อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! 618

Now you are reading อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! Chapter 618 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 618 ย้ายมาอยู่กับผม (3)

สิ้นเสียงของเธอ

ได้ยินเพียงเสียงเปิดประตูดัง ‘แกร๊ก’ก่อนจะถูกเปิดออกจากด้านใน

ร่างสูงใหญ่ของเย่เซียวเดินนำออกมาก่อนโดยที่ความเย็นชาปกคลุมไปทั้งตัว

เขากวาดสายตาเรียบนิ่งมาเพียงแวบเดียวหยูอันก็เงียบเสียง ไป๋ซู่เย่ใจกระตุกวูบ เมื่อครู่เสียงปะทะของเธอกับหยูอันไม่ได้เบาเลย ฉะนั้นเขาคงได้ยินหมดแล้วสินะ!

ได้ยินถ้อยคำที่ไร้การสำนึกของเธอ…

หลังชะงักนิ่งไปครู่หนึ่งไป๋ซู่เย่ถึงนึกจุดประสงค์ที่ตนมาในวันนี้ได้

“เย่เซียว”

เย่เซียวไม่แม้แต่ปรายตามองเธอแวบหนึ่งก็ตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำ ไป๋ซู่เย่เดินตามไป หยูอันอยากห้ามเธอไว้แต่เพราะความมีไหวพริบถึงสลัดหยูอันหลุดจนเดินตามมาได้

“เย่เซียว เราจำเป็นต้องคุยกัน!”

เย่เซียวเดินหยุดเท้าตรงหน้าห้องน้ำชาย ปรายตาเย็นชามองเธอ “ยังจะตามมาอีกไหม?”

ไป๋ซู่เย่มุ่นคิ้วน้อยๆ มองผู้คนที่เดินเข้าออกสุดท้ายก็ตามเข้าไปโดยไม่ลังเล “ทำไมเรื่องของคุณกับซ่งกั๋วเหยาถึงเลื่อนวันใกล้เข้ามา? สัญญาของเราเพิ่งเริ่มเอง”

“ที่แท้คุณก็ยังจำสัญญาของเราได้” เย่เซียวแค่นหัวเราะ ยืนนิ่งอยู่กับที่ชำเลืองสายตามาที่เธอแวบหนึ่งแล้วพูดออกคำสั่ง “มานี่!”

“?” เธอมองเขาด้วยความฉงนใจหน่อยๆ

เขายื่นแขนกระชากมือเธอมาไว้ตรงหัวเข็มขัด “ปลดกางเกงของผมออก!”

“…คุณจะทำอะไร?” ดวงหน้าเล็กของไป๋ซู่เย่แดงระเรื่อ ผู้ชายคนอื่นที่ยืนข้างๆ ต่างส่งสายตาสงสัยปนอยากรู้อยากเห็นมาทางนี้อย่างระมัดระวัง ความคิดอื่นๆ เริ่มผุดขึ้นมา

ข่าวใหญ่เชียว!

“จำสัญญาของเราได้ไม่ใช่เหรอ? จะพูดอีกครั้งเดียว ปลดกางเกงของผมออก! จะทำก็ทำ ไม่ทำก็ไสหัวไป!”

“เย่เซียว คุณอย่าทำเกินไปนะ” ที่นี่ผู้คนเข้าออกไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าเขาจงใจเหยียดหยามเธอ

“คุณคิดว่าตัวเองมีทางเลือกเหรอ?” เย่เซียวจับคางเธอแน่น ใช้สายตาดุดันจ้องเธอเขม็ง ผ่านไปครู่ใหญ่ก็สะบัดหน้าหนีเธอพูดด้วยความรังเกียจ “ไสหัวไป! ตอนนี้ผมเห็นหน้าคุณแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน”

‘ไร้ทางเลือก’ งั้นหรือ! ‘บนโลกนี้ไม่มียารักษาโรคเสียใจทีหลัง’ งั้นหรือ!

บัดนี้เธอยังไม่รู้สึกผิดใดๆ กับการทรยศหักหลังของเธอในครั้งนั้น!

ความคิดแบบนี้ยิ่งกระตุ้นความเกลียดชังจากใจของเขามากยิ่งขึ้น!

ไป๋ซู่เย่ไม่ไป ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างหัวแข็ง “เมื่อคืนฉันทำตามคำสั่งคุณ ไปหาคุณ คุณสั่งคนไว้ไม่ให้ฉันเข้าไป ทำไมวันนี้คุณกลับผิดคำพูดเอง?”

“คุณไป๋รู้จักคำว่าเรียกเมื่อไหร่ให้มาเมื่อนั้นไหม? ให้เวลาคุณครึ่งชั่วโมงแต่คุณมาสายสามชั่วโมงถ้วน ถ้าจะว่าผิดคำพูด ใครผิดคำพูดก่อน?”

“ฉัน…”ไป๋ซู่เย่ไร้คำโต้เถียงกลับ สูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ “คุณอยากได้ไม่ใช่เหรอ? ที่นี่…”

สองพยางค์สุดท้ายเธอหรี่เสียงให้เบาลง

เย่เซียวแค่นเสียงเย็นไม่ตอบเพียงแค่มองเธอด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ไป๋ซู่เย่เข้าใจความหมายเขา และรู้ดียิ่งกว่าว่าเขาแค่ย่ำยีศักดิ์ศรีอยากทำให้เธอละอายต่อหน้าผู้อื่น

ถือว่าเป็นการแก้แค้นสินะ…

ตอนนี้ทุกสิ่งที่เขาทำก็เพื่อแก้แค้น ส่วนสิ่งที่เธอทำได้ดูเหมือนจะเหลือเพียงทำตามคำสั่งและชดเชยให้อย่างเดียว

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ คล้ายตัดสินใจครั้งใหญ่ ไม่ได้ปลดกางเกงเขา ปลายนิ้วกลับเลื่อนมาที่กระดุมเสื้อตัวเอง

เขาขมวดคิ้ว

ปลายนิ้วเรียวยาวของเธอปลดกระดุมออกหนึ่งเม็ด

เขาหายใจติดขัด

แพขนตาเธอกะพริบเบาๆ มือปลดกระดุมออกเป็นเม็ดที่สอง เม็ดที่สาม…

วันนี้เธอรีบร้อนออกมาจึงไม่ทันใส่ชุดซับข้างใน กระทั่งปลดถึงเม็ดที่สามบราสีขาวก็โผล่ออกมาให้เห็นแวบๆ ไป๋ซู่เย่ชะงักนิ้ว

รอบข้างเกิดเสียงสูดหายใจอย่างตื่นเต้นของชายหนุ่มทั้งหลายรวมถึงสายตาหื่นกระหายที่มองมาตรงเนินอกของเธอ

ทุกคนต่างคาดหวังและรอคอยให้เธอปลดกระดุมต่อไป

สายตาที่ส่งมาทำให้เย่เซียวรู้สึกเหมือนมีไฟลุกโชนในอก

ไป๋ซู่เย่หยุดชะงักนิ้วไว้ตรงนั้นไม่ทำต่อ เขาส่งสายตาประชดไป “ไม่กล้าเหรอ?”

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ กระตุกยิ้มมุมปากเผยรอยยิ้มน่าหลงใหล “ไม่มีอะไรให้ต้องกลัว”

นิ้วเรียวสวยปลดต่อไปจนกระดุมเม็ดที่สี่หลุดออกมา ปรากฏเรือนร่างงดงามดุจดอกไม้ตรงหน้าเหล่าชายหนุ่ม

สวมชุดเครื่องแบบแล้วยังหุ่นดีขนาดนี้ สวยขนาดนี้ ช่างเติมเต็มจินตนาการในชุดเครื่องแบบของผู้ชายทุกคนได้ดีจริงๆ ต้องรู้ว่าผู้ชายเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ตกเป็นทาสของผู้หญิงในชุดเครื่องแบบ

เหล่าชายหนุ่มสูดปากกันรัวๆ

มือที่ทิ้งข้างลำตัวของเย่เซียวกำแน่น สายตาเย็นชาถึงขีดสุดก่อนปรายตามองไป “ให้เวลาพวกคุณสามสิบวินาที ไสหัวออกไป! ใครกล้ายืดเยื้อแม้แต่วินาทีเดียว ฉันจะทำให้มันไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้!”

สิ้นประโยคนี้ทุกคนต่างมองหน้ากันและกัน

มีของดีอยู่ตรงหน้าย่อมไม่อยากไปไหนแต่พอดูผู้ชายคนนั้นอีกที…กลิ่นอายความโหดเหี้ยมแผ่ออกมาจากตัวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้านั่นเรียกให้คนกลัวจับใจ คล้ายว่าหากช้าสักวินาทีเดียวก็อาจถูกฆ่าตายได้

สุดท้าย…

ทุกคนก็รีบสลายตัวกันออกไปทันที

ชั่ววินาทีที่ประตูถูกกระแทกปิดลงไป๋ซู่เย่ก็ถูกกระชากตัวไปวางไว้บนเคาน์เตอร์กระจก เย่เซียวฉีกทึ้งชุดเครื่องแบบบนตัวเธอออกอย่างเอาแต่ใจปนป่าเถื่อน เผยผิวขาวเนียน มือใหญ่เลื่อนลงปลดกระดุมกางเกงเธอ

ไป๋ซู่เย่นึกถึงประสบการณ์แสนน่ากลัวของค่ำคืนนั้นก็ตัวสั่นระริก กลืนน้ำลายแทบจะห้ามมือเขาไว้โดยสัญชาตญาณ พูดห้าม “รอ…รอเดี๋ยว เย่เซียว…”

“อย่าลืม คุณไม่มีสิทธิ์พูดอะไร!”

“แต่ว่า…คืนนั้นฉันบาดเจ็บ ทำไม่ได้…”

เย่เซียวหยุดทันทีตามคาด เธอคิดว่าเขาจะปล่อยตัวเองไปทั้งอย่างนั้นแต่วินาทีถัดมาคำพูดของเขาทำให้เธอรู้ว่าตัวเองคิดง่ายไปหน่อย เขาเป็นซาตาน จะปล่อยโอกาสที่จะได้ย่ำยีเธอให้หลุดลอยไปได้อย่างไร?

“ในเมื่อร่างกายรับไม่ไหว งั้นก็ใช้ปากคุณก็แล้วกัน!”

“…”ใบหน้าเล็กแดงปลั่งทันทีที่ไป๋ซู่เย่เข้าใจความหมายเขา

“ทำไม? ไม่กล้าเหรอ?” เย่เซียวแค่คิดก็รู้สึกเจ็บไปทั้งตัว เขารู้สึกเหมือนธาตุไฟแตกเข้าจริงๆ ผู้หญิงคนนี้ ให้ตายสิ ไม่ต้องทำอะไร แค่เข้าใกล้เขาก็ทำให้เขาคุมร่างกายตัวเองไม่อยู่ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังยืนอยู่ตรงหน้าในสภาพกึ่งเปลือย

เดิมทีข้อเสนอของเขาแค่ต้องการเหยียดหยามเธอ แต่พอออกจากปากในหัวก็เริ่มจินตนาการไปถึงภาพต่างๆ อย่างควบคุมไม่อยู่

เสียงของเขาแหบลง ปากร้อนแนบใบหูเธอ “ยังจำได้ไหม? สิบปีก่อน…คุณเคยทำให้ผมมาก่อน…”

ไป๋ซู่เย่รู้สึกอายจนเหมือนไม่มีที่ยืนสำหรับตัวเอง สิบปีก่อน เขากลับยังจำครั้งนั้นได้

ความจริงเธอก็จำได้…

จำได้แม่น

ลืมไปแล้วว่าในงานอะไร ครั้งนั้นเธอดื่มมากไปและยังใช้ปาก ต่อให้ไม่ใช้ปากก็อาศัยอายุตัวเองยังน้อยคิดว่าเขาไม่ทำอะไรเธอ ถึงกล้าทำอะไรตามอำเภอใจกับตัวเขา

เธอในตอนนั้นอยากเอาใจผู้ชายคนนี้จริงๆ

มีความชอบอย่างหนึ่งที่ยากจะใช้คำพูดมาอธิบาย แต่ชอบจนเสียแรงทุ่มเทเพื่อให้เขามีความสุข ให้เขาพึงพอใจ ส่วนความสุขและความพึงพอใจทั้งหมดนี้จะต้องมาจากตัวเธอเท่านั้น

เธอในเมื่อนั้นแม้จะขี้อายแต่กลับสลัดความคิดรักนวลสงวนตัวทิ้งไปนานแล้ว

…………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด