ตำนานเทพยุทธ์ 66

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 66 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อพิษที่ร้ายกว่ากลืนกินพิษที่ด้อยกว่าจึงทำให้พิษในถ้วยชาถูกดูดกลืนไปเป็นพลังให้แก่แก่นแท้แห่งพิษในร่าง ผิวหน้าที่เป็นสีม่วงก็กลับกลายมาเป็นสีเนื้อดั่งเดิม

สิ่งที่เกิดทำให้ชายในชุคคลุมสีดำตรงหน้าตกใจและตื่นเต้น น้อยคนที่จะผ่านการทดสอบนี้ และไม่มีใครที่ไม่ได้รับผลกระทบเช่นเจ้าคนผู้นี้ ทำให้ปราชญ์มืดสนใจในตัวของชายคนนี้มาก

“ฮ่าๆๆๆ เจ้า! มาติดตามข้าดีหรือไม่ แล้วธุระของเจ้าข้าที่เป็นนายจะรับหน้าให้เอง?”

คำกล่าวนั้นไม่ได้ทำให้เป่าฮู่สนใจแม้แต่น้อย กลับทำให้ชายหนุ่มลุกขึ้นและกล่าวออกไปว่า

“ผู้เยาว์จะนำแก่นแท้แห่งพิษจากธิดาของตระกูลมู่มาให้ท่าน”

การลุกขึ้นเดินไปทำให้ปราชญ์มืดหัวเราะออกมา

“ฮ่าๆๆๆ ยิ่งทะนง แบบนี้สิน่าสนใจ ม้าที่พยศย่อมเป็นม้าชั้นดี สั่งการลงไปส่งคนไปสืบมาว่า เจ้าคนที่ชื่อเป่าบุ่นจินที่รอดชีวิตจากน้ำมือ ของเงาสังหารของเราไปซ่อนตัวอยู่ที่ใด”

เมื่อคำสั่งที่ดังออกไปนั้น สร้างความสงสัยแก่เหล่าลูกสมุน เพราะหลังจากที่ไม่กี่ปีก่อนสมาชิกของตลาดมืด ที่เรียกง่าเงาสังหารได้รับจ้างจากชายแซ่หยุนให้ไปกวาดล้างหมู่บ้านคนแซ่เป่าที่นอกด่านใครจะไปคิดว่าวันนี้จะมีคนมาตามหาคนแซ่เป่าอีก และยังตามหาเหตุการณ์เมื่อ 100 ปีก่อนว่าใครที่เป็นตัวบงการสังหารคนในตระกูลเป่า

เรื่องที่วุ่นวายและซับซ้อนนี้ ปราชญ์มืดก็ได้สั่งให้คนของมันที่ฝังตัวอยู่ทั่วทุกมุมเมืองเร่งหาข่าวและส่งมา

ส่วนเป่าฮู่หลังจากที่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ก็เดินออกมาจากทางเล็กๆในตรอกมืด

“(((พรึ๊ก!)))….ขออภัยท่านอาวุโส.”

เสียงของคนรุ่นเยาว์ที่ชนกับเป่าฮู่ ในตรอกมืด ส่วนเป่าฮู่หลังจากที่สำรวจร่างกายเสร็จก็เดินต่อไป และพบว่ามีชายชุดคลุมอีกสองคนเดินตามชายหนุ่มคนดังกล่าวนั้นมา

ด้วยกลิ่นกายที่ลอยผ่านมานั่นคละคลุ้งด้วยกลิ่นสุรา และเป็นสุราที่เป่าฮู่เคยชิมมาแล้วจากพรรคใต้หล้า

แม้ในใจจะคิดว่าเป็นหยุนฟง เจ้าคนเจ้าเล่ห์จอมตอแยนั้น ก็รีบทะยานจากไปทันที ด้วยเจ้าหมอนั่นก็เป็นคนที่มีสติปัญญาและการรับรู้ที่ดีเช่นกันเพียงเป่าอู่เร่งฝีเท้าทะยานออกมา สายลมที่นำพากลิ่นตัวของเป่าฮู่ไปเช่นกันหยุนฟงก็จดจำได้

“ช้าก่อน!”

การสั่งให้คนของตนและลูกพี่ลูกน้องของตนหยุด พร้อมกับหันไปถามคนนำทาง

“เจ้า! เมื่อครู่เจ้ายืนคุยกับชายแปลกหน้าคนนั้น เข้าบอกหรือไม่ชื่อแซ่อะไร?”

เมื่อคนนำทางได้ฟังคำถาม ก็กล่าวออกไปทันที

“คุณชาย ท่านถามแปลกๆในตลาดมืดใครบอกชื่อแซ่กันหละขอรับ

ข้าน้องเพียงเรียกเขาท่านอาวุโส ก็เท่านั้น”

หยุนฟงได้ฟัง ก็รู้สึกเสียใจ และสั่งให้เดินทางต่อ ด้วยความสงสัยในใจนิดๆ แต่ทางด้านเป่าฮู่กลับรีบเดินทางออกมาจนพบกับองครักษ์ของตนเองที่รออยู่ในชั้นที่ 3 ตามคำสั่ง เพราะลงไปด้านล่างนั้นเป่าฮู่จะไปด้วยตนเองจึงให้คนของตนออกมาก่อนและมารอยังโรงเตี๊ยมเดิมที่ชั้น 3

“คุณชายมาแล้ว”

สิ่งที่ชายในชุดคลุมกล่าวเพราะเป่าฮู่เดินมาพร้อมกับท่าทางที่นัดแนะกันไว้

นั่นจึงทำให้องครักษ์รู้ว่าเป็นเขา

“เอาหละไปกันให้พวกเจ้ารอนานแล้ว และข้าต้องรีบเดินทางอีกด้วย”

คำกล่าวนั้นสร้างความตกใจแก่เหล่าองครักษ์ ที่นายน้อยจะเดินทางอีกแล้วและคราวนี้จะไปที่ใดใครจะคาดคิดอีก นานทีนายน้อยจะกลับมายังเมืองตระกูลหงครั้ง นั่นทำให้เหล่าทหารและองครักษ์ใสใจในสิ่งที่นายน้อยทำเป็นอย่างมาก

“เรียนนายน้อยครั้งนี้ขอพวกข้าติดตามได้หรือไม่ขอรับ?”

เป่าฮู่ได้ฟังก็คิดว่าการไปที่อาณาจักรมังกรฟ้า มีคนติดตามไปบ้างก็ดี เพราะจะสะดวกต่อการดำเนินแผนการ

“งั้นไปจัดการสืบข่าวมาว่าคาราวานพ่อค้ารายใดจากเมืองตระกูลหง

จะเดินทางไปยังเขตปกครองมังกรฟ้าบ้างข้าจะไปเที่ยวชมดินแดนแถบนั้นด้วย”

เหล่าองครักษ์ได้ฟังว่าครั้งนี้จะเดินทางไปยัง เขตปกครองมังกรฟ้า ที่นั่นเองก็มีสิ่งที่ขึ้นชื่อลือชา

ทะเลสาบแห่งแดนตะวันออก สุราไผ่เขียว แห่งหอเทียนจิน ยิ่งทำให้เหล่าองครักษ์ปราบปลื้มยิ่งนัก

“นายน้อย เช่นนี้พวกข้าจะรีบทำงานให้สำเร็จ นายน้อยวางใจ”

เป่าฮู่คิดว่าครั้งนี้ต้องพา หย่วนซิวหยูไปด้วย เพราะนางเองคงต้องการการพัฒนาตนเอง ในระหว่างเดินทางด้วยเป็นแน่ การเดินทางไปยังแดนมังกรฟ้าจำต้องใช้เรือเหาะนาวาปราณในการเดินทาง เพราะดินแดนแถบนั้นตามบันทึกจะเป็นดินแดนเกาะ และยังเป็นเขตภูเขาสูงเสียดฟ้าลึกลับซับซ้อน

วันนี้เป่าฮู่เร่งเดินทางมาจนถึงจวนเจ้าเมือง และเข้าพบบิดาบุญธรรมเพื่อแจ้งสิ่งที่ต้องการไปทำนั่นทำให้หงซวนรู้สึกเป็นห่วง เพราะข่าวว่านิสัยนายน้อยตระกูลมู่ดุดันยิ่งนัก ด้วยเกรงกลัวเป่าฮู่ไปทำอะไรขัดตา จะเกิดเรื่องใหญ่และยิ่งจะนำพาซิวหยูไปด้วยนั่นยิ่งเป็นการชักศึกเข้าบ้าน

เพราะมู่หยงนายน้อยมากตัณหาคนนั้น ชื่นชอบหญิงงามเป็นพิเศษ

ดังนั้นซิวหยูจึงต้องใช้หน้ากากหนังมนุษย์ในการปลอมตัวไป

ในที่สุดวันเดินทางก็มาถึง รถม้าที่จะส่งกลุ่มคณะเดินทางไปยังเมืองเซี่ยหยูเพื่อใช้เรือเหาะนาวาปราณที่นั่น เพราะหงซวนยังไม่มีเงินมากพอที่จะซื่อเรือเหาะมาเป็นของตนเอง ทำให้การเดินทางแต่ละครั้งต้องไปยังเมืองขางๆตลอดเวลา

เมื่อเป่าอู่และลูกคณะได้พร้อมที่รถม้า หงซวนก็เดินออกมาพบลูกชายอีกครั้ง

“เอาหละลูกพ่อ เดินทางปลอดภัย และดูแลตนเองดีๆ พ่อและหงหลี่รอเจ้ากลับมาเสมอ”

เป่าฮู่ได้เห็นความผูกพันที่ดีที่มีต่อตนก็รู้สึกรักเอ็นดูตระกูลหงมากยิ่งขึ้นแม้จะไม่รู้ว่าหงซวนทำไมต้องทำดีกับตนขนาดนี้แต่เมื่อยกเป็นครอบครัวแล้ว

จะไม่มีวันหักหลังเป็นแน่นี่คือความคิดของเป่าฮู่ที่มีต่อตระกูลหง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ตำนานเทพยุทธ์ 66

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 66 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อพิษที่ร้ายกว่ากลืนกินพิษที่ด้อยกว่าจึงทำให้พิษในถ้วยชาถูกดูดกลืนไปเป็นพลังให้แก่แก่นแท้แห่งพิษในร่าง ผิวหน้าที่เป็นสีม่วงก็กลับกลายมาเป็นสีเนื้อดั่งเดิม

สิ่งที่เกิดทำให้ชายในชุคคลุมสีดำตรงหน้าตกใจและตื่นเต้น น้อยคนที่จะผ่านการทดสอบนี้ และไม่มีใครที่ไม่ได้รับผลกระทบเช่นเจ้าคนผู้นี้ ทำให้ปราชญ์มืดสนใจในตัวของชายคนนี้มาก

“ฮ่าๆๆๆ เจ้า! มาติดตามข้าดีหรือไม่ แล้วธุระของเจ้าข้าที่เป็นนายจะรับหน้าให้เอง?”

คำกล่าวนั้นไม่ได้ทำให้เป่าฮู่สนใจแม้แต่น้อย กลับทำให้ชายหนุ่มลุกขึ้นและกล่าวออกไปว่า

“ผู้เยาว์จะนำแก่นแท้แห่งพิษจากธิดาของตระกูลมู่มาให้ท่าน”

การลุกขึ้นเดินไปทำให้ปราชญ์มืดหัวเราะออกมา

“ฮ่าๆๆๆ ยิ่งทะนง แบบนี้สิน่าสนใจ ม้าที่พยศย่อมเป็นม้าชั้นดี สั่งการลงไปส่งคนไปสืบมาว่า เจ้าคนที่ชื่อเป่าบุ่นจินที่รอดชีวิตจากน้ำมือ ของเงาสังหารของเราไปซ่อนตัวอยู่ที่ใด”

เมื่อคำสั่งที่ดังออกไปนั้น สร้างความสงสัยแก่เหล่าลูกสมุน เพราะหลังจากที่ไม่กี่ปีก่อนสมาชิกของตลาดมืด ที่เรียกง่าเงาสังหารได้รับจ้างจากชายแซ่หยุนให้ไปกวาดล้างหมู่บ้านคนแซ่เป่าที่นอกด่านใครจะไปคิดว่าวันนี้จะมีคนมาตามหาคนแซ่เป่าอีก และยังตามหาเหตุการณ์เมื่อ 100 ปีก่อนว่าใครที่เป็นตัวบงการสังหารคนในตระกูลเป่า

เรื่องที่วุ่นวายและซับซ้อนนี้ ปราชญ์มืดก็ได้สั่งให้คนของมันที่ฝังตัวอยู่ทั่วทุกมุมเมืองเร่งหาข่าวและส่งมา

ส่วนเป่าฮู่หลังจากที่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ก็เดินออกมาจากทางเล็กๆในตรอกมืด

“(((พรึ๊ก!)))….ขออภัยท่านอาวุโส.”

เสียงของคนรุ่นเยาว์ที่ชนกับเป่าฮู่ ในตรอกมืด ส่วนเป่าฮู่หลังจากที่สำรวจร่างกายเสร็จก็เดินต่อไป และพบว่ามีชายชุดคลุมอีกสองคนเดินตามชายหนุ่มคนดังกล่าวนั้นมา

ด้วยกลิ่นกายที่ลอยผ่านมานั่นคละคลุ้งด้วยกลิ่นสุรา และเป็นสุราที่เป่าฮู่เคยชิมมาแล้วจากพรรคใต้หล้า

แม้ในใจจะคิดว่าเป็นหยุนฟง เจ้าคนเจ้าเล่ห์จอมตอแยนั้น ก็รีบทะยานจากไปทันที ด้วยเจ้าหมอนั่นก็เป็นคนที่มีสติปัญญาและการรับรู้ที่ดีเช่นกันเพียงเป่าอู่เร่งฝีเท้าทะยานออกมา สายลมที่นำพากลิ่นตัวของเป่าฮู่ไปเช่นกันหยุนฟงก็จดจำได้

“ช้าก่อน!”

การสั่งให้คนของตนและลูกพี่ลูกน้องของตนหยุด พร้อมกับหันไปถามคนนำทาง

“เจ้า! เมื่อครู่เจ้ายืนคุยกับชายแปลกหน้าคนนั้น เข้าบอกหรือไม่ชื่อแซ่อะไร?”

เมื่อคนนำทางได้ฟังคำถาม ก็กล่าวออกไปทันที

“คุณชาย ท่านถามแปลกๆในตลาดมืดใครบอกชื่อแซ่กันหละขอรับ

ข้าน้องเพียงเรียกเขาท่านอาวุโส ก็เท่านั้น”

หยุนฟงได้ฟัง ก็รู้สึกเสียใจ และสั่งให้เดินทางต่อ ด้วยความสงสัยในใจนิดๆ แต่ทางด้านเป่าฮู่กลับรีบเดินทางออกมาจนพบกับองครักษ์ของตนเองที่รออยู่ในชั้นที่ 3 ตามคำสั่ง เพราะลงไปด้านล่างนั้นเป่าฮู่จะไปด้วยตนเองจึงให้คนของตนออกมาก่อนและมารอยังโรงเตี๊ยมเดิมที่ชั้น 3

“คุณชายมาแล้ว”

สิ่งที่ชายในชุดคลุมกล่าวเพราะเป่าฮู่เดินมาพร้อมกับท่าทางที่นัดแนะกันไว้

นั่นจึงทำให้องครักษ์รู้ว่าเป็นเขา

“เอาหละไปกันให้พวกเจ้ารอนานแล้ว และข้าต้องรีบเดินทางอีกด้วย”

คำกล่าวนั้นสร้างความตกใจแก่เหล่าองครักษ์ ที่นายน้อยจะเดินทางอีกแล้วและคราวนี้จะไปที่ใดใครจะคาดคิดอีก นานทีนายน้อยจะกลับมายังเมืองตระกูลหงครั้ง นั่นทำให้เหล่าทหารและองครักษ์ใสใจในสิ่งที่นายน้อยทำเป็นอย่างมาก

“เรียนนายน้อยครั้งนี้ขอพวกข้าติดตามได้หรือไม่ขอรับ?”

เป่าฮู่ได้ฟังก็คิดว่าการไปที่อาณาจักรมังกรฟ้า มีคนติดตามไปบ้างก็ดี เพราะจะสะดวกต่อการดำเนินแผนการ

“งั้นไปจัดการสืบข่าวมาว่าคาราวานพ่อค้ารายใดจากเมืองตระกูลหง

จะเดินทางไปยังเขตปกครองมังกรฟ้าบ้างข้าจะไปเที่ยวชมดินแดนแถบนั้นด้วย”

เหล่าองครักษ์ได้ฟังว่าครั้งนี้จะเดินทางไปยัง เขตปกครองมังกรฟ้า ที่นั่นเองก็มีสิ่งที่ขึ้นชื่อลือชา

ทะเลสาบแห่งแดนตะวันออก สุราไผ่เขียว แห่งหอเทียนจิน ยิ่งทำให้เหล่าองครักษ์ปราบปลื้มยิ่งนัก

“นายน้อย เช่นนี้พวกข้าจะรีบทำงานให้สำเร็จ นายน้อยวางใจ”

เป่าฮู่คิดว่าครั้งนี้ต้องพา หย่วนซิวหยูไปด้วย เพราะนางเองคงต้องการการพัฒนาตนเอง ในระหว่างเดินทางด้วยเป็นแน่ การเดินทางไปยังแดนมังกรฟ้าจำต้องใช้เรือเหาะนาวาปราณในการเดินทาง เพราะดินแดนแถบนั้นตามบันทึกจะเป็นดินแดนเกาะ และยังเป็นเขตภูเขาสูงเสียดฟ้าลึกลับซับซ้อน

วันนี้เป่าฮู่เร่งเดินทางมาจนถึงจวนเจ้าเมือง และเข้าพบบิดาบุญธรรมเพื่อแจ้งสิ่งที่ต้องการไปทำนั่นทำให้หงซวนรู้สึกเป็นห่วง เพราะข่าวว่านิสัยนายน้อยตระกูลมู่ดุดันยิ่งนัก ด้วยเกรงกลัวเป่าฮู่ไปทำอะไรขัดตา จะเกิดเรื่องใหญ่และยิ่งจะนำพาซิวหยูไปด้วยนั่นยิ่งเป็นการชักศึกเข้าบ้าน

เพราะมู่หยงนายน้อยมากตัณหาคนนั้น ชื่นชอบหญิงงามเป็นพิเศษ

ดังนั้นซิวหยูจึงต้องใช้หน้ากากหนังมนุษย์ในการปลอมตัวไป

ในที่สุดวันเดินทางก็มาถึง รถม้าที่จะส่งกลุ่มคณะเดินทางไปยังเมืองเซี่ยหยูเพื่อใช้เรือเหาะนาวาปราณที่นั่น เพราะหงซวนยังไม่มีเงินมากพอที่จะซื่อเรือเหาะมาเป็นของตนเอง ทำให้การเดินทางแต่ละครั้งต้องไปยังเมืองขางๆตลอดเวลา

เมื่อเป่าอู่และลูกคณะได้พร้อมที่รถม้า หงซวนก็เดินออกมาพบลูกชายอีกครั้ง

“เอาหละลูกพ่อ เดินทางปลอดภัย และดูแลตนเองดีๆ พ่อและหงหลี่รอเจ้ากลับมาเสมอ”

เป่าฮู่ได้เห็นความผูกพันที่ดีที่มีต่อตนก็รู้สึกรักเอ็นดูตระกูลหงมากยิ่งขึ้นแม้จะไม่รู้ว่าหงซวนทำไมต้องทำดีกับตนขนาดนี้แต่เมื่อยกเป็นครอบครัวแล้ว

จะไม่มีวันหักหลังเป็นแน่นี่คือความคิดของเป่าฮู่ที่มีต่อตระกูลหง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+