ตำนานเทพยุทธ์ 23

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 23 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วาจาของแม่เฒ่าที่ดังออกมา สร้างความกราดเกรี้ยวแก่เหล่าอาวุโสทั้งหลายในห้องโถง

แม้กระทั้งอาวุโสหยวนจงที่คิดเห็นเช่นเดียวกับ เหลjาสมาชิกคนอื่นๆ ก็เริ่มหันมาแสยะยิ้มกับเด็กหนุ่มเป่าฮู่เช่นกัน

“คุณชาย ท่านนับว่าเป็นคนที่ใจกล้ามากนัก ที่กล้าล้อเลียนนามท่านผู้นำหย่วนปง

และคิดขู่กรรโชกเราตระกูลหย่วนเรา ในยามที่เราตกต่ำ นับว่าการกระทำนี้ช่างน่ารงเกียจนัก”

เมื่อความจริงใจที่แสดงออกมา กลับไม่อาจทำให้ความโง่เง่าของเหล่าสมาชิกตระกูลหย่วนลดลงไปเลย แต่กลับมองเห็นน้ำใจนั้นเป็นสิ่งอื่นได้ แต่ในเงามืดกลับมีบางสิ่งบางอย่างที่เคลื่อนไหวตามเหตุการณ์เหล่านั้น

ถึงแม้สถานการณ์จะเป็นแบบนั้น แต่เป่าฮู่ยังคงใจเย็นและมองสีหน้าของเหล่าสมาชิกในตระกูลหย่วนอย่างไม่สบอารมณ์

“เฮ้ย! หรือว่าข้าจะถูกตาเฒ่าขอทานนั่นหลอก ฮ่าๆๆๆๆ หยวนปง หยวนปง นามนี้ ฮ่าๆๆๆๆ เอาหละในเมื่อข้าล่งเกินพวกท่านไป ก็ต้องขออภัยที่เข้าใจอะไรผิดๆมา เฮ้ย! เพราะป้ายห่วยๆนี้นี่เองที่ตาเฒ่านั้นมอบมาให้ข้าแสดงเป็นหลักฐาน ทำลายมันให้หายไปซะก็สิ้นเรื่อง”

หลังจากพูดจบเป่าฮู่ก็ออกแรงนึกลมปราณลงไปที่ฝ่ามือพลังปราณเย็นที่หนาแน่นทำให้ป้ายสีดำที่เฒ่าหยวนปงมอบให้กลายเป็นน้ำแข็ง

ก่อนที่สายตาของแม่เฒ่าหย่วนหลิงจะเหลือบมาเห็น นั่นคือป้ายที่เป็นเสมือนกุญแจสู่ความเจริญก้าวหน้าของตระกูลหย่วนอีกครั้ง

แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ทันการเสียแล้ว เพราะว่าน้ำแข็งที่หนาแน่นได้เข้าแทรกทุกอณูของป้ายสีดำดังกล่าว ก่อนที่หย่วนหลิงจะหยุดทุกสิ่งและร้องออกมาห้ามไม่ให้เป่าฮู่ทำในสิ่งที่เด็กหนุ่มพร่ำเพ้อออกมา

(((((อย่า!)))))

เพียงเสียงนั้นดังขึ้นทำให้เหล่าอาวุโสทุกคนที่เคยดูถูกเด็กหนุ่มว่า เข้ามาก่อกวนไร้ยางอาย ได้หันมามองทางต้นเสียงที่กำลังแผดร้องอย่างสุดเสียงของนางเพื่อห้ามเหตุการณ์บางอย่าง

 

แต่สำหรับคนที่เคยละทิ้งโอกาสที่ดีไปแล้วเป่าฮู่ไม่คิดจะเสียเวลาอีก ด้วยการตัดสินใจทำลายป้ายนั้นและก้าวออกไปจากตระกูลหย่วนที่มีสภาพไม่ต่างจากรอวันตายนี้ไป

(((เพล้ง!)))

เสียงแตกออกของป้ายสีดำที่เป็นก้อนน้ำแข็งจากพลังลมปราณของเป่าฮู่ เหล่าอาวุโสทุกคนที่ได้เห็นเศษของป้ายประจำตระกูลตกหล่นสู่พื้น สีหน้าของพวกมันกลับซีดเซียวลงทันที ด้วยความโง่ของพวกมันทำให้เด็กหนุ่มคนนี้ทำลายสิ่งที่พวกมันใช้เวลาทั้งชีวิตตามหา

ในขณะที่โทสะกำลังเดือดพล่านจากภาพที่เห็น หย่วนหลิงหญิงชราผู้ที่มีพลังลมปราณมากที่สุดก็ระเบิดพลังออกมาทันที

“เจ้า! เจ้าสารเลว ข้าบอกให้หยุด ทำไม ทำไม ไม่หยุด”

เมื่อแผนการที่เพียรพยายามมานานได้แหลกสลายไป พร้อมใบหน้าที่ซีดเผือดของเหล่าอาวุโสในตระกูลทั้งหมด

เป่าฮู่ได้ใช้หางตาเหลือบมองสังเกตท่าทางรุกรี้รุกรนของคนเหล่านั้น

“เป็นของจริง เป็นของจริง เจ้า! กล้ามากนัก?”

เพียงการได้พบเจออะไรที่ทำให้จิตใจที่มีบาดแผลเกิดเพลิงโหมกระหน่ำซ้ำเติมเข้าไปอีก

“ฮ่าๆๆๆ ก็ข้าบอกพวกท่านแล้วว่า ข้าพบเจอตาเฒ่าหยวนปง ก็ไม่เชื่อ

และนี่ข้ายังบอกว่าข้าได้รับบางสิ่งมาจากตาเฒ่านั่น  ฮึ! ข้าไม่รู้หรอกว่า ป้ายนั้นสำคัญอย่างไรแต่สำหรับข้ามันคือส่วนหนึ่งของชีวิตที่ผ่านพ้นเท่านั้น ในเมื่อพวกท่านไม่แม้แต่จะผูกมิตร ดังนั้น ข้าขอกล่าวนะที่แห่งนี้ตระกูลหย่วนจะไม่ได้รับไมตรีจากข้าอีก”

หลังจากกล่าวจบ สายลมที่พัดย้อนกลับมาทางเดิมทำให้กลิ่นอายของยอดฝีมือคละคลุ้งในบริเวณพื้นที่

“ระดับราชันลมปราณขั้นสูง”

ความกดดันที่แผ่ออกมาจากทางเข้าประตูทำให้เป่าฮู่ชะงักลง และไม่นานก็มีร่างเงาร่างหนึ่งที่ค่อยๆปรากฏตัว พร้อมเสียงที่ดังกังวานในห้องโถงใหญ่นั้น

“พวกโง่เง่าไร้สมอง ข้าฝากของมากับอัจฉริยะคนหนึ่ง แทนที่จะมองดูให้ถี่ถ้วนกลับลงมือกระทำในสิ่งที่ชั่วช้า ฉ่าๆๆๆ สมควรแล้วที่ข้าละทิ้งตระกูลไปท่องโลกกว้าง”

เสียงของชายผู้น่ายำเกรงปลดปล่อยพลังขั้นสูงออกมา แม้แต่เป่าฮู่ยังรู้สึกอึดอัด

แต่เป่าฮู่ผู้มีสายตาที่หนักแน่นและเฉียบคมได้เห็น ชายชราคนเดิมคนนั้น

“ตาเฒ่าหย่วน เป็นท่าน”

หลังจากที่ชายชราปรากฏตัวเหล่าสมาชิกในตระกูลหย่วน ที่ไม่เห็นใบหน้าของเทพพยากรณ์หย่วนปงคนนั้นมาหลายปี ก็แสดงอาการที่น่าเวทนาออกมา

เข่าที่หนักดั่งขุนเขาก็ ทรุดกายลงไปที่พื้นจนแตกระแหง รวมถึงหย่วนหลิงที่นำพาตนเองมาสู่การปกครองตระกูล และสิ่งนั้นคือความไม่ปรารถนาของหย่วนปง

“ท่านผู้นำ”

เพียงเท่านั้นทุกสิ่งก็ดับสูญ เพราะว่าตัวเป่าฮู่เองก็ตกใจที่ตาเฒ่าที่เป็นเพียงขอทานในวันนั้นกลับเป็นยอดคนงำประกาย ในยุคสมัยนี้ย่อมต้องหาวิถีการยาม

แต่ด้วยสติปัญญาทำให้เป่าฮู่ได้พยายามหาทางออก แต่ในตอนนั้นเองที่

หย่วนปงกลับเดินเข้ามาที่เบื้องหน้าเป่าฮู่

“พบกันอีกครั้งแล้วนะ พ่อหนุ่ม ข้าไม่คิดว่า เจ้าจะใช้วิธีนี้ทดสอบน้ำใจคนตระกูลของข้า ฮ่าๆๆๆๆ ข้าต้องขออภัยเจ้าด้วยที่คนในตระกูลข้า มันมีแต่พวกโง่ สมองกรวงที่มองไม่เห็นเช่นที่ข้าเห็น เอาหละข้าตัดสินใจแล้วจากนี้ข้าจะเฝ้ามองดูว่า คนในคำทำนายของข้า

จะก้าวไปด้านหน้าอย่างไรต่อไป”

 

จากนั้นเฒ่าหยวนปงก็หันไปทาง ภรรยาของตนเองก่อนที่จะทอดสายตาที่เหนื่อยหน่ายจิตใจแก่นางผู้เป็นภรรยา

“ส่วนเจ้า น้องหญิง กี่ปีเจ้าก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ที่ข้าจากตระกูลไปและปล่อยให้พวกเจ้าเผชิญทุกสิ่งอย่างกันเองเจ้ายัง ตอนนี้หมดเวลาของเจ้าแล้ว”

 

เมื่อเฒ่าหย่วนปงหวนคิดขึ้นได้ว่า เรื่องนี้ไม่น่าให้คนนอกได้ยินได้ฟังเรื่องเน่าเหม็นของตระกูล จึงหันไปสั่งหยวนจง อาวุโสที่นำพาคุณชายเป่าฮู่ เข้ามาที่ตระกูล

“ส่วนเจ้า จงพาคุณชายท่านนี้ ไปพักผ่อนที่ห้องรับรองของตระกูลใช้ทุกสิ่งอย่างที่มีรับรองคุณชายแห่งตระกูลหงคนนี้ซะ”

เป่าฮู่ได้ยินดังนั้น ก็ยกยิ้มและมองไปยังชายชราก่อนที่จะกล่าวสิ่งหนึ่งออกมา

“เมื่อท่านผู้เป็นเจ้าบ้าน ไม่ได้กลับมาบ้านของตนเองนานมากแล้ว ดังนั้น ข้าที่ตอนนี้เป็นเจ้าของโรงเตี๊ยมที่นอกเมือง หากท่านจัดการทุกอย่างจบแล้ว ก็ไปเยี่ยมข้าได้ที่นั่น”

จากนั้นเป่าฮู่หันหลังเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ทำให้หย่วนปงและเหล่าอาวุโสของตระกูลหย่วน มองตามเด็กหนุ่มคนนั้นด้วยหลากหลายความคิด

หลังจากเป่าฮู่จากไป หย่วนปงก็หันมาสั่งการคนในตระกูลทันที

“พวกโง่ ไร้สมอง ทั้งหลาย วันๆไม่เคยที่คิดจะช่วยกันยกระดับตระกูล กลับยอมขายศักดิ์ศรีให้แก่ตระกูลเร่อ เพียงเพราะของนอกกาย ใครเป็นผู้อาวุโสคุมกฎตระกูลในตอนนี้?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ตำนานเทพยุทธ์ 23

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 23 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วาจาของแม่เฒ่าที่ดังออกมา สร้างความกราดเกรี้ยวแก่เหล่าอาวุโสทั้งหลายในห้องโถง

แม้กระทั้งอาวุโสหยวนจงที่คิดเห็นเช่นเดียวกับ เหลjาสมาชิกคนอื่นๆ ก็เริ่มหันมาแสยะยิ้มกับเด็กหนุ่มเป่าฮู่เช่นกัน

“คุณชาย ท่านนับว่าเป็นคนที่ใจกล้ามากนัก ที่กล้าล้อเลียนนามท่านผู้นำหย่วนปง

และคิดขู่กรรโชกเราตระกูลหย่วนเรา ในยามที่เราตกต่ำ นับว่าการกระทำนี้ช่างน่ารงเกียจนัก”

เมื่อความจริงใจที่แสดงออกมา กลับไม่อาจทำให้ความโง่เง่าของเหล่าสมาชิกตระกูลหย่วนลดลงไปเลย แต่กลับมองเห็นน้ำใจนั้นเป็นสิ่งอื่นได้ แต่ในเงามืดกลับมีบางสิ่งบางอย่างที่เคลื่อนไหวตามเหตุการณ์เหล่านั้น

ถึงแม้สถานการณ์จะเป็นแบบนั้น แต่เป่าฮู่ยังคงใจเย็นและมองสีหน้าของเหล่าสมาชิกในตระกูลหย่วนอย่างไม่สบอารมณ์

“เฮ้ย! หรือว่าข้าจะถูกตาเฒ่าขอทานนั่นหลอก ฮ่าๆๆๆๆ หยวนปง หยวนปง นามนี้ ฮ่าๆๆๆๆ เอาหละในเมื่อข้าล่งเกินพวกท่านไป ก็ต้องขออภัยที่เข้าใจอะไรผิดๆมา เฮ้ย! เพราะป้ายห่วยๆนี้นี่เองที่ตาเฒ่านั้นมอบมาให้ข้าแสดงเป็นหลักฐาน ทำลายมันให้หายไปซะก็สิ้นเรื่อง”

หลังจากพูดจบเป่าฮู่ก็ออกแรงนึกลมปราณลงไปที่ฝ่ามือพลังปราณเย็นที่หนาแน่นทำให้ป้ายสีดำที่เฒ่าหยวนปงมอบให้กลายเป็นน้ำแข็ง

ก่อนที่สายตาของแม่เฒ่าหย่วนหลิงจะเหลือบมาเห็น นั่นคือป้ายที่เป็นเสมือนกุญแจสู่ความเจริญก้าวหน้าของตระกูลหย่วนอีกครั้ง

แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ทันการเสียแล้ว เพราะว่าน้ำแข็งที่หนาแน่นได้เข้าแทรกทุกอณูของป้ายสีดำดังกล่าว ก่อนที่หย่วนหลิงจะหยุดทุกสิ่งและร้องออกมาห้ามไม่ให้เป่าฮู่ทำในสิ่งที่เด็กหนุ่มพร่ำเพ้อออกมา

(((((อย่า!)))))

เพียงเสียงนั้นดังขึ้นทำให้เหล่าอาวุโสทุกคนที่เคยดูถูกเด็กหนุ่มว่า เข้ามาก่อกวนไร้ยางอาย ได้หันมามองทางต้นเสียงที่กำลังแผดร้องอย่างสุดเสียงของนางเพื่อห้ามเหตุการณ์บางอย่าง

 

แต่สำหรับคนที่เคยละทิ้งโอกาสที่ดีไปแล้วเป่าฮู่ไม่คิดจะเสียเวลาอีก ด้วยการตัดสินใจทำลายป้ายนั้นและก้าวออกไปจากตระกูลหย่วนที่มีสภาพไม่ต่างจากรอวันตายนี้ไป

(((เพล้ง!)))

เสียงแตกออกของป้ายสีดำที่เป็นก้อนน้ำแข็งจากพลังลมปราณของเป่าฮู่ เหล่าอาวุโสทุกคนที่ได้เห็นเศษของป้ายประจำตระกูลตกหล่นสู่พื้น สีหน้าของพวกมันกลับซีดเซียวลงทันที ด้วยความโง่ของพวกมันทำให้เด็กหนุ่มคนนี้ทำลายสิ่งที่พวกมันใช้เวลาทั้งชีวิตตามหา

ในขณะที่โทสะกำลังเดือดพล่านจากภาพที่เห็น หย่วนหลิงหญิงชราผู้ที่มีพลังลมปราณมากที่สุดก็ระเบิดพลังออกมาทันที

“เจ้า! เจ้าสารเลว ข้าบอกให้หยุด ทำไม ทำไม ไม่หยุด”

เมื่อแผนการที่เพียรพยายามมานานได้แหลกสลายไป พร้อมใบหน้าที่ซีดเผือดของเหล่าอาวุโสในตระกูลทั้งหมด

เป่าฮู่ได้ใช้หางตาเหลือบมองสังเกตท่าทางรุกรี้รุกรนของคนเหล่านั้น

“เป็นของจริง เป็นของจริง เจ้า! กล้ามากนัก?”

เพียงการได้พบเจออะไรที่ทำให้จิตใจที่มีบาดแผลเกิดเพลิงโหมกระหน่ำซ้ำเติมเข้าไปอีก

“ฮ่าๆๆๆ ก็ข้าบอกพวกท่านแล้วว่า ข้าพบเจอตาเฒ่าหยวนปง ก็ไม่เชื่อ

และนี่ข้ายังบอกว่าข้าได้รับบางสิ่งมาจากตาเฒ่านั่น  ฮึ! ข้าไม่รู้หรอกว่า ป้ายนั้นสำคัญอย่างไรแต่สำหรับข้ามันคือส่วนหนึ่งของชีวิตที่ผ่านพ้นเท่านั้น ในเมื่อพวกท่านไม่แม้แต่จะผูกมิตร ดังนั้น ข้าขอกล่าวนะที่แห่งนี้ตระกูลหย่วนจะไม่ได้รับไมตรีจากข้าอีก”

หลังจากกล่าวจบ สายลมที่พัดย้อนกลับมาทางเดิมทำให้กลิ่นอายของยอดฝีมือคละคลุ้งในบริเวณพื้นที่

“ระดับราชันลมปราณขั้นสูง”

ความกดดันที่แผ่ออกมาจากทางเข้าประตูทำให้เป่าฮู่ชะงักลง และไม่นานก็มีร่างเงาร่างหนึ่งที่ค่อยๆปรากฏตัว พร้อมเสียงที่ดังกังวานในห้องโถงใหญ่นั้น

“พวกโง่เง่าไร้สมอง ข้าฝากของมากับอัจฉริยะคนหนึ่ง แทนที่จะมองดูให้ถี่ถ้วนกลับลงมือกระทำในสิ่งที่ชั่วช้า ฉ่าๆๆๆ สมควรแล้วที่ข้าละทิ้งตระกูลไปท่องโลกกว้าง”

เสียงของชายผู้น่ายำเกรงปลดปล่อยพลังขั้นสูงออกมา แม้แต่เป่าฮู่ยังรู้สึกอึดอัด

แต่เป่าฮู่ผู้มีสายตาที่หนักแน่นและเฉียบคมได้เห็น ชายชราคนเดิมคนนั้น

“ตาเฒ่าหย่วน เป็นท่าน”

หลังจากที่ชายชราปรากฏตัวเหล่าสมาชิกในตระกูลหย่วน ที่ไม่เห็นใบหน้าของเทพพยากรณ์หย่วนปงคนนั้นมาหลายปี ก็แสดงอาการที่น่าเวทนาออกมา

เข่าที่หนักดั่งขุนเขาก็ ทรุดกายลงไปที่พื้นจนแตกระแหง รวมถึงหย่วนหลิงที่นำพาตนเองมาสู่การปกครองตระกูล และสิ่งนั้นคือความไม่ปรารถนาของหย่วนปง

“ท่านผู้นำ”

เพียงเท่านั้นทุกสิ่งก็ดับสูญ เพราะว่าตัวเป่าฮู่เองก็ตกใจที่ตาเฒ่าที่เป็นเพียงขอทานในวันนั้นกลับเป็นยอดคนงำประกาย ในยุคสมัยนี้ย่อมต้องหาวิถีการยาม

แต่ด้วยสติปัญญาทำให้เป่าฮู่ได้พยายามหาทางออก แต่ในตอนนั้นเองที่

หย่วนปงกลับเดินเข้ามาที่เบื้องหน้าเป่าฮู่

“พบกันอีกครั้งแล้วนะ พ่อหนุ่ม ข้าไม่คิดว่า เจ้าจะใช้วิธีนี้ทดสอบน้ำใจคนตระกูลของข้า ฮ่าๆๆๆๆ ข้าต้องขออภัยเจ้าด้วยที่คนในตระกูลข้า มันมีแต่พวกโง่ สมองกรวงที่มองไม่เห็นเช่นที่ข้าเห็น เอาหละข้าตัดสินใจแล้วจากนี้ข้าจะเฝ้ามองดูว่า คนในคำทำนายของข้า

จะก้าวไปด้านหน้าอย่างไรต่อไป”

 

จากนั้นเฒ่าหยวนปงก็หันไปทาง ภรรยาของตนเองก่อนที่จะทอดสายตาที่เหนื่อยหน่ายจิตใจแก่นางผู้เป็นภรรยา

“ส่วนเจ้า น้องหญิง กี่ปีเจ้าก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ที่ข้าจากตระกูลไปและปล่อยให้พวกเจ้าเผชิญทุกสิ่งอย่างกันเองเจ้ายัง ตอนนี้หมดเวลาของเจ้าแล้ว”

 

เมื่อเฒ่าหย่วนปงหวนคิดขึ้นได้ว่า เรื่องนี้ไม่น่าให้คนนอกได้ยินได้ฟังเรื่องเน่าเหม็นของตระกูล จึงหันไปสั่งหยวนจง อาวุโสที่นำพาคุณชายเป่าฮู่ เข้ามาที่ตระกูล

“ส่วนเจ้า จงพาคุณชายท่านนี้ ไปพักผ่อนที่ห้องรับรองของตระกูลใช้ทุกสิ่งอย่างที่มีรับรองคุณชายแห่งตระกูลหงคนนี้ซะ”

เป่าฮู่ได้ยินดังนั้น ก็ยกยิ้มและมองไปยังชายชราก่อนที่จะกล่าวสิ่งหนึ่งออกมา

“เมื่อท่านผู้เป็นเจ้าบ้าน ไม่ได้กลับมาบ้านของตนเองนานมากแล้ว ดังนั้น ข้าที่ตอนนี้เป็นเจ้าของโรงเตี๊ยมที่นอกเมือง หากท่านจัดการทุกอย่างจบแล้ว ก็ไปเยี่ยมข้าได้ที่นั่น”

จากนั้นเป่าฮู่หันหลังเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ทำให้หย่วนปงและเหล่าอาวุโสของตระกูลหย่วน มองตามเด็กหนุ่มคนนั้นด้วยหลากหลายความคิด

หลังจากเป่าฮู่จากไป หย่วนปงก็หันมาสั่งการคนในตระกูลทันที

“พวกโง่ ไร้สมอง ทั้งหลาย วันๆไม่เคยที่คิดจะช่วยกันยกระดับตระกูล กลับยอมขายศักดิ์ศรีให้แก่ตระกูลเร่อ เพียงเพราะของนอกกาย ใครเป็นผู้อาวุโสคุมกฎตระกูลในตอนนี้?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+