อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! 625

Now you are reading อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! Chapter 625 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 625 เย่เซียว เทคนิคคุณแย่มาก! (2)

เย่เซียวตัดสายทิ้งทันที ยืนเงียบอยู่ริมหน้าต่างพักใหญ่

หนึ่งนาทีหลังจากนั้น

ถังซ่งได้รับข้อความหนึ่งฉบับ ‘คืนนี้ฉันว่าง’

“คนซึน!” ถังซ่งหัวเราะเสียงดัง

แต่ทีนี้กลับอดยกย่องน่าหลันไม่ได้ เมื่อก่อนแค่รู้สึกว่าเธอเป็นเพียงเงาของไป๋ซู่เย่เท่านั้นที่บางครั้งดูคล้ายมากจริงๆ จากความเข้าใจที่เขามีต่อเย่เซียว การที่เก็บน่าหลันไว้ข้างกาย ดูแลเรื่องอาหารการกินที่พักอาศัยและเสื้อผ้าต่างๆ ก็แค่ต้องการเบี่ยงเบนความสนใจจากไป๋ซู่เย่เท่านั้น

แต่ไม่คิดว่ายัยน่าหลันนี่กลับสามารถทำให้เย่เซียวมีใจจะเรียนวิชาเอาใจผู้หญิง นี่มันเกินความคาดหมายของเขาไปมากเลย

ผู้ชายโอหังเย่อหยิ่งอย่างเย่เซียว ไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้

…………………………

ไป๋ซู่เย่ยังคงกลับดึกเช่นเคย

วันนี้มีงานเลี้ยงที่ลูกชายคนโตของคุณเหมยเอินอย่างเหมยอู่หลางมาเยือนประเทศ S เนื่องจากมีความสัมพันธ์อันดีกับท่านอธิบดีกระทรวงความมั่นคงฉะนั้นจึงกำชับอธิบดีไว้โดยเฉพาะว่าให้พาไป๋ซู่เย่คนดังของประเทศ S มาด้วย

ผู้ชายที่ยอมศิโรราบให้เธอ มีเยอะจนนับไม่ถ้วน แต่คนตรงไปตรงมาอย่างเหมยอู่หลางที่ไม่คิดปิดบังความสนใจต่อเหยื่อแบบนี้ช่างน้อยนิด

เหมยอู่หลางเองก็นับได้ว่ามีชื่อเสียงเรื่องชู้สาว ไป๋ซู่เย่พอรู้อยู่ ฉะนั้นจึงจงใจระมัดระวังเขาอยู่แล้ว แต่ด้วยความสัมพันธ์อันดีของคุณพ่อเขากับประเทศ S กลับไม่อาจผิดใจกับเจ้าหมอนี่ได้ อย่างน้อยก็ห้ามฉีกหน้ากันโจ่งแจ้งเกินไป

“คุณไป๋ ได้ยินว่าคุณเป็นคอแข็ง เหล้าแก้วนี้คุณคงไม่คิดปฏิเสธผมหรอกใช่ไหม?” ท่ามกลางเสียงอึกทึกภายในห้อง เหมยอู่หลางเทเหล้าเต็มๆ หนึ่งแก้วแล้วยื่นให้ไป๋ซู่เย่

ดวงตาคู่นั้นที่หว่านเสน่ห์ไม่หยุด คิดว่าตัวเองหล่อเหลือเกิน

ไป๋ซู่เย่รู้สึกขบขัน ขณะที่รับเหล้าแก้วนี้มาก็ถูกเจ้าหมอนี่แอบลูบหลังมืออย่างหน้าไม่อายไปที “คุณไป๋ไม่ใช่แค่คอแข็ง ผิวเนียนนุ่มอีกต่างหาก”

“คุณเหมยเคยเจอหญิงสาวมาจนนับไม่ถ้วน ฉันจะเทียบกับหญิงสาววัยขบเผาะเหล่านั้นได้ยังไงคะ?” เธอพูดประชดตัวเองอย่างถ่อมตัว ไม่กล้าดื่มซี้ซั้วอีก ความจริงมันเลยขีดจำกัดของเธอแล้วเพราะตัวเธอรู้ดีว่าหากดื่มต่อไปจะต้องเสียภาพลักษณ์แน่ๆ

“แต่หญิงสาวพวกนั้นไม่ได้มีเสน่ห์เหมือนคุณไป๋ไงล่ะ อายุน้อยแล้วยังสวยอีก การงานหน้าที่มีครบ ลงสนามรบได้ เข้าครัวได้…แต่ เหล้าแก้วนี้ ผมไม่เห็นคุณแตะต้องแม้แต่หยดเดียว ทำไมครับ? ไม่เห็นแก่ผมงั้นเหรอ?”

ไป๋ซู่เย่เหลือบมองคนอื่นๆ แวบหนึ่งเงียบๆ ทุกคนต่างล้อมวงคุยเรื่องตัวเองกันอยู่โดยไม่มีใครสังเกตมองมาทางพวกเธอเลยแม้แต่คนเดียว

“คุณไป๋ ทำไมเหม่อลอยล่ะครับ? ถ้าแก้วนี้คุณไม่ดื่มก็เท่ากับดูถูกผม ดูถูกตระกูลเหมยเรา”

ประโยคจากปากของเขาโยนภาระอันหนักอึ้งมาให้ เดิมทีอธิบดีกำลังคุยกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ พอได้ยินประโยคนี้ก็รีบเบี่ยงหน้ามาหา “ซู่เย่ คุณก็ใช่ว่าจะดื่มไม่ได้ ก็ดื่มแก้วนี้ของคุณเหมยไปเถอะ ถือว่าเห็นแก่ผม”

อธิบดีพูดจบพลางมองไป๋ซู่เย่อีกแวบหนึ่งก่อนยิ้มพูดกู้หน้า “ดื่มก็ส่วนดื่ม ยังไงซู่เย่เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง คงดื่มได้แค่แก้วนี้เท่านั้น จะดื่มมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นภายหลัง ท่านประธานาธิบดีกล่าวโทษมา ผมรับผิดชอบไม่ไหวหรอกนะ”

หลายเวลาหลายสถานที่ล้วนทำตามใจตัวเองไม่ได้ หากพบเจอคนที่วางตัวดี รู้จักประมาณตนก็ถือว่าโชคดีไป หากเจออันธพาลระดับสูงที่ไม่รู้ขอบเขต คุณก็ทำอะไรไม่ได้

ไป๋ซู่เย่เข้ามาในวงการนี้ตั้งแต่อายุสิบกว่าปี ตั้งแต่เล็กจนโตได้รับมลทินสิ่งแปดเปื้อนมามากมายย่อมรู้ว่าหากตัวเองไม่ดื่มแก้วนี้ไป จะไม่ไว้หน้าเหมยอู่หลาง ทำให้เขาต้องเสียหน้า หากยังดื้อดึงต่อไปเกรงว่าจะเป็นการสร้างความอึดอัดต่อทุกฝ่าย

ไม่ได้คิดอะไรมาก เธอยกแก้วดื่มรวดเดียวอย่างไม่ลังเล

จากนั้นค่อยๆ ลุกขึ้น ยิ้มจางๆ อย่างคงความสง่าไว้ “ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ พวกคุณดื่มต่อเลย”

เธอมึนหัวเล็กน้อย

ฝืนเดินออกไปโทรหาไป๋หลางก่อนเล่าเหตุการณ์คร่าวๆ ให้อีกฝ่ายเพื่อให้ไป๋หลางรีบมาช่วยรับหน้าแทนเธอถึงวางสาย ฉับพลันได้ยินเสียงพูดคุยอย่างตื่นเต้นของเหล่าหญิงสาวที่ดังแว่วมาเรื่อยๆ

“รู้ไหมว่าวันนี้คนที่เรียกเราไปคือใคร?”

“ใครเหรอ? คนรวยที่ไหนอีก?” นี่เป็นสวรรค์ของคนมีฐานะ คนที่ติดอันดับจาก Fobes มากมายก็ชอบมาใช้เวลาผ่อนคลายที่นี่

“คนรวย? ไม่ใช่แค่คนรวยนะ เย่เซียวต่างหาก”

“เย่เซียว? เธอหมายถึงเย่เซียวที่มีธุรกิจทั้งสุจริตและธุรกิจมืดคนโด่งดังคนนั้นน่ะเหรอ?”

“อืม!”

“พระเจ้า! ฉันรู้จัก เมื่อก่อนเคยเห็นในทีวี หุ่นเขาดีมากเลย! เรื่องนั้น…ก็ต้องดุเดือดมากแน่ๆ สินะ? ฮ่าๆ”

“ถ้าไม่ดุเดือดจริงจะเรียกไปทีเดียวห้าคนได้เหรอ?”

หญิงสาวที่สวมชุดตกแต่งอย่างดีพูดแล้วเปิดประตูอีกห้องเข้าไปทันที แม้ไป๋ซู่เย่จะมึนอยู่แต่คำว่า ‘เย่เซียว’ เธอได้ยินมันชัดเจน

ทั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเอง แต่ก็อดเดินไปที่ห้องนั้นไม่ได้

ประตูบานหรูสามารถเห็นทุกอย่างของข้างในผ่านกระจกหน้าต่างได้ ผู้ชายคนนั้นนั่งอยู่บนโซฟาด้วยใบหน้าเย็นชาราวกับราชา สองขายาวมีหญิงสาวประกบทั้งสองข้าง

ไป๋ซู่เย่ยืนดูอยู่ครู่เดียวก็รู้สึกมึนหัวอย่างรุนแรง ในโลกที่มีแสงไฟหลากสี เธอมองผู้ชายคนนั้นด้วยความรู้สึกเหมือนคนแปลกหน้า…

ที่แท้…

อดีตก็คืออดีตจริงๆ…

ตัวเธอในสิบปีหลังไม่ใช่ไป๋ซู่เย่คนเดิม เย่เซียวในสิบปีหลัง…ก็ไม่ใช่เย่เซียวคนเดิม…

เขาในอดีตไม่มีทางแตะต้องผู้หญิงพวกนี้เด็ดขาด แต่ตอนนี้….

ทีเดียวห้าคน

อึดจริงๆ…

ไม่คิดจะอยู่ต่อ เธอเดินไปทางห้องน้ำและหวังว่าคงไม่สายหากจะอาเจียนออกมาตอนนี้

แต่พอเดินไปเพียงสองก้าวเจ้าตัวรู้สึกมึนหัวมากขึ้น ใบหน้าร้อนผ่าว

เธอจับกำแพงสะบัดหัวไปมาคิดจะให้ตัวเองมีสติหน่อย

แต่ตัวกลับยังอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรงเหมือนเดิม

“คุณ ไม่เป็นไรใช่ไหม?” ถังซ่งออกมาจากห้องน้ำพอดีจึงมาถามอย่างเป็นห่วง เขาเป็นคุณชายที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ตัวยง แค่อยู่กับสาวสวยคนหนึ่งก็เกิดอารมณ์ได้แบบนั้น พอเห็นเธอเข้า แม้จะยังไม่เห็นหน้าแต่แค่ดูจากการแต่งกาย ความสง่าและหุ่นที่ถูกห่อหุ้มด้วยชุดตะวันตกนั่นก็ตัดสินได้แล้วว่าเธอต้องเป็นหญิงงามคนหนึ่งแน่ๆ

“ไม่เป็นไรค่ะ” ไป๋ซู่เย่ฝืนตั้งสติโบกมือปัด

ถังซ่งอาศัยแสงไฟสลัวสังเกตมองครึ่งใบหน้าอันคุ้นเคยของเธอได้จนคิดว่าตัวเองดูผิดไป ยื่นมือปัดผมบนหน้าเธอออก

เธอคิดว่าตัวเองเจอคนโรคจิตเข้าแล้วจึงมุ่นคิ้วถลึงตาใส่อีกฝ่ายอย่างระแวง แต่มองเห็นหน้าอีกคนชัดเจน สีหน้าก็ผ่อนคลายลงทันควัน

เธอแย้มปาก “ไม่ได้เจอกันนานเลย ที่แท้คุณก็กลับประเทศมาแล้วเหรอ”

“คุณจริงๆ ด้วย?” ถังซ่งมองไป๋ซู่เย่ สิบปีไม่ได้เจอกัน เหมือนเธอจะ…สวยกว่าเมื่อก่อนมาก อืม ดูเย้ายวนตามฉบับผู้หญิงโดยเฉพาะตอนมึนเมา ดวงตาเคลิบเคลิ้ม พวงแก้มขึ้นสีระเรื่อ

……………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด