ตำนานเทพยุทธ์ 73

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 73 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จากที่ได้เห็นการสละชีวิตของหนึ่งในองครักษ์ทำให้ใบหน้าของเป่าฮู่กลับกลายเป็นน่าเกลียดน่ากลัว ด้วยสามฝามือที่ซัดออกไปทั่วร่างของฮันเผิงทำให้ร่างของฮันเผิงกระเด็นออกไปอาการสาหัส การกระอั๊กเลือดออกมา ท่ามกลางเหล่าอาวุโสที่ยืนมองเจ้าสำนักของตัวพวกมันเองล้มลงต่อหน้าอย่างไม่กล้าแม้จะขยับเท้าออกไปช่วย

ด้วยชายหนุ่มคนนี้ลงมือโหดเหี้ยม เพียงสามฝ่ามือกลับสามารถผ่าปราการเพลิงของจ้าวสำนักเข้าไปได้ แล้วพวกมันจะเหลืออะไรหากดิ้นรนต่อไป

เพียงได้เห็นจุดจบของสำนักเพียงคนไม่กี่คน เหล่าคนที่รักตัวกลัวตายกลับพากันคุกเข่าลงกับพื้นและไม่สนหัวของฮันเผิงอีกต่อไปว่าจะอยู่หัวตาย

“ท่านจอมยุทธ์ได้โปรดละเว้นเหล่านกกาเช่นเราด้วย ได้! ได้! เราจะรีบบอกท่านเกี่ยวกับยาถอนพิษ ข้า ข้ามีอยู่เม็ดหนึ่งแต่ท่านต้องละเว้นชีวิตของข้าได้โปรดแล้วข้าจะอธิบายเกี่ยวกับพิษชนิดนี้ให้ฟัง…”

เป่าฮู่ได้ฟังและเห็นชายชราคนนี้ก่อนหน้านี้ เขาเป็นคนที่ก้าวออกมาสั่งให้เหล่าศิษย์โจมตีตนที่บุกมาเพียงลำพัง แถมยังบอกให้คนไปส่งข่าวแก่จ้าวสำนักเช่นฮันผิง การกระทำที่ผ่านมานั้นเป่าฮู่ สลักมันลงไปในห้วงสำนึกเรียบร้อยแล้วจึงยากที่จะลบเลือน

แต่ชายหนุ่มกลับยิ้มออกมาอย่างสุขใจ เมื่อเห็นคนของสำนักเทพโอสถที่ชั่วช้าคุกเข่าต่อหน้า เพราะจากนี้สำนักนี้คงต้องฝากหลั่วจื่อเป็นคนจัดการแทนแล้วและยังได้รับข้อมูลของพิษทั้งหมดด้วย

เพียงการหันไปมองฮันเผิงโดยไม่สนใจเหล่าอาวุโสพวกนั้นเพียงสายตาของเป่าฮู่หันไปเห็นเจ้าฮันเผิงกำลังโคจรพลังรักษาตัวเอง เป่าฮู่ก็คำรามออกมาด้วยความโกรธ

“ ยังคิดดิ้นรนต่อสู้อีกหรือ ไอ้สารเลว เข็มคู่พรากวิญญาณ…..((((ฟลิ้ว!))))(((ฉึ๊ก!)))(((ฉึ๊ก!)))”

เพียงเข็มน้ำแข็งจากทักษะส่วนตัวของเป่าฮู่ที่เรียนมา เข้าไปขัดขวางการโคจรรักษาตนเองและแช่แข็งจุดชีพจรจุดนั้นให้ไร้ความรู้สึกไป

แต่ลมปราณที่มีในจุดลมปราณเหล่านั้นกลับทะลักออกมา ด้วยบัดนี้เป่าฮู่ไม่มีอารมณ์มาใจเย็นกับคนเช่นฮันเผิง ความโกรธที่มีได้พุ่งเข้าไปที่ร่างของฮันเผิงและใช้โอกาสนี้จัดการเชือดไก่ให้ลิงดู การสังหารหัวหน้าเพื่อสร้างความหวาดกลังต่อเหล่าผู้ติดตาม ให้ยอมสยบทั้งที่ไม่ต้องเสียเวลาต่อไปอีก

 

“ข้าให้เวลาพวกเจ้า ตาแก่ทั้งหลาย ไปหายาถอนพิษมารักษาสหายข้าด้านนอก เพียงครึ่งชั่วยาม หากยังทำไม่ได้พวกเจ้าจะกลายเป็นอาหารของสัตว์อสูรลมปราณของข้า ส่วนเจ้าเจ้าตัวประหลาด ชายก็ไม่ใช่หญิงก็ไม่เชิง จงตกตายไปเสียแต่ตอนนี้ให้สมกับความชั่วของเจ้า กระแทกวิญญาณ….(((โผละ!)))”

 

การโคจรลมปราณไปที่ฝ่ามือแล้วกระแทกฝ่ามือนั้นเข้าตรงส่วนหัวของฮันเผิงอย่างจัง ทำให้เส้นชีพจรทั่วร่างขาดสะบั้นเลือดตกในตายไปทั่งที่พยายามดิ้นรนหาทางรอด

เพียงร่างที่หมดลมหายใจในสภาพที่น่าอนาถใจ เป่าฮู่ก็หันไปมองที่ตัวของฮันเผิง ก็เห็นว่ามีแหวนเก็บของและยังมีเตาปรุงยาที่องครักษ์ผู้นั้นกอดเอาไว้อย่างไม่วางตานั่นอีก

หลังจากที่ฮันเผิงตกตายเป่าฮู่ก็นำแหวนที่ตัวออกมาและเก็บเตาปรุงยาพิษเข้าไปในแหวนของตน และไม่ลืมสำรวจในแหวนเก็บของที่ฮันเผิงมีว่าตัวไหนคือยาถอนพิษ ไม่นานหลังจากที่เหล่าอาวุโสที่ร้องขอชีวิตรอดได้พากันมา พวกมันทั้ง 4 คน ต่างนำพายาถอนพิษมาและพวกมันก็ไม่มีใครรู้ว่ายาถอนพิษตัวสุดท้ายนั้น ฮันเผิงเก็บไว้ที่ไหน ด้วยฮันเผิงเป็นคนที่มีความลับสูงมาก

 

เป่าฮู่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักหลังจากที่รับยาถอนพิษมาก็รีบสั่งให้เหล่าองครักษ์ที่เหลือนำศพขององครักษ์ที่เสียชีวิตไปฝังและจัดคนเฝ้าคนเหล่านี้ไว้ รวมทั้งยังเก็บราชาอสรพิษฟ้าครามเข้ามาในวงแหวนอัญเชิญก่อน

เมื่อเป่าฮู่ย้อนกลับไปที่หย่วนซิวหยูอยู่ ก็พบว่าหลั่วจื่อเองก็กลับมาแล้ว นั่นยิ่งทำให้เป่าฮู่ต้องการปรึกษากับหลั่วจื่อถึงวิธีรักษาหย่วนซิวหยู

“ท่านผู้เฒ่าหย่วน ข้าได้รับยาแก้พิษมาสองเม็ด แต่พวกที่ยอมร่วมมือด้วย พวกมันบอกว่ายาพิษนี้เจ้าฮันเผิงมีตัวยาอยู่ 3 ส่วน และส่วนสุดท้ายเป็นฮันเผิงที่เก็บซ่อนเอาไว้ เพราะเหล่าศิษย์ทุกคนหรือแม้แต่อาวุโสที่โดนพิษนี้ก็ต้องรอให้เจ้าฮันเผิงออกมามอบยาแก้พิษส่วนสดท้ายทุกปี นั่นคือสิ่งที่เลวร้ายของพิษชนิดนี้”

 

เป่าฮู่ได้กล่าวสิ่งที่รู้มาออกไป และเมื่อจะกล่าวถามหลั่วจื่อถึงวิธีสุดท้ายที่ตนเองจะลองทำ เพราะเมื่อตอนที่ต่อสู้กับฮันเผิงเป่าอู่สามารถขจัดพิษชนิดนี้ได้และไม่ได้มีอะไรที่ลำบากไปเลยแม้แต่น้อย

“นี่น้องชายหลั่วจื่อ ตอนนี้สำนักนี้เดิมเป็นสำนักของเจ้าและเหล่าศิษย์ที่รักในการรักษาคน ดังนั่นจากนี้สำนักนี้ข้ามอบมันให้เจ้าดูแล จงทำให้สำนักนี้กลับมามีชื่อเสียงในทางที่ดีต่อไปและคนที่ยอมรับใช้เจ้าก็จงทำให้พวกมันกลับตัวกลับใจเดินตามเส้นทางที่ปรมาจารย์สร้างทิ้งไว้

ส่วนเรื่องยาถอนพิษข้าคิดวิธีหนึ่งได้ในตอนที่ข้าต่อสู้กับฮันเผิง อันตัวข้าเองก็ฝึกทักษะพิษมาบ้างและข้าสามารถใช้พิษของอสูรในพันธะสัญญาดูดกลืนพิษของฮันเผิงเข้ามาได้ แม้มันจะไม่มาก แต่ข้ากลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลย เจ้าว่าข้าสามารถช่วยรักษานางได้หรือไม่?”

 

เมื่อหลั่วจื่อได้ฟัง แม้หลักความเป็นจริงสามารถทำได้ด้วยพิษรักษาพิษ แต่ตอนนี้อาการของหย่วนซิวหยูอ่อนแอมากนัก นางรับพิษมานานหลายชั่วยาม ดังนั้นทางที่ดีให้นางรับยาถอนพิษไปก่อนสองส่วน อีกส่วนหนึ่งหากนางแข็งแรงดีค่อยให้ตัวเป่าฮู่ทำในสิ่งที่คิด อีกอย่างตัวหลั่วจื่อยังยื้อให้นางอยู่เพื่อทำความรู้จักได้อีกด้วย

“พี่ชาย ท่านพูดมาแม้สามารถทำได้ แต่ก็ไม่รับประกันว่านางจะรอดเช่นนั้นให้นางรับยาแก้ไปก่อนสองส่วน และให้นางพักอยู่ที่สำนักเทพโอสถ ข้าที่เป็นหมอจะพยายามทุกทางให้นางหายจากพิษนี้และเมื่ออาการนางดีขึ้นข้าจะส่งข่าวบอกท่าน หากข้าไม่สามารถหาทางแก้พิษได้จริง เราจะใช้วิธีการของท่าน”

 

หย่วนปงได้ฟังแม้รู้ว่าเจ้าหมอคนนี้ดูเป็นห่วงหลานสาวตนจริง แต่วิธีของคุณชายเป่าฮู่แม้นจะฟังดูว่าน่าเป็นไปได้สูงแต่ก็บ้าบิ่นเกินไป หย่วนปงจึงกล่าวออกไปว่า

 

“คุณชายเป่า ท่านก็เดินทางไปที่เขตปกครองมังกรฟ้าก่อนเถอะ ที่นี่ข้าจะดูแลเอง นางหายดีเมื่อไหร่ข้าจะให้นางตามไปรับใช้ท่านส่วนเจ้า เจ้าหนุ่มข้าไม่รู้หรอกว่า เจ้าทำไมจึงดีกับหลานสาวข้า แต่ข้าเห็นว่าเจ้ามีความตั้งใจที่ดี ฉะนั้นหมอที่ดีข้าจะสนับสนุน ในระยะเวลาที่ข้าอยู่เฝ้าอาการหลานสาวข้าที่นี่ ใครก็ตามก็ไม่อาจทำร้ายเจ้าและนางได้”

 

เมื่อเหล่าผู้รอดชีวิตอดีตศิษย์ของฮันเผิงได้รับรู้ว่าแท้จริงมีชนชั้นจักรพรรดิลมปราณอยู่ด้านนอก พวกมันจึงได้รู้ว่าทำไมคนเหล่านี้กล้ามากที่จะบุกมาทำลายสำนักนี้ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วและพวกมันก็ต้องยอมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

เพียงสายลมเปลี่ยนทิศผู้นำเปลี่ยน การปกครองก็เปลี่ยนตาม สำนักเทพโอสถก็กลับมาเป็นของกลุ่มอำนาจฝ่ายธรรมะต่อไปนั่นเอง

 

เป่าฮู่หลังจากที่ได้เห็นทุกอย่างลงตัวเป่าฮู่ก็หันไปทางเหล่าองครักษ์ และเดินไปทางหลุมศพของหนึ่งในคนที่รับใช้ตัวเป่าฮู่ด้วยความจงรักภักดี

เพียงการมาของเป่าฮู่ที่หน้าหลุมศพ องครักษ์ทุกคนที่เหลือล้วนทำความเคารพเป่าฮู่

“นายน้อย เราทำตามที่ท่านบอก วันนี้ ไสวหลิวพี่น้องของเรา ได้จากเราไปแล้ว แต่เห็นสิ่งที่เขาทำ ความกล้าหาญนั้นเราทั้ง 4 ล้วนจดจำได้ดี”

 

เป่าฮู่เองก็ไม่คิดว่าแผนที่วางไว้จะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น และทันทีที่การฝังศพสิ้นสุดลง

เป่าฮู่ก็ได้นั่งลงหน้าหลุมศพและกล่าวออกไปดั่งคนที่ภาคภูมิใจกับเหล่าผู้ติดตามที่จงรักภักดีขนาดนี้

“ไสวหลิว วันนี้เจ้าจงหลับให้สบาย ลูกเมียหรือแม้แต่ครอบครัวเจ้า ข้ารับปากจะดูแลพวกเขาอย่างดี และวันนี้ข้าจะนั่งดื่มให้เจ้ายันสว่าง และหลังจากนั้นเราจะนำดินหลุมศพเจ้าไปพร้อมกันกับเราที่เขตปกครอง มังกรฟ้า ไปทำภารกิจของเราให้จบ”

 

หลังจากที่เป่าฮู่และเหล่าองครักษ์ได้นั่งดื่มกินมาจนถึงเวลายามเฉิน หลั่วจื่อที่ออกมาจากห้องพักของหย่วนซิวหยู ก็ได้เดินมายังเนินเขาหลังสำนัก ที่บรรยากาศดีที่สุดและเห็นกลุ่มคนที่นั่งดื่มหน้าหลุมศพของสมาชิกพวกเขา

หลั่วจื่อที่เป็นว่าที่เจ้าสำนักได้เห็นพื้นที่ส่วนนี้มีคนของเป่าฮู่คนที่ช่วยกำจัดศัตรูฆ่าอาจารย์ให้ ดังนั้นจากนี้ส่วนพื้นที่ตรงนี้จะเป็นสถานที่ของชายคนนี้ตลอดไป และที่แห่งนี้จะมีศาลาแห่งมิตรภาพเกิดขึ้นในวันข้างหน้า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ตำนานเทพยุทธ์ 73

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 73 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จากที่ได้เห็นการสละชีวิตของหนึ่งในองครักษ์ทำให้ใบหน้าของเป่าฮู่กลับกลายเป็นน่าเกลียดน่ากลัว ด้วยสามฝามือที่ซัดออกไปทั่วร่างของฮันเผิงทำให้ร่างของฮันเผิงกระเด็นออกไปอาการสาหัส การกระอั๊กเลือดออกมา ท่ามกลางเหล่าอาวุโสที่ยืนมองเจ้าสำนักของตัวพวกมันเองล้มลงต่อหน้าอย่างไม่กล้าแม้จะขยับเท้าออกไปช่วย

ด้วยชายหนุ่มคนนี้ลงมือโหดเหี้ยม เพียงสามฝ่ามือกลับสามารถผ่าปราการเพลิงของจ้าวสำนักเข้าไปได้ แล้วพวกมันจะเหลืออะไรหากดิ้นรนต่อไป

เพียงได้เห็นจุดจบของสำนักเพียงคนไม่กี่คน เหล่าคนที่รักตัวกลัวตายกลับพากันคุกเข่าลงกับพื้นและไม่สนหัวของฮันเผิงอีกต่อไปว่าจะอยู่หัวตาย

“ท่านจอมยุทธ์ได้โปรดละเว้นเหล่านกกาเช่นเราด้วย ได้! ได้! เราจะรีบบอกท่านเกี่ยวกับยาถอนพิษ ข้า ข้ามีอยู่เม็ดหนึ่งแต่ท่านต้องละเว้นชีวิตของข้าได้โปรดแล้วข้าจะอธิบายเกี่ยวกับพิษชนิดนี้ให้ฟัง…”

เป่าฮู่ได้ฟังและเห็นชายชราคนนี้ก่อนหน้านี้ เขาเป็นคนที่ก้าวออกมาสั่งให้เหล่าศิษย์โจมตีตนที่บุกมาเพียงลำพัง แถมยังบอกให้คนไปส่งข่าวแก่จ้าวสำนักเช่นฮันผิง การกระทำที่ผ่านมานั้นเป่าฮู่ สลักมันลงไปในห้วงสำนึกเรียบร้อยแล้วจึงยากที่จะลบเลือน

แต่ชายหนุ่มกลับยิ้มออกมาอย่างสุขใจ เมื่อเห็นคนของสำนักเทพโอสถที่ชั่วช้าคุกเข่าต่อหน้า เพราะจากนี้สำนักนี้คงต้องฝากหลั่วจื่อเป็นคนจัดการแทนแล้วและยังได้รับข้อมูลของพิษทั้งหมดด้วย

เพียงการหันไปมองฮันเผิงโดยไม่สนใจเหล่าอาวุโสพวกนั้นเพียงสายตาของเป่าฮู่หันไปเห็นเจ้าฮันเผิงกำลังโคจรพลังรักษาตัวเอง เป่าฮู่ก็คำรามออกมาด้วยความโกรธ

“ ยังคิดดิ้นรนต่อสู้อีกหรือ ไอ้สารเลว เข็มคู่พรากวิญญาณ…..((((ฟลิ้ว!))))(((ฉึ๊ก!)))(((ฉึ๊ก!)))”

เพียงเข็มน้ำแข็งจากทักษะส่วนตัวของเป่าฮู่ที่เรียนมา เข้าไปขัดขวางการโคจรรักษาตนเองและแช่แข็งจุดชีพจรจุดนั้นให้ไร้ความรู้สึกไป

แต่ลมปราณที่มีในจุดลมปราณเหล่านั้นกลับทะลักออกมา ด้วยบัดนี้เป่าฮู่ไม่มีอารมณ์มาใจเย็นกับคนเช่นฮันเผิง ความโกรธที่มีได้พุ่งเข้าไปที่ร่างของฮันเผิงและใช้โอกาสนี้จัดการเชือดไก่ให้ลิงดู การสังหารหัวหน้าเพื่อสร้างความหวาดกลังต่อเหล่าผู้ติดตาม ให้ยอมสยบทั้งที่ไม่ต้องเสียเวลาต่อไปอีก

 

“ข้าให้เวลาพวกเจ้า ตาแก่ทั้งหลาย ไปหายาถอนพิษมารักษาสหายข้าด้านนอก เพียงครึ่งชั่วยาม หากยังทำไม่ได้พวกเจ้าจะกลายเป็นอาหารของสัตว์อสูรลมปราณของข้า ส่วนเจ้าเจ้าตัวประหลาด ชายก็ไม่ใช่หญิงก็ไม่เชิง จงตกตายไปเสียแต่ตอนนี้ให้สมกับความชั่วของเจ้า กระแทกวิญญาณ….(((โผละ!)))”

 

การโคจรลมปราณไปที่ฝ่ามือแล้วกระแทกฝ่ามือนั้นเข้าตรงส่วนหัวของฮันเผิงอย่างจัง ทำให้เส้นชีพจรทั่วร่างขาดสะบั้นเลือดตกในตายไปทั่งที่พยายามดิ้นรนหาทางรอด

เพียงร่างที่หมดลมหายใจในสภาพที่น่าอนาถใจ เป่าฮู่ก็หันไปมองที่ตัวของฮันเผิง ก็เห็นว่ามีแหวนเก็บของและยังมีเตาปรุงยาที่องครักษ์ผู้นั้นกอดเอาไว้อย่างไม่วางตานั่นอีก

หลังจากที่ฮันเผิงตกตายเป่าฮู่ก็นำแหวนที่ตัวออกมาและเก็บเตาปรุงยาพิษเข้าไปในแหวนของตน และไม่ลืมสำรวจในแหวนเก็บของที่ฮันเผิงมีว่าตัวไหนคือยาถอนพิษ ไม่นานหลังจากที่เหล่าอาวุโสที่ร้องขอชีวิตรอดได้พากันมา พวกมันทั้ง 4 คน ต่างนำพายาถอนพิษมาและพวกมันก็ไม่มีใครรู้ว่ายาถอนพิษตัวสุดท้ายนั้น ฮันเผิงเก็บไว้ที่ไหน ด้วยฮันเผิงเป็นคนที่มีความลับสูงมาก

 

เป่าฮู่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักหลังจากที่รับยาถอนพิษมาก็รีบสั่งให้เหล่าองครักษ์ที่เหลือนำศพขององครักษ์ที่เสียชีวิตไปฝังและจัดคนเฝ้าคนเหล่านี้ไว้ รวมทั้งยังเก็บราชาอสรพิษฟ้าครามเข้ามาในวงแหวนอัญเชิญก่อน

เมื่อเป่าฮู่ย้อนกลับไปที่หย่วนซิวหยูอยู่ ก็พบว่าหลั่วจื่อเองก็กลับมาแล้ว นั่นยิ่งทำให้เป่าฮู่ต้องการปรึกษากับหลั่วจื่อถึงวิธีรักษาหย่วนซิวหยู

“ท่านผู้เฒ่าหย่วน ข้าได้รับยาแก้พิษมาสองเม็ด แต่พวกที่ยอมร่วมมือด้วย พวกมันบอกว่ายาพิษนี้เจ้าฮันเผิงมีตัวยาอยู่ 3 ส่วน และส่วนสุดท้ายเป็นฮันเผิงที่เก็บซ่อนเอาไว้ เพราะเหล่าศิษย์ทุกคนหรือแม้แต่อาวุโสที่โดนพิษนี้ก็ต้องรอให้เจ้าฮันเผิงออกมามอบยาแก้พิษส่วนสดท้ายทุกปี นั่นคือสิ่งที่เลวร้ายของพิษชนิดนี้”

 

เป่าฮู่ได้กล่าวสิ่งที่รู้มาออกไป และเมื่อจะกล่าวถามหลั่วจื่อถึงวิธีสุดท้ายที่ตนเองจะลองทำ เพราะเมื่อตอนที่ต่อสู้กับฮันเผิงเป่าอู่สามารถขจัดพิษชนิดนี้ได้และไม่ได้มีอะไรที่ลำบากไปเลยแม้แต่น้อย

“นี่น้องชายหลั่วจื่อ ตอนนี้สำนักนี้เดิมเป็นสำนักของเจ้าและเหล่าศิษย์ที่รักในการรักษาคน ดังนั่นจากนี้สำนักนี้ข้ามอบมันให้เจ้าดูแล จงทำให้สำนักนี้กลับมามีชื่อเสียงในทางที่ดีต่อไปและคนที่ยอมรับใช้เจ้าก็จงทำให้พวกมันกลับตัวกลับใจเดินตามเส้นทางที่ปรมาจารย์สร้างทิ้งไว้

ส่วนเรื่องยาถอนพิษข้าคิดวิธีหนึ่งได้ในตอนที่ข้าต่อสู้กับฮันเผิง อันตัวข้าเองก็ฝึกทักษะพิษมาบ้างและข้าสามารถใช้พิษของอสูรในพันธะสัญญาดูดกลืนพิษของฮันเผิงเข้ามาได้ แม้มันจะไม่มาก แต่ข้ากลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลย เจ้าว่าข้าสามารถช่วยรักษานางได้หรือไม่?”

 

เมื่อหลั่วจื่อได้ฟัง แม้หลักความเป็นจริงสามารถทำได้ด้วยพิษรักษาพิษ แต่ตอนนี้อาการของหย่วนซิวหยูอ่อนแอมากนัก นางรับพิษมานานหลายชั่วยาม ดังนั้นทางที่ดีให้นางรับยาถอนพิษไปก่อนสองส่วน อีกส่วนหนึ่งหากนางแข็งแรงดีค่อยให้ตัวเป่าฮู่ทำในสิ่งที่คิด อีกอย่างตัวหลั่วจื่อยังยื้อให้นางอยู่เพื่อทำความรู้จักได้อีกด้วย

“พี่ชาย ท่านพูดมาแม้สามารถทำได้ แต่ก็ไม่รับประกันว่านางจะรอดเช่นนั้นให้นางรับยาแก้ไปก่อนสองส่วน และให้นางพักอยู่ที่สำนักเทพโอสถ ข้าที่เป็นหมอจะพยายามทุกทางให้นางหายจากพิษนี้และเมื่ออาการนางดีขึ้นข้าจะส่งข่าวบอกท่าน หากข้าไม่สามารถหาทางแก้พิษได้จริง เราจะใช้วิธีการของท่าน”

 

หย่วนปงได้ฟังแม้รู้ว่าเจ้าหมอคนนี้ดูเป็นห่วงหลานสาวตนจริง แต่วิธีของคุณชายเป่าฮู่แม้นจะฟังดูว่าน่าเป็นไปได้สูงแต่ก็บ้าบิ่นเกินไป หย่วนปงจึงกล่าวออกไปว่า

 

“คุณชายเป่า ท่านก็เดินทางไปที่เขตปกครองมังกรฟ้าก่อนเถอะ ที่นี่ข้าจะดูแลเอง นางหายดีเมื่อไหร่ข้าจะให้นางตามไปรับใช้ท่านส่วนเจ้า เจ้าหนุ่มข้าไม่รู้หรอกว่า เจ้าทำไมจึงดีกับหลานสาวข้า แต่ข้าเห็นว่าเจ้ามีความตั้งใจที่ดี ฉะนั้นหมอที่ดีข้าจะสนับสนุน ในระยะเวลาที่ข้าอยู่เฝ้าอาการหลานสาวข้าที่นี่ ใครก็ตามก็ไม่อาจทำร้ายเจ้าและนางได้”

 

เมื่อเหล่าผู้รอดชีวิตอดีตศิษย์ของฮันเผิงได้รับรู้ว่าแท้จริงมีชนชั้นจักรพรรดิลมปราณอยู่ด้านนอก พวกมันจึงได้รู้ว่าทำไมคนเหล่านี้กล้ามากที่จะบุกมาทำลายสำนักนี้ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วและพวกมันก็ต้องยอมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

เพียงสายลมเปลี่ยนทิศผู้นำเปลี่ยน การปกครองก็เปลี่ยนตาม สำนักเทพโอสถก็กลับมาเป็นของกลุ่มอำนาจฝ่ายธรรมะต่อไปนั่นเอง

 

เป่าฮู่หลังจากที่ได้เห็นทุกอย่างลงตัวเป่าฮู่ก็หันไปทางเหล่าองครักษ์ และเดินไปทางหลุมศพของหนึ่งในคนที่รับใช้ตัวเป่าฮู่ด้วยความจงรักภักดี

เพียงการมาของเป่าฮู่ที่หน้าหลุมศพ องครักษ์ทุกคนที่เหลือล้วนทำความเคารพเป่าฮู่

“นายน้อย เราทำตามที่ท่านบอก วันนี้ ไสวหลิวพี่น้องของเรา ได้จากเราไปแล้ว แต่เห็นสิ่งที่เขาทำ ความกล้าหาญนั้นเราทั้ง 4 ล้วนจดจำได้ดี”

 

เป่าฮู่เองก็ไม่คิดว่าแผนที่วางไว้จะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น และทันทีที่การฝังศพสิ้นสุดลง

เป่าฮู่ก็ได้นั่งลงหน้าหลุมศพและกล่าวออกไปดั่งคนที่ภาคภูมิใจกับเหล่าผู้ติดตามที่จงรักภักดีขนาดนี้

“ไสวหลิว วันนี้เจ้าจงหลับให้สบาย ลูกเมียหรือแม้แต่ครอบครัวเจ้า ข้ารับปากจะดูแลพวกเขาอย่างดี และวันนี้ข้าจะนั่งดื่มให้เจ้ายันสว่าง และหลังจากนั้นเราจะนำดินหลุมศพเจ้าไปพร้อมกันกับเราที่เขตปกครอง มังกรฟ้า ไปทำภารกิจของเราให้จบ”

 

หลังจากที่เป่าฮู่และเหล่าองครักษ์ได้นั่งดื่มกินมาจนถึงเวลายามเฉิน หลั่วจื่อที่ออกมาจากห้องพักของหย่วนซิวหยู ก็ได้เดินมายังเนินเขาหลังสำนัก ที่บรรยากาศดีที่สุดและเห็นกลุ่มคนที่นั่งดื่มหน้าหลุมศพของสมาชิกพวกเขา

หลั่วจื่อที่เป็นว่าที่เจ้าสำนักได้เห็นพื้นที่ส่วนนี้มีคนของเป่าฮู่คนที่ช่วยกำจัดศัตรูฆ่าอาจารย์ให้ ดังนั้นจากนี้ส่วนพื้นที่ตรงนี้จะเป็นสถานที่ของชายคนนี้ตลอดไป และที่แห่งนี้จะมีศาลาแห่งมิตรภาพเกิดขึ้นในวันข้างหน้า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+