ตำนานเทพยุทธ์ 85

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 85 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อการเดินทางของหนึ่งหญิงหนึ่งชาย ผู้ที่ทะยานขึ้นมาเหนือท้องฟ้า สร้างความตื่นตะลึงแก่หญิงสาว ผู้หนึ่งที่ไม่คาดคิดว่าตนจะได้โบยบินทะยานร่างกลางอากาศเหนือมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ เฉกเช่นนั่งบนเรือเหาะนาวาปราณชื่นชมทิวทัศน์ได้

การวิวัฒนาการของมังกรเขียวทำเอาเป่าฮู่ตกตลึงไปมากเช่นกัน จากงูยักษ์กลับกลายเป็นมังกรและยังมีความสามารถทะยานเหนือชั้นฟ้าได้ดั่งเทพเซียน การที่ราชาอสรพิษฟ้าครามดูดซับไอ้จากหยกสวรรค์สร้างปรากฏการณ์ที่เป่าฮู่ไม่อาจที่จะคาดเดาพลังใหม่ๆที่มังกรเขียวสามารถมีได้

“เป็นเช่นไรซิวหยู วันนี้ข้าไม่ต้องพึ่งพาเรือเหาะนาวาปราณนั้นอีกแล้ว ตอนนี้เราสามารถลอยตัวขึ้นมาเหนือระดับที่พวกเรือเหาะนาวาปราณทั้งหลายจะขึ้นมาถึงได้ ข้ายังสามารถใช้เกราะลมปราณของตัวข้าเองคุ้มครองเจ้าจากแรงกดดันของฟ้าดินที่ด้านบนนี้ได้ด้วย”

 

แต่เมื่อเป่าฮู่ได้เริ่มสัมผัสและรับรู้รอบกาย จนสัมผัสได้ว่าด้านบนนี้ช่างมีลมปราณหยางที่ร้อนแรงอย่างมากทำห้ผู้ที่ฝึกลมปราณหยางสามารถฉกฉวยโอกาสนี้ได้หากสามารถลอยตัวอยู่บนชั้นฟ้านี้นานพอ

“ว่าแต่เจ้าลองดูดซับลมปราณฟ้าดินที่ด้านบนนี้ดู หากมันช่วยเจ้าให้ยกระดับขึ้นมาได้บ้าง ข้าว่านับมีประโยชน์ยิ่งนัก”

คำกล่าวนี้ทำหย่วนชิวหยูรู้สึกได้ว่า พอตัวนางได้ขึ้นมาด้านบนนี้ นางรู้สึกว่าตัวนางที่เคยอ่อนแรงกลับมีเรี่ยวแรงและความรู้สึกอบอุ่นใจและสบายตัวมากขึ้น พลังจากดวงอาทิตย์ทำให้นางสามารถรับรู้ถึงตัวตนและพลังที่ซ่อนอยู่ในสายเลือดได้

เพียงการลองสัมผันพลังลมปราณจากฟ้าดินที่มีดวงอาทิตย์เป็นตัวส่งผ่าน พลังหยางที่ร้อนแรงนี้

หย่วนซิวหยูนางหลับตาลงเปิดสัมผัสรับรู้ถึงพลังปราณฟ้าดินที่กำลังไหลเข้ามาสู่ตัวนาง พรสวรรค์ที่ถูกกดทับไว้ พรั่งพรู เพียงนางเปิดสัมผัสให้ลมปราณหยางจากรอบกายไหลเข้าส่ร่างของนาง

“อัศจรรย์…..น่าอัศจรรย์นัก ซิวหยู เจ้า! เจ้า! มีสัญลักษณ์บางอย่างลอยเหนือหัวของเจ้า”

คำกล่าวนั้นทำให้หย่วนซิวหยูเข้าใจว่าสิ่งที่นายท่านขอนางกล่าวถึง อาจเป็นสิ่งที่เทพธิดาที่แท้จริงของแดนใต้หรือผู้ที่มีคุณสมบัติที่แท้จริงถึงได้รับรู้ ตามตำนานกล่าวไว้มีเพียง 2 ตัวตนที่จะได้รับรู้ถึงจิตวิญญาณหงส์เพลิง หนึ่งคือพญาหงส์ผู้ปกปักษ์ปฐพีหงส์เพลิงกายศักดิ์สิทธิ์

แต่อีกหนึ่งที่มาพร้อมกับโชคชะตาที่นำพา พญาหงส์เพลิงเทวะสัตว์ในตำนานที่มีจิตวิญญาณอันแรงกล้าเป็นของตนเอง วิหคอมตะที่ว่าฆ่าไม่ตายเพียงที่ใดมีเปลวเพลิงพลังชีวิตของผู้ครอบครองจะลุกโชนอีกครั้ง หากดวงจิตไม่แหลกสลายไปสู่สายธารแห่งการดับสูญ

เพียงหย่วนซิวหยูกำลังหลับตาสัมผัสกับลมปราณฟ้าดิน อีกทิศทางหนึ่ง ณ พื้นดินที่กว้างใหญ่ ด้วยอำนาจของตระกูลเร่อ ทำให้ผู้ดำรงตำแหน่งที่สัตว์อสูรคู่บารมีของเทพธิดาหงส์เพลิงสถิตอยู่ ตระกูลเร่อที่บัดนี้เร่อเว่ยซูได้ออกเรือฝ่าคลื่นลมที่โหมกระหน่ำไปยังเกาะเจ้าแห่งเพลิง

เพื่อจับอสูรหงส์เพลิงกายศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน เจ้าแห่งพื้นพิภพ ว่าเปลวเพลิงใดในโลกนี้ก็ไม่อาจจะสยบพญาหงส์ตนนี้ได้ หากเว้นแต่คู่ที่สวรรค์สร้างสรรค์มา หงส์เพลิงเทวะในตำนาน อันบันทึกได้กล่าวไว้ว่าหาพบยากที่สุด

เมื่อเร่อเว่ยซูได้มาเยือนยังเกาะเจ้าแห่งเพลิง ด้วยดวงชะตาของเทพธิดาหงส์เพลิงของนางทำให้นางสัมผัสได้ถึงสัตว์คู่บารมีและได้พบกับ พญาหงส์กายศักดิ์สิทธิ์วัยฟักตัว เพราะนางได้ใช้เลือดของนางปลุกให้พญาหงส์กำเนิดออกมาจากไข่ใบยักษ์นั่นเอง

เช่นเดียวกับซิวหยูที่ดูดซับลมปราณหยางจนระดับของนางได้เพิ่มพูนขึ้นมาจาก ลมปราณที่ด้อยค่าจนเพิ่มพูนมาจนถึงราชาลมปราณขั้นปลาย ซึ่งเป็นการทะลวงลมปราณ แต่เมื่อนางได้ดูดซับลมปราณจนสีหน้าของนางเริ่มซีดเผือดลง เป่าฮู่ก็กล่าวต่อมังกรเขียวออกไป

“เจ้ามังกรเขียว เจ้าพอตรวจสอบได้หรือไมว่าใกล้ๆนี้มีที่ใดพอให้เราทั้งหมดพักได้ โดยไม่เป็นที่ถูกตรวจพบโดยง่าย?”

เพียงมังกรเขียวได้ฟังก็ได้ใช้สัมผัสมังกร ความสามารถใหม่ที่ได้มาหลังกลายเป็นมังกรและสิ่งที่พบก็คือ ดินแดนลอยฟ้าแห่งหนึ่งที่ลอยอยู่เหนือทะเลอันกว้างใหญ่ เหนือรูหนอนยักษ์ที่ ชาวบ้านไม่กล้าออกเรือล่าอสูรแถวนั้น เพราะสถานที่แห่งนั้นด้านล่างมีน้ำวนที่กว้างกว่า 1 ข้าสัมผัสถึงกลิ่นอายสัตว์อสูรชั้นสูง มันคือสัตว์บรรพกาล”

เป่าฮู่ได้ฟังก็คิดว่าหากไปยังที่แห่งนั้นย่อมเกิดอันตรายเป็นแน่ แต่เพียงซิวหยูได้ฟังนางก็มั่นใจภาพที่นางเห็นก่อนที่ใบหน้าของนางจะซีดเผือดลงนั้นคือดวงตาสีเหลืองทองที่มองนางมาจากทิศทางนั้น

“นายท่านช่วยพาข้าไปยังที่แห่งนั้น ข้าเชื่อว่ามีบางสิ่งเรียกร้องใหญ้ข้าไปยังสถานที่ลึกลับแห่งนั้น เจ้าคะ”

เป่าฮู่ไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองต้องออกนอกแผนการเพราะพบเจอเรื่องไม่คาดฝันอีกครั้ง หรือหากเป็นสุสานบรรพกาลอีกแห่งที่ลอยฟ้าอยู่คงทำให้ตัวของเป่าฮู่ยกยิ้มดั่งถูกโชคครั้งใหญ่

“เอาหละมังกรเขียวพานางไปที่นั่นกัน ส่วนตอนนี้ข้าเองคงต้องดูดซับพลังจากเจ้าหยกชิ้นนี้อีกครั้งระหว่างนี้ ช่วยดูแลนางด้วยท่านเต่าเทพ”

คำกล่าวนั้นทำให้เจ้าเต่าบ้ายอได้ออกมาทำหน้าที่อย่างสง่างาม และมังกรเขียวก็ลอย ล่องบนนภาไปยังสถานที่แห่งนั้น

หยกสวรรค์ที่เหลือ ทำให้เป่าฮู่มีทรัพยากรที่ไม่จำกัด ก้อนหยกชิ้นเท่าหัวแม่มือหลังจากถูกกัดกินไปเสีย 3 ใน 4 ของขนาดของมัน ด้วยผลงานของสองร่างอสูรข้างกายทำให้เป่าฮู่เหลือหยกสวรรค์อีกจำนวน 300 กว่าก้อน และจำนวนมากขนาดนั้น สร้างกองทัพราชันลมปราณมากกว่า 100 คนยังได้

แต่เป่าฮู่กลับคิดว่าของที่มากด้วยคุณค่าเช่นนี้ ล้วนแต่นำภัยมาให้ ให้รู้น้อยคนได้ยิ่งดีและหาคนที่ไว้ใจพัฒนาคนเหล่านั้น ให้กลายเป็นยอดคน เป่าฮู่คิดจะสร้างห้องฝึกตนที่เหล่าสมาชิกในตระกูลหรือแม้แต่นิกายเสวียนอู่จะใช้ได้ในอนาคต ด้วยพลังที่มากมายที่แผ่ออกมาจากหยกสวรรค์เหล่านี้

 

เพียงการเดินทางมาอย่างรวดเร็ว เป่าฮู่ดูดซับพลังจากหยกสวรรค์ได้ไม่นาน ร่างกายที่ดูดซับลมปราณ ฟ้าดินจำนวนเข้าไปยังไม่ได้ย่อยสลาย ภาพเกาะที่งดงามและยิ่งใหญ่เบื้อหน้าก็ปรากฏ

“ยอดที่สุด! ยังมีสถานที่แบบนี้ได้เช่นไร เกาะที่ลอยตัวขึ้นมาจากทะเลได้”

เมื่อเป่าฮู่เลือกที่จะเก็บพลังลมปราณมากมายในร่างไว้ที่ตันเถียนและยังไม่ย่อยพลังนั้นให้เสถียรในตอนนี้ กลับเดินลงมาพร้อมหย่วนซิวหยู ที่สถานที่โบราณแห่งนี้

เพียงซิวหยูเหยียบย่ำลงไปที่พื้นดินบนเกาะ นางเห็นภาพสถานที่อันนางคุ้นเคยนางกลับหันหน้าไปทางยอดของซากโบราณสถานกลางฟ้าแห่งนี้ ด้วยความรู้สึกเข้าใจในสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดีสร้างความประหลาดใจแก่เป่าฮู่เป็นอย่างมาก

“ซิวหยูเจ้าเหมือนคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้?”

ตัวซิวหยูได้มองเห็นภาพเหมือนนิมิต และดวงตาสีทองที่ชี้นำนั้นช่างดูคุ้นเคย หลังจากที่พินิจพิจารณามากยิ่งขึ้น

“เรียนนายท่านตามตรงเรื่องนั้นซิวหยูเองก็อธิบายไม่ถูก เหมือนว่าเคยอยู่ ยังที่แห่งนี้มานาน”

 

เป่าฮู่ได้ฟังก็ไม่อยากขัดจังหวะของนาง เพียงเดินตามนางไปจนในที่สุดการเดินเข้ามายังโบราณสถานที่มีสิ่งก่อสร้างลึกลับตั้งตระหง่านอยู่ เตาอักขระที่รับรู้ถึงม่านอักขระเฉพาะทำให้ต้องกล่าวห้ามนายของมันไว้

“เจ้าหนุ่มอย่าได้ก้าวเท้าเหยียบไปในนั้น นั่นเป็นเขตแดนเฉพาะ ที่บางคนสร้างไว้มีเพียงคนที่ถูกเลือกเท่านั้นที่จะเข้าไปได้”

เป่าฮู่ได้เห็นเท้าของซิวหยูก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่เป็นอะไร แสดงว่านางคือคนที่สวรรค์เลือก และตัวนางเองก็เลือกที่จะเข้าไปข้างในเพื่อที่จะทำในสิ่งที่ดวงตาสีเหลืองนั้นบอกกล่าวนาง

ก่อนไปเป่าฮู่ที่รู้ว่านางต้องไปก็มอบหยกสวรรค์ให้นาง 1 ก้อนและบอกให้นางเก็บไว้ในแหวนเก็บของ หากจำเป็นก็ค่อยนำออกมาดูดซับพลังจากมัน เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปเปล่าประโยชน์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ตำนานเทพยุทธ์ 85

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 85 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อการเดินทางของหนึ่งหญิงหนึ่งชาย ผู้ที่ทะยานขึ้นมาเหนือท้องฟ้า สร้างความตื่นตะลึงแก่หญิงสาว ผู้หนึ่งที่ไม่คาดคิดว่าตนจะได้โบยบินทะยานร่างกลางอากาศเหนือมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ เฉกเช่นนั่งบนเรือเหาะนาวาปราณชื่นชมทิวทัศน์ได้

การวิวัฒนาการของมังกรเขียวทำเอาเป่าฮู่ตกตลึงไปมากเช่นกัน จากงูยักษ์กลับกลายเป็นมังกรและยังมีความสามารถทะยานเหนือชั้นฟ้าได้ดั่งเทพเซียน การที่ราชาอสรพิษฟ้าครามดูดซับไอ้จากหยกสวรรค์สร้างปรากฏการณ์ที่เป่าฮู่ไม่อาจที่จะคาดเดาพลังใหม่ๆที่มังกรเขียวสามารถมีได้

“เป็นเช่นไรซิวหยู วันนี้ข้าไม่ต้องพึ่งพาเรือเหาะนาวาปราณนั้นอีกแล้ว ตอนนี้เราสามารถลอยตัวขึ้นมาเหนือระดับที่พวกเรือเหาะนาวาปราณทั้งหลายจะขึ้นมาถึงได้ ข้ายังสามารถใช้เกราะลมปราณของตัวข้าเองคุ้มครองเจ้าจากแรงกดดันของฟ้าดินที่ด้านบนนี้ได้ด้วย”

 

แต่เมื่อเป่าฮู่ได้เริ่มสัมผัสและรับรู้รอบกาย จนสัมผัสได้ว่าด้านบนนี้ช่างมีลมปราณหยางที่ร้อนแรงอย่างมากทำห้ผู้ที่ฝึกลมปราณหยางสามารถฉกฉวยโอกาสนี้ได้หากสามารถลอยตัวอยู่บนชั้นฟ้านี้นานพอ

“ว่าแต่เจ้าลองดูดซับลมปราณฟ้าดินที่ด้านบนนี้ดู หากมันช่วยเจ้าให้ยกระดับขึ้นมาได้บ้าง ข้าว่านับมีประโยชน์ยิ่งนัก”

คำกล่าวนี้ทำหย่วนชิวหยูรู้สึกได้ว่า พอตัวนางได้ขึ้นมาด้านบนนี้ นางรู้สึกว่าตัวนางที่เคยอ่อนแรงกลับมีเรี่ยวแรงและความรู้สึกอบอุ่นใจและสบายตัวมากขึ้น พลังจากดวงอาทิตย์ทำให้นางสามารถรับรู้ถึงตัวตนและพลังที่ซ่อนอยู่ในสายเลือดได้

เพียงการลองสัมผันพลังลมปราณจากฟ้าดินที่มีดวงอาทิตย์เป็นตัวส่งผ่าน พลังหยางที่ร้อนแรงนี้

หย่วนซิวหยูนางหลับตาลงเปิดสัมผัสรับรู้ถึงพลังปราณฟ้าดินที่กำลังไหลเข้ามาสู่ตัวนาง พรสวรรค์ที่ถูกกดทับไว้ พรั่งพรู เพียงนางเปิดสัมผัสให้ลมปราณหยางจากรอบกายไหลเข้าส่ร่างของนาง

“อัศจรรย์…..น่าอัศจรรย์นัก ซิวหยู เจ้า! เจ้า! มีสัญลักษณ์บางอย่างลอยเหนือหัวของเจ้า”

คำกล่าวนั้นทำให้หย่วนซิวหยูเข้าใจว่าสิ่งที่นายท่านขอนางกล่าวถึง อาจเป็นสิ่งที่เทพธิดาที่แท้จริงของแดนใต้หรือผู้ที่มีคุณสมบัติที่แท้จริงถึงได้รับรู้ ตามตำนานกล่าวไว้มีเพียง 2 ตัวตนที่จะได้รับรู้ถึงจิตวิญญาณหงส์เพลิง หนึ่งคือพญาหงส์ผู้ปกปักษ์ปฐพีหงส์เพลิงกายศักดิ์สิทธิ์

แต่อีกหนึ่งที่มาพร้อมกับโชคชะตาที่นำพา พญาหงส์เพลิงเทวะสัตว์ในตำนานที่มีจิตวิญญาณอันแรงกล้าเป็นของตนเอง วิหคอมตะที่ว่าฆ่าไม่ตายเพียงที่ใดมีเปลวเพลิงพลังชีวิตของผู้ครอบครองจะลุกโชนอีกครั้ง หากดวงจิตไม่แหลกสลายไปสู่สายธารแห่งการดับสูญ

เพียงหย่วนซิวหยูกำลังหลับตาสัมผัสกับลมปราณฟ้าดิน อีกทิศทางหนึ่ง ณ พื้นดินที่กว้างใหญ่ ด้วยอำนาจของตระกูลเร่อ ทำให้ผู้ดำรงตำแหน่งที่สัตว์อสูรคู่บารมีของเทพธิดาหงส์เพลิงสถิตอยู่ ตระกูลเร่อที่บัดนี้เร่อเว่ยซูได้ออกเรือฝ่าคลื่นลมที่โหมกระหน่ำไปยังเกาะเจ้าแห่งเพลิง

เพื่อจับอสูรหงส์เพลิงกายศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน เจ้าแห่งพื้นพิภพ ว่าเปลวเพลิงใดในโลกนี้ก็ไม่อาจจะสยบพญาหงส์ตนนี้ได้ หากเว้นแต่คู่ที่สวรรค์สร้างสรรค์มา หงส์เพลิงเทวะในตำนาน อันบันทึกได้กล่าวไว้ว่าหาพบยากที่สุด

เมื่อเร่อเว่ยซูได้มาเยือนยังเกาะเจ้าแห่งเพลิง ด้วยดวงชะตาของเทพธิดาหงส์เพลิงของนางทำให้นางสัมผัสได้ถึงสัตว์คู่บารมีและได้พบกับ พญาหงส์กายศักดิ์สิทธิ์วัยฟักตัว เพราะนางได้ใช้เลือดของนางปลุกให้พญาหงส์กำเนิดออกมาจากไข่ใบยักษ์นั่นเอง

เช่นเดียวกับซิวหยูที่ดูดซับลมปราณหยางจนระดับของนางได้เพิ่มพูนขึ้นมาจาก ลมปราณที่ด้อยค่าจนเพิ่มพูนมาจนถึงราชาลมปราณขั้นปลาย ซึ่งเป็นการทะลวงลมปราณ แต่เมื่อนางได้ดูดซับลมปราณจนสีหน้าของนางเริ่มซีดเผือดลง เป่าฮู่ก็กล่าวต่อมังกรเขียวออกไป

“เจ้ามังกรเขียว เจ้าพอตรวจสอบได้หรือไมว่าใกล้ๆนี้มีที่ใดพอให้เราทั้งหมดพักได้ โดยไม่เป็นที่ถูกตรวจพบโดยง่าย?”

เพียงมังกรเขียวได้ฟังก็ได้ใช้สัมผัสมังกร ความสามารถใหม่ที่ได้มาหลังกลายเป็นมังกรและสิ่งที่พบก็คือ ดินแดนลอยฟ้าแห่งหนึ่งที่ลอยอยู่เหนือทะเลอันกว้างใหญ่ เหนือรูหนอนยักษ์ที่ ชาวบ้านไม่กล้าออกเรือล่าอสูรแถวนั้น เพราะสถานที่แห่งนั้นด้านล่างมีน้ำวนที่กว้างกว่า 1 ข้าสัมผัสถึงกลิ่นอายสัตว์อสูรชั้นสูง มันคือสัตว์บรรพกาล”

เป่าฮู่ได้ฟังก็คิดว่าหากไปยังที่แห่งนั้นย่อมเกิดอันตรายเป็นแน่ แต่เพียงซิวหยูได้ฟังนางก็มั่นใจภาพที่นางเห็นก่อนที่ใบหน้าของนางจะซีดเผือดลงนั้นคือดวงตาสีเหลืองทองที่มองนางมาจากทิศทางนั้น

“นายท่านช่วยพาข้าไปยังที่แห่งนั้น ข้าเชื่อว่ามีบางสิ่งเรียกร้องใหญ้ข้าไปยังสถานที่ลึกลับแห่งนั้น เจ้าคะ”

เป่าฮู่ไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองต้องออกนอกแผนการเพราะพบเจอเรื่องไม่คาดฝันอีกครั้ง หรือหากเป็นสุสานบรรพกาลอีกแห่งที่ลอยฟ้าอยู่คงทำให้ตัวของเป่าฮู่ยกยิ้มดั่งถูกโชคครั้งใหญ่

“เอาหละมังกรเขียวพานางไปที่นั่นกัน ส่วนตอนนี้ข้าเองคงต้องดูดซับพลังจากเจ้าหยกชิ้นนี้อีกครั้งระหว่างนี้ ช่วยดูแลนางด้วยท่านเต่าเทพ”

คำกล่าวนั้นทำให้เจ้าเต่าบ้ายอได้ออกมาทำหน้าที่อย่างสง่างาม และมังกรเขียวก็ลอย ล่องบนนภาไปยังสถานที่แห่งนั้น

หยกสวรรค์ที่เหลือ ทำให้เป่าฮู่มีทรัพยากรที่ไม่จำกัด ก้อนหยกชิ้นเท่าหัวแม่มือหลังจากถูกกัดกินไปเสีย 3 ใน 4 ของขนาดของมัน ด้วยผลงานของสองร่างอสูรข้างกายทำให้เป่าฮู่เหลือหยกสวรรค์อีกจำนวน 300 กว่าก้อน และจำนวนมากขนาดนั้น สร้างกองทัพราชันลมปราณมากกว่า 100 คนยังได้

แต่เป่าฮู่กลับคิดว่าของที่มากด้วยคุณค่าเช่นนี้ ล้วนแต่นำภัยมาให้ ให้รู้น้อยคนได้ยิ่งดีและหาคนที่ไว้ใจพัฒนาคนเหล่านั้น ให้กลายเป็นยอดคน เป่าฮู่คิดจะสร้างห้องฝึกตนที่เหล่าสมาชิกในตระกูลหรือแม้แต่นิกายเสวียนอู่จะใช้ได้ในอนาคต ด้วยพลังที่มากมายที่แผ่ออกมาจากหยกสวรรค์เหล่านี้

 

เพียงการเดินทางมาอย่างรวดเร็ว เป่าฮู่ดูดซับพลังจากหยกสวรรค์ได้ไม่นาน ร่างกายที่ดูดซับลมปราณ ฟ้าดินจำนวนเข้าไปยังไม่ได้ย่อยสลาย ภาพเกาะที่งดงามและยิ่งใหญ่เบื้อหน้าก็ปรากฏ

“ยอดที่สุด! ยังมีสถานที่แบบนี้ได้เช่นไร เกาะที่ลอยตัวขึ้นมาจากทะเลได้”

เมื่อเป่าฮู่เลือกที่จะเก็บพลังลมปราณมากมายในร่างไว้ที่ตันเถียนและยังไม่ย่อยพลังนั้นให้เสถียรในตอนนี้ กลับเดินลงมาพร้อมหย่วนซิวหยู ที่สถานที่โบราณแห่งนี้

เพียงซิวหยูเหยียบย่ำลงไปที่พื้นดินบนเกาะ นางเห็นภาพสถานที่อันนางคุ้นเคยนางกลับหันหน้าไปทางยอดของซากโบราณสถานกลางฟ้าแห่งนี้ ด้วยความรู้สึกเข้าใจในสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดีสร้างความประหลาดใจแก่เป่าฮู่เป็นอย่างมาก

“ซิวหยูเจ้าเหมือนคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้?”

ตัวซิวหยูได้มองเห็นภาพเหมือนนิมิต และดวงตาสีทองที่ชี้นำนั้นช่างดูคุ้นเคย หลังจากที่พินิจพิจารณามากยิ่งขึ้น

“เรียนนายท่านตามตรงเรื่องนั้นซิวหยูเองก็อธิบายไม่ถูก เหมือนว่าเคยอยู่ ยังที่แห่งนี้มานาน”

 

เป่าฮู่ได้ฟังก็ไม่อยากขัดจังหวะของนาง เพียงเดินตามนางไปจนในที่สุดการเดินเข้ามายังโบราณสถานที่มีสิ่งก่อสร้างลึกลับตั้งตระหง่านอยู่ เตาอักขระที่รับรู้ถึงม่านอักขระเฉพาะทำให้ต้องกล่าวห้ามนายของมันไว้

“เจ้าหนุ่มอย่าได้ก้าวเท้าเหยียบไปในนั้น นั่นเป็นเขตแดนเฉพาะ ที่บางคนสร้างไว้มีเพียงคนที่ถูกเลือกเท่านั้นที่จะเข้าไปได้”

เป่าฮู่ได้เห็นเท้าของซิวหยูก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่เป็นอะไร แสดงว่านางคือคนที่สวรรค์เลือก และตัวนางเองก็เลือกที่จะเข้าไปข้างในเพื่อที่จะทำในสิ่งที่ดวงตาสีเหลืองนั้นบอกกล่าวนาง

ก่อนไปเป่าฮู่ที่รู้ว่านางต้องไปก็มอบหยกสวรรค์ให้นาง 1 ก้อนและบอกให้นางเก็บไว้ในแหวนเก็บของ หากจำเป็นก็ค่อยนำออกมาดูดซับพลังจากมัน เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปเปล่าประโยชน์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+