแดนมัชฌิมแห่งนี้! การปรากฏของเส้นชีพจรจักรพรรดิ กู่อี้เจี้ยนหมกมุ่นกับวิถีกระบี่ รวมถึงเรื่องทั้งหลาย ย่อมไม่ใช่เหตุบังเอิญอย่างแน่นอน!”

“ในเมื่อลู่หยวนเป็นผู้คุมหมากบนกระดานแห่งนี้ได้ ข้าเองก็ทำได้เช่นกัน!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด