รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]บทที่ 754 หลี่จิ่วเต้า ‘เจ้าคิดดีหรือยังว่าอยากตายแบบไหน!?’

Now you are reading รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] Chapter บทที่ 754 หลี่จิ่วเต้า 'เจ้าคิดดีหรือยังว่าอยากตายแบบไหน!?' at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 754 ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ ‘เจ้าคิด​ดี​หรือยัง​ว่า​อยาก​ตาย​แบบ​ไหน​!?’

ว่า​อะไร​นะ​?

ขอให้​เป็น​…บิดา​บุญธรรม​งั้น​หรือ​!?

ก้อนหิน​ขน​ยาว​หลาก​สีสงสัย​ว่า​มัน​ได้ยิน​ผิด​ไป​หรือไม่​ งานอดิเรก​อัน​ใด​กัน​! ขอให้​ผู้อื่น​เป็น​บิดา​ไป​ทั่ว​ได้​ด้วย​หรือ​!?

ต้อง​ขาดแคลน​ความรัก​ปานใด​กัน​!

แต่​บิดา​ของ​เขา​ใช่ว่า​จะเป็นได้​ง่าย ๆ​…

ไม่เห็น​หรือว่า​หลุมศพ​ของ​บิดา​คน​ก่อน​ของ​เขา​ตั้งอยู่​ตรงนั้น​!

“ไม่ต้องการ​ก็​ไม่เป็นไร​…”

เจ้าหลวง​ลุกขึ้น​ทำ​ท่าจะ​ไป​

เขา​มิได้​ใส่ใจว่า​สิ่งที่​ก้อนหิน​ขน​ยาว​หลาก​สีกล่าว​มานั้น​เป็น​ความจริง​หรือไม่​ เขา​คิดถึง​ท่าน​พ่อบุญธรรม​ของ​เขา​เหลือเกิน​ เพียง​ต้องการ​ที่พึ่ง​ทางใจ​เท่านั้น​

“เดี๋ยว​สิ แค่​เป็น​บิดา​ให้​มิใช่หรือ​ ข้า​เป็น​ให้​ก็ได้​!”

ก้อนหิน​ขน​ยาว​หลาก​สีร้องบอก​ อย่า​ให้​เอ่ย​เลย​ว่า​รู้สึก​พิลึก​เพียงใด​

มีผู้​ที่​อยาก​เป็น​บุตรชาย​ให้​ผู้อื่น​เช่นนี้​ด้วย​หรือ​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​มัน​ถูก​บีบบังคับ​ให้​เป็น​พ่อ​

ช่างเถิด​ ๆ ไม่ว่า​เรื่อง​ใด​ต่าง​มีครั้งแรก​เสมอ​!

ก้อนหิน​ขน​ยาว​หลาก​สีจนใจ​ กระนั้น​ก็​ไร้​หนทาง​ มัน​จำต้อง​เป็น​บิดา​ที่ว่า​โดย​ไม่มีทางเลือก​…

หาก​เจ้าหลวง​ไป​ง่าย ๆ​ เช่นนี้​ มัน​คงอยู่​รอ​สิ่งมีชีวิต​ตน​ต่อไป​ไม่ไหว​ พลัง​ของ​มัน​สึกหรอ​ร้ายแรง​เกินไป​ ดับสูญ​ได้​ทุกเมื่อ​

“อย่า​ทำท่า​เหมือน​ไม่เต็มใจ​ปาน​นั้น​!”

เจ้าหลวง​เอ่ย​เสียง​ขึงขัง​จริงจัง​

เวร​เอ๊ย​!

เรื่อง​บ้า​อะไร​กัน​!

ตามหา​บิดา​ได้​จริงจัง​เช่นนี้​เชียว​หรือ​!

ได้​!

ใน​เมื่อ​จริงจัง​ถึงเพียงนี้​ ก็​ให้​เป็นไป​อย่าง​จริงจัง​แล้วกัน​

บุตรชาย​นั้น​เป็น​ยาก​ บิดา​สิเป็น​ง่าย​

ก้อนหิน​ขน​ยาง​หลาก​สีคิดในใจ​

“มีบุตรชาย​ที่ไหน​ใช้ถ้อยคำ​เช่นนี้​กับ​ผู้​เป็น​บิดา​ อยาก​ถูก​ตี​หรือ​ไร​!”

มัน​เอ่ย​เสียง​โหดเหี้ยม​ พยายาม​เด้ง​ขึ้น​จาก​พื้น​ หิน​ก้อน​หนึ่ง​กระแทก​เข้าหน้า​เจ้าหลวง​!

“ท่าน​ทำ​อะไร​!”

เจ้าหลวง​โมโห​ คว้า​ก้อนหิน​ขน​ยาว​หลาก​สีไว้​หมับ​ “ข้า​มิได้​ตามหา​บิดา​ที่​ชอบ​ตี​บุตรชาย​! ข้า​ตามหา​บิดา​ที่รัก​และ​เอ็นดู​บุตรชาย​!”

บัดซบ​!

ก้อนหิน​ขน​ยาว​หลาก​สีเดือดดาล​นักหนา​!

นึกในใจ​ว่า​เจ้าบอก​ให้​จริงจัง​มิใช่หรือ​ไร​!

บิดา​ตี​บุตร​เป็นเรื่อง​ชอบธรรม​มิใช่รึ​

จริงจัง​ก็​ไม่ได้​!

“สารเลว​จริง ๆ​!”

ก้อนหิน​ขน​ยาว​หลาก​สีพิโรธ​จน​ใจสั่น​ นี่​แค่​เพราะ​มัน​ยัง​ไม่ฟื้น​พลัง​เท่านั้น​ มิฉะนั้น​ มัน​จะสั่งสอน​เจ้า ‘ลูกเนรคุณ​’ ผู้​นี้​ให้​หนัก​!

“ได้​ พ่อ​เข้าใจ​แล้ว​ เจ้าคือ​บุตรชาย​แสน​รัก​ของ​พ่อ​ พ่อ​เอ็นดู​เจ้าที่สุด​!”

ก้อนหิน​ขน​ยาว​หลาก​สีเอ่ย​เสียง​นุ่มนวล​

“เช่นนี้​ถึงจะถูก​ บิดา​บุญธรรม​คน​ก่อน​ของ​ข้า​ก็​รักใคร่​เอ็นดู​ข้า​เช่นนี้​!”

สีหน้า​เจ้าหลวง​ดีขึ้น​ พร้อม​เอ่ย​ยิ้ม​ ๆ

“ท่าน​พ่อบุญธรรม​ ท่าน​คือ​บรรพ​จารย์เหยียน​จริง​หรือ​”

บัดนี้​แล้ว​มัน​เพิ่ง​มีแก่​จิต​แก่​ใจสนใจ​เรื่อง​พวก​นี้​ จึงเอ่ย​ถามก้อนหิน​ขน​ยาว​หลาก​สีต่อ​

“แน่นอน​!”

ก้อนหิน​ขน​ยาว​หลาก​สีตอบ​ “พ่อ​จะถ่ายทอดวิชา​ลับ​แห่ง​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ของ​เรา​ให้​เจ้าก่อน​จำนวน​หนึ่ง​ เจ้าใน​ตอนนี้​ยัง​มิใช่สมาชิก​ความ​พิศวง​ลางร้าย​จริง ๆ​ มิได้​ผสาน​เป็นหนึ่ง​กับ​พลัง​ของ​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ ไม่อาจ​สำแดง​ความ​แกร่งกล้า​ของ​พิศวง​ลางร้าย​ได้​จริง ๆ​!”

จากนั้น​ มัน​เริ่ม​สอน​วิชา​ลับ​จำนวน​หนึ่ง​ให้​กับ​เจ้าหลวง​ ให้​เจ้าหลวง​สามารถ​ผสาน​เป็นหนึ่ง​กับ​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ได้​จริง ๆ​

มัน​ต้องการ​เจ้าหลวง​

อย่าง​น้อย​ก็​ต้องการ​เจ้าหลวง​ใน​ช่วง​เวลานี้​

ก่อน​มัน​ยัง​ไม่ฟื้นตัว​ ไม่มีพลัง​พอ​จะปกป้อง​ตนเอง​ เจ้าหลวง​คือ​เกราะ​ป้องกัน​ของ​มัน​

เจ้าหลวง​เค้น​พลัง​ตาม​วิชา​ลับ​ที่​ก้อนหิน​ขน​ยาว​หลาก​สีถ่ายทอด​ให้​รอบ​หนึ่ง​ และ​รู้สึก​ถึงการเปลี่ยนแปลง​จริง ๆ​ คล้าย​กว่า​ ‘ชิด​เชื้อ​’ กับ​พลัง​พิศวง​ลางร้าย​ยิ่งขึ้น​ พลัง​ที่​แผ่​ออกมา​รุนแรง​ยิ่งขึ้น​!

นี่​คือ​บรรพ​จารย์​พิศวง​ตน​หนึ่ง​จริง​หรือ​!?

เจ้าหลวง​เริ่ม​เชื่อ​แล้ว​!

เขา​คิดไม่ถึง​จริง ๆ​ เดิม​เขา​เพียง​ต้องการ​ที่พึ่ง​ทางใจ​เท่านั้น​ หารู้ไม่​ เขา​กลับ​ได้​บิดา​บุญธรรม​แสน​ดี​ถึงเพียงนี้​!

“ขอบคุณ​ท่าน​พ่อบุญธรรม​!”

เขา​กล่าว​ขอบคุณ​ระรัว​

“ขอบคุณ​อะไร​ เจ้ากับ​ข้า​เป็น​พ่อ​ลูก​กัน​ ไม่จำเป็นต้อง​เอ่ย​วาจา​ขอบคุณ​เช่นนี้​ รังแต่​จะบั่นทอน​ความสัมพันธ์​พ่อ​ลูก​ของ​เรา​กัน​เปล่า​ ๆ!”

ก้อนหิน​ขน​ยาว​หลาก​สีกล่าว​

เจ้าหลวง​รีบ​เอ่ย​ “ลูก​ผิด​ไป​แล้ว​!”

“อืม​”

ก้อนหิน​ขน​ยาว​หลาก​สีเอ่ย​ขึ้น​ “ลูก​เอ๋ย​ ยาม​นี้​พ่อ​ผลาญ​พลัง​มากเกินไป​ เจ้าจงฟังที่​พ่อ​บอก​ พา​พ่อ​ไปหา​กองกำลัง​พิศวง​ลางร้าย​ที่อื่น​ก่อน​ ให้​พ่อ​ได้​ดูดกลืน​พลัง​เพื่อ​ฟิ้น​ตัว​บ้าง​…”

“ได้​! ลูก​จะพา​ท่าน​ไป​เดี๋ยวนี้​!”

เจ้าหลวง​พา​ก้อนหิน​ขน​ยา​วสี​ดำ​ไป​จาก​ที่นี่​ มุ่งหน้า​ไป​ยัง​นคร​พิศวง​แห่ง​หนึ่ง​ เขา​จะพา​ท่าน​พ่อบุญธรรม​ของ​เขา​ไป​ดูดกลืน​พลัง​พิศวง​ลางร้าย​ที่นั่น​

เวลา​ผ่าน​ไป​กว่า​ครึ่ง​ปี​ใน​ชั่ว​อึด​ใจเดียว​

พวก​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เข้าไป​ถึงส่วนลึก​ของ​ดินแดน​ฮวง​แล้ว​

สำหรับ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​ได้​มายัง​ดินแดน​ฮวง​ ที่นี่​เต็มไปด้วย​ความ​แปลกใหม่​ น่าเสียดาย​ที่​เขา​ยัง​ไม่ได้​เบาะแส​เกี่ยวกับ​ซีเลย​สักนิด​

ไม่ว่า​เดินทาง​ไป​ที่ใด​ เขา​จะทำการ​ค้นหา​จริงจัง​ ไม่ปล่อย​ผ่าน​ไป​แม้แต่​ที่​เดียว​

“คุณชาย​ ข้างหน้า​มีเมือง​ใหญ่​อยู่​เมือง​หนึ่ง​ พวกเรา​จะเข้าไป​ตรวจสอบ​ดู​หรือไม่​” ลั่วสุ่ย​ถามคุณชาย​

เบื้องหน้า​มีเมือง​ใหญ่​ตั้งอยู่​กลางอากาศ​ซึ่งยิ่งใหญ่​เกรียงไกร​เป็น​อย่างยิ่ง​ ประหนึ่ง​เทือกเขา​ยืดยาว​ไร้​ที่​สิ้นสุด​ ชวน​ให้​ทึ่ง​เป็น​หนักหนา​ แสดงให้เห็น​ถึงความ​องอาจ​อัน​ไร้ขีดจำกัด​

แม้ว่า​พวกเขา​ยัง​ห่าง​จาก​เมือง​ใหญ่​อีก​ไกล​ แต่​ยัง​มองเห็น​เมือง​ใหญ่​ได้​ก็​เพราะ​เมือง​นั้น​มหึมา​มาก​

“นั่น​คือ​เมือง​จักรพรรดิ​ไป๋​ หนึ่ง​ใน​เมือง​โบราณ​ขึ้นชื่อ​แห่ง​ดินแดน​ฮวง​ มีประวัติ​สืบสาน​มาอย่าง​ยาวนาน​จน​แทบ​หา​ต้นตอ​ไม่พบ​แล้ว​!”

เซี่ยเหยียน​เอ่ย​ขึ้น​ข้าง ๆ​ รู้​ประวัติ​ความเป็นมา​ของ​เมือง​ใหญ่​นี้​ จึงอธิบาย​ภูมิหลัง​ให้​ฟัง ว่า​กัน​ว่า​นี่​คือ​เมือง​โบราณ​อัน​มีอารยธรรม​ฝึก​ตน​แห่ง​หนึ่ง​

“ไป​สิ!” ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ตอบกลับ​ทันที​

เมือง​โบราณ​แห่ง​อารยธรรม​ฝึก​ตน​หรือ​ เขา​จะพลาด​ได้​อย่างไร​ ไม่มีทาง​เลย​!

ไม่ต้อง​เอ่ย​ว่า​มีโอกาส​ที่​ซีอยู่​ใน​เมือง​โบราณ​แห่ง​อารยธรรม​ฝึก​ตน​นั้น​หรือไม่​ ลำพัง​ตัว​เขา​เอง​ก็​สนอกสนใจ​ใน​เมือง​โบราณ​แห่ง​อารยธรรม​ฝึก​ตน​เช่นนี้​มาก​

เขา​ชื่นชอบ​เรื่องราว​เก่าแก่​

จากนั้น​ อสูร​ทั้ง​เก้า​ลาก​รถ​เหิน​ไป​ทาง​เมือง​จักรพรรดิ​ไป๋​

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​มิได้​อยู่​ใน​รถลาก​ เขา​เดินทาง​โดย​ขี่​กิเลน​ไฟอยู่​ด้านนอก​

พวก​ลั่วสุ่ย​สนทนา​กับ​เขา​โดย​ยืน​อยู่​ที่​หัว​รถลาก​

ระหว่างทาง​ พวก​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ได้​พบเห็น​ปรากฏการณ์​แปลกประหลาด​มากมาย​

สัตว์​อสูร​จำนวน​หนึ่ง​กำลัง​เดินทาง​โดย​ขี่​มนุษย์​!

ภาพ​นี้​ช่างพิลึก​เหลือเกิน​!

แม้ว่า​สัตว์​อสูร​กล้าแกร่ง​ก็​มีสัตว์​ขี่​เช่นกัน​ แต่​สัตว์​ขี่​เหล่านั้น​ก็​เป็น​อสูร​เผ่า​อื่น​ ส่วน​เผ่า​ที่​ใช้มนุษย์​เป็น​สัตว์​ขี่​หา​ดู​ได้​ยาก​จริง ๆ​!

ทว่า​ที่นี่​ กลับ​พบเห็น​สัตว์​อสูร​ที่​ขี่​มนุษย์​เดิน​ทางได้​ทั่วไป​!

ด้านหน้า​ห่าง​ออก​ไป​ไม่ไกล​ มีงูเหลือม​หลาก​สีตัว​หนึ่ง​รัด​พัน​ร่าง​ท่อน​บน​ของ​ชาย​วัยกลางคน​ผู้​หนึ่ง​ แล้ว​ยังมี​เม่น​ที่​ขี่​อยู่​บน​ชาย​วัยกลางคน​อีก​ผู้​หนึ่ง​ กำลัง​ร่วม​เดินทาง​ไป​กับ​งูเหลือม​พร้อม​หัวร่อต่อกระซิก​

“…”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เห็น​แล้ว​พูดไม่ออก​ ชาย​วัยกลางคน​ทั้งสอง​มาจาก​เผ่า​มนุษย์​จริง​หรือ​

เหตุใด​เขา​ถึงรู้สึก​ว่า​ชาย​วัยกลางคน​ทั้งสอง​จำแลง​กาย​จาก​เผ่า​อสูร​เล่า​!

มีเผ่า​มนุษย์​ที่ไหน​ยอม​ไป​เป็น​สัตว์​ขี่​บ้าง​…

“เผ่า​มนุษย์​เป็น​สัตว์​ขี่​อย่างนั้น​หรือ​”

เซี่ยเหยียน​ขมวดคิ้ว​ “เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ที่นี่​กัน​แน่​”

ผิดปกติ​!

ผิดปกติ​อย่าง​แรง​!

นอกจาก​ยุค​ป่าเถื่อน​ที่​เผ่า​มนุษย์​ยัง​ไม่เฟื่องฟู​เพราะ​อ่อนกำลัง​ ถึงได้​มีสถานะ​ต่ำต้อย​ท่ามกลาง​เผ่า​ต่าง ๆ​ เผ่า​มนุษย์​ใน​ยุค​นั้น​ลำบาก​ยากเข็ญ​อย่าง​แท้จริง​ ต้อง​เป็น​ทาส​รับใช้​ให้​กับ​เผ่า​อื่น​ ถูก​เผ่า​อื่น​ข่มเหง​

ถึงอย่างไร​ เผ่า​อื่น​ต่าง​แข็งแกร่ง​กว่า​เผ่า​มนุษย์​มาแต่กำเนิด​

ทว่า​เผ่า​มนุษย์​นั้น​ประเทืองปัญญา​กว่า​ กอปร​กับ​หัวใจ​เข้มแข็ง​พอ​ เผ่า​มนุษย์​จึงรุ่งโรจน์​ขึ้น​ช้า ๆ จน​ค่อย ๆ​ กลายเป็น​เจ้านาย​ปฐพี​ผืน​นี้​

เผ่า​อื่น​จึงไม่อาจ​จับ​มนุษย์​ทำ​ทาส​ได้​ตามใจชอบ​อีก​

ผ่าน​ไป​แล้ว​หลาย​ยุค​หลาย​สมัย​ จนกระทั่ง​ปัจจุบันนี้​ สถานะ​ของ​เผ่า​มนุษย์​ก็​ยัง​ไม่เปลี่ยนไป​ ยังคง​เป็น​เจ้านาย​ของ​ปฐพี​ผืน​นี้​

เผ่า​มนุษย์​ขยายพันธุ์​ได้​รวดเร็ว​กว่า​เผ่า​อื่น​มาก​นัก​

นี่​ก็​เป็น​ประเด็นหลัก​ที่​เผ่า​มนุษย์​ได้​เป็น​เจ้านาย​ของ​ปฐพี​นี้​ในที่สุด​

ทว่า​ที่นี่​ เหมือนว่า​สถานการณ์​กลับตาลปัตร​ คล้าย​ว่า​เผ่า​อื่น​ได้​ยึดครอง​ดินแดน​นี้​ และ​เผ่า​มนุษย์​กลายเป็น​ทาส​ของ​เผ่า​อื่น​!

เมือง​จักรพรรดิ​ไป๋​เป็น​เมือง​ของ​เผ่า​มนุษย์​ กลับ​มีเผ่า​มนุษย์​เป็น​ทาส​ของ​สัตว์​อสูร​รวมถึง​เผ่าพันธุ์​อื่น​ให้​เห็น​อยู่​ทั่วไป​ ต้อง​มีปัญหา​อัน​ใด​แน่​!

เพียะ​ เพียะ​ เพียะ!​

เวลา​นั้น​เอง​ เสียง​หวด​ดัง​ขึ้น​ จากนั้น​ก็​มีเสียงร้อง​โหยหวน​ของ​เด็กสาว​ดัง​ขึ้น​อีก​หลาย​เสียง​

พวก​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​พา​กัน​หันไป​มอง​

หลัง​พวกเขา​เห็นภาพ​นั้น​ ต่าง​ก็​โกรธเกรี้ยว​จน​แทบ​ทนไม่ไหว​

ด้านหลัง​นั้น​ มีเด็กสาว​วัย​แรก​แย้ม​สิบ​แปด​นาง​ถูก​มัด​ไว้​ด้วยกัน​ และ​กำลัง​ลาก​รถ​รบ​โบราณ​คัน​มโหฬาร​คัน​หนึ่ง​ และ​บน​รถ​รบ​มโหฬาร​คัน​นั้น​ มีงูใหญ่​สีม่วง​ตัว​หนึ่ง​กำลัง​ขดตัว​อยู่​

งูใหญ่​สีม่วง​ตัว​นี้​มีเขา​บน​หัว​ถึงสี่ข้าง​ เกล็ด​บน​ตัว​เป็น​สีม่วง​ทั้งหมด​ ทอ​ประกาย​เยือกเย็น​ชวน​ผวา​ และ​กำลัง​หวด​เด็กสาว​วัย​แรก​แย้ม​สิบ​แปด​นาง​ที่​ถูก​มัด​ไว้​ด้วยกัน​ด้วย​หาง​

“วิ่ง​เร็ว ๆ​ หน่อย​!”

งูใหญ่​สีม่วง​ตะโกน​บอก​

ส่วน​ด้าน​ข้าง​ของ​มัน​มีเด็กสาว​โฉมสะคราญ​อยู่​อีก​มาก​ บ้าง​พัด​ให้​มัน​ บ้าง​นวด​ร่าง​งูของ​มัน​

“ฮ่า ๆ ข้า​อยาก​กลับ​ไป​เมตตา​พวก​เจ้าจน​แทบ​ทนไม่ไหว​แล้ว​!”

งูใหญ่​สีม่วง​หัวเราะ​ร่วน​อย่าง​ประสงค์ร้าย​ ทั้ง​ยัง​แลบ​ลิ้นสองแฉก​ออกมา​แล้ว​เลีย​ใบหน้า​เด็กสาว​ผู้​หนึ่ง​ จน​ใบหน้า​ของ​เด็กสาว​ผู้​นั้น​เปียกชื้น​ไป​หมด​

งูอะไร​กัน​?

เหตุใด​ถึงต่ำ​ตม​น่าสะอิดสะเอียน​เช่นนี้​!

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ขี่​อยู่​บน​หลัง​กิเลน​ไฟขมวดคิ้ว​น้อย​ ๆ โทสะ​ใน​ใจลุกโชน​

เวลา​นั้น​ งูใหญ่​สีม่วง​มอง​มาเห็น​พวก​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​แล้ว​เช่นกัน​

“บังอาจ​นัก​! ใน​ดินแดน​ผืน​นี้​ มนุษย์​คือ​ทาส​ชั้นต่ำ​ที่สุด​ เผ่า​อื่น​ ๆ ต่างหาก​คือ​เผ่า​สูงส่งอย่าง​หามิได้​! พวก​เจ้าริอ่าน​ใช้เผ่าพันธุ์​อื่น​ ๆ ลาก​รถ​ให้​พวก​เจ้า ทั้ง​ยัง​เป็น​สัตว์​ขี่​ ช่างบังอาจ​ยิ่งนัก​!”

มัน​ตวาด​ลั่น​ขึ้น​มาใน​บัดดล​ ดวงตา​งูคู่​นั้น​เปล่งประกาย​สยดสยอง​ น่า​พรั่นพรึง​เป็น​ที่สุด​

ต่อมา​ มัน​ได้​เห็น​พวก​ลั่วสุ่ย​ เซี่ยเหยียน​ และ​ห​ลิง​อิน​ สายตา​ของ​มัน​เปลี่ยนไป​ทันที​

“เดิมที​ พวก​เจ้านั้น​ต้อง​โทษประหาร​อย่าง​ยาก​จะพ้นผิด​ ทว่า​ท่าน​งูผู้​นี้​จิตใจ​เมตตา​ มิต้อง​การเข่นฆ่า​ผู้ใด​ง่าย ๆ​ ท่าน​งูผู้​นี้​จึงตัดสินใจ​ให้โอกาส​พวก​เจ้า ละเว้น​โทษประหาร​ของ​พวก​เจ้า!”

งูใหญ่​สีม่วง​เปล่งเสียง​ต่ำช้า​นักหนา​ขณะ​จ้องมอง​พวก​ลั่วสุ่ย​ ลิ้นสองแฉก​แลบ​ออกมา​ไม่หยุด​พร้อม​กล่าว​ต่อ​ “มาเถิด​ มาหา​ท่าน​งูตรงนี้​แล้ว​ปรนนิบัติ​ท่าน​งูให้​ดี​! สถานการณ์​อย่าง​วันนี้​พวก​เจ้ามีสิทธิ์​ปรนนิบัติ​ท่าน​งูนับ​เป็น​เกียรติยศ​สูงสุด​ของ​พวก​เจ้าแล้ว​! รีบ​มานี่​สิ อย่า​ได้​พลาดโอกาส​อัน​ดี​เช่นนี้​ไป​”

“อะไร​…กัน​!”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ขี่​กิเลน​ไฟขวาง​อยู่​เบื้องหน้า​พวก​ลั่วสุ่ย​ ขัดขวาง​มิให้​ดวงตา​ของ​งูใหญ่​สีม่วง​ได้​มอง​ต่อ​

เขา​ยัง​บอก​กับ​พวก​ลั่วสุ่ย​อี​กว่า​ “พวก​เจ้ากลับ​เข้าไป​ใน​รถลาก​ ถูก​หนอน​ยาว​น่าขยะแขยง​เช่นนี้​มอง​ถือ​เป็นการ​ทำให้​พวก​เจ้าแปดเปื้อน​!”

งูใหญ่​สีม่วง​น่ารังเกียจ​เกินไป​ เขา​ไม่ต้องการ​ให้​พวก​ลั่วสุ่ย​อยู่​ข้างนอก​ต่อ​จริง ๆ​

“เจ้าค่ะ​!”

พวก​ลั่วสุ่ย​ตอบ​ พา​กัน​กลับ​เข้าไป​ใน​รถลาก​

“เจ้าทำ​อะไร​!”

ดวงตา​ของ​งูใหญ่​สีม่วง​ถลึง​มอง​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​อย่าง​ขุ่นเคือง​ จิต​สังหาร​พลุ่งพล่าน​ บังอาจ​ทำ​มัน​เสีย​เรื่อง​รึ​ มัน​บัน​ดาลโทสะ​ เตรียม​ลงมือ​!

“งูเป็น​ของดี​ ใช้สอย​ได้​หลากหลาย​วิธี​ อย่างเช่น​นำมา​ดอง​สุรา​ ปรุง​เป็น​แกง​งู…”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​หัน​มอง​งูใหญ่​สีม่วง​พร้อม​กล่าว​ “ข้า​ไม่ชอบ​ความสิ้นเปลือง​ ทว่า​เจ้าเป็น​ข้อยกเว้น​ นำ​เจ้ามาดอง​สุรา​หรือ​ปรุง​เป็น​แกง​งูก็​กลัว​แต่​จะคลื่นเหียน​จน​ดื่ม​ไม่ลง​ กินไม่ลง​…”

จากนั้น​ เขา​ขมวดคิ้ว​เบา​ ๆ

“เจ้าคิด​ดี​หรือยัง​ว่า​อยาก​ตาย​แบบ​ไหน​?” เขา​กล่าว​ต่อ​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด