ตำนานเทพยุทธ์ 69

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 69 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ด้วยการเร่งรีบเดินทางไปยังเนินเขาของกลุ่มเดินทางของเป่าฮู่ สายตาที่มองพาดผ่านไปยังเรือนร่างของหย่วนซิวหยูที่บัดนี้มีผิวสีม่วงคล้ำผิดจากที่ผ่านมา นี่นางไปโดนพิษอะไรมากันแน่ ด้วยควมคิดน้ำให้สีหน้าของเป่าฮู่ที่คิดตำหนิตนเองจากคำสั่งให้พักนะจุดนั่นของป่านั่นเอง

 

“น้องชายนางถูกพิษอะไร แล้วเจ้าสามารถรักษานางได้จริงหรือไม่?”

 

คำถามที่เป่าฮู่ถามทันทีที่มาถึงส่วนยอดของเนินเขา หลั่วจื่อหมอหนุ่มไม่สนใจเป่าฮู่ เลยสายตาจับจ้องไปยังสตรีนางนั้นตรงหน้า ปากก็กล่าวออกมาทันท่วงที

ใครกับที่ทำกับนางได้ เพียงดอกถุงมือจิ้งจอกอาการไม่หนักหนาเพียงนี้ แสดงว่าบริเวณใกล้ๆนี้ย่อมมีบางสิ่งเกิดขึ้นเป็นแน่ และใครที่หาญกล้าทำอะไรในเขตหุบเขาร้อยบรรพตของสำนักเทพโอสถของตน

 

“พี่ชาย ข้าทำการสกัดจุดลมปราณของนางแล้ว พิษจะไม่ลุกลามไปส่วนสำคัญของนางในตอนนี้ ข้าขอเวลาท่าน 2 วันเพื่อกลับไปยังสำนักของข้าบนยอดเขาร้อยบรรพตใกล้ๆนี้

และข้าต้องรู้ให้ได้ว่าใครกันที่ใช้พิษร้ายนี้กับแม่นางคนสวยคนนี้”

 

เป่าฮู่ได้ฟังก็เริ่มมองเห็นภาพบริเวณใกล้ๆนี้ต้องมีคนจงใจทำอะไรกับลำธารเหล่านี้และหากมีหมู่บ้านในละแวกนี้หละชายบ้านมิเดือดร้อนกันไปหมดหรือ ภาพเช่นนี้ทำให้เป่าฮู่นึกถึงภาพหมู่บ้านของตนที่มีคนล้มตาย ด้วยโรคระบาด แต่แท้จริงคือพิษร้ายเช่นกัน และใครที่ลงมือ ตามที่รู้มาคือคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วอะไรทีทำให้คนเช่นนั้นลงมือเหี้ยมโหดขนาดนี้

 

เพียงเท่านั้นความโกรธแค้นที่เคยมีมาก็ทำให้โทสะที่มีในใจครุกรุ่นออกมา เป่าฮู่ก็หันไปทางหมอหนุ่มและหันไปมององครักษ์ของมันที่อารักขารอบด้าน

“น้องชายแล้วเช่นนี้ตัวข้าสามารถช่วยนางได้อย่งไรขณะที่เจ้าเดินทางกลับยังสำนักเพื่อเอาตัวยาเพิ่ม?”

 

เป่าฮู่ถามออกมาด้วยความเป็นห่วง และไม่นานจากนั้นร่างเงาที่ติดตามเป่าฮู่มานานได้ตื่นจากอาการมึนเมาและออกตามหาร่องรอยของเป่าฮู่และหลานสาวของมัน

ชายชราคนนั้นหาใช่ใครอื่นมันคือ หย่วนปง เฒ่านักพยากรณ์นั่นเอง เพียงแรกลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตนเองมานอนหลับอยู่บนเนินเขานี้พอดี และประจวบเหมาะที่กลุ่มเดินทางของเป่าอู่เองก็ย้อนกลับมาทางนี้พอดี ภาพที่ได้เห็นคือหลานสาวตนกำลังนอนอยู่ในอาการเจ็บป่วยปางตาย

 

ชายชรุ่งทะยานลงมาอย่างบ้าคลั่งและสายตาจ้อมองไปทางเป่าฮู่ เพื่อขอคำตอยนี้

หลังจากร่างเงาที่พุ่งลงมาเป่าฮู่จำได้ว่กลิ่นอายเช่นนี้คือ เฒ่าพยากรณ์หย่วนปง และนั่นแววตาที่กำลังมองมาทางตน

 

“อ้าวนั่นท่านอาวุโส ! คาราวะท่านอาวุโสหย่วน ท่านมาได้เช่นไร?”

 

เมื่อเป่าฮู่ถามออกไปทุกคนก็มองมาทางชายลึกลับที่กำลังแผ่กลิ่นอายลมปราณที่หนาแน่นออกมา เป่าฮู่รับรู้ถึงอารมณ์ที่เห็นหลานสาวสุดที่รักกำลังป่วย เป่าฮู่ก็รีบกล่าวขอร้องให้หย่วนปงช่วยลดแรงกดดันของลมปราณลงมิเช่นนั้นคนที่ต้องตายคงเป็นหมอหนุ่มหลั่งจื่อเป็นแน่

 

“เรียนท่านอาวุโสหย่วนช่วยระงับโทสะ มิเช่นนั้นหมอหนุ่มคนนี้ได้ตกตายไปก่อนรักษาหลานสาวท่านเป็นแน่”

 

หย่วนปงได้มองไปทางเป่าฮู่และพยายามควบคุมอารมณ์ลงทันทีและฉุดคิดขึ้นมาถึงภาพของกลุ่มชายแปลกหน้าไม่กี่วันก่อน และชุดที่เจ้าหนุ่มตรงหน้าที่สวมใส่

“คุณชายเป่าฮู่ เจ้าหมอน่เป็นใคร แล้วทำไมมันถึงได้ใกล้ชิดลานสาวข้ามากเพียงนี้?”

 

อาการหวงหลานสาวก็เกิดขึ้น เมื่อหลั่วจื่อได้ฟังก็สะดุ้งทันทีเพราะชายชราคนนี้คือ ท่านปู่ของหญิงนางนี้ และหากตนเองต้องการที่จะ….ก็ต้องทำดีเพื่อซื้อคะแนน

“เอ่อ…คาราะท่านอาวุโส ข้าน้อยมีนามว่า หลั่วจื่อ เป็นศิษย์สำนักเทพโอสถแห่งหุบเขาร้อยบรรพตใกล้ๆนี้ ออกท่องยุทธมา 2 ปี กำลังเดินทางกลับสำนัก และพบเจอคุณชายท่านนี้และแม่นางเอ่อ….คนนี้กำลังป่วยจึงยื่นมือเข้าช่สยขอรับ”

 

เมื่อหย่วนปงได้ฟังว่าเจ้าหนุ่มคือหมอ และมองดูอาการของหลานสาวของตน ก็ทราบเช่นกันว่านางกำลังถูกพิษ และยังเป็นพิษเฉพาะทางอีก แม้หยวนปงจะชำนาญการแก้พิษอยู่บ้าง แต่พิษชนิดนี้ดูผิวเผินก็คล้ายกับพิษของดอกถุงมือจิ้งจอก แต่กลับต่างออกไปนั่นทำให้ตัวหยวนปงสงสัย

 

“คุณชายหลานสาวข้านางโดนพิษได้เช่นไร?”

เมื่อมีการคาดเค็ญ เหล่าองครักษ์ที่เริ่มคิดว่าอาวุโสอาจเข้าใจผิดจึงเสนอตัวอธิบาย เพราะเกรงว่านายน้อนจะมีความผิด ดังนั้นหลังจากที่หย่วนปงได้ฟังก็คิดไม่ตกว่านางทำไมถึงเคราะห์ร้าย

แต่หลังจากคิดว่าเคราะห์ร้ายกับนึกถึงตอนคนกลุ่มหนึง่ที่สวมใส่ชุดเช่นเดียวกับเจ้าหนุ่มตรงหน้ามาที่ต้นน้ำไม่กี่วันก่อนนั่นทำให้ชายชราสงสัย

 

“อื่ม…เจ้าหนุ่ม ! “

คำกล่าวที่กระแทกแดกดันไปที่หลั่วจื่อ และจิตคุกคามทำให้ชายหนุ่มหลั่งเหงื่อออกมาท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบายแบนี้

“ขอ..ขอรับท่านอาวุโส”

 

เป่าฮู่ได้เห็นหย่วนปงจะทำบางสิ่ง ก็รีบกล่าวขึ้นมาทันทีเพราะอย่างไรหมอหลั่วจื่อก็คือคนที่ชั่วเจ้าม้าสุดรักของตัวเป่าฮู่เอาไว้ แม้ม้านั่นจะหายป่วยแต่ก็ต้องพักฟื้นเช่นกัน

“ท่านผู้เฒ่าหย่วน หมอหนุ่มผู้นั้นมีคุณต่อข้าเช่นกันหากว่าท่านคิดทำอะไรแล้วหละก็ ข้าคงต้อง”

 

หย่วนปงฟังสิ่งที่เป่าอู่กล่าวก็รู้ดีว่าคุณชายเป่าฮู่แห่งเมืองตระกูลหงคนนี้ เป็นคนดีและมีน้ำใจ แต่สำหรับคนที่สวมใส่ชุดเครื่องแบบเช่นนี้ตัวหย่วนปงต้องสงสัยมากเช่นกัน

 

“เรื่องนั้นคุณชายไม่ต้องห่วง หากไม่ผิดข้าหย่วนปงไม่คิดรังแกรุ่นเยาว์ ว่าแต่เจ้าหนุ่ม ชุดที่เจ้าสวมใส่คือชุดของสำนักถูกต้องหรือไม่?”

 

คำกล่าวนั้นทำให้หลั่วจื่อได้ฟังก็ตอบออกไปถึงชุดที่สวใส่เป็นชุดของศิษย์ระดับกลาง หรือก็คือศิษยชั้นในที่สามารถออกรักษาคนไข้เองได้ เพียงเท่านั้นหย่วนปงก็กล่าวถามถึงชุดแบบเดียวกันและเป็นสีม่วงอ่อนคือชุดของศิษย์ระดับใดและคำตอบที่ได้กลับมาก็คือ ชุดของศิษย์สำนักที่ก้าวผ่านไปเป็นอาวุโสขั้นต้นและกลางมีอำนาจปกครองศิษย์ชั้นในได้และแบงออกเป็นตำหนักต่างๆ 8 ตำหนัก

 

เมื่อหย่วนปงได้ฟังกหนไปทางเป่าฮู่ก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า

“คุณชายเป่าฮู่ หากเราตรวจสอบแน่ชัดแล้วว่าคนที่ทำร้ายหลานสาวข้าเป็นใคร ท่านจะช่วยข้าลงมือสังหารมันพวกนั้นทุกคน ต่อให้ขัดต่อหลักการของท่าน ท่านยินดีทำหรือไม่?”

 

เป่าฮู่ได้ฟังและมองลงไปที่ใบหน้าของหย่วนซิวหยูก่อนที่จะ ถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่ง และกล่าวสิ่งที่เป่าฮู่คิดออกมา

“สำหรับข้านางที่ลดเกียรติ์ตนเองมาเป็นเพียงผู้ติดตามของข้า ทั้งที่นางมีสิทธิ์เป็นได้ถึงเทพธิดาหงส์เพลิงของแดนใต้ ข้าเป่าฮู่สำหรับคนใกล้ชิดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา นับว่านางคือสมาชิกครอบครัวคนหนึ่งของข้าไปแล้ว ข้าจะทำเพื่อช่วยนางไม่ว่าต้องสร้างความบาดหมางต่อใครในยุทธภพนี้”

 

เมื่อหมอหนุ่มหลั่วจื่อได้ฟังก็คิดว่าหากตนเองต้องการเทพธิดานางนี้มาเป็นคนรักต้องทำให้ทุกคนเชื่อใจและตนเองก็สงสัยถึงเรื่องชุดคลุมสีม่วงอ่อนของสำนัก หากพิษร้ายนี้เป็นสำนักของนเองทำลงไปจริง หลั่วจื่อพร้อมถอนตัวออกจากสำนักเทพโอสถและติดตามคนดีมีคุณธรรมเช่นชายหนุ่มตรงหน้าผู้นี้ดีกว่า

 

“ท่านอาวุโส ข้ารู้ว่าท่านหเป็นห่วงหลานสาวท่าน และข้าเองก็สงสัยถึงเรื่องชุดที่ท่านถามและมองข้าอย่างคนไม่เชื่อใจ ข้าหลั่วจื่อเกิดมาเป็นชาย แม้ไม่ยิ่งใหญ่ดั่งบรรพชนของตระกูลหลั่ว แต่หากศิษย์ร่วมสำนักคนใด หรือเป็นคำสั่งของสำนักที่ข้าจากไปกว่า 2 ปีทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ ข้ายินดีถอนตัวออกจากสำนักและช่วยพวกท่านจัดการกับคนเลวของยุทธภพ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ตำนานเทพยุทธ์ 69

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 69 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ด้วยการเร่งรีบเดินทางไปยังเนินเขาของกลุ่มเดินทางของเป่าฮู่ สายตาที่มองพาดผ่านไปยังเรือนร่างของหย่วนซิวหยูที่บัดนี้มีผิวสีม่วงคล้ำผิดจากที่ผ่านมา นี่นางไปโดนพิษอะไรมากันแน่ ด้วยควมคิดน้ำให้สีหน้าของเป่าฮู่ที่คิดตำหนิตนเองจากคำสั่งให้พักนะจุดนั่นของป่านั่นเอง

 

“น้องชายนางถูกพิษอะไร แล้วเจ้าสามารถรักษานางได้จริงหรือไม่?”

 

คำถามที่เป่าฮู่ถามทันทีที่มาถึงส่วนยอดของเนินเขา หลั่วจื่อหมอหนุ่มไม่สนใจเป่าฮู่ เลยสายตาจับจ้องไปยังสตรีนางนั้นตรงหน้า ปากก็กล่าวออกมาทันท่วงที

ใครกับที่ทำกับนางได้ เพียงดอกถุงมือจิ้งจอกอาการไม่หนักหนาเพียงนี้ แสดงว่าบริเวณใกล้ๆนี้ย่อมมีบางสิ่งเกิดขึ้นเป็นแน่ และใครที่หาญกล้าทำอะไรในเขตหุบเขาร้อยบรรพตของสำนักเทพโอสถของตน

 

“พี่ชาย ข้าทำการสกัดจุดลมปราณของนางแล้ว พิษจะไม่ลุกลามไปส่วนสำคัญของนางในตอนนี้ ข้าขอเวลาท่าน 2 วันเพื่อกลับไปยังสำนักของข้าบนยอดเขาร้อยบรรพตใกล้ๆนี้

และข้าต้องรู้ให้ได้ว่าใครกันที่ใช้พิษร้ายนี้กับแม่นางคนสวยคนนี้”

 

เป่าฮู่ได้ฟังก็เริ่มมองเห็นภาพบริเวณใกล้ๆนี้ต้องมีคนจงใจทำอะไรกับลำธารเหล่านี้และหากมีหมู่บ้านในละแวกนี้หละชายบ้านมิเดือดร้อนกันไปหมดหรือ ภาพเช่นนี้ทำให้เป่าฮู่นึกถึงภาพหมู่บ้านของตนที่มีคนล้มตาย ด้วยโรคระบาด แต่แท้จริงคือพิษร้ายเช่นกัน และใครที่ลงมือ ตามที่รู้มาคือคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วอะไรทีทำให้คนเช่นนั้นลงมือเหี้ยมโหดขนาดนี้

 

เพียงเท่านั้นความโกรธแค้นที่เคยมีมาก็ทำให้โทสะที่มีในใจครุกรุ่นออกมา เป่าฮู่ก็หันไปทางหมอหนุ่มและหันไปมององครักษ์ของมันที่อารักขารอบด้าน

“น้องชายแล้วเช่นนี้ตัวข้าสามารถช่วยนางได้อย่งไรขณะที่เจ้าเดินทางกลับยังสำนักเพื่อเอาตัวยาเพิ่ม?”

 

เป่าฮู่ถามออกมาด้วยความเป็นห่วง และไม่นานจากนั้นร่างเงาที่ติดตามเป่าฮู่มานานได้ตื่นจากอาการมึนเมาและออกตามหาร่องรอยของเป่าฮู่และหลานสาวของมัน

ชายชราคนนั้นหาใช่ใครอื่นมันคือ หย่วนปง เฒ่านักพยากรณ์นั่นเอง เพียงแรกลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตนเองมานอนหลับอยู่บนเนินเขานี้พอดี และประจวบเหมาะที่กลุ่มเดินทางของเป่าอู่เองก็ย้อนกลับมาทางนี้พอดี ภาพที่ได้เห็นคือหลานสาวตนกำลังนอนอยู่ในอาการเจ็บป่วยปางตาย

 

ชายชรุ่งทะยานลงมาอย่างบ้าคลั่งและสายตาจ้อมองไปทางเป่าฮู่ เพื่อขอคำตอยนี้

หลังจากร่างเงาที่พุ่งลงมาเป่าฮู่จำได้ว่กลิ่นอายเช่นนี้คือ เฒ่าพยากรณ์หย่วนปง และนั่นแววตาที่กำลังมองมาทางตน

 

“อ้าวนั่นท่านอาวุโส ! คาราวะท่านอาวุโสหย่วน ท่านมาได้เช่นไร?”

 

เมื่อเป่าฮู่ถามออกไปทุกคนก็มองมาทางชายลึกลับที่กำลังแผ่กลิ่นอายลมปราณที่หนาแน่นออกมา เป่าฮู่รับรู้ถึงอารมณ์ที่เห็นหลานสาวสุดที่รักกำลังป่วย เป่าฮู่ก็รีบกล่าวขอร้องให้หย่วนปงช่วยลดแรงกดดันของลมปราณลงมิเช่นนั้นคนที่ต้องตายคงเป็นหมอหนุ่มหลั่งจื่อเป็นแน่

 

“เรียนท่านอาวุโสหย่วนช่วยระงับโทสะ มิเช่นนั้นหมอหนุ่มคนนี้ได้ตกตายไปก่อนรักษาหลานสาวท่านเป็นแน่”

 

หย่วนปงได้มองไปทางเป่าฮู่และพยายามควบคุมอารมณ์ลงทันทีและฉุดคิดขึ้นมาถึงภาพของกลุ่มชายแปลกหน้าไม่กี่วันก่อน และชุดที่เจ้าหนุ่มตรงหน้าที่สวมใส่

“คุณชายเป่าฮู่ เจ้าหมอน่เป็นใคร แล้วทำไมมันถึงได้ใกล้ชิดลานสาวข้ามากเพียงนี้?”

 

อาการหวงหลานสาวก็เกิดขึ้น เมื่อหลั่วจื่อได้ฟังก็สะดุ้งทันทีเพราะชายชราคนนี้คือ ท่านปู่ของหญิงนางนี้ และหากตนเองต้องการที่จะ….ก็ต้องทำดีเพื่อซื้อคะแนน

“เอ่อ…คาราะท่านอาวุโส ข้าน้อยมีนามว่า หลั่วจื่อ เป็นศิษย์สำนักเทพโอสถแห่งหุบเขาร้อยบรรพตใกล้ๆนี้ ออกท่องยุทธมา 2 ปี กำลังเดินทางกลับสำนัก และพบเจอคุณชายท่านนี้และแม่นางเอ่อ….คนนี้กำลังป่วยจึงยื่นมือเข้าช่สยขอรับ”

 

เมื่อหย่วนปงได้ฟังว่าเจ้าหนุ่มคือหมอ และมองดูอาการของหลานสาวของตน ก็ทราบเช่นกันว่านางกำลังถูกพิษ และยังเป็นพิษเฉพาะทางอีก แม้หยวนปงจะชำนาญการแก้พิษอยู่บ้าง แต่พิษชนิดนี้ดูผิวเผินก็คล้ายกับพิษของดอกถุงมือจิ้งจอก แต่กลับต่างออกไปนั่นทำให้ตัวหยวนปงสงสัย

 

“คุณชายหลานสาวข้านางโดนพิษได้เช่นไร?”

เมื่อมีการคาดเค็ญ เหล่าองครักษ์ที่เริ่มคิดว่าอาวุโสอาจเข้าใจผิดจึงเสนอตัวอธิบาย เพราะเกรงว่านายน้อนจะมีความผิด ดังนั้นหลังจากที่หย่วนปงได้ฟังก็คิดไม่ตกว่านางทำไมถึงเคราะห์ร้าย

แต่หลังจากคิดว่าเคราะห์ร้ายกับนึกถึงตอนคนกลุ่มหนึง่ที่สวมใส่ชุดเช่นเดียวกับเจ้าหนุ่มตรงหน้ามาที่ต้นน้ำไม่กี่วันก่อนนั่นทำให้ชายชราสงสัย

 

“อื่ม…เจ้าหนุ่ม ! “

คำกล่าวที่กระแทกแดกดันไปที่หลั่วจื่อ และจิตคุกคามทำให้ชายหนุ่มหลั่งเหงื่อออกมาท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบายแบนี้

“ขอ..ขอรับท่านอาวุโส”

 

เป่าฮู่ได้เห็นหย่วนปงจะทำบางสิ่ง ก็รีบกล่าวขึ้นมาทันทีเพราะอย่างไรหมอหลั่วจื่อก็คือคนที่ชั่วเจ้าม้าสุดรักของตัวเป่าฮู่เอาไว้ แม้ม้านั่นจะหายป่วยแต่ก็ต้องพักฟื้นเช่นกัน

“ท่านผู้เฒ่าหย่วน หมอหนุ่มผู้นั้นมีคุณต่อข้าเช่นกันหากว่าท่านคิดทำอะไรแล้วหละก็ ข้าคงต้อง”

 

หย่วนปงฟังสิ่งที่เป่าอู่กล่าวก็รู้ดีว่าคุณชายเป่าฮู่แห่งเมืองตระกูลหงคนนี้ เป็นคนดีและมีน้ำใจ แต่สำหรับคนที่สวมใส่ชุดเครื่องแบบเช่นนี้ตัวหย่วนปงต้องสงสัยมากเช่นกัน

 

“เรื่องนั้นคุณชายไม่ต้องห่วง หากไม่ผิดข้าหย่วนปงไม่คิดรังแกรุ่นเยาว์ ว่าแต่เจ้าหนุ่ม ชุดที่เจ้าสวมใส่คือชุดของสำนักถูกต้องหรือไม่?”

 

คำกล่าวนั้นทำให้หลั่วจื่อได้ฟังก็ตอบออกไปถึงชุดที่สวใส่เป็นชุดของศิษย์ระดับกลาง หรือก็คือศิษยชั้นในที่สามารถออกรักษาคนไข้เองได้ เพียงเท่านั้นหย่วนปงก็กล่าวถามถึงชุดแบบเดียวกันและเป็นสีม่วงอ่อนคือชุดของศิษย์ระดับใดและคำตอบที่ได้กลับมาก็คือ ชุดของศิษย์สำนักที่ก้าวผ่านไปเป็นอาวุโสขั้นต้นและกลางมีอำนาจปกครองศิษย์ชั้นในได้และแบงออกเป็นตำหนักต่างๆ 8 ตำหนัก

 

เมื่อหย่วนปงได้ฟังกหนไปทางเป่าฮู่ก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า

“คุณชายเป่าฮู่ หากเราตรวจสอบแน่ชัดแล้วว่าคนที่ทำร้ายหลานสาวข้าเป็นใคร ท่านจะช่วยข้าลงมือสังหารมันพวกนั้นทุกคน ต่อให้ขัดต่อหลักการของท่าน ท่านยินดีทำหรือไม่?”

 

เป่าฮู่ได้ฟังและมองลงไปที่ใบหน้าของหย่วนซิวหยูก่อนที่จะ ถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่ง และกล่าวสิ่งที่เป่าฮู่คิดออกมา

“สำหรับข้านางที่ลดเกียรติ์ตนเองมาเป็นเพียงผู้ติดตามของข้า ทั้งที่นางมีสิทธิ์เป็นได้ถึงเทพธิดาหงส์เพลิงของแดนใต้ ข้าเป่าฮู่สำหรับคนใกล้ชิดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา นับว่านางคือสมาชิกครอบครัวคนหนึ่งของข้าไปแล้ว ข้าจะทำเพื่อช่วยนางไม่ว่าต้องสร้างความบาดหมางต่อใครในยุทธภพนี้”

 

เมื่อหมอหนุ่มหลั่วจื่อได้ฟังก็คิดว่าหากตนเองต้องการเทพธิดานางนี้มาเป็นคนรักต้องทำให้ทุกคนเชื่อใจและตนเองก็สงสัยถึงเรื่องชุดคลุมสีม่วงอ่อนของสำนัก หากพิษร้ายนี้เป็นสำนักของนเองทำลงไปจริง หลั่วจื่อพร้อมถอนตัวออกจากสำนักเทพโอสถและติดตามคนดีมีคุณธรรมเช่นชายหนุ่มตรงหน้าผู้นี้ดีกว่า

 

“ท่านอาวุโส ข้ารู้ว่าท่านหเป็นห่วงหลานสาวท่าน และข้าเองก็สงสัยถึงเรื่องชุดที่ท่านถามและมองข้าอย่างคนไม่เชื่อใจ ข้าหลั่วจื่อเกิดมาเป็นชาย แม้ไม่ยิ่งใหญ่ดั่งบรรพชนของตระกูลหลั่ว แต่หากศิษย์ร่วมสำนักคนใด หรือเป็นคำสั่งของสำนักที่ข้าจากไปกว่า 2 ปีทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ ข้ายินดีถอนตัวออกจากสำนักและช่วยพวกท่านจัดการกับคนเลวของยุทธภพ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+