(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 105

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 105 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

‘เปรี๊ยะ ๆ’

ชาร์ลอตเตกับมาริเอล จ้องเขม่นใส่กันราวกับจะมีประกายไฟกระจายออกมา

เฮเลนาเองก็ไม่รู้ละเอียดนัก แต่ได้ยินมาว่าสองคนนี้เคยมีเรื่องกันมาตั้งแต่ก่อนเธอจะเข้าวังหลังแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ได้ยินทั้งสองคนสนทนากันเป็นเรื่องเป็นราวน่าจะเป็นเมื่อสักพักมาแล้วในสวนระหว่างอาคาร ในวันที่เธอได้รับดาบเล่มนี้มาจากฟาร์มาสกระมัง

ตอนนั้นเฮเลนายังคิดว่ามาริเอลเป็นคนที่เธอต้องระวังอยู่เลย—

 

“มาทำอะไรหรือเจ้าคะ? พระสนมฟ้าดารา”

 

“เรื่องนั้นอิฉันต้องเป็นฝ่ายถามมากกว่านะคะ พระสนมฟ้าจันทรา”

 

“ทางนี้ถามก่อนเจ้าค่ะ ตอบมาซะสิ”

 

“ไม่ใช่ธุระอิฉันที่ต้องไปตอบอะไรท่านนี่คะ หัดสงบคำบ้างซะเถอะ”

 

สถานการณ์ตึงเครียด

ใช้คำนั้นน่าจะเหมาะสมกระมัง

มาริเอลกับโซฟีนา

ชาร์ลอตเตกับเอสเทล

ไม่ว่าทางไหนก็มีจุดที่เหมือนกันคือสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างหลังกำลังถอนหายใจอย่างเอือมระอาทั้งคู่

 

“ว่าแต่ว่า……กระบองนั่น อย่าบอกนะคะว่าพระสนมฟ้าจันทราก็รู้วิชากระบองด้วย?”

 

“อึก……น นี่มันไม่ใช่นะเจ้าคะ”

 

“ถือกระบองมายังสวนระหว่างอาคารที่ท่านพี่หญิงกำลังฝึกฝนอยู่เช่นนี้……แบบนี้นี่เอง แปลว่าพระสนมฟ้าจันทราเองก็อยากรับการฝึกโดยตรงจากท่านพี่หญิงเหมือนกันสินะคะ”

 

“……ป เปล่านะเจ้าคะ ดิฉันก็แค่คิดว่าต้องออกกำลังกายบ้างเท่านั้นแหละเจ้าค่ะ”

 

“เป็นเช่นนี้เอง ไม่ทราบว่ามาเข้าใกล้ท่านพี่หญิงด้วยวัตถุประสงค์อันใด แต่หากอยากได้รับการชี้แนะจากท่านพี่หญิงโดยตรงก็ต้องมีความอุตสาหะอย่างแท้จริงด้วยนะคะ ท่านน่ะมีความตั้งใจจะฝึกจริง ๆ งั้นรึ?”

 

“อุ……”

 

เมื่อฟังคำจากมาริเอล ชาร์ลอตเตก็หงอไปเล็กน้อย

ไอ้การที่เถียงไม่ออกแบบนี้ ก็แปลว่าวางแผนอะไรอยู่จริง ๆ หรือเปล่านะ

 

“มาเข้าใกล้ท่านพี่หญิงแบบนี้คิดจะทำอะไรกันแน่คะ?”

 

“ม ไม่ได้วางแผนอะไรอยู่ทั้งนั้นแหละเจ้าค่ะ!”

 

“จะจริงน่ะหรือ อิฉันได้ยินได้ฟังมาเหมือนกันนะคะ ว่าคนที่ลงมือทำร้ายท่านลิเลียนหนึ่งในเก้าสนมเอกตำแหน่ง ‘ผู้เลอค่า’ น่ะคือฝ่ายของท่านใช่ไหมเล่า”

 

“—!”

 

เรื่องราวเริ่มขยับไปในทิศทางที่เฮเลนาไม่รู้เรื่องด้วยแล้ว

ดูเหมือนว่าจะเป็นเหตุการณ์ลอบสังหารที่เกิดขึ้นก่อนเฮเลนาเข้าวังหลัง ซึ่งฟาร์มาสเคยพูดถึงก่อนหน้านี้—ผู้ถูกกระทำในคราวนั้นคงเป็นกุลสตรีที่ชื่อว่าลิเลียนกระมัง

‘เรื่องนี้เห็นทีจะพลาดไม่ได้แฮะ’ เฮเลนาเงี่ยหูฟังทั้งสองคนที่กำลังเขม่นกันอยู่ต่อไป

 

“น นั่นมัน……! ด ดิฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะเจ้าคะ!”

 

“ถึงตัวท่านไม่ได้ทำอะไร แต่ก็ได้ยินมาว่าเป็นฝีมือของฝ่ายท่านนะคะ”

 

“พ แพทย์ประจำวังก็ได้ตัดสินว่าเกิดจากอาการป่วยนะเจ้าคะ!”

 

“แต่การที่แพทย์ประจำวังคนนั้นเป็นคนใกล้ชิดของใต้เท้าอำมาตย์แผ่นดินโนลด์ลุนด์นั่นแหละค่ะ ที่น่าสงสัยที่สุด”

 

 

มาริเอลกล่าวพลางเหลือบตามองชาร์ลอตเต

เมื่อเจอกับสายตาของมาริเอลเช่นนั้น ชาร์ลอตเตเองก็ดูตื่นตระหนกอย่างยิ่ง

ทว่า—มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ น่ะหรือ

เฮเลนาเอียงคออย่างฉงนใจ

 

“ตราบเท่าที่ตาอิฉันยังดำอยู่* จะไม่ปล่อยให้แตะต้องท่านพี่หญิงได้หรอกค่ะ”

 

(*TL: เป็นสำนวนที่หมายถึง ‘ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่’)

 

“ตาท่านเป็นสีน้ำเงินนี่เจ้าคะ!”

 

“มันเป็นคำอุปมาค่ะ แค่นี้ก็ไม่เข้าใจหรือ?”

 

เมื่อเห็นมาริเอลหัวเราะ ‘หึๆ’ อย่างดูแคลนชัดเจน ชาร์ลอตเตก็จ้องกลับอย่างเดือดดาล

ทว่าในด้านศึกน้ำลายดูเหมือนมาริเอลจะเหนือกว่าอย่างมาก

 

“ท ท่านเองก็ถือกระบองอยู่เหมือนกันนี่เจ้าคะ! คิดจะมาทำอะไรที่นี่กันแน่!”

 

“อิฉันฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของท่านพี่หญิงอยู่ ช่วงนี้กำลังเรียนวิชากระบองสนุกเลยค่ะ”

 

“ด ดิฉันเองก็……!”

 

‘อึ่ก’ ชาร์ลอตเตยั้งปากไปด้วยตนเอง

ไม่รู้ว่ากำลังจะพูดอะไรออกมา แต่ดูเหมือนเจ็บใจอย่างมากทีเดียว

 

“อุ๊ยแหม ท่านเองก็ อะไรหรือคะ?”

 

“ฮึ่มม……!”

 

“หรือจะพูดว่าท่านเองก็อยากจะเรียนวิชากระบองจากท่านพี่หญิงอย่างจริงจังเหมือนกัน?”

 

“ฮึ้ยย……! พูดมากไปกว่านี้ก็ไม่จบไม่สิ้นซะทีเจ้าค่ะ”!

 

‘ฟึ่บ’ ปลายกระบองของชาร์ลอตเตได้ถูกชี้ไปทางมาริเอล

เทียบกับบ่ายเมื่อวันก่อนแล้ว ท่าร่างของเธอดูเข้ารูปเข้ารอยกว่าเดิมไม่น้อยเลยทีเดียว

 

“พระสนมฟ้าดาราน่ะ กำลังร่ำเรียนวิชากระบองจากพระสนมฟ้าสุริยาอยู่ใช่ไหมเจ้าคะ! เช่นนั้นก็มาประลองกับดิฉันสิ!”

 

“แหม ๆ ……คิดจะประลองกับอิฉันหรือคะ?”

 

“แน่นอนเจ้าค่ะ! ไม่แพ้หรอกนะเจ้าคะ!”

 

“เช่นนั้นก็ย่อมได้ อิฉันเองก็ขอสู้อย่างสุดฝีมือเช่นกันค่ะ!”

 

“ช้าก่อน”

 

พอเห็นว่ามันจะกลายเป็นการต่อสู้จริงจังไปแล้ว เฮเลนาจึงอดไม่ได้ที่จะต้องเข้าห้ามปราม

มาริเอลนั้นมีพรสวรรค์ในด้านวิชากระบอง เรื่องนั้นเฮเลนาเองก็ยอมรับ แม้แต่ทิฟฟานีก็ยอมรับเช่นกัน

ทว่ามาริเอลที่เพิ่งจะเริ่มฝึกวิชากระบองมาได้ไม่กี่วันก็ยังนับว่าเป็นมือใหม่อยู่ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจนับว่าอยู่ในระดับที่สามารถมาฝึกซ้อมต่อสู้จริงแบบนี้ได้

การที่เธอสามารถฝึกซ้อมกับทิฟฟานีได้นั้น ก็เป็นเพราะทิฟฟานีได้ออมมือให้เพื่อสอนวิธีต่อสู้กับมาริเอลนั่นเอง

 

ส่วนชาร์ลอตเตเองก็เพิ่งจะเริ่มฝึกกระบวนท่าพื้นฐานของวิชากระบองไปเมื่อวานนี้ตอนบ่ายเท่านั้นเอง

เพียงแค่นั้นไม่มีทางก้าวหน้าจนสามารถนำมาใช้ต่อสู้ได้หรอก

การฝึกฝนมันคือสิ่งที่ต้องสั่งสมไปทุกวันจึงจะสามารถกลายเป็นพลังให้เราได้ต่างหาก

 

“มาริเอล ลดกระบองลงซะ”

 

“เอ๋……ค ค่ะ ท่านพี่หญิง”

 

“พระสนมฟ้าจันทรา……อ่า ช่างมันละ คุณหนูชาร์ลอตเต เธอเองก็อยากเรียนวิชากระบองรึ?”

 

“ด ดิฉัน……”

 

“ถ้าอยากเรียนจริงๆ ข้าก็จะฝึกให้ จะฝึกให้ใหม่ตั้งแต่ต้นจนกลายเป็นทหารเต็มตัวเลย แต่ถ้าไม่มีความตั้งใจจะทำเช่นนั้นก็จงทิ้งอาวุธไปเสีย”

 

“อึก……!”

 

ชาร์ลอตเตจ้องเขม่นเฮเลนาด้วยแววตาแหลมคม

ทว่าแน่นอนว่าการจ้องระดับนี้ สำหรับเฮเลนาแล้วก็เหมือนโดนกระต่ายมาเหยียบเงา ไม่เจ็บไม่คันอะไรทั้งสิ้น ดูอย่างไรก็ไม่ต่างอะไรจากสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่กำลังกระเสือกกระสนดิ้นรนเท่านั้นเอง

 

“จ จะฝึกเจ้าค่ะ……!”

 

“งั้นก็จับกระบองขึ้นมาซะ มาฝึกหวดลมกับข้า”

 

“เช่นนั้น ท่านพี่หญิงคะ”

 

“แม้จะนอกเหนือความคาดหมายไปหน่อย แต่ก็มาฝึกด้วยกันทั้งสองคนนั่นแหละ ข้าน่ะไม่ได้สอนวิชากระบองเพื่อจะให้ทั้งสองคนมาโต้เถียงกันเหมือนเด็กน้อยแบบนั้นหรอกนะ”

 

‘ฟู่ว’ เธอผ่อนลมหายใจเบา ๆ

ดูเหมือนจะยอมหยุดทะเลาะกันได้สักที ถึงกระนั้นก็ชัดเจนว่าต่างฝ่ายต่างไม่ได้มีความรู้สึกดี ๆ ให้กันสักนิด

แบบนี้ถ้าไม่ดัดนิสัยของชาร์ลอตเตเสียใหม่ทั้งหมดก็คงจะไม่ไหวแน่ ๆ

 

“เอาเถอะ……อันดับแรก ฟาดลงตามแนวกึ่งกลาง ฝึกไปพร้อมกันข้าง ๆ ข้านี่แหละ”

 

“เข้าใจแล้วค่ะ”

 

“ฮึ”

 

และแล้วก็เริ่มการฝึก

เฮเลนาเพียงแค่ฝึกกระบวนท่าพื้นฐานเหมือนที่เคยทำมา ไม่ได้มีการประกบสอนเหมือนเมื่อช่วงเช้า ซึ่งเธอเองก็ได้บอกมาริเอลไปแล้วด้วยว่านี่เป็นการฝึกของเธอเอง ดังนั้นจะไม่สามารถช่วยดูให้ได้มากนัก

พวกเธอยืนเรียงกันฝึก แม้มันจะเป็นภาพแปลก ๆ ที่เฮเลนาใช้ดาบใหญ่ส่วนอีกสองคนใช้กระบองก็ตามที

‘วืด วืด’ เสียงหวดดาบและกระบองได้ดังสะท้อนไปในสวนระหว่างอาคาร

 

จากนั้นการฝึกก็ดำเนินต่อไปอยู่พักหนึ่ง

แม้ภาระน้ำหนักที่แบกรับของเฮเลนาจะโหดกว่าอีกสองคนมาก แต่ผู้ที่หมดแรงก่อนกลับเป็นชาร์ลอตเต และในเวลาไล่เลี่ยกันการเคลื่อนไหวของมาริเอลเองก็เริ่มทื่อไปเนื่องจากความเหนื่อยล้า

‘งั้นประมาณนี้ก็ได้มั้ง’ เฮเลนาจึงตัดสินใจพักก่อนด้วยเช่นกัน

 

“เอาล่ะ พักกันสักหน่อย”

 

“……เช่นนั้นสาวใช้ของดิฉันจะชงน้ำชาให้นะเจ้าคะ เอสเทล!”

 

“รับทราบแล้วค่ะ”

 

เมื่อได้ฟังคำของชาร์ลอตเต เอสเทลก็พยักหน้ารับแล้วเริ่มชงน้ำชา

ทีแรกกะจะวานให้อเลกเซียช่วยทำ แต่ชาร์ลอตเตเองก็รู้จักเอาใจใส่ในแบบของเธอเหมือนกันกระมัง

 

“อุ๊ยแหม พระสนมฟ้าจันทรา มีใบชาระดับที่จะทำให้อิฉันพึงพอใจด้วยหรือคะ?”

 

“……หนวกหูเจ้าค่ะ ใบชามันไม่ได้ตัดสินกันที่ราคาเสียหน่อย”

 

“แหม เรื่องนั้นมันก็ไม่แน่หรอกนะคะ ใบชาน่ะอย่างไรใช้ของชั้นสูงก็น่าจะดีกว่า……”

 

“มาริเอล”

 

“……เอาเถอะ แบบนั้นก็ได้ค่ะ”

 

เฮเลนากล่าวห้ามสั้น ๆ กับมาริเอลที่เริ่มจะพูดจาถากถางชาร์ลอตเตขึ้นมาอีกแล้ว

ถ้ายังจะทะเลาะกันแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ล่ะก็ สู้อย่าให้มาฝึกพร้อมกันเลยอาจดีกว่าก็เป็นได้

แต่ว่า—

 

“……ฮืม”

 

ก่อนอื่นเธอก็ค่อย ๆ ลองจิบชาที่เอสเทลชงมาให้ พลางพยักหน้าอย่างใช้ความคิด

ชาร์ลอตเตนั้นยังเด็กนัก และยังอารมณ์ร้อน ซ้ำร้ายยังมีความเอาแต่ใจ นิสัยเช่นนี้คงจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อฝึกดัดสันดานเสียใหม่

อีกทางหนึ่ง มาริเอลเองหมู่นี้แม้จะเริ่มเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นแล้ว แต่ดูเหมือนจิตใจของเธอจะยังไม่เติบโตเท่าไรนัก เช่นนั้นก็คงจำเป็นต้องฝึกเพื่อดัดนิสัยด้วยเหมือนกัน

ซึ่งก็หมายความว่า

 

“……จัดบูทแคมป์ให้ชาร์ลอตเตด้วยเลยก็แล้วกัน”

 

แม้ว่าเจ้าตัวยังไม่ทันได้ยินยอมรับรู้อะไรด้วยเลยสักนิด

แต่นั่นก็คือวินาทีที่การเข้าร่วมบูทแคมป์ของ ‘สนมฟ้าจันทรา’ ชาร์ลอตเต เอียนส์เวิร์ธ ได้ถูกตัดสินไปเรียบร้อยแล้ว

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 105

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 105 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

‘เปรี๊ยะ ๆ’

ชาร์ลอตเตกับมาริเอล จ้องเขม่นใส่กันราวกับจะมีประกายไฟกระจายออกมา

เฮเลนาเองก็ไม่รู้ละเอียดนัก แต่ได้ยินมาว่าสองคนนี้เคยมีเรื่องกันมาตั้งแต่ก่อนเธอจะเข้าวังหลังแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ได้ยินทั้งสองคนสนทนากันเป็นเรื่องเป็นราวน่าจะเป็นเมื่อสักพักมาแล้วในสวนระหว่างอาคาร ในวันที่เธอได้รับดาบเล่มนี้มาจากฟาร์มาสกระมัง

ตอนนั้นเฮเลนายังคิดว่ามาริเอลเป็นคนที่เธอต้องระวังอยู่เลย—

 

“มาทำอะไรหรือเจ้าคะ? พระสนมฟ้าดารา”

 

“เรื่องนั้นอิฉันต้องเป็นฝ่ายถามมากกว่านะคะ พระสนมฟ้าจันทรา”

 

“ทางนี้ถามก่อนเจ้าค่ะ ตอบมาซะสิ”

 

“ไม่ใช่ธุระอิฉันที่ต้องไปตอบอะไรท่านนี่คะ หัดสงบคำบ้างซะเถอะ”

 

สถานการณ์ตึงเครียด

ใช้คำนั้นน่าจะเหมาะสมกระมัง

มาริเอลกับโซฟีนา

ชาร์ลอตเตกับเอสเทล

ไม่ว่าทางไหนก็มีจุดที่เหมือนกันคือสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างหลังกำลังถอนหายใจอย่างเอือมระอาทั้งคู่

 

“ว่าแต่ว่า……กระบองนั่น อย่าบอกนะคะว่าพระสนมฟ้าจันทราก็รู้วิชากระบองด้วย?”

 

“อึก……น นี่มันไม่ใช่นะเจ้าคะ”

 

“ถือกระบองมายังสวนระหว่างอาคารที่ท่านพี่หญิงกำลังฝึกฝนอยู่เช่นนี้……แบบนี้นี่เอง แปลว่าพระสนมฟ้าจันทราเองก็อยากรับการฝึกโดยตรงจากท่านพี่หญิงเหมือนกันสินะคะ”

 

“……ป เปล่านะเจ้าคะ ดิฉันก็แค่คิดว่าต้องออกกำลังกายบ้างเท่านั้นแหละเจ้าค่ะ”

 

“เป็นเช่นนี้เอง ไม่ทราบว่ามาเข้าใกล้ท่านพี่หญิงด้วยวัตถุประสงค์อันใด แต่หากอยากได้รับการชี้แนะจากท่านพี่หญิงโดยตรงก็ต้องมีความอุตสาหะอย่างแท้จริงด้วยนะคะ ท่านน่ะมีความตั้งใจจะฝึกจริง ๆ งั้นรึ?”

 

“อุ……”

 

เมื่อฟังคำจากมาริเอล ชาร์ลอตเตก็หงอไปเล็กน้อย

ไอ้การที่เถียงไม่ออกแบบนี้ ก็แปลว่าวางแผนอะไรอยู่จริง ๆ หรือเปล่านะ

 

“มาเข้าใกล้ท่านพี่หญิงแบบนี้คิดจะทำอะไรกันแน่คะ?”

 

“ม ไม่ได้วางแผนอะไรอยู่ทั้งนั้นแหละเจ้าค่ะ!”

 

“จะจริงน่ะหรือ อิฉันได้ยินได้ฟังมาเหมือนกันนะคะ ว่าคนที่ลงมือทำร้ายท่านลิเลียนหนึ่งในเก้าสนมเอกตำแหน่ง ‘ผู้เลอค่า’ น่ะคือฝ่ายของท่านใช่ไหมเล่า”

 

“—!”

 

เรื่องราวเริ่มขยับไปในทิศทางที่เฮเลนาไม่รู้เรื่องด้วยแล้ว

ดูเหมือนว่าจะเป็นเหตุการณ์ลอบสังหารที่เกิดขึ้นก่อนเฮเลนาเข้าวังหลัง ซึ่งฟาร์มาสเคยพูดถึงก่อนหน้านี้—ผู้ถูกกระทำในคราวนั้นคงเป็นกุลสตรีที่ชื่อว่าลิเลียนกระมัง

‘เรื่องนี้เห็นทีจะพลาดไม่ได้แฮะ’ เฮเลนาเงี่ยหูฟังทั้งสองคนที่กำลังเขม่นกันอยู่ต่อไป

 

“น นั่นมัน……! ด ดิฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะเจ้าคะ!”

 

“ถึงตัวท่านไม่ได้ทำอะไร แต่ก็ได้ยินมาว่าเป็นฝีมือของฝ่ายท่านนะคะ”

 

“พ แพทย์ประจำวังก็ได้ตัดสินว่าเกิดจากอาการป่วยนะเจ้าคะ!”

 

“แต่การที่แพทย์ประจำวังคนนั้นเป็นคนใกล้ชิดของใต้เท้าอำมาตย์แผ่นดินโนลด์ลุนด์นั่นแหละค่ะ ที่น่าสงสัยที่สุด”

 

 

มาริเอลกล่าวพลางเหลือบตามองชาร์ลอตเต

เมื่อเจอกับสายตาของมาริเอลเช่นนั้น ชาร์ลอตเตเองก็ดูตื่นตระหนกอย่างยิ่ง

ทว่า—มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ น่ะหรือ

เฮเลนาเอียงคออย่างฉงนใจ

 

“ตราบเท่าที่ตาอิฉันยังดำอยู่* จะไม่ปล่อยให้แตะต้องท่านพี่หญิงได้หรอกค่ะ”

 

(*TL: เป็นสำนวนที่หมายถึง ‘ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่’)

 

“ตาท่านเป็นสีน้ำเงินนี่เจ้าคะ!”

 

“มันเป็นคำอุปมาค่ะ แค่นี้ก็ไม่เข้าใจหรือ?”

 

เมื่อเห็นมาริเอลหัวเราะ ‘หึๆ’ อย่างดูแคลนชัดเจน ชาร์ลอตเตก็จ้องกลับอย่างเดือดดาล

ทว่าในด้านศึกน้ำลายดูเหมือนมาริเอลจะเหนือกว่าอย่างมาก

 

“ท ท่านเองก็ถือกระบองอยู่เหมือนกันนี่เจ้าคะ! คิดจะมาทำอะไรที่นี่กันแน่!”

 

“อิฉันฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของท่านพี่หญิงอยู่ ช่วงนี้กำลังเรียนวิชากระบองสนุกเลยค่ะ”

 

“ด ดิฉันเองก็……!”

 

‘อึ่ก’ ชาร์ลอตเตยั้งปากไปด้วยตนเอง

ไม่รู้ว่ากำลังจะพูดอะไรออกมา แต่ดูเหมือนเจ็บใจอย่างมากทีเดียว

 

“อุ๊ยแหม ท่านเองก็ อะไรหรือคะ?”

 

“ฮึ่มม……!”

 

“หรือจะพูดว่าท่านเองก็อยากจะเรียนวิชากระบองจากท่านพี่หญิงอย่างจริงจังเหมือนกัน?”

 

“ฮึ้ยย……! พูดมากไปกว่านี้ก็ไม่จบไม่สิ้นซะทีเจ้าค่ะ”!

 

‘ฟึ่บ’ ปลายกระบองของชาร์ลอตเตได้ถูกชี้ไปทางมาริเอล

เทียบกับบ่ายเมื่อวันก่อนแล้ว ท่าร่างของเธอดูเข้ารูปเข้ารอยกว่าเดิมไม่น้อยเลยทีเดียว

 

“พระสนมฟ้าดาราน่ะ กำลังร่ำเรียนวิชากระบองจากพระสนมฟ้าสุริยาอยู่ใช่ไหมเจ้าคะ! เช่นนั้นก็มาประลองกับดิฉันสิ!”

 

“แหม ๆ ……คิดจะประลองกับอิฉันหรือคะ?”

 

“แน่นอนเจ้าค่ะ! ไม่แพ้หรอกนะเจ้าคะ!”

 

“เช่นนั้นก็ย่อมได้ อิฉันเองก็ขอสู้อย่างสุดฝีมือเช่นกันค่ะ!”

 

“ช้าก่อน”

 

พอเห็นว่ามันจะกลายเป็นการต่อสู้จริงจังไปแล้ว เฮเลนาจึงอดไม่ได้ที่จะต้องเข้าห้ามปราม

มาริเอลนั้นมีพรสวรรค์ในด้านวิชากระบอง เรื่องนั้นเฮเลนาเองก็ยอมรับ แม้แต่ทิฟฟานีก็ยอมรับเช่นกัน

ทว่ามาริเอลที่เพิ่งจะเริ่มฝึกวิชากระบองมาได้ไม่กี่วันก็ยังนับว่าเป็นมือใหม่อยู่ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจนับว่าอยู่ในระดับที่สามารถมาฝึกซ้อมต่อสู้จริงแบบนี้ได้

การที่เธอสามารถฝึกซ้อมกับทิฟฟานีได้นั้น ก็เป็นเพราะทิฟฟานีได้ออมมือให้เพื่อสอนวิธีต่อสู้กับมาริเอลนั่นเอง

 

ส่วนชาร์ลอตเตเองก็เพิ่งจะเริ่มฝึกกระบวนท่าพื้นฐานของวิชากระบองไปเมื่อวานนี้ตอนบ่ายเท่านั้นเอง

เพียงแค่นั้นไม่มีทางก้าวหน้าจนสามารถนำมาใช้ต่อสู้ได้หรอก

การฝึกฝนมันคือสิ่งที่ต้องสั่งสมไปทุกวันจึงจะสามารถกลายเป็นพลังให้เราได้ต่างหาก

 

“มาริเอล ลดกระบองลงซะ”

 

“เอ๋……ค ค่ะ ท่านพี่หญิง”

 

“พระสนมฟ้าจันทรา……อ่า ช่างมันละ คุณหนูชาร์ลอตเต เธอเองก็อยากเรียนวิชากระบองรึ?”

 

“ด ดิฉัน……”

 

“ถ้าอยากเรียนจริงๆ ข้าก็จะฝึกให้ จะฝึกให้ใหม่ตั้งแต่ต้นจนกลายเป็นทหารเต็มตัวเลย แต่ถ้าไม่มีความตั้งใจจะทำเช่นนั้นก็จงทิ้งอาวุธไปเสีย”

 

“อึก……!”

 

ชาร์ลอตเตจ้องเขม่นเฮเลนาด้วยแววตาแหลมคม

ทว่าแน่นอนว่าการจ้องระดับนี้ สำหรับเฮเลนาแล้วก็เหมือนโดนกระต่ายมาเหยียบเงา ไม่เจ็บไม่คันอะไรทั้งสิ้น ดูอย่างไรก็ไม่ต่างอะไรจากสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่กำลังกระเสือกกระสนดิ้นรนเท่านั้นเอง

 

“จ จะฝึกเจ้าค่ะ……!”

 

“งั้นก็จับกระบองขึ้นมาซะ มาฝึกหวดลมกับข้า”

 

“เช่นนั้น ท่านพี่หญิงคะ”

 

“แม้จะนอกเหนือความคาดหมายไปหน่อย แต่ก็มาฝึกด้วยกันทั้งสองคนนั่นแหละ ข้าน่ะไม่ได้สอนวิชากระบองเพื่อจะให้ทั้งสองคนมาโต้เถียงกันเหมือนเด็กน้อยแบบนั้นหรอกนะ”

 

‘ฟู่ว’ เธอผ่อนลมหายใจเบา ๆ

ดูเหมือนจะยอมหยุดทะเลาะกันได้สักที ถึงกระนั้นก็ชัดเจนว่าต่างฝ่ายต่างไม่ได้มีความรู้สึกดี ๆ ให้กันสักนิด

แบบนี้ถ้าไม่ดัดนิสัยของชาร์ลอตเตเสียใหม่ทั้งหมดก็คงจะไม่ไหวแน่ ๆ

 

“เอาเถอะ……อันดับแรก ฟาดลงตามแนวกึ่งกลาง ฝึกไปพร้อมกันข้าง ๆ ข้านี่แหละ”

 

“เข้าใจแล้วค่ะ”

 

“ฮึ”

 

และแล้วก็เริ่มการฝึก

เฮเลนาเพียงแค่ฝึกกระบวนท่าพื้นฐานเหมือนที่เคยทำมา ไม่ได้มีการประกบสอนเหมือนเมื่อช่วงเช้า ซึ่งเธอเองก็ได้บอกมาริเอลไปแล้วด้วยว่านี่เป็นการฝึกของเธอเอง ดังนั้นจะไม่สามารถช่วยดูให้ได้มากนัก

พวกเธอยืนเรียงกันฝึก แม้มันจะเป็นภาพแปลก ๆ ที่เฮเลนาใช้ดาบใหญ่ส่วนอีกสองคนใช้กระบองก็ตามที

‘วืด วืด’ เสียงหวดดาบและกระบองได้ดังสะท้อนไปในสวนระหว่างอาคาร

 

จากนั้นการฝึกก็ดำเนินต่อไปอยู่พักหนึ่ง

แม้ภาระน้ำหนักที่แบกรับของเฮเลนาจะโหดกว่าอีกสองคนมาก แต่ผู้ที่หมดแรงก่อนกลับเป็นชาร์ลอตเต และในเวลาไล่เลี่ยกันการเคลื่อนไหวของมาริเอลเองก็เริ่มทื่อไปเนื่องจากความเหนื่อยล้า

‘งั้นประมาณนี้ก็ได้มั้ง’ เฮเลนาจึงตัดสินใจพักก่อนด้วยเช่นกัน

 

“เอาล่ะ พักกันสักหน่อย”

 

“……เช่นนั้นสาวใช้ของดิฉันจะชงน้ำชาให้นะเจ้าคะ เอสเทล!”

 

“รับทราบแล้วค่ะ”

 

เมื่อได้ฟังคำของชาร์ลอตเต เอสเทลก็พยักหน้ารับแล้วเริ่มชงน้ำชา

ทีแรกกะจะวานให้อเลกเซียช่วยทำ แต่ชาร์ลอตเตเองก็รู้จักเอาใจใส่ในแบบของเธอเหมือนกันกระมัง

 

“อุ๊ยแหม พระสนมฟ้าจันทรา มีใบชาระดับที่จะทำให้อิฉันพึงพอใจด้วยหรือคะ?”

 

“……หนวกหูเจ้าค่ะ ใบชามันไม่ได้ตัดสินกันที่ราคาเสียหน่อย”

 

“แหม เรื่องนั้นมันก็ไม่แน่หรอกนะคะ ใบชาน่ะอย่างไรใช้ของชั้นสูงก็น่าจะดีกว่า……”

 

“มาริเอล”

 

“……เอาเถอะ แบบนั้นก็ได้ค่ะ”

 

เฮเลนากล่าวห้ามสั้น ๆ กับมาริเอลที่เริ่มจะพูดจาถากถางชาร์ลอตเตขึ้นมาอีกแล้ว

ถ้ายังจะทะเลาะกันแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ล่ะก็ สู้อย่าให้มาฝึกพร้อมกันเลยอาจดีกว่าก็เป็นได้

แต่ว่า—

 

“……ฮืม”

 

ก่อนอื่นเธอก็ค่อย ๆ ลองจิบชาที่เอสเทลชงมาให้ พลางพยักหน้าอย่างใช้ความคิด

ชาร์ลอตเตนั้นยังเด็กนัก และยังอารมณ์ร้อน ซ้ำร้ายยังมีความเอาแต่ใจ นิสัยเช่นนี้คงจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อฝึกดัดสันดานเสียใหม่

อีกทางหนึ่ง มาริเอลเองหมู่นี้แม้จะเริ่มเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นแล้ว แต่ดูเหมือนจิตใจของเธอจะยังไม่เติบโตเท่าไรนัก เช่นนั้นก็คงจำเป็นต้องฝึกเพื่อดัดนิสัยด้วยเหมือนกัน

ซึ่งก็หมายความว่า

 

“……จัดบูทแคมป์ให้ชาร์ลอตเตด้วยเลยก็แล้วกัน”

 

แม้ว่าเจ้าตัวยังไม่ทันได้ยินยอมรับรู้อะไรด้วยเลยสักนิด

แต่นั่นก็คือวินาทีที่การเข้าร่วมบูทแคมป์ของ ‘สนมฟ้าจันทรา’ ชาร์ลอตเต เอียนส์เวิร์ธ ได้ถูกตัดสินไปเรียบร้อยแล้ว

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+