(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 71: การเสด็จมาเยือนหลังไม่ได้พบเสียนาน

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 71: การเสด็จมาเยือนหลังไม่ได้พบเสียนาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

สรุปแล้วการฝึกก็จบลงทั้งแบบนั้น แล้วเฮเลนาก็กลับห้องรับประทานอาหารกลางวันจากนั้นก็เริ่มฝึกในส่วนของตนเอง ทั้งฟรองซัวส์ คลาริซา และมาริเอลต่างก็ยังมีแรงกายน้อย แค่ฝึกฝนช่วงเช้าก็หมดแรงไปตาม ๆ กันแล้ว

ในระหว่างที่กำลังสร้างเสริมแรงกายอยู่นี้หากให้ฝืนเกินตัวอาจนำไปสู่การบาดเจ็บได้ ดังนั้นจนกว่าทั้งสามจะมีแรงกายเพรียบพร้อมในระดับหนึ่ง เธอจึงให้ฝึกแค่เฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น

ช่วยบ่ายเฮเลนาก็ต้องฝึกในส่วนของตนเองด้วย ดังนั้นตอนนี้คงสภาวะปัจจุบันไว้ก่อนน่าจะดี

 

และนอกจากวิดพื้น ซิตอัป สควอตที่เป็นการฝึกร่างกายประจำวันอยู่แล้ว เธอยังฝึกเสต็ปการเต้นรำพื้นฐานที่ลูเครเซียสอนมาให้อีก อย่างน้อยที่สุดก็ได้รับคำยืนยันมาแล้ว ว่าขอแค่เธอเต้นตามสเต็ปพื้นฐานนี้ได้อย่างแน่นอนก็สามารถไปออกงานไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีได้โดยไม่มีปัญหา

ที่เหลือก็แค่ให้ลูเครเซียช่วยตรวจสอบดูอีกครั้งก่อนวันงานจริง เท่านั้นก็เป็นอันเสร็จสิ้น

แม้จะรู้สึกหงุดหงิดที่ขาขยับไม่ได้ดังใจแต่เธอก็พยายามจดจำเสต็ปเอาไว้ อะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยตลอดเวลายี่สิบแปดปี จู่ ๆ จะมาบอกให้จำในทันทีมันก็เป็นไปไม่ได้ มีแต่ต้องทำซ้ำไปมาหลายครั้งเพื่อให้ร่างกายจดจำเท่านั้น

เธอย้อนนึกถึงคำสอนของลูเครเซียพลางพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะเต้นโดยไม่มองเท้า ปล่อยร่างกายให้ไหลไปตามกระแส ย่ำเท้าไปเรื่อย ๆ

 

ระหว่างที่ทำอยู่เช่นนั้น อาหารเย็นก็มาถึง

และหลังจากนั้น—ฟาร์มาสก็มาเยือนจนได้

 

“ไม่พบกันเสียนานนะ สนมฟ้าสุริยาของเรา”

 

“ยากลำบากหน่อยนะคะท่านฟาร์มาส”

 

ฟาร์มาสที่มาคู่กับเกรเดียเหมือนทุกครั้งรีบสั่งให้เกรเดียกลับไปและให้อเลกเซียออกจากห้อง จากนั้นก็นั่งลงตรงหน้าเฮเลนา

ไม่ได้พบหน้ากันแค่ไม่กี่วันแท้ ๆ แต่มันกลับรู้สึกว่านานมากทีเดียว

 

“เอ่อ……ว่าไงดีนะ มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างไหม”

 

“ก็มีหลาย ๆ เรื่องนะคะ……”

 

“โฮ่ เราเองก็มีธุระนิดหน่อยเลยมาไม่ได้น่ะ ตอนที่เราไม่มามีอะไรเกิดขึ้นงั้นรึ?”

 

“ค่ะ เอ่อ……”

 

มีอะไรมากมายเกินไปจนไม่รู้จะเริ่มอธิบายจากเรื่องไหนก่อนดี

ที่เขามาครั้งก่อนมันคือเมื่อไหร่กันหว่า

จะว่าไป ก็น่าจะไม่ได้มาตั้งแต่ที่เธอเริ่มฝึกช่วงเช้าร่วมกับฟรองซัวส์ ซึ่งก็คือตั้งแต่วันนั้นที่เฮเลนาได้เจอกับทิฟฟานีหลังจากไม่ได้เจอมานานในสวนระหว่างอาคารนั่นเอง

 

“ข้าไม่ได้ยินจากท่านฟาร์มาสมาก่อนก็เลยตกใจค่ะ ไม่นึกมาก่อนเลยว่า ‘ขุนศึกหมาป่าเงิน’ ทิฟฟานีจะมารักษาความปลอดภัยในวังหลังด้วยตัวเองเช่นนี้”

 

“อ่า……เจ้าคนนั้นสินะ”

 

ฟาร์มาสเกาผมเหมือนเหนื่อยใจเล็กน้อย

แล้วพร้อมกันนั้นก็ถอนใจเบา ๆ

 

“เราบอกไปแค่ว่าให้ส่งหนึ่งกองร้อยจากกองอัศวินหมาป่าเงินมาเพื่อรักษาความปลอดภัยในวังหลัง คงจะคิดผิดไปหน่อยที่ให้ทางนั้นคัดเลือกคนมาเองล่ะมั้ง ไม่นึกมาก่อนว่าทิฟฟานี รีดจะนำกำลังพลมาด้วยตนเองแบบนี้น่ะ”

 

“……ใครจะไปนึกว่าแปดยอดขุนศึกจะมาด้วยตัวเองสินะคะ”

 

“ดูเหมือนแนวหน้าการรบจะวุ่นวายอยู่นิดหน่อยเพราะอยู่ในสภาวะที่มีเพียงแค่ ‘ขุนศึกวิหคดำ’ ปกป้องมุมหนึ่งของแนวหน้าระหว่างพันธมิตรสามอาณาจักรอยู่ สำหรับเราแล้วก็อยากให้ ‘ขุนศึกหมาป่าเงิน’ กลับไปแนวหน้าโดยเร็ว แต่เจ้าตัวดันไม่ยอมตอบตกลงโดยง่ายนี่สิ”

 

“อ่า……”

 

ทิฟฟานีที่ยึดถือเฮเลนาสำคัญที่สุดคงจะไม่ยอมพยักหน้ารับโดยง่ายเป็นแน่

แต่แรกเริ่มเดิมที เพราะเฮเลนาถูกส่งไปประจำการที่แนวหน้าการรบกับจักรวรรดิอัลเมดา ส่วนทิฟฟานีไปประจำการที่แนวหน้าการรบกับพันธมิตรสามอาณาจักร ก็เลยเหมือนเธอมีความอับเฉาสะสมอยู่ค่อนข้างมากแล้ว ในสภาวะปัจจุบันเช่นนี้ทิฟฟานีคงไม่ยอมแยกจากกันอีกครั้งเพื่อกลับไปแนวหน้าแน่ ๆ

หากว่ากันตามตรงแล้ว แม้เหล่าแปดยอดขุนศึกจะเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจแต่ในทางกลับกันก็เป็นแหล่งรวมของพวกนิสัยยุ่งยากด้วยเหมือนกัน

 

“มีเรื่องอื่นอีกไหม?”

 

“ค่ะ……เอ่อ พักหลังมานี้ข้าเริ่มจัดการฝึกอบรมในช่วงเช้าให้กับพระสนมคนอื่น ๆ ค่ะ”

 

“สนมคนอื่น ๆ ที่ว่า หมายถึงลูกสาวของเคานต์เรเวินสินะ”

 

“ค่ะ ฟรองซัวส์ก็ด้วย นอกจากนี้ยังมีบุตรีขุนนางที่ชื่อว่าคลาริสซา เออร์เนมันน์ด้วยค่ะ ไม่ทราบว่ารู้จักหรือเปล่าคะ?”

 

“ลูกสาวคนที่สามของเคานต์เออร์เนมันน์สินะ เราก็รู้จักแค่ข้อมูลในเอกสาร แต่ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมอบตำแหน่ง ‘ผู้ไพเราะ’ ให้ไว้ เธอสนิทสนมกับเจ้างั้นรึ?”

 

“ค่ะ เธอเป็นสหายของฟรองซัวส์มาอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นก็เลยมารับการฝึกร่วมกันน่ะค่ะ”

 

“อืม ก็คงไม่เป็นไรหรอก น่าจะช่วยแก้ปัญหาขาดการออกกำลังกายของเหล่าสนมได้พอดีล่ะนะ”

 

ฟาร์มาสพยักหน้ารับอย่างใจกว้าง

แม้วังหลังอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของฟาร์มาส แต่สำหรับอิสระเพียงเล็กน้อยเช่นการฝึกฝนร่างกายเขาก็คงยอมรับอยู่แล้ว แต่เดิมทีมันก็เป็นกิจกรรมในช่วงเช้าที่ฟาร์มาสไม่ได้มาเยือน ดังนั้นเธอจึงคิดว่าเขาไม่น่าจะตั้งข้อจำกัดอะไร

 

“อีกอย่าง ‘สนมฟ้าดารา’ คุณหนูมาริเอลก็มาเข้าร่วมด้วยค่ะ”

 

“…… ‘สนมฟ้าดารา’ น่ะรึ?”

 

ฟาร์มาสหรี่ตา

มันคือสายตาที่แสดงความเคลือบแคลง แต่เดิมทีเธอก็ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในงานเลี้ยงน้ำชาให้ฟาร์มาสฟังไปแล้ว ดังนันเขาจึงประเมินค่ามาริเอลไว้อย่างต่ำเตี้ยที่สุด

ในสภาวะเช่นนั้น หากมาริเอลมาเข้าร่วมการฝึกอบรมของเฮเลนาก็เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกสงสัย

 

“ข้าเองก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่อย่างน้อยที่สุดก็ดูไม่มีเจตนาร้ายต่อข้า ดังนั้นก็เลยให้เข้าร่วมฝึกด้วยน่ะค่ะ”

 

“……ฮืม แต่เท่าที่ฟังเรื่องราว คิดว่าเธอน่าจะเป็นศัตรูกับเฮเลนาอยู่นี่นา”

 

“ค่ะ แต่พักหลังมานี้เธอยอมคบหาด้วยอย่างค่อนข้างสนิทสนมทีเดียว ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมเรียกข้าว่า ‘ท่านพี่หญิง’ ก็เถอะ……อย่างเมื่อวันก่อน ข้าได้รับประทานหม้อไฟสี่คนกับฟรองซัวส์ คลาริสซา แล้วก็คุณหนูมาริเอลด้วย คุณหนูมาริเอลถึงขนาดยอมช่วยจัดเตรียมวัตถุดิบให้ทั้งหมดเลยค่ะ”

 

“……”

 

ฟาร์มาสนิ่งเงียบไป

เขาเอามือแตะคาง ดูเหมือนกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่

น่าเสียดายที่หัวสมองของเฮเลนาไม่ดีนักจึงไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่ามันมีอะไรให้ฟาร์มาสต้องกังวลขนาดนั้น

 

“……ฮืม”

 

“อ เอ่อ”

 

“เปล่าน่ะ ไม่ต้องใส่ใจหรอก เท่าที่ฟังดูก็เหมือนจะไม่มีเจตนาร้ายนะ ทว่าอย่าประมาทโดยเด็ดขาดล่ะ เจ้าคนนั้นน่ะ แม้ฐานันดรของตระกูลจะต่ำแต่ในด้านอำนาจการเงินแล้วไม่มีใครเทียบได้เลย”

 

“รับทราบแล้วค่ะ”

 

แม้จะเคยได้ยินเรื่องนี้จากอเลกเซียมาแล้วแต่ก็พยักหน้ารับไปก่อน

ถ้าแม้แต่ฟาร์มาสยังพูดเช่นนั้น แปลว่าอำนาจทางการเงินของตระกูลมาริเอลคงจะน่าเกรงขามโดยแท้ คงมีอำนาจทางการเงินเหนือล้ำซะจนแม้แต่ฟาร์มาสก็ไม่สามารถดูแคลนได้สินะ

ไม่เช่นนั้นแล้วมาริเอลก็คงไม่ได้รับการปฏิบัติในฐานะหนึ่งในสามสนมฟ้าซึ่งใกล้เคียงพระชายาเอกที่สุดเช่นนี้

 

“แต่ได้ยินแบบนี้ก็วางใจแล้วล่ะ ดูเหมือนจะไม่มีเรื่องเดือดร้อนอะไรเป็นพิเศษสินะ”

 

“เรื่องเดือดร้อน หรือคะ?”

 

“หวั่นใจอยู่ว่า ‘สนมฟ้าจันทรา’ อาจมายุ่มย่ามกับเจ้าหรือเปล่าน่ะ เจ้าคนนั้นเป็นอย่างไรบ้างล่ะ?”

 

“อืม……ก็ น่าจะกล่าวได้ว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษนะคะ”

 

“สนมฟ้าจันทรา” ชาร์ลอตเต เอียนส์เวิร์ธ

หากให้พูดตามตรง พักหลังมานี้เฮเลนาไม่ได้สนใจเธอเลยจนเกือบจะลืมตัวตนไปแล้ว

เธอเป็นเครือญาติของโนลด์ลุนด์ซึ่งเป็นศัตรูทางการเมืองกับแอนตันผู้เป็นบิดา ดังนั้นที่จริงแล้วเฮเลนาก็ควรต้องระมัดระวังเอาไว้ ทว่าก็คงต้องบอกว่าชาร์ลอตเตนั้นยังเป็นเด็กน้อยเกินไป

ทั้งที่หากดูจากอายุแล้วฟรองซัวส์ยังอายุน้อยกว่าอีกแท้ ๆ

 

ในตอนนี้ไม่มีเรื่องเดือดร้อนอะไรเป็นพิเศษ

แต่ว่าหากจะให้พูดสักเรื่องหนึ่งล่ะก็

 

“มีเรื่องที่ว่า ข้าได้รับการสั่งสอนเต้นรำจากท่านลูเครเซียมาค่ะ……ทว่ายังรู้สึกกังวลว่าจะเต้นได้ดีหรือไม่”

 

“อ่า จะว่าไปแล้วก็เห็นพูดว่าสอนให้แล้วเหมือนกัน”

 

“แค่สเต็ปพื้นฐานเท่านั้นคะ แต่ข้าก็ยังต้องฝึกซ้อมอยู่เลย ไม่รู้ว่าจะเต้นได้ดีก่อนถึงวันจริงหรือไม่……”

 

“อืม”

 

ในเรื่องการเต้นรำเธอเป็นมือสมัครเล่นโดยสมบูรณ์ คงได้แต่ต้องค่อย ๆ คลำทางไปเองเท่านั้น

อย่างไรเธอก็ได้รับการสั่งสอนการเคลื่อนไหวพื้นฐานมาแล้ว ที่เหลือขึ้นอยู่กับว่าเธอจะเคลื่อนไหวตามนั้นได้อย่างคล่องแคล่วแค่ไหน

 

ทว่าฟาร์มาสก็ปรบมือราวกับจะบอกว่ามีข้อเสนอดี ๆ

 

“ดีล่ะ เช่นนั้นลองมาเต้นรำกับเราดูตั้งแต่ตอนนี้เลยเป็นไง”

 

“เอ๋”

 

“ในวันจริงเมื่อไปออกงานราตรีเจ้าก็ต้องเต้นรำกับเราอยู่ดี ทดลองเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้ก็ไม่เลวใช่ไหม”

 

ฟาร์มาสลุกขึ้นยืน

มันก็จริงตามที่เขาพูด หากคิดถึงฐานะของเฮเลนาแล้วเธอก็คงไม่ได้เต้นรำกับใครอื่นอีกนอกจากฟาร์มาส ขืนไปเต้นรำกับชายอื่นอาจถูกมองว่าเป็นการคบชู้สู่ชายได้

ทว่า—ใจของเธอมันยังไม่พร้อมเลย

 

“ค คือว่า ต ตอนนี้เลยเนี่ย……”

 

“ลำบากใจอะไรรึ? ตอนนี้ที่ยังไม่ได้ดื่มสุราน่าจะเหมาะสมที่สุดไม่ใช่รึไง”

 

“ก ก็จริงอยู่นะคะ……แต่ว่า……”

 

หากเป็นการฝึกสเต็ปคนเดียว เธอเริ่มทำได้ดีพอสมควรแล้ว

ทว่าก็ต้องเน้นว่า หากทำเองคนเดียวเท่านั้น

ถ้าต้องเพิ่มคู่เต้นรำเข้าไปอีก แค่คิดก็ทำให้เธอรู้สึกเกร็งขึ้นมาแล้ว

 

“เอ้า เฮเลนาเอ๋ย ยืนขึ้นสิ”

 

“อุ……ค่ะ”

 

เฮเลนายืนขึ้นตามคำของฟาร์มาสอย่างเลี่ยงไม่ได้

จากนั้นเธอก็จับมือขวาของฟาร์มาสที่ยื่นมาให้ และลดระยะห่างเข้าหากันและกันอย่างเชื่องช้า

เมื่อใกล้จนแทบจะหายใจรดกัน มือซ้ายของฟาร์มาสก็เลื่อนมายังเอวของเฮเลนา

 

“……หืม”

 

“ม มีอะไรหรือคะ?”

 

“เปล่าหรอก โทษทีนะ เราแค่คิดมาสักพักแล้วน่ะ”

 

และพร้อมกับลมหายใจร้อนผ่าวที่ข้างหูของเธอ

ฟาร์มาสก็ได้กล่าวว่า

 

“เฮเลนาเนี่ย ผอมเพรียวมากเลยนะ”

 

คำพูดนั้น ได้ทำให้หัวใจของเฮเลนาตื่นเต้นยินดีอย่างห้ามไว้ไม่อยู่

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 71: การเสด็จมาเยือนหลังไม่ได้พบเสียนาน

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 71: การเสด็จมาเยือนหลังไม่ได้พบเสียนาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

สรุปแล้วการฝึกก็จบลงทั้งแบบนั้น แล้วเฮเลนาก็กลับห้องรับประทานอาหารกลางวันจากนั้นก็เริ่มฝึกในส่วนของตนเอง ทั้งฟรองซัวส์ คลาริซา และมาริเอลต่างก็ยังมีแรงกายน้อย แค่ฝึกฝนช่วงเช้าก็หมดแรงไปตาม ๆ กันแล้ว

ในระหว่างที่กำลังสร้างเสริมแรงกายอยู่นี้หากให้ฝืนเกินตัวอาจนำไปสู่การบาดเจ็บได้ ดังนั้นจนกว่าทั้งสามจะมีแรงกายเพรียบพร้อมในระดับหนึ่ง เธอจึงให้ฝึกแค่เฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น

ช่วยบ่ายเฮเลนาก็ต้องฝึกในส่วนของตนเองด้วย ดังนั้นตอนนี้คงสภาวะปัจจุบันไว้ก่อนน่าจะดี

 

และนอกจากวิดพื้น ซิตอัป สควอตที่เป็นการฝึกร่างกายประจำวันอยู่แล้ว เธอยังฝึกเสต็ปการเต้นรำพื้นฐานที่ลูเครเซียสอนมาให้อีก อย่างน้อยที่สุดก็ได้รับคำยืนยันมาแล้ว ว่าขอแค่เธอเต้นตามสเต็ปพื้นฐานนี้ได้อย่างแน่นอนก็สามารถไปออกงานไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีได้โดยไม่มีปัญหา

ที่เหลือก็แค่ให้ลูเครเซียช่วยตรวจสอบดูอีกครั้งก่อนวันงานจริง เท่านั้นก็เป็นอันเสร็จสิ้น

แม้จะรู้สึกหงุดหงิดที่ขาขยับไม่ได้ดังใจแต่เธอก็พยายามจดจำเสต็ปเอาไว้ อะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยตลอดเวลายี่สิบแปดปี จู่ ๆ จะมาบอกให้จำในทันทีมันก็เป็นไปไม่ได้ มีแต่ต้องทำซ้ำไปมาหลายครั้งเพื่อให้ร่างกายจดจำเท่านั้น

เธอย้อนนึกถึงคำสอนของลูเครเซียพลางพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะเต้นโดยไม่มองเท้า ปล่อยร่างกายให้ไหลไปตามกระแส ย่ำเท้าไปเรื่อย ๆ

 

ระหว่างที่ทำอยู่เช่นนั้น อาหารเย็นก็มาถึง

และหลังจากนั้น—ฟาร์มาสก็มาเยือนจนได้

 

“ไม่พบกันเสียนานนะ สนมฟ้าสุริยาของเรา”

 

“ยากลำบากหน่อยนะคะท่านฟาร์มาส”

 

ฟาร์มาสที่มาคู่กับเกรเดียเหมือนทุกครั้งรีบสั่งให้เกรเดียกลับไปและให้อเลกเซียออกจากห้อง จากนั้นก็นั่งลงตรงหน้าเฮเลนา

ไม่ได้พบหน้ากันแค่ไม่กี่วันแท้ ๆ แต่มันกลับรู้สึกว่านานมากทีเดียว

 

“เอ่อ……ว่าไงดีนะ มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างไหม”

 

“ก็มีหลาย ๆ เรื่องนะคะ……”

 

“โฮ่ เราเองก็มีธุระนิดหน่อยเลยมาไม่ได้น่ะ ตอนที่เราไม่มามีอะไรเกิดขึ้นงั้นรึ?”

 

“ค่ะ เอ่อ……”

 

มีอะไรมากมายเกินไปจนไม่รู้จะเริ่มอธิบายจากเรื่องไหนก่อนดี

ที่เขามาครั้งก่อนมันคือเมื่อไหร่กันหว่า

จะว่าไป ก็น่าจะไม่ได้มาตั้งแต่ที่เธอเริ่มฝึกช่วงเช้าร่วมกับฟรองซัวส์ ซึ่งก็คือตั้งแต่วันนั้นที่เฮเลนาได้เจอกับทิฟฟานีหลังจากไม่ได้เจอมานานในสวนระหว่างอาคารนั่นเอง

 

“ข้าไม่ได้ยินจากท่านฟาร์มาสมาก่อนก็เลยตกใจค่ะ ไม่นึกมาก่อนเลยว่า ‘ขุนศึกหมาป่าเงิน’ ทิฟฟานีจะมารักษาความปลอดภัยในวังหลังด้วยตัวเองเช่นนี้”

 

“อ่า……เจ้าคนนั้นสินะ”

 

ฟาร์มาสเกาผมเหมือนเหนื่อยใจเล็กน้อย

แล้วพร้อมกันนั้นก็ถอนใจเบา ๆ

 

“เราบอกไปแค่ว่าให้ส่งหนึ่งกองร้อยจากกองอัศวินหมาป่าเงินมาเพื่อรักษาความปลอดภัยในวังหลัง คงจะคิดผิดไปหน่อยที่ให้ทางนั้นคัดเลือกคนมาเองล่ะมั้ง ไม่นึกมาก่อนว่าทิฟฟานี รีดจะนำกำลังพลมาด้วยตนเองแบบนี้น่ะ”

 

“……ใครจะไปนึกว่าแปดยอดขุนศึกจะมาด้วยตัวเองสินะคะ”

 

“ดูเหมือนแนวหน้าการรบจะวุ่นวายอยู่นิดหน่อยเพราะอยู่ในสภาวะที่มีเพียงแค่ ‘ขุนศึกวิหคดำ’ ปกป้องมุมหนึ่งของแนวหน้าระหว่างพันธมิตรสามอาณาจักรอยู่ สำหรับเราแล้วก็อยากให้ ‘ขุนศึกหมาป่าเงิน’ กลับไปแนวหน้าโดยเร็ว แต่เจ้าตัวดันไม่ยอมตอบตกลงโดยง่ายนี่สิ”

 

“อ่า……”

 

ทิฟฟานีที่ยึดถือเฮเลนาสำคัญที่สุดคงจะไม่ยอมพยักหน้ารับโดยง่ายเป็นแน่

แต่แรกเริ่มเดิมที เพราะเฮเลนาถูกส่งไปประจำการที่แนวหน้าการรบกับจักรวรรดิอัลเมดา ส่วนทิฟฟานีไปประจำการที่แนวหน้าการรบกับพันธมิตรสามอาณาจักร ก็เลยเหมือนเธอมีความอับเฉาสะสมอยู่ค่อนข้างมากแล้ว ในสภาวะปัจจุบันเช่นนี้ทิฟฟานีคงไม่ยอมแยกจากกันอีกครั้งเพื่อกลับไปแนวหน้าแน่ ๆ

หากว่ากันตามตรงแล้ว แม้เหล่าแปดยอดขุนศึกจะเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจแต่ในทางกลับกันก็เป็นแหล่งรวมของพวกนิสัยยุ่งยากด้วยเหมือนกัน

 

“มีเรื่องอื่นอีกไหม?”

 

“ค่ะ……เอ่อ พักหลังมานี้ข้าเริ่มจัดการฝึกอบรมในช่วงเช้าให้กับพระสนมคนอื่น ๆ ค่ะ”

 

“สนมคนอื่น ๆ ที่ว่า หมายถึงลูกสาวของเคานต์เรเวินสินะ”

 

“ค่ะ ฟรองซัวส์ก็ด้วย นอกจากนี้ยังมีบุตรีขุนนางที่ชื่อว่าคลาริสซา เออร์เนมันน์ด้วยค่ะ ไม่ทราบว่ารู้จักหรือเปล่าคะ?”

 

“ลูกสาวคนที่สามของเคานต์เออร์เนมันน์สินะ เราก็รู้จักแค่ข้อมูลในเอกสาร แต่ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมอบตำแหน่ง ‘ผู้ไพเราะ’ ให้ไว้ เธอสนิทสนมกับเจ้างั้นรึ?”

 

“ค่ะ เธอเป็นสหายของฟรองซัวส์มาอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นก็เลยมารับการฝึกร่วมกันน่ะค่ะ”

 

“อืม ก็คงไม่เป็นไรหรอก น่าจะช่วยแก้ปัญหาขาดการออกกำลังกายของเหล่าสนมได้พอดีล่ะนะ”

 

ฟาร์มาสพยักหน้ารับอย่างใจกว้าง

แม้วังหลังอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของฟาร์มาส แต่สำหรับอิสระเพียงเล็กน้อยเช่นการฝึกฝนร่างกายเขาก็คงยอมรับอยู่แล้ว แต่เดิมทีมันก็เป็นกิจกรรมในช่วงเช้าที่ฟาร์มาสไม่ได้มาเยือน ดังนั้นเธอจึงคิดว่าเขาไม่น่าจะตั้งข้อจำกัดอะไร

 

“อีกอย่าง ‘สนมฟ้าดารา’ คุณหนูมาริเอลก็มาเข้าร่วมด้วยค่ะ”

 

“…… ‘สนมฟ้าดารา’ น่ะรึ?”

 

ฟาร์มาสหรี่ตา

มันคือสายตาที่แสดงความเคลือบแคลง แต่เดิมทีเธอก็ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในงานเลี้ยงน้ำชาให้ฟาร์มาสฟังไปแล้ว ดังนันเขาจึงประเมินค่ามาริเอลไว้อย่างต่ำเตี้ยที่สุด

ในสภาวะเช่นนั้น หากมาริเอลมาเข้าร่วมการฝึกอบรมของเฮเลนาก็เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกสงสัย

 

“ข้าเองก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่อย่างน้อยที่สุดก็ดูไม่มีเจตนาร้ายต่อข้า ดังนั้นก็เลยให้เข้าร่วมฝึกด้วยน่ะค่ะ”

 

“……ฮืม แต่เท่าที่ฟังเรื่องราว คิดว่าเธอน่าจะเป็นศัตรูกับเฮเลนาอยู่นี่นา”

 

“ค่ะ แต่พักหลังมานี้เธอยอมคบหาด้วยอย่างค่อนข้างสนิทสนมทีเดียว ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมเรียกข้าว่า ‘ท่านพี่หญิง’ ก็เถอะ……อย่างเมื่อวันก่อน ข้าได้รับประทานหม้อไฟสี่คนกับฟรองซัวส์ คลาริสซา แล้วก็คุณหนูมาริเอลด้วย คุณหนูมาริเอลถึงขนาดยอมช่วยจัดเตรียมวัตถุดิบให้ทั้งหมดเลยค่ะ”

 

“……”

 

ฟาร์มาสนิ่งเงียบไป

เขาเอามือแตะคาง ดูเหมือนกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่

น่าเสียดายที่หัวสมองของเฮเลนาไม่ดีนักจึงไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่ามันมีอะไรให้ฟาร์มาสต้องกังวลขนาดนั้น

 

“……ฮืม”

 

“อ เอ่อ”

 

“เปล่าน่ะ ไม่ต้องใส่ใจหรอก เท่าที่ฟังดูก็เหมือนจะไม่มีเจตนาร้ายนะ ทว่าอย่าประมาทโดยเด็ดขาดล่ะ เจ้าคนนั้นน่ะ แม้ฐานันดรของตระกูลจะต่ำแต่ในด้านอำนาจการเงินแล้วไม่มีใครเทียบได้เลย”

 

“รับทราบแล้วค่ะ”

 

แม้จะเคยได้ยินเรื่องนี้จากอเลกเซียมาแล้วแต่ก็พยักหน้ารับไปก่อน

ถ้าแม้แต่ฟาร์มาสยังพูดเช่นนั้น แปลว่าอำนาจทางการเงินของตระกูลมาริเอลคงจะน่าเกรงขามโดยแท้ คงมีอำนาจทางการเงินเหนือล้ำซะจนแม้แต่ฟาร์มาสก็ไม่สามารถดูแคลนได้สินะ

ไม่เช่นนั้นแล้วมาริเอลก็คงไม่ได้รับการปฏิบัติในฐานะหนึ่งในสามสนมฟ้าซึ่งใกล้เคียงพระชายาเอกที่สุดเช่นนี้

 

“แต่ได้ยินแบบนี้ก็วางใจแล้วล่ะ ดูเหมือนจะไม่มีเรื่องเดือดร้อนอะไรเป็นพิเศษสินะ”

 

“เรื่องเดือดร้อน หรือคะ?”

 

“หวั่นใจอยู่ว่า ‘สนมฟ้าจันทรา’ อาจมายุ่มย่ามกับเจ้าหรือเปล่าน่ะ เจ้าคนนั้นเป็นอย่างไรบ้างล่ะ?”

 

“อืม……ก็ น่าจะกล่าวได้ว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษนะคะ”

 

“สนมฟ้าจันทรา” ชาร์ลอตเต เอียนส์เวิร์ธ

หากให้พูดตามตรง พักหลังมานี้เฮเลนาไม่ได้สนใจเธอเลยจนเกือบจะลืมตัวตนไปแล้ว

เธอเป็นเครือญาติของโนลด์ลุนด์ซึ่งเป็นศัตรูทางการเมืองกับแอนตันผู้เป็นบิดา ดังนั้นที่จริงแล้วเฮเลนาก็ควรต้องระมัดระวังเอาไว้ ทว่าก็คงต้องบอกว่าชาร์ลอตเตนั้นยังเป็นเด็กน้อยเกินไป

ทั้งที่หากดูจากอายุแล้วฟรองซัวส์ยังอายุน้อยกว่าอีกแท้ ๆ

 

ในตอนนี้ไม่มีเรื่องเดือดร้อนอะไรเป็นพิเศษ

แต่ว่าหากจะให้พูดสักเรื่องหนึ่งล่ะก็

 

“มีเรื่องที่ว่า ข้าได้รับการสั่งสอนเต้นรำจากท่านลูเครเซียมาค่ะ……ทว่ายังรู้สึกกังวลว่าจะเต้นได้ดีหรือไม่”

 

“อ่า จะว่าไปแล้วก็เห็นพูดว่าสอนให้แล้วเหมือนกัน”

 

“แค่สเต็ปพื้นฐานเท่านั้นคะ แต่ข้าก็ยังต้องฝึกซ้อมอยู่เลย ไม่รู้ว่าจะเต้นได้ดีก่อนถึงวันจริงหรือไม่……”

 

“อืม”

 

ในเรื่องการเต้นรำเธอเป็นมือสมัครเล่นโดยสมบูรณ์ คงได้แต่ต้องค่อย ๆ คลำทางไปเองเท่านั้น

อย่างไรเธอก็ได้รับการสั่งสอนการเคลื่อนไหวพื้นฐานมาแล้ว ที่เหลือขึ้นอยู่กับว่าเธอจะเคลื่อนไหวตามนั้นได้อย่างคล่องแคล่วแค่ไหน

 

ทว่าฟาร์มาสก็ปรบมือราวกับจะบอกว่ามีข้อเสนอดี ๆ

 

“ดีล่ะ เช่นนั้นลองมาเต้นรำกับเราดูตั้งแต่ตอนนี้เลยเป็นไง”

 

“เอ๋”

 

“ในวันจริงเมื่อไปออกงานราตรีเจ้าก็ต้องเต้นรำกับเราอยู่ดี ทดลองเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้ก็ไม่เลวใช่ไหม”

 

ฟาร์มาสลุกขึ้นยืน

มันก็จริงตามที่เขาพูด หากคิดถึงฐานะของเฮเลนาแล้วเธอก็คงไม่ได้เต้นรำกับใครอื่นอีกนอกจากฟาร์มาส ขืนไปเต้นรำกับชายอื่นอาจถูกมองว่าเป็นการคบชู้สู่ชายได้

ทว่า—ใจของเธอมันยังไม่พร้อมเลย

 

“ค คือว่า ต ตอนนี้เลยเนี่ย……”

 

“ลำบากใจอะไรรึ? ตอนนี้ที่ยังไม่ได้ดื่มสุราน่าจะเหมาะสมที่สุดไม่ใช่รึไง”

 

“ก ก็จริงอยู่นะคะ……แต่ว่า……”

 

หากเป็นการฝึกสเต็ปคนเดียว เธอเริ่มทำได้ดีพอสมควรแล้ว

ทว่าก็ต้องเน้นว่า หากทำเองคนเดียวเท่านั้น

ถ้าต้องเพิ่มคู่เต้นรำเข้าไปอีก แค่คิดก็ทำให้เธอรู้สึกเกร็งขึ้นมาแล้ว

 

“เอ้า เฮเลนาเอ๋ย ยืนขึ้นสิ”

 

“อุ……ค่ะ”

 

เฮเลนายืนขึ้นตามคำของฟาร์มาสอย่างเลี่ยงไม่ได้

จากนั้นเธอก็จับมือขวาของฟาร์มาสที่ยื่นมาให้ และลดระยะห่างเข้าหากันและกันอย่างเชื่องช้า

เมื่อใกล้จนแทบจะหายใจรดกัน มือซ้ายของฟาร์มาสก็เลื่อนมายังเอวของเฮเลนา

 

“……หืม”

 

“ม มีอะไรหรือคะ?”

 

“เปล่าหรอก โทษทีนะ เราแค่คิดมาสักพักแล้วน่ะ”

 

และพร้อมกับลมหายใจร้อนผ่าวที่ข้างหูของเธอ

ฟาร์มาสก็ได้กล่าวว่า

 

“เฮเลนาเนี่ย ผอมเพรียวมากเลยนะ”

 

คำพูดนั้น ได้ทำให้หัวใจของเฮเลนาตื่นเต้นยินดีอย่างห้ามไว้ไม่อยู่

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+