เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆบทที่ 93 คำขอของเว่ยเสี่ยวเถา

Now you are reading เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ Chapter บทที่ 93 คำขอของเว่ยเสี่ยวเถา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 93 คำขอของเว่ยเสี่ยวเถา

วันถัดมา

เว่ยเสี่ยวเถาและลูกสาวทั้งสองคนตื่นแต่เช้า พวกเขากินอาหารเช้าก่อนจะกล่าวคำอำลากับถังหลี่

หมู่บ้านขงเจียอยู่ไกลออกไปมาก เมื่อพิจารณาระยะทางและลูกทั้งสองของนางแล้วนั้น หากออกเดินทางตอนนี้นางจะถึงบ้านในตอนบ่าย

ถังหลี่นำอาหารใส่ตะกร้าที่เว่ยเสี่ยวเถาให้มาเมื่อวาน คืนแก่นางไป

“น้องสะใภ้เจ้าไม่ต้องให้อะไรคืนแก่ข้าหรอก เจ้ารับไปเถิด” เว่ยเสี่ยวเถาปฏิเสธ

“พี่สาวข้ารู้ความตั้งใจของท่านที่จะมาเยี่ยมพวกเรา ดังนั้นนี่คือน้ำใจเล็กน้อยจากข้าท่านรับไว้เถิด

หญิงสาวยอมรับมันไว้ เว่ยเสี่ยวเถาเดินทางกลับบ้านพร้อมตะกร้าและบุตรสาวทั้งสองคน เนี่ยนตี้และจ้าวตี้กำลังดึงชายเสื้อของมารดาเดินตามอย่างช่วยไม่ได้ พวกนางหันหลังกลับบ้านไปด้วยความไม่เต็มใจ

บ้านของท่านน้าน่าอยู่มาก มีของอร่อยรวมถึงผู้หญิงก็สามารถร่วมโต๊ะได้ ที่นอนก็แสนนุ่ม ถ้าได้เป็นลูกสาวของท่านน้าคงจะดี

ทั้งสามคนใช้เวลาสามชั่วยามในการเดินทางกลับหมู่บ้านขงเจียซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาที่แคบและยาว ขนาบข้างด้วยภูเขาสูงสองลูกและมีแม่น้ำไหลผ่านกลางหมู่บ้าน บ้านเรือนในหมู่บ้านแห่งนี้สร้างขึ้นสองฝั่งแม่น้ำ

บ้านของเว่ยเสี่ยวเถาอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านขงเจีย เป็นบ้านดินสามหลังที่ทรุดโทรม ที่ประตูมีศีรษะของคนสามคนชะโงกออกมามอง นั่นคือขงซวนสามีของเว่ยเสี่ยวเถา , นางหยางแม่สามี , ขงเหล่าฮ่าน พ่อสามีของนาง ทั้งสามคนต่างดีใจมากเมื่อเห็นเว่ยเสี่ยวเถา

“เสี่ยวเถาเจ้ากลับมาแล้ว หากเจ้าไม่กลับมาข้าคงได้พาซวนเอ๋อร์ไปรับเจ้า” รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ดูดุร้ายของนาง เว่ยเสี่ยวเถารู้สึกปลื้มใจขึ้นมาบ้างที่แม่สามีเห็นหัวนาง

“ท่านแม่ ทางมันไกล..”

“เป็นอย่างไรบ้างน้องชายกับน้องสะใภ้เจ้า เจ้าเอาอะไรกลับมาด้วยเล่า?” ดวงตาของหยางจับจ้องไปที่ตะกร้าในมือของเสี่ยวเถา ก่อนจะคว้ามันมา นางพลิกตะกร้าไปมาซ้ำแล้วซ้ำอีกก็พบว่ามีเพียงขนมและแป้งนึ่งเท่านั้น ใบหน้าของนางบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อย ๆ

“น้องชายเจ้าเปิดร้านใหญ่แบบนั้น บ้านก็หลังใหญ่โต แต่ไม่ได้ให้ของมีค่าเจ้ามาเลยหรือ!” หยางโยนตะกร้าลงบนพื้นจนลูกอมและขนมทั้งหมดในนั้นกระจัดกระจายออก

“ท่านแม่ นั่นเป็นน้ำใจของน้องชายและน้องสะใภ้ข้า อาฉิงมีการงานที่ดี มันก็เป็นเพราะตัวเขาเอง” เว่ยเสี่ยวเถากล่าวก่อนจะก้มลงไปเก็บขนมที่ตกอยู่บนพื้น

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร เจ้าเป็นคนในครอบครัวของเรา เป็นเพราะครอบครัวเรายากจนหรือ เช่นนี้เป็นการดูถูกเราหรือไม่ เว่ยเสี่ยวเถาน้องชายของเจ้ามันหมาป่าตาขาว! คนเช่นเขาไม่มีวันเจริญขึ้นได้!” นางสาปแช่ง

เว่ยเสี่ยวเถาเริ่มโกรธเช่นกัน

“ท่านแม่ ในตอนแรกท่านไม่ยอมรับสกุลเว่ยเป็นครอบครัวเพราะยากจน ท่านกลัวว่าผลกระทบจะมาถึงครอบครัวเรา ข้าจึงถูกห้ามไม่ให้ติดต่อกับอาฉิง! เราทำเขาก่อน ถึงแม้อาฉิงจะไม่ไยดีข้าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ท่านจะเรียกเขาว่าหมาป่าตาขาวได้อย่างไร!”

“เจ้ากล้าดีอย่างไรจึงเถียงข้า! เจ้าเป็นคนของสกุลขงหรือสกุลเว่ย! เหตุใดเจ้าจึงต้องเข้าข้างครอบครัวอื่น? ครอบครัวเราไปทำเวรทำกรรมอะไรมาจึงได้ลูกสะใภ้เช่นเจ้า ใครเป็นคนนอกคนใน เจ้าแยกไม่ออกหรือ?! ข้ามีลูกชายคนเดียวเพียงคนเดียวแต่มีสะใภ้อกตัญญู!” นางหยางด่าไปร้องไห้ไป

“พอเถิด พอเถิด หยุดเถียงกันได้แล้ว พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ” ผู้เฒ่าขงพูด “เสี่ยวเถาเจ้าเดินทางมาไกล พักผ่อนเถิด”

พ่อสามีเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในครอบครัว ดังนั้นนางหยางจึงหยุดพ่นคำด่าและคว้าตะกร้าขนมจากมือของเว่ยเสี่ยวเถาไป

“ขนม ๆ ข้าอยากกินขนม” จ้าวตี้พูดอย่างกระตือรือร้น

“ขนมอะไร! เจ้าไม่สมควรกิน! ไปกินขยะโน่น เลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ” นางหยางซ่อนตะกร้าด้วยความโกรธ แม้ว่าพวกมันจะไร้ค่าแต่นางจะเก็บไว้ให้หลานชายของนางได้กิน

ถึงจะบอกว่าให้พักผ่อน แต่เสี่ยวเถาจะพักได้หรือ ในเมื่อครอบครัวของนางยังคงรอให้นางทำมื้อเย็น

“เสี่ยวเถาเป็นเรื่องธรรมดาที่น้องชายเจ้าจะขุ่นเคืองใจ ในเมื่อเราไร้น้ำใจกับเขาก่อน แต่ก่อนหน้านี้ครอบครัวของเรายากจนข้าจึงไม่อาจยื่นมือไปช่วยน้องเจ้าได้ แม่สามีของเจ้าก็นิสัยอย่างนี้ เอาล่ะ! เลิกพูดเถิด”

เมื่อผู้เฒ่าขงกล่าวเช่นนั้นเว่ยเสี่ยวเถาก็รู้สึกละอายใจ

“ท่านพ่ออย่าพูดเช่นนั้น เว่ยฉิงไม่ได้กล่าวโทษพวกเรา”

“เสี่ยวเถา ถึงจะเกิดเรื่องบาดหมางกับสกุลเดิมของเจ้า แต่อย่างไรเสียเจ้าก็คือพี่สาวของเว่ยฉิง เป็นครอบครัวเดียวกัน ดังนั้นช่วยลืมความบาดหมางในชั่วข้ามคืนได้หรือไม่? ตอนนี้เว่ยฉิงก็มีการงานดี ๆ ทำแล้ว เหตุใดไม่ช่วยเจ้าสักหน่อยเล่า เจ้ากับซวนเอ๋อร์จะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ดูสิ…หลานสาวสองคนนี้ผอมแห้งแค่ไหน”

“ท่านพ่อหมายถึง..?”

“ให้น้องชายเจ้าช่วยหางานในเมืองให้ซวนเอ๋อร์หน่อยสิ เมื่อซวนเอ๋อร์หาเงินได้ข้าจะซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้พวกเจ้ากับลูกสาวทั้งสองของเจ้า”

เว่ยเสี่ยวเถากัดริมฝีปากของตัวเองไม่เอ่ยคำใดออกไป เมื่อนางคิดถึงสิ่งที่คนสกุลขงปฏิบัติกับเว่ยฉิงในครั้งก่อน นางก็ไม่อาจรับคำอะไรได้

“เสี่ยวเถา เจ้าแต่งเข้าสกุลขงของเรามานับสิบปีแล้ว ยังไม่มีแม้แต่ลูกชายให้ซวนเอ๋อร์สักคน แต่บ้านเราก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำ หากเป็นครอบครัวอื่นเขาคงบังคับลูกชายให้หย่าแล้วหาเมียใหม่ไปนานแล้ว! ครอบครัวของเราก็เสมือนผู้มีพระคุณของเจ้า หากเจ้ายังคงยังเถียงแม่สามีเช่นนี้ ก็อย่าถือว่าตัวเองเป็นคนในสกุลขงอีกเลย ข้ารู้สึกลำบากใจ ครั้งนี้หากเจ้าไม่ช่วยเหลือ บ้านข้าคงไม่เลี้ยงเจ้าอีกต่อไปแล้ว! “”

หัวใจของเสี่ยวเถาตื่นตระหนก

พ่อสามีตั้งใจจะไล่นางไป!

บุรุษเป็นเสมือนที่พึ่งของสตรี หากนางต้องหย่าจะทำเช่นไร? แล้วลูกสาวทั้งสองคนเล่า?

“ท่านพ่อข้าสามารถพูดกับอาฉิงเรื่องนี้ได้ แต่หากอาฉิงไม่…”

ใบหน้าของผู้เฒ่าขงขมขื่นทันที

“เสี่ยวเถา เจ้าสามารถให้น้องเจ้าทำได้ พ่อแค่อยากรู้ว่าสุดท้ายเจ้าคือคนของสกุลขงและมีใจเป็นหนึ่งเดียวกับพวกเรา”

“ท่านพ่อ…ถ้าหากอาฉิงตกลง ท่านต้องบอกให้บุตรชายของท่านทำงานให้หนักแล้วอย่าเกียจคร้าน”

“ไม่ต้องห่วง พ่อจะกำชับเขาเอง” ผู้เฒ่าขงมั่นใจ

จากนั้นเว่ยเสี่ยวเถาก็รู้สึกโล่งใจ

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นเว่ยเสี่ยวเถากลับเข้ามาในเมืองอีกครั้ง และครั้งนี้นางมาคนเดียวไม่ได้พาลูกสาวมาด้วย ทำให้การเดินทางของนางเร็วขึ้นมาก นางเดินทางไปบ้านของเว่ยฉิงก่อนและก็พบว่าน้องชายของนางไม่อยู่ที่บ้าน เสี่ยวเถาจึงตัดสินใจไปที่เป่าชิงเก๋อเพื่อพบถังหลี่

เมื่อเว่ยเสี่ยวเถามาถึงร้านก็พบว่าผู้คนในร้านพลุกพล่านมาก เป่าชิงเก๋อมีลูกค้าเข้าร้านมากมาย ดังนั้นนางจึงละอายใจเกินกว่าจะรบกวนถังหลี่ หญิงสาวมองจากภายนอกเห็นถังหลี่กำลังวุ่นวาย น้องสะใภ้ของนางทั้งสวยทั้งมีความสามารถ ไม่เหมือนสาวชาวนาทั่วไป นิสัยก็ดี คงเป็นโชคดีของอาชิงที่ได้แต่งงานกับสตรีผู้นี้

เมื่อมีคนน้อยลงเสี่ยวเถาจึงตัดสินใจเดินเข้าไป

“น้องสะใภ้”

ถังหลี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเสี่ยวเถา

“พี่สาวท่านเข้าเมืองหรือ?”

ฉางลู่เป็นคนมีไหวพริบดี และเมื่อได้ยินนางเรียก ‘น้องสะใภ้’ เขาก็รีบไปนำเก้าอี้มาให้เสี่ยวเถานั่งทันที

หญิงสาวไม่ได้นั่งลง นางกำมือแน่นและมีท่าทีลังเล

“พี่สาว ท่านพูดธุระของท่านมาได้เลย” ถังหลี่กล่าว

“น้องสะใภ้….พ่อของจ้าวตี้ต้องการมาทำงานในเมือง ร้านของเจ้ายังพอรับคนงานอยู่หรือไม่?” เว่ยเสี่ยวเถาพูดตะกุกตะกัก

ถังหลี่ไม่ตอบไปในทันที นางมองไปที่เว่ยเสี่ยวเถาและครุ่นคิด

************

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *