รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]บทที่ 178 เวลาหลายแสนปี โลกที่คุ้นเคยอันตรธานไปหมดแล้ว!

Now you are reading รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] Chapter บทที่ 178 เวลาหลายแสนปี โลกที่คุ้นเคยอันตรธานไปหมดแล้ว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 178 เวลาหลายแสนปี โลกที่คุ้นเคยอันตรธานไปหมดแล้ว!

ปราบปรามคุมตัวเข้าไปในบ่อสังสารวัฏ!

ข้างใต้ หลังจากจ้าวสังสารวัฏได้ยินคำกล่าวของนายตำหนัก ต่อให้แข็งแกร่งระดับเขายังใจสั่นอย่างอดไม่ได้

บ่อสังสารวัฏ

เป็นสถานที่ที่สิ่งมีชีวิตภายในแดนสังสารวัฏหวาดกลัวเป็นที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย!

เข้าไปในบ่อสังสารวัฏแล้ว ต้องทนทุกข์ทรมานทุกคืนวัน ไม่ว่ากายหยาบหรือวิญญาณล้วนหนีไม่พ้น อยากตายยังทำไม่ได้!

ต่อให้ถูกทรมานจนตาย บ่อสังสารวัฏก็สามารถคืนชีพขึ้นมาใหม่ แล้วทุกข์ทนทรมานต่อไป!

“ข้าน้อยรับบัญชา!”

จ้าวสังสารวัฏตอบเสียงนอบน้อม

นึกสลดใจแทนเจ้าคนที่ทำให้นายตำหนักบันดาลโทสะ

บังอาจท้าทายอำนาจของนายตำหนักถึงเพียงนี้เชียวหรือ?

เหอะ ๆ…จงใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมานไปชั่วกัลปาวสานเถิด!

หลังจากนั้น เขาเดินทางออกจากตำหนักโบราณ ก้าวสู่เส้นทางสังสารวัฏที่เชื่อมต่อกับทุกอาณาจักร

เส้นทางสังสารวัฏเงียบสงบ ปราศจากสิ่งมีชีวิต

เขาไม่เหมือนกับทูตสังสารวัฏ และเจ้าสองตัวนั้นก่อนหน้าที่เร่งรีบเดินทางบนเส้นทางสังสารวัฏ เขาเคลื่อนที่อย่างแช่มช้า พินิจเส้นทางสังสารวัฏไปเรื่อย ดวงหน้าทอประกายระลึก

“สหายเก่าแก่เอ๋ย ครานั้น พวกเราก้าวสู่เส้นทางสังสารวัฏด้วยกัน หมายจะบุกทะลวงออกจากเส้นทางสังสารวัฏ ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งโลกใหม่…”

เขารำพึงรำพัน สีหน้าระลึกฉายชัดยิ่งขึ้น

“อนิจจา เรื่องทั้งหมดกลับเป็นเพียงคำลวง…”

หลายแสนปีมานี้ ใบหน้าของเขาไม่เคยมีสีหน้าอื่นปรากฏ เวลานี้ ความอ้างว้างอาดูรบนใบหน้าของเขาประดุจผู้เฒ่าที่ตัวเต็มไปด้วยบาดแผล เดียวดายเอกา

“ไม่รู้ว่าสหายทั้งหลายอยู่ดีกันในอาณาจักรนั้นหรือไม่”

เสียงของเขาเริ่มแหบแห้งขณะเอ่ยเสียงเบา

ทะลวงเส้นทางสังสารวัฏสำเร็จ จะได้รับอายุขัยเพิ่มอีกชาติ…

เรื่องนี้เป็นคำโกหกที่ใหญ่โตที่สุดในโลกนี้

อายุขัยอีกชาติอันใดกัน มีแต่ต้องเป็นหมากบนกระดานของผู้อื่น…

เส้นทางสังสารวัฏเชื่อมต่อกับอาณาจักรนิรนามแห่งหนึ่ง

เป็นอาณาจักรเช่นไร?

แม้ว่าเขาได้ดำรงตำแหน่งจ้าวสังสารวัฏ มีรากฐานในแดนสังสารวัฏบ้างแล้ว ก็ยังมิอาจทราบได้

ที่นั่นลึกลับเกินไป ราวกับการก่อตั้งแดนสังสารวัฏแห่งนี้ก็เพื่ออาณาจักรนิรนามแห่งนั้น…

เหล่าสหายเก่าแก่ที่เคยบุกทะลวงเส้นทางสังสารวัฏมากับเขาถูกส่งไปยังอาณาจักรนิรนามแห่งนั้นทั้งหมด…

“ข้าขี้ขลาด ไม่กล้าไปจึงได้แต่อยู่ที่นี่…”

นึกถึงครานั้น ตัวเขาเปี่ยมไปด้วยความผวาที่มีต่ออาณาจักรนิรนามแห่งนั้น เขามิได้เดินทางไปพร้อมกับเหล่าสหายเก่าแก่ของเขา แต่อยู่ต่อในแดนสังสารวัฏ

เขายังจำได้ ครานั้นแดนสังสารวัฏมอบทางเลือกให้เขาสองทาง

หนึ่งคือเข้าไปในอาณาจักรนิรนามแห่งนั้น

สองคืออยู่ในแดนสังสารวัฏ รับใช้แดนสังสารวัฏไปตลอดชีวิต

ภายในอาณาจักรนิรนามมีสิ่งใดรออยู่?

แดนสังสารวัฏมิได้บอก

กล่าวแต่เพียงหากรบราฆ่าฟันจนหลุดออกจากอาณาจักรนิรนามแห่งนั้นได้จักได้รับอิสรภาพ และได้ในสิ่งที่ตนปรารถนา

เขาไม่กล้าและไม่มีความมั่นใจพอ เพราะครานั้นแดนสังสารวัฏเคยกล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมาอันแสนยาวนาน สิ่งมีชีวิตที่เข้าไปแล้วไม่เคยได้ออกมา

เขาจึงมิกล้าเข้าไปต่อสู้ภายในนั้น…

เขาเลือกอยู่ต่อ สูญเสียอิสรภาพของตน กลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งของแดนสังสารวัฏ ต้องทำตามคำสั่งของแดนสังสารวัฏไปตราบชั่วชีวิต

“ผู้ฝึกตนบำเพ็ญไปเพื่อสิ่งใด เพื่อการเป็นอมตะมิใช่หรือ เป็นอมตะ มีชีวิตเป็นนิรันดร์ได้หรือ? ข้าได้มาแล้ว มีชีวิตมานับหลายแสนปี แต่ข้าสูญเสียอะไรไปมาก…”

เขาเศร้าหมองลง อมตะเยี่ยงนี้ ราคาที่ต้องจ่ายสูงเหลือเกิน

สูญเสียอิสรภาพ สูญเสียตัวเอง ราวกับซากศพเดินได้ แดนสังสารวัฏสั่งให้เขาทำสิ่งใด เขาจักทำสิ่งนั้น…

“หากให้โอกาสข้าอีกครั้ง ข้าอยากไปเข้าไปต่อสู้ร่วมกับเหล่าสหายเก่าแก่ในอาณาจักรนั้นสักครา!”

เขาแหงนมองฟ้าถอนหายใจ ดวงตาชราคู่นั้นมีน้ำตารินไหล ปรารถนาอยากได้โอกาสให้เริ่มใหม่อีกครั้งเหลือเกิน

ทว่าสิ่งเหล่านี้…เขาทำได้เพียงคิด

เขาก้าวเดินเชื่องช้าบนเส้นทางสังสารวัฏ รำลึกถึงความทรงจำต่าง ๆ ที่สถิตอยู่ในใจเขามานานนับแสนปี

ท้ายที่สุด เขาเดินออกจากเส้นทางสังสารวัฏ มาถึงอาณาจักรชั้นต่ำที่เชื่อมต่อกับเส้นทางสังสารวัฏนี้

“ข้า…กลับมาอีกแล้ว!”

เขามองภาพทิวทัศน์ตระการตา สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่กระปรี้กระเปร่า ตัวเขาประหนึ่งชายพเนจรที่จากบ้านไปเมื่อครั้งยังเยาว์วัย กลับมาอีกครั้งพลันแก่ชราลงแล้ว ความรู้สึกผสมปนเปกันอยู่ในใจไม่รู้จบ…

เขาใช้ชีวิตในอาณาจักรชั้นต่ำแห่งนี้มาทั้งชีวิต สุดท้าย ก็ก้าวสู่เส้นทางสังสารวัฏจากอาณาจักรชั้นต่ำแห่งนี้…

“กลับมาแล้ว ข้าขอไปเยี่ยมชมเสียหน่อย…”

เขามิได้รีบร้อนไปจับผู้บรรลุสังสารวัฏ และมิได้รีบร้อนไปจับผู้ที่ท้าทายแดนสังสารวัฏ

อุตส่าห์กลับมาทั้งที เขาขอเฝ้ามองอาณาจักรแห่งนี้สักพัก…

หลายแสนปีเชียวนะ…มิหนำซ้ำนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้กลับมา จากนี้ไปคงเป็นการยากที่เขาจะกลับมาอีก

เขาทอดน่องอยู่บนหมู่เมฆ ราวกับตัวเขามิได้ดำรงอยู่ในปฐพีผืนนี้ ปักษายักษ์ที่บินผ่านตัวเขาก็สัมผัสไม่ถึงการมีอยู่ของเขา

เวลาหลายแสนปี ภูผานทีเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว โลกที่เขาเคยคุ้นอันตรธานหายลับ

เขาข้ามแคว้นไปแคว้นแล้วแคว้นเล่า ข้ามเมืองไปเมืองแล้วเมืองเล่า ก้าวผ่านนิกายใหญ่ ๆ ตระกูลใหญ่ ๆ ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดสัมผัสถึงการมีอยู่ของเขาได้

“หวนนึกถึงครานั้นข้าได้อยู่ในฐานะมหาจักรพรรดิแล้ว ใต้หล้านี้มิมีผู้ใดทัดเทียม แต่ยังไม่กล้าเข้าไปใน แดนต้องห้ามทั้งเก้า…”

เขาพึมพำกับตัวเอง “เรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่ข้านึกเสียดาย…”

ในยุคสมัยของเขา มีแดนต้องห้ามทั้งเก้าอยู่ในโลกนี้ ที่นั่นเป็นเขตหวงห้าม ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดหาญกล้าบุกเข้าไป หากเข้าไปแล้วเท่ากับต้องตาย

“ไม่รู้ว่าเขตหวงห้ามเหล่านั้นยังมีอยู่หรือไม่”

ผ่านไปหลายแสนปี เขาก็ไม่แน่ใจว่าแดนต้องห้ามเหล่านั้นยังมีอยู่หรือไม่

“ยังอยู่หรือนี่!”

เขาแผ่กระแสจิตออกไป สัมผัสถึงลมปราณของเขตหวงห้ามทั้งเก้า

“ขอเข้าไปดูหน่อยว่ามีสิ่งใดอยู่ภายใน ถือว่าชดเชยในความสำนึกเสียใจในอดีต…”

ตั้งจิตเพียงครั้งเดียว เขาก็มาอยู่ในแดนต้องห้ามแห่งหนึ่ง

ผ่านไปแล้วหลายแสนปี ขอบเขตของเขายังไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ขอบเขตมหาจักรพรรดิคงเดิม

แดนสังสารวัฏเป็นสถานที่ที่มีความพิเศษอย่างยิ่ง ยากต่อการฝึกฝน มีเพียงยอดฝีมือระดับนายตำหนักเท่านั้นถึงบำเพ็ญตนในแดนสังสารวัฏได้

ทว่าถึงแม้ขอบเขตของเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่เขาคือจ้าวสังสารวัฏ มีตำแหน่งสูงในแดนสังสารวัฏ ได้รับพลังสังสารวัฏมหาศาล

ด้วยพลังสังสารวัฏนี้ เขามั่นใจว่าสามารถบุกเข้าไปในแดนต้องห้ามทั้งเก้าได้โดยไม่เป็นอันตราย

“เชิญเข้ามา!”

สิ่งที่เหนือความคาดหมายของเขาคือ ด้านในนั้นมีเสียงส่งออกมาเชิญเขาเข้าไป

นี่เป็นภาษาที่โบราณคร่ำครึมาก ไม่รู้ว่าจากยุคสมัยใด เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน

ทว่าเขาสามารถฟังความหมายของประโยคนี้ออก

เมื่อผู้ฝึกตนบำเพ็ญถึงระดับสูงแล้ว ต่อให้เป็นภาษาที่ไม่เคยได้ยิน ก็สามารถฟังความหมายของมันออก

หากระดับสูงส่งถึงขั้นนั้นแล้ว มิใช่เพียงการเข้าใจความหมายผ่านถ้อยคำภาษา หนึ่งจิตปรุโปร่ง รู้แจ้งในทุกสิ่ง

จากนั้น ถนนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาในแดนต้องห้าม ต้อนรับการเข้าไปของเขา

เขาเดินเข้าไป

หลายวันต่อมา เขาก็เดินออกจากแดนต้องห้าม

“ที่นี่เป็นเพียงอาณาจักรชั้นต่ำจริงหรือ?”

ตั้งแต่ออกจากแดนต้องห้าม เขาสะท้อนใจอย่างยิ่งยวด เขามิได้รู้จักอาณาจักรที่เขาอยู่มาทั้งชีวิตขนาดนั้นเลย…

ภายในแดนต้องห้ามน่ากลัวสยดสยอง ต่อให้เขามีพลังสังสารวัฏอันกล้าแกร่ง ก็มิอาจต่อกรได้เลย

แดนต้องห้ามเชื้อเชิญให้เขาเข้าไป แท้จริงแล้วเป็นการให้เกียรติแดนสังสารวัฏซึ่งอยู่เบื้องหลังเขา…

ส่วนภายในแดนต้องห้ามมีสิ่งใดบ้าง เขาไม่รู้ เขาไม่เคยได้เดินเข้าไปในส่วนลึกของแดนต้องห้ามจริ งๆ

“ดูเหมือนว่าน้ำในอาณาจักรแห่งนี้ลึกมากทีเดียว…”

เขาพึมพำเสียงเบากับตัวเอง

ลำพังแดนต้องห้ามน่าประหวั่นพรั่นพรึงเยี่ยงนี้ ก็บ่งบอกว่าอาณาจักรแห่งนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ไม่มีทางเป็นเพียงอาณาจักรต่ำต้อย!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด