ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตาบทที่ 285 เผ่าสาปมาร อูโจ้ว!

Now you are reading ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา Chapter บทที่ 285 เผ่าสาปมาร อูโจ้ว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 285 เผ่าสาปมาร อูโจ้ว!

บทที่ 285 เผ่าสาปมาร อูโจ้ว!

เผ่าสาปมารหายไปจากแผ่นดินหยวนหงกว่าห้าแสนปี

เผ่านี้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาอักขระสาปพิษ พวกเขาเคยใช้มันเพื่อทำลายเผ่าพันธุ์อื่นมากมาย!

นับแต่นั้นมา พวกเขาจึงมีชื่อเสียงในฐานะศัตรูอันดับหนึ่งบนแผ่นดินหยวนหง!

หลังจากเผ่าสาปมารถูกทำลาย อักขระและเคล็ดคำสาปเหล่านั้นก็หายไปเช่นกัน

แต่บัดนี้มีเคล็ดต้องห้ามชั่วร้ายจำนวนมากซึ่งเลียนแบบมาจากเผ่าสาปมารปรากฏอยู่ในแผ่นดินหลัก แต่ไม่ว่าปรมาจารย์ยันต์เหล่านี้จะแข็งแกร่งเพียงใด ก็เลียนแบบอีกฝ่ายไม่ได้เกินสามส่วน

เห็นได้ชัดว่าเผ่าสาปมารเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสาปพิษมาก!

“เจ้าชื่อ… ลู่หยวนหรือ?”

เสียงของเด็กชายยังคงดังขึ้น “เจ้าเป็นคนแรกที่สามารถใช้การไหลย้อนกลับของปราณวิญญาณเพื่อขัดขวางเคล็ดคำสาปของข้าได้”

ลู่หยวนยังคงนิ่งและไม่เอ่ยอะไร บนตัวมีมังกรเจินหลงเกี่ยวกระหวัดไปมา สายตาของมันจ้องมองร่างของคุนเผิงตรงหน้า ขณะที่พลังมังกรแผ่ขยายออกมา เข้าห้ำหั่นกับแรงกดดันจากท้องนภาอย่างต่อเนื่อง!

“เจ้าเก่งไม่เบา”

เด็กชายถอนหายใจแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “ดูเหมือนเจ้าจะคุ้นเคยกับอักขระเหมือนกัน ข้าเลยอยากทำข้อตกลงด้วย ว่าอย่างไร?”

“ข้อตกลงหรือ?”

ลู่หยวนยิ้มขณะที่สะบัดหอกยาวในมือ เสียงคำรามของมังกรก็ดังขึ้น “ข้าไม่ทำข้อตกลงกับเต่าหัวหดที่ไม่กล้าแสดงตัวหรอก!”

ฮ่า ๆๆ!!!

เสียงหัวเราะสดใสดังขึ้น “ข้าถูกใจนิสัยของเจ้าเหลือเกิน!”

สิ้นคำ คุนเผิงที่ยืนอยู่บนท้องฟ้าพลันคุกเข่าแสดงท่าทียอมจำนน

ร่างของมันส่งเสียงคำรามราวกับกำลังต้อนรับบางสิ่ง

ท้องฟ้าด้านข้างแขนข้างหนึ่งของคุนเผิงเกิดความผันผวน ก่อนที่ร่างหนึ่งจะปรากฏขึ้น

ร่างนั้นสวมชุดคลุมสีดำขาดรุ่งริ่ง ทั่วทั้งร่างสกปรกมอมแมม แม้ใบหน้าของเด็กชายจะไม่โดดเด่น แต่ดวงตาที่เปล่งประกายกลับสะดุดตาเป็นอย่างมาก

หากมองให้ดีก็จะพบว่า อักขระสีเขียวและสีดำกำลังวูบไหวอยู่ภายในดวงตาของเด็กชาย!

เมื่อเขาปรากฏตัว เพียงขยับหนึ่งก้าวก็ทะยานมาอยู่ตรงหน้าของลู่หยวน มุมปากของอีกฝ่ายยกยิ้มสดใส “ข้าคือผู้นำเผ่าสาปมารรุ่นที่เก้าสิบเจ็ด มีนามว่าอูโจ้ว!”

เมื่อสิ้นเสียงของอู้โจว เสียงระบบก็ดังขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจของลู่หยวน

[แจ้งเตือนจากระบบ ผู้แบกรับมหาโชคชะตาของเผ่าสาปมารปรากฏตัว!]

[หากท่านกำราบอูโจ้ว ค่าชะตาส่วนหนึ่งของฉู่เชิ่งผู้เป็นบุตรแห่งชะตาจะถูกพรากไป!]

ลู่หยวนหรี่ตา หากกำราบอีกฝ่ายก็จะต้องเสียค่าชะตาของฉู่เชิ่งหรือ?!

หมายความว่าหากเล่นตามน้ำ สุดท้ายอูโจ้วน่าจะกลับไปหาฉู่เชิ่ง แบบนั้นจะช่วยเขาได้มาก!

ทว่า… การแอบอ้างชื่อเผ่าถือเป็นข้อห้ามของทุกเผ่าพันธุ์มาตลอด การที่คนผู้นี้ใช้ชื่อนี้แล้วมีชีวิตจนมาถึงทุกวันนี้ได้ ชะตาของเขาย่อมไม่ธรรมดา!

“เวิ้งทะเลแดนเหนือ ลู่หยวน!”

ลู่หยวนขานชื่อของตัวเอง

อูโจ้วพยักหน้าพลางยิ้มแย้ม “ในเมื่อข้าออกมาแล้ว ก็คุยเรื่องข้อตกลงกันต่อได้!”

ก่อนที่ลู่หยวนจะได้ทำอะไร อูโจ้วก็เริ่มเอ่ยว่า “การที่เจ้ามาที่นี่ย่อมหมายความว่า ต้องการเข้าไปรับโชคชะตาที่พื้นที่แกนกลาง ข้าก็ขอบอกเลยว่าภายในนั้นมีของดีรอคอยอยู่!”

อูโจ้วขยับเข้าไปใกล้พลางคลี่ยิ้ม “มีขนนกวิหคเพลิงแท้จริงอยู่ในนั้น! แถมมีทั้งสิ้นสามชิ้น!”

ริมฝีปากของลู่หยวนยกยิ้ม ขณะที่สีหน้ายังคงดูเกียจคร้าน “เรื่องจริงหรือ?”

“ย่อมเป็นเรื่องจริง!”

อักขระในดวงตาของอูโจ้วยังคงขยับไปมา “ข้าคนเดียวไม่อาจเข้าไปได้ แต่ถ้าเจ้ายอมร่วมมือด้วย ถึงตอนนั้นข้าจะมอบขนนกวิหคเพลิงแท้จริงให้หนึ่งชิ้นเป็นไร?”

“ถ้าให้ข้าหนึ่งชิ้น หมายความว่าเจ้าต้องการสองชิ้นงั้นหรือ?”

สีหน้าของลู่หยวนยังคงไม่แปรเปลี่ยนราวกับกำลังถามเรื่องไม่สำคัญ

อูโจ้วยืนเท้าสะเอว ขณะที่แสดงสีหน้าค่อนข้างภูมิใจ “ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ามีมังกรเจินหลงอยู่กับตัว คิดหรือว่าข้าจะไว้ชีวิตแล้วยอมบอกเรื่องนี้ให้ฟัง?”

“หากข้ามีนิสัยเหมือนชาติก่อน เกรงว่าเจ้าคงตายไปนานแล้ว หากมีโอกาสใช้ชีวิตก็จงรักษาไว้ให้ดี พลังของขนนกวิหคเพลิงแท้จริงเป็นสิ่งที่ควรพึงระวัง!”

“แค่ชิ้นเดียวก็เพิ่มระดับได้มหาศาล! ขนนกวิหคเพลิงแท้จริงสามารถทำให้ทั่วทั้งแผ่นดินหยวนหงคลุ้มคลั่งได้! หากถึงเวลา คนจิตใจดีเช่นข้าก็พร้อมจะแบ่งให้สักชิ้น และมอบการคุ้มกันในระหว่างดูดซับ เป็นไง?”

เมื่อเห็นลู่หยวนไม่เอ่ยอะไร อูโจ้วยิ่งขมวดคิ้วแน่น “ทำไม เจ้ายังต้องการสองชิ้นงั้นหรือ?!”

ลู่หยวนส่ายหน้า

อูโจ้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก เด็กคนนี้ค่อนข้างมีความรู้ หากต้องการสองชิ้นขึ้นมา เกรงว่าวันนี้เขาต้องบดขยี้อีกฝ่ายให้ตาย!

ขนนกวิหคเพลิงแท้จริงคือสิ่งมีค่า มีเพียงผู้ที่มาจากเผ่าสาปมารเท่านั้นถึงจะใช้ประโยชน์จากมันได้!

ขณะที่อูโจ้วกำลังครุ่นคิด เสียงของลู่หยวนพลันลอยเข้าหู

“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ต้องการสองชิ้นหรอก”

อูโจ้วพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “เป็นธรรมดาที่…”

“เพราะข้าต้องการสามชิ้น!”

คำพูดที่เหลือของอูโจ้วจุกอยู่ในลำคอ ไม่อาจเอื้อนเอ่ยออกมาได้

โลกในยามนี้ตกอยู่ในความเงียบงันประหนึ่งสูญสิ้นสุรเสียง

อูโจ้วมองลู่หยวนด้วยความสับสน

เมื่อครู่เจ้าเด็กคนนี้พูดอะไรออกมา?!

เขาต้องการขนนกวิหคเพลิงแท้จริงสามชิ้นงั้นหรือ?!

กล้าพูดออกมาได้อย่างไร?!

คิดว่าตัวเองเป็นใคร!

รัศมีสีเขียวและดำยังคงปรากฏรอบกายของอูโจ้ว

อักขระของค่ายกลปรภพซึ่งอยู่บนร่างของคุนเผิงโคจรอย่างรวดเร็ว ทำให้ฟ้าดินมืดมิดในบัดดล

แรงกดดันไร้ที่สิ้นสุดเคลื่อนเข้าหาลู่หยวนอีกครั้ง

หมอกสีแดงปกคลุมรอบกายของอีกฝ่าย มังกรเจินหลงเงยหน้าแล้วแผดเสียงคำราม ทำให้พลังของมันทะยานออกมา จนปะทะเข้ากับแรงกดดันนั้น

“เจ้าหนู ข้าไว้หน้าเจ้าแล้วนะ!”

อูโจ้วตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด พลันเอื้อมไปคว้าตัวลู่หยวน

ฝ่ามือซึ่งเต็มไปด้วยคราบมันเยิ้ม แผ่พลังออกมาจากปลายนิ้วอย่างต่อเนื่อง ก้อนพลังพุ่งตรงเข้าหาลู่หยวนประหนึ่งอสรพิษ

ลู่หยวนเอี้ยวหลบไปด้านข้างทำให้ฝ่ามือคว้าได้เพียงความว่างเปล่า แต่พลังกลับไม่จางหาย พวกมันหยุดนิ่งกับที่ ก่อนจะรวมตัวเป็นงูสีเขียวดำห้าตัว

พวกมันร่นถอย ก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่ร่างของลู่หยวน ทำให้ปราณวิญญาณรอบข้างเกิดความผันผวน

แต่เมื่องูขนาดเล็กเหล่านี้ใกล้เข้ามาถึงตัว เนตรเทวะจากดวงตาที่สามบนหน้าผากก็ขยับ ก่อนที่เงาเนตรเทวะสีแดงซึ่งอยู่ด้านหลังจะปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว

พลังแปดแดนร้างอันทรงพลังกดทับลงมา ทำให้ท้องฟ้ารอบกายของลู่หยวนเริ่มบิดเบี้ยว งูเหล่านั้นไม่อาจขยับได้ก่อนจะถูกกลืนกินเข้าไป พวกมันเข้าถึงตัวของเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ!

“เจ้าหนู อุบายของเจ้าไม่เลว!”

อูโจ้วยิ้ม “เช่นนั้นลองนี่หน่อย!”

ร่างของเขาวูบไหว พลันยืนบนไหล่ของคุนเผิงที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็ร่ายผนึกในมือ ร่องรอยของพลังแปลกประหลาดยังคงสั่นไหวรอบข้าง

มือของอูโจ้วหยุดนิ่งภายในสามอึดใจ ก่อนที่สีเขียวและสีดำจะปรากฏขึ้น ทำให้ความมืดมิดเหนือท้องนภาสั่นไหว พร้อมกับหมู่เมฆสีเขียวเข้าปกคลุมฟ้าดิน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด