รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]บทที่ 187 มหาปราชญ์ขอบเขตก่อกำเนิดนภา เก่งกาจสุดยอด

Now you are reading รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] Chapter บทที่ 187 มหาปราชญ์ขอบเขตก่อกำเนิดนภา เก่งกาจสุดยอด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 187 มหาปราชญ์ขอบเขตก่อกำเนิดนภา เก่งกาจสุดยอด!

“ลมปราณของผู้บรรลุสังสารวัฏยังอยู่ในเมืองปุถุชนแห่งนั้น…”

จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงเอ่ย ก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปจากตรงนั้น

ส่วนต้นหลิวและก้อนหินที่เฝ้าอยู่นอกเมืองนั้น เขามิได้แยแส

พลังสังสารวัฏแกร่งกล้าบวกกับขอบเขตมหาจักรพรรดิ ลำพังต้นหลิวหนึ่งต้นและก้อนหินหนึ่งก้อน ไฉนเลยจะหยุดยั้งเขาได้?

ทว่าทันทีที่เขามาถึงเมืองชิงซาน ก้านหลิวเรียวยาวก้านหนึ่งพลันแหวกมิติเข้ามา ก่อนจะหวดมาทางเขา!

สีหน้าของจ้าวสังสารวัฏเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาฟาดฝ่ามือออกไป พลังล้นฟ้าโถมทับออกมาปะทะกับก้านหลิว จนมิติสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!

บังเกิดเสียงดัง ‘ตู้ม’ เขาร่วงหล่นจากฟากฟ้า ตกลงตรงริมน้ำ

ฝ่ามือของเขาสั่นไหวรุนแรง การปะทะกับก้านหลิวเมื่อครู่ เขาหาได้เป็นฝ่ายได้เปรียบไม่

“หืม เจ้าคนที่มาเยือนครานี้แข็งแกร่งทีเดียว…”

ก้านหลิวส่งเสียงเจืออารมณ์ตะลึง ผู้มาเยือนมีพลังแกร่งกล้าเหนือความคาดหมายของมัน

ดีที่มันไหวตัวอยู่ก่อนจึงกางม่านพลังไว้ล่วงหน้า ปัดป้องคลื่นพลังที่หลงเหลือจากการปะทะ มิให้คลื่นเหล่านี้กระทบไปถึงเมืองชิงซาน

ขืนกระทบโดน เมืองชิงซานต้องเสียหายอย่างหนักแน่นอน

และเพราะมันปัดป้องไว้ได้ คนในเมืองชิงซานจึงไม่รู้เลยว่าเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น

“คงมิใช่ว่าเป็นระดับประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์หรอกนะ!” ก้อนหินกล่าว

แต่เดิมมันเป็นเพียงภูตตัวน้อย ๆ ความรู้จึงมีจำกัด มันเคยได้ยินว่าประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์คือ ยอดฝีมือที่มีฝีมือเก่งกาจที่สุด

มันจึงนึกว่าผู้มาเยือนเป็นประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์จากภาคกลาง

“ต้องเป็นประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์แน่! ได้ยินว่าประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ล้วนอยู่ในขอบเขตก่อกำเนิดนภา และได้ยินว่าขอบเขตก่อกำเนิดนภาเป็นสุดยอดขอบเขต แดนบูรพาทิศไม่มียอดฝีมือที่บรรลุถึงสุดยอดขอบเขตเช่นนี้มาตั้งไม่รู้กี่ปีแล้ว!”

ต้นหลิวกล่าว

มันก็คิดว่าผู้มาเยือนเป็นประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์จากภาคกลาง

เช่นเดียวกับก้อนหิน แต่เดิมตัวมันก็เป็นเพียงภูตตัวน้อย สิ่งที่รู้นั้นมีจำกัด

พวกมันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวพวกมันอยู่ในขอบเขตใด

รู้แต่เพียงขอบเขตของพวกมันยกระดับขึ้นเรื่อย ๆ ทว่ายกระดับถึงขอบเขตไหนนั้น พวกมันไม่ทราบ

ต้องโทษที่พวกมันต้องเฝ้าอยู่ที่นี่ตลอด ไม่ค่อยได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ฝึกตน บวกกับความรู้ที่ติดตัวมานั้นมีน้อยเต็มที หลายสิ่งที่พวกมันรู้นั้นจึงค่อนข้างคลุมเครือ

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์จากภาคกลาง?

ขอบเขตก่อกำเนิดนภา?

จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงได้ยินแล้วโมโหจนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน

เจ้าต้นหลิวกับเจ้าก้อนหินปั่นหัวเขาอยู่ชัด ๆ!

ขอบเขตก่อกำเนิดนภาอะไรกัน!

เขาเป็นถึงมหาจักรพรรดิเชียวนะ!

เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ขอบเขตก่อกำเนิดนภาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะสวมรองเท้าให้เขาด้วยซ้ำ!

ไอ้ต้นหลิวกับไอ้ก้อนหินนี่หยามเขาเห็น ๆ!

จะบอกว่าเขาไม่ได้เรื่อง เมื่ออยู่ต่อหน้าต้นหลิวและก้อนหิน เขาเป็นเพียงผู้ฝึกตนขอบเขตก่อกำเนิดนภาตัวเล็ก ๆ!

เขาไม่เชื่อว่าด้วยพลังของต้นหลิวและก้อนหินจะไม่รู้ว่าเขาเป็นถึงมหาจักรพรรดิ

“ไม่ให้พวกเจ้าได้เห็นดีกันบ้าง พวกเจ้าคงเห็นว่ารังแกข้าได้ง่าย ๆ สิท่า!”

จ้าวสังสารวัฏโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง ยังไม่เคยถูกหยามเหยียดปานนี้มาก่อน เขาต้องทำให้ต้นหลิวและก้อนหินได้เห็นดี ให้พวกมันได้ประจักษ์ถึงความเก่งกาจของเขา!

“ก้อนหิน ระวังด้วย! ขอบเขตก่อกำเนิดนภาจัดการไม่ได้ง่าย ๆ!”

ต้นหลิวบอกกับก้อนหินด้วยท่าทางขึงขัง

“ข้าตัวแข็ง ปัญหาไม่ใหญ่เท่าใด เจ้านั่นแหละ ระวังอย่าให้เขาถอนรากถอนโคนของเจ้า!”

ก้อนหินตะโกนกลับด้วยน้ำเสียงขึงขังไม่แพ้กัน

พวกมันไม่มั่นใจเลยว่าจะชนะ

“พวก…พวกเจ้า!”

จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงโกรธจนจมูกแทบเบี้ยว

บ้าเอ๊ย! โดนต้นหลิวกับก้อนหิน ‘เหน็บแนม’ เขาโมโหจนอกจะระเบิด!

“ระวัง เขากำลังจะปล่อยท่าทรงพลัง!”

“ใช่แล้ว เจ้าดูสิ รูปหน้าเขาเปลี่ยนไป คงกำลังรวบรวมพลังมหาศาลอยู่เป็นแน่!”

ต้นหลิวกับก้อนหินขึงขังยิ่งกว่าเดิม

นี่ยังจะล้อเลียนเขาอยู่อีกหรือ???

จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงโกรธจนแทบกระอักเลือดออกมา!

“บัดซบ!”

เขาแผดเสียงกราดเกรี้ยว เรียกอาวุธมหาจักรพรรดิออกมา ไม่ว่าอย่างไรก็ขอสั่งสอนต้นหลิวกับก้อนหินให้รู้ดำรู้แดง

สิ่งนี้คือกระดานหมากสุดเก่าแก่ ไม่รู้ว่าทำจากวัสดุใด จึงมีพลังไหลเวียนอยู่ทั่วกระดาน พลังแห่งกาลเวลาหลั่งไหลไม่สิ้นสุด

“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ข้าจักแสดงให้พวกเจ้าได้เห็นความเก่งกาจของข้า!”

จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงตะโกนเสียงเย็น

นี่คืออาวุธจักรพรรดิประจำกายของเขา มีนามว่ากระดานจตุรงค์มังกรอำพัน กิตติศัพท์เลื่องลือในยุคโบราณ ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือต้องตายลงด้วยพลังของกระดานจตุรงค์มังกรอำพันไปตั้งเท่าไหร่!

เขานั่งขัดสมาธิ ตั้งกระดานหมากไว้เบื้องหน้า

สะบัดมือเบา ๆ โถหมากสองใบปรากฏขึ้นข้างกาย ด้านในบรรจุหมากสีขาวและหมากสีดำไว้

จากนั้น จ้าวสังสารวัฏหยิบหมากสีดำขึ้นมาเม็ดหนึ่ง จรดลงบนกระดานหมาก!

ครืน!

หมากดำวางลง ฟ้าดินพลันสั่นไหว พลังมหาศาลหลอมรวมเข้ามา จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงชำเลืองต้นหลิวและก้อนหินนิ่ง ๆ ก่อนจะโถมพลังมหาศาลนั้นไปทางต้นหลิวและก้อนหิน!

“สมกับเป็นมหาปราชญ์ขอบเขตก่อกำเนิดนภา เก่งกาจจริง ๆ!”

“ใช่ ๆ พลังนี้กล้าแกร่งยิ่งนัก!”

ต้นหลิวและก้อนหินให้ความสำคัญการต่อสู้นี้เป็นพิเศษ ไม่กล้าชะล่าใจแม้แต่น้อย พวกมันสัมผัสได้ว่าพลังที่โจมตีเข้ามานั้นแข็งแกร่งมาก!

ทั้งสองรีดเร้นกำลังเพื่อป้องกันพลังที่โจมตีเข้ามา

หารู้ไม่ พลังที่จู่โจมเข้ามานั้นเปราะบางเหลือแสน พลังของพวกมันทลายการโจมตีได้ในพริบตา!

ซ้ำยังกระแทกใส่ตัวจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงอย่างแรง!

เสียงดังพรวด จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงกระอักเลือดออกมา และร่างกายก็กระเด็นออกไป

ยังดีที่เขามีพลังสังสารวัฏคุ้มกาย จึงมิได้บาดเจ็บหนักแต่อย่างใด

“อัปยศเหลือเกิน อัปยศเหลือเกิน!”

เขาเหินกลับมาขณะคำรามกราดเกรี้ยวไปด้วย นั่งลงตรงกระดานหมากอีกครั้ง

นึกถึงวาจาที่ต้นหลิวและก้อนหินกล่าวเมื่อครู่ เขาโกรธจนอกจะแตก!

มหาปราชญ์ขอบเขตก่อกำเนิดนภา!

เก่งกาจจริง!

พลังแกร่งกล้ายิ่ง!

ผลสุดท้าย… เขาโดนโจมตีใส่จนกระเด็นไปอีกทางในทันที!

ยังมีเรื่องใดอัปยศกว่านี้อีกหรือ?

จักน่าโมโหเกินไปแล้ว!

“ที่แท้… พวกเราแข็งแกร่งปานนี้เชียวหรือ!”

“ขอบเขตก่อกำเนิดนภาก็ไม่เห็นเท่าไหร่นี่…”

ต้นหลิวกับก้อนหินมองหน้ากัน

ขอบเขตก่อกำเนิดนภามิได้เลิศล้ำดังที่พวกมันคิดเลย

ที่แท้พวกเราแข็งแกร่งปานนี้?

ไอ้ระยำ!

ก่อนหน้านี้พวกเจ้าไม่รู้หรือไรว่าพวกเจ้าแข็งแกร่งปานนี้

อับอาย อับอายสิ้นดี!

จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เคียดแค้นใจเป็นที่สุด

เขาลงมืออย่างรวดเร็ว จรดหมากดำและหมากขาวลงบนกระดาน ให้อยู่ในตาเดินสุดท้าย!

ทันใดนั้น จิตสังหารสุดแรงกล้าพวยพุ่งออกมา อสูรร้ายพิฆาตตนหนึ่งพุ่งออกจากกระดานหมาก บุกเข้าไปหาต้นหลิวและก้อนหินอย่างฉับไว!

ต้นหลิวเอนไหวลำต้น พลังแกร่งกล้าโถมทับออกมามวลแล้วมวลเล่า ปัดป้องคลื่นพลังที่สะเทือนเข้ามา ไม่ยอมให้คลื่นพลังนี้ส่งไปถึงเมืองชิงซาน

มันมิกล้าปล่อยให้เมืองชิงซานเกิดความเสียหาย และมิกล้าให้ชาวเมืองชิงซานได้เห็นภาพทางนี้ กลัวจะทำให้ชาวเมืองชิงซานตื่นตระหนกจนเกิดจลาจล แล้วสะเทือนถึงท่านเซียน

หลังจากทำทุกอย่างจบ มันก็หวดก้านหลิวใส่อสูรร้ายพิฆาตที่คำรามพุ่งเข้ามา!

“นึกว่าเก่งกาจแค่ไหน ที่แท้ก็เท่านี้เองหรือ!”

ก้อนหินเริ่มมีความมั่นใจ มันกระแทกตัวไปข้างหน้า

อสูรร้ายพิฆาตผู้น่าสงสาร บารมีเกริกกล้า พละกำลังมหาศาล ทว่าเมื่อถูกหวดจากก้านหลิวและถูกกระแทกจากก้อนหิน มันอ่อนแอจนไม่อาจต้านทานได้แม้แต่การโจมตีเดียว!

บังเกิดเสียงดัง ‘ตู้ม’ ร่างของอสูรร้ายพิฆาตระเบิด ถูกกำจัดลงอย่างสมบูรณ์

“อันใดกัน!”

จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงตกใจจนหน้าซีดเผือด ไม่เหลือเลือดฝาดแม้แต่น้อย!

นี่คือการโจมตีอันทรงพลังที่สุดของเขา ผลสุดท้ายกลับเปราะบางจนต้านทานการโจมตีเพียงครั้งเดียวไม่ได้ด้วยซ้ำ เขาตระหนักถึงความห่างชั้นระหว่างเขากับต้นหลิวและก้อนหินแล้ว

เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของต้นหลิวและก้อนหินเลย!

เวลานี้ เขาเพียงต้องการหนีไปจากที่นี่ หนีไปให้ไกล!

แต่รู้สึกได้ว่าลมปราณของต้นหลิวและก้อนหินเล็งเป้ามาที่เขา หากเขามีทีท่าจะกระทำการ เขาจักเผชิญการถล่มโจมตีรุนแรงราวสายฟ้าฟาด

เขา…ไม่กล้าขยับเขยื้อนแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด