เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆบทที่ 157 ภรรยาโกรธ

Now you are reading เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ Chapter บทที่ 157 ภรรยาโกรธ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 157 ภรรยาโกรธ

เว่ยฉิงปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างระมัดระวัง คิ้วของเขาขมวดแน่นท่าทางเคร่งเครียด ชายหนุ่มไม่ได้เป็นคนโง่ เหตุการณ์ที่ผ่านมาสองวันนั้นสามารถเชื่อมโยงกันได้ เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนการของเซี่ยฟางเฟย

เพราะถ้าไม่ใช่แล้ว เหตุใดสาวใช้ของนางจึงสามารถหาของที่นางเจตนาทำหล่นเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย จนสามารถพบกระท่อมที่นางโดนขังได้ หากเว่ยฉิงไม่ได้กลิ่นประหลาดที่โชยออกมาจากในห้อง แล้วหากเขาเตะประตูพรวดพราดเข้าไป ชายหนุ่มและหญิงสาวอยู่ภายในกระท่อมเปลี่ยวร้างแบบนั้น ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น?

เรื่องทั้งหมดนี้ดูผิดปกติมากเกินไป เป็นเจตนาของเซี่ยฟางเฟยหรือ?

ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องสละตัวเองแล้ว

เว่ยฉิงแค่ต้องการมีชีวิตที่สงบสุขเรียบง่ายกับถังหลี่เท่านั้น เซี่ยฟางเฟยเทียบไม่ได้แม้แต่ขนสักเส้นเดียวบนเรียวขาของภรรยาเขา ดีแต่สร้างความน่ารำคาญใจให้ชายหนุ่มทุกวัน

เมื่อคิดถึงเซี่ยฟางเฟยแล้ว เว่ยฉิงทั้งรู้สึกรังเกียจและหงุดหงิดอยู่ในใจ

โชคดีของเว่ยฉิง ที่ตอนนั้นชายหนุ่มเรียกลูกน้องไปด้วยอีกสองคนเพื่อเป็นพยานพิสูจน์ว่าตนเองนั้นไม่ได้แตะต้องเซี่ยฟางเฟยเลย

ไม่เช่นนั้นแล้วไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นไร?

…….

แต่ความจริงพิสูจน์ให้เห็นว่าเว่ยฉิงมีความคิดอ่านตื้นเขินจนเกินไป

เหตุการณ์ในครั้งนี้แผ่ขยายราวกับไฟลามทุ่ง เหม็นโฉ่ราวกับกลิ่นน้ำส้มโชย เนื้อหาก็ยิ่งบิดเบือนมากขึ้น ๆ จนไม่เหลือเคร้าโครงของเรื่องจริงเลย

“เจ้าได้ยินเรื่องคุณหนูสกุลเซี่ยที่มาจากเมืองหลวงหรือไม่? นางโดนโจรลักพาตัวไประหว่างทางไปไหว้พระที่วัด!”

“ใช่แล้ว ต้องขอบคุณผู้คุ้มกันของจวนเซี่ย ที่ช่วยนางไว้ทัน”

“ได้ยินว่าขาของคุณหนูเซี่ยได้รับบาดเจ็บ คนคุ้มกันจึงอยู่ช่วยเหลือนาง ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพังทั้งคืน”

“บุรุษเปล่าเปลี่ยวกับสตรียังไม่ออกเรือน เจ้าแน่ใจหรือว่าแค่รักษาอาการบาดเจ็บ”

“ข้าได้ยินมาว่าตอนที่ผู้คุมกันคนอื่นไปพบเขา นางอยู่ในอ้อมแขนของชายคนนั้น เสื้อผ้าดูไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่นัก”

“โอ้…ช่างเป็นเรื่องประจวบเหมาะเสียจริง ว่าแต่ผู้คุ้มกันคนใดหรือ?”

“รู้สึกว่าจะเป็นหัวหน้าผู้คุ้มกันของจวนเซี่ย นามว่าเว่ยฉิง”

“เว่ยฉิง? เหตุใดจึงคุ้นชื่อนี้นัก”

“ก็สามีของเถ้าแก่เนี้ยร้านเป่าชิงเก๋อไง”

“เถ้าแก่เนี้ยถังเป็นสาวงามเลื่องชื่อของเมืองเหยาสุ่ยของเรา เว่ยฉิงรักนางมากเลยนะ”

ที่หัวมุมถนนมีเด็กสาวคนหนึ่งกำลังฟังบทสนทนาทั้งหมด ก่อนจะหันหลังกลับไปยังจวนสกุลเซี่ย และรายงานเรื่องนี้แก่เซี่ยฟางเฟย

“คุณหนูเจ้าคะ ข่าวลือได้กระจายไปทั่วแล้วเจ้าค่ะ ข้าบอกไปยังคนผู้หนึ่ง เพียงแค่วันเดียวเท่านั้นก็ลือลามไปทั่วเมืองแล้ว”

เซี่ยฟางเฟยเผยรอยยิ้มออกมาทันที นางพอใจกับการวางแผนของนางมาก

“ข่าวอื้อฉาวแบบนี้แพร่กระจายได้ง่ายที่สุด”

ข่าวซุบซิบเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เป็นเรื่องที่น่าสนใจของผู้คนเสมอ ก่อนที่นางจะทะลุมาในนวนิยายเรื่องนี้ ตัวของเซี่ยฟางเฟยเองก็ชอบที่จะสร้างข่าวลือซุบซิบกับคนดังมากมาย นางสามารถแพร่กระจายเรื่องพวกนั้นไปได้อย่างดี น่าเสียดายที่พวกเขามักจะส่งหนังสือฟ้องร้องมาให้นางเสียทุกครั้ง

เซี่ยฟางเฟยไม่ค่อยเข้าใจคนมีชื่อเสียงเหล่านั้นเลย ข่าวที่นางสร้างขึ้นมาพวกเขาก็ไม่ได้เสียอะไรไปสักนิด ยังกล้าส่งจดหมายฟ้องร้องมาข่มขู่นางได้อย่างไรกัน?

“คุณหนูเจ้าคะ แบบนี้ชื่อเสียงของคุณหนูจะเสียหายได้นะเจ้าคะ” ตงเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะเตือนนาง

“ตงเสวี่ย มันคือแผนการ บางครั้งเพื่อที่จะได้ชายที่หมายปอง เราจำเป็นต้องเสียสละอะไรบางอย่าง” เซี่ยฟางเฟยกล่าว

สาเหตุที่นางโดนลักพาตัวไปก็เป็นเพราะเว่ยฉิง! ดังนั้นเขาต้องรับผิดชอบเรื่องนี้!

………..

ข่าวลือจากท้องถนนทุกตรอกซอกซอยก็ลอยถึงหูของถังหลี่ เพราะมีคนจงใจมาพูดกรอกหูของนาง

“เถ้าแก่เนี้ยถังเจ้ายุ่งกับงานนอกบ้านทุกวัน ระวังไฟจะไหม้ที่สวนหลังบ้านของเจ้านะ สามีของเจ้ากำลังจะถูกคนอื่นฉวยไปเช่นนี้ หาเงินเพิ่มทุกวันมันจะมีประโยชน์อะไร?” เฉียนกุ้ยอิงรีบวิ่งไปหาถังหลี่ ตั้งใจพูดให้นางฟัง

บรรดาฮูหยินทุกคนในเมืองต่างบอกว่าถังหลี่เป็นสตรีที่มีชีวิตที่ดีมาก หาเงินเองได้ และสามีก็รักนางมากอีกด้วย

แต่เฉียนกุ้ยอิงไม่เชื่อ ขึ้นชื่อว่าบุรุษจะไม่มักมากได้อย่างไร

แน่นอนว่าเว่ยฉิงก็แอบเจ้าชู้

และคน ๆ นั้นคือสตรีจากเมืองหลวงซึ่งมีดีกว่าถังหลี่มาก หากเว่ยฉิงยังมีจิตสำนึกอยู่บ้างคงจะให้ถังหลี่เป็นอนุของเขาแทน ยิ่งเฉียนกุ้ยอิงคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร ความดูถูกเหยียดหยามของนางก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

“เฉียนกุ้ยอิงหยุดพูดไร้สาระได้แล้ว! เอาเวลาไปดูแลสามีเจ้าดีกว่านะ! ได้ข่าวว่าเมื่อวานสามีของเจ้าไปแอบคบชู้เมียชาวบ้านจนสามีเขามาเอาเรื่อง ไปดูแลคนของเจ้าให้ดีเสียก่อนเถอะ อย่ามาสอดเรื่องครอบครัวคนอื่นแบบนี้เลย นังบ้า!” หลู่ชิงพูดตอกกลับ

เฉียนกุ้ยอิงรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่นางแสร้งทำเป็นไม่รู้มาตลอด การที่หลู่ชิงพูดตอกหน้านางตรง ๆ เช่นนี้ นางจะไปทนไหวได้อย่างไร

เฉียนกุ้ยอิงใบหน้าซีดเผือด นางรีบหันหลังกลับทันที

“ถังถังอย่าฟังคำพูดไร้สาระของนางเลย นางแค่อิจฉาที่เว่ยฉิงดีกับเจ้ามาก คนอย่างเว่ยฉิงจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร” หลู่ชิงปลอบโยน

“ใช่ ถ้าเขากล้าทำล่ะก็ ข้าจะเชือดเขาซะ” ถังหลี่ยิ้ม

แม้ว่าหญิงสาวจะพูดด้วยรอยยิ้ม แต่ความหมายที่นางพูดออกมาช่างน่าขนลุก

หลู่ชิง : ….ถังถังน่ากลัว

ที่จริงแล้วครั้งแรกที่ถังหลี่ได้ยินข่าวลือ นางสมองว่างเปล่าไปชั่วครู่ แม้นางจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็ยังไม่สามารถรับมือกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้ นี่คือครั้งแรกที่นางตกหลุมรักใครสักคน เป็นครั้งแรกที่นางได้ทุ่มเทเพื่อเขาจนหมดหัวใจ

หากเว่ยฉิงทรยศนาง….

เพียงคิดแค่นั้นหัวใจของถังหลี่ก็สั่นสะท้าน

แต่เมื่อตระหนักว่าเว่ยฉิงนั้นมีความสำคัญต่อนางเพียงใด ถังหลี่ก็เริ่มสงบลง…หญิงสาวเชื่อใจสามีของตน ทั้งท่าทีแสดงออกและความภักดีที่เว่ยฉิงมีต่อนาง จึงไม่ยากเลยที่ถังหลี่จะโยนข่าวลือพวกนั้นไว้ข้างหลัง

ทว่าข่าวลือนั้นก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในไม่ช้าทั่วทั้งเมืองเหยาสุ่ยก็รับรู้เรื่องนี้โดยทั่ว สตรีที่เป็นสหายของถังหลี่ต่างมองนางด้วยความเห็นใจ บุรุษที่นางรักอย่างสุดซึ้ง กำลังสวมหมวกเขียวให้แก่นาง…

ดูสิ…แสร้งทำเป็นเข้มแข็ง ไม่มีแม้แต่ความเศร้าโศกให้เห็น

ถังหลี่พยายามระงับความโกรธของตนไว้ แต่ก็ช่วยไม่ได้มากนัก ตอนนี้นางต้องการไปที่จวนสกุลเซี่ย เพื่อคุยกับเว่ยฉิงให้รู้เรื่อง แต่แล้วเว่ยฉิงก็มาหานางก่อน หมายความว่า ตัวเขาเองก็ได้ยินข่าวลือพวกนี้แล้วเช่นกัน ทันทีที่เว่ยฉิงรู้ว่าข่าวได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองแล้ว เขาแทบสิ้นสติ!

ใครกันที่ทำเรื่องใส่ร้ายเขาเช่นนี้!

นี่คิดจะฆ่าเขาให้ตายเลยหรือ!

เว่ยฉิงวิ่งไปหาถังหลี่ ทันทีที่เห็นรอยยิ้มของภรรยา เขาก็ขนลุกขึ้นมาทันที เว่ยฉิงรีบพาถังหลี่เข้าไปยังห้องข้างในของเป่าชิงเก๋อ

“ฮูหยิน…” เว่ยฉิงถลาเข้าไปหาภรรยาทันที

หญิงสาวลืมตาขึ้นก่อนจะพูดว่า

“หยุด เจ้ายืนอยู่ตรงนั้น”

เว่ยฉิงยืนนิ่งไม่กล้าแม้แต่จะขยับ

ถังหลี่ทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ ก่อนจะพับแขนเสื้อตัวเองขึ้นพลางหรี่ตามองเขา

“พี่เว่ย…” เสียงเรียกเบา ๆ ของฉางลู่ดังขึ้นนอกประตู

“ข้านำของที่ท่านต้องการมาให้แล้ว”

เว่ยฉิงรีบเปิดประตู จากนั้นฉางลู่ก็ยื่นของบางอย่างให้แก่เขา มันคือกระดานซักผ้า ชายหนุ่มรับมันไว้ก่อนจะวางลงบนพื้นแล้วนั่งคุกเข่าลง

ถังหลี่มองดูสามีด้วยแววตาคมกริบ ปลายคางของนางยกขึ้นเล็กน้อยประหนึ่งฮองเฮาผู้สูงศักดิ์

“เจ้าไปทำอะไรมาถึงได้จะมาคุกเข่าบนกระดานซักผ้าแบบนี้…จะขอโทษข้าหรือ?”

“ไม่มี!” เว่ยฉิงรีบพูดทันที

“แล้วคุกเข่าด้วยเหตุใด?” ถังหลี่พูดสบาย ๆ

“ฮูหยิน เจ้าไม่โกรธหรือ?” เว่ยฉิงดีใจมาก

ตอนแรกเขากลัวแทบตายเพราะคิดว่านางจะโกรธจนไล่เขาออกจากบ้าน!

แต่ภรรยาของเขาไม่โกรธ ดียิ่ง! ข้างนอกนั้นเต็มไปด้วยข่าวลือของเว่ยฉิงกับสตรีอื่น เหตุใดนางถึงไม่โกรธ?

ว่ากันว่าหากยิ่งรักยิ่งชอบก็จะยิ่งหึงหวงอีกฝ่าย แต่ท่าทีเช่นนี้ของถังหลี่ แปลว่าเว่ยฉิงไม่ได้สำคัญกับนางขนาดนั้นหรือ?

เมื่อคิดได้ดังนั้นความสุขบนใบหน้าของชายหนุ่มก็ค่อย ๆ จางหายไป ศีรษะของเขาตกลงราวกับสุนัขตัวใหญ่ที่น่าสมเพช

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *