ซุปเปอร์เจ้าสำราญ 134 อาจารย์ติงแห่งตุงไห่

Now you are reading ซุปเปอร์เจ้าสำราญ Chapter 134 อาจารย์ติงแห่งตุงไห่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่134 อาจารย์ติงแห่งตุงไห่

“พวกคุณคือใคร?”จางฉีโม่ตกใจมาก จู่ๆก็มีคนดุร้ายมากมาย

รถสิบกว่าคัน ล้อมรอบเข้ามาอย่างนี้

“ถูกแล้ว เธอก็คือจางฉีโม่ พาเธอไป!”ชายชุดสูทสวมแว่นดำคนหน้า พูดอย่างเย็นชา

พูดจบ บอดี้การ์ดชุดสูทหลายคนก็เข้ามาจะจับจางฉีโม่ อย่างรวดเร็ว แลนด์โรเวอร์สีดำข้างถนนคันหนึ่งก็พุ่งเข้ามา เกือบจะชนชายชุดสูทหลายๆคน ทำเอาพวกเขาตกใจจนถอยหลังตามๆกัน

“พวกคุณจะทำอะไร?อยากตายเหรอ?”

แลนด์โรเวอร์สีดำขวางตรงหน้าของจางฉีโม่ ชายวัยกลางคนสามคนสวมชุดฝึกกังฟูสีขาวลงมา

ได้รับคำสั่งให้ปกป้องหลิวจุนสามคนพี่น้องของจางฉีโม่

“พวกเราแก๊งหมัดสยบพยัคฆ์ตระกูลติงมาจัดการ ทางที่ดีคุณไสหัวไป!”ผู้ชายสวมแว่นตะโกนออกมาอย่างทรงพลัง

“แก๊งหมัดสยบพยัคฆ์ตระกูลติง?”หลิวจุนขมวดคิ้วหน่อยๆ สบตากับพี่ชายสองคน พวกเขามองหน้ากัน

คนทั่วไปในเมืองชิงหยูนอาจจะไม่เคยได้ยินแก๊งหมัดสยบพยัคฆ์ตระกูลติง, แต่พวกเขาสามคนในฐานะที่เป็นปรมาจารย์อันดับหนึ่งของโลกศิลปะการต่อสู้ในเมืองตุงไห่ แน่นอนว่าเคยได้ยิน!

แก๊งหมัดสยบพยัคฆ์ตระกูลติงรู้จักกันว่าเป็นศิลปะการต่อสู้ของเมืองตุงไห่ เป็นแก๊งอันดับหนึ่งในยุคปัจจุบันของศิลปะการต่อสู้ รู้จักกันดีว่าลูกศิษย์ในสังกัดต่างเป็นสุดยอดฝีมือ เทียบไม่ได้กับพวกบอดี้การ์ดทั่วไป แต่ละคนฝึกมาเพื่อฆ่าฟัน!

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ติงเสินอีผู้ก่อตั้งของแก๊งหมัดสยบพยัคฆ์ตระกูลติง อาจารย์ติง เป็นที่รู้จักว่าเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้อันดับหนึ่งของยุคนี้ในเมืองตุงไห่ มากว่าสามสิบกว่าปี เรียกได้ว่าเป็นรุ่นพี่ของสามพี่น้องหลิวจุน เป็นคณบดีของศิลปะการต่อสู้ของชาติ!

“ทำไม?เคยได้ยินแก๊งหมัดสยบพยัคฆ์ตระกูลติงสินะ?แล้วยังไม่ไสหัวไปอีก!”ผู้ชายสวมแว่นตะโกนออกมา ด้วยท่าทางยโสโอหัง

“ดูจากท่าทางพวกคุณแล้วก็ฝึกมาแค่ไม่เท่าไหร่หรอก รู้จักชื่อเสียงพวกเราแล้ว ยังไม่รีบไปอีก อยากตายเหรอ?”ผู้ชายสวมแว่นหัวเราะ เงยหน้าพูด

“พวกคุณมาทำอะไร ทำไมต้องมาหาคุณจาง?”หลิวจุนถามอย่างสงสัย

“ผมไม่รู้ ผมรับคำสั่งของคุณท่านติง ให้พาจางฉีโม่ไป ทางที่ดีพวกคุณอย่ามาขวางผม”ชายสวมแว่นพูดอย่างเย็นชา

“พาไป?คุณท่านติง?”หลิวจุนหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณท่านติงมีชื่อเสียงมากกว่าสามสิบปี และก็เป็นคนรักษาหน้ามาก จะส่งคนไปจับตัวผู้หญิงเหรอ?น่าตลกจริง!”

พูดจบ หลิวจุนก็พุ่งเข้าไปปล่อยหมัดและเตะใส่กับชายแว่นดำ ชายแว่นดำเป็นนักฝึกศิลปะการต่อสู้ กำลังไม่ได้อ่อนแอ ปล่อยหมัดใส่กับหลิวจุนแข็งแรงดุดันเหมือนเสือ เพียงแค่ถูกกดทับไว้

ขณะเดียวกัน หลิวจุนสองคนพี่น้องก็พุ่งเข้ามาจับแก๊งหมัดสยบพยัคฆ์พวกชายชุดสูทนั้นไว้ ปล่อยหมัดใส่และเตะไป คนหนึ่งลอยออกไปและล้มลง ทำร้ายจนร้องโหยหวนออกมา ล้มกระตุกไปที่พื้น

พี่ชายสองคนของหลิวจุนเดิมทีก็มีทักษะกังฟูดีอยู่แล้ว ถือว่าเป็นปรมาจารย์ที่ไม่เป็นสองรองใคร จัดการกับพวกศิลปะการต่อสู้ระดับต้นพวกนี้ เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว ออกแรงแค่เล็กน้อย

สามนาทีผ่านไป

แป๊บเดียว หลิวจุนก็เป็นผู้ชนะ ทำเอาจมูกของชายสวมแว่นเลือดไหลอาบล้มลงพื้น แว่นแตกหมด เผยให้เห็นใบหน้าโง่เขลาที่ดูปากแหลมแก้มตอบเหมือนลิง

ปัง!

หลิวจุนพุ่งเข้าไปเตะใส่หน้าชายแว่นดำ พูดโหดๆ:“ไม่รู้ว่าคุณเป็นเด็กเปรตมาจากไหน กล้าทำลายความคิดของคุณจาง อยากตายเหรอ!”

“คุณ!พวกคุณกล้าทำผม?ผมเป็นถึงศิษย์ที่เป็ดของอาจารย์ติง!ต่อไปพวกคุณก็อย่ามาที่เมืองชิงหยูนอีกเลย!”ชายสวมแว่นดำพูดด้วยความโกรธ

สถานะของอาจารย์ติงแห่งตุงไห่ ถึงขนาดว่าสามตระกูลใหญ่ยังต้องขายขี้หน้า ลูกศิษย์และลูกหลานนับไม่ถ้วน ต่างเป็นคนรวยมีชื่อเสียง พลังเยอะ

ทำร้ายเขา ก็เท่ากับทำร้ายหน้าอาจารย์ติง คุณท่านติงรักชื่อเสียงมาตลอด มากซะยิ่งกว่าชีวิต ต้องแก้แค้นแน่นอน

“ต้องสนเหรอว่าคุณเป็นใคร!อาจารย์ติงมาเองก็ไม่มีประโยชน์!”หลิวจุนพูดอย่างโหด แล้วก็เตะใส่ชายแว่นดำแรงๆอีกครั้ง เหยียบใส่จนเขาร้องเสียงดัง

เขาโกรธมากแล้วจริงๆ แล้วยังกล้าข่มขู่ตัวเอง?เขาไม่ใช่ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้เหมือนเมื่อก่อน แต่เป็นลูกน้องท่านหลิน คนดังใหญ่โตข้างกายท่านเสิ่นซาน!

กล้าทำลายความคิดคุณนายหลิน เขาก็กล้าทำคนนั้นตายทั้งนั้น

ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน อาจจะกลัวอำนาจชื่อเสียงของอาจารย์ติง แต่ตอนนี้มีท่านหลินสนับสนุน ที่ดินแดนตุงไห่นี้ ใครก็ไม่กลัว!

จางฉีโม่มองอยู่ข้างๆ ตะลึงกับฉากที่มาอย่างหุนหันพลันแล่นคาดไม่ถึงไปแล้ว

เธอรู้จักหลิวจุน รู้ว่าเป็นเพื่อนหลินอิ่ง

คิดไม่ถึงว่า หลินอิ่งจะมีหน้ามีตาในเมืองชิงหยูนขนาดนี้ เพื่อนที่มีความสามารถขนาดนี้ยังช่วยเขาปกป้องตัวเองอีก?

แต่ หลินอิ่งจะต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อเชิญมาสินะ?

จางฉีโม่คิดในใจ อดไม่ได้ที่จะหน้าแดง ข้างในใจเต้น หลินอิ่งมักจะชอบช่วยเธออยู่เงียบๆเสมอ

“เหอะเหอะ หลิวจุน ตอนนี้พวกคุณสามคนพี่น้องมีศักดิ์ศรีมากหรือไง?เลียแข้งเลียขาเสิ่นซาน แม้แต่ผมก็ไม่เห็นหัว?”

เวลานี้รถออดี้A6เรียบง่ายคันหนึ่งขับเข้ามา คนแก่ผมขาวที่สวมชุดฝึกกังฟูสีเหลืองคนหนึ่ง ลงจากรถ มองสามพี่น้องหลิวจุนด้วยใบหน้าเย่อหยิ่ง

“อาจารย์ติง?คนพวกนี้เป็นลูกศิษย์ของคุณจริงเหรอ?”หลิวจุนขมวดคิ้ว พูดอย่างสงสัย

เกิดอะไรขึ้น ติงเสินอีไอ้แก่ตายยากนี่ แก่ขนาดนี้แล้วยังก่อเรื่อง?

หลิวจุนสามคนพี่น้องต่างมองอาจารย์ติงเหมือนเป็นศัตรู

ติงเสินอีผูกเสื้อเป็นปมตะขาบ ทำท่าทางสูงส่ง มือพาดหลังค่อยๆเดินเข้ามา

ท่าทางกิริยาเช่นนี้ ทำให้หลิวจุนสามคนพี่น้องรวมถึงจางฉีโม่ รู้สึกถึงความขยะแขยง

ตาแก่นี่ สวมชุดฝึกกังฟูช่วงหน้าอกผูกเป็นปมตะขาบ แต่งตัวเป็นทาสรับใช้สมัยก่อน แค่เจ้านายเรียก ก็พร้อมติดกระดุมคุกเข่าลงทันที

ท่าทางแบบนี้ ทำให้คนรู้สึกรำคาญจริงๆ

“เป็นคนในสำนักเรา ทำไม?รุ่นน้องสามคนอย่างพวกคุณ?กล้าจัดการอาจารย์อย่างผม?”ติงเสินอีพูดอย่างเย็นชา เย่อหยิ่งสุดๆ

“นามสกุลติง คุณให้คนของคุณมาหาเรื่องเหรอ?ใครให้คุณออกหน้า?”หลิวจุนก็ไม่เกรงใจ ไม่เคารพคนสูงอายุ และก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเขา

“ช่างกล้าเสียจริง จู่ๆก็กล้าไม่เรียกว่าอาจารย์ เรียกนามสกุลของผมเลย?”ติงเสินอีทำเสียงเยือกเย็น ท่าทางไม่พอใจ

“อาจารย์ถูกตระกูลหวางเชิญมาจากเขา วันนี้ตั้งใจมาเชิญจางฉีโม่ท่านนี้ ไปเป็นแขกตระกูลหวาง”ติงเสินอีมีท่าทีสบายๆ เขารู้สึกว่าทำธุระให้ตระกูลหวางนั้นดูดีมีหน้า

“พวกคุณถอยไปให้หมด ให้อาจารย์พาจางฉีโม่คนนี้ไป ไม่งั้นผมไม่ทันระวังฆ่าพวกคุณตายหมดแน่”ติงเสินอีตะโกน

“ไอ้แก่ตายยากนี่แม่เอ๊ย หกเจ็ดสิบปีแล้วยังจะมาเสแสร้งอีก?”หลิวจุนด่าไปชุดใหญ่ โมโหสุดๆ แล้วยังคิดจะพาจางฉีโม่ไปอีก?แล้วยังช่วยตระกูลหวางตระกูลขยะอย่างนั้นทำธุระให้ด้วย?แล้วยังคิดเข้าข้างตัวเองขนาดนี้อีก?

ติงเสินอีมีชื่อเสียงสุดๆเมื่อสามสิบปีก่อน แต่ไม่คิดว่า ตอนอายุหกเจ็ดสิบถึงได้ตกต่ำ ตัวเองสามพี่น้องอยู่ในช่วงสำคัญของชีวิต แล้วยังกลัวจะรั้งเขาไว้ไม่ได้?

พูดไป หลิวจุนก็ไม่พร่ำเพรื่อ ปล่อยขาเตะไปแรงๆ อีกสองคนก็ระเบิดใส่พร้อมกัน เข้ามาล้อมรอบจัดการติงเสินอี

ปกป้องคุณนายหลินเรื่องนี้ นั่นเกี่ยวกับชีวิตและอนาคตเลยทีเดียว กล้ามาจับตัวคุณนายหลิน อีกฝ่ายเป็นเทพก็กล้าจัดการเช่นกัน!

ตุบตุบตุบ!

เสียงดังทุ้มไม่หยุด หลิวจุนทั้งสามคนเร็วเหมือนสายฟ้า เสียงดังโครม หมัดกับเท้าพลิ้วไหวสะบัดไปเหมือนสายลมและฝน ติงเสินอีก็มีสองมือที่ทันใดนั้นก็รับไว้ได้ สู้กันหนึ่งต่อสามอยู่เช่นนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด