ซุปเปอร์เจ้าสำราญ 166 ไม่คุกเข่าก็กระทืบจนคุกเข่า

Now you are reading ซุปเปอร์เจ้าสำราญ Chapter 166 ไม่คุกเข่าก็กระทืบจนคุกเข่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 166 ไม่คุกเข่าก็กระทืบจนคุกเข่า

กงซุนเฟยเทียนและลูเหลียงยู่โดนโจมตีจนมึน พวกเขามองไปที่หลินหยิ่งด้วยความเหลือเชื่อ พวกเขากำลังจะลุกขึ้นยืน แต่กลับรู้สึกว่าเข่าชา ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้

“ไอ้แซ่หลิน นายกำลังทำอะไร? กล้าลงมือกับฉันหรือ?” กงซุนเฟยเทียนตะโกนอย่างโกรธแค้น แล้วตะคอกใส่หลินอิ่ง เขารู้สึกสมเพชมาก

“นายคนบ้าชัดๆ กล้าลงมือในสถานที่แบบนี้ได้อย่างไร! ” ลูเหลียงยู่เองก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ

เหลือเชื่อจริงๆ ไอ้คนไม่เอาไหนที่แซ่หลินกล้าที่จะลงมือกับเขาสองคนจนคุกเข่าลงกับที่ต่อหน้านายท่าน 

เพียะ! เพียะ!

หลินอิ่งตบหน้าเขาสองคนจนเลือดกบปาก หน้าบวมไป1ข้าง พวกเขาจ้องมองไปที่หลินอิ่ง แต่กลับไม่กล้าพูดอะไรต่อ

“อ๊า? นี่กำลังทำอะไรกัน? พี่ใหญ่ครับ พี่ต้องจัดการดูแลคนคนนี้หน่อยนะครับ”

“พี่ใหญ่ครับ นี่พี่เชิญคนอะไรมา? กล้าลงมือทุบตีพี่ชายรองในบ้านของกงซุนได้อย่างไร? นี่เขาบ้าไปแล้วรึเปล่า! ”

“ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงแล้ว กล้าลงมือทำร้ายคนอื่นในห้องของนายท่าน รีบโทรเรียกบอดี้การ์ดมาเดี๋ยวนี้”

คนของตระกูลกงซุนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจังจะรู้สึกตัวขึ้นมาได้ แล้วทุกคนก็ไปยืนอยู่ข้างๆ กงซุนฉงหลงกันหมด และรู้สึกหวาดกลัว

กงซุนเฟยหงเองก็ตะลึงเช่นกัน เขาไม่คิดว่าอาจารย์หลินจะเป็นคนนิสัยดื้อและแข็งเช่นนี้ ยังไม่ได้พูดอะไรก็ลงมือจนทำให้อีกฝ่ายคุกเข่าลง

ถ้าเกิดว่าเป็นเมื่อก่อน แน่นอนว่าเขาจะเรียกเหล่ายอดฝีมือที่อยู่นอกวิลล่าเข้ามารักษาศักดิ์ศรีของตระกูลกงซุนไว้แล้ว แต่ว่า สถานการณ์ในวันนี้ กลับพูดยาก

กงซุนชิวอวี่เองก็จ้องมองไปที่หลินอิ่งและทำตาโต เธอรู้สึกว่าลูกพี่ลูกน้องโหดเกินไป

“ผมจะพูดครั้งสุดท้าย กราบเดี๋ยวนี้! ” หลินอิ่งยกมือบีบไปที่คอของลูเหลียงยู่ บีบจนเขาหายใจแรง มีเหงื่อและเส้นเลือกปูดขึ้นที่หน้า สายตาของเขาที่เต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัวมองไปที่หลินอิ่ง

“กล้าพูดผิดเป็นถูกต่อหน้าผม พวกคุณอยากตายหรือ?” หลินอิ่งกล่าวด้วยเสียงที่เย็นชา ความอาฆาตที่เผยออกมานั้นทำให้คนอื่นรู้สึกตื่นเต้นหวาดกลัวจนตัวสั่น

คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็แสดงสีหน้าสงสัยออกมา ราวกับว่า นักต้มตุ๋นที่แซ่หลินคนนี้ไม่ได้ธรรมดาเหมือนภายนอก ถ้าเกิดว่าเขาไม่ใช่คนบ้า แล้วเขาต้องมีความกล้าขนาดไหนกัน? จึงกล้าลงมือทำร้ายกงซุนเฟยเทียน นี่เขากำลังดูหมิ่นตระกูลกงซุนและนายท่านกงซุนหรือ?

“นายท่านครับ ท่านต้องจัดการเรื่องนี้นะครับ” กงซุนเฟยเทียนพูดพร้อมกัดฟัน เขาเป็นถึงคนลำดับรองของตระกูลกงซุน มีทรัพย์สินในมือเป็นหมื่นล้าน เขาไม่เคยโดนดูถูกเช่นนี้มาก่อน

วิธีการของหลินอิ่งนี้มันหยาบคายเกินไป เขาไม่พูดคุยกับใครเลยก็ลงมือทำร้ายพวกเขาจนคุกเข่าลง…

"อะแฮ่ม หนุ่มน้อย นายทำสุดโต่งเกินไปรึเปล่า" กงซุนฉงหลงกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ขณะนั้นเอง ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่าง เเข็งแกร่ง ร่างสูงหลายคนเดินมาจากนอกประตู แต่ละคนจ้องมองไปที่หลินอิ่งด้วยสีหน้าเย็นชา เตรียมตัวจะเข้าโจมตี

เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นบอดี้การ์ดชั้นยอดที่จัดอยู่รอบๆ ตัวของนายท่านกงซุน เพียงแค่รอให้นายท่านออกคำสั่ง พวกเขาก็จะรีบวิ่งเข้ามาจับตัวหลินอิ่งทันที

"มีอะไรเราค่อยๆ คุยกัน ถ้าคุณรู้สึกว่าสิ่งที่พวกเขาทั้งสองพูดมันไม่ถูกต้อง คุณสามารถอธิบายได้ ทำไมต้องวู่วามและใจร้อนเช่นนี้ด้วยล่ะ? ” กงซุนฉงหลงกล่าวอย่างจริงจัง

ไม่ว่าเรื่องจะถูกหรือผิด ชายหนุ่มแซ่หลินผู้นี้กล้าทำตัวอวดดีเช่นนี้ในตระกูลกงซุน เช่นนั้นก็ต้องสั่งสอนและให้บทเรียนกับเขา แม้แต่กงซุนเฟยเทียนบุตรชายของตน เขาก็ลงมือทำร้ายจนคุกเข่าลงได้ นี่มันไม่สนใจเรื่องกฎระเบียบกันแล้ว

"อธิบาย? "

หลินอิ่งหันหน้ามาอย่างนิ่งเฉย และมองไปที่กงซุนฉงหลงอย่างเย็นชา

"คุณลองถามหาคำอธิบายจากผมดูอีกสักครั้งซิ” หลินอิ่งกล่าวอย่างเย็นชา เขาไม่ได้ปกปิดจิตแห่งการสังหารของตนไว้แม้แต่น้อย

สันดานแบบนี้ของตระกูลกงซุน ไม่ช้าก็เร็วตระกูลกงซุนก็จะพ่ายแพ้ลง กงซุนฉงหลงเองก็แก่จนสับสนไปหมด เขาไม่อาจควบคุมตระกูลกงซุนได้อีกต่อไป

"นาย! " กงซุนฉงหลงตัวสั่น มองดูสายตาที่มีจิตสังหารอันน่าเกรงขามของหลินอิ่ง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจ

พลังนี้เขาไม่ได้เจอมาหลายปีแล้ว

สีหน้าของกงซุนฉงหลงเคร่งเครียดมาก เขาคิดย้อนกลับไปอีกครั้ง เขารู้ว่ากงซุนเฟยเทียนกำลังพูดผิดเป็นถูก และล่วงเกินชายหนุ่มลึกลับคนนี้

คนคนนี้ที่แทนตัวเองว่าหลินอิ่งไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

ความเชื่อมั่นในตนเองที่ไม่เห็นใครในสายตา ไม่ได้มีอย่างง่ายๆ ห้ามล่วงเกินเขาเด็ดขาด

"ไอ้คนแซ่หลิน นายกล้าถามคำถามนายท่านหรือ? นายกำลังรนหาที่ตายเหรออย่างไร?”

"เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ถึงได้กล้าทำตัวเก่งกาจเช่นนี้ในตระกูลกงซุน "

ทุกคนในตระกูลกงซุนต่างตำหนิเขาขึ้นมาด้วยความโกรธ พวกเขารู้สึกถูกดูถูกอย่างมาก

หลินอิ่งดูหมิ่นนายท่านกงซุน นั่นเท่ากับว่าเขากำลังดูถูกทุกคนที่อยู่ในที่นี้

นายคนนี้ช่างอวดดีนัก ต้องรู้ไว้ว่า ทั่วทั้งอาณาจักรประเทศหลุง มีสักกี่คนที่กล้าพูดเช่นนี้กับนายท่าน? แม้แต่ผู้นำตระกูลใหญ่อื่น ๆ ของประเทศหลุงเมื่อพบนายท่านก็ยังต้องทำตัวเคารพท่านเลย

หมอนักต้มตุ๋นที่เสียเงินเชิญมา ก็เป็นเพียงสุนัขที่รับใช้พวกเขาเท่านั้น ยังจะกล้าอวดดีต่อหน้าเจ้านายอีกหรือ?

"รีบคุกเข่าขอโทษนายท่านเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นจะสั่งให้คนมาจัดการนายซะ! " หญิงสาวคนหนึ่งของตระกูลกงซุนกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว และข่มขู่เขา

"พวกเจ้าหุบปากซะ! "

กงซุนฉงหลงตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยสีหน้าความโกรธแล้วมองไปรอบๆ ทุกคนในเหตุการณ์ต่างก็ปิดปากลงอย่างเชื่อฟัง และไม่กล้าที่จะสู้กับความโกรธของนายท่าน

"สหายน้อยหลิน เรื่องนี้อาจจะมีการเข้าใจผิดบางอย่างสินะ" น้ำเสียงของกงซุนฉงหลงอ่อนลงจากเดิม และพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง

ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าหลินอิ่งเป็นคนที่รักษาเขาจนหายดี

หลินอิ่งหัวเราะอย่างเย็นชา ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาหันหลังกลับและคว้าตัวลูเหลียงยู่ไว้ แล้วกระทืบจนเขากระเด็นขึ้นไปกระแทกกับกำแพงและล้มลงกับพื้นอย่างแรง เขากระอักเลือดออกมาจากปากอย่างรุนแรง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

"ถ้านายไม่คุกเข่า ก็กระทืบจนนายคุกเข่าลง! " หลินอิ่งกล่าวอย่างเย็นชา และไม่สนใจคนที่อยู่ในเหตุการณ์

ใช่ เขามีความเชื่อมั่นมากพอที่จะไม่สนใจใคร

ตอนนี้สิ่งที่ต้องการคือลูเหลียงยู่กราบเขา คนอื่นๆ ถ้าใครจะกล้าขวางทางก็จะมีจุดจบเดียวกัน

"เจ้า เจ้า แค่กแค่ก…" สีหน้าของลูเหลียงยู่กลายเป็นสีแดงของตับ เขาตกใจจนตัวสั่นสะท้านทั้งตัว กระเพาะของเขาปั่นป่วน แรงที่เตะมานี้เกือบจะเอาชีวิตเขาไปแล้ว

ปัง!

หลินอิ่งพุ่งเข้าไป และเอาเท้าทั้งสองเหยียบไว้บนร่างกายของเขา ซี่โครงของเขาหักในทันที สีหน้าของลูเหลียงยู่ดูแย่มาก เขาหวาดกลัวอย่างมาก เขาไม่เข้าใจเลยว่าชายหนุ่มคนนี้เอาความกล้าพวกนี้มาจากไหน!

และคนของตระกูลกงซุน ต่างตกตะลึงอย่างมาก พวกเขาอยากจะเรียกคนมาห้ามหลินอิ่งไว้ แต่เพราะอยู่ต่อหน้านายท่าน

นายท่านไม่พูดอะไร ไม่มีใครกล้าที่จะทำอะไร พวกเขาก็สงสัยมากเหมือนกันว่าทำไมนายท่านจึงยอมให้หลินอิ่งทำตัวโอหังและดูหมิ่นเช่นนี้ได้?

"ผมจะนับแค่สามวินาที ถ้าไม่กราบ ก็ตายซะ" หลินอิ่งขี้เกียจจะพูดอะไรมากแล้ว เขาหันกลับมามองกงซุนเฟยเทียนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ สายตานี้ทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน

"หา? "

ลูเหลียงยู่ตกใจจนใจแทบแตกสลาย เมื่อได้ยินว่าหลินอิ่งกำลังจะฆ่าเขา ก็ก็มหน้าลงอย่างไม่เต็มใจ

เดิมทีเขาคิดว่าอาศัยกงซุนเฟยเทียนก็สามารถเอาชนะชายหนุ่มที่ไม่รู้ตายคนนี้ได้ แต่คิดไม่ถึงว่าคนคนนี้จะไร้เหตุผลอย่างสิ้นเชิง แม้แต่กงซุนเฟยเทียนก็ยังโดนเขากระทืบจนคุกเข่าลง แม้แต่นายท่านกงซุนเองก็ไม่กล้าเอ่ยปากแม้แต่คำเดียว

"ผม…อาจารย์หลิน ผมขอโทษครับ ผมขอโทษ ก่อนหน้านี้เป็นการเข้าใจผิดทั้งหมด "ลูเหลียงยู่กราบหลินอิ่งที่กำลังหันหลังอยู่ เพื่อจะได้มีชีวิตอยู่ต่อ เขาไม่มีเวลามาสนใจศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้น อย่างไรเสียเขาก็เป็นเพียงคนที่ไร้ศักดิ์ศรีเท่านั้นเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด