ตำนานเทพยุทธ์ 88

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 88 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อีกด้านหนึ่งที่เมืองหลวงของแดนศักดิ์สิทธิ์ที่บัดนี้ผู้คนมากมายได้หลั่งไหลเข้ามาในรอบหลายปีมานี้ตำแหน่งผู้นำยุทธ์ภพล้วนเป็นที่จับตามองของเหล่ายอดฝีมือของดินแดนนี้ทั้งสิ้น

อันเสียงเล่าลือกันหนาหูถึงผู้ที่ว่าอยู่บนจุดสูงสุดของยุทธภพ ผู้นำจิตวิญญาณของพรรคนิกายต่างๆ วันนี้ล้วนก้าวออกมาเผยตัวตนอย่างไม่หวั่นเกรง รวมถึงการหายตัวไปของ สองว่าที่ผู้นำของตระกูลเต้า

เช่น เต้าอิงเฉิงและเต้าเหล่ยทั้งคู่ได้ถูกรับตัวไปจากหอยอดยุทธ์ ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมาไม่มีใครได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของคนทั้งคู่ แต่วันนี้ทั้งสองล้วนถูกส่งตัวกลับมาจากหอยอดยุทธ์

อันตัวเต้าอิงเฉิงผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นว่าที่ผู้นำคนต่อไป ได้ถูกทาบทามจากดินแดนที่ยิ่งใหญ่ผู้หนุนหลังแดนศักดิ์มาอย่างลับๆตลอดหลายปีมานี้ นับตั้งแต่เต้าหว่านเทียนได้มาเยือนดินแดนแห่งนี้เป็นครั้งแรก

เบื้องหลังการรุกรานของแดนศักดิ์สิทธิ์มีคนจากทวีปใหญ่คอยชักนำเพื่อแลกกับผลประโยชน์ที่หลายสิบปีนี้ตระกูลเต้าส่งไปยังดินแดนที่ห่างไกลอย่างลับๆ

แต่วันนี้กลับต่างออกไป ด้วยความสามารถของเต้าอิงเฉิงและดวงตามหาธาตุที่มีความสามารถเหนือจินตนาการได้ทำให้ดินแดนเหล่านั้นเห็นคุณค่าและส่งตัวแทนมาเยือนที่แผ่นดินเล็กๆนี้ เพื่อมองหาหยกล้ำค่าในแดนรอบนอกเข้าสู่โลกแห่งการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่

 

ณ ถนนสายหลักของเมืองหลวงแดนศักดิ์สิทธิ์

“นี่พวกเจ้าได้ยินไหมว่า เรือเหาะนาวาปราณลำใหญ่นั้น คือเรือเหาะระดับสูงที่ไม่สามารถหาได้จากดินแดนของเรา เห็นทหารของหอยอดยุทธ์กล่าวว่า คนเหล่านั้นมาจากตำหนักวิหคอัสนี ดินแดนที่อยู่เบื้องหลังตระกูลเต้ามากว่าร้อยปี”

ด้วยการเปิดตัวให้ผู้คนได้รู้ถึงที่มาของคนจากต่างถิ่นที่แม้แต่ เต้าหวงเย่ที่ป่วยด้วยอาการคุ้มคลั่งก็ยังถูกรักษาจาก หมอเทวดาของพรรคนิกายนั้น ข่าวนี้สร้างความตื่นตะหนกแก่คนในแดนศักดิ์สิทธิ์ตลอดมาหลายวันมานี้

ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้นำการเดินทางจากดินแดนใหญ่ ได้ประกาศผ่านตระกูลเต้ามาว่าจะคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถให้เดินทางไปด้วยกัน 10 คนและจำนวน 10 คนนี้ต้องเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่เหนือกว่าคนทั่วไปมากนัก และ 2 คนแรกที่จะถูกนำพาไปยังพรรควิหคอัสนีก็คือ เต้าอิงเฉิงและเต้าเหล่ยนั่นเอง…….

เมื่อข่าวนี้แผ่กระจายออกไปทำให้เหล่าผู้ปกครองจากดินแดนอบนอก เช่นเขตปกครองมังกรฟ้าที่เตรียมแผนมาเพื่อพิชิตดินแดนแห่งนี้ กลับต้องฉุดคิดว่าตนจะปกครองเพียงแผ่นดินเล็กๆนี้เท่านั้นหรือ และทวีปใหญ่ที่หนุนหลังพวกตระกูลเต้าที่มีนามว่าพรรคนิกายวิหคอัสนี มันคือที่ใดกันและจะเดินทางไปได้เช่นไร

แต่หลังจากที่ข่าวนี้แผ่กระจายออกไปทำให้ทุกคนสงสัยรวมถึงเป่าฮู่ที่กำลังนั่งกินบะหมี่อยู่ที่ด้านในโรงเตี๊ยมที่เหล่าศิษย์ของหอยอดยุทธ์กำลังสนทนากันอย่างสนุกปากและโรงเตี๊ยมแห่งนี้คือที่หนึ่งในเมืองหลวงแห่งนี้แล้นั่นเอง การที่ ต้องฉุดคิดขึ้นมาแล้วว่าแผนที่เตรียมมานั้นเพียงพอแล้วหรือ แต่ว่าเป้าหมายของเป่าฮู่คือสิ่งใดและจำทำเช่นไรที่จะก้าวไปยังจุดมุ่งหมายนั้น

หากตระกูลศักดิ์สิทธิ์มีคนหนุนหลัง และคนเหล่านี้ย่อมไม่อาจปล่อยผลประโยชน์ของตนหลุดลอยไปได้ง่ายๆ แต่ทำไมตลอดหลายเดือนมานี้ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ไม่เคลื่อนไหวใดๆหรือเพราะแบบนี้ การหาคนมาเป็นผู้หนุนหลังและทำให้ดินแดนนี้คงสภาพเช่นนี้ไปอีก ร้อยกว่าปี และหากมีกลุ่มชนที่มากอำนาจในดินแดนอันไกลโพ้นก็ย่อมไม่มีเพียงคนกลุ่มเดียว

เพียงได้คิดแบบนี้เป่าฮู่ก็อยากรู้ถึงผู้ที่ชักนำทุกสิ่งทุกอย่างว่าจะกล้าแกร่งเพียงใด และตนก็ไม่ใช่เด็กอมมือที่จะให้ใครมาทำอะไรกับบ้านของตนได้อีก ต่อให้ศัตรูจะเก่งกล้าเพียงใดเป่าฮู่ก็ขอลงไปเล่นด้วยสักครั้ง

 

“ซิวหยู เสร็จจากทานอาหารเสร็จ ก็ไปหาห้องพักเตรียมไว้ จากนี้คงจะหาที่พักยากน่าดู และระวังตัวด้วยรูปโฉมเจ้าอาจจะนำภัยมาให้แก่เจ้าได้”

คำบอกกล่าวนี้ทำให้ผู้ติดตามเช่น ซิวหยูรีบลุกไปทำโดยทันที และนางก็ไม่ลืมสิ่งที่นายท่านของนางกล่าวย้ำเตือน แต่ก็ใช่ว่าระวังแล้วจะรอดไปได้ไม่ เป่าฮู่เองก็นั่งเหม่อมองวิวที่สวยในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้อย่างสบายใจ

แต่เบื้องล่างที่เงียบสงบมาก่อน ใครจะไปคาดคิดว่า ณ โรงเตี๊ยมแห่งนี้ เต้าเหล่ยหนึ่งในยอดฝีมือของแดนศักดิ์สิทธิ์ที่กลับมาจากการฝึกตนที่พรรควิหคอัสนี ในฐานะศิษย์ภายนอกจนสามารถยกระดับของตนเองขึ้นมาอยู่ช่วงชั้นราชันขั้นสูงได้

หากแต่การมาครั้งนี้ไม่ได้มาเพียงแต่ผู้เดียว เพราะด้านข้างกลับมีชายหนุ่มรูปงามที่ชื่นชอบการดื่มสุราเค้านารี และชอบพอกับเต้าเหล่ยที่มีนิสัยเดียวกันมาแต่พรรควิหคอัสนี

“เชิญ ศิษย์พี่หวง ด้านใน ดินแดนนี้ บิดาข้าดูแล ท่านมิต้องเกรงใจ ข้าจะตอบแทนท่านเอง เมื่อมีคุณต้องทดแทน ข้าเต้าเหล่ยพึ่งพาท่านมานาน วันนี้เมื่อท่านมาเยือนบ้านข้าข้าจะเป็นผู้ดูแลท่านด้วยตนเอง”

คำกล่าวนี้ทำให้หวงหลี่ไป๋ รู้สึกว่าตนเป็นดั่งเทพที่ยิ่งใหญ่ในดินแดนรอบนอกที่มีเพียง ผู้ฝึกยุทธ์ชนชั้นปราชญ์และราชา เดินกันแทบนับตัวคนได้ ขนาดเต้าเหล่ยที่อยู่ที่พรรควิหคอัสนียังมีฐานะเพียงผู้มีพรสวรรค์ขั้นกลาง ยังดูน่าเกรงขามขนาดนี้

“เกรงใจมากไปแล้วศิษย์น้องเหล่ย วันนี้พี่ชายหวงมาเยือนบ้านเมืองของน้องคงต้องฝากน้องชาย ดูแลเสียแล้ว”

การกล่าวเช่นนั้นออกมา แม้แหล่ยจะรู้ว่าเป็นเพียงการเสแสร้งแกล้งทำ แต่ก็นับว่าหวงหลี่ไป๋ผู้นี้คอคนที่ทัดทานและขัดขวางเต้าอิงเฉิง ของยอดฝีมือรุ่นเยาว์ในพรรค

หากจะกล่าวถึงทวีปต้าหลั๋ว ทวีปใหญ่ที่เป็นดินแดนของมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดพรรควิหคอัสนี ได้รับเขตพื้นที่ให้ดูแลปกครองที่ดินที่ทอดยาวมาทางแดนสัตว์เทพทั้งสี่นี้ ตลอดเวลาหลายร้อยปีมานี้ดินแดนที่ว่าเป็นดินแดนรอบนอกนั้นเก่งกล้ามเกินที่จะส่งคนเข้ามาท้าทายได้ ดังนั้นผู้นำของพรรควิหคอัสนีจึงส่งผู้ที่มีความสามารถและพรสวรรค์นามเต้าหว่านเทียนมาเป็นผู้แรกแซง จนเวลาผ่านไป ตระกูลเต้า ใต้การดูแลของเต้าหว่านเทียนได้กัดกินดินแดนสัตว์เทพจนอ่อนแอลง และวันนี้ก็เป็นวันที่เหมาะสมที่จะได้ส่งตัวแทนมาเพื่อดึงเอาคนที่มีพรสวรรค์เข้ามาร่วมพรรคและกลืนกินดินแดดนนี้อย่างสมบูรณ์นั่นเอง

ผู้นำพรรควิหคอัสนี ที่มองเห็นดินแดนเล็กๆที่น่าสนใจนี้และคอยดูแลอย่างถนุถนอมตลอดมา ไมได้ลงมือดุดันเฉกเช่นดินแดรอบนอกอื่นๆ ทำให้ดินแดนอันยิ่งใหญ่ที่พรรควิหคอัสนีต้องส่งค่าคุ้มครองคือ ราชวงศ์จาง ที่ยิ่งใหญ่แห่งแดนมนุษย์ในทวีปต้าหลั๋ว

เพราะมนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเดียวที่อาศัยโลกใบใหญ่นี้ ดำรงชีวิตไปในแต่ละวันหากแต่ยังมีแดนปีศาจและอสูรที่คอยก่อสงครามอยู่ไม่ว่างเว้น

ดังนั้นทำให้ระดับการฝึกยุทธ์ของแดนมนุษย์ล้วนแตกต่างกันด้วยทรัพยากรที่มีต่างกัน ในดินแดนที่ยิ่งใหญ่เช่นทวีปต้าหลั๋วการค้นพบสุสานบรรพกาลในแต่ละครั้งไม่ว่าจะเป็นหยกสวรรค์หรือน้ำทิพย์ที่ไหลออกมาจากหยกสวรรค์ล้วนแล้วแต่มีค่ายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

ด้วยสิ่งนั้นทำให้รับยุทธ์ของคนส่วนใหญ่ของทวีปต้าหลั๋ว จงอยู่ที่ระดับราชาเป็นขั้นต่ำ และส่วนมากจะยกระดับไปอยู่ที่ระดับราชัน ทำให้หวงหลี่ที่เห็นคนเหล่านี้บ้างอยู่ระดับปราชญ์ลมปราณ บางก็น้อยกว่านั้น ทำให้หวงหลี่ไป๋มองคนเหล่านี้เป็นเพียงสวะไร้ค่าเท่านั้น

เมื่อหย่วนซิวหยูที่เดินลงมาจากชั้นสอง และมุ่งหน้าไปที่รับแขกของเถ้าแก่โรงเตี๊ยม เพื่อถามหาห้องพักของนางและนายท่านของนาง ระหว่างนั้นหญิงในชุดคลุมกลับเผอิญสวนทางกับเต้าเหล่ยที่นำพาหวงหลี่ไป๋มาที่โรงเตี๊ยมนั้นพอดี

สายลมแห่งความโกลาหล พัดพาให้ผ้าคลุมหน้าของหย่วนซิวหยูหลุดออกและปลิวไปยังจุดที่หวงหลี่ไป๋กำลังเดินขึ้นมา ด้วยใบหน้าของหญิงที่งดงามเทียบเท่าหญิงงามแห่งพรรควิฟลอัสนี เฟิงอี้หลิงได้เลยทีเดียว

“งดงามนัก!”

คำกล่าวนี้ทำให้ เต้าเหล่ยเองต้องหันไปตามทางที่หวงหลี่ไป๋มองไป แต่สิ่งที่เต้าเหล่ยได้เห็นคือ หญิงนางนี้คือคนที่เต้าเหลยไม่เคยลืมไปได้ เพราะนางคือหญิงของเต้าอิงเฉิง หญิงที่ถูกเต้าอิงเฉิงทอดทิ้งด้วยแรงกดดันของตระกูล

“เป็นนาง!…”

เมื่อหวงหลี่ไป๋ได้เห็นท่าทีขงเต้าเหล่ยทำให้หวงหลี่ไป๋สนใจขึ้นมาในทันทีและหวงหลี่ไปไม่เคยชื่นชอบหญิงนางใดจากใจจริงเช่นนี้มาก่อน

“ศิษย์น้อง ช่วยบอกข้ามาทีว่า นางเป็นใคร แล้วเหตุใด เจ้าจึงรู้จักนาง?”

คำพูดที่คนรอบด้านหันาให้ความสนใจ และนั่นก็ไม่เว้นแม้แต่เป่าฮู่ที่เห็นผ้าคลุมหน้าของหย่วนซิวหยูลอยปลิวไป นั่นย่อมเป็นส่งบอกเหตุว่าภัยร้ายแรงกำลังมาเยือนความงามของนางจะนำพาทุกสิ่งมาพร้อมกัน ยิ่งนางบรรลุระดับราชันขั้นสูงแล้วผิวพรรณของนางยิ่งดูมีเสน่ห์มากยิ่งกว่าเดิม

ใต้สายตามากกว่า 100 คู่ในโรงเตี๊ยม ย่อมเป็นใครไปไม่ได้ที่อยู่บนชั้นสาม นั่นคือเต้าอิงเฉิงที่นำพาศิษย์พี่หญิงของตนออกมาเที่ยวในครั้งนี้

“แม่นางซิวหยู!….”

เสียงกล่าวออกมาเบาๆของเต้าอิงเฉิงในชุดสามัญ และด้านข้างก็มีเฟิงอี้ หญิงงามแห่งพรรควิหคอัสนี ที่ยืนอยู่ด้านข้าง

“ใครกันศิษย์น้อง?”

คำกล่าวนั้นคือสิ่งที่ต้องถาม เพราะในใจเฟิงอี้ นางนั่นชื่นชอบเต้าอิงเฉิงผู้นี้เต็มหัวอก ตลอดเวลา 2 ปีที่พรรคอัสนีนางรู้สึกว่าชายผู้นี้คือคนที่นางต้องได้มาครอบครองและด้วยบิดาของนางเองก็เห็นด้วยลูกหลานของเต้าหว่านเทียนยอดอัจฉริยะที่ถูกส่งออกจากทวีปต้าหลั๋วให้มาพิชิตดินแดนสัตว์เทพย่อมไม่ธรรมดา

“นางคือ….นางคือ…ไม่ทันกาลแล้ว ไว้ข้าจะอธิบายให้ท่านฟัง.”

คำกล่าวที่เต้าอิงเฉิงไม่กล้าที่จะพูด แต่เมื่อเห็นหวงหลี่ไป๋กำลังเคลื่อนไหวและด้านข้างกลับมีเต้าเหล่ยติดตามมา ทำให้เต้าอิงเฉิงต้องยิ่งก้าวออกปกป้องคนที่เต้าอิงเฉิงเคยทอดทิ้งไปครั้งหนึ่แล้วนั่นเอง

“ข้าขอตัวก่อนศิษย์พี่”

พูดจบก็ทะยานร่างลงจากชั้นที่สาม ระหว่างนั้น ชายหนุ่มใต้ผ้าคลุมที่นั่งที่ระเบียงของชั้นสองก็ได้เห็นศัตรูของตนเอง ที่อดีตเคยปะมือกันมาครั้งหนึ่ง คนที่เป่าฮู่ไม่เคยลืมผู้ที่มีพรสวรรค์การฝึกยุทธ์ที่น่ากลัวและกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากร่างของมันผู้นั้นก็ทำให้ให้เป่าฮู่ต้องตกใจ ชายคนนี้ไม่อาจดูแคลนได้

“เต้าอิงเฉิง….เป็นมัน!”

ภายใต้การมองเห็นของผู้คนในโรงเตี๊ยม ทำให้เป่าฮู่ที่ได้เห็นและรวบรวมสถานการณ์ที่จะเป็นไปได้กล่าวออกไปทางช่องลมปราณของตนและหย่วนซิวหยู

“ซิวหยู…จากที่เห็น เจ้าคงก่อเรื่องอีกแล้ว ทำอย่างไรก็ได้หนีออกจากสถานการณ์นั้นทันทีหากทำได้ข้าจะคุ้มกันเจ้าเอง แต่ว่าหลังจากเจ้าเต้าอิงเฉิงมันเสนอตัวปกป้องเจ้าเพราะวันนี้ข้าจะดูว่ามันจะแสดงอะไรออกมาต่อหน้าคนทั้งโรงเตี๊ยม”

เมื่อตัวหย่วนซิวหยูได้ฟัง ก็ได้ยิ้มออกาเพราะห่างไปไม่ไกลเป่าฮู่ก็ได้นั่งจิบน้ำชาอย่างสุขใจและมองลงมาที่นางผู้อยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่วุ่นวายนั่น เพื่อรอดูการแสดงที่สนุกของคนเหล่านั้น

“ไม่เจอกันนานนะแม่นางหย่วน ท่านคงสบายดี?”

เสียงจากชายที่ทะยานร่างลงมาจากชั้นสามอย่างช้าๆ และเป็นใครไปไม่ได้ เพราะนั่น ว่าที่ผู้นำของตระกูลเต้านาม เต้าอิงเฉิงนั่นเอง….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ตำนานเทพยุทธ์ 88

Now you are reading ตำนานเทพยุทธ์ Chapter 88 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อีกด้านหนึ่งที่เมืองหลวงของแดนศักดิ์สิทธิ์ที่บัดนี้ผู้คนมากมายได้หลั่งไหลเข้ามาในรอบหลายปีมานี้ตำแหน่งผู้นำยุทธ์ภพล้วนเป็นที่จับตามองของเหล่ายอดฝีมือของดินแดนนี้ทั้งสิ้น

อันเสียงเล่าลือกันหนาหูถึงผู้ที่ว่าอยู่บนจุดสูงสุดของยุทธภพ ผู้นำจิตวิญญาณของพรรคนิกายต่างๆ วันนี้ล้วนก้าวออกมาเผยตัวตนอย่างไม่หวั่นเกรง รวมถึงการหายตัวไปของ สองว่าที่ผู้นำของตระกูลเต้า

เช่น เต้าอิงเฉิงและเต้าเหล่ยทั้งคู่ได้ถูกรับตัวไปจากหอยอดยุทธ์ ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมาไม่มีใครได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของคนทั้งคู่ แต่วันนี้ทั้งสองล้วนถูกส่งตัวกลับมาจากหอยอดยุทธ์

อันตัวเต้าอิงเฉิงผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นว่าที่ผู้นำคนต่อไป ได้ถูกทาบทามจากดินแดนที่ยิ่งใหญ่ผู้หนุนหลังแดนศักดิ์มาอย่างลับๆตลอดหลายปีมานี้ นับตั้งแต่เต้าหว่านเทียนได้มาเยือนดินแดนแห่งนี้เป็นครั้งแรก

เบื้องหลังการรุกรานของแดนศักดิ์สิทธิ์มีคนจากทวีปใหญ่คอยชักนำเพื่อแลกกับผลประโยชน์ที่หลายสิบปีนี้ตระกูลเต้าส่งไปยังดินแดนที่ห่างไกลอย่างลับๆ

แต่วันนี้กลับต่างออกไป ด้วยความสามารถของเต้าอิงเฉิงและดวงตามหาธาตุที่มีความสามารถเหนือจินตนาการได้ทำให้ดินแดนเหล่านั้นเห็นคุณค่าและส่งตัวแทนมาเยือนที่แผ่นดินเล็กๆนี้ เพื่อมองหาหยกล้ำค่าในแดนรอบนอกเข้าสู่โลกแห่งการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่

 

ณ ถนนสายหลักของเมืองหลวงแดนศักดิ์สิทธิ์

“นี่พวกเจ้าได้ยินไหมว่า เรือเหาะนาวาปราณลำใหญ่นั้น คือเรือเหาะระดับสูงที่ไม่สามารถหาได้จากดินแดนของเรา เห็นทหารของหอยอดยุทธ์กล่าวว่า คนเหล่านั้นมาจากตำหนักวิหคอัสนี ดินแดนที่อยู่เบื้องหลังตระกูลเต้ามากว่าร้อยปี”

ด้วยการเปิดตัวให้ผู้คนได้รู้ถึงที่มาของคนจากต่างถิ่นที่แม้แต่ เต้าหวงเย่ที่ป่วยด้วยอาการคุ้มคลั่งก็ยังถูกรักษาจาก หมอเทวดาของพรรคนิกายนั้น ข่าวนี้สร้างความตื่นตะหนกแก่คนในแดนศักดิ์สิทธิ์ตลอดมาหลายวันมานี้

ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้นำการเดินทางจากดินแดนใหญ่ ได้ประกาศผ่านตระกูลเต้ามาว่าจะคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถให้เดินทางไปด้วยกัน 10 คนและจำนวน 10 คนนี้ต้องเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่เหนือกว่าคนทั่วไปมากนัก และ 2 คนแรกที่จะถูกนำพาไปยังพรรควิหคอัสนีก็คือ เต้าอิงเฉิงและเต้าเหล่ยนั่นเอง…….

เมื่อข่าวนี้แผ่กระจายออกไปทำให้เหล่าผู้ปกครองจากดินแดนอบนอก เช่นเขตปกครองมังกรฟ้าที่เตรียมแผนมาเพื่อพิชิตดินแดนแห่งนี้ กลับต้องฉุดคิดว่าตนจะปกครองเพียงแผ่นดินเล็กๆนี้เท่านั้นหรือ และทวีปใหญ่ที่หนุนหลังพวกตระกูลเต้าที่มีนามว่าพรรคนิกายวิหคอัสนี มันคือที่ใดกันและจะเดินทางไปได้เช่นไร

แต่หลังจากที่ข่าวนี้แผ่กระจายออกไปทำให้ทุกคนสงสัยรวมถึงเป่าฮู่ที่กำลังนั่งกินบะหมี่อยู่ที่ด้านในโรงเตี๊ยมที่เหล่าศิษย์ของหอยอดยุทธ์กำลังสนทนากันอย่างสนุกปากและโรงเตี๊ยมแห่งนี้คือที่หนึ่งในเมืองหลวงแห่งนี้แล้นั่นเอง การที่ ต้องฉุดคิดขึ้นมาแล้วว่าแผนที่เตรียมมานั้นเพียงพอแล้วหรือ แต่ว่าเป้าหมายของเป่าฮู่คือสิ่งใดและจำทำเช่นไรที่จะก้าวไปยังจุดมุ่งหมายนั้น

หากตระกูลศักดิ์สิทธิ์มีคนหนุนหลัง และคนเหล่านี้ย่อมไม่อาจปล่อยผลประโยชน์ของตนหลุดลอยไปได้ง่ายๆ แต่ทำไมตลอดหลายเดือนมานี้ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ไม่เคลื่อนไหวใดๆหรือเพราะแบบนี้ การหาคนมาเป็นผู้หนุนหลังและทำให้ดินแดนนี้คงสภาพเช่นนี้ไปอีก ร้อยกว่าปี และหากมีกลุ่มชนที่มากอำนาจในดินแดนอันไกลโพ้นก็ย่อมไม่มีเพียงคนกลุ่มเดียว

เพียงได้คิดแบบนี้เป่าฮู่ก็อยากรู้ถึงผู้ที่ชักนำทุกสิ่งทุกอย่างว่าจะกล้าแกร่งเพียงใด และตนก็ไม่ใช่เด็กอมมือที่จะให้ใครมาทำอะไรกับบ้านของตนได้อีก ต่อให้ศัตรูจะเก่งกล้าเพียงใดเป่าฮู่ก็ขอลงไปเล่นด้วยสักครั้ง

 

“ซิวหยู เสร็จจากทานอาหารเสร็จ ก็ไปหาห้องพักเตรียมไว้ จากนี้คงจะหาที่พักยากน่าดู และระวังตัวด้วยรูปโฉมเจ้าอาจจะนำภัยมาให้แก่เจ้าได้”

คำบอกกล่าวนี้ทำให้ผู้ติดตามเช่น ซิวหยูรีบลุกไปทำโดยทันที และนางก็ไม่ลืมสิ่งที่นายท่านของนางกล่าวย้ำเตือน แต่ก็ใช่ว่าระวังแล้วจะรอดไปได้ไม่ เป่าฮู่เองก็นั่งเหม่อมองวิวที่สวยในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้อย่างสบายใจ

แต่เบื้องล่างที่เงียบสงบมาก่อน ใครจะไปคาดคิดว่า ณ โรงเตี๊ยมแห่งนี้ เต้าเหล่ยหนึ่งในยอดฝีมือของแดนศักดิ์สิทธิ์ที่กลับมาจากการฝึกตนที่พรรควิหคอัสนี ในฐานะศิษย์ภายนอกจนสามารถยกระดับของตนเองขึ้นมาอยู่ช่วงชั้นราชันขั้นสูงได้

หากแต่การมาครั้งนี้ไม่ได้มาเพียงแต่ผู้เดียว เพราะด้านข้างกลับมีชายหนุ่มรูปงามที่ชื่นชอบการดื่มสุราเค้านารี และชอบพอกับเต้าเหล่ยที่มีนิสัยเดียวกันมาแต่พรรควิหคอัสนี

“เชิญ ศิษย์พี่หวง ด้านใน ดินแดนนี้ บิดาข้าดูแล ท่านมิต้องเกรงใจ ข้าจะตอบแทนท่านเอง เมื่อมีคุณต้องทดแทน ข้าเต้าเหล่ยพึ่งพาท่านมานาน วันนี้เมื่อท่านมาเยือนบ้านข้าข้าจะเป็นผู้ดูแลท่านด้วยตนเอง”

คำกล่าวนี้ทำให้หวงหลี่ไป๋ รู้สึกว่าตนเป็นดั่งเทพที่ยิ่งใหญ่ในดินแดนรอบนอกที่มีเพียง ผู้ฝึกยุทธ์ชนชั้นปราชญ์และราชา เดินกันแทบนับตัวคนได้ ขนาดเต้าเหล่ยที่อยู่ที่พรรควิหคอัสนียังมีฐานะเพียงผู้มีพรสวรรค์ขั้นกลาง ยังดูน่าเกรงขามขนาดนี้

“เกรงใจมากไปแล้วศิษย์น้องเหล่ย วันนี้พี่ชายหวงมาเยือนบ้านเมืองของน้องคงต้องฝากน้องชาย ดูแลเสียแล้ว”

การกล่าวเช่นนั้นออกมา แม้แหล่ยจะรู้ว่าเป็นเพียงการเสแสร้งแกล้งทำ แต่ก็นับว่าหวงหลี่ไป๋ผู้นี้คอคนที่ทัดทานและขัดขวางเต้าอิงเฉิง ของยอดฝีมือรุ่นเยาว์ในพรรค

หากจะกล่าวถึงทวีปต้าหลั๋ว ทวีปใหญ่ที่เป็นดินแดนของมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดพรรควิหคอัสนี ได้รับเขตพื้นที่ให้ดูแลปกครองที่ดินที่ทอดยาวมาทางแดนสัตว์เทพทั้งสี่นี้ ตลอดเวลาหลายร้อยปีมานี้ดินแดนที่ว่าเป็นดินแดนรอบนอกนั้นเก่งกล้ามเกินที่จะส่งคนเข้ามาท้าทายได้ ดังนั้นผู้นำของพรรควิหคอัสนีจึงส่งผู้ที่มีความสามารถและพรสวรรค์นามเต้าหว่านเทียนมาเป็นผู้แรกแซง จนเวลาผ่านไป ตระกูลเต้า ใต้การดูแลของเต้าหว่านเทียนได้กัดกินดินแดนสัตว์เทพจนอ่อนแอลง และวันนี้ก็เป็นวันที่เหมาะสมที่จะได้ส่งตัวแทนมาเพื่อดึงเอาคนที่มีพรสวรรค์เข้ามาร่วมพรรคและกลืนกินดินแดดนนี้อย่างสมบูรณ์นั่นเอง

ผู้นำพรรควิหคอัสนี ที่มองเห็นดินแดนเล็กๆที่น่าสนใจนี้และคอยดูแลอย่างถนุถนอมตลอดมา ไมได้ลงมือดุดันเฉกเช่นดินแดรอบนอกอื่นๆ ทำให้ดินแดนอันยิ่งใหญ่ที่พรรควิหคอัสนีต้องส่งค่าคุ้มครองคือ ราชวงศ์จาง ที่ยิ่งใหญ่แห่งแดนมนุษย์ในทวีปต้าหลั๋ว

เพราะมนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเดียวที่อาศัยโลกใบใหญ่นี้ ดำรงชีวิตไปในแต่ละวันหากแต่ยังมีแดนปีศาจและอสูรที่คอยก่อสงครามอยู่ไม่ว่างเว้น

ดังนั้นทำให้ระดับการฝึกยุทธ์ของแดนมนุษย์ล้วนแตกต่างกันด้วยทรัพยากรที่มีต่างกัน ในดินแดนที่ยิ่งใหญ่เช่นทวีปต้าหลั๋วการค้นพบสุสานบรรพกาลในแต่ละครั้งไม่ว่าจะเป็นหยกสวรรค์หรือน้ำทิพย์ที่ไหลออกมาจากหยกสวรรค์ล้วนแล้วแต่มีค่ายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

ด้วยสิ่งนั้นทำให้รับยุทธ์ของคนส่วนใหญ่ของทวีปต้าหลั๋ว จงอยู่ที่ระดับราชาเป็นขั้นต่ำ และส่วนมากจะยกระดับไปอยู่ที่ระดับราชัน ทำให้หวงหลี่ที่เห็นคนเหล่านี้บ้างอยู่ระดับปราชญ์ลมปราณ บางก็น้อยกว่านั้น ทำให้หวงหลี่ไป๋มองคนเหล่านี้เป็นเพียงสวะไร้ค่าเท่านั้น

เมื่อหย่วนซิวหยูที่เดินลงมาจากชั้นสอง และมุ่งหน้าไปที่รับแขกของเถ้าแก่โรงเตี๊ยม เพื่อถามหาห้องพักของนางและนายท่านของนาง ระหว่างนั้นหญิงในชุดคลุมกลับเผอิญสวนทางกับเต้าเหล่ยที่นำพาหวงหลี่ไป๋มาที่โรงเตี๊ยมนั้นพอดี

สายลมแห่งความโกลาหล พัดพาให้ผ้าคลุมหน้าของหย่วนซิวหยูหลุดออกและปลิวไปยังจุดที่หวงหลี่ไป๋กำลังเดินขึ้นมา ด้วยใบหน้าของหญิงที่งดงามเทียบเท่าหญิงงามแห่งพรรควิฟลอัสนี เฟิงอี้หลิงได้เลยทีเดียว

“งดงามนัก!”

คำกล่าวนี้ทำให้ เต้าเหล่ยเองต้องหันไปตามทางที่หวงหลี่ไป๋มองไป แต่สิ่งที่เต้าเหล่ยได้เห็นคือ หญิงนางนี้คือคนที่เต้าเหลยไม่เคยลืมไปได้ เพราะนางคือหญิงของเต้าอิงเฉิง หญิงที่ถูกเต้าอิงเฉิงทอดทิ้งด้วยแรงกดดันของตระกูล

“เป็นนาง!…”

เมื่อหวงหลี่ไป๋ได้เห็นท่าทีขงเต้าเหล่ยทำให้หวงหลี่ไป๋สนใจขึ้นมาในทันทีและหวงหลี่ไปไม่เคยชื่นชอบหญิงนางใดจากใจจริงเช่นนี้มาก่อน

“ศิษย์น้อง ช่วยบอกข้ามาทีว่า นางเป็นใคร แล้วเหตุใด เจ้าจึงรู้จักนาง?”

คำพูดที่คนรอบด้านหันาให้ความสนใจ และนั่นก็ไม่เว้นแม้แต่เป่าฮู่ที่เห็นผ้าคลุมหน้าของหย่วนซิวหยูลอยปลิวไป นั่นย่อมเป็นส่งบอกเหตุว่าภัยร้ายแรงกำลังมาเยือนความงามของนางจะนำพาทุกสิ่งมาพร้อมกัน ยิ่งนางบรรลุระดับราชันขั้นสูงแล้วผิวพรรณของนางยิ่งดูมีเสน่ห์มากยิ่งกว่าเดิม

ใต้สายตามากกว่า 100 คู่ในโรงเตี๊ยม ย่อมเป็นใครไปไม่ได้ที่อยู่บนชั้นสาม นั่นคือเต้าอิงเฉิงที่นำพาศิษย์พี่หญิงของตนออกมาเที่ยวในครั้งนี้

“แม่นางซิวหยู!….”

เสียงกล่าวออกมาเบาๆของเต้าอิงเฉิงในชุดสามัญ และด้านข้างก็มีเฟิงอี้ หญิงงามแห่งพรรควิหคอัสนี ที่ยืนอยู่ด้านข้าง

“ใครกันศิษย์น้อง?”

คำกล่าวนั้นคือสิ่งที่ต้องถาม เพราะในใจเฟิงอี้ นางนั่นชื่นชอบเต้าอิงเฉิงผู้นี้เต็มหัวอก ตลอดเวลา 2 ปีที่พรรคอัสนีนางรู้สึกว่าชายผู้นี้คือคนที่นางต้องได้มาครอบครองและด้วยบิดาของนางเองก็เห็นด้วยลูกหลานของเต้าหว่านเทียนยอดอัจฉริยะที่ถูกส่งออกจากทวีปต้าหลั๋วให้มาพิชิตดินแดนสัตว์เทพย่อมไม่ธรรมดา

“นางคือ….นางคือ…ไม่ทันกาลแล้ว ไว้ข้าจะอธิบายให้ท่านฟัง.”

คำกล่าวที่เต้าอิงเฉิงไม่กล้าที่จะพูด แต่เมื่อเห็นหวงหลี่ไป๋กำลังเคลื่อนไหวและด้านข้างกลับมีเต้าเหล่ยติดตามมา ทำให้เต้าอิงเฉิงต้องยิ่งก้าวออกปกป้องคนที่เต้าอิงเฉิงเคยทอดทิ้งไปครั้งหนึ่แล้วนั่นเอง

“ข้าขอตัวก่อนศิษย์พี่”

พูดจบก็ทะยานร่างลงจากชั้นที่สาม ระหว่างนั้น ชายหนุ่มใต้ผ้าคลุมที่นั่งที่ระเบียงของชั้นสองก็ได้เห็นศัตรูของตนเอง ที่อดีตเคยปะมือกันมาครั้งหนึ่ง คนที่เป่าฮู่ไม่เคยลืมผู้ที่มีพรสวรรค์การฝึกยุทธ์ที่น่ากลัวและกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากร่างของมันผู้นั้นก็ทำให้ให้เป่าฮู่ต้องตกใจ ชายคนนี้ไม่อาจดูแคลนได้

“เต้าอิงเฉิง….เป็นมัน!”

ภายใต้การมองเห็นของผู้คนในโรงเตี๊ยม ทำให้เป่าฮู่ที่ได้เห็นและรวบรวมสถานการณ์ที่จะเป็นไปได้กล่าวออกไปทางช่องลมปราณของตนและหย่วนซิวหยู

“ซิวหยู…จากที่เห็น เจ้าคงก่อเรื่องอีกแล้ว ทำอย่างไรก็ได้หนีออกจากสถานการณ์นั้นทันทีหากทำได้ข้าจะคุ้มกันเจ้าเอง แต่ว่าหลังจากเจ้าเต้าอิงเฉิงมันเสนอตัวปกป้องเจ้าเพราะวันนี้ข้าจะดูว่ามันจะแสดงอะไรออกมาต่อหน้าคนทั้งโรงเตี๊ยม”

เมื่อตัวหย่วนซิวหยูได้ฟัง ก็ได้ยิ้มออกาเพราะห่างไปไม่ไกลเป่าฮู่ก็ได้นั่งจิบน้ำชาอย่างสุขใจและมองลงมาที่นางผู้อยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่วุ่นวายนั่น เพื่อรอดูการแสดงที่สนุกของคนเหล่านั้น

“ไม่เจอกันนานนะแม่นางหย่วน ท่านคงสบายดี?”

เสียงจากชายที่ทะยานร่างลงมาจากชั้นสามอย่างช้าๆ และเป็นใครไปไม่ได้ เพราะนั่น ว่าที่ผู้นำของตระกูลเต้านาม เต้าอิงเฉิงนั่นเอง….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+