เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆบทที่ 602 นัดพบลับ

Now you are reading เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ Chapter บทที่ 602 นัดพบลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 602 นัดพบลับ

ในช่วงนี้ จินเซ่อมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก

รุ่ยอ๋องประทับอยู่กับหลู่เหนียงเป็นเวลาหลายวันแล้ว ทำให้นางริษยาจนขบฟันแทบแตกทุกวัน หากเป็นสาวใช้คนอื่นนางย่อมหาวิธีกำจัดออกไปได้ แต่หลู่เหนียง เป็นสาวใช้ที่หวังกุ้ยเฟยมอบให้ท่านอ๋อง หากนางทำอะไรลงไปย่อมรู้ไปถึงหวังกุ้ยเฟย นางจึงได้แต่เพียงอดทนเท่านั้น

จินเซ่อรู้สึกว่าการที่หวังกุ้ยเฟยมอบสาวใช้อุ่นเตียงให้กับองค์ชายสามเป็นเพราะหวังกุ้ยเฟยไม่พอใจในตัวของจินเซ่อ…นางทนไม่ได้ที่ต้องเห็นสตรีอื่นให้กำเนิดบุตรของท่านอ๋อง นั่นเป็นเพราะท้องของจินเซ่อไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย ทำให้ท่านอ๋องยังไร้ซึ่งทายาทมาจนถึงบัดนี้

จินเซ่อลูบท้องของตัวเอง นางจะผิดหวังได้อย่างไร?

นางทุ่มเทให้เขาด้วยหัวใจทั้งหมด แต่เมื่อความรักใคร่เสน่หาจืดจางลง ถ้านางอยากเหนี่ยวรั้งเขาไว้กับตนเอง นางจะพึ่งพาความรักเพียงอย่างเดียวไม่ได้

จินเซ่อต้องทำให้ท่านอ๋องรู้ว่าตนเองมีความสำคัญและไม่อาจทอดทิ้งได้ ในเมื่อนางรู้ว่าจ้าวชูต้องการขึ้นครองบัลลังก์ นางจึงทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยเขา ตราบใดที่นางทำงานได้ดี เขาจะปฏิบัติกับนางดีมาก สัญญากับนางทุกอย่าง ทั้งเชื่อฟังและอ่อนโยน หากแต่เมื่อใดที่จินเซ่อทำผิดพลาด จ้าวชูจะมึนตึงและเย็นชา นางจึงต้องทำทุกอย่างให้ราบรื่นเป็นไปด้วยดี

เดิมทีนางคิดว่าฮ่าวตุ้นเป็นผู้ช่วยของนาง แต่ไม่คิดว่าเขาจะโง่งมปานนั้น! แม้แต่องค์หญิงจิ้งชูเขาก็ไม่สามารถรับมือได้ จินเซ่อวางแผนไว้อย่างดี นางจะให้จิ้งชูแต่งงานกับฮ่าวตุ้น จะเกิดอะไรขึ้นหากองค์หญิงที่มีชีวิตสวยหรูมาตลอดต้องแต่งงานกับคนเผ่าฮั่น?

ไม่เพียงแค่จินเซ่อจะได้แก้แค้นจิ้งชู แต่ยังสามารถช่วยฮ่าวตุ้นได้อีกด้วย เป็นการฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว

นางไม่คาดคิดว่าฮ่าวตุ้นจะใช้วิธีโง่เขลาเช่นนี้ เขาถูกขังไว้ จากนั้นจึงได้ถูกปล่อยตัวในกลางดึก ฮ่าวตุ้นโง่มากเกินไป หากปล่อยให้เขาจัดการทุกอย่างเองล่ะก็ แผนดีๆ ที่วางเอาไว้คงต้องพังทลายหมดเป็นแน่

นางจึงต้องให้คำแนะนำกับเขา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่นางนัดฮ่าวตุ้นมาที่หอหยานชุน

ในเย็นวันนั้นจินเซ่อปลอมตัวออกจากจวนรุ่ยอ๋อง นางนั่งรถม้าไปยังหอหยานชุนแล้วเดินเข้าไปทางประตูด้านหลัง ที่หยานชุน มีห้องพิเศษอยู่ห้องหนึ่ง ไม่ได้มีไว้สำหรับรับแขก แต่มีไว้ให้จินเซ่อได้นัดพบปะกับผู้คนอย่างเงียบๆ หญิงสาวเข้าไปในห้องแล้วนั่งรอ

หลังจากนั้นไม่นานนัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น จินเซ่อจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูให้ฮ่าวตุ้นเข้ามา หลังจากปิดประตูสนิทดีแล้ว จึงได้เห็นว่าฮ่าวตุ้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาคิดว่าตนเองกับจินเซ่อมีความใกล้ชิดกันมาก จึงได้สาธยายความคับข้องใจของตนออกมาจนหมด

“ข้าไม่ต้องการจะแต่งกับองค์หญิงจิ้งชู! ไม่ว่านางจะดีเพียงใดข้าก็จะไม่มีวันแต่งงานกับนาง ข้าควรนำกองอาชาเหล็กของข้ามาบดขยี้ยึดดินแดนนี้เสีย ก่อนที่ตัวข้าจะโมโหไปมากกว่านี้” จินเซ่อปลอบใจองค์ชายรองสองสามคำ บอกให้เขาสงบสติอารมณ์อย่าเพิ่งโกรธหรือโมโหจนทำให้แผนเสียหาย ความโกรธในใจของเขาถึงได้ลดน้อยลง

“ฮ่องเต้ปฏิเสธคำสู่ขอของข้า” ฮ่าวตุ้นพูดอย่างจนปัญญา

“หากเจ้าพาตัวนางไป..เจ้าควรพาไป..” จินเซ่อหยุดพูดชั่วขณะหนึ่ง

“ที่ต้าโจวของเรามีคำกล่าวว่า “หุงข้าวดิบให้เป็นข้าวสุก” หากนางเป็นของเจ้า อย่างไรเสียนางก็ต้องก็ต้องแต่งงานกับเจ้า แม้ว่าจะนางจะเป็นเจ้าหญิงก็ตาม” เมื่อคำนึงถึงชื่อเสียงนางแล้วฮ่องเต้ย่อมจะยอมให้เขาแต่งงาน

ฮ่าวตุ้นพยายามอย่างหนักในการลักพาตัวนางไปเพื่อยิงห่านป่าให้นางดู เมื่อจินเซ่อได้ยินนางถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความโกรธ

“นักรบเผ่าฮั่นไม่ทำแบบนั้น” ฮ่าวตุ้นขมวดคิ้ว

“….” ช่างโง่เง่าจริงๆ

นางตัดสินใจช่วยคนโง่แบบนี้ตั้งแต่แรกได้อย่างไร?

ธูปหอมในกระถางถูกจุด ควันธูปม้วนตัวขึ้นช้าๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยฟุ้งไปทั่วห้อง จินเซ่อท่าทีสงบลง พยายามที่จะให้ข้อมูลเขา ความเกลียดชังที่มีต่อฮ่าวตุ้นหายไป

จินเซ่อมองฮ่าวตุ้น นางไม่เคยเห็นเขาในสายตามาก่อนเลย แต่ภายใต้แสงสลัวเช่นนี้เขาดูสง่างาม แม้แต่การพูดจาก็เป็นไปด้วยด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก หากแข็งกร้าวไปบ้าง

ผิวสีน้ำผึ้งใกล้ลำคอของเขาทำให้อดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงร่างกายกำยำภายใต้เสื้อผ้าอาภรณ์ที่หรูหรา ด้วยเหตุผลบางอย่างจินเซ่อรู้สึกว่านางกระวนกระวายใจอย่างอธิบายไม่ถูก

ฮ่าวตุ้นมองนาง เห็นดวงตาคู่สวยที่เกิดความรักใคร่ชื่นชมในตัวเขาเช่นนี้ หัวใจของชายหนุ่มคันยุบยิบ

ฮ่าวตุ้นเดินเข้าไปหาจินเซ่ออย่างไม่รู้ตัว เขากอดนางไว้ในอ้อมแขนราวไม้แห้งที่โดนไฟสุม เทียนสีแดงส่องสว่างดูคลุมเครือ เสื้อผ้าชิ้นหนึ่งตกลงบนพื้น… จินเซ่อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับตนเอง ทว่าภายในหัวของนางกลับสับสนอลหม่าน คิดสิ่งใดไม่ออก ได้แต่ทำตามสัญชาตญาณ ไม่นาน จินเซ่อก็โดนกระแสน้ำเชี่ยวกรากพัดไปจมอยู่ในห้วงลึก

….

เมื่อครึ่งชั่วยามที่แล้ว ณ จวนรุ่ยอ๋อง

จ้าวชูกำลังสะสางงานอยู่ในห้องทำงาน หลู่เหนียงเข้ามาหาเขากะทันหันบอกว่านางรู้สึกแปลกๆ ที่เห็นพระชายาปลอมตัวออกไปด้านนอก นางจึงให้บ่าวรับใช้ตามพระชายาไป พบว่าพระชายาไปที่หอนางโลมนามว่าหยานชุน หลังจากที่พระชายาเข้าไป ไม่นานนักองค์ชายรองแห่งซยงหนูก็ปรากฎตัวขึ้น

“หม่อมฉันห่วงเรื่องความปลอดภัยของพระชายาจึงให้คนตามไป ท่านอ๋องเพคะ เหตุใดพระชายาจึงไปสถานที่เช่นนั้น อีกทั้งองค์ชายรองแห่งซยงหนูยังเข้าตามหลังพระชายาไปอีก การนัดเจอกันยามวิกาลระหว่างชายหนุ่มและหญิงแต่งงานแล้วนั้น…” หลู่เหนียงพูดอย่างมีความหมาย

“แล้วบ่าวรับใช้คนนั้นรู้ได้อย่างไรว่าเขาคือองค์ชายรองของซยงหนู”

หลู่เหนียงหลุบตาลง แท้จริงแล้วสิ่งที่พูดไม่ใช่สิ่งที่บ่าวรับใช้เห็น แต่เป็นข้อความที่นางได้รับมา หลังจากที่บังเอิญไปเห็นพระชายาแอบออกไปข้างนอก นางรู้สึกได้ว่าน่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น จึงรีบมาทูลฟ้ององค์ชายสาม นางครุ่นคิดเหตุผลครู่หนึ่งก่อนจะตอบไป

“เมื่อวานนี้ราชทูตของฮั่นถูกนำตัวเข้าคุก ทำให้มีหลายคนบนท้องถนนเห็นเพคะ เขากล่าวว่าผู้ที่โดนจับเมื่อวานนี้ หม่อมฉันได้ยินมาว่าคนผู้นั้นคือองค์ชายรองของซยงหนูเพคะ…”

จ้าวชูมองไปที่หลู่เหนียงเย็นชา

“อย่าพูดไร้สาระ เจ้าอาจจะเข้าใจผิด” ในดวงตาของเขามีคำเตือนซ่อนอยู่ หากเรื่องที่พระชายารุ่ยอ๋องมีนัดพบกับชายอื่นนี้หลุดออกไป ย่อมสร้างความอัปยศให้กับเขาเป็นแน่

“เพคะ หม่อมฉันเข้าใจผิดไปเองเพคะ” หลู่เหนียงรีบกล่าว

“ออกไป! ข้ามีธุระต้องสะสาง”

หลังจากที่หลู่เหนียงออกไปแล้ว จ้าวชูก็ไม่อาจสงบใจทำงานต่อไปได้ หลู่เหนียงและจินเซ่อไม่ลงรอยกัน บางทีอาจจะเป็นเรื่องกุขึ้นมา แต่ทว่าหากเป็นเรื่องจริงเล่า?

ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือบางอย่างระหว่างฮ่าวตุ้นและจินเซ่อ.. เขาเป็นบุรุษจะยอมให้สตรีมาสวมหมวกเขียวเช่นนี้ไม่ได้ นางนัดพบกับฮ่าวตุ้นกลางดึกจริงหรือ?

จ้าวชูลุกไปหาจินเซ่อทันทีแต่ไม่พบ เมื่อถามสาวใช้ ก็ไม่สามารถตอบได้

จ้าวชูขมวดคิ้ว เขาให้บ่าวรับใช้นำเสื้อคลุมมาสวม จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังหอหยานชุน

เมื่อรถม้ามาถึงด้านหน้า ชายชราคนหนึ่งรีบเข้ามาทักทายทันที

“นายท่านรีบเข้ามาเถิด มีสาวงามที่ท่านหมายตาในหอหยานชุนบ้างหรือไม่ขอรับ?” ชายชราถามด้วยความกระตือรือร้น

เมื่อจ้าวชูเงยศีรษะขึ้นให้เห็นใบหน้า ชายชราตกตะลึงชะงักไปทันที จ้าวชูหรี่ตามอง เห็นถึงความตระหนกของเขา

เหตุใดจึงดูกระอักกระอ่วนใจนัก? เป็นไปได้หรือไม่ว่าคนผู้นี้รู้จักเขา

จ้าวชูไม่สนใจอีกต่อไป เขาเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับองครักษ์ติดตามสองคน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด