ซุปเปอร์เจ้าสำราญ 576 สะเทือนบาดเจ็บกลางอากาศ

Now you are reading ซุปเปอร์เจ้าสำราญ Chapter 576 สะเทือนบาดเจ็บกลางอากาศ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

"คนอื่นไม่ว่า วันนี้ไอ้เด็กเวรแกคนนี้ ฉันต้องจับมาต้มยำทำแกงแน่"กงจิ่วพูดอย่างเย็นชา ค่อยๆดึงมีดลายเบญจมาศออกมา

สายตาของเขาแน่วแน่

ปกป้องลูกน้องในมือ เอาสินค้าจากอาคารออกไป จับตัวลูกน้องคนหนึ่งของหลินอิ่งไปสอบถามข่าวกรอง

สำหรับพวกจ้าวเฉิงเฉียน กงจิ่วไม่ได้อยากสนใจ ไม่มีค่าเลยแม้แต่น้อย

"นายน้อย ตอนนี้ พวกเราจะ……"หม่าผิงชวนพูดเสียงเบาอยู่ข้างเขา

จ้าวเฉิงเฉียนจ้องกงจิ่วนิ่งๆ ไม่ได้แสดงทัศนคติ

ความหมายของหม่าผิงชวนคือพาคนถอยออกไปเถอะ ปกป้องคนของหลินอิ่งไว้ก็พอ

อยากจับตัวกงจิ่ว ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้

"เหอะเหอะ"กงจิ่วมองจ้าวเฉิงเฉียนอย่างหยอกล้อ แล้วกวาดตามองพวกเย่เฮย

"เจ้าตัวหลินอิ่งมาเอง ยังพอจะเล่นกับฉันได้บ้าง"กงจิ่วพูดอย่างเย็นชา สายตาหยอกล้อเหมือนดั่งมองฝูงสัตว์ที่ถูกไล่ล่า

ระหว่างที่พูด กงจิ่วถือมีดลายดอกเบญจมาศ เดินไปข้างหน้าทีละก้าว

สู้รบกันมารอบหนึ่ง ในใจกงจิ่วก็คาดการได้แล้ว

เพราะว่ามีจ้าวเฉิงเฉียนอยู่ เขามีความหวาดกลัวอยู่

เพราะฉะนั้น ไม่สามารถฆ่าจนหมดได้

แต่อย่างน้อย ก็สามารถฆ่าคนสองคนได้ แล้วค่อยถอนตัวออก

ซือ

เวลาเดียวกัน มีเสียงรถเคลื่อนไหวดังมา ยังมีแสงสาดส่องจากทางไกลส่องมาที่อาคารร้าง ทำให้มองเห็นความสว่าง

"นี่มัน?"

พวกจ้าวเฉิงเฉียนและเย่เฮย ต่างก็หันไปมอง เห็นเพียงรถสีดำยาวคันหนึ่ง ร่างมัวของชายคนหนึ่งลงมา

"อือ?"

กงจิ่วหยุดฝีเท้าไว้ ขมวดคิ้วมองไป

คนที่ลงมาจากรถ ท่านบนใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบง่าย มองมาอย่างเย็นชา

"หลิน หลินอิ่ง?"กงจิ่วหดสายตาลง จำชายหนุ่มที่ลงจากรถได้

"คนอื่นไม่ว่า วันนี้ไอ้เด็กเวรแกคนนี้ ฉันต้องจับมาต้มยำทำแกงแน่"กงจิ่วพูดอย่างเย็นชา ค่อยๆดึงมีดลายเบญจมาศออกมา

สายตาของเขาแน่วแน่

ปกป้องลูกน้องในมือ เอาสินค้าจากอาคารออกไป จับตัวลูกน้องคนหนึ่งของหลินอิ่งไปสอบถามข่าวกรอง

สำหรับพวกจ้าวเฉิงเฉียน กงจิ่วไม่ได้อยากสนใจ ไม่มีค่าเลยแม้แต่น้อย

"นายน้อย ตอนนี้ พวกเราจะ……"หม่าผิงชวนพูดเสียงเบาอยู่ข้างเขา

จ้าวเฉิงเฉียนจ้องกงจิ่วนิ่งๆ ไม่ได้แสดงทัศนคติ

ความหมายของหม่าผิงชวนคือพาคนถอยออกไปเถอะ ปกป้องคนของหลินอิ่งไว้ก็พอ

อยากจับตัวกงจิ่ว ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้

"เหอะเหอะ"กงจิ่วมองจ้าวเฉิงเฉียนอย่างหยอกล้อ แล้วกวาดตามองพวกเย่เฮย

"เจ้าตัวหลินอิ่งมาเอง ยังพอจะเล่นกับฉันได้บ้าง"กงจิ่วพูดอย่างเย็นชา สายตาหยอกล้อเหมือนดั่งมองฝูงสัตว์ที่ถูกไล่ล่า

ระหว่างที่พูด กงจิ่วถือมีดลายดอกเบญจมาศ เดินไปข้างหน้าทีละก้าว

สู้รบกันมารอบหนึ่ง ในใจกงจิ่วก็คาดการได้แล้ว

เพราะว่ามีจ้าวเฉิงเฉียนอยู่ เขามีความหวาดกลัวอยู่

เพราะฉะนั้น ไม่สามารถฆ่าจนหมดได้

แต่อย่างน้อย ก็สามารถฆ่าคนสองคนได้ แล้วค่อยถอนตัวออก

ซือ

เวลาเดียวกัน มีเสียงรถเคลื่อนไหวดังมา ยังมีแสงสาดส่องจากทางไกลส่องมาที่อาคารร้าง ทำให้มองเห็นความสว่าง

"นี่มัน?"

พวกจ้าวเฉิงเฉียนและเย่เฮย ต่างก็หันไปมอง เห็นเพียงรถสีดำยาวคันหนึ่ง ร่างมัวของชายคนหนึ่งลงมา

"อือ?"

กงจิ่วหยุดฝีเท้าไว้ ขมวดคิ้วมองไป

คนที่ลงมาจากรถ ท่านบนใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบง่าย มองมาอย่างเย็นชา

"หลิน หลินอิ่ง?"กงจิ่วหดสายตาลง จำชายหนุ่มที่ลงจากรถได้

เพราะฉะนั้น ในใจเขาก็รู้แล้ว นั่นก็คือกงจิ่ว

"คุณชายอิ่ง กงจิ่ว กระโดดลงไป หนีแล้ว……"หวงชิงซานพูดรายงาน สีหน้าละอายใจ

หลินอิ่งมองกำแพงคอนกรีตพังทลายที่ไม่ไกลนัก วิ่งตามไป กระโดดลงไปตามทิศทางที่กงจิ่วหนี

ส่วนหลายคนที่เหลือไว้ ต่างก็มองหน้าสบตากัน

"ตามผมไปจับคนต้าเหอสองคนนั้น"เย่เฮยพูดเสียงเคร่งขรึมอย่างไม่ได้ลังเล

พูดจบ เย่เฮยและหวงชิงซานก็พุ่งไปทางชั้นร้างที่จั่วฉวนทั้งสองคนไป

"ไปด้วยกัน"

จ้าวเฉิงเฉียนพูดสั่ง ตามฝีเท้าของเย่เฮยไป

กงจิ่วหนีแล้ว แต่ผู้ปกปักรักษาของสำนักยุทธเชียนสองคนนั้นยังอยู่ ต้องจับตัวให้ได้

ในใจพวกเขารู้ดี คืนนี้หลินอิ่งไม่ลากตัวกงจิ่วออกมา ไม่ยอมเลิกราแน่

ในใจของคนทั้งกลุ่มยังอยู่ในสภาพตกใจอยู่ ในใจยังกลัวเรียกสติกลับมาไม่ได้

พวกเขาห้าคนร่วมมือกันกงจิ่วก็รับมืออย่างง่ายดาย แต่กลับรับแรงสะเทือนข้ามอากาศจากหลินอิ่งไม่ได้……

แรงกระทบทางใจโดยตรงแบบนี้ ดูเหมือนทำให้พวกเขาต้องสงสัยความสามารถในวิชาการต่อสู้ของตัวเองแล้ว

โดยเฉพาะจ้าวเฉิงเฉียน ความภาคภูมิใจอันน้อยนิดที่หลงเหลืออยู่ในใจ เกือบแตกสลายแล้ว

จ้าวเฉิงเฉียนคิดในใจ ด้วยความสามารถของหลินอิ่ง เขาร่วมงานกับจ้าวเฉิงเฉียน ต่อไปยังสามารถอยู่ในระดับเท่าเทียมกันไหม?

…….

อีกด้านหนึ่ง ใต้อาคารร้าง ข้างแม่น้ำตี้

คลื่นแม่น้ำไหลริน เสียงดังโครมๆ

"คนอื่นไม่ว่า วันนี้ไอ้เด็กเวรแกคนนี้ ฉันต้องจับมาต้มยำทำแกงแน่"กงจิ่วพูดอย่างเย็นชา ค่อยๆดึงมีดลายเบญจมาศออกมา

สายตาของเขาแน่วแน่

ปกป้องลูกน้องในมือ เอาสินค้าจากอาคารออกไป จับตัวลูกน้องคนหนึ่งของหลินอิ่งไปสอบถามข่าวกรอง

สำหรับพวกจ้าวเฉิงเฉียน กงจิ่วไม่ได้อยากสนใจ ไม่มีค่าเลยแม้แต่น้อย

"นายน้อย ตอนนี้ พวกเราจะ……"หม่าผิงชวนพูดเสียงเบาอยู่ข้างเขา

จ้าวเฉิงเฉียนจ้องกงจิ่วนิ่งๆ ไม่ได้แสดงทัศนคติ

ความหมายของหม่าผิงชวนคือพาคนถอยออกไปเถอะ ปกป้องคนของหลินอิ่งไว้ก็พอ

อยากจับตัวกงจิ่ว ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้

"เหอะเหอะ"กงจิ่วมองจ้าวเฉิงเฉียนอย่างหยอกล้อ แล้วกวาดตามองพวกเย่เฮย

"เจ้าตัวหลินอิ่งมาเอง ยังพอจะเล่นกับฉันได้บ้าง"กงจิ่วพูดอย่างเย็นชา สายตาหยอกล้อเหมือนดั่งมองฝูงสัตว์ที่ถูกไล่ล่า

ระหว่างที่พูด กงจิ่วถือมีดลายดอกเบญจมาศ เดินไปข้างหน้าทีละก้าว

สู้รบกันมารอบหนึ่ง ในใจกงจิ่วก็คาดการได้แล้ว

เพราะว่ามีจ้าวเฉิงเฉียนอยู่ เขามีความหวาดกลัวอยู่

เพราะฉะนั้น ไม่สามารถฆ่าจนหมดได้

แต่อย่างน้อย ก็สามารถฆ่าคนสองคนได้ แล้วค่อยถอนตัวออก

ซือ

เวลาเดียวกัน มีเสียงรถเคลื่อนไหวดังมา ยังมีแสงสาดส่องจากทางไกลส่องมาที่อาคารร้าง ทำให้มองเห็นความสว่าง

"นี่มัน?"

พวกจ้าวเฉิงเฉียนและเย่เฮย ต่างก็หันไปมอง เห็นเพียงรถสีดำยาวคันหนึ่ง ร่างมัวของชายคนหนึ่งลงมา

"อือ?"

กงจิ่วหยุดฝีเท้าไว้ ขมวดคิ้วมองไป

คนที่ลงมาจากรถ ท่านบนใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบง่าย มองมาอย่างเย็นชา

"หลิน หลินอิ่ง?"กงจิ่วหดสายตาลง จำชายหนุ่มที่ลงจากรถได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด