ตำนานเทพยุทธ์ 80

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 80 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดวงตาที่แฝงไปด้วยจิตคุกครามและแรงกดดันจากยอดฝีมือระดับราชันขั้นสูง ที่ตอนนี้กำลังเผยความเหี้ยมเกรียมออกมาอย่างไม่สนใจสิ่งใดรอบกาย และไม่มีวันลดการป้องกันด้วยศัตรูมีสองคนและยังเป็นชนชั้นราชันลมปราณทั้งคู่ นั่นจึงทำให้เป่าฮู่ที่มีสภาพร่างกายที่ดีกว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง

มู่เจียงหลงได้เห็นยอดฝีมือที่พุ่งกายเข้ามาหมายฟาดฟันกระบี่น้ำแข็งที่งดงาม แต่มากด้วยอันตรายมาที่ตน ทำให้มู่เจียงรีบนำหอกคู่กายออกมาและยกหอกคู่กายขึ้นมาต้านกระบี่น้ำแข็งที่แผ่กลิ่นอายที่หนาวเหน็บออกมา

มู่เจียงฉีที่พยายามพยุงร่างตนเองออกมาจากถ้ำ ก่อนที่จะมองเห็นว่าศัตรูที่แท้จริงและคนที่คอยช่วยคนกลุ่มนั้นคือชายในชุดคลุมคนนี้

“เป็นยอดฝีมือแดนเหนือ แต่ว่า เราไม่เคยผิดใจกันใยต้องวางกับดักเราตระกูลม่ในเขตแดนของเรา?”

เพียงเท่านั้นเป่าฮู่ก็ไม่เยเวลากล่าวสิ่งใดมาก เพียงชายหางตาไปที่มู่เจียงหลงและออกแรงใช้เท้าถีบอากาศจนเกิดเสียงดังกังวานขึ้นมา ด้วยท่าพลิกสมุทรจันทร์ส่อง กระบวนท่าร่างชุดสุดท้ายที่เคลื่อนที่ด้วยพลังลมปราณจุดสูงสุด

“คิดจับน้องสาวข้าเท่านั้นก็เท่ากับว่าเป็นศัตรูกับข้าผู้นี้แล้ว ตายไปซะเพรามีแต่ศพเท่านั้นที่พูดไม่ได้…..ฮ่าๆๆๆ”

เป่าฮู่ชายที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอด และพยายามสู้มาโดยลำพังจนเมื่อการต่อสู้ดำเนินไป เหล่าศิษย์ด้านในก็รับรู้ได้ถึงการ่อสู้จากด้านนอก เต่าอักขระจึงพาทุกคนออกมากแต่ใครจะไปคิดว่าที่มุมทางออกของปากถ้ำ มู่เจียงฉีกำลังนั่งปรับลมปราณของตนเองอยู่ โดยให้น้องชายต้านศึกไว้จนบัดนี้อาการของมู่เจียงหลงถึงขั้นสาหัสไปเลยก็ว่าได้

เมื่อมู่เจียงฉีได้เห็นกลุ่มคนด้านในที่ออกมามันรีบพุ่งทะยานร่างกายไปจับกุมหนึ่งในหญิงสาวสองนางนั้นไว้และผู้ที่โชคร้ายนั้นกลับเป็นหย่วนชิงเหยียน แต่ครั้งนี้ใต้แผนการหลบหนีของมู่หวังฉีกกลับผิดแผน เพราะที่หน้าอกของหย่วนชิงเหยียนกลับมีเต่าบ้ายอตนนั้นอยู่ด้วย

ในจังหวะที่เป่าฮู่ซัดฝ่ามือไปที่ร่างของมู่เจียงหลงด้วยฝ่ามืออัดกระแทกจนร่างของมันปลิ้วออกไปไกลกว่า 30 ก้าว และภาพที่เห็นคือมู่เจียงหลงพ่นเลือดกองโตและแน่นนิ่งไป

หากแต่ว่าในขณะนั้นทุกความสนใจตกไปอยู่ที่ร่างของมู่เจียงฉีที่กำลังถูกผนึกจองจำของเต่าอักขระตรึงไว้เป็นสายตาเดียวกัน ทำให้มู่เจียงหลงฉวยโอกาสนั้นพุ่งกายหนีออกไปได้ทันท่วงที เป่าฮู่หันมาอีกครั้งก็ไม่อาจตามไปทัน เพราะศัตรูยังเหลือตรงหน้าอีกคน

แต่มีเพียงมู่เจียงฉีที่ยิ้มออกมา เพราะมันเห็นและว่าน้องชายมันกำลังจะหนีออกไปได้แล้วนั่นเอง

“ฮ่าๆๆๆๆ เจียงหลง รีบบอกนายน้อยว่าคนที่ครอบครองมังกรฟ้าอยู่ที่ป่าพฤกษาทมิฬแห่งนี้ หนีไป”

เมื่อเป่าฮู่ได้ยินสิ่งนั้น แม้คิดตามไปสังหาร แต่ว่าหากนั่นทำให้ล่อลวงนางมารร้ายมาพร้อมๆกันก็อาจจบเรื่องที่เลวร้ายนี้ได้ และตนเองหากพบศัตรูที่แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ก็มีโอกาสเก่งมากขึ้นเท่านั้น

ดังนั้นหากต้องการเผชิญหน้ากับศึกครั้งนี้ ต้องวางแผนให้ดี ทางเดียวที่จะทำได้คือรีบฆ่าเจ้าบ้าตรงหน้าและรีบนำพาเหล่าศิษย์นิกายเสือขาวหนีออกจากเขตปกครองมังกรฟ้าเดี๋ยวนี้

การที่ชายผู้หนึ่งก้าวเท้าเข้าไปเผชิญหน้ากับทุกดินแดน และสร้างปมบาดหมางไปทุกดินแดน จนตอนนี้ไม่ว่าแดนใต้หงส์เพลิงหรือมังกรฟ้าตะวันออก และแดนเหนือด้วยกันกับพรรคใต้หล้า คงมีที่เดียวคือแดนเสือขาวที่ยังเป็นที่หลบภัยได้

เพียงการลงมือสังหารแม่ทัพตระกูลมู่ทำให้ข่าวนี้กระจายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกเมืองเพิ่มการตรวจค้นกลุมนักเดินทางอย่างหนัก เพื่อควานหาตัวศัตรูสังหารแม่ทัพของจวนตระกูลมู่ให้จงได้

 

ณ ตระกูลมู่อีก 10 วันต่อมา

“บัดซบ! จนป่านนี้ยังหาตัวไอ้คนที่สังหารมือขวาของขาไม่ได้ พวกไม่ได้เรื่อง ไสหัวออกไปให้หมด”

เพียงมู่หยงคุณชายตระกูลมู่ได้ไล่ลูกน้องของตัวมันเองออกไป ทำให้ มู่เจิ่นหลงที่ได้ออกมาจากการฝึกตนพร้อมกล่าวด้วยความเยือกเย็นไปเตือนสติหลานชายผู้นี้ของตน

“หลานรักของข้า เจียงหลงแม่ทัพน้อยผู้นั้นกล่าวว่า

เจ้าผู้นั้นครอบครองอสรพิษฟ้าคราม ที่อีกนามหนึ่งคือ งูยักษ์ที่อนาคตจะกลายเป็นมังกรฟ้า เราต้องพลิกแผ่นดินตามหามันให้พบ ด้วยหากเจ้าได้มันมาครองปู่จะได้ส่งมอบทักษะลับที่ฝึกร่วมกับมุกพิษดารของน้องสาวเจ้าให้ เราต้องใช้เจ้าอสรพิษฟ้าครามที่มีอายุขัย 1000 ปีขึ้นไปยิ่งมากยิ่งดี

ปู่ออกไปล่าที่หุบเขาอสรพิษในแดนศักดิ์กลับไม่พบ อุส่ารอจนถึงเวลาที่เหมาะสมที่แท้เจ้าหนูโสโครกตัวนี้ฉกชิงเจ้าอสรร้ายนั่นมาเสียก่อน ได้ข่าวว่าพวกหนูสกปรกนั่นเป็นศิษย์นิกายเสือขาว ฮ่าๆๆๆ ตาเฒ่าไป๋ฟงเสียนคงต้องไปเยี่ยมสักครั้งแล้ว”

 

เพียงมู่เจิ่นหลงบรรพชนตระกูลมู่ที่มีระดับจักรพรรดิลมปราณขั้นสูง บัดนี้ได้สนใจราชาอสรพิษฟ้าครามขึ้นมาแล้ว เพราะนั่นคือมังกรฟ้าในอนาคตนนั่นเอง

เพียงกลุ่มศิษย์นิกายเสือขาวรีบเร่งหนีตายมาตามเขตชายแดน โดยทางเท้าแม้จะเสี่ยงแต่ก็ต้องหนีไปในแดนหงส์เพลิง เพื่อใช้เรือเหาะนาวาปราณข้ามทะเลดำ เพื่อเข้าสู่เขตแดนเสือขาวอีกครั้ง

ด้วยตอนนี้เหล่านักเดินทางที่กำลังคิดที่จะแยกกัน เพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตุ แต่เหตุการณ์ที่บังเอิญยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เป่าฮู่ที่กำลังจะข้ามเขตพรมแดน ด้วยความกังวลใจ อยู่นั่นเอง ไม่นานก็มีรถม้าคันหนึ่งที่จ้าวหู่บังคับมาจากทิศทางเมืองซื่อสุ่ย

เพราะความบังเอิญที่จ้าวหู่จดจำใบหน้าของ ผู้เฒ่าหย่วนปงได้ ทำให้การหารถม้าและมีผู้เฒ่าร่วมเดินทางจึงไม่ตรงกับข้อมูลที่ทหารประจำเมืองได้รับไว้ รถม้าจึงผ่านการตรวจสอบมาอย่างง่ายดาย ด้วยอาวุโสหย่วนก็ป่วยอยู่ด้วยนั่นเอง

แต่สำหรับคนบางคนที่ดีใจยิ่งกว่าสิ่งใดที่ตอนนี้นางกำลังจะพบเจอกับชายที่นางเฝ้าคิดถึงมานาน เมื่อชีวิตอยู่บนความเป็นความตาย ทำให้หย่วนซิวหยูรู้ว่าเป่าฮู่ผู้เป็นนายสำคัญแค่ไหน ยิ่งตอนนี้จ้าวหู่องครักษ์ประจำตัวของเขากำลังพานางไปพบเขาผู้นั้น นางเฝ้ารอจนไม่ไหวอีกต่อไป

เมื่อรถม้าได้มาถึงจุดที่จ้าวหู่นัดหมายกับคนทั้งหมดเอาไว้ เป่าฮู่เห็นรถม้าแต่ไกลก็บอกกล่าวกลับคนทั้งหมดให้เตรียมพร้อมและเพียงได้เห็นผู้ที่มาพร้อมจ้าวหู่ และสิ่งที่เกิดขึ้นในฉับพลันร่างสตรีนางหนึ่งที่ไม่อาจทนความต้องการของตนได้อีกต่อไป เพราะนางจะตายไปตอนไหนก็ไม่มีใครรู้

หย่วนซิวหยูผู้ที่ก้าวลงมาจากรถม้า เพื่อเข้าไปหานายท่านของนางร่างที่งดงามเคลื่อนไหวไปดั่งบุบผาที่คู่ควรกับบุรุษที่สง่างาม เป่าฮู่เห็นร่างของนางถาโถมมาหาตน เป่าฮู่ก็เคลื่อนมือทั้งสองโอบรับร่างของนางเอาไว้

ก่อนที่หย่วนซิวหยูจะพูดออกมาด้วย ความคิดถึง

“นายท่าน ซิวหยู ห่วงท่านมากนัก นายท่านสบายดีหรือไม่?”

เป่าฮู่ได้ฟังในใจก็รับรู้ได้ถึงสิ่งที่นางต้องการการสื่อออกมา และเป่าฮู่ก็ไม่ได้คิดรังเกียจอะไร แต่ว่านางน่าจะดูอากรของนางก่อนสีหน้าของนางยังไม่ดีขึ้นจากก่อนหน้าเท่าไหร่นัก

“เจ้าจะรีบร้อนไปไหน ซิวหยู เจ้ายังไม่สบายอยู่ ว่าแต่เจ้ามาได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าข้ามอบเจ้าให้หลั่วจื่อดูแลหรอกหรือ?”

เมื่อหย่วนปงได้ยินเสียงของเป่าฮู่ก็พูดออกมาขณะที่กำลังรักษาตนเองมาตลอดทาง

“เจ้าหนุ่มเจ้าก็อย่าโทษนางเลย เจ้าคงรู้ทำไมนางต้องมา และที่ข้าห้ามนางไม่ได้ก็เพราะข้ามีเหตุผลของข้าจากนี้ต่อไปให้ระวังหลั่วจื่อ หมอหนุ่มผู้นั้นไว้ให้ดี ดวงชะตาของเจ้าหนุ่มนั่นจะเป็นผู้ที่แผ่นดินต้องจารึกนามของมันไว้เป็นแน่”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ตำนานเทพยุทธ์ 80

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 80 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดวงตาที่แฝงไปด้วยจิตคุกครามและแรงกดดันจากยอดฝีมือระดับราชันขั้นสูง ที่ตอนนี้กำลังเผยความเหี้ยมเกรียมออกมาอย่างไม่สนใจสิ่งใดรอบกาย และไม่มีวันลดการป้องกันด้วยศัตรูมีสองคนและยังเป็นชนชั้นราชันลมปราณทั้งคู่ นั่นจึงทำให้เป่าฮู่ที่มีสภาพร่างกายที่ดีกว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง

มู่เจียงหลงได้เห็นยอดฝีมือที่พุ่งกายเข้ามาหมายฟาดฟันกระบี่น้ำแข็งที่งดงาม แต่มากด้วยอันตรายมาที่ตน ทำให้มู่เจียงรีบนำหอกคู่กายออกมาและยกหอกคู่กายขึ้นมาต้านกระบี่น้ำแข็งที่แผ่กลิ่นอายที่หนาวเหน็บออกมา

มู่เจียงฉีที่พยายามพยุงร่างตนเองออกมาจากถ้ำ ก่อนที่จะมองเห็นว่าศัตรูที่แท้จริงและคนที่คอยช่วยคนกลุ่มนั้นคือชายในชุดคลุมคนนี้

“เป็นยอดฝีมือแดนเหนือ แต่ว่า เราไม่เคยผิดใจกันใยต้องวางกับดักเราตระกูลม่ในเขตแดนของเรา?”

เพียงเท่านั้นเป่าฮู่ก็ไม่เยเวลากล่าวสิ่งใดมาก เพียงชายหางตาไปที่มู่เจียงหลงและออกแรงใช้เท้าถีบอากาศจนเกิดเสียงดังกังวานขึ้นมา ด้วยท่าพลิกสมุทรจันทร์ส่อง กระบวนท่าร่างชุดสุดท้ายที่เคลื่อนที่ด้วยพลังลมปราณจุดสูงสุด

“คิดจับน้องสาวข้าเท่านั้นก็เท่ากับว่าเป็นศัตรูกับข้าผู้นี้แล้ว ตายไปซะเพรามีแต่ศพเท่านั้นที่พูดไม่ได้…..ฮ่าๆๆๆ”

เป่าฮู่ชายที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอด และพยายามสู้มาโดยลำพังจนเมื่อการต่อสู้ดำเนินไป เหล่าศิษย์ด้านในก็รับรู้ได้ถึงการ่อสู้จากด้านนอก เต่าอักขระจึงพาทุกคนออกมากแต่ใครจะไปคิดว่าที่มุมทางออกของปากถ้ำ มู่เจียงฉีกำลังนั่งปรับลมปราณของตนเองอยู่ โดยให้น้องชายต้านศึกไว้จนบัดนี้อาการของมู่เจียงหลงถึงขั้นสาหัสไปเลยก็ว่าได้

เมื่อมู่เจียงฉีได้เห็นกลุ่มคนด้านในที่ออกมามันรีบพุ่งทะยานร่างกายไปจับกุมหนึ่งในหญิงสาวสองนางนั้นไว้และผู้ที่โชคร้ายนั้นกลับเป็นหย่วนชิงเหยียน แต่ครั้งนี้ใต้แผนการหลบหนีของมู่หวังฉีกกลับผิดแผน เพราะที่หน้าอกของหย่วนชิงเหยียนกลับมีเต่าบ้ายอตนนั้นอยู่ด้วย

ในจังหวะที่เป่าฮู่ซัดฝ่ามือไปที่ร่างของมู่เจียงหลงด้วยฝ่ามืออัดกระแทกจนร่างของมันปลิ้วออกไปไกลกว่า 30 ก้าว และภาพที่เห็นคือมู่เจียงหลงพ่นเลือดกองโตและแน่นนิ่งไป

หากแต่ว่าในขณะนั้นทุกความสนใจตกไปอยู่ที่ร่างของมู่เจียงฉีที่กำลังถูกผนึกจองจำของเต่าอักขระตรึงไว้เป็นสายตาเดียวกัน ทำให้มู่เจียงหลงฉวยโอกาสนั้นพุ่งกายหนีออกไปได้ทันท่วงที เป่าฮู่หันมาอีกครั้งก็ไม่อาจตามไปทัน เพราะศัตรูยังเหลือตรงหน้าอีกคน

แต่มีเพียงมู่เจียงฉีที่ยิ้มออกมา เพราะมันเห็นและว่าน้องชายมันกำลังจะหนีออกไปได้แล้วนั่นเอง

“ฮ่าๆๆๆๆ เจียงหลง รีบบอกนายน้อยว่าคนที่ครอบครองมังกรฟ้าอยู่ที่ป่าพฤกษาทมิฬแห่งนี้ หนีไป”

เมื่อเป่าฮู่ได้ยินสิ่งนั้น แม้คิดตามไปสังหาร แต่ว่าหากนั่นทำให้ล่อลวงนางมารร้ายมาพร้อมๆกันก็อาจจบเรื่องที่เลวร้ายนี้ได้ และตนเองหากพบศัตรูที่แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ก็มีโอกาสเก่งมากขึ้นเท่านั้น

ดังนั้นหากต้องการเผชิญหน้ากับศึกครั้งนี้ ต้องวางแผนให้ดี ทางเดียวที่จะทำได้คือรีบฆ่าเจ้าบ้าตรงหน้าและรีบนำพาเหล่าศิษย์นิกายเสือขาวหนีออกจากเขตปกครองมังกรฟ้าเดี๋ยวนี้

การที่ชายผู้หนึ่งก้าวเท้าเข้าไปเผชิญหน้ากับทุกดินแดน และสร้างปมบาดหมางไปทุกดินแดน จนตอนนี้ไม่ว่าแดนใต้หงส์เพลิงหรือมังกรฟ้าตะวันออก และแดนเหนือด้วยกันกับพรรคใต้หล้า คงมีที่เดียวคือแดนเสือขาวที่ยังเป็นที่หลบภัยได้

เพียงการลงมือสังหารแม่ทัพตระกูลมู่ทำให้ข่าวนี้กระจายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกเมืองเพิ่มการตรวจค้นกลุมนักเดินทางอย่างหนัก เพื่อควานหาตัวศัตรูสังหารแม่ทัพของจวนตระกูลมู่ให้จงได้

 

ณ ตระกูลมู่อีก 10 วันต่อมา

“บัดซบ! จนป่านนี้ยังหาตัวไอ้คนที่สังหารมือขวาของขาไม่ได้ พวกไม่ได้เรื่อง ไสหัวออกไปให้หมด”

เพียงมู่หยงคุณชายตระกูลมู่ได้ไล่ลูกน้องของตัวมันเองออกไป ทำให้ มู่เจิ่นหลงที่ได้ออกมาจากการฝึกตนพร้อมกล่าวด้วยความเยือกเย็นไปเตือนสติหลานชายผู้นี้ของตน

“หลานรักของข้า เจียงหลงแม่ทัพน้อยผู้นั้นกล่าวว่า

เจ้าผู้นั้นครอบครองอสรพิษฟ้าคราม ที่อีกนามหนึ่งคือ งูยักษ์ที่อนาคตจะกลายเป็นมังกรฟ้า เราต้องพลิกแผ่นดินตามหามันให้พบ ด้วยหากเจ้าได้มันมาครองปู่จะได้ส่งมอบทักษะลับที่ฝึกร่วมกับมุกพิษดารของน้องสาวเจ้าให้ เราต้องใช้เจ้าอสรพิษฟ้าครามที่มีอายุขัย 1000 ปีขึ้นไปยิ่งมากยิ่งดี

ปู่ออกไปล่าที่หุบเขาอสรพิษในแดนศักดิ์กลับไม่พบ อุส่ารอจนถึงเวลาที่เหมาะสมที่แท้เจ้าหนูโสโครกตัวนี้ฉกชิงเจ้าอสรร้ายนั่นมาเสียก่อน ได้ข่าวว่าพวกหนูสกปรกนั่นเป็นศิษย์นิกายเสือขาว ฮ่าๆๆๆ ตาเฒ่าไป๋ฟงเสียนคงต้องไปเยี่ยมสักครั้งแล้ว”

 

เพียงมู่เจิ่นหลงบรรพชนตระกูลมู่ที่มีระดับจักรพรรดิลมปราณขั้นสูง บัดนี้ได้สนใจราชาอสรพิษฟ้าครามขึ้นมาแล้ว เพราะนั่นคือมังกรฟ้าในอนาคตนนั่นเอง

เพียงกลุ่มศิษย์นิกายเสือขาวรีบเร่งหนีตายมาตามเขตชายแดน โดยทางเท้าแม้จะเสี่ยงแต่ก็ต้องหนีไปในแดนหงส์เพลิง เพื่อใช้เรือเหาะนาวาปราณข้ามทะเลดำ เพื่อเข้าสู่เขตแดนเสือขาวอีกครั้ง

ด้วยตอนนี้เหล่านักเดินทางที่กำลังคิดที่จะแยกกัน เพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตุ แต่เหตุการณ์ที่บังเอิญยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เป่าฮู่ที่กำลังจะข้ามเขตพรมแดน ด้วยความกังวลใจ อยู่นั่นเอง ไม่นานก็มีรถม้าคันหนึ่งที่จ้าวหู่บังคับมาจากทิศทางเมืองซื่อสุ่ย

เพราะความบังเอิญที่จ้าวหู่จดจำใบหน้าของ ผู้เฒ่าหย่วนปงได้ ทำให้การหารถม้าและมีผู้เฒ่าร่วมเดินทางจึงไม่ตรงกับข้อมูลที่ทหารประจำเมืองได้รับไว้ รถม้าจึงผ่านการตรวจสอบมาอย่างง่ายดาย ด้วยอาวุโสหย่วนก็ป่วยอยู่ด้วยนั่นเอง

แต่สำหรับคนบางคนที่ดีใจยิ่งกว่าสิ่งใดที่ตอนนี้นางกำลังจะพบเจอกับชายที่นางเฝ้าคิดถึงมานาน เมื่อชีวิตอยู่บนความเป็นความตาย ทำให้หย่วนซิวหยูรู้ว่าเป่าฮู่ผู้เป็นนายสำคัญแค่ไหน ยิ่งตอนนี้จ้าวหู่องครักษ์ประจำตัวของเขากำลังพานางไปพบเขาผู้นั้น นางเฝ้ารอจนไม่ไหวอีกต่อไป

เมื่อรถม้าได้มาถึงจุดที่จ้าวหู่นัดหมายกับคนทั้งหมดเอาไว้ เป่าฮู่เห็นรถม้าแต่ไกลก็บอกกล่าวกลับคนทั้งหมดให้เตรียมพร้อมและเพียงได้เห็นผู้ที่มาพร้อมจ้าวหู่ และสิ่งที่เกิดขึ้นในฉับพลันร่างสตรีนางหนึ่งที่ไม่อาจทนความต้องการของตนได้อีกต่อไป เพราะนางจะตายไปตอนไหนก็ไม่มีใครรู้

หย่วนซิวหยูผู้ที่ก้าวลงมาจากรถม้า เพื่อเข้าไปหานายท่านของนางร่างที่งดงามเคลื่อนไหวไปดั่งบุบผาที่คู่ควรกับบุรุษที่สง่างาม เป่าฮู่เห็นร่างของนางถาโถมมาหาตน เป่าฮู่ก็เคลื่อนมือทั้งสองโอบรับร่างของนางเอาไว้

ก่อนที่หย่วนซิวหยูจะพูดออกมาด้วย ความคิดถึง

“นายท่าน ซิวหยู ห่วงท่านมากนัก นายท่านสบายดีหรือไม่?”

เป่าฮู่ได้ฟังในใจก็รับรู้ได้ถึงสิ่งที่นางต้องการการสื่อออกมา และเป่าฮู่ก็ไม่ได้คิดรังเกียจอะไร แต่ว่านางน่าจะดูอากรของนางก่อนสีหน้าของนางยังไม่ดีขึ้นจากก่อนหน้าเท่าไหร่นัก

“เจ้าจะรีบร้อนไปไหน ซิวหยู เจ้ายังไม่สบายอยู่ ว่าแต่เจ้ามาได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าข้ามอบเจ้าให้หลั่วจื่อดูแลหรอกหรือ?”

เมื่อหย่วนปงได้ยินเสียงของเป่าฮู่ก็พูดออกมาขณะที่กำลังรักษาตนเองมาตลอดทาง

“เจ้าหนุ่มเจ้าก็อย่าโทษนางเลย เจ้าคงรู้ทำไมนางต้องมา และที่ข้าห้ามนางไม่ได้ก็เพราะข้ามีเหตุผลของข้าจากนี้ต่อไปให้ระวังหลั่วจื่อ หมอหนุ่มผู้นั้นไว้ให้ดี ดวงชะตาของเจ้าหนุ่มนั่นจะเป็นผู้ที่แผ่นดินต้องจารึกนามของมันไว้เป็นแน่”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+