ซุปเปอร์เจ้าสำราญ 619 ตระกูลหลินแห่งเมืองลังยา

Now you are reading ซุปเปอร์เจ้าสำราญ Chapter 619 ตระกูลหลินแห่งเมืองลังยา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

"หลินอิ่ง ต่อให้ผมตอบตกลง แต่คุณท่านของเรา เกรงว่าจะไม่สามารถยอมรับการบอกปัดนี้ของคุณหรอก" ฉู่หยุนซานพูดด้วยเสียงทุ้ม

เขารู้ตัวแล้วว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินอิ่ง และไม่มีทางที่จะควบคุมหลินอิ่ง

จึงทำได้เพียงอ้างชื่อของคุณท่านของตระกูลตนออกมาเท่านั้น

หลินอิ่งพูดอย่างแน่วแน่ "ทางด้านคุณท่านฉู่ ผมจะเป็นคนจัดการเองครับ บุญคุณของตระกูลฉู่ ผมจำไว้ในใจเสมอ"

"พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์"

เมื่อพูดจบ หลินอิ่งก็ลุกขึ้นแสดงท่าทีที่ชัดเจน

"นี่……" ฉู่หยุนซานหวังจะพูดอะไรอีก สีหน้ามีความไม่พอใจแสดงออกมา แต่กลับไม่กล้าที่จะอาละวาด

เพราะในน้ำเสียงของหลินอิ่ง แสดงออกถึงอำนาจบางอย่างที่ไม่สามารถต่อต้านได้

และสิ่งนี้ก็ทำให้คนท่องยุทธภพอย่างเขาเกิดความหวั่นไหวไม่น้อย

"ทั้งสองท่าน ผมยังมีธุระ ขออภัยที่ไม่สามารถอยู่เจรจาด้วย"

"ถ้าหากจะกลับเตียนหนาน ผมจะส่งคนให้ไปคุ้มกันครับ"

ฉู่หยุนซานขมวดคิ้ว รู้ว่าต่อให้ดึงดันพูดอะไรไปก็ไม่ประโยชน์จึงได้เพียงตอบรับ:"ก็ได้ หลินอิ่ง กลับไปแล้ว ผมจะให้คุณท่านของเราติดต่อหาคุณแล้วกัน"

หลินอิ่งไม่ได้อยู่ต่อนานนัก ก่อนจะปลีกตัวออกมา

สำหรับเรื่องของตระกูลฉู่ แค่ไปกล่าวต้อนรับก็เพียงพอแล้ว เพราะเขาไม่อยากจะพูดอะไรให้มากความอีก

และนี่เป็นเพราะว่าเห็นแก่ความสัมพันธ์ของคนตระกูลฉู่ เขาจึงต้องทำการอธิบายโดยเฉพาะ เพื่อที่จะรักษาพันธมิตรเอาไว้

เมื่อออกมาจากห้องรับรอง สายตาของหลินอิ่งก็มองไปยังห้องรับรองอีกห้องหนึ่ง ซึ่งหยูจื๋อเฉิงกำลังอยู่ด้านในให้การดูแลคนของตระกูลโครเมียร์

เมื่อเหลียวมองดู หลินอิ่งก็หันหลังกลับเดินไปขึ้นลิฟต์แล้วกลับไปยังห้องทำงานประธาน

ภายในห้องรับรองที่สอง

คุณชายโหมและแอนนากำลังนั่งอยู่บนดซฟา โดยมีหยูจื๋อเฉิงให้การดูแลพวกเขาอยู่

"ทั้งสองครับ คุณชายอิ่งได้บอกแล้วครับ ว่าไม่ว่างที่จะมาพบกับทั้งสองได้" หยูจื๋อเฉิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ดังนั้น ทั้งสองท่านอย่าได้เสียเวลาอยู่ต่อเลยนะครับ ท่าทีของคุณชายอิ่งก็ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนแล้วนี่ครับ"

"ความต้องการของคุณชายอิ่งก็ได้แจ้งไปอย่างชัดเจนแล้วนะครับ สิ่งที่ควรบอกเขาก็เคยได้บอกกับพวกคุณไปก่อนหน้านี้แล้ว วันข้างหน้าเขาไม่ต้องการให้ตระกูลของพวกคุณเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตี้จิงอีก"

"นี่?แม้แต่เวลาจะมาคุยด้วยคุณหลินก็ไม่มีเลยงั้นหรอคะ?" แอนนาขมวดคิ้วขึ้น พูดด้วยความวิตกเล็กน้อยพลางเหลือบมองไปยัง คุณชายโหม

คุณชายโหมกระแอมออกมา:"คุณหยู เห็นได้ชัดว่าคุณชายอิ่งได้เข้าไปพบกับคนของตระกูลฉู่แล้ว แต่กลับบอกว่าไม่ว่าง นี่คือการกระทำของเขางั้นหรอครับ ?"

"คือว่า?" หยูจื๋อเฉิงขมวดคิ้วแล้วสังเกตตัวคุณชายโหม ด้วยความไม่รู้ว่าชายสูงวัยต่างชาติคนนี้ที่อยู่ในห้องนี้ตลอด ไปรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร

ดวงตาของชายต่างชาติคนนั้นลุ่มลึกดั่งหลุมดำ เต็มไปด้วยเวทมนตร์ที่ราวกับกำลังกลืนกินคนเข้าไป

เมื่อจ้องอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็รีบหลบตาโดยทันที

"ทั้งสองท่าน ตัวผมเองก็ไม่เข้าใจความคิดของคุณชายอิ่ง" หยูจื๋อเฉิงพูดอย่างเคร่งขรึมอีกครั้ง "คำพูดของคุณชายอิ่ง ผมก็ได้แจ้งออกไปหมดแล้ว เขาเพียงหวังว่าตระกูลของพวกคุณจะเข้าในสถานการณ์ และยืดตามข้อตกลงที่ได้ให้ไว้ก่อนหน้านี้ ให้ความร่วมมือและพัฒนาความก้าวหน้าในเมืองก่าง"

"และอีกอย่างที่บอกมาก็คือแจ้งให้ท่านเอิร์ลของตระกูลพวกคุณ ไม่ต้องเดินทางมาตี้จิงแล้ว เพราะคุณชายอิ่งไม่มีเวลาในการดูแล"

เมื่อพูดจบ หยูจื๋อเฉิงก็นิ่งสงบทันที

คุณชายโหมหรี่ตาลงพร้อมตอบกลับ:"คุณหยู คุณกลับไปบอกกับคุณชายอิ่ง ด้วยว่าพวกเราเข้าใจความต้องการของเขาแล้ว"

"แบบนี้ดีที่สุดครับ" หยูจื๋อเฉิงเองก็พยักหน้ารับพร้อมกับลุกขึ้นยืน "อย่างนั้นก็ขอตัวก่อนนะครับ"

เมื่อพูดจบ หยูจื๋อเฉิงก็เดินออกมาจากห้องรับรอง

เมื่อออกมาด้านนอก เขาถึงรู้สึกตัวว่าไม่รู้เพราะอะไรแต่หลังของเขามีเหงื่อชุ่มไปหมด

ชายสูงวัยข้างกายของแอนนา ดูเหมือนจะเป็นสัตว์ประหลาดที่มีพลังที่น่าสะพรึงกล่าว ภายในความว่างเปล่ากลับสร้างความกดดันให้เขาอย่างมาก

หยูจื๋อเฉิงเคยฝึกหมัดสังหารของประตูตายแก๊งมังกรมาก่อน ทำให้เท้าข้างหนึ่งของเขาได้เหยียบย่ามเข้าไปในศิลปะการต่อสู้โบราณและมีความอ่อนไหวต่อคนประเภทนี้

พลางคิดไป หยูจื๋อเฉิงก็เดินขึ้นลิฟต์ไป เตรียมจะขึ้นไปรายงานกับหลินอิ่ง

รอกระทั่งหยูจื๋อเฉิงจากไปแล้ว ภายในห้อง สายตาของคุณชายโหมกลับยิ่งมองลึกเข้าไปมากกว่าเดิม

"คุณชายโหม แบบนี้ทำกันเกินไปแล้วนะคะ หลินอิ่งไปต้อนรับตระกูลของผู้หญิงที่ชื่อฉู่ฉู่ คนนั้น แต่กลับไม่มาพบเราเลยแม้แต่เสี้ยววินาที แบบนี้ไม่ไว้หน้ากันเกินไปแล้ว" แอนนาพูดด้วยความรู้สึกไม่พอใจ และแสดงท่าทีที่อิจฉาออกมา

คุณชายโหมตอบกลับอย่างเคร่งขรึม:"คุณแอนนา ฉู่ฉู่คนนั้นไม่ได้เป็นคนง่ายๆ เลยนะครับ เธอเป็นคนในแวดวงลึกลับของประเทศหลุง ตระกูลของเธฮมีตำแหน่งที่มีอิทธิพลสามารถเรื่องยากให้ง่ายได้อีกด้วย"

"ตามที่ผมรู้ ตระกูลฉู่เคยช่วยเหลือหลินอิ่ง ดังนั้นหลินอิ่งจึงไปต้อนรับพวกเขาด้วยตัวเอง แบบนี้จึงไม่อาจที่จะไปกล่าวตำหนิเขาได้" คุณชายโหมพูดต่ออย่างใจเย็น "อีกอย่าง ตระกูลฉู่เหมือนจะมีความคิดที่จะหมั้นหมายกับหลินอิ่งด้วย และเรื่องนี้สำหรับคุณแอนนาแล้วไม่ใช่ข่าวดีอะไรนัก"

"ห๊า?" แอนนามีสีหน้าตกใจ ถึงกับแทบจะกัดปากถามออกมา "อย่างนั้น คุณชายโหม นี่ฉันจะไม่มีโอกาสแล้วหรอคะ?หลินอิ่งให้ความใส่ใจกับตระกูลของพวกเขาขนาดนี้ แถมยังเย็นชากับฉันขนาดนี้อีก"

"ถึงจะบอกว่าตระกูลฉู่นั้นจะไม่ได้มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าตระกูลโครเมียร์ แต่ก็ถือว่ามีอิทธิพลอย่างมากในประเทศหลุง แบบนี้คงต้องกลบตระกูลของพวกเราจนมิดแน่เลยค่ะ" แอนนาพูดอย่างทุกข์ใจ

การมีชีวิตอยู่ของฉู่ฉู่ ทำให้สร้างรอยแผลให้กับความมั่นใจของเธอไม่น้อยเลย

คุณชายโหมตอบกลับด้วยเสียงหนัก:"ก็ไม่เสมอไปครับ"

"คุณในฐานะทายาทผู้สืบทอดตระกูล จำเป็นต้องมีคนทรงอำนาจอย่างหลินอิ่งมาสนับสนุน ส่วนหลินอิ่ง ที่อยู่บนเกมของโลกนี้ก็จำเป็นต้องมีพันธมิตรอย่างตระกูลโครเมียร์เช่นกัน" คุณชายโหมพูดอย่างเชื่องช้า "ความช่วยเหลือและแรงสนับสนุนของตระกูลฉู่ สำหรับหลินอิ่งยังไม่มากพอ"

"เพียงแต่ว่ายังต้องรอเวลาเท่านั้น" คุณชายโหมพูดอย่างจริงจัง "คุณแอนนา คุณจะต้องมีความอดทน ช่วงนี้พวกเราก็อาศัยอยู่ในประเทศหลุงไปสักพักก่อน จะได้ติดตามหลินอิ่งตลอดเวลา"

"ส่วนทางด้านของท่านเอิร์ล ผมจะรวบรวมข้อมูลใหม่แล้วค่อยรายงานใหม่อีกครั้ง แล้วเฝ้ารอดูแผนการของท่านเอิร์ล"

แอนนาพยักหน้ารับ:"ก็คงทำได้แค่นี้แล้วค่ะ งั้นก็รอดูว่าคุณปู่จะว่ายังไง"

บนชั้นสูงสุดของอาคารดวงดาว

หลินอิ่งวางมือบนราวบันได สายตาลุ่มลึก จ้องมองไปยังตี้จิงมหานครที่แสนพลุกพล่าน

เมื่อมองลงไป ทุกอย่างล้วนอยู่ในความเจริญรุ่งเรือง

เมื่อมองย้อนกลับมาเรื่อยๆ ก็เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่กำลังส่องสะท้อนแสงดวงดาว

นี่คือโครงการที่ตอนนั้นเขาทำขึ้นให้กับฉีโม่

ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าฉีโม่ที่อยู่ในมณฑลตุงไห่จะเป็นอย่างไรบ้างแล้ว

เรื่องวันนั้นยังไม่ทันไม่พูดให้ชัดเจน ก็ต้องรีบมายังตี้จิงเพื่อจัดการภารกิจแล้ว

พูดตามตรงเลยว่าตอนนี้เขารู้สึกคิดถึงหญิงสาวที่ไร้เดียงสาไร้การเสแสร้งคนนั้นเหลือเกิน……

……

ภาคตะวันออกประเทศหลุง ริมฝั่งทะเล มณฑลชางโจว

ณ เมืองลังยา

ภายในเทือกเขาลังยาที่ไร้เขตสิ้นสุด มีอาคารเก่าแก่ที่เป็นเหมือนกับแดนเนรมิตตั้งตระหง่านอยู่ ทั้งพระราชวังและคฤหาสน์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกันท่ามกลางบรรยากาศที่งดงาม

เขาลังยา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เป็นที่รู้จัก แยกตัวจากโลกธรรม

ในแวดวงลึกลับ ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งศิลปะการต่อสู้

ตระกูลหลินแห่งเมืองลังยา

ในแวดวงลึกลับประเทศหลุง เป็นผู้นำหกตระกูลในแวดวงลึกลับ เป็นที่รู้จักกันในนามตระกูลใหญ่อันดับหนึ่ง และมีพลังแข็งแกร่งในแวดวงลึกลับระดับต้นๆ

พวกเขาเป็นตระกูลแห่งแวดวงลึกลับที่แท้จริง ไม่เคยแปดเปื้อนด้วยเลือดคนธรรมดาเลย

ในโลกธรรม คนธรรมดาทั่วไปไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตระกูลหลินแห่งเมืองลังยานั้นมีอยู่จริง

ตอนนี้ ณ โถงใหญ่ของตระกูลหลิน

หญิงชราคนหนึ่งที่ถือไม้เท้าสลักหยกกำลังนั่งอยู่บนแท่นที่นั่งเก้าอี้ไท่ซือด้วยท่าทีโออ่าผ่าเผย ใบหน้าเคร่งขรึม นอกจากนี้ยังมีคนสูงวัยอีกหลายคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือที่ตั้งอยู่ข้างๆ อีกด้วย

ส่วนบริเวณด้านล่างมีชายวัยกลางคนที่มีชื่อเสียงไม่ธรรมดาหลายคนกำลังนั่งอยู่

"แม่เฒ่า ท่านเฉินเฟิงแห่งหุบเฉินเฟิงได้เดินทางมายังหุบเขาลังยา อยู่ด้านนอกและร้องขอที่จะเข้าพบครับ" ชายในชุดราชวงศ์ถังคนหนึ่งกล่าวรายงานขึ้นมา

"ท่านเฉินเฟิงมาถึงแล้ว?" แม่เฒ่าตระกูลหลินหรี่ตาลงพูด "เรื่องที่ฉันให้เธฮไปตรวจสอบหลินอิ่งหรือคุณชายอิ่งอะไรคนนั้นแห่งตี้จิง สรุปแล้วเขาใช่ลูกชายของซูชิงคนนั้นหรือเปล่า?"

ชายในชุดราชวงศ์ถังแสดงสีหน้าลังเลก่อนจะตอบกลับอย่างสุขุม:"ผมได้ตรวจสอบมาแล้ว เป็นเช่นนั้นจริงครับ คุณชายอิ่งที่ตอนนี้กำลังโดดเด่นรุ่งเรืองอยู่ในตี้จิง เป็นลูกชายของคุณป้าซูชิงจริงครับ"

"หึ!" แม่เฒ่าตระกูลหหลินสบถเสียงเยาะเย้ยออกมา "ซูชิงคนนั้น ตอนนั้นดึงดันที่จะตัดขาดกับตระกูลหลิน เพื่อที่จะแต่งงานกับเจ้าหนุ่มตระกูลฉีคนนั้นน่ะหรอ ?สุดท้ายก็ถูกเขาขับไล่ออกจากตระกูล ก็ยังไม่ยอมกลับมารับผิดต่อตระกูลหลิน แต่กลัให้ลูกชายแซ่หลิน นี่ก็แสดงว่านึกเสียใจแล้วงั้นสิ ?คิดอยากให้ลูกชายกลับสู่วงศ์ตระกูล กลับไม่ยอมก้มหัวกลับมารับผิดต่อตระกูลหลินเนี่ยนะ ?"

"คราวนี้ เด็กป่าเถื่อนอย่างหลินอิ่งที่เธอคลอดมา ยังไปฆ่าคนของหุบเฉินเฟิง แบบนี้ยังคิดจะให้พวกเราตระกูลหลินไปตามเช็ดอีกหรอ?"

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ซุปเปอร์เจ้าสำราญ 619 ตระกูลหลินแห่งเมืองลังยา

Now you are reading ซุปเปอร์เจ้าสำราญ Chapter 619 ตระกูลหลินแห่งเมืองลังยา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

"หลินอิ่ง ต่อให้ผมตอบตกลง แต่คุณท่านของเรา เกรงว่าจะไม่สามารถยอมรับการบอกปัดนี้ของคุณหรอก" ฉู่หยุนซานพูดด้วยเสียงทุ้ม

เขารู้ตัวแล้วว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินอิ่ง และไม่มีทางที่จะควบคุมหลินอิ่ง

จึงทำได้เพียงอ้างชื่อของคุณท่านของตระกูลตนออกมาเท่านั้น

หลินอิ่งพูดอย่างแน่วแน่ "ทางด้านคุณท่านฉู่ ผมจะเป็นคนจัดการเองครับ บุญคุณของตระกูลฉู่ ผมจำไว้ในใจเสมอ"

"พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์"

เมื่อพูดจบ หลินอิ่งก็ลุกขึ้นแสดงท่าทีที่ชัดเจน

"นี่……" ฉู่หยุนซานหวังจะพูดอะไรอีก สีหน้ามีความไม่พอใจแสดงออกมา แต่กลับไม่กล้าที่จะอาละวาด

เพราะในน้ำเสียงของหลินอิ่ง แสดงออกถึงอำนาจบางอย่างที่ไม่สามารถต่อต้านได้

และสิ่งนี้ก็ทำให้คนท่องยุทธภพอย่างเขาเกิดความหวั่นไหวไม่น้อย

"ทั้งสองท่าน ผมยังมีธุระ ขออภัยที่ไม่สามารถอยู่เจรจาด้วย"

"ถ้าหากจะกลับเตียนหนาน ผมจะส่งคนให้ไปคุ้มกันครับ"

ฉู่หยุนซานขมวดคิ้ว รู้ว่าต่อให้ดึงดันพูดอะไรไปก็ไม่ประโยชน์จึงได้เพียงตอบรับ:"ก็ได้ หลินอิ่ง กลับไปแล้ว ผมจะให้คุณท่านของเราติดต่อหาคุณแล้วกัน"

หลินอิ่งไม่ได้อยู่ต่อนานนัก ก่อนจะปลีกตัวออกมา

สำหรับเรื่องของตระกูลฉู่ แค่ไปกล่าวต้อนรับก็เพียงพอแล้ว เพราะเขาไม่อยากจะพูดอะไรให้มากความอีก

และนี่เป็นเพราะว่าเห็นแก่ความสัมพันธ์ของคนตระกูลฉู่ เขาจึงต้องทำการอธิบายโดยเฉพาะ เพื่อที่จะรักษาพันธมิตรเอาไว้

เมื่อออกมาจากห้องรับรอง สายตาของหลินอิ่งก็มองไปยังห้องรับรองอีกห้องหนึ่ง ซึ่งหยูจื๋อเฉิงกำลังอยู่ด้านในให้การดูแลคนของตระกูลโครเมียร์

เมื่อเหลียวมองดู หลินอิ่งก็หันหลังกลับเดินไปขึ้นลิฟต์แล้วกลับไปยังห้องทำงานประธาน

ภายในห้องรับรองที่สอง

คุณชายโหมและแอนนากำลังนั่งอยู่บนดซฟา โดยมีหยูจื๋อเฉิงให้การดูแลพวกเขาอยู่

"ทั้งสองครับ คุณชายอิ่งได้บอกแล้วครับ ว่าไม่ว่างที่จะมาพบกับทั้งสองได้" หยูจื๋อเฉิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ดังนั้น ทั้งสองท่านอย่าได้เสียเวลาอยู่ต่อเลยนะครับ ท่าทีของคุณชายอิ่งก็ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนแล้วนี่ครับ"

"ความต้องการของคุณชายอิ่งก็ได้แจ้งไปอย่างชัดเจนแล้วนะครับ สิ่งที่ควรบอกเขาก็เคยได้บอกกับพวกคุณไปก่อนหน้านี้แล้ว วันข้างหน้าเขาไม่ต้องการให้ตระกูลของพวกคุณเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตี้จิงอีก"

"นี่?แม้แต่เวลาจะมาคุยด้วยคุณหลินก็ไม่มีเลยงั้นหรอคะ?" แอนนาขมวดคิ้วขึ้น พูดด้วยความวิตกเล็กน้อยพลางเหลือบมองไปยัง คุณชายโหม

คุณชายโหมกระแอมออกมา:"คุณหยู เห็นได้ชัดว่าคุณชายอิ่งได้เข้าไปพบกับคนของตระกูลฉู่แล้ว แต่กลับบอกว่าไม่ว่าง นี่คือการกระทำของเขางั้นหรอครับ ?"

"คือว่า?" หยูจื๋อเฉิงขมวดคิ้วแล้วสังเกตตัวคุณชายโหม ด้วยความไม่รู้ว่าชายสูงวัยต่างชาติคนนี้ที่อยู่ในห้องนี้ตลอด ไปรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร

ดวงตาของชายต่างชาติคนนั้นลุ่มลึกดั่งหลุมดำ เต็มไปด้วยเวทมนตร์ที่ราวกับกำลังกลืนกินคนเข้าไป

เมื่อจ้องอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็รีบหลบตาโดยทันที

"ทั้งสองท่าน ตัวผมเองก็ไม่เข้าใจความคิดของคุณชายอิ่ง" หยูจื๋อเฉิงพูดอย่างเคร่งขรึมอีกครั้ง "คำพูดของคุณชายอิ่ง ผมก็ได้แจ้งออกไปหมดแล้ว เขาเพียงหวังว่าตระกูลของพวกคุณจะเข้าในสถานการณ์ และยืดตามข้อตกลงที่ได้ให้ไว้ก่อนหน้านี้ ให้ความร่วมมือและพัฒนาความก้าวหน้าในเมืองก่าง"

"และอีกอย่างที่บอกมาก็คือแจ้งให้ท่านเอิร์ลของตระกูลพวกคุณ ไม่ต้องเดินทางมาตี้จิงแล้ว เพราะคุณชายอิ่งไม่มีเวลาในการดูแล"

เมื่อพูดจบ หยูจื๋อเฉิงก็นิ่งสงบทันที

คุณชายโหมหรี่ตาลงพร้อมตอบกลับ:"คุณหยู คุณกลับไปบอกกับคุณชายอิ่ง ด้วยว่าพวกเราเข้าใจความต้องการของเขาแล้ว"

"แบบนี้ดีที่สุดครับ" หยูจื๋อเฉิงเองก็พยักหน้ารับพร้อมกับลุกขึ้นยืน "อย่างนั้นก็ขอตัวก่อนนะครับ"

เมื่อพูดจบ หยูจื๋อเฉิงก็เดินออกมาจากห้องรับรอง

เมื่อออกมาด้านนอก เขาถึงรู้สึกตัวว่าไม่รู้เพราะอะไรแต่หลังของเขามีเหงื่อชุ่มไปหมด

ชายสูงวัยข้างกายของแอนนา ดูเหมือนจะเป็นสัตว์ประหลาดที่มีพลังที่น่าสะพรึงกล่าว ภายในความว่างเปล่ากลับสร้างความกดดันให้เขาอย่างมาก

หยูจื๋อเฉิงเคยฝึกหมัดสังหารของประตูตายแก๊งมังกรมาก่อน ทำให้เท้าข้างหนึ่งของเขาได้เหยียบย่ามเข้าไปในศิลปะการต่อสู้โบราณและมีความอ่อนไหวต่อคนประเภทนี้

พลางคิดไป หยูจื๋อเฉิงก็เดินขึ้นลิฟต์ไป เตรียมจะขึ้นไปรายงานกับหลินอิ่ง

รอกระทั่งหยูจื๋อเฉิงจากไปแล้ว ภายในห้อง สายตาของคุณชายโหมกลับยิ่งมองลึกเข้าไปมากกว่าเดิม

"คุณชายโหม แบบนี้ทำกันเกินไปแล้วนะคะ หลินอิ่งไปต้อนรับตระกูลของผู้หญิงที่ชื่อฉู่ฉู่ คนนั้น แต่กลับไม่มาพบเราเลยแม้แต่เสี้ยววินาที แบบนี้ไม่ไว้หน้ากันเกินไปแล้ว" แอนนาพูดด้วยความรู้สึกไม่พอใจ และแสดงท่าทีที่อิจฉาออกมา

คุณชายโหมตอบกลับอย่างเคร่งขรึม:"คุณแอนนา ฉู่ฉู่คนนั้นไม่ได้เป็นคนง่ายๆ เลยนะครับ เธอเป็นคนในแวดวงลึกลับของประเทศหลุง ตระกูลของเธฮมีตำแหน่งที่มีอิทธิพลสามารถเรื่องยากให้ง่ายได้อีกด้วย"

"ตามที่ผมรู้ ตระกูลฉู่เคยช่วยเหลือหลินอิ่ง ดังนั้นหลินอิ่งจึงไปต้อนรับพวกเขาด้วยตัวเอง แบบนี้จึงไม่อาจที่จะไปกล่าวตำหนิเขาได้" คุณชายโหมพูดต่ออย่างใจเย็น "อีกอย่าง ตระกูลฉู่เหมือนจะมีความคิดที่จะหมั้นหมายกับหลินอิ่งด้วย และเรื่องนี้สำหรับคุณแอนนาแล้วไม่ใช่ข่าวดีอะไรนัก"

"ห๊า?" แอนนามีสีหน้าตกใจ ถึงกับแทบจะกัดปากถามออกมา "อย่างนั้น คุณชายโหม นี่ฉันจะไม่มีโอกาสแล้วหรอคะ?หลินอิ่งให้ความใส่ใจกับตระกูลของพวกเขาขนาดนี้ แถมยังเย็นชากับฉันขนาดนี้อีก"

"ถึงจะบอกว่าตระกูลฉู่นั้นจะไม่ได้มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าตระกูลโครเมียร์ แต่ก็ถือว่ามีอิทธิพลอย่างมากในประเทศหลุง แบบนี้คงต้องกลบตระกูลของพวกเราจนมิดแน่เลยค่ะ" แอนนาพูดอย่างทุกข์ใจ

การมีชีวิตอยู่ของฉู่ฉู่ ทำให้สร้างรอยแผลให้กับความมั่นใจของเธอไม่น้อยเลย

คุณชายโหมตอบกลับด้วยเสียงหนัก:"ก็ไม่เสมอไปครับ"

"คุณในฐานะทายาทผู้สืบทอดตระกูล จำเป็นต้องมีคนทรงอำนาจอย่างหลินอิ่งมาสนับสนุน ส่วนหลินอิ่ง ที่อยู่บนเกมของโลกนี้ก็จำเป็นต้องมีพันธมิตรอย่างตระกูลโครเมียร์เช่นกัน" คุณชายโหมพูดอย่างเชื่องช้า "ความช่วยเหลือและแรงสนับสนุนของตระกูลฉู่ สำหรับหลินอิ่งยังไม่มากพอ"

"เพียงแต่ว่ายังต้องรอเวลาเท่านั้น" คุณชายโหมพูดอย่างจริงจัง "คุณแอนนา คุณจะต้องมีความอดทน ช่วงนี้พวกเราก็อาศัยอยู่ในประเทศหลุงไปสักพักก่อน จะได้ติดตามหลินอิ่งตลอดเวลา"

"ส่วนทางด้านของท่านเอิร์ล ผมจะรวบรวมข้อมูลใหม่แล้วค่อยรายงานใหม่อีกครั้ง แล้วเฝ้ารอดูแผนการของท่านเอิร์ล"

แอนนาพยักหน้ารับ:"ก็คงทำได้แค่นี้แล้วค่ะ งั้นก็รอดูว่าคุณปู่จะว่ายังไง"

บนชั้นสูงสุดของอาคารดวงดาว

หลินอิ่งวางมือบนราวบันได สายตาลุ่มลึก จ้องมองไปยังตี้จิงมหานครที่แสนพลุกพล่าน

เมื่อมองลงไป ทุกอย่างล้วนอยู่ในความเจริญรุ่งเรือง

เมื่อมองย้อนกลับมาเรื่อยๆ ก็เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่กำลังส่องสะท้อนแสงดวงดาว

นี่คือโครงการที่ตอนนั้นเขาทำขึ้นให้กับฉีโม่

ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าฉีโม่ที่อยู่ในมณฑลตุงไห่จะเป็นอย่างไรบ้างแล้ว

เรื่องวันนั้นยังไม่ทันไม่พูดให้ชัดเจน ก็ต้องรีบมายังตี้จิงเพื่อจัดการภารกิจแล้ว

พูดตามตรงเลยว่าตอนนี้เขารู้สึกคิดถึงหญิงสาวที่ไร้เดียงสาไร้การเสแสร้งคนนั้นเหลือเกิน……

……

ภาคตะวันออกประเทศหลุง ริมฝั่งทะเล มณฑลชางโจว

ณ เมืองลังยา

ภายในเทือกเขาลังยาที่ไร้เขตสิ้นสุด มีอาคารเก่าแก่ที่เป็นเหมือนกับแดนเนรมิตตั้งตระหง่านอยู่ ทั้งพระราชวังและคฤหาสน์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกันท่ามกลางบรรยากาศที่งดงาม

เขาลังยา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เป็นที่รู้จัก แยกตัวจากโลกธรรม

ในแวดวงลึกลับ ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งศิลปะการต่อสู้

ตระกูลหลินแห่งเมืองลังยา

ในแวดวงลึกลับประเทศหลุง เป็นผู้นำหกตระกูลในแวดวงลึกลับ เป็นที่รู้จักกันในนามตระกูลใหญ่อันดับหนึ่ง และมีพลังแข็งแกร่งในแวดวงลึกลับระดับต้นๆ

พวกเขาเป็นตระกูลแห่งแวดวงลึกลับที่แท้จริง ไม่เคยแปดเปื้อนด้วยเลือดคนธรรมดาเลย

ในโลกธรรม คนธรรมดาทั่วไปไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตระกูลหลินแห่งเมืองลังยานั้นมีอยู่จริง

ตอนนี้ ณ โถงใหญ่ของตระกูลหลิน

หญิงชราคนหนึ่งที่ถือไม้เท้าสลักหยกกำลังนั่งอยู่บนแท่นที่นั่งเก้าอี้ไท่ซือด้วยท่าทีโออ่าผ่าเผย ใบหน้าเคร่งขรึม นอกจากนี้ยังมีคนสูงวัยอีกหลายคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือที่ตั้งอยู่ข้างๆ อีกด้วย

ส่วนบริเวณด้านล่างมีชายวัยกลางคนที่มีชื่อเสียงไม่ธรรมดาหลายคนกำลังนั่งอยู่

"แม่เฒ่า ท่านเฉินเฟิงแห่งหุบเฉินเฟิงได้เดินทางมายังหุบเขาลังยา อยู่ด้านนอกและร้องขอที่จะเข้าพบครับ" ชายในชุดราชวงศ์ถังคนหนึ่งกล่าวรายงานขึ้นมา

"ท่านเฉินเฟิงมาถึงแล้ว?" แม่เฒ่าตระกูลหลินหรี่ตาลงพูด "เรื่องที่ฉันให้เธฮไปตรวจสอบหลินอิ่งหรือคุณชายอิ่งอะไรคนนั้นแห่งตี้จิง สรุปแล้วเขาใช่ลูกชายของซูชิงคนนั้นหรือเปล่า?"

ชายในชุดราชวงศ์ถังแสดงสีหน้าลังเลก่อนจะตอบกลับอย่างสุขุม:"ผมได้ตรวจสอบมาแล้ว เป็นเช่นนั้นจริงครับ คุณชายอิ่งที่ตอนนี้กำลังโดดเด่นรุ่งเรืองอยู่ในตี้จิง เป็นลูกชายของคุณป้าซูชิงจริงครับ"

"หึ!" แม่เฒ่าตระกูลหหลินสบถเสียงเยาะเย้ยออกมา "ซูชิงคนนั้น ตอนนั้นดึงดันที่จะตัดขาดกับตระกูลหลิน เพื่อที่จะแต่งงานกับเจ้าหนุ่มตระกูลฉีคนนั้นน่ะหรอ ?สุดท้ายก็ถูกเขาขับไล่ออกจากตระกูล ก็ยังไม่ยอมกลับมารับผิดต่อตระกูลหลิน แต่กลัให้ลูกชายแซ่หลิน นี่ก็แสดงว่านึกเสียใจแล้วงั้นสิ ?คิดอยากให้ลูกชายกลับสู่วงศ์ตระกูล กลับไม่ยอมก้มหัวกลับมารับผิดต่อตระกูลหลินเนี่ยนะ ?"

"คราวนี้ เด็กป่าเถื่อนอย่างหลินอิ่งที่เธอคลอดมา ยังไปฆ่าคนของหุบเฉินเฟิง แบบนี้ยังคิดจะให้พวกเราตระกูลหลินไปตามเช็ดอีกหรอ?"

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+