เเม่ตัวร้ายลุคใหม่..ส่งตรงจากวันสิ้นโลก! 14 ลูกชายที่กล้าหาญ

Now you are reading เเม่ตัวร้ายลุคใหม่..ส่งตรงจากวันสิ้นโลก! Chapter 14 ลูกชายที่กล้าหาญ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วินาทีที่เธอโยนเด็กของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากระเด็น เธอก็ได้ยินเสียงชายคนหนึ่งดังออกมาจากทางด้านหลัง

“นางแพศยาทำอะไรลงไปวะ ตัวก็โตทำไมถึงได้รังแกเด็กตัวเล็กๆ อีกอย่างนึงแกมีสิทธิ์อะไรมาทุบตีเด็กต่อหน้าคนที่เป็นพ่อของเขา”

จางเสี่ยวนึกไม่ถึงเลยว่าเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าคนนี้ที่มาต่อยลูกชายเธอจะมีพ่อกับเขาด้วย

มีพ่อไม่ใช่เรื่องแปลกมีเด็กคนไหนบ้างเกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่เพียงแต่ว่าการที่เด็กมีอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าต้องเป็นเด็กที่พ่อแม่ไม่เอาสิ ทำไมเด็กคนนี้ถึงมีพ่อขึ้นมาได้

“ลูกชายของคุณรังแกลูกชายของฉัน ฉันจะต้องปกป้องลูก!” จางเสี่ยวรู้สึกว่าคำพูดที่เธอพูดไป มันดูเท่มากๆ ทั้งๆเธอไม่ได้คิดอย่างนั้นหรอกแค่พูดไปตามสคริปต์

ชายคนนั้นยิ้มให้อย่างดูน่ากลัวแล้วหยิบไม้หน้าสามออกมา ดูเหมือนเขาจะเตรียมไม้อันนี้มานานมากแล้ว

จางเสี่ยวรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้เตรียมมาพร้อมขนาดนี้

จางเสี่ยวประเมินทุกอย่างช้าเกินไป

ดูเหมือนว่าจะมีผู้ชายหลายคนและผู้หญิงอีกหลายคนถือไม้หน้าสามและก้อนหินเดินมาทางเธอ

จางเสี่ยวพูดติดตลกและหัวเราะลั่น “พวกเธอคงไม่ใช่พ่อแม่ของเด็กคนนี้หรอกนะ แปลกจัง เด็กคนนี้มีพ่อแม่หลายคน หรือว่าหมู่บ้านนี้นิยมXXX รูปแบบลงแขกล่ะ เด็กถึงได้มีพ่อแม่เยอะขนาดนี้”

แน่นอนว่าเป็นแค่พูดประชดประชัน แต่ทันทีที่จบคำพูดของจางเสี่ยวชาวบ้านทุกคนก็เกิดความโมโห

จริงๆแล้วพวกเขาคือลูกน้องของผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการนั้นอดีตเคยเป็นทหารเก่าเขารังเกียจความไม่ยุติธรรมและเกลียดคนมีนิสัยเลวทรามเอามากๆ

จางเสี่ยวคนนี้ก็คือหนึ่งในนั้น!

เเละลูกชายของจางเสี่ยวก็คงเลวเหมือนเเม่มัน!

พวกเขาคือชาวบ้านที่ได้รับเงินจากผู้อำนวยการให้มาสั่งสอนผู้หญิงคนนี้ให้รู้จักหน้าที่ของตัวเอง

แน่นอนว่าพวกเขาเตรียมกล้องถ่ายรูปกล้องวีดีโอเพื่ออัดภาพตอนสั่งสอนเอาไว้!

หลังจากที่เขาถ่ายเสร็จ เขาก็จะส่งวีดีโอนี้ไปลงในเว่ยป๋อ เพื่อให้คนในสังคมทั้งหมดเข้าใจกฎเกณฑ์ และบทลงโทษที่มีต่อคนที่ทำผิดในสังคม

ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมตัวพร้อมที่จะมาสั่งสอนจางเสี่ยวอย่างเต็มที่

จางเสี่ยวหัวเราะ ทั้งๆที่ในใจแสนจะหงุดหงิด เมื่อครู่นี้เธอใช้พลังทั้งหมดไปกับวิชาก้นหีบนั่นแล้ว เธอไม่มีกำลังเหลืออยู่อีก เธอจะทำยังไงต่อดีนะ

ในขณะที่คิด เด็กชายคนนั้นก็เดินมาจับมือเธอ เขาถามสั้นๆว่า ‘คุณคือแม่ของผมยังงั้นเหรอ คุณมารับผมยังงั้นเหรอ คุณจะเลี้ยงดูผมอย่างนั้นเหรอ?’

จางเสี่ยวพยักหน้ารัว เธอจะไม่เลี้ยงได้อย่างไรค่าปรับ 1 ล้าน เธอจะหามาจากไหน เพราะฉะนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะดูแลเด็กคนนี้ ดังนั้นถ้าจะบอกว่าเธอเป็นแม่มันก็ไม่ใช่เรื่องผิด

“ใช่แล้ว แม่จะดูแลลูกเอง”

เป็นประโยคที่เท่ห์มาก จางเสี่ยวรู้สึกว่าเธอจะเห็นแสงอะไรบางอย่างในตาของลูกชายกำมะลอสักครู่หนึ่งก่อนที่มันจะหายไป

เด็กชายไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ขยับตัวก่อนที่จะมายืนบังจางเสี่ยวจากคนใจร้ายพวกนั้น เพราะเขาต้องการปกป้องแม่

เขาจะยอมให้ใครมาทำร้ายแม่ของเขาไม่ได้ ตอนนี้เขาไม่เหลือใครแล้วนอกจากแม่… แม้ว่าเธอจะเคยทิ้งเขามาก่อนก็ตาม

ชายคนหนึ่งถือไม้หน้าสามแล้วชี้หน้าของเด็กชาย

“ไอ้เด็กกำพร้า ไสหัวของแกไปซะถ้าไม่อยากเจ็บตัว ฉันจะสั่งสอนแม่ของแกให้รู้จักหน้าที่ของความเป็นแม่และหน้าที่ของความเป็นคน”  ชายคนนั้นเอาความยุติธรรมออกมาบังหน้า ทั้งๆที่ใบหน้าของเขานั้นไม่มีความเมตตาหรือความยุติธรรมอยู่เลย

จางเสี่ยวได้ยินอย่างนั้น เธอก็อยากจะถ่มน้ำลายลงพื้น

เธอรู้สึกว่าเธอกำลัเข้าสู่นิยายเรื่องหนึ่งที่นางเอกเป็นสวะแล้วกำลังจะถูกคนรุมทำร้าย มันไม่ต่างอะไรเลย

ตอนนี้เธอก็ไม่ต่างอะไรจากสวะ เพราะเธอไม่มีกำลังที่จะต่อสู้แล้ว… แต่มันก็ช่วยไม่ได้

นี่มันยุคสมัยใหม่แล้ว ชีวิตที่ได้มาก็ใหม่ เธอต้องรู้จักที่จะปรับตัวนี่ไม่ใช่ยุควันสิ้นโลกอย่างที่เธอเคยจากมา

แล้วกฎของความแข็งแกร่งไม่น่าจะถูกเอามาใช้กับที่นี่ได้ ถ้าเธออัดคนทั้งหมดนี่ พรุ่งนี้ตำรวจทมิฬคงจะมาบ้านเธอ จางเสี่ยวครุ่นคิดยังปวดใจ

เธอจะทำยังไงดีนะ

ตาเจ้ากรรมก็ไปเห็นโทรศัพท์ที่นอนแอ้งแม้งอยู่ในกระเป๋าถือ โทรศัพท์มันควรจะมีประโยชน์มากกว่าโทรเข้าโทรออกใช่ไหม!? เมื่อนึกถึง คำว่าเว่ยป๋อที่ดังมาจากชายคนนั้นและเห็นสมาร์ทโฟนที่อยู่ในกระเป๋าของเธอ จางเสี่ยวก็คิดแผนออกมาได้

จางเสี่ยวแกล้งเป็นถอยหลังและเอาโทรศัพท์ไปซ่อนเอาไว้ในจุดที่มองเห็นได้ทุกมุม จากนั้นก็แกล้งขอเรียกความเมตตา

“พี่ชายอย่าทำร้ายฉันเลย ฉันสำนึกผิดแล้ว ฉันจะพาลูกของฉันกลับไปเลี้ยงดูอย่างดี อย่าทำอะไรฉันเลยนะ เป็นแค่ผู้หญิงตัวคนเดียว  ฉันแค่มารับลูก และลูกถูกสามีทอดทิ้งไปฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าสามีจะเบื่อฉัน เขาถึงขนาดทอดทิ้งลูก เอาไว้ให้ฉันดูแล ฉันเชื่อใจเขามาตลอดไม่นึกว่าเขาจะทำกับฉันแบบนี้”

จังเสียวสวมบทบาทดาราหนัง X เจ้าบทบาททันที  ด้วยความสามารถของเจ้าของร่างเดิมที่แสดงหนังเรท X มาตลอด

บทน่าสงสารนั้นเธอแสดงแสนเก่งมากๆ เมื่อรวมกับไพ่ตายวีดีโอ ครั้งนี้เธอจะเป็นฝ่ายที่มีชัยเเน่นอน

ชายพวกนั้นถือไม้หน้าสามชี้มาที่เธอเเล้วกล่าวด้วยเสียงดังว่า

“มันสายไปแล้ว” พวกเขาตั้งใจจะทำร้ายจางเสี่ยวอย่างเต็มที่

ชาวบ้านนั้นไม่กลัวอะไรอยู่แล้วพวกเขาสามารถอ้างได้คำเดียวว่า ทั้งหมดเพราะจังเสี่ยวเป็นคนอารมณ์ร้ายแล้วมารุมทำร้ายเด็ก พวกเขาแค่ป้องกันไม่ให้จางเสี่ยวเข้ามาทำร้ายเด็กก็เท่านั้น มีพยานตั้งมากมายจางเสี่ยวจะเอาปัญญาที่ไหนไปสู้

โทรศัพท์ของจางเสี่ยวนั้นกำลังไลฟ์สดอยู่ และตั้งค่าเป็นสาธารณะตั้งแต่แรก สายตาของจางเสี่ยวนั้นหันไปดูภาพบนจอโทรศัพท์  และเธอก็เห็นว่าในขณะนี้ ยอดไลฟ์สดของเธอมีคนดูมากกว่า 1 ล้านคน

ในขณะที่ชายคนนั้นกำลังพูดก่นด่าจางเสี่ยวด้วยวิธีต่างๆนานา จางเสี่ยวก็แอบไปอ่านคอมเม้นที่อยู่ในโทรศัพท์ แน่นอนว่าคอมเม้นส่วนใหญ่ ก็คือ คอมเม้นดุด่า แต่ไม่ใช่ดุด่าจางเสี่ยว พวกเขาเองก็ไม่พอใจเช่นกันที่จู่ๆชาวบ้านมาตั้งศาลเตี้ย ชาวโซเชียลกำลังรู้ถึงพฤติกรรมที่เลวทรามของชายหญิงของหมู่บ้านแห่งนี้

ทุกคนทั้งโลกรู้แต่ชาวบ้านตรงหน้านี้ไม่รู้ พวกเขายังคงด่าจางเสี่ยวและเอาไม้หน้าสามข่มขู่จางเสี่ยวอย่างโหดร้าย ไม้หน้าสามถูกที่ชี้มาที่จางเสี่ยว มันใกล้เสียจนเกือบจะทิ่มปากจางเสี่ยวอยู่แล้ว

จางเสี่ยวขมวดคิ้วด้วยความกังวลใจ ในใจก็ครุ่นคิดว่าตอนนี้ถึงเวลาเหมาะสมแล้วหรือยังที่เธอจะรุกฆาต

“ตอบมาหน่อยสินางสารเลว กล้าดียังไงถึงทำผิดกฎสังคมด้วยการคบชู้สู่ชาย มันสิ่งที่ไม่ดีต่อเด็ก แล้วคนสกปรกอย่างแกกล้ายุ่งย่ามเข้ามาในหมู่บ้านศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้ยังไง กะแล้วพวกคนในเมืองเนี่ยมันสกปรกไม่มีดีสักคน”

ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูถูกเหยียดหยามจางเสี่ยวอย่างเต็มที่แต่เขาไม่นึกเลย คำว่าคนในเมืองของเขา จะทำให้สังคมในโซเชียลดุเดือดขึ้นมาอีกครั้ง คอมเม้นก่นด่ากลับไปที่ชายคนนั้นมีมากมาย น่าเสียดายที่เจ้าตัวนั้นไม่รู้!

จางเสี่ยวยังคงถือไพ่ที่เหนือกว่า โดยที่ชาวบ้านพวกนั้นไม่รู้เลยว่าเธอถือไพ่เเบบนี้อยู่

จางเสี่ยวแอบจะยิ้มด้วยความสะใจ นี่ก็เป็นวิธีสู้อย่างหนึ่งของคนอ่อนแอเหมือนกัน

พวกเขากล้าที่จะข่มขู่เธอ เธอก็กล้าข่มขู่พวกเขากลับได้เหมือนกัน

มาดูซิว่าใครกันแน่ที่ขู่เก่งกว่ากัน

จางเสี่ยวดึงตัวลูกชายกลับมาอยู่ด้านหลังเหมือนเดิม เธอป้องเขาไม่ให้พบเจอสิ่งเลวร้าย…ที่จริงคือ เธอกลัวเด็กจะตายเเละเสียค่าปรับ!

แม้เขาจะไม่ใช่ลูกชายที่แท้จริงของเธอ  จริงๆ ก็ใช่นั่นแหละ เพียงแต่ในด้านจิตวิญญาณนั้น เขาไม่ใช่ลูกชายของเธอ แต่ว่าเธอก็ไม่อาจทนเห็นเด็กทุบตี เพราะสาเหตุก็คือเธอได้ เธอไม่ชอบที่จะติดหนี้บุญคุณใครสักเท่าไหร่…ที่สำคัญ ค่าปรับ!

การก่นด่าและโต้เถียงยังคงมีกันต่อไป ผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังเริ่มทนไม่ไหวแล้ว พวกเขาเริ่มปาหินใส่จางเสี่ยว

ขณะที่หินถูกปาออกมา จางเสี่ยวแม้จะไม่มีพลังเหลือ แต่ใช่ว่าเธอจะไม่มีตา… จางเสี่ยวเอียงหัวเล็กน้อยหลบหินทันที จากนั้นก็ร้องด้วยความตกใจ

“อย่าทำฉันเลย อย่าทำฉันเลย ฉันกลัวแล้ว อย่าทำฉัน” จางเสี่ยวพูดซ้ำไปซ้ำมาแล้วทำหน้าตาเหมือนว่ากลัวสุดๆ ในขณะที่ทำหน้าตาเเบบนั้นเเล้วเธอก็แอบหันไปที่หน้ากล้อง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกนั้นให้ปรากฎในไลฟ์สดอย่างเต็มที่

ชาวบ้านผู้ไม่รู้ก็ได้แต่หัวเราะ เเละเอาหินปาเข้ามาเรื่อยๆ

จางเสี่ยวที่เคยอยู่ในยุควันสิ้นโลก เเม้จะไม่ค่อยเก่งแต่เธอมีทักษะด้านการหลบดีมากพอสมควร ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่สามารถล่าซอมบี้หรือเเวมไพร์ระดับต่ำได้

จางเสี่ยวกระโดดหลบหินอย่างชำนาญ จากนั้นก็แกล้งทำเป็นหกล้มลุกคลุกคลานบ้าง เพื่อเพิ่มความสงสารและเพิ่มยอดไลค์ให้แก่ไลฟ์สด

จนกระทั่งจางเสี่ยวเห็นว่าทุกอย่างน่าจะพอสมควรแล้ว เธอถึงได้ชูมือขึ้นแล้วบอกว่า

“พอทีเถอะ พวกคุณอย่าร้ายฉันเลย ฉันจะบอกให้ ถ้าพวกคุณทำมากกว่านี้อีกนิดเดียว สังคมจะรุมประนามพวกคุณ” จางเสี่ยวพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร ในขณะที่หน้าตานั้นไม่ได้หันไปทางกล้อง จางเสี่ยวจึงทำหน้าตาแบบดุตันเต็มที่

ชาวบ้านเห็นเข้าก็โกรธ และพยายามก่นด่าตะโกนร้องบอกว่า

“การพิทักษ์ธรรมแทนสังคมมันไม่ใช่ความผิด”

คำพูดคำนี้ของเขาเข้าไปในไลฟ์สด เเน่นอนว่าเสียงคนด่ามีมากขึ้นกว่าเดิมคนส่วนใหญ่นั้นชอบคนอ่อนเเอ เเต่ไม่ชอบคนเเข็งเเกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่มาเป็นหมู่มากและรังแกคนคนเดียว

จางเสี่ยวเข้าเครือข่ายเหยื่อผู้อ่อนแอมากที่สุด

จากนั้นจางเสี่ยวก็บอกว่า “ต้องขอโทษด้วยพี่ๆชาวบ้านหมู่บ้านนี้ทุกคน  เพียงแต่ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันแค่ตั้งวีดีโอไว้เพื่อบันทึกภาพ เพื่ออัดภาพประทำใจในครั้งแรกที่ฉันได้เจอลูก แต่ไม่นึกไม่ถึงเลยว่าพวกคุณจะเข้ามาทำแบบนี้” จางเสี่ยวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากที่ซ่อนพร้อมกับโชว์ไลฟ์สดไปด้วย

หน้าตาของชาวบ้านทุกคนนั้นปรากฏขึ้นบนหน้าจอ มีคอมเม้นจำนวนมากก่นด่า ชาวบ้านพวกนั้นเห็นชัดเจนถึงกับพากันหน้าเสีย

พวกเขารีบแก้ตัวทันทีอย่างชาญฉลาด

“ทุกอย่างมันก็แค่เรื่องเข้าใจผิด เราแค่มาต้อนรับจางเสี่ยวเฉยๆ”

จางเสี่ยวได้ยินข้อแก้ตัวที่แสนจะตลก เธอก็มองไปที่ไม้หน้าสาม เเล้วเเค่นหัวเราะ มีเจ้าบ้านที่ไหนต้อนรับแขกด้วยไม้หน้าสามกันบ้าง

จางเสี่ยวหัวเราะเบาๆและเถียงกลับ

“ที่หมู่บ้านนี้ดีจริงๆต้อนรับแขกด้วยไม้หน้าสาม ต้องขอโทษด้วย ฉันเป็นคนในเมือง ไม่ค่อยรู้เรื่องพรุ่งนี้หรอก”

คำพูดของจางเสี่ยวเรียกยอดไลค์จากไลฟ์สดได้อย่างดี ชายพวกนั้นถึงทำหน้าเสีย พวกเขาทนอยู่ที่หน้าจอต่อไปไม่ไหวแล้ว ยิ่งอยู่นานมากเท่าไหร่ พวกเขายิ่งอันตรายมากขึ้น ชาวบ้านทั้งหมดทั้งชายและหญิงต่างรีบออกจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าและไม่หันมามองจางเสี่ยวอีกเลย

จางเสี่ยวยืนยิ้มให้กับแผ่นหลังที่จากไปของพวกเขา จากนั้นก็หันไปทำหน้าเศร้าที่หน้าจอโทรศัพท์แล้วพูดขอบคุณ

“ขอบคุณสังคมมากที่ช่วยปกป้องฉัน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด