ซุปเปอร์เจ้าสำราญ 372 กำจัดฉู่ซื่อกรุ๊ป

Now you are reading ซุปเปอร์เจ้าสำราญ Chapter 372 กำจัดฉู่ซื่อกรุ๊ป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วันที่สอง

เกาะซิงหวน คฤหาสน์เชียงปิง

ภายในวิลล่าสุดหรู จี้ฉงซานนั่งอยู่บนเก้าอี้ขนาดใหญ่ บนโต๊ะตรงหน้ามีซุปเป็นอาหารเช้าที่พิถีพิถัน

“คุณท่านจี้ หยูจื๋อเฉิงพามาถึงแล้ว”

ชายชาวเอเชียสองคนเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่เย็นชา จับชายวัยกลางที่มีรอยฟกช้ำเต็มตัวไว้

ร่างกายของหยูจื๋อเฉิงเต็มไปด้วยเลือด โดนเฆี่ยนตีจนเนื้อตัวลายไปหมด มือและเท้าถูกโซ่ล่ามเอาไว้ ดูท่าทางทรมานมาก คุกเข่าลงกับไม่สามารถขยับได้

“คุณท่านจี้ พวกเราใช้วิธีมากมายในการทรมานแล้ว แต่ว่าทำยังไงหยูจื๋อเฉิงก็ไม่ยอมเปิดปากพูด แม้แต่ข้อมูลข่าวสารสักนิดก็ไม่ยอมที่จะเปิดเผย”ชายชาวเอเชียพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา

จี้ฉงซานชิมข้าวต้มเล็กน้อย แล้วพูดอย่างช้าๆ “คุณหยู คุณแค่จำเป็นต้องบอกเรื่องของหลินอิ่งให้ฉัน ก็ไม่ต้องมาทนรับความเจ็บปวดและทรมานอย่างนี้แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมพูดล่ะ?”

“นายแค่ให้ความร่วมมือบางเรื่องกับฉัน นายก็จะได้รับความอิสระ กลับไปสู่จุดสูงสุดของชีวิตอีกครั้ง ยังไม่ยินยอมอีกหรอ?”

“ฉันสามารถรับรองได้ว่า ขอแค่นายมาอยู่ฝ่ายฉัน ต้องดีกว่าตอนที่อยู่กับหลินอิ่งแน่นอน”

“หมาแก่อย่างนายกำลังฝันอยู่หรอ”หยูจื๋อเฉิงพูดอย่างเฉยเมย

เขามีบาดแผลเต็มตัว แต่สายตายังคงแหลมคม

ป๊าบ!

ชายชาวเอเชียที่อยู่ด้านข้างก็ยืนมือแล้วตบไปยังหน้าของหยูจื๋อเฉิง ตีจนมุมปากของเขาออกเลือด

“อย่างกับหมา ยังกล้ามาอวดดีต่อหน้าคุณท่านจี้? นายคิดว่ายังเป็นราชาแห่งตี้จิงอีกอยู่หรอ? ตอนนี้นายเป็นแค่หมาตัวหนึ่งที่พวกเราจะจัดการเมื่อไหร่ก็ได้!”ชายชาวเอเชียพูดอย่างเยาะเย้ย

ป๊าบๆๆๆๆ!

ตบทีเดียวเจ็ดแปดครั้ง ตบอย่างหนักๆที่หัวของหยูจื๋อเฉิง ตบจนหัวเขาแตก แต่เขากัดฟันแน่นไม่ยอมพูดอะไร

“หึๆ……” จี้ฉงซานหัวเราะแห้งๆสองครั้ง “สมกับที่เป็นเจ้าพ่อแห่งตี้จิง ถึงขั้นต้องใช้เก้าอี้ไฟฟ้า ยังคงความน่าเกรงขาม”

“นายก็เป็นคนฉลาดคนหนึ่ง ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ในนายยังยึดมั่นอะไรอีก? นายช่วยฉันหลอกล่อหลินอิ่ง บอกข้อมูลเล็กๆน้อยๆ สำหรับนายแล้วนี่เป็นเรื่องง่ายๆ ทำไมนายถึงไม่ยอม?”จี้ฉงซานพูดด้วยใบหน้าที่สงสัย “ธรรมดาของคนเราต้องไล่ตามเงินทองและชื่อเสียงไม่ใช่หรอ? ถ้านายเลือกที่จะอยู่ฝ่ายฉัน แน่นอนว่านายจะได้ผลประโยชน์ที่มากกว่า แต่ไม่ว่าให้ตายนายก็ยังจะเลือกที่จะอยู่กับหลินอิ่ง?”

หยูจื๋อเฉิงแค่ยิ้มเย้ย ไม่ได้สนใจจี้ฉงซาน

ในสายตาของจี้ฉงซานที่เป็นนายทุนรายใหญ่มีแต่ผลประโยชน์ จะไม่เข้าใจว่าความยุติธรรมและความซื่อสัตย์คืออะไร

จี้ฉงซานคนนี้ แม้แต่ประเทศชาติก็ยังสามารถชั่งขายเพื่อแลกกับเงินได้

ดังนั้น คนประเภทนี้ไม่เข้าใจว่าอะไรคือศีลธรรม ความอัปยศ ความเมตตา การตอบแทนบุญคุณ ก็เป็นเรื่องปกติ

“ไม่จักประมาณตน! ลากมันลงไป ทรมานมันต่อไป แต่อย่าให้ถึงกับตาย!”จี้ฉงซานพูดอย่างเยาะเย้ย

ชายชาวเอเชียสองคนลากหยูจื๋อเฉิงออกไป เหลือไว้เพียงรอยเลือดเป็นทาง

ชายชาวเอเชียเพิ่งลากหยูจื๋อเฉิงออกไป ชายหนุ่มที่สวมเสื้อคอจีนก็เดินเข้ามาทางประตู เป็นผู้เฒ่าอายุประมาณห้าสิบกว่า

”หลิวสฺยง ช่วงนี้ในเมืองตี้จิงมีข่าวคราวอะไรมั้ย? สนามบินนานาชาติเมืองก่าง และที่ทางเข้าศุลกากรทางนั้น ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลยหรอ?”จี้ฉงซานพูดอย่างเคร่งขรึม

“คุณจี้ ทางด้านตี้จิงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย หลินอิ่งยังคงทำตัวลึกลับ ไม่ปรากฏตัว ดังนั้นผมก็ไม่แน่ใจว่าเขาได้เดินทางมายังเมืองก่างแล้วหรือยัง” หลิวสฺยงพูดอย่างเคร่งขรึม “เมื่อคืนทางด้านเมืองก่าง ที่ประตูหน้าบ้านของพวกเรา เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย”

“ออ? เกิดอะไรขึ้น?”จี้ฉงซานถาม

เมื่อคืนที่สนามบินนานาชาติเมืองก่าง ลูกชายของเลี่ยวจ้งชิวซิ่งรถที่ถนนในสนามบิน มีปัญหากับคนสองคนที่โหดร้าย สุดท้ายท่านประธานของกลุ่มเตียนหนันฉู่เภสัชกรรมตระกูลฉู่ออกหน้าจัดการ มือหักไปหนึ่งข้าง เพราะเรื่องนี้เลี่ยวจ้งชิวต้องไปขอโทษด้วยตัวเอง”หลิวสฺยงพูดอย่างเคร่งขรึม

“ผมได้ทำการไปสืบเรื่องนี้มาแล้ว ได้ข้อมูลที่สำคัญมาก จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่พวกเราเคยได้มา และวิดีโอที่เราได้จากกล้องวงจรปิดของเมื่อคืน สามารถแน่ใจได้ว่า เมื่อคืนเป็นหลินอิ่งได้พาบอดี้การ์ดมายังเมืองก่างแล้ว”

“หลินอิ่งมาจริงๆด้วย”จี้ฉงซายพูดด้วยสายตาที่มั่นใจ “หึ เจ้าเล็กตระกูลฉี นายคงคิดไม่ถึงสินะ ไม่ว่าจะมีการเคลื่อนไหวใดๆในเมืองก่าง ไม่อาจจะคลาดสายตาของฉันได้”

“ใช่สิ หลิวสฺยง นายแน่ใจใช่ไหมว่าหลิงอิ่งมีความเกี่ยวข้อกับคนของตระกูลฉู่แห่งเตียนหนาน?” จี้ฉงซานขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูอย่างครุ่นคิด

“คุณท่านจี้ มั่นใจได้แน่นอน! เมื่อคืนบอดี้การ์ดข้างกายของหลินอิ่งเป็นคนเริ่มลงมือกับลูกชายของเลี่ยวจ้งชิวก่อน ผ่านไปไม่นาน ท่านประธานของกลุ่มเภสัชกรรมตระกูลฉู่สงซาน ก็เป็นคนพาขบวนรถมาด้วยตัวเอง” หลิวสฺยงพูดอย่างเคร่งขรึม

“ตระกูลฉู่แห่งเตียนหนาน ฉู่สงซาน……” แววตาจี้ฉงซานเป็นประกาย “หึ ฉู่สงซานยังมีความเกี่ยวข้องกับหลินอิ่ง? ตระกูลฉู่แห่งเตียนหนานถือว่าเก่งมากในภูมิภาคตะวันออกฉียงใต้ แต่ว่าในเมืองก่าง ยังไงคำพูดของฉันมีอำนาจมากที่สุด”

การดำรงอยู่ของตระกูลฉู่แห่งเตียนหนานคือสิ่งที่ทำให้จี้ฉงซานกลัว แต่ว่าในพื้นที่ในเมืองก่าง แต่ว่าการดำรงอยู่ของเขาก็เหมือนกับราชาท้องถิ่น

ครุ่นคิดไปสักพัก จี้ฉงซานถาม “ตอนนี้ หลินอิ่งอยู่ไหน?”

“คุณจี้ หาหลินอิ่งไม่เจอแล้ว หลังจากที่ออกจากสนามบินก็หายตัวไปเลย เราได้ทำการกำลังตามลืบอย่างลับๆอยู่”หลิวสฺยงพูดอย่างเคร่งขรึม

จี้ฉงซานพยักหน้าแล้วพูด “รีบหาที่อยู่ของหลินอิ่งออกมา แต่ว่าอย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น นายต้องคอยสังเกตการณ์ของฉู่สงซานตลอดเวลา จับตามองเขาไว้ ในไม่ช้าก็จะเจอหลินอิ่งแน่นอน”

“นอกจากนี้ หลิวสฺยง ตอนนี้นายรีบมาตรการกับกลุ่มเภสัชกรรมตระกูลฉู่ภายในหนึ่งอาทิตย์ ให้พวกเขาไม่มีธุรกิจทำ ทุบหุ้นในตลาดหุ้นของเขาให้หมด!” จี้ฉงซานพูดด้วยสายตาที่เย็นชา “ กล้าที่จะมีความยุ่งเกี่ยวกับหลินอิ่ง ก็อย่าคิดว่าอยู่ในเมืองก่างแล้วจะมีข้าวกิน!”

“ครับ คุณจี้ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย?” หลิวสฺยงก้มหัวแล้วพูด

……

เมืองก่าง เขตเหอผิง หยูติ่งเฉิง

ร้านอาหารผองเฟย ในร้านอาหารสไตล์ตะวันตกที่หรูหรา บนโต๊ะกลมโต๊ะหนึ่ง คริสนั่งอยู่ข้างหนึ่งอยากสงบ ตรงข้ามมีชายวัยกลางที่สวมชุดสูทนั่งอยู่

“คุณหวู่เฟย เงื่อนไขของผมอยู่ในสัญญาการค้าฉบับนี้ ผมเชื่อว่า ทางฝ่ายของคุณไม่มีทางปฏิเสธผมแน่นอน”คริสพูดด้วยรอยยิ้ม

ในมือของหวู่เฟยมีเอกสารฉบับหนึ่ง หน้าตาตื่นตระหนกแล้วพูดว่า ”คุณคริส คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม? คุณจะก่อตั้งบริษัทและพัฒนาต่อในเมืองก่างในนามของคุณเอง? และยังจะซื้อหุ้นของผมในอสังหาริมทรัพย์ผองเฟย?”

“จริงๆแล้ว คุณคริส ถึงแม้ว่าเราจะร่วมงานกันมาหลายปี แต่ว่าเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแข่งขันระหว่างผมและโม่เก๋อติงผมไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย” หวู่เฟยพูดด้วยสีหน้าหนักใจ “อีกอย่าง ในฐานะเพื่อนเก่า ผมสามารถบอกกับคุณโดยตรงว่า ผมไม่เชื่อว่าคุณจะสามารถเอาชนะโม่เก๋อติงในด้านธุรกิจในเมืองก่างได้ แลคุณก็ไม่สามารถแย่งอำนาจการควบคุมลาตินกรุ๊ปในเมืองก่างจากมือของโม่เก๋อติงได้ ในที่นี้ โอกาสที่จะชนะของคุณมีน้อยมาก”

ใบหน้าของคริสยังคงมีรอยยิ้มไว้แล้วพูดว่า “หวู่เฟย เพื่อนเก่าของผม คุณไม่สามารถปฏิเสธผลประโยชน์มากมายมหาศาลที่ผมให้คุณได้หรอก”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด