ซุปเปอร์เจ้าสำราญ 632 ถูกคนพูดตำหนิ

Now you are reading ซุปเปอร์เจ้าสำราญ Chapter 632 ถูกคนพูดตำหนิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มณฑลตุงไห่ อำเภอเจียงเยว่

นี่เป็นอำเภอเล็กๆที่อยู่ห่างไกลออกไปภายในมณฑลตุงไห่ แล้วก็เป็นบ้านเกิดที่ตากับยายของจางฉีโม่อาศัยอยู่ด้วย

ณ ถนนริมแม่น้ำ ชุมชนหลิวเยว่

โซน3ตึก6ชั้น15

ภายในห้องรับแขกที่ตกแต่งหรูหรา มีกลุ่มชายวัยกลางคนนั่งอยู่

ครอบครัวของจางฉีโม่ก็อยู่ในนั้นด้วย กำลังนั่งล้อมโต๊ะอาหาร

อำเภอเจียงเยว่ เป็นบ้านของลู่หย่าฮุ่ย แม่ของจางฉีโม่

แต่บ้านนี้ก็เป็นบ้านของลู่ฉ่ายเชีย ลูกพี่ลูกน้องของลู่หย่าฮุ่ยเหมือนกัน

ครอบครัวของลู่หย่าฮุ่ย ช่วงนี้กลับจากเมืองชิงหยูนมายังบ้านฝ่ายหญิง

หลักๆก็เพราะว่าสภาพจิตใจของจางฉีโม่ไม่ดี ไม่อยากที่จะอยู่เมืองชิงหยูน อยากจะออกมาปล่อยใจผ่อนคลายอารมณ์สักหน่อย ก็เลยกลับมาที่อำเภอเจียงเยว่พร้อมกับพ่อแม่

เมืองชิงหยูน มีความทรงจำมากมายของเธอกับหลินอิ่ง

ทุกครั้งที่จางฉีโม่เดินบนถนน เห็นสิ่งต่างๆแล้วคิดถึงเขา ควบคุมอารมณ์ที่อยู่ในจิตใจเอาไว้ไม่อยู่

จนถึงวันนี้ จางฉีโม่ยังคงปรับตัวตอนที่ไม่มีหลินอิ่งคอยอยู่เคียงข้างกายไม่ได้

ถึงขนาดที่ ละทิ้งบริษัทเครื่องประดับฉีซื่อลง ไม่ไปเข้าร่วมการประชุมของบริษัทอีกเลย ขนาดเสิ่นซานกับเจียงฉีมาเชิญถึงที่ ก็ปฏิเสธกลับไปทุกครั้ง

วิลล่าที่วิลล่าหิมะมังกรที่หลินอิ่งมอบให้ บ้านที่อยู่ที่ชุมชนสุ่ยหยวน จางฉีโม่ก็ย้ายออกมาแล้ว ไม่ได้กลับไปอีก

แต่ในทางกลับกัน พ่อแม่ ลู่หย่าฮุ่ยกับจางซิ่วเฟิง ยืนกรานไม่ยอมย้ายออก จะอยู่ที่วิลล่าหิมะมังกรให้ได้

ถึงยังไงพวกเขาก็เคยร่ำรวยมีเงินทองใช้มากมายมาก่อน พวกเขาสองสามีภรรยาจึงรับไม่ได้กับชีวิตที่ยากจนตกต่ำลง เลยคิดที่จะประจบประแจงเอาใจทางฝั่งของหลินอิ่งจากงานที่จางฉีโม่ทำมาโดยตลอด

ตั้งแต่รู้ว่าหลินอิ่งเป็นคุณชายใหญ่ของตี้จิง ท่าทีของลู่หย่าฮุ่ยก็เปลี่ยนไปไม่น้อย

"เห้อ ฉีโม่ ป้าได้ยินมาว่าตอนนี้เธอไม่มีงานแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ทำซะจนบริษัทที่เมืองชิงหยูนพังล้มเหลวอย่างนั้นเหรอ?"จู่ๆ ที่โต๊ะก็มีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเปิดปากพูดขึ้น เธอแต่งตัวดูแพง ใส่เงินใส่ทอง ดูท่าทางเหมือนมีอำนาจทางการเงินไม่น้อย มองสำรวจจางฉีโม่ด้วยสายตาขี้เล่น"ป้าน่ะนะ มีความคิดที่อยากจะช่วยแนะนำงานให้กับเธอนะ เธอจะเต็มใจหรือเปล่าไม่รู้"

จางฉีโม่ก้มหน้ากินข้าว ราวกับไม่มีกะจิตกะใจจะไปสนเรื่องนี้

"ขอบคุณป้ามากค่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่มีกะจิตกะใจจะไปทำงานชั่วคราว"

"ไม่มีกะจิตกะใจจะไปทำงาน? มันได้ยังไงกัน? พ่อแม่ของเธอก็ไม่ได้ทำธุรกิจแล้ว ในบ้านก็ต้องกินต้องใช้กันไม่ใช่เหรอ?"หญิงวัยกลางคนพูดต่อ"ฉันได้ยินมานะว่าเธอกับหลินอิ่งคนไร้ค่าอะไรนั่นหย่ากันแล้วไม่ใช่เหรอ? ความสัมพันธ์ของป้ากับคนที่อำเภอเจียงเยว่ไม่เลวเลยนะ รู้จักคุณชายเถ้าแก่ที่ร่ำรวยหลายคน ครั้งก่อนคนเขามองดูเธออยู่ไกลๆ ต่างก็รู้สึกพอใจทั้งนั้น เธออยากจะเจอหน้าทำความรู้จักกันสักหน่อยไหม?"

จางฉีโม่มองต่ำลงเล็กน้อย ส่ายหัว พร้อมกับพูดขึ้น"ป้าคะ เรื่องพวกนี้ไม่ต้องให้คุณมาเป็นกังวลหรอกค่ะ"

"เห้อ จะไม่กังวลได้ยังไงกันล่ะ? ป้าก็เห็นพ่อแม่ของเธอลนลานกระวนกระวายตลอดทั้งวัน วิ่งแจ้นกลับมาบ้าน อยู่ที่เมืองชิงหยูนต่อไปไม่ได้แล้ว"

หญิงวัยกลางคนชำเลืองตามองไปยังลู่หย่าฮุ่ย พร้อมกับพูดขึ้นด้วยสีหน้าขี้เล่น

พอได้ฟังแบบนี้ ลู่หย่าฮุ่ยสีหน้าก็ดูไม่ดี รู้ว่าลูกพี่ลูกน้องคนนี้กำลังจงใจยั่วยุเธออยู่

คนที่พูดคนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องของลู่หย่าฮุ่ยลู่ฉ่ายเชีย

ลู่ฉ่ายเชียแต่งงานกับเถ้าแก่ของบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งในอำเภอเจียงเยว่ เป็นคนรุ่นเดียวกันที่มีตำแหน่งทรงพลังมากที่สุดในบ้านของลู่หย่าฮุ่ยมาโดยตลอด

จนกระทั่งต่อมา หลังจากที่จางฉีโม่เปิดบริษัทในเมืองชิงหยูนแล้ว ลู่หย่าฮุ่ยถึงจะได้มีตำแหน่งในบ้านขึ้นมา เริ่มมีอำนาจในการพูด

แถม นิสัยของเธอก็ชอบเงินและอำนาจความฟุ่มเฟือย ชอบโอ้อวดต่อหน้าของลู่ฉ่ายเชียอยู่บ่อยครั้ง

ตอนนี้ในตระกูลเกิดการเปลี่ยนแปลงไปมาก พอวิ่งแจ้นกลับมาที่บ้าน ก็ต้องถูกคนพูดวิจารณ์ตำหนิเป็นธรรมดา

"แฮ่มๆ พี่สามเอ๋ย พูดแบบนี้ไม่ได้สิ ไม่ใช่ว่าตระกูลของพวกเราใช้ชีวิตอยู่ในเมืองชิงหยูนต่อไปไม่ได้สักหน่อย แต่เพราะช่วงนี้ฉีโม่สภาพจิตใจไม่ค่อยดี มาปล่อยตัวปล่อยใจผ่อนคลายอารมณ์เท่านั้น"ลู่หย่าฮุ่ยไอแห้งสองที พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง"พอฉีโม่จิตใจดีขึ้นแล้ว ก็กลับเมืองชิงหยูนไปดูแลจัดการบริษัทต่อแล้ว บริษัทเครื่องประดับฉีซื่อยังอยู่ดี ยังไม่ได้ล้มละลายไป"

"อ๋อ เป็นแบบนี้เองเหรอ?"ลู่ฉ่ายเชียยิ้มขี้เล่น มองไปยังลู่หย่าฮุ่ย"ฉันจะบอกให้นะหย่าฮุ่ย เธอจะตายอยู่แล้วอย่ามาห่วงหน้าตาอยู่เลย ไอ้เฉียนของบ้านฉันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเส้นสายเครือข่ายเลยในเมืองชิงหยูน ได้ยินคนบอกมาหมดแล้ว่า บริษัทเครื่องประดับฉีซื่อนั่นเปลี่ยนผู้ถือหุ้นไปตั้งนานแล้ว ไม่ใช่ของครอบครัวพวกเธอแล้วนี่"

"เรื่องนี้ ปิดบังฉันไม่ได้หรอก"ลู่ฉ่ายเชียพูดยิ้มๆ"ไม่อย่างนั้นล่ะก็ จากนิสัยของเธอ จะยอมย้ายออกไปจากวิลล่าของวิลล่าหิมะมังกรเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะไม่มีปัญญาอะไรเกิดขึ้น?"

"เอ่อ……"ลู่หย่าฮุ่ยสีหน้าดูไม่ดี ถูกพูดตรงๆใส่แบบนี้จนอับอายขายขี้หน้าจนหมด

"พี่สาม เรื่องในที่นี้คุณไม่เข้าใจ ชื่อในใบรับรองของวิลล่าในวิลล่าหิมะมังกรหลังนั้น ก็ยังเป็นชื่อของฉีโม่"ลู่หย่าฮุ่ยพูดขึ้นด้วยท่าทางรู้สึกละอายอยู่ภายในใจไม่น้อย"แถมบริษัทก็อยู่ภายใต้ชื่อของฉีโม่ด้วย ไม่ได้ดูแย่แบบที่คุณคิดสักหน่อย คุณจะต้องได้ฟังข้อมูลมาผิดแน่นอน"

"ได้ยินมาผิด?"ลู่ฉ่ายเชียยิ้มขี้เล่น สายตาที่มองไปยังจางฉีโม่ แฝงไปด้วยความดูถูกดูแคลน"ฉันจะบอกให้นะ หย่าฮุ่ย พวกเราตระกูลลู่ล้วนแต่เป็นคนซื่อตรงทั้งนั้น อย่าเอาแต่คิดแต่เรื่องที่จะร่ำรวยเฟื่องฟูขึ้นมาแค่ในชั่วพริบตา เอาแต่ให้ฉีโม่เรียนรู้แต่จะเกาะผู้ชายรวยมันไม่ดีหรอกนะ"

"ฉันที่เป็นป้า ก็หวังดีทั้งนั้น อยากจะหาคนที่ดีๆให้กับฉีโม่สักคน จัดหางานดีๆให้สักงาน ให้เธอได้มีครึ่งชีวิตที่เหลือที่ดีๆ"

ลู่ฉ่ายเชียพูดขึ้นด้วยท่าทางหวังดี"ในครอบครัวตกต่ำลงแล้วก็ตกต่ำลงไปสิ แค่พูดออกมา คนครอบครัวเดียวก็เต็มใจที่จะช่วย จะเอาแต่เสแสร้งว่าชีวิตของตัวเองไม่ได้ตกต่ำลงไปทำไม?"

"ไม่ใช่!ป้า อะไรคือเกาะผู้ชายรวย? นี่คุณหมายความว่าอะไร?"จู่ๆจางฉีโม่ก็ตอบสนองกลับมา เงยหน้ามองไปยังลู่ฉ่ายเชีย ถามขึ้นด้วยสีหน้าบึ้งตึง

"เห้อ ฉีโม่ ขอโทษนะ ป้าพูดตรงเกินไปหน่อย แต่ว่านะ ป้าก็หวังดีกับเธอทั้งนั้น"ลู่ฉ่ายเชียแสร้งทำเป็นสายตาล้อเล่น พูดขึ้น แกล้งทำเป็นพูดขึ้น"นิสัยแม่ของเธอฉันรู้และเข้าใจทั้งนั้น ใช่ไหม? อันนี้ฉันไม่พูดเยอะแล้วกัน"

"ครอบครัวของพวกเธอสามัญธรรมดามาตลอด จู่ๆเธอก็ร่ำรวยขึ้นมา แถมยังเปิดบริษัทเครื่องประดับที่ใหญ่ขนาดนั้นอีก คนของบ้านเกิดนี้ก็ต่างพากันพูดซุบซิบ พากันมาถามฉันว่า เธอไปได้กับประธานใหญ่คนไหนหรือเปล่ากันทั้งนั้น"

"ตอนนี้ บริษัทในตระกูลก็ล้มละลายแล้ว ฉันน่ะ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าสาเหตุอะไร ก็เลยถามสักหน่อย พอคนตระกูลลู่ถามขึ้นมาอีก ฉันก็จะได้มีคำตอบไปอธิบายแล้วไม่ใช่หรือไง"ลู่ฉ่ายเชียพูดขี้เล่นเหมือนจะเน้นอะไรบางอย่าง

ใช่แล้ว จากที่คนของตระกูลลู่คิดแล้ว จางฉีโม่จะต้องเจอกับความโชคดีอะไรโดยบังเอิญแน่นอน ไม่มีเหตุผลที่จู่ๆจะมีชื่อเสียงมากขนาดนั้นขึ้นมาในเมืองชิงหยูน

ไม่ใช่ว่าไปจับ"คนรวย"ได้หรือไง?

"พี่สาม พวกคุณเข้าใจผิดหมดแล้ว นี่ไม่ได้เป็นแบบที่พวกคุณคิดเลยสักนิด!"ลู่หย่าฮุ่ยพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง"ฉีโม่น่ะเป็นคนใสซื่อบริสุทธิ์ พวกคุณอย่ามาพูดอะไรมั่วซั่วข้างนอกแบบนี้นะ"

"บริษัทเครื่องประดับนั่นของฉีโม่ แล้วก็วิลล่าพวกนั้น ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ลูกเขยของฉันหามาทั้งนั้น ไปเกาะผู้ชายรวยที่ไหนกัน? อย่ามาพูดมั่วซั่วนะ"

"ลูกเขย? ลูกเขยนั่นน่ะเหรอ? หลินอิ่ง ลูกเขยไร้ค่าที่แต่งเข้าบ้านมาน่ะนะ? "ลู่ฉ่ายเชียพูดถามขึ้นด้วยสีหน้าขี้เล่น

"หลินอิ่งหามาเองทั้งนั้น"ลู่หย่าฮุ่ยพูดขึ้น"ลูกเขยคนนั้นของฉัน เขาเป็นถึงคุณชายใหญ่ที่มีชื่อเสียงของตี้จิงเชียวนะ"

"ฮ่าๆๆๆ!"ลู่ฉ่ายเชียกุมปากหลุดขำออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่"หย่าฮุ่ยเอ๋ย เธอหยุดพูดพล่ามกับพวกเราได้แล้ว ชื่อเสียงของลูกเขยไร้ค่าแบบหลินอิ่งนั่น อื้อฉาวมาจากเมืองชิงหยูนจนมาถึงอำเภอเจียงเยว่แล้ว ยังจะมาคุณชายใหญ่ของตี้จิงอีก?"

"น้องหย่าฮุ่ย เมื่อก่อนเธอก็ชอบพูดต่อหน้าพวกเราบ่อยๆ บอกว่าหลินอิ่งน่าสมเพชอย่างนั้น ไร้ค่าอย่างนี้ เหลืออดเหลือทนแล้วไม่ใช่หรือไง? แล้วตอนนี้มาคุณชายใหญ่ของตี้จิง? สรุปแล้วอันไหนมันคือความจริงอันไหนมันปลอมกันแน่?"

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ซุปเปอร์เจ้าสำราญ 632 ถูกคนพูดตำหนิ

Now you are reading ซุปเปอร์เจ้าสำราญ Chapter 632 ถูกคนพูดตำหนิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มณฑลตุงไห่ อำเภอเจียงเยว่

นี่เป็นอำเภอเล็กๆที่อยู่ห่างไกลออกไปภายในมณฑลตุงไห่ แล้วก็เป็นบ้านเกิดที่ตากับยายของจางฉีโม่อาศัยอยู่ด้วย

ณ ถนนริมแม่น้ำ ชุมชนหลิวเยว่

โซน3ตึก6ชั้น15

ภายในห้องรับแขกที่ตกแต่งหรูหรา มีกลุ่มชายวัยกลางคนนั่งอยู่

ครอบครัวของจางฉีโม่ก็อยู่ในนั้นด้วย กำลังนั่งล้อมโต๊ะอาหาร

อำเภอเจียงเยว่ เป็นบ้านของลู่หย่าฮุ่ย แม่ของจางฉีโม่

แต่บ้านนี้ก็เป็นบ้านของลู่ฉ่ายเชีย ลูกพี่ลูกน้องของลู่หย่าฮุ่ยเหมือนกัน

ครอบครัวของลู่หย่าฮุ่ย ช่วงนี้กลับจากเมืองชิงหยูนมายังบ้านฝ่ายหญิง

หลักๆก็เพราะว่าสภาพจิตใจของจางฉีโม่ไม่ดี ไม่อยากที่จะอยู่เมืองชิงหยูน อยากจะออกมาปล่อยใจผ่อนคลายอารมณ์สักหน่อย ก็เลยกลับมาที่อำเภอเจียงเยว่พร้อมกับพ่อแม่

เมืองชิงหยูน มีความทรงจำมากมายของเธอกับหลินอิ่ง

ทุกครั้งที่จางฉีโม่เดินบนถนน เห็นสิ่งต่างๆแล้วคิดถึงเขา ควบคุมอารมณ์ที่อยู่ในจิตใจเอาไว้ไม่อยู่

จนถึงวันนี้ จางฉีโม่ยังคงปรับตัวตอนที่ไม่มีหลินอิ่งคอยอยู่เคียงข้างกายไม่ได้

ถึงขนาดที่ ละทิ้งบริษัทเครื่องประดับฉีซื่อลง ไม่ไปเข้าร่วมการประชุมของบริษัทอีกเลย ขนาดเสิ่นซานกับเจียงฉีมาเชิญถึงที่ ก็ปฏิเสธกลับไปทุกครั้ง

วิลล่าที่วิลล่าหิมะมังกรที่หลินอิ่งมอบให้ บ้านที่อยู่ที่ชุมชนสุ่ยหยวน จางฉีโม่ก็ย้ายออกมาแล้ว ไม่ได้กลับไปอีก

แต่ในทางกลับกัน พ่อแม่ ลู่หย่าฮุ่ยกับจางซิ่วเฟิง ยืนกรานไม่ยอมย้ายออก จะอยู่ที่วิลล่าหิมะมังกรให้ได้

ถึงยังไงพวกเขาก็เคยร่ำรวยมีเงินทองใช้มากมายมาก่อน พวกเขาสองสามีภรรยาจึงรับไม่ได้กับชีวิตที่ยากจนตกต่ำลง เลยคิดที่จะประจบประแจงเอาใจทางฝั่งของหลินอิ่งจากงานที่จางฉีโม่ทำมาโดยตลอด

ตั้งแต่รู้ว่าหลินอิ่งเป็นคุณชายใหญ่ของตี้จิง ท่าทีของลู่หย่าฮุ่ยก็เปลี่ยนไปไม่น้อย

"เห้อ ฉีโม่ ป้าได้ยินมาว่าตอนนี้เธอไม่มีงานแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ทำซะจนบริษัทที่เมืองชิงหยูนพังล้มเหลวอย่างนั้นเหรอ?"จู่ๆ ที่โต๊ะก็มีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเปิดปากพูดขึ้น เธอแต่งตัวดูแพง ใส่เงินใส่ทอง ดูท่าทางเหมือนมีอำนาจทางการเงินไม่น้อย มองสำรวจจางฉีโม่ด้วยสายตาขี้เล่น"ป้าน่ะนะ มีความคิดที่อยากจะช่วยแนะนำงานให้กับเธอนะ เธอจะเต็มใจหรือเปล่าไม่รู้"

จางฉีโม่ก้มหน้ากินข้าว ราวกับไม่มีกะจิตกะใจจะไปสนเรื่องนี้

"ขอบคุณป้ามากค่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่มีกะจิตกะใจจะไปทำงานชั่วคราว"

"ไม่มีกะจิตกะใจจะไปทำงาน? มันได้ยังไงกัน? พ่อแม่ของเธอก็ไม่ได้ทำธุรกิจแล้ว ในบ้านก็ต้องกินต้องใช้กันไม่ใช่เหรอ?"หญิงวัยกลางคนพูดต่อ"ฉันได้ยินมานะว่าเธอกับหลินอิ่งคนไร้ค่าอะไรนั่นหย่ากันแล้วไม่ใช่เหรอ? ความสัมพันธ์ของป้ากับคนที่อำเภอเจียงเยว่ไม่เลวเลยนะ รู้จักคุณชายเถ้าแก่ที่ร่ำรวยหลายคน ครั้งก่อนคนเขามองดูเธออยู่ไกลๆ ต่างก็รู้สึกพอใจทั้งนั้น เธออยากจะเจอหน้าทำความรู้จักกันสักหน่อยไหม?"

จางฉีโม่มองต่ำลงเล็กน้อย ส่ายหัว พร้อมกับพูดขึ้น"ป้าคะ เรื่องพวกนี้ไม่ต้องให้คุณมาเป็นกังวลหรอกค่ะ"

"เห้อ จะไม่กังวลได้ยังไงกันล่ะ? ป้าก็เห็นพ่อแม่ของเธอลนลานกระวนกระวายตลอดทั้งวัน วิ่งแจ้นกลับมาบ้าน อยู่ที่เมืองชิงหยูนต่อไปไม่ได้แล้ว"

หญิงวัยกลางคนชำเลืองตามองไปยังลู่หย่าฮุ่ย พร้อมกับพูดขึ้นด้วยสีหน้าขี้เล่น

พอได้ฟังแบบนี้ ลู่หย่าฮุ่ยสีหน้าก็ดูไม่ดี รู้ว่าลูกพี่ลูกน้องคนนี้กำลังจงใจยั่วยุเธออยู่

คนที่พูดคนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องของลู่หย่าฮุ่ยลู่ฉ่ายเชีย

ลู่ฉ่ายเชียแต่งงานกับเถ้าแก่ของบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งในอำเภอเจียงเยว่ เป็นคนรุ่นเดียวกันที่มีตำแหน่งทรงพลังมากที่สุดในบ้านของลู่หย่าฮุ่ยมาโดยตลอด

จนกระทั่งต่อมา หลังจากที่จางฉีโม่เปิดบริษัทในเมืองชิงหยูนแล้ว ลู่หย่าฮุ่ยถึงจะได้มีตำแหน่งในบ้านขึ้นมา เริ่มมีอำนาจในการพูด

แถม นิสัยของเธอก็ชอบเงินและอำนาจความฟุ่มเฟือย ชอบโอ้อวดต่อหน้าของลู่ฉ่ายเชียอยู่บ่อยครั้ง

ตอนนี้ในตระกูลเกิดการเปลี่ยนแปลงไปมาก พอวิ่งแจ้นกลับมาที่บ้าน ก็ต้องถูกคนพูดวิจารณ์ตำหนิเป็นธรรมดา

"แฮ่มๆ พี่สามเอ๋ย พูดแบบนี้ไม่ได้สิ ไม่ใช่ว่าตระกูลของพวกเราใช้ชีวิตอยู่ในเมืองชิงหยูนต่อไปไม่ได้สักหน่อย แต่เพราะช่วงนี้ฉีโม่สภาพจิตใจไม่ค่อยดี มาปล่อยตัวปล่อยใจผ่อนคลายอารมณ์เท่านั้น"ลู่หย่าฮุ่ยไอแห้งสองที พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง"พอฉีโม่จิตใจดีขึ้นแล้ว ก็กลับเมืองชิงหยูนไปดูแลจัดการบริษัทต่อแล้ว บริษัทเครื่องประดับฉีซื่อยังอยู่ดี ยังไม่ได้ล้มละลายไป"

"อ๋อ เป็นแบบนี้เองเหรอ?"ลู่ฉ่ายเชียยิ้มขี้เล่น มองไปยังลู่หย่าฮุ่ย"ฉันจะบอกให้นะหย่าฮุ่ย เธอจะตายอยู่แล้วอย่ามาห่วงหน้าตาอยู่เลย ไอ้เฉียนของบ้านฉันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเส้นสายเครือข่ายเลยในเมืองชิงหยูน ได้ยินคนบอกมาหมดแล้ว่า บริษัทเครื่องประดับฉีซื่อนั่นเปลี่ยนผู้ถือหุ้นไปตั้งนานแล้ว ไม่ใช่ของครอบครัวพวกเธอแล้วนี่"

"เรื่องนี้ ปิดบังฉันไม่ได้หรอก"ลู่ฉ่ายเชียพูดยิ้มๆ"ไม่อย่างนั้นล่ะก็ จากนิสัยของเธอ จะยอมย้ายออกไปจากวิลล่าของวิลล่าหิมะมังกรเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะไม่มีปัญญาอะไรเกิดขึ้น?"

"เอ่อ……"ลู่หย่าฮุ่ยสีหน้าดูไม่ดี ถูกพูดตรงๆใส่แบบนี้จนอับอายขายขี้หน้าจนหมด

"พี่สาม เรื่องในที่นี้คุณไม่เข้าใจ ชื่อในใบรับรองของวิลล่าในวิลล่าหิมะมังกรหลังนั้น ก็ยังเป็นชื่อของฉีโม่"ลู่หย่าฮุ่ยพูดขึ้นด้วยท่าทางรู้สึกละอายอยู่ภายในใจไม่น้อย"แถมบริษัทก็อยู่ภายใต้ชื่อของฉีโม่ด้วย ไม่ได้ดูแย่แบบที่คุณคิดสักหน่อย คุณจะต้องได้ฟังข้อมูลมาผิดแน่นอน"

"ได้ยินมาผิด?"ลู่ฉ่ายเชียยิ้มขี้เล่น สายตาที่มองไปยังจางฉีโม่ แฝงไปด้วยความดูถูกดูแคลน"ฉันจะบอกให้นะ หย่าฮุ่ย พวกเราตระกูลลู่ล้วนแต่เป็นคนซื่อตรงทั้งนั้น อย่าเอาแต่คิดแต่เรื่องที่จะร่ำรวยเฟื่องฟูขึ้นมาแค่ในชั่วพริบตา เอาแต่ให้ฉีโม่เรียนรู้แต่จะเกาะผู้ชายรวยมันไม่ดีหรอกนะ"

"ฉันที่เป็นป้า ก็หวังดีทั้งนั้น อยากจะหาคนที่ดีๆให้กับฉีโม่สักคน จัดหางานดีๆให้สักงาน ให้เธอได้มีครึ่งชีวิตที่เหลือที่ดีๆ"

ลู่ฉ่ายเชียพูดขึ้นด้วยท่าทางหวังดี"ในครอบครัวตกต่ำลงแล้วก็ตกต่ำลงไปสิ แค่พูดออกมา คนครอบครัวเดียวก็เต็มใจที่จะช่วย จะเอาแต่เสแสร้งว่าชีวิตของตัวเองไม่ได้ตกต่ำลงไปทำไม?"

"ไม่ใช่!ป้า อะไรคือเกาะผู้ชายรวย? นี่คุณหมายความว่าอะไร?"จู่ๆจางฉีโม่ก็ตอบสนองกลับมา เงยหน้ามองไปยังลู่ฉ่ายเชีย ถามขึ้นด้วยสีหน้าบึ้งตึง

"เห้อ ฉีโม่ ขอโทษนะ ป้าพูดตรงเกินไปหน่อย แต่ว่านะ ป้าก็หวังดีกับเธอทั้งนั้น"ลู่ฉ่ายเชียแสร้งทำเป็นสายตาล้อเล่น พูดขึ้น แกล้งทำเป็นพูดขึ้น"นิสัยแม่ของเธอฉันรู้และเข้าใจทั้งนั้น ใช่ไหม? อันนี้ฉันไม่พูดเยอะแล้วกัน"

"ครอบครัวของพวกเธอสามัญธรรมดามาตลอด จู่ๆเธอก็ร่ำรวยขึ้นมา แถมยังเปิดบริษัทเครื่องประดับที่ใหญ่ขนาดนั้นอีก คนของบ้านเกิดนี้ก็ต่างพากันพูดซุบซิบ พากันมาถามฉันว่า เธอไปได้กับประธานใหญ่คนไหนหรือเปล่ากันทั้งนั้น"

"ตอนนี้ บริษัทในตระกูลก็ล้มละลายแล้ว ฉันน่ะ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าสาเหตุอะไร ก็เลยถามสักหน่อย พอคนตระกูลลู่ถามขึ้นมาอีก ฉันก็จะได้มีคำตอบไปอธิบายแล้วไม่ใช่หรือไง"ลู่ฉ่ายเชียพูดขี้เล่นเหมือนจะเน้นอะไรบางอย่าง

ใช่แล้ว จากที่คนของตระกูลลู่คิดแล้ว จางฉีโม่จะต้องเจอกับความโชคดีอะไรโดยบังเอิญแน่นอน ไม่มีเหตุผลที่จู่ๆจะมีชื่อเสียงมากขนาดนั้นขึ้นมาในเมืองชิงหยูน

ไม่ใช่ว่าไปจับ"คนรวย"ได้หรือไง?

"พี่สาม พวกคุณเข้าใจผิดหมดแล้ว นี่ไม่ได้เป็นแบบที่พวกคุณคิดเลยสักนิด!"ลู่หย่าฮุ่ยพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง"ฉีโม่น่ะเป็นคนใสซื่อบริสุทธิ์ พวกคุณอย่ามาพูดอะไรมั่วซั่วข้างนอกแบบนี้นะ"

"บริษัทเครื่องประดับนั่นของฉีโม่ แล้วก็วิลล่าพวกนั้น ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ลูกเขยของฉันหามาทั้งนั้น ไปเกาะผู้ชายรวยที่ไหนกัน? อย่ามาพูดมั่วซั่วนะ"

"ลูกเขย? ลูกเขยนั่นน่ะเหรอ? หลินอิ่ง ลูกเขยไร้ค่าที่แต่งเข้าบ้านมาน่ะนะ? "ลู่ฉ่ายเชียพูดถามขึ้นด้วยสีหน้าขี้เล่น

"หลินอิ่งหามาเองทั้งนั้น"ลู่หย่าฮุ่ยพูดขึ้น"ลูกเขยคนนั้นของฉัน เขาเป็นถึงคุณชายใหญ่ที่มีชื่อเสียงของตี้จิงเชียวนะ"

"ฮ่าๆๆๆ!"ลู่ฉ่ายเชียกุมปากหลุดขำออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่"หย่าฮุ่ยเอ๋ย เธอหยุดพูดพล่ามกับพวกเราได้แล้ว ชื่อเสียงของลูกเขยไร้ค่าแบบหลินอิ่งนั่น อื้อฉาวมาจากเมืองชิงหยูนจนมาถึงอำเภอเจียงเยว่แล้ว ยังจะมาคุณชายใหญ่ของตี้จิงอีก?"

"น้องหย่าฮุ่ย เมื่อก่อนเธอก็ชอบพูดต่อหน้าพวกเราบ่อยๆ บอกว่าหลินอิ่งน่าสมเพชอย่างนั้น ไร้ค่าอย่างนี้ เหลืออดเหลือทนแล้วไม่ใช่หรือไง? แล้วตอนนี้มาคุณชายใหญ่ของตี้จิง? สรุปแล้วอันไหนมันคือความจริงอันไหนมันปลอมกันแน่?"

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+