บทที่ 578 ทูตสวรรค์ปริศนา

บทที่ 578 ทูตสวรรค์ปริศนา

มีความทึ่งชั่วขณะปรากฏขึ้นในสายตาของเซียวเฟิง

ทำไมถึงมีทูตสวรรค์อยู่ที่นี่? ทูตสวรรค์เหมือนในโลกของเกม?

อย่างไรก็ตาม ทูตสวรรค์ที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นในลิฟต์ไม่ได้หยุดนิ่ง หลังจากที่ประตูลิฟต์เปิดออก สายตาที่เฉยเมยก็จับจ้องไปที่เซียวเฟิงซึ่งยังคงยืนนิ่งในทันที จากนั้นจึงค่อย ๆ ยกมือและขายาวสองเมตรขึ้นอย่างช้า ๆ ดาบโลหะยักษ์ซึ่งกว้างเท่ากับประตู ชี้ไปที่เซียวเฟิง ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน และในขณะที่รูม่านตาของเซียวเฟิงหดตัว ร่างนั้นก็ระเบิดพลังออกมาทันที และฟันใส่เซียวเฟิงด้วยดาบ!

ในขณะนี้ เซียวเฟิงรู้สึกถึงวิกฤต ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงทองโดยไม่รู้ตัว แขนของเขาไขว้และยกขึ้นเพื่อป้องกันดาบยักษ์!

เคร้ง!

ราวกับว่ามีเสียงโลหะหนักดังขึ้น สีหน้าของเซียวเฟิงก็เปลี่ยนไปทันที

ร่างกายของเซียวเฟิงจมลงด้วยแรงมหาศาล และแขนก็รู้สึกเจ็บปวด ด้วยร่างกายของเขา กลับถูกดาบฟันเข้า!

มันผ่าเข้าไปถึงกระดูกท่อนแขนของเขาโดยตรง และดาบยักษ์ก็ยังสั่นด้วยความถี่สูง! ราวกับจะตัดกระดูกของเซียวเฟิง!

นี่เป็นความเจ็บปวดที่ทนไม่ได้ ความเจ็บปวดได้แทรกซึมเข้าไปในไขกระดูก ใบหน้าของเซียวเฟิงเริ่มบิดเบี้ยว และเขากำลังจะถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าทูตสวรรค์นี้จะมีลักษณะเหมือนผู้หญิง แต่ร่างกายของเธอก็เป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่ร่างที่อ่อนเยาว์เหมือนเสี่ยวไป๋ เธอมีปีกสี่ปีกที่อยู่ข้างหลังเธอ และในขณะที่เซียวเฟิงกำลังจะหนี เขาเห็นปีกทั้งสี่ของเธอเรืองแสงพร้อมกัน และระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวก็ปะทุขึ้น แรงดันกดทับเซียวเฟิงอย่างแรงด้วยดาบยักษ์ราวกับว่ามันกำลังจะผ่าเซียวเฟิงออกจากกัน! มันเร็วกว่าความเร็วตอนที่เธอพุ่งออกจากลิฟต์ใส่เซียวเฟิง!

ปัง!

พื้นที่ใต้ดินของฐานไม่เล็ก มันเป็นขนาดเท่าสนามฟุตบอล แต่ระหว่างเซียวเฟิงกับทูตสวรรค์นี้ที่ถอยกลับเข้ามาทางเข้า พวกเขามาถึงตรงกลางของพื้นที่ใต้ดินในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ท่าทางของทูตสวรรค์ที่ใช้ดาบยักษ์กดเซียวเฟิงไม่เปลี่ยนแปลง แต่หลังของเซียวเฟิงกระแทกผนังโลหะเข้าไปเป็นรอยเว้า

เกิดอาการวิงเวียนศีรษะอีกครั้งในสมอง และร่างกายกลับมาเป็นปกติหลังจากสูญเสียการควบคุมไปครู่หนึ่ง แต่ความรู้สึกอ่อนล้าที่คลุมเครือยังคงทำให้หัวใจของเซียวเฟิงจมลง

อาการบาดเจ็บทางจิตใจของเขารุนแรงเกินไป ซึ่งไม่ได้เลวร้ายไปกว่าการบาดเจ็บทางร่างกาย ร่างกายของเขาแข็งแรงพอ ๆ กับของคิงคอง ซึ่งเขาสูญเสียแรงต้านทานทั้งหมดตอนที่ถูกคลื่นกระแทกทางจิตของสมองชีวภาพและร่างกายจิตของเซียวเฟิงก็ถูกแทงเข้าที่ด้านขวาด้วย

ซึ่งหมายความว่าพลังจิตของเซียวเฟิงนั้นแข็งแกร่งพอ และหากเป็นคนอื่น เขาคงเสียชีวิตด้วยอาการทางจิตและกลายเป็นผักไปแล้ว

แต่จิตแข็งแกร่งก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ ในขณะนี้เซียวเฟิงเกือบจะอยู่ในสถานะหมดกำลัง และเขาแทบจะไม่สามารถควบคุมร่างกายของเขาเพื่อเคลื่อนไหวได้ ต่อให้เปิดใช้ชูร่าไร้เทียมทาน ความสามารถของเขาก็แทบจะไม่เหมือนเดิม นอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบจากอาการวิงเวียนศีรษะด้วย

เห็นได้ชัดว่าทูตสวรรค์ลึกลับที่ไม่ทราบที่มานี้มีพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว ในสถานะปัจจุบันของเซียวเฟิงเป็นเรื่องยากมากที่จะจัดการกับเธอได้

ที่สำคัญกว่านั้น ดวงตาของเซียวเฟิงกวาดไปทั่วพื้นที่ใต้ดินนี้ เขาไม่แน่ใจว่าเป้าหมายการโจมตีของทูตสวรรค์นั้นถูกกำหนดอย่างไร ถ้าจู่ ๆ เธอเลิกสนใจเขาและหันไปโจมตีสาวน้ำแข็งและสาวไฟที่หมดสภาพอยู่ สถานะปัจจุบันของเซียวเฟิงนั้นไม่สามารถหยุดเธอได้เลย

กึก กึก!

คมของดาบยักษ์ยังคงสั่นด้วยความถี่สูงและกดแขนที่ไขว้อยู่ของเซียวเฟิงลงอีกครั้ง ความเจ็บปวดนั้นรุนแรงยิ่งขึ้นเซียวเฟิงไม่แน่ใจว่ากระดูกปลายแขนของตัวเองจะสามารถกันดาบขนาดยักษ์ไหวหรือไม่ แต่เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่ามันใช้ดาบเดียวเฉือนเนื้อของตัวเอง ร่างกายของเขาก็คงไม่อาจทนได้

แม้ว่าสิ่งนี้จะเกี่ยวข้องกับความหย่อนยานทางจิตใจและการควบคุมร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ของเขา

“เฮยซี!”

เซียวเฟิงตะโกนขึ้นทันที แขนของเขาเต็มไปด้วยเส้นสีน้ำเงิน และเขาพยายามดันดาบยักษ์ขึ้น

“กรี๊ซ!”

ราวกับว่ากำลังตอบสนองต่อเสียงเรียกของเซียวเฟิง ที่ช่องเพดานของพื้นที่ใต้ดินที่สาวไฟกับสาวน้ำแข็งลงมา รูก็ถูกเปิดออกด้วยแรงและแผ่นกั้นโลหะหนา 20 เซนติเมตรได้ถูกทำลายเหมือนแผ่นกระดาษ จากนั้นเงาสีดำขนาดใหญ่ก็ตกลงสู่พื้นที่ใต้ดินนี้ราวกับสายฟ้า แล้วพุ่งมาที่เซียวเฟิง

ทูตสวรรค์ซึ่งยังคงปะทะกับเซียวเฟิงดูเหมือนจะสัมผัสได้และยอมถอยจากเซียวเฟิงโดยตรงและง้างดาบของเธอไปทางด้านหลังแล้วฟันไปที่เงาสีดำที่ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว

“แกว๊ก!”

พร้อมกับเสียงกรีดร้องอันไม่พึงประสงค์ ขนนกสีดำที่แข็งเหมือนเหล็กกล้าสองสามชิ้นตกลงจากท้องฟ้า ถ้าเงาดำนี้ไม่ใช่นกประหลาดสีดำจะเป็นใครได้

ขนาดของนกประหลาดสีดำนั้นน่าทึ่งอยู่แล้ว รูขนาดใหญ่ที่เปิดออกตรงช่องระบายอากาศขนาดใหญ่พอให้เฮลิคอปเตอร์ผ่านได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันโตเต็มวัย ความแข็งแกร่งของร่างกายมันยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก ถึงมันจะแค่เสียขนนกไปเพียงไม่กี่เส้นจากการฟัน แต่มันก็กระตุ้นความดุร้ายของนกประหลาดสีดำ ร่างของมันกระพือปีก และกรงเล็บที่แหลมคมเปล่งแสงเย็น ดำราวกับตะขอเหล็ก ฉีกใส่ทูตสวรรค์!

เคร้ง!

ในการเสียดสีของโลหะ มีทูตสวรรค์ฟันดาบออกมาอีกครั้ง ดาบยักษ์ในมือของเธอถูกกรงเล็บของนกประหลาดสีดำหนีบไว้ ดาบยักษ์กว้างเท่าประตู แต่กรงเล็บของนกประหลาดสีดำก็กว้างถึง 50 เซนติเมตร เพียงพอที่จะจับดาบยักษ์ได้

แกว๊ก!

เสียงนั้นรุนแรงมาก ดาบยักษ์สั่นสะเทือนด้วยความถี่สูงและประกายไฟสาดส่องเข้าไปในกรงเล็บของนกประหลาดสีดำ เห็นได้ชัดว่านกประหลาดสีดำนั้นอึดอัดอย่างยิ่ง และมันก็ร้องไม่หยุด

อย่างไรก็ตามเซียวเฟิงก็เคลื่อนไหวในเวลานี้เช่นกัน เมื่อเฮยซีจับทูตสวรรค์ได้ เส้นเลือดที่กำปั้นขวาก็ปรากฏขึ้น และเขาก็ต่อยหลังของทูตสวรรค์อย่างสุดกำลังของเขา!

ปัง!

ด้วยเสียงอู้อี้ เซียวเฟิงเพียงรู้สึกราวกับว่าตัวเองทุบเข้าไปในกำแพงเหล็ก แต่เขาไม่ได้ทะลวงทูตสวรรค์ด้วยหมัดนี้!

แม้แต่ร่างกายก็ไม่ฉีกขาด!

อย่างไรก็ตาม เขายังฟาดทูตสวรรค์ไปข้างหน้า และเฮยซีก็คว้าโอกาสนี้ไว้ โดยกำดาบยักษ์ด้วยกรงเล็บข้างหนึ่ง และตบทูตสวรรค์ที่เสียหลักด้วยกรงเล็บอีกข้าง!

กี๊ด!

เสียงโลหะฉีกขาดนั้นได้ยินชัดเจน และปีกสีขาวสองข้างก็กระเด็นออกไปพร้อมกับเส้นสายฟ้าสีน้ำเงินสองสามเส้น ในเวลาเดียวกัน มีรอยแตกลึกหลายจุดบนตัวของทูตสวรรค์ และสามารถเห็นได้ว่าใต้รอยแตกนั้น คือโครงสร้างสายไฟโลหะ!

ทูตสวรรค์อ้าปากของเธอและดูเหมือนอยากจะตะโกน แต่ก่อนที่เธอจะเคลื่อนไหวอะไรเพิ่มเติม มือของเซียวเฟิงก็คว้าคอของเธอจากด้านหลังและบิดมันอย่างแรง!

แกร่ก!

ด้วยเสียงแตก หัวของทูตสวรรค์ก็ถูกเซียวเฟิงบิดโดยตรง และกระแทกกับพื้น

ปัง!

ลำตัวของทูตสวรรค์ซึ่งสูญเสียศีรษะไป ยังสูญเสียพลังงานราวกับว่าสายไฟขาดการเชื่อมต่อ และล้มลงกับพื้นพร้อมกับดาบยักษ์

“ฉีกมันลง!”

เซียวเฟิงเอนหลังพิงกำแพงเหล็กแล้วเลื่อนลงมาราวกับว่าเขาสูญเสียพละกำลังหมดแล้ว แต่ก็ยังสั่งเฮยซี

แกว๊ก!

เห็นได้ชัดว่าเฮยซีกุมจุดอ่อนสำหรับทำลายพวกมัน และใช้เวลาไม่นานมันก็ฉีกร่างของทูตสวรรค์ออกเป็นชิ้น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าทูตสวรรค์จะไม่ฟื้นคืนชีพ ส่วนดาบขนาดใหญ่ที่กว้างถึงประตู แม้ว่าการสั่นสะเทือนความถี่สูงได้หยุดลงแล้ว แต่กรงเล็บของเฮยซีก็ไม่สามารถทิ้งรอยไว้บนใบดาบได้เลย ไม่ต้องคิดถึงการทำลายมัน

เซียวเฟิงเอนหลังพิงกำแพง นั่งลงบนพื้นเพื่อฟื้นกำลัง ดูกระบวนการของเฮยซีในการรื้อทูตสวรรค์ ดวงตาของเขาครุ่นคิด ทูตสวรรค์นี้คืออะไร และมันมาจากไหน ฐานนี้หรือ มันเป็นอาวุธลับตระกูลบรีซหรือเปล่า? แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมไม่นำมันออกมาก่อนหน้านี้

จนกระทั่งร่างของทูตสวรรค์จะถูกแยกออกเป็นชิ้น ๆ จนแน่ใจว่าช่างฝีมือที่ดีที่สุดก็ไม่สามารถซ่อมแซมมันได้ เซียวเฟิงก็ไม่ได้ข้อสรุป และฝืนยืนขึ้นและมองดูพื้นที่ใต้ดินที่เละเทะนี้

นี่คือความเละเทะหลังการต่อสู้ มีศพเจ็ดแปดศพนอนอยู่รอบ ๆ นอกจากเทพเทียมรุ่นที่สามที่สร้างโดยตระกูลบรีซแล้ว ยังมีศพของแอนดี้และ… ศพของเซียวหลิง…

แววตาของเซียวเฟิงค่อนข้างซับซ้อน หลังจากปรับอารมณ์แล้ว เขาก็หันไปหาคิงคองและคนอื่น ๆ กำลังกายของคิงคองฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย และเขาอุ้มสาวน้ำแข็งและสาวไฟไว้บนไหล่ของเขาข้างละคน

ลูอิส มีน่าไม่เหลือแม้แต่กระดูกด้วยน้ำมือของเซียวเฟิงที่โกรธแค้น และสุดท้าย ร่างเล็กที่ห่อด้วยของเหลวเซลล์หนาเหมือนเยลลี่ในถังเพาะเลี้ยงก็แตก

ดวงตาของเซียวเฟิงหยุดอยู่ที่นั่นและมีความกลัวแวบผ่านแววตาของเขา ไม่เคยรู้หรือคิดว่าสมองชีวภาพจะเป็นอันตรายได้ขนาดนี้ คลื่นที่ปะทุขึ้นกะทันหันทำให้คิงคองและคนอื่น ๆ สูญเสียความสามารถในการต่อต้าน แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ด้วย หากไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของโนอาห์ ชีวิตของตัวเองก็คงตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน

“นายท่านเป็นยังไงบ้าง?”

คิงคองถามเซียวเฟิงหลังจากที่อุ้มสาวน้ำแข็งและสาวไฟไว้บนร่างของเขา

“ที่นี่มีอันตรายปริศนาอยู่ รีบออกไปก่อนเถอะ”

เซียวเฟิงส่ายหัวเพื่อบอกว่าเขาสบายดี เขาเดินไปอุ้มร่างของเซียวหลิงด้วยดวงตาที่ซับซ้อน ร่างเล็กนั้นก็ด้วย

นี่คือ ‘ร่างแม่’ ของเซียวหลิง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม ส่วนสูง หรือผมสีบลอนด์ มันก็เหมือนกับเซียวหลิง

และเธอยังหายใจอยู่ แต่น่าเสียดายที่เธอไม่มีสติ เช่นเดียวกับผู้เล่นที่เข้าร่วมในดินแดนแห่งพระเจ้า ส่วนที่เหลือของร่างกายจะตัดสินว่าสมองตายหลังจากการถ่ายโอน

เซียวเฟิงถอดเสื้อของเขาออกแล้วพันรอบตัวเธอ จากนั้นก็ใช้มือทั้งสองข้างอุ้มร่างน้อย ๆ ของเซียวหลิงขึ้นมา

เซียวเฟิงยังคงมีโชคเล็กน้อย ถ้าเด็กสาวสามารถฟื้นคืนชีพได้ เขาจำเป็นต้องมีร่างกายแน่นอน และไม่มีทางเลือกไหนที่ดีไปกว่าร่างที่ยังตายไปแค่จิต

“เฮยซี เก็บดาบบนพื้น”

เซียวเฟิงหันกลับมาและบอกเฮยซีให้เอาดาบยักษ์ของทูตสวรรค์ออกไปด้วยและพากันออกจากพื้นที่ใต้ดินนี้

กลางคืนเป็นเหมือนสายน้ำ ลมเย็น ๆ ยามเช้าพัดมา ท้องฟ้าก็ขาวโพลนเหมือนท้องปลา ซึ่งหมายความว่าวันใหม่กำลังจะมาถึง

ประกอบกับเสียงทะลวงท้องฟ้าอย่างกะทันหัน ร้านซ่อมที่ถูกทิ้งร้างซึ่งว่างเปล่าเมื่อครู่ที่แล้วกลับกลายเป็นเงาในครู่ต่อมา และร่างหลายสิบตัวก็ปรากฏขึ้นทีละร่าง เมื่อพิจารณาจากบรรยากาศที่ไม่สงบและกลิ่นเลือดที่ซึมซับร่างกาย เห็นได้ชัดว่าเพิ่งประสบสงครามครั้งใหญ่มา

“รายงานสถานการณ์การต่อสู้”

เซียวเฟิงวางร่างทั้งสองในอ้อมแขนของเขาลงโดยไม่หันหน้ามา