อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! 755 เดี๋ยวได้เดี๋ยวเสีย(2)

Now you are reading อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! Chapter 755 เดี๋ยวได้เดี๋ยวเสีย(2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 “กำลังคิดถึงไป๋ซู่เย่” ไฟเรนเซ่ถามเองตอบเองราวกับไม่ได้ยินคำตอบของเขา

ไม่ใช่ประโยคคำถามแต่เป็นประโยคบอกเล่า

เย่เซียวรู้ว่าตัวเองคิดอย่างไร ในเมื่อปิดบังเขาไม่ได้เลยไม่ได้ปฏิเสธ

 “แกกำลังชั่งใจว่าครั้งนี้อยู่ๆ เธอก็มาที่นี่ จุดประสงค์บริสุทธิ์มั้ย?” ไฟเรนเซ่มองเย่เซียวแวบหนึ่ง“เย่เซียว ไม่มีเรื่องที่บังเอิญขนาดนี้หรอก ทำไมกระทรวงความมั่นคงต้องทำลายงานแต่งงานของแกใจแกรู้ดี พวกเขาแค่จงใจใช้แผนเดิม ให้ไป๋ซู่เย่มาจัดการแก นี่เป็นหลุมกับดัก ถ้าแกคิดจะกระโดดลงในนั้นอีกก็ต้องคิดให้ดี—คิดให้ดีว่าเธอมีใจให้แกมากเท่าไหร่กันแน่ คิดให้ดีว่าครั้งนี้ถ้าไม่ใช่เพื่อสัญญาสองฉบับนั่นวันนี้เธอจะปรากฎตัวต่อหน้าแกหรือเปล่า”

ไฟเรนเซ่มองเขาที่คงสีหน้าเรียบเฉยเย็นชามาแต่แรก“เธอมีใจต่อแกมากเท่าไหร่ เย่เซียว คิดว่าใจแกก็ไม่มั่นใจสักนิดสินะ?”

ประโยคของเขาแทงใจดำของเย่เซียวตรงจุด

ใช่ เขาไม่มีความมั่นใจเลย เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าผู้หญิงคนนั้นเคยรักตัวเขาหรือไม่ ถ้า—ถ้านี่ไม่ได้คิดไปเอง—เธอเคยรักจริงๆ แล้วรักมากขนาดไหน? หรือว่าในโลกของเธอ ผลประโยชน์ย่อมอยู่เหนือกว่าความรักที่เธอมีแต่เขาเสมอ?

ในเมื่อ…

การลองใจทั้งหมดในอดีตล้วนทำให้เขาผิดหวังมาแล้ว

ต่อให้วันนี้เขาให้หยูอันเอาบัตรเชิญมาให้เธอ ขณะที่เขาจูงมือน่าหลันเดินบนพรมแดง เธอไม่เคยพูดคำว่า‘อย่าแต่งงาน’ออกมา–เขากลับยังคาดหวังอยู่

เพราะเธอหัวรั้นเกินไป หรือว่า…ความรักของเธอ สู้ความหัวรั้นของเธอไม่ได้?

 “ท่านสบายใจได้ ผมไม่หลงกลอีก” ในที่สุดเย่เซียวเอ่ยปากกล่าวเสียงเรียบนิ่ง “สัญญาครั้งนี้ ไม่มีการเจรจา”

เขาอยากรอดูจริงๆ ถ้าภายใต้สถานการณ์ที่ไม่เปิดให้เจรจา เธอจะยังอยู่ในโลกของตัวเองอยู่หรือเปล่า หรือบางที…เธอ…จะเลือกฆ่าเขาเหมือนเมื่อสิบปีก่อน ไม่ว่าจะเลือกทางไหนระหว่างนี้ เขาจะตายใจได้ทั้งหมด

……………………

วันรุ่งขึ้น

เธอที่ต้องพึ่งยาถึงจะนอนหลับได้นั้นตื่นมาอีกทีก็เป็นเวลาเก้าโมงกว่าในตอนเช้า เพิ่งลืมตาก็แทบจะล้วงโทรศัพท์มาจากใต้หมอนทันที กดเปิดหน้าจอ

มีสายโทรเข้าหลายสายรวมถึงข้อความ

เธอเลื่อนดูรอบหนึ่ง หัวใจที่ลอยสูงดิ่งลงอย่างผิดหวังอีกครั้ง

ไม่มีคนที่เธอกำลังรอ

เธอนิ่งไปชั่วขณะ เริ่มกังวลเล็กน้อยว่าหากตนโทรไปตอนนี้จะทำให้เขาเข้าใจผิดว่าที่ตนร้อนใจขนาดนี้เป็นเพียงเพราะเรื่องสัญญา แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว

สูดอากาศเข้าลึกๆ กดโทรไปยังเบอร์หมายเลขที่ดูรอบเดียวก็ท่องจำขึ้นใจ

แต่…

เสียงที่ดังเข้าโสตประสาทกลับเป็นเสียงผู้หญิงอย่างอัตโนมัติ “เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารติดต่อได้ กรุณาติดต่อใหม่ในอีกสักครู่”

ไป๋ซู่เย่กำโทรศัพท์แนบข้างหูฟังสองรอบ ท้ายที่สุดก็วางโทรศัพท์ลงช้าๆ หลับตาลงใหม่แต่ยามนี้กลับไม่รู้สึกง่วงแม้แต่นิดเดียว

…………

เย่เซียวบินไปยังประเทศอีกฟากของโลกจากประเทศ T

นั่งเครื่องบินกว่าสิบชั่วโมง รอเปิดเครื่องอีกทีก็มีทั้งสายโทรเข้าและข้อความที่พลาดรับไป จำนวนมากเสียจนนับไม่ถ้วน เขากลับอาศัยพริบตาเดียวก็จำเบอร์ที่คุ้นเคยยิ่งกว่าเบอร์ไหนๆ ได้

สิบกว่าชั่วโมง เธอโทรมาหนึ่งสาย

เขาจ้องมองอยู่ไม่กี่วินาที

 “นายท่าน ขึ้นรถได้แล้วครับ” เสียงหยูอันเตือนเขา

เขารับคำ‘อืม’ ทีพลางเก็บโทรศัพท์โดยไม่ได้โทรกลับ

………………

ห้าวันผ่านไป

ไป๋ซู่เย่ยังคงพักในโรงแรมเดิมไม่เคยไปไหน ในห้องที่อดีตพวกเขาเคยมาพักร่วมกันนับครั้งไม่ถ้วนนี้ ความคิดถึงที่มีต่อเขา ความจริงมันกำลังกัดกินหัวใจยิ่งกว่าแมลงตัวไหน สร้างความเจ็บปวดและสร้างอารมณ์ว่างเปล่าปนเหงาแก่คนอยู่

ห้าวันนี้ เธอพยายามหาเรื่องอื่นๆ ทำเพื่อเติมเต็มตัวเอง อย่างเช่นเธอใช้ห้องครัวในห้องให้เป็นประโยชน์ บางครั้งลองทำขนมหวานที่ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จตามสูตรบนอินเตอร์เน็ต—หลังเสร็จสิ้นภารกิจคราวนี้หากเธอลาออกจริงๆ หลังจากนี้จะมีเวลาว่างมากมาย ลองมาเรียนมาฝึกทำเรื่องที่ตัวเองไม่ค่อยถนัดมาก่อนหน้าก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องเสียหาย

เวลาห้าวันนี้ขนมหวานยิ่งทำยิ่งประสบความสำเร็จ รสชาติดีขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่…

ของที่ไม่มีคนให้แบ่งปัน รสชาติอร่อยมากแค่ไหนก็จะติดขมขื่นอยู่บ้าง

เย่เซียว…ตอนนี้เขาอยู่ไหน?

กลางคืนวันเสาร์

ขณะพลุดอกไม้ไฟลอยขึ้นสู่ท้องทะเล เธอเอนพิงตัวนั่งอยู่ตรงขอบหน้าต่าง เมื่อกำลังดูพลุดอกไม้ไฟหลากหลายสีสันเหล่านั้น ในใจกลับมีแต่เขาเต็มไปหมด สุดท้ายกดโทรไปยังเบอร์นั้นอย่างยากที่จะควบคุมใจได้ไหว

ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงเตือนบอกว่าปิดเครื่องอีก เมื่อเสียงรอสายดังก้องหู เธอรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างน่าแปลก

 “ฮัลโหล”

เสียงชายหนุ่มดังแว่วมาจากอีกฝั่ง หัวใจเธอกลับเต้นผิดจังหวะไปชั่วขณะ

เงียบไปพักหนึ่ง

หลังจากนั้นแลบลิ้นเลียริมฝีปากกล่าวเสียงเบา“…ฉันเอง”

 “อืม” ไม่มีประโยคที่ยาวกว่านั้น เสียงของเขาแน่นิ่ง แค่พยางค์เดียวไป๋ซู่เย่ถึงกับจินตนาการได้ถึงเย่เซียวที่อยู่อีกฝั่งในตอนนี้กำลังใส่เสื้อเชิ้ตชุดสูทนั่งเหยียดหลังตรง

 “ตอนนี้คุณกำลังประชุมอยู่เหรอ?”

 “อืม มีธุระเหรอ?” เขายังคงน้ำเสียงเหมือนตอนคุยงานปกติที่ไม่ปนด้วยอารมณ์ส่วนตัว เธอยังพอได้ยินเสียงอื่นๆ จากรอบข้างที่ไม่ได้พูดภาษาประเทศ T หากเดาไม่ผิด ยามนี้เขาน่าจะอยู่ไกลถึงต่างประเทศ

ความคิดถึงที่อัดแน่นหัวใจของไป๋ซู่เย่ไว้อย่างเข้มข้นเมื่อเจอคนเย็นชาเรียบนิ่ง คล้ายหัวใจถูกน้ำเย็นสาดใส่จนเย็นลง

น่าอายนิดหน่อย หาเรื่องให้ตัวเองเสียหน้าแท้ๆ

มองพลุดอกไม้ไฟข้างนอกหน้าต่างนิ่ง เดิมทีอยากจะแบ่งปันกับเขาแต่ชั่วขณะนี้กลับพูดอะไรไม่ออก แค่ยกยิ้มปากส่ายศีรษะ“ไม่มีอะไร คุณทำงานก่อนเถอะ”

 “อืม”

เขาตอบรับที ไป๋ซู่เย่ชิงวางสายก่อนเขาหนึ่งก้าว

เขาที่อยู่อีกฟากไม่วางหูลงสักทีกระทั่งหยูอันเรียกเขาสองทีเขาถึงได้สติกลับมา

ไม่ได้เริ่มประชุมใหม่ทันที แค่มองหยูอันแวบหนึ่งพลางถาม“เธอยังอยู่โรงแรม?”

ประโยคคำถามที่ไม่มีที่มาที่ไป แต่หยูอันก็ฟังออกว่าเขาหมายถึงอะไรหลังจบคำถามทันท่วงที พยักหน้า“ครับ ยังอยู่”

แม้ตัวเขาจะมาต่างประเทศแต่ยังคงมีคนคอยติดตามเธออยู่

เขากำลังคอยจับตามองเธออยู่จริงๆ หรือเพราะความจริง…ปล่อยวางไม่ได้?

 “วันๆ ทำอะไร?”

 “ไม่ค่อยออกจากห้องเท่าไหร่”

 “มีการติดต่อกับคนของกระทรวงความมั่นคงมั้ย?”

 “ช่วงนี้ไม่เห็นเธอติดต่อใคร”

เย่เซียวรับคำ‘อืม’แล้วก็ไม่พูดอีก หยูอันกล่าวเสียงเบา“ตอนนี้เธอยังอยู่เมืองเยียว บางที…ยังคงคิดเรื่องสัญญาอยู่”

——

………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด