อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! 675 กลับมาเจอกันอีกครั้ง (2)

Now you are reading อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! Chapter 675 กลับมาเจอกันอีกครั้ง (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 675 กลับมาเจอกันอีกครั้ง (2)

เย่เซียวผลักถังซ่งออกอย่างแรงและไม่มีบทสนทนาใดๆ อีก

เขาหันหลังย่ำเท้าเดินออกไปท่ามกลางฝน

ทุกก้าว ล้วนหนักอึ้งกว่าก้าวก่อนหน้านัก…

แผ่นหลังที่อยู่ท่ามกลางสายฝนดูโดดเดี่ยว เหงา อ้างว้างและเจ็บปวด

ถังซ่งเห็นทุกอย่างในสายตาก็รู้สึกแย่มากเช่นกัน

ชาตินี้มันเวรกรรมจริงๆ ถึงทำให้เขาได้เจอกับไป๋ซู่เย่!

…………………………

สิบวันหลังจากนั้น

ไป๋ซู่เย่ตื่นเช้าตรู่เพราะเสียงปลุกจากโทรศัพท์

ไม่ใช่เสียงนาฬิกาปลุกแต่เป็นเสียงเตือนของปฏิทิน

เวลาที่เซ็นสัญญาไว้กับเย่เซียว วันสุดท้าย

นับถอยหลังก่อนจะถึงวันสุดท้าย…

เธอนอนอยู่บนเตียงดูปฏิทินแล้วถึงสังเกตเห็นว่าที่แท้วันเวลาผ่านไปไวได้ถึงเพียงนี้ สิบวันนี้แผลของเธอหายดีแล้ว ไม่ว่าจะศีรษะหรือเบื้องล่าง ปล่อยผมลงมาก็ไม่เห็นรอยแผลตรงศีรษะสักนิด

ความจริงตั้งแต่ที่นั่งรถไฟใต้ดินด้วยกันในวันนั้น เย่เซียวไม่เคยติดต่อเธอมาอีก

หลายครั้งเธอเคยเข้าไปสอดส่องเวยป๋อของน่าหลันเหมือนไม่ได้ตั้งใจแต่ก็ไม่อาจล่วงรู้ตารางงานของเย่เซียวจากในนั้นได้เลย

อารมณ์ในเมื่อนั้นซับซ้อนเหลือเกิน คล้ายผิดหวังแต่ก็แอบรู้สึกโชคดี โชคดีที่อย่างน้อยไม่เห็นเนื้อหาเวยป๋อของเธออย่างคราวก่อน

จู่ๆ เธอก็สังเกตว่าหากเย่เซียวไม่ติดต่อเธอ เจ้าตัวก็เหมือนจะหายไปจากโลกใบนี้ ในโลกของเธอไม่มีร่องรอยใดๆ ของเขา

ผ่านวันนี้ไป…

ระหว่างพวกเขาจะไม่มีแม้แต่สัญญาที่ใช้เป็นข้ออ้าง

ไม่เกี่ยวข้องกันอีกโดยแท้จริง…

เมื่อกำลังเหม่อลอยคุณหญิงไป๋ก็โทรมา

ไป๋ซู่เย่กดรับสายพร้อมเปิดลำโพงแล้ววางไว้บนแท่นอ่างล้างมือในห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันไปคุยกับคุณหญิงไป๋ไป

“วันนี้แต่งตัวดีๆ หน่อยนะ ตอนบ่ายสองลูกมารับแม่กับต้าไป๋ที่จงซัน รอเย่ฉิงทำงานเสร็จก็จะตามไปตอนค่ำด้วยเหมือนกัน”

ไป๋ซู่เย่เพิ่งนึกถึงเรื่องที่คุณหญิงไป๋เคยบอกว่าตระกูลอวิ๋นจะจัดงานคล้ายวันเกิดในวันนี้

“เฮ้ ลูกไม่พูด คงไม่ได้ลืมเรื่องนี้ไปหรอกนะ?” คุณหญิงไป๋ไม่ได้ยินเสียงจึงถามอีกที

“ก่อนหน้าหนูแค่บอกไปว่าขอคิดก่อน ไม่ได้บอกว่าจะไปแน่ๆ” ไป๋ซู่เย่ถอดชุดนอนออกและเดินตัวเปลือยไปใต้ฝักบัวเพื่ออาบน้ำ

คุณหญิงไป๋ไม่พอใจแล้ว “แม่บอกคนตระกูลอวิ๋นไปแล้วนะว่าลูกไปแน่ๆ ลูกไม่ไว้หน้าแม่แบบนี้ จากนี้ไปแม่จะจู้จี้จุกจิกกับลูกทุกวัน จะบอกให้ลูกหาแฟนทุกวัน ดูสิว่าจะรำคาญไหม!”

รำคาญสิ!

ตอนนี้ก็รำคาญจะแย่แล้ว!

ไป๋ซู่เย่ทั้งอยากร้องไห้ทั้งอยากขำ คุณหญิงไป๋ถ้างอแงขึ้นมาแม้แต่เย่ฉิงเองยังทำอะไรท่านไม่ได้

“ได้ หนูไปก็ได้ แต่แม่เองก็ต้องสัญญากับหนูก่อน เดี๋ยวไปที่บ้านพักแช่น้ำร้อน อย่ายุ่งเรื่องของหนูกับอวิ๋นช่วน เรื่องความรักแม่ให้หนูสานต่อเอง ได้ไหม?”

“ถ้าลูกสานต่อเองได้ แม่จะยุ่งทำไม? แม่กลัวลูกไม่สานต่อกับใครแค่นั้นแหละ!”

ไป๋ซู่เย่ยืนใต้ฝักบัวปล่อยให้น้ำร้อนไหลไปตามเรือนร่าง เธอใช่ว่าจะไม่รู้เหตุผลที่คุณหญิงไป๋กังวลขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะเย่ฉิงมีลูกแล้ว หรือปัญหาอายุที่เพิ่มขึ้นของตน แต่อาจเป็นเพราะท่านเองก็เริ่มได้รับข่าวคราวการกลับมาของเย่เซียวบ้างแล้ว

“หนูรู้ว่าแม่เป็นห่วงอะไร วางใจเถอะ หนูไม่ปล่อยให้แม่เป็นห่วงหรอก”

สิ้นคำกลับสร้างความตกใจแก่คุณหญิงไป๋ไปอึดใจหนึ่ง เธอไม่กล้าพูดชื่อ ‘เย่เซียว’ ต่อหน้าลูกสาว แต่ความจริงบัดนี้ทั้งคู่เองก็รู้อยู่แก่ใจแค่ไม่พูดออกมา

คุณหญิงไป๋ไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้น วางสายไปเสียแล้ว

ไป๋ซู่เย่อาบน้ำเสร็จออกมาก็ดูมีชีวิตชีวากว่าเดิม พอได้ออกไปวิ่งยามเช้าสิบกว่ากิโลเมตรถึงเปลี่ยนชุดเครื่องแบบขับรถไปที่กระทรวงความมั่นคง

“รัฐมนตรี ปลัดกระทรวงบอกให้คุณไปหาท่านที่ห้องทำงาน”

ไป๋ซู่ถึงเพิ่งถึงเลขาก็มารายงานเธอทันที

เธอตอบรับและจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย เดินขึ้นไปชั้นบนบรรยากาศบริเวณนี้เงียบมาก ปลัดนั่งบนโซฟาด้วยสีหน้าหนักอึ้ง ข้างในนอกจากจะมีปลัดกระทรวงแล้วยังมีทหารตำแหน่งพลเอกหลายนาย ทุกคนล้วนมีสีหน้าที่ย่ำแย่

“ท่านปลัด” เธอเคาะประตู

“เข้ามาเถอะ”

ไป๋ซู่เย่ผลักประตูเข้าไป

“เชิญนั่งตามสบาย” ปลัดบอกเธอ

ไป๋ซู่เย่นั่งลงบนโซฟาและทุกคนก็หันสายตามาทางเธออย่างพร้อมเพรียง เธอยิ้มจางๆ “วันนี้ทุกท่านมาพร้อมหน้ากันขนาดนี้ คิดว่าน่าจะมีเรื่องสำคัญสินะคะ?”

“ช่วงนี้คุณค่อนข้างอยู่ใกล้เย่เซียว ได้รู้ข่าวอะไรบ้างหรือเปล่า?” ปลัดถามมาตรงๆ โดยไม่มีคำเกริ่นใดๆ

ไป๋ซู่เย่คิดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวข้องกับเย่เซียวอีกแล้ว

เธอส่ายหัวและตอบตรงๆ “ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่ ข่าวที่คุณว่าฉันไม่รับรู้อะไรจริงๆ ส่วนฉันกับเย่เซียว ก็ไม่ได้…”

“พอแล้วๆ เรื่องของคุณกับเย่เซียวตอนนี้ไม่ต้องอธิบายมากหรอก เราเชื่อคุณ” ปลัดพูดขัดเธอ

ไป๋ซู่เย่เริ่มงุนงง คราวก่อนบอกให้เธอมาอธิบาย บ่งบอกชัดเจนว่าขาดความเชื่อใจในตัวเธอ ท่าทางคราวนี้กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

“ซู่เย่ ความสัมพันธ์ของคุณกับเย่เซียวไม่ธรรมดาส่วนนี้เราทุกคนรู้ดี แน่นอนว่าเราก็รู้ว่าคุณเคยเป็นสายลับที่เคารพหน้าที่ ให้เกียรติอาชีพและมีความคิดเป็นของตัวเองอย่างมาก จุดนี้ทุกคนชื่นชมคุณมาก” นายพลคนหนึ่งที่นั่งตรงข้ามตนเอ่ยปาก “แต่ช่วงนี้คุณเคยได้ยินเย่เซียวพูดถึงพ่อบุญธรรมของเขาไฟเรนเซ่บ้างไหม?”

ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง

ไป๋ซู่เย่ส่ายหัว “ฉันไม่มีการติดต่อใดๆ กับเย่เซียว”

“จริงเหรอ?” เห็นได้ชัดว่าทุกคนทำท่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

เธอพยักหน้าอย่างหนักแน่นอีกครั้ง

ท่านรองนายพลถอนหายใจ “เราเพิ่งได้รับข่าวว่าช่วงนี้ไฟเรนเซ่อุกอาจมากในดินแดนโรมาน เขาลักลอบติดต่อกับสามประเทศเพื่อนบ้านเราเพื่อหวังจะได้เป็นผู้ค้าอาวุธรายใหญ่ ถ้าการเจรจาครั้งนี้เป็นเรื่องสำคัญก็จะกระทบความปลอดภัยของประเทศทันที หรืออาจจะกระทบอำนาจอธิปไตยของประเทศเราได้ จุดนี้รัฐมนตรีไป๋น่าจะเข้าใจเป็นอย่างดี”

“พวกคุณเลยอยากหยุดการเจรจาในครั้งนี้?”

“ไม่ใช่อยาก แต่ต้องทำ!” สายตาทุกคนแน่วแน่ “ถ้าการเจรจาค้าอาวุธในครั้งนี้ของไฟเรนเซ่สำคัญจริงๆ ประเทศ S ของเราก็เหมือนถูกล้อมรอบด้วยระเบิดสามลูกจากสามทิศทางที่พร้อมจะทิ้งระเบิดมาในประเทศ S เราได้เสมอ!”

ไป๋ซู่เย่ถอนหายใจหนักๆ “เรื่องนี้เรื่องใหญ่จริงๆ แต่ฉันกับเย่เซียวไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างที่พวกคุณคิด!”

ประโยคนี้เธอเน้นหนักอีกครั้ง

จากนั้นถึงเสริมอีกประโยค “แน่นอนว่าเราทุกคนมีหน้าที่ที่จะปกป้องความมั่นคงของประเทศ ถ้ามีตรงไหนที่ต้องการฉัน ฉันจะไม่ลังเลและปฏิเสธ”

ปลัดพยักหน้าที “งั้นคุณกลับห้องทำงานไปก่อน เรื่องนี้เรายังต้องขอเวลาปรึกษาวิธีแก้กัน แต่หวังว่าคุณจะเตรียมตัวให้พร้อมตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”

ไป๋ซู่เย่หยักหน้ารับและผงกหัวให้ท่านนายพลท่านอื่นน้อยๆ ก่อนจะก้าวเดินออกไป

ชั่วขณะที่ปิดประตูความนิ่งสงบของเธอหายไปแทบทันที เรี่ยวแรงทั้งตัวเหมือนถูกสูบไปในหนเดียว มือจับลูกบิดประตูไว้แน่นทั้งที่ปลายเล็บยังสั่นระริก

เธอไม่สามารถและไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเมื่อสิบปีก่อน…

ฝันร้ายอย่างนั้นแค่ครั้งเดียวก็ทำเธอกับเย่เซียวเหมือนตายทั้งเป็น…

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด