ตำนานเทพยุทธ์ 77

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 77 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากที่เป่าฮู่และหงหลี่เดินทางมาถึง โรงเตี๊ยมในเวลารุ่งเช้านั่นทำให้ ทุกคนเบาใจลงมาได้อย่างปลิดทิ้ง และจากเหตุการณ์นี้ทำให้หลายคนเชื่อมั่นในฝีมือที่ร้ายกาจของเป่าฮู่มากยิ่งขึ้น เพียงการกลับมาถึงเป่าฮู่ก็รีบกล่าวบอกต่กน้องสาวว่าการเดินทางไปป่าพฤกษาทมิฬ พี่ชายจะไปเป็นผู้คุ้มกันให้แต่จะไม่ยืนมือเข้าไปช่วยใดๆทั้งสิ้น

เพียงเท่านั้นพแสงแห่งวันโผล่พ้นขึ้นมา จ้าวหู่พร้อมทั้งศิษย์นิกายเสือขาวก็เดินตาม เปาฮู่และหญิงสาวทั้งสองนางไปสงบและเรียบร้อย

แม้เสียงจากกลุ่มศิษย์ชายในนั้นจะเทิดทูลเป่าฮู่ดั่งชายในอุดมการณ์ของตนไปแล้วก็ตาม เป้าหมายหรือบุคคลตัวหย่างของเขากลุ่มนั้นคือชายผู้นี้นั่นเอง

“สักวันข้าต้องแข็งแกร่งได้เช่นพี่ชายฮู่ และคว้าเอาดวงใจหญิงทั้งหล้ามาครอง”

จางเหริ่นได้กล่าวคำมั่นออกมา และนั่นเองก็ไม่รอดพ้นหูที่รับรู้ได้ดีของเป่าฮู่และชิงเหยียนไปได้ เป่าอู่หลังจากที่นำพาทุกคนมาตามที่จ้าวหู่บอกล่าวทุกคนก็ได้มาถึงเรือเหาะนาวาปราณเป็นที่เรียบร้อย บนเรือเหาะมีเหล่าจอมยุทธ์มากมายที่กล่าวขานเรื่องที่เกิดขึ้นที่เขตชายแดนของเมืองเซี่ยหยู ถึงการพบเห็นราชาของอสรพิษจากหุบเขาอสรพิษออกมาลาเหยื่อแถวเขตชายแดนเมืองเซี่ยหยูนั่นทำให้หลายาต่อหลายคนยอมที่จะละทิ้งเที่ยวเดินทางครั้งนี้เพื่อล่าชาอสรพิษมาเปนอสูรในพันธะสัญญาของตน

หงหลี่นางได้ฟังคำกล่าวเหล่านั้นนางเองก็สงสัยว่าพี่ชายไปได้อสูรลมปราณตนนี้มาได้เช่นไร และยิ่งพัฒนาตนเองได้ไวแบบนี้ด้วยเช่นกัน

เป่าฮู่ที่นั่งจิบน้ำชาบนเรือเหาะนาวาปราณ ก็หันไปกล่าวต่อนางด้วยความห่วงใยและนั่นยิ่งทำให้นางหมั่นไส้พี่ชายคนนี้มากขึ้นกว่าเดิมไปอีก

“ชิ! หวงความรู้แม้แต่น้องสาว ท่านพี่ท่านนีมันเหลือเกิน?

เป่าฮู่ก็ได้แต่ส่ายหน้าเพราะว่าลมปราณของแต่ะคนไม่เหมือนกันความสามรถในการฝึกจะเหมือนกันเช่นไร และเพียงไม่นานเป่าอู่ก็หันไปเจอชิงเหยียนที่กำลังเผยรอยยิ้ม เพราะตอนนี้นางไม่ใช่เด็กดั่งวันวานอีกต่อไปแล้วเป่าอู่ก็กล่าวชมนางเพราะนางนั้นคล้ายกับพี่สาวเหลือเกินหากนำมาเทียบกันทั้งสองก็ดงามไปคนละแบบ นั่นทำให้นี่เป็นครั้งแรกที่เป่าฮู่แอบมองหย่วนชงเหยียนด้วยสายตาของชายทั่วไปที่มองเหล่าอิสตรี

“เจ้าในบางครั้งก็งดงามกว่าพี่สาวเจ้านักชิงหยียน”

เพียงคำกล่าวบางเบานี้ ทำให้ชิงเหยียนต้องหยุดชะงักไป นางไมคาดคิดว่าจะได้ยินคำกล่าวนี้จากชายที่นางแอบเคารพบูชามาตั้งแต่ครั้งแรกที่ทั้งสองพบกันที่บ้านเกิดของนาง

ตอนนี้ใบหน้าของหย่วนชิงเหยียน เริ่มดงขึ้นมาเพราะความเขินอาย จ้าวหู่ได้เห็นท่าทางของนายน้อยหยอกล้อหญิงสาวครั้งแรกก็รู้ตกใจจนลืมตัวกล่าวออกไป

“นายน้อย มิใช่ว่านายน้อยกำลังชื่นชมแม่นางหย่วนชิงเหยียน จนลืมพี่สาวของนางไปแลวหรือขอรับ?”

เป่าฮู่ได้ฟังแม้ในใจจะรับสึกถูกตบด้วยแผ่นน้ำแข็งแต่ก็ต้องแสดงบางสิ่งออกมาเพื่อปรามไม่ให้ผู้ติดตามได้ทำตัวสนิทกับตนจนหลงลืมหน้าที่ไป แม้ะดูโหดร้ายแต่จ้าวหู่ก็รู้ว่านี้คือการแก่เขินอายของวัยหนุ่ม

“จ้าวหู่นี่ใช่หน้าที่องครักษ์เช่นเจ้าหรือไม่?”

กลิ่นอายของลมปราณที่เย็นเหยียบถูกแผ่ออกมาเกาะกุมแผ่นไม้บนตัวเรือเหาะจนกลายเป็นน้ำแข็งในทันที จ้าวหู่ได้เห็นก็รู้สึกเสียวสันหลัง หากนั่นเป็นร่างของตนเองคงสิ้นใจตายไปในทันที

“นายน้อย ข้าน้อยขออภัยที่กล่าวล่วงเกินท่านไป อื่มเช่นนี้นายน้อยต้องการสุราสักหน่อยไหมข้าน้องจะไปเอามาให้”

คำกล่าวประจบประแจงกลับมาแทนที่จ้าวหู่ได้เห็นท่าทีที่เย็นลงของนายน้อยก็แอบยิ้มในใจแทนที่จะโกรธ เพราะรู้ว่านั่นคือความเขินอายของวัยหนุ่ม

 

ด้านการเดินทางของเป่าฮู่ที่ดำเนินไป ทางสำนักเทพโอสถหลังจากที่หย่วนซิวหยูได้ฟื้นขึ้นมา นางได้ฟังสิ่งที่ปู่ของนางเล่าให้ฟังนางรู้ได้ทันทีว่านายทานของนางเต็มใจรักษาหาไม่มีเจ้าหมอบ้าหลั่วจื่อแกล้งถ่วงเวลาตอนนี้ไม่แน่นางอาจได้เดินทางร่วมกับนายท่านของนางไปแล้วก็ได้

จากความรู้สึกที่ดีกลับกลายเป็นเกลีดชังไปเสียได้

หย่วนซิวหยูเฝ้าคิดถึงผู้เป็นนายและห่วงตัวเป่าฮู่ตลอดเวลาเพราะเท่าที่อาศัยร่วมกันมาบางครั้งเป่าฮู่ก็มำด้รอบครอบในซะทุกเรื่อง ซึ่งส่วนนั้นเป็นหน้าที่ของนางที่จะทำให้นายท่านเสมอ

เมื่อนางที่เดินมาพบปู่ของนางก่อนที่จะข้ไปปรึกษากับปู่ของนางถึสิ่งที่นางกำลังเป็นและคิด นางเองขาดนายท่านของนางไม่ได้ และนางรู้ว่านายท่านไม่ยอมให้นางต้องตายไปเป็นแน่หากเทียบกันระหว่างหลั่งจื่อที่ตอนนี้ก็หมกตัวศึกษาแต่ตำรายาที่หอตำราหลายวันมานี้อาการของนางก็เป็นเช่นเดียวกับเหล่าศิษย์สำนักเทพโอสถคนอื่นที่เคยโดนพิษของอดีตจ้าวสำนักฮันเผิงคนนั้น นั่นยิ่งทำให้นางได้นำเรื่องนี้ปรึกษาปู่ของนางหย่วนปง เพื่อออกเดินทางไปพบเจอนายท่านของนางที่เขตปกครองมังกรฟ้า

หลังจากที่นางเฝ้ารอเวลามานานกว่า 10 วันในที่สุดก็มีบางสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นคือจดหมายที่น้องสาวของนาง หย่วนชิง

เหยียนเขียนมาให้นาง หย่วนซิวหยูรีบอ่านมันทันทีจนเนื้อหาด้านในทำให้น้ำตาของนางไหลออกมาท่ามกลางสายตาปู่ของนางที่ศาลาหลังเขาพันธะมิตรของสำนักเทพโอสถ

 

“ท่านปู่เจ้าค่ะ เนื้อหาข้างในนี้มันคือ?”

หย่วนปงที่รู้ก็หันมากล่าวต่อหลานรักและหย่วนปงก็มองท่าทีที่หลั่วจื่อมีต่อหลานสาวของตนเองได้ มันคือสิ่งที่หย่วนปงจะไม่ยอมให้เกิดเด็ดขาด

ดวงชะตาที่คร่าครอบครัวและเข่นฆ่าผู้คน ความชั่วร้ายนี้ในอนาคตหย่วงปงไม่ยอมให้คนเช่นนี้ต้องมาเกี่ยวข้องกับหลานสาวของตนเป็นแน่

การแหกกฎฟ้าดินทำนายดวงชะตาให้คนอื่นในปีเดียวกันอีกครั้งทำให้หย่วนปงสูญเสียพลังลมปราณไปกว่าครึ่งนั่นทำให้ระดับของหย่วนปงตกมาสู่ราชันขั้นกลางซึ่งน้อยกว่าเป่าฮู่ในตอนนี้ด้วยซ้ำ

ดังนั้นหย่วนปงจึงเขียนจดหมายไว้ล่วงหน้าและแจ้งแก่คนเช่นหลั่วจื่อไว้ และหลังจากที่หลานสาวของตนอ่านจดหมายจบหย่วนปงก็รีบนำพาหย่วยซิวหยูออกจากสำนักเทพโอสถทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงภัยร้ายจากี่ชั่วช้าในอนาคต

และก็เป็นเช่นนั้น เมื่อหลั่วจื่อได้อกจากการเก็บตนศึกษาตำรา ก็ได้พบกับจดหมายที่หย่วนปงฝากศิษย์ของสำนักเอามาให้แก่หลั่วจื่อนั่นเอง

จากที่ได้อ่านจดหมายหลั่วจื่อก็ได้รัเบิดโทสะออกมาและร่ำร้องด้วยความเครียดแค้นที่ชายชราผู้นั้นไม่ยอมยกหลานสวให้แก่ตนถึงได้ใช้ถ้อยคำแบบนั้นออกมาและกล่าวออกมาว่าหลานสาวของตนได้ถูกชะตาเลือกไว้ให้เป็นดาวกาลกิณีและตามรับใช้ชายเพียงคนเดียวในใต้หล้านี้ และนั่นก็คือเป่าฮู่คนนี้เท่านั้น

ด้วยเหตุนั้นทำให้เสียงแผดร้องด้วยความเสียใจที่ด้านหลังหุบเขาได้ฉุดหลั่วจื่อใหเดินตามเส้นทางของฮันเผิงเป็นคนที่สอง แต่ที่ต่างกันออกไปตำราลมปราณพิษและการปรุงพิษนั้นยังถุกเป่าฮู่เก็บไว้นั่นเอง…….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ตำนานเทพยุทธ์ 77

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 77 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากที่เป่าฮู่และหงหลี่เดินทางมาถึง โรงเตี๊ยมในเวลารุ่งเช้านั่นทำให้ ทุกคนเบาใจลงมาได้อย่างปลิดทิ้ง และจากเหตุการณ์นี้ทำให้หลายคนเชื่อมั่นในฝีมือที่ร้ายกาจของเป่าฮู่มากยิ่งขึ้น เพียงการกลับมาถึงเป่าฮู่ก็รีบกล่าวบอกต่กน้องสาวว่าการเดินทางไปป่าพฤกษาทมิฬ พี่ชายจะไปเป็นผู้คุ้มกันให้แต่จะไม่ยืนมือเข้าไปช่วยใดๆทั้งสิ้น

เพียงเท่านั้นพแสงแห่งวันโผล่พ้นขึ้นมา จ้าวหู่พร้อมทั้งศิษย์นิกายเสือขาวก็เดินตาม เปาฮู่และหญิงสาวทั้งสองนางไปสงบและเรียบร้อย

แม้เสียงจากกลุ่มศิษย์ชายในนั้นจะเทิดทูลเป่าฮู่ดั่งชายในอุดมการณ์ของตนไปแล้วก็ตาม เป้าหมายหรือบุคคลตัวหย่างของเขากลุ่มนั้นคือชายผู้นี้นั่นเอง

“สักวันข้าต้องแข็งแกร่งได้เช่นพี่ชายฮู่ และคว้าเอาดวงใจหญิงทั้งหล้ามาครอง”

จางเหริ่นได้กล่าวคำมั่นออกมา และนั่นเองก็ไม่รอดพ้นหูที่รับรู้ได้ดีของเป่าฮู่และชิงเหยียนไปได้ เป่าอู่หลังจากที่นำพาทุกคนมาตามที่จ้าวหู่บอกล่าวทุกคนก็ได้มาถึงเรือเหาะนาวาปราณเป็นที่เรียบร้อย บนเรือเหาะมีเหล่าจอมยุทธ์มากมายที่กล่าวขานเรื่องที่เกิดขึ้นที่เขตชายแดนของเมืองเซี่ยหยู ถึงการพบเห็นราชาของอสรพิษจากหุบเขาอสรพิษออกมาลาเหยื่อแถวเขตชายแดนเมืองเซี่ยหยูนั่นทำให้หลายาต่อหลายคนยอมที่จะละทิ้งเที่ยวเดินทางครั้งนี้เพื่อล่าชาอสรพิษมาเปนอสูรในพันธะสัญญาของตน

หงหลี่นางได้ฟังคำกล่าวเหล่านั้นนางเองก็สงสัยว่าพี่ชายไปได้อสูรลมปราณตนนี้มาได้เช่นไร และยิ่งพัฒนาตนเองได้ไวแบบนี้ด้วยเช่นกัน

เป่าฮู่ที่นั่งจิบน้ำชาบนเรือเหาะนาวาปราณ ก็หันไปกล่าวต่อนางด้วยความห่วงใยและนั่นยิ่งทำให้นางหมั่นไส้พี่ชายคนนี้มากขึ้นกว่าเดิมไปอีก

“ชิ! หวงความรู้แม้แต่น้องสาว ท่านพี่ท่านนีมันเหลือเกิน?

เป่าฮู่ก็ได้แต่ส่ายหน้าเพราะว่าลมปราณของแต่ะคนไม่เหมือนกันความสามรถในการฝึกจะเหมือนกันเช่นไร และเพียงไม่นานเป่าอู่ก็หันไปเจอชิงเหยียนที่กำลังเผยรอยยิ้ม เพราะตอนนี้นางไม่ใช่เด็กดั่งวันวานอีกต่อไปแล้วเป่าอู่ก็กล่าวชมนางเพราะนางนั้นคล้ายกับพี่สาวเหลือเกินหากนำมาเทียบกันทั้งสองก็ดงามไปคนละแบบ นั่นทำให้นี่เป็นครั้งแรกที่เป่าฮู่แอบมองหย่วนชงเหยียนด้วยสายตาของชายทั่วไปที่มองเหล่าอิสตรี

“เจ้าในบางครั้งก็งดงามกว่าพี่สาวเจ้านักชิงหยียน”

เพียงคำกล่าวบางเบานี้ ทำให้ชิงเหยียนต้องหยุดชะงักไป นางไมคาดคิดว่าจะได้ยินคำกล่าวนี้จากชายที่นางแอบเคารพบูชามาตั้งแต่ครั้งแรกที่ทั้งสองพบกันที่บ้านเกิดของนาง

ตอนนี้ใบหน้าของหย่วนชิงเหยียน เริ่มดงขึ้นมาเพราะความเขินอาย จ้าวหู่ได้เห็นท่าทางของนายน้อยหยอกล้อหญิงสาวครั้งแรกก็รู้ตกใจจนลืมตัวกล่าวออกไป

“นายน้อย มิใช่ว่านายน้อยกำลังชื่นชมแม่นางหย่วนชิงเหยียน จนลืมพี่สาวของนางไปแลวหรือขอรับ?”

เป่าฮู่ได้ฟังแม้ในใจจะรับสึกถูกตบด้วยแผ่นน้ำแข็งแต่ก็ต้องแสดงบางสิ่งออกมาเพื่อปรามไม่ให้ผู้ติดตามได้ทำตัวสนิทกับตนจนหลงลืมหน้าที่ไป แม้ะดูโหดร้ายแต่จ้าวหู่ก็รู้ว่านี้คือการแก่เขินอายของวัยหนุ่ม

“จ้าวหู่นี่ใช่หน้าที่องครักษ์เช่นเจ้าหรือไม่?”

กลิ่นอายของลมปราณที่เย็นเหยียบถูกแผ่ออกมาเกาะกุมแผ่นไม้บนตัวเรือเหาะจนกลายเป็นน้ำแข็งในทันที จ้าวหู่ได้เห็นก็รู้สึกเสียวสันหลัง หากนั่นเป็นร่างของตนเองคงสิ้นใจตายไปในทันที

“นายน้อย ข้าน้อยขออภัยที่กล่าวล่วงเกินท่านไป อื่มเช่นนี้นายน้อยต้องการสุราสักหน่อยไหมข้าน้องจะไปเอามาให้”

คำกล่าวประจบประแจงกลับมาแทนที่จ้าวหู่ได้เห็นท่าทีที่เย็นลงของนายน้อยก็แอบยิ้มในใจแทนที่จะโกรธ เพราะรู้ว่านั่นคือความเขินอายของวัยหนุ่ม

 

ด้านการเดินทางของเป่าฮู่ที่ดำเนินไป ทางสำนักเทพโอสถหลังจากที่หย่วนซิวหยูได้ฟื้นขึ้นมา นางได้ฟังสิ่งที่ปู่ของนางเล่าให้ฟังนางรู้ได้ทันทีว่านายทานของนางเต็มใจรักษาหาไม่มีเจ้าหมอบ้าหลั่วจื่อแกล้งถ่วงเวลาตอนนี้ไม่แน่นางอาจได้เดินทางร่วมกับนายท่านของนางไปแล้วก็ได้

จากความรู้สึกที่ดีกลับกลายเป็นเกลีดชังไปเสียได้

หย่วนซิวหยูเฝ้าคิดถึงผู้เป็นนายและห่วงตัวเป่าฮู่ตลอดเวลาเพราะเท่าที่อาศัยร่วมกันมาบางครั้งเป่าฮู่ก็มำด้รอบครอบในซะทุกเรื่อง ซึ่งส่วนนั้นเป็นหน้าที่ของนางที่จะทำให้นายท่านเสมอ

เมื่อนางที่เดินมาพบปู่ของนางก่อนที่จะข้ไปปรึกษากับปู่ของนางถึสิ่งที่นางกำลังเป็นและคิด นางเองขาดนายท่านของนางไม่ได้ และนางรู้ว่านายท่านไม่ยอมให้นางต้องตายไปเป็นแน่หากเทียบกันระหว่างหลั่งจื่อที่ตอนนี้ก็หมกตัวศึกษาแต่ตำรายาที่หอตำราหลายวันมานี้อาการของนางก็เป็นเช่นเดียวกับเหล่าศิษย์สำนักเทพโอสถคนอื่นที่เคยโดนพิษของอดีตจ้าวสำนักฮันเผิงคนนั้น นั่นยิ่งทำให้นางได้นำเรื่องนี้ปรึกษาปู่ของนางหย่วนปง เพื่อออกเดินทางไปพบเจอนายท่านของนางที่เขตปกครองมังกรฟ้า

หลังจากที่นางเฝ้ารอเวลามานานกว่า 10 วันในที่สุดก็มีบางสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นคือจดหมายที่น้องสาวของนาง หย่วนชิง

เหยียนเขียนมาให้นาง หย่วนซิวหยูรีบอ่านมันทันทีจนเนื้อหาด้านในทำให้น้ำตาของนางไหลออกมาท่ามกลางสายตาปู่ของนางที่ศาลาหลังเขาพันธะมิตรของสำนักเทพโอสถ

 

“ท่านปู่เจ้าค่ะ เนื้อหาข้างในนี้มันคือ?”

หย่วนปงที่รู้ก็หันมากล่าวต่อหลานรักและหย่วนปงก็มองท่าทีที่หลั่วจื่อมีต่อหลานสาวของตนเองได้ มันคือสิ่งที่หย่วนปงจะไม่ยอมให้เกิดเด็ดขาด

ดวงชะตาที่คร่าครอบครัวและเข่นฆ่าผู้คน ความชั่วร้ายนี้ในอนาคตหย่วงปงไม่ยอมให้คนเช่นนี้ต้องมาเกี่ยวข้องกับหลานสาวของตนเป็นแน่

การแหกกฎฟ้าดินทำนายดวงชะตาให้คนอื่นในปีเดียวกันอีกครั้งทำให้หย่วนปงสูญเสียพลังลมปราณไปกว่าครึ่งนั่นทำให้ระดับของหย่วนปงตกมาสู่ราชันขั้นกลางซึ่งน้อยกว่าเป่าฮู่ในตอนนี้ด้วยซ้ำ

ดังนั้นหย่วนปงจึงเขียนจดหมายไว้ล่วงหน้าและแจ้งแก่คนเช่นหลั่วจื่อไว้ และหลังจากที่หลานสาวของตนอ่านจดหมายจบหย่วนปงก็รีบนำพาหย่วยซิวหยูออกจากสำนักเทพโอสถทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงภัยร้ายจากี่ชั่วช้าในอนาคต

และก็เป็นเช่นนั้น เมื่อหลั่วจื่อได้อกจากการเก็บตนศึกษาตำรา ก็ได้พบกับจดหมายที่หย่วนปงฝากศิษย์ของสำนักเอามาให้แก่หลั่วจื่อนั่นเอง

จากที่ได้อ่านจดหมายหลั่วจื่อก็ได้รัเบิดโทสะออกมาและร่ำร้องด้วยความเครียดแค้นที่ชายชราผู้นั้นไม่ยอมยกหลานสวให้แก่ตนถึงได้ใช้ถ้อยคำแบบนั้นออกมาและกล่าวออกมาว่าหลานสาวของตนได้ถูกชะตาเลือกไว้ให้เป็นดาวกาลกิณีและตามรับใช้ชายเพียงคนเดียวในใต้หล้านี้ และนั่นก็คือเป่าฮู่คนนี้เท่านั้น

ด้วยเหตุนั้นทำให้เสียงแผดร้องด้วยความเสียใจที่ด้านหลังหุบเขาได้ฉุดหลั่วจื่อใหเดินตามเส้นทางของฮันเผิงเป็นคนที่สอง แต่ที่ต่างกันออกไปตำราลมปราณพิษและการปรุงพิษนั้นยังถุกเป่าฮู่เก็บไว้นั่นเอง…….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+