(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 118

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 118 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

“เอาล่ะ ทุกคน ก่อนอื่นข้าจะอธิบายให้ฟัง”

 

เฮเลนากล่าวกับทั้งห้าคนที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้าเธอ

แน่นอนว่าระหว่างพูดไปก็เอาพัดกระดาษในมือขวาฟาดลงไปบนมือซ้ายของตนเองไปพลางเพื่อส่งเสียงข่มขวัญไปด้วย แม้จะเป็นอาวุธที่ไม่มีฤทธิ์สังหารอันใด แต่แค่ได้เห็นว่ามีอาวุธอยู่ตรงนั้นก็สามารถสร้างความหวาดกลัวได้ไม่น้อยแล้ว

และเมื่อตอนนี้เฮเลนาอยู่ในจุดยืนที่ต้องฝึกพวกเธอทุกคน ย่อมไม่สามารถปล่อยให้มีความเหลาะแหละได้แม้แต่น้อย

 

“อันดับแรก อย่าเปิดปากนอกจากเวลาที่ข้าสั่ง หากอยากจะกล่าวอะไรก็ให้ขออนุญาตข้าก่อน”

 

“หา!”

 

“ข้ายังไม่ได้อนุญาตให้พูดเลยนะ แองเจลิกา ถ้าเปิดปากโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกครั้งจะเอาไอ้นี่ยัดปากซะ”

 

เธอเหลือบตาเขม่นแองเจลิกา

เมื่อได้เห็นท่าทีที่ผิดแผกไปจากทุกทีของเฮเลนา กลุ่มที่ได้รับการฝึกอบรมอยู่แล้วอย่างฟรองซัวส์ คลาริสซา หรือมาริเอลก็พากันตัวสั่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนชาร์ลอตเตแม้จะมีสีหน้าไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา

 

“แม้ข้าจะเข้มงวดแต่ก็ยุติธรรม พวกเจ้าทุกคนแต่ละคนก็คงมีสิ่งที่ตนเองภูมิใจ อย่างเช่นสายเลือดของตระกูลที่เกิดมา ตำแหน่งในวังหลัง หรืออำนาจทางการเงินของที่บ้านอยู่กระมัง ทว่าของพรรค์นั้นน่ะ มันล้วนแล้วแต่ไร้คุณค่า”

 

รับรู้ได้ว่าแองเจลิกาขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำว่า ‘ไร้คุณค่า’

ถ้อยคำของเฮเลนานั้นดูแคลนแม้กระทั่งเลือดขัตติยะ ทว่าในสถานที่แห่งนี้เธอได้รับอนุญาตละเว้นจากโทษหมิ่นเบื้องสูงทั้งหมดแล้ว

และดูเหมือนแองเจลิกาเองก็ก็ไม่ได้โง่งมขนาดที่จะเปล่งวาจาออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกครั้ง อาจเป็นเพราะได้เรียนรู้จากครั้งที่แล้วไปแล้วกระมัง

 

“บุตรีเคานต์”

 

บุตรีแห่งเคานต์เรเวิน ฟรองซัวส์

บุตรีแห่งเคานต์อาเนมันน์ คลาริสซา

บุตรีแห่งเคานต์เอียนสเวิร์ธ ชาร์ลอตเต

 

“บุตรสาวของบริษัทการค้าใหญ่”

 

บุตรสาวของบริษัทการค้าแอน-มาโลว์ มาริเอล

 

“เชื้อพระวงศ์”

 

น้องสาวของฟาร์มาสจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน แองเจลิกา

 

“แม้ฐานะจุดยืนจะแตกต่างกันไป แต่มีใครในพวกเจ้าไหมที่เลือดในกายไม่เป็นสีแดง มีใครไหมที่ถูกแทงหัวใจแล้วไม่ตาย ถ้ามีก็ขอให้ก้าวออกมาข้างหน้าซะ”

 

เธอจ้องกวาดตั้งแต่คนแรกจนคนสุดท้าย

ทว่าก็เป็นที่แน่นอนว่าไม่มีใครที่ก้าวออกมาข้างหน้าแม้แต่คนเดียว

 

“เช่นนั้นชีวิตของพวกเจ้าก็มีค่าเท่ากัน จากนี้ไปขอห้ามไม่ให้ใช้ฐานะหรือสายเลือดของตัวเองเพื่อข่มตนเหนือผู้อื่น เข้าใจไหม แองเจลิกา”

 

“……”

 

“ตอบมา”

 

“อ อะไรกันล่ะ……”

 

‘ฮึ่ม’ แองเจลิกาแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนไม่ปิดบัง

แน่นอน เฮเลนาเองก็ไม่คิดสักนิดอยู่แล้วว่าเพียงคำพูดแค่นี้มันจะทำให้เธอเข้าใจยอมรับอะไรได้

สุดท้ายแล้ว หลักสูตรการฝึกทหารใหม่มันก็คือการทำให้จดจำด้วยร่างกายนั่นเอง

 

“บอกว่าให้ตอบ”

 

“ย อย่ามาสั่งดิฉันนะ!”

 

“ตอบมาซะ”

 

‘ป้าบ’ เธอฟาดไปที่ศีรษะด้านข้างของแองเจลิกา

แม้มันจะเป็นอาวุธที่ฟาดด้านบนแล้วไม่เจ็บเลยสักนิด แต่ถ้าโดนฟาดจากด้านข้างมันก็เจ็บพอสมควร

แองเจลิกามองเฮเลนาพลางจับตรงที่ถูกฟาดด้วยสายตาเหมือนไม่อยากจะเชื่อ

 

“เข้าใจไหม แองเจิลกา”

 

“ข ข……เข้าใจแล้ว ค่ะ……”

 

“เสียงเบาไป!”

 

ได้ยินแองเจิลกาบอกออกมาด้วยเสียงเบาเหมือนยุงเช่นนั้น เฮเลนาจึงตะคอกกลับไป

การฝึกทหารใหม่ ขั้นตอนที่หนึ่ง

นั่นก็คือ—การฝึกให้รู้จักใช้เสียงนั่นเอง

 

“เสียงเบากว่ายุงบินแบบนั้นใครจะไปได้ยิน! เปล่งเสียงออกมาจากท้อง!”

 

“ข เข้าใจ แล้วค่ะ!!”

 

“นั่นสุดแรงแล้วเรอะ! หมาแก่ ๆ ยังเห่าดังกว่าเลย! เปล่งเสียงออกมาจากท้องให้มากกว่านี้!”

 

“เข้าใจแล้วค่า—!!”

 

“ดี!”

 

‘แฮ่ก ๆ’ แองเจลิกาหายใจอย่างโล่งอกแม้จะยังสับสนอยู่บ้างกับสถานการณ์ยากจะยอมรับที่ต้องเปล่งเสียงให้สุดแรง

แน่นอนว่ามันไม่ได้จบเพียงแค่นี้

 

“บอกชื่อของเจ้ามาซะ!”

 

“อ แองเจลิกา ดีล……”

 

“ยาวไป! ไม่เอาสายเลือดกำเนิด! ตอบมาว่าเจ้าเป็นใคร!”

 

“อ อะ แองเจลิกา!”

 

“ต้องให้บอกกี่ครั้งว่าส่งเสียงมาจากท้องฮึ! คิดว่าตัวเองเป็นนกน้อยกำลังร้องเพลงรึไง!”

 

“แองเจลิกา—!!”

 

“คนต่อไป!”

 

เฮเลนาถอนสายตาจากแองเจลิกา แล้วมองไปยังฟรองซัวส์ซึ่งยืนอยู่ถัดมา

ฝ่ายฟรองซัวส์แม้คงจะสับสนอยู่เล็กน้อยทำให้สีหน้าดูเกร็ง ๆ แต่ก็จ้องมองกลับมาที่เฮเลนาตรง ๆ แบบตาไม่กระพริบ

 

“บอกชื่อมา!”

 

“ฟรองซัวส์ค่ะ!!”

 

“ใครคือคนที่เจ้ารัก!”

 

“ข้ารัก ‘ขุนศึกหมีน้ำเงิน’ ท่านบาร์โตเม เบอร์การ์ซาร์ดค่ะ!!”

 

“เช่นนั้นก็จงตะโกนแสดงความรักนั้นออกมาตรงนี้ซะ!”

 

“ท่านบาร์โตโลเม—!! รักนะค้า—!!”

 

“ดี!!”

 

สำหรับฟรองซัวส์ที่เป็นคนเสียงดังอยู่เสมอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร การฝึกนี้คงไม่จำเป็นกระมัง

ทว่าพวกคนที่เหลือนั้นไม่ใช่

ในอีกสามคนที่เหลือ—คนที่กำลังสั่นด้วยความกลัวมากที่สุดก็คือคลาริสซา

 

“บอกชื่อมา!”

 

“ฮิย์! ค คลาริสซาค่ะ!”

 

“เสียงเบาไป! เป็นเด็กเล่นขายของรึไง!”

 

“คลาริสซาค่ะ!!”

 

“เปล่งเสียงออกมาจากท้องอีกที!”

 

“คลาริสซา!! ค่า—!!”

 

แม้จะสั่นกลัวไปด้วยแต่ก็ส่งเสียงออกมาได้อย่างดี

ตัวของคลาริสซานั้น ถึงเธอจะกลัว ๆ แต่ก็ขอมาเข้าร่วมด้วยความสมัครใจของตนเอง และในเมื่อเฮเลนาได้บอกไปแล้วว่ามันจะเป็นการฝึกที่เข้มงวดยิ่งกว่าเดิม มันก็ไม่ควรมีความลังเลกันอีก

 

“ใครคือคนที่เจ้ารัก!”

 

“เอ๋……อ เอ่อ เรื่องนั้น……”

 

“ตอบมา!”

 

“ข้าเป็นแฟนตัวยงของแม่ทัพริกฮาร์ด เรลโน้ต!! ‘ขุนศึกวิหคดำ’ ค่ะ!!”

 

เอาจริงดิ

เมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลยแม้แต่น้อย เฮเลนาก็อดไม่ได้ที่ขมวดคิ้ว ไอ้ผู้ชายโคตรซิสค่อนนั่นมันมีดีตรงไหนกันนะ

‘ฉ่า—’ คลาริสซาแก้มขึ้นสีแดงเรื่อ

เจอคำพูดที่คาดไม่ถึงเข้าไป เฮเลนาเองก็ไม่รู้จะว่ายังไงดีเหมือนกัน แต่อย่างไรตอนนี้ก็คือระหว่างการฝึกอยู่

เอาไว้หลังจากผ่านหนึ่งเดือนนี้ไป เมื่อการฝึกจบแล้วเธอจะขอฟังรายละเอียดเพิ่มเติมก็แล้วกัน บางทีอาจจะกลายมาเป็นเจ้าสาวของพี่ชายได้ก็เป็นได้

 

“ชอบขนาดไหน!”

 

“มีภาพเหมือนอยู่ห้าใบ!! ประดับไว้ที่ห้องค่ะ!!”

 

“คราวหน้าเอาให้ดูด้วย!”

 

“ค่ะ!!”

 

“ดี!!”

 

ครึ่งหลังนั้นคือความสนใจของเฮเลนาล้วน ๆ แต่ตอนนี้เอาเป็นว่าไปที่คนต่อไปก่อนแล้วกัน

คราวนี้คนที่อยู่ถัดมา—ก็คือชาร์ลอตเตที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตลอดตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

 

“บอกชื่อมา!”

 

“ช ชาร์ลอตเตเจ้าค่ะ!”

 

“เสียงเบาไป! ไม่ได้ยินที่บอกรึไง! บอกให้เปล่งเสียงออกมาจากท้อง!”

 

“ชาร์ลอตเตเจ้าค่ะ!!”

 

“ถ้าหูมันฟังไม่รู้เรื่องงั้นเฉือนทิ้งซะดีไหม! อีกที!”

 

“ชาร์ลอตเตเจ้าค่ะ!!!”

 

แม้จะหอบ ‘แฮ่ก แฮ่ก’ ไปด้วย ทว่าเธอก็ขานชื่อออกมาได้ดี

นึกว่าจะทำตัวต่อต้าน แต่ดูเหมือนจะมีความตั้งใจผิดคาดแฮะ นับว่าคาดการณ์ผิดไปเหมือนกัน

 

“ใครคือคนที่เจ้ารัก!”

 

“ไม่มีใครทั้งนั้นเจ้าค่ะ!!”

 

“อย่ามาโกหก! เดี๋ยวก็เอาไอ้นี่ยัดก้นซะหรอก!”

 

“อออุ……ม ไม่อยากพูดเจ้าค่ะ!”

 

“พูดมา!!”

 

“ด ดิฉัน!!”

 

ชาร์ลอตเตแม้แก้มจะขึ้นสีแดง แต่ก็ยังกัดฟันไม่ยอมพูดมันออกมา

เป็นใครที่พูดถึงไม่ได้ถึงขนาดนั้นเชียวรึ

ทว่าขนาดคลาริสซาเธอก็สั่งให้ทำไปแล้ว จะให้ละเว้นแค่ชาร์ลอตเตมันก็ไม่ได้หรอก

 

“ดีล่ะ! หันก้นมา! จะยัดเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ!”

 

“จ จะพูดแล้วเจ้าค่ะ!!”

 

“ใคร!”

 

“ฝ่าบาทฟาร์มาสเจ้าค่ะ!!”

 

“ชอบที่ตรงไหน!”

 

“เพราะเท่ดีเจ้าค่ะ!!”

 

“งั้นก็ตะโกนออกมาว่ารักซะ!”

 

“รักเจ้าค่ะ!! ทำไมถึงไม่ยอมมาเยือนดิฉันเลยเจ้าคะ!! ฝ่าบาท—!!”

 

“……ดี!!”

 

รู้สึกซับซ้อนแบบแปลก ๆ

แน่นอนว่าความรู้สึกของชาร์ลอตเตนั้นคือสิ่งที่ถูกต้องแล้วสำหรับนางสนม แต่เดิมทีการที่พวกเธอได้รับการเรียกตัวมารวมกันในวังหลังแห่งนี้ ทั้งหมดก็เพื่อฟาร์มาสนั่นเอง

ฟรองซัวส์ซึ่งทั้งที่เป็นแบบนั้นแต่ก็ยังประกาศอย่างเปิดเผยว่าชอบบาร์โตโลเมต่างหากที่ประหลาด

 

จากนั้น เฮเลนาก็เบนสายตาไปยังคนถัดไป

ฟรองซัวส์ที่ขึงขัง คลาริสซาที่สั่นกลัว ชาร์ลอตเตที่แสดงความไม่พอใจอย่างไม่ปิดบัง

แล้วก็คนที่แตกต่างจากที่กล่าวมาทั้งหมด

 

มาริเอลนั้น กำลังยิ้ม

 

“บอกชื่อมา!”

 

“มาริเอลค่ะ!!”

 

“มุ……”

 

นี่ครั้งแรก แต่ระดับเสียงมันกลับดังกว่าที่คิดไว้

ดูคร่าว ๆ แล้วมีความตั้งใจทำกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัวเลยกระมัง นึกว่านอกจากฟรองซัวส์แล้วจะไม่มีใครอยากทำกันซะอีก

 

“ใครคือคนที่เจ้ารัก!”

 

“อิฉัน!! รัก!! ท่านพี่หญิงเฮเลนา เรลโนตค่ะ!!”

 

……

……

……

 

“……เอ๋?”

 

เพราะเป็นคำพูดที่คาดไม่ถึงจนเกินไป แม้แต่เฮเลนาเองก็พูดอะไรไม่ออกไปด้วยเช่นกัน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 118

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 118 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

“เอาล่ะ ทุกคน ก่อนอื่นข้าจะอธิบายให้ฟัง”

 

เฮเลนากล่าวกับทั้งห้าคนที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้าเธอ

แน่นอนว่าระหว่างพูดไปก็เอาพัดกระดาษในมือขวาฟาดลงไปบนมือซ้ายของตนเองไปพลางเพื่อส่งเสียงข่มขวัญไปด้วย แม้จะเป็นอาวุธที่ไม่มีฤทธิ์สังหารอันใด แต่แค่ได้เห็นว่ามีอาวุธอยู่ตรงนั้นก็สามารถสร้างความหวาดกลัวได้ไม่น้อยแล้ว

และเมื่อตอนนี้เฮเลนาอยู่ในจุดยืนที่ต้องฝึกพวกเธอทุกคน ย่อมไม่สามารถปล่อยให้มีความเหลาะแหละได้แม้แต่น้อย

 

“อันดับแรก อย่าเปิดปากนอกจากเวลาที่ข้าสั่ง หากอยากจะกล่าวอะไรก็ให้ขออนุญาตข้าก่อน”

 

“หา!”

 

“ข้ายังไม่ได้อนุญาตให้พูดเลยนะ แองเจลิกา ถ้าเปิดปากโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกครั้งจะเอาไอ้นี่ยัดปากซะ”

 

เธอเหลือบตาเขม่นแองเจลิกา

เมื่อได้เห็นท่าทีที่ผิดแผกไปจากทุกทีของเฮเลนา กลุ่มที่ได้รับการฝึกอบรมอยู่แล้วอย่างฟรองซัวส์ คลาริสซา หรือมาริเอลก็พากันตัวสั่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนชาร์ลอตเตแม้จะมีสีหน้าไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา

 

“แม้ข้าจะเข้มงวดแต่ก็ยุติธรรม พวกเจ้าทุกคนแต่ละคนก็คงมีสิ่งที่ตนเองภูมิใจ อย่างเช่นสายเลือดของตระกูลที่เกิดมา ตำแหน่งในวังหลัง หรืออำนาจทางการเงินของที่บ้านอยู่กระมัง ทว่าของพรรค์นั้นน่ะ มันล้วนแล้วแต่ไร้คุณค่า”

 

รับรู้ได้ว่าแองเจลิกาขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำว่า ‘ไร้คุณค่า’

ถ้อยคำของเฮเลนานั้นดูแคลนแม้กระทั่งเลือดขัตติยะ ทว่าในสถานที่แห่งนี้เธอได้รับอนุญาตละเว้นจากโทษหมิ่นเบื้องสูงทั้งหมดแล้ว

และดูเหมือนแองเจลิกาเองก็ก็ไม่ได้โง่งมขนาดที่จะเปล่งวาจาออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกครั้ง อาจเป็นเพราะได้เรียนรู้จากครั้งที่แล้วไปแล้วกระมัง

 

“บุตรีเคานต์”

 

บุตรีแห่งเคานต์เรเวิน ฟรองซัวส์

บุตรีแห่งเคานต์อาเนมันน์ คลาริสซา

บุตรีแห่งเคานต์เอียนสเวิร์ธ ชาร์ลอตเต

 

“บุตรสาวของบริษัทการค้าใหญ่”

 

บุตรสาวของบริษัทการค้าแอน-มาโลว์ มาริเอล

 

“เชื้อพระวงศ์”

 

น้องสาวของฟาร์มาสจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน แองเจลิกา

 

“แม้ฐานะจุดยืนจะแตกต่างกันไป แต่มีใครในพวกเจ้าไหมที่เลือดในกายไม่เป็นสีแดง มีใครไหมที่ถูกแทงหัวใจแล้วไม่ตาย ถ้ามีก็ขอให้ก้าวออกมาข้างหน้าซะ”

 

เธอจ้องกวาดตั้งแต่คนแรกจนคนสุดท้าย

ทว่าก็เป็นที่แน่นอนว่าไม่มีใครที่ก้าวออกมาข้างหน้าแม้แต่คนเดียว

 

“เช่นนั้นชีวิตของพวกเจ้าก็มีค่าเท่ากัน จากนี้ไปขอห้ามไม่ให้ใช้ฐานะหรือสายเลือดของตัวเองเพื่อข่มตนเหนือผู้อื่น เข้าใจไหม แองเจลิกา”

 

“……”

 

“ตอบมา”

 

“อ อะไรกันล่ะ……”

 

‘ฮึ่ม’ แองเจลิกาแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนไม่ปิดบัง

แน่นอน เฮเลนาเองก็ไม่คิดสักนิดอยู่แล้วว่าเพียงคำพูดแค่นี้มันจะทำให้เธอเข้าใจยอมรับอะไรได้

สุดท้ายแล้ว หลักสูตรการฝึกทหารใหม่มันก็คือการทำให้จดจำด้วยร่างกายนั่นเอง

 

“บอกว่าให้ตอบ”

 

“ย อย่ามาสั่งดิฉันนะ!”

 

“ตอบมาซะ”

 

‘ป้าบ’ เธอฟาดไปที่ศีรษะด้านข้างของแองเจลิกา

แม้มันจะเป็นอาวุธที่ฟาดด้านบนแล้วไม่เจ็บเลยสักนิด แต่ถ้าโดนฟาดจากด้านข้างมันก็เจ็บพอสมควร

แองเจลิกามองเฮเลนาพลางจับตรงที่ถูกฟาดด้วยสายตาเหมือนไม่อยากจะเชื่อ

 

“เข้าใจไหม แองเจิลกา”

 

“ข ข……เข้าใจแล้ว ค่ะ……”

 

“เสียงเบาไป!”

 

ได้ยินแองเจิลกาบอกออกมาด้วยเสียงเบาเหมือนยุงเช่นนั้น เฮเลนาจึงตะคอกกลับไป

การฝึกทหารใหม่ ขั้นตอนที่หนึ่ง

นั่นก็คือ—การฝึกให้รู้จักใช้เสียงนั่นเอง

 

“เสียงเบากว่ายุงบินแบบนั้นใครจะไปได้ยิน! เปล่งเสียงออกมาจากท้อง!”

 

“ข เข้าใจ แล้วค่ะ!!”

 

“นั่นสุดแรงแล้วเรอะ! หมาแก่ ๆ ยังเห่าดังกว่าเลย! เปล่งเสียงออกมาจากท้องให้มากกว่านี้!”

 

“เข้าใจแล้วค่า—!!”

 

“ดี!”

 

‘แฮ่ก ๆ’ แองเจลิกาหายใจอย่างโล่งอกแม้จะยังสับสนอยู่บ้างกับสถานการณ์ยากจะยอมรับที่ต้องเปล่งเสียงให้สุดแรง

แน่นอนว่ามันไม่ได้จบเพียงแค่นี้

 

“บอกชื่อของเจ้ามาซะ!”

 

“อ แองเจลิกา ดีล……”

 

“ยาวไป! ไม่เอาสายเลือดกำเนิด! ตอบมาว่าเจ้าเป็นใคร!”

 

“อ อะ แองเจลิกา!”

 

“ต้องให้บอกกี่ครั้งว่าส่งเสียงมาจากท้องฮึ! คิดว่าตัวเองเป็นนกน้อยกำลังร้องเพลงรึไง!”

 

“แองเจลิกา—!!”

 

“คนต่อไป!”

 

เฮเลนาถอนสายตาจากแองเจลิกา แล้วมองไปยังฟรองซัวส์ซึ่งยืนอยู่ถัดมา

ฝ่ายฟรองซัวส์แม้คงจะสับสนอยู่เล็กน้อยทำให้สีหน้าดูเกร็ง ๆ แต่ก็จ้องมองกลับมาที่เฮเลนาตรง ๆ แบบตาไม่กระพริบ

 

“บอกชื่อมา!”

 

“ฟรองซัวส์ค่ะ!!”

 

“ใครคือคนที่เจ้ารัก!”

 

“ข้ารัก ‘ขุนศึกหมีน้ำเงิน’ ท่านบาร์โตเม เบอร์การ์ซาร์ดค่ะ!!”

 

“เช่นนั้นก็จงตะโกนแสดงความรักนั้นออกมาตรงนี้ซะ!”

 

“ท่านบาร์โตโลเม—!! รักนะค้า—!!”

 

“ดี!!”

 

สำหรับฟรองซัวส์ที่เป็นคนเสียงดังอยู่เสมอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร การฝึกนี้คงไม่จำเป็นกระมัง

ทว่าพวกคนที่เหลือนั้นไม่ใช่

ในอีกสามคนที่เหลือ—คนที่กำลังสั่นด้วยความกลัวมากที่สุดก็คือคลาริสซา

 

“บอกชื่อมา!”

 

“ฮิย์! ค คลาริสซาค่ะ!”

 

“เสียงเบาไป! เป็นเด็กเล่นขายของรึไง!”

 

“คลาริสซาค่ะ!!”

 

“เปล่งเสียงออกมาจากท้องอีกที!”

 

“คลาริสซา!! ค่า—!!”

 

แม้จะสั่นกลัวไปด้วยแต่ก็ส่งเสียงออกมาได้อย่างดี

ตัวของคลาริสซานั้น ถึงเธอจะกลัว ๆ แต่ก็ขอมาเข้าร่วมด้วยความสมัครใจของตนเอง และในเมื่อเฮเลนาได้บอกไปแล้วว่ามันจะเป็นการฝึกที่เข้มงวดยิ่งกว่าเดิม มันก็ไม่ควรมีความลังเลกันอีก

 

“ใครคือคนที่เจ้ารัก!”

 

“เอ๋……อ เอ่อ เรื่องนั้น……”

 

“ตอบมา!”

 

“ข้าเป็นแฟนตัวยงของแม่ทัพริกฮาร์ด เรลโน้ต!! ‘ขุนศึกวิหคดำ’ ค่ะ!!”

 

เอาจริงดิ

เมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลยแม้แต่น้อย เฮเลนาก็อดไม่ได้ที่ขมวดคิ้ว ไอ้ผู้ชายโคตรซิสค่อนนั่นมันมีดีตรงไหนกันนะ

‘ฉ่า—’ คลาริสซาแก้มขึ้นสีแดงเรื่อ

เจอคำพูดที่คาดไม่ถึงเข้าไป เฮเลนาเองก็ไม่รู้จะว่ายังไงดีเหมือนกัน แต่อย่างไรตอนนี้ก็คือระหว่างการฝึกอยู่

เอาไว้หลังจากผ่านหนึ่งเดือนนี้ไป เมื่อการฝึกจบแล้วเธอจะขอฟังรายละเอียดเพิ่มเติมก็แล้วกัน บางทีอาจจะกลายมาเป็นเจ้าสาวของพี่ชายได้ก็เป็นได้

 

“ชอบขนาดไหน!”

 

“มีภาพเหมือนอยู่ห้าใบ!! ประดับไว้ที่ห้องค่ะ!!”

 

“คราวหน้าเอาให้ดูด้วย!”

 

“ค่ะ!!”

 

“ดี!!”

 

ครึ่งหลังนั้นคือความสนใจของเฮเลนาล้วน ๆ แต่ตอนนี้เอาเป็นว่าไปที่คนต่อไปก่อนแล้วกัน

คราวนี้คนที่อยู่ถัดมา—ก็คือชาร์ลอตเตที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตลอดตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

 

“บอกชื่อมา!”

 

“ช ชาร์ลอตเตเจ้าค่ะ!”

 

“เสียงเบาไป! ไม่ได้ยินที่บอกรึไง! บอกให้เปล่งเสียงออกมาจากท้อง!”

 

“ชาร์ลอตเตเจ้าค่ะ!!”

 

“ถ้าหูมันฟังไม่รู้เรื่องงั้นเฉือนทิ้งซะดีไหม! อีกที!”

 

“ชาร์ลอตเตเจ้าค่ะ!!!”

 

แม้จะหอบ ‘แฮ่ก แฮ่ก’ ไปด้วย ทว่าเธอก็ขานชื่อออกมาได้ดี

นึกว่าจะทำตัวต่อต้าน แต่ดูเหมือนจะมีความตั้งใจผิดคาดแฮะ นับว่าคาดการณ์ผิดไปเหมือนกัน

 

“ใครคือคนที่เจ้ารัก!”

 

“ไม่มีใครทั้งนั้นเจ้าค่ะ!!”

 

“อย่ามาโกหก! เดี๋ยวก็เอาไอ้นี่ยัดก้นซะหรอก!”

 

“อออุ……ม ไม่อยากพูดเจ้าค่ะ!”

 

“พูดมา!!”

 

“ด ดิฉัน!!”

 

ชาร์ลอตเตแม้แก้มจะขึ้นสีแดง แต่ก็ยังกัดฟันไม่ยอมพูดมันออกมา

เป็นใครที่พูดถึงไม่ได้ถึงขนาดนั้นเชียวรึ

ทว่าขนาดคลาริสซาเธอก็สั่งให้ทำไปแล้ว จะให้ละเว้นแค่ชาร์ลอตเตมันก็ไม่ได้หรอก

 

“ดีล่ะ! หันก้นมา! จะยัดเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ!”

 

“จ จะพูดแล้วเจ้าค่ะ!!”

 

“ใคร!”

 

“ฝ่าบาทฟาร์มาสเจ้าค่ะ!!”

 

“ชอบที่ตรงไหน!”

 

“เพราะเท่ดีเจ้าค่ะ!!”

 

“งั้นก็ตะโกนออกมาว่ารักซะ!”

 

“รักเจ้าค่ะ!! ทำไมถึงไม่ยอมมาเยือนดิฉันเลยเจ้าคะ!! ฝ่าบาท—!!”

 

“……ดี!!”

 

รู้สึกซับซ้อนแบบแปลก ๆ

แน่นอนว่าความรู้สึกของชาร์ลอตเตนั้นคือสิ่งที่ถูกต้องแล้วสำหรับนางสนม แต่เดิมทีการที่พวกเธอได้รับการเรียกตัวมารวมกันในวังหลังแห่งนี้ ทั้งหมดก็เพื่อฟาร์มาสนั่นเอง

ฟรองซัวส์ซึ่งทั้งที่เป็นแบบนั้นแต่ก็ยังประกาศอย่างเปิดเผยว่าชอบบาร์โตโลเมต่างหากที่ประหลาด

 

จากนั้น เฮเลนาก็เบนสายตาไปยังคนถัดไป

ฟรองซัวส์ที่ขึงขัง คลาริสซาที่สั่นกลัว ชาร์ลอตเตที่แสดงความไม่พอใจอย่างไม่ปิดบัง

แล้วก็คนที่แตกต่างจากที่กล่าวมาทั้งหมด

 

มาริเอลนั้น กำลังยิ้ม

 

“บอกชื่อมา!”

 

“มาริเอลค่ะ!!”

 

“มุ……”

 

นี่ครั้งแรก แต่ระดับเสียงมันกลับดังกว่าที่คิดไว้

ดูคร่าว ๆ แล้วมีความตั้งใจทำกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัวเลยกระมัง นึกว่านอกจากฟรองซัวส์แล้วจะไม่มีใครอยากทำกันซะอีก

 

“ใครคือคนที่เจ้ารัก!”

 

“อิฉัน!! รัก!! ท่านพี่หญิงเฮเลนา เรลโนตค่ะ!!”

 

……

……

……

 

“……เอ๋?”

 

เพราะเป็นคำพูดที่คาดไม่ถึงจนเกินไป แม้แต่เฮเลนาเองก็พูดอะไรไม่ออกไปด้วยเช่นกัน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 118

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 118 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

“เอาล่ะ ทุกคน ก่อนอื่นข้าจะอธิบายให้ฟัง”

 

เฮเลนากล่าวกับทั้งห้าคนที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้าเธอ

แน่นอนว่าระหว่างพูดไปก็เอาพัดกระดาษในมือขวาฟาดลงไปบนมือซ้ายของตนเองไปพลางเพื่อส่งเสียงข่มขวัญไปด้วย แม้จะเป็นอาวุธที่ไม่มีฤทธิ์สังหารอันใด แต่แค่ได้เห็นว่ามีอาวุธอยู่ตรงนั้นก็สามารถสร้างความหวาดกลัวได้ไม่น้อยแล้ว

และเมื่อตอนนี้เฮเลนาอยู่ในจุดยืนที่ต้องฝึกพวกเธอทุกคน ย่อมไม่สามารถปล่อยให้มีความเหลาะแหละได้แม้แต่น้อย

 

“อันดับแรก อย่าเปิดปากนอกจากเวลาที่ข้าสั่ง หากอยากจะกล่าวอะไรก็ให้ขออนุญาตข้าก่อน”

 

“หา!”

 

“ข้ายังไม่ได้อนุญาตให้พูดเลยนะ แองเจลิกา ถ้าเปิดปากโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกครั้งจะเอาไอ้นี่ยัดปากซะ”

 

เธอเหลือบตาเขม่นแองเจลิกา

เมื่อได้เห็นท่าทีที่ผิดแผกไปจากทุกทีของเฮเลนา กลุ่มที่ได้รับการฝึกอบรมอยู่แล้วอย่างฟรองซัวส์ คลาริสซา หรือมาริเอลก็พากันตัวสั่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนชาร์ลอตเตแม้จะมีสีหน้าไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา

 

“แม้ข้าจะเข้มงวดแต่ก็ยุติธรรม พวกเจ้าทุกคนแต่ละคนก็คงมีสิ่งที่ตนเองภูมิใจ อย่างเช่นสายเลือดของตระกูลที่เกิดมา ตำแหน่งในวังหลัง หรืออำนาจทางการเงินของที่บ้านอยู่กระมัง ทว่าของพรรค์นั้นน่ะ มันล้วนแล้วแต่ไร้คุณค่า”

 

รับรู้ได้ว่าแองเจลิกาขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำว่า ‘ไร้คุณค่า’

ถ้อยคำของเฮเลนานั้นดูแคลนแม้กระทั่งเลือดขัตติยะ ทว่าในสถานที่แห่งนี้เธอได้รับอนุญาตละเว้นจากโทษหมิ่นเบื้องสูงทั้งหมดแล้ว

และดูเหมือนแองเจลิกาเองก็ก็ไม่ได้โง่งมขนาดที่จะเปล่งวาจาออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกครั้ง อาจเป็นเพราะได้เรียนรู้จากครั้งที่แล้วไปแล้วกระมัง

 

“บุตรีเคานต์”

 

บุตรีแห่งเคานต์เรเวิน ฟรองซัวส์

บุตรีแห่งเคานต์อาเนมันน์ คลาริสซา

บุตรีแห่งเคานต์เอียนสเวิร์ธ ชาร์ลอตเต

 

“บุตรสาวของบริษัทการค้าใหญ่”

 

บุตรสาวของบริษัทการค้าแอน-มาโลว์ มาริเอล

 

“เชื้อพระวงศ์”

 

น้องสาวของฟาร์มาสจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน แองเจลิกา

 

“แม้ฐานะจุดยืนจะแตกต่างกันไป แต่มีใครในพวกเจ้าไหมที่เลือดในกายไม่เป็นสีแดง มีใครไหมที่ถูกแทงหัวใจแล้วไม่ตาย ถ้ามีก็ขอให้ก้าวออกมาข้างหน้าซะ”

 

เธอจ้องกวาดตั้งแต่คนแรกจนคนสุดท้าย

ทว่าก็เป็นที่แน่นอนว่าไม่มีใครที่ก้าวออกมาข้างหน้าแม้แต่คนเดียว

 

“เช่นนั้นชีวิตของพวกเจ้าก็มีค่าเท่ากัน จากนี้ไปขอห้ามไม่ให้ใช้ฐานะหรือสายเลือดของตัวเองเพื่อข่มตนเหนือผู้อื่น เข้าใจไหม แองเจลิกา”

 

“……”

 

“ตอบมา”

 

“อ อะไรกันล่ะ……”

 

‘ฮึ่ม’ แองเจลิกาแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนไม่ปิดบัง

แน่นอน เฮเลนาเองก็ไม่คิดสักนิดอยู่แล้วว่าเพียงคำพูดแค่นี้มันจะทำให้เธอเข้าใจยอมรับอะไรได้

สุดท้ายแล้ว หลักสูตรการฝึกทหารใหม่มันก็คือการทำให้จดจำด้วยร่างกายนั่นเอง

 

“บอกว่าให้ตอบ”

 

“ย อย่ามาสั่งดิฉันนะ!”

 

“ตอบมาซะ”

 

‘ป้าบ’ เธอฟาดไปที่ศีรษะด้านข้างของแองเจลิกา

แม้มันจะเป็นอาวุธที่ฟาดด้านบนแล้วไม่เจ็บเลยสักนิด แต่ถ้าโดนฟาดจากด้านข้างมันก็เจ็บพอสมควร

แองเจลิกามองเฮเลนาพลางจับตรงที่ถูกฟาดด้วยสายตาเหมือนไม่อยากจะเชื่อ

 

“เข้าใจไหม แองเจิลกา”

 

“ข ข……เข้าใจแล้ว ค่ะ……”

 

“เสียงเบาไป!”

 

ได้ยินแองเจิลกาบอกออกมาด้วยเสียงเบาเหมือนยุงเช่นนั้น เฮเลนาจึงตะคอกกลับไป

การฝึกทหารใหม่ ขั้นตอนที่หนึ่ง

นั่นก็คือ—การฝึกให้รู้จักใช้เสียงนั่นเอง

 

“เสียงเบากว่ายุงบินแบบนั้นใครจะไปได้ยิน! เปล่งเสียงออกมาจากท้อง!”

 

“ข เข้าใจ แล้วค่ะ!!”

 

“นั่นสุดแรงแล้วเรอะ! หมาแก่ ๆ ยังเห่าดังกว่าเลย! เปล่งเสียงออกมาจากท้องให้มากกว่านี้!”

 

“เข้าใจแล้วค่า—!!”

 

“ดี!”

 

‘แฮ่ก ๆ’ แองเจลิกาหายใจอย่างโล่งอกแม้จะยังสับสนอยู่บ้างกับสถานการณ์ยากจะยอมรับที่ต้องเปล่งเสียงให้สุดแรง

แน่นอนว่ามันไม่ได้จบเพียงแค่นี้

 

“บอกชื่อของเจ้ามาซะ!”

 

“อ แองเจลิกา ดีล……”

 

“ยาวไป! ไม่เอาสายเลือดกำเนิด! ตอบมาว่าเจ้าเป็นใคร!”

 

“อ อะ แองเจลิกา!”

 

“ต้องให้บอกกี่ครั้งว่าส่งเสียงมาจากท้องฮึ! คิดว่าตัวเองเป็นนกน้อยกำลังร้องเพลงรึไง!”

 

“แองเจลิกา—!!”

 

“คนต่อไป!”

 

เฮเลนาถอนสายตาจากแองเจลิกา แล้วมองไปยังฟรองซัวส์ซึ่งยืนอยู่ถัดมา

ฝ่ายฟรองซัวส์แม้คงจะสับสนอยู่เล็กน้อยทำให้สีหน้าดูเกร็ง ๆ แต่ก็จ้องมองกลับมาที่เฮเลนาตรง ๆ แบบตาไม่กระพริบ

 

“บอกชื่อมา!”

 

“ฟรองซัวส์ค่ะ!!”

 

“ใครคือคนที่เจ้ารัก!”

 

“ข้ารัก ‘ขุนศึกหมีน้ำเงิน’ ท่านบาร์โตเม เบอร์การ์ซาร์ดค่ะ!!”

 

“เช่นนั้นก็จงตะโกนแสดงความรักนั้นออกมาตรงนี้ซะ!”

 

“ท่านบาร์โตโลเม—!! รักนะค้า—!!”

 

“ดี!!”

 

สำหรับฟรองซัวส์ที่เป็นคนเสียงดังอยู่เสมอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร การฝึกนี้คงไม่จำเป็นกระมัง

ทว่าพวกคนที่เหลือนั้นไม่ใช่

ในอีกสามคนที่เหลือ—คนที่กำลังสั่นด้วยความกลัวมากที่สุดก็คือคลาริสซา

 

“บอกชื่อมา!”

 

“ฮิย์! ค คลาริสซาค่ะ!”

 

“เสียงเบาไป! เป็นเด็กเล่นขายของรึไง!”

 

“คลาริสซาค่ะ!!”

 

“เปล่งเสียงออกมาจากท้องอีกที!”

 

“คลาริสซา!! ค่า—!!”

 

แม้จะสั่นกลัวไปด้วยแต่ก็ส่งเสียงออกมาได้อย่างดี

ตัวของคลาริสซานั้น ถึงเธอจะกลัว ๆ แต่ก็ขอมาเข้าร่วมด้วยความสมัครใจของตนเอง และในเมื่อเฮเลนาได้บอกไปแล้วว่ามันจะเป็นการฝึกที่เข้มงวดยิ่งกว่าเดิม มันก็ไม่ควรมีความลังเลกันอีก

 

“ใครคือคนที่เจ้ารัก!”

 

“เอ๋……อ เอ่อ เรื่องนั้น……”

 

“ตอบมา!”

 

“ข้าเป็นแฟนตัวยงของแม่ทัพริกฮาร์ด เรลโน้ต!! ‘ขุนศึกวิหคดำ’ ค่ะ!!”

 

เอาจริงดิ

เมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลยแม้แต่น้อย เฮเลนาก็อดไม่ได้ที่ขมวดคิ้ว ไอ้ผู้ชายโคตรซิสค่อนนั่นมันมีดีตรงไหนกันนะ

‘ฉ่า—’ คลาริสซาแก้มขึ้นสีแดงเรื่อ

เจอคำพูดที่คาดไม่ถึงเข้าไป เฮเลนาเองก็ไม่รู้จะว่ายังไงดีเหมือนกัน แต่อย่างไรตอนนี้ก็คือระหว่างการฝึกอยู่

เอาไว้หลังจากผ่านหนึ่งเดือนนี้ไป เมื่อการฝึกจบแล้วเธอจะขอฟังรายละเอียดเพิ่มเติมก็แล้วกัน บางทีอาจจะกลายมาเป็นเจ้าสาวของพี่ชายได้ก็เป็นได้

 

“ชอบขนาดไหน!”

 

“มีภาพเหมือนอยู่ห้าใบ!! ประดับไว้ที่ห้องค่ะ!!”

 

“คราวหน้าเอาให้ดูด้วย!”

 

“ค่ะ!!”

 

“ดี!!”

 

ครึ่งหลังนั้นคือความสนใจของเฮเลนาล้วน ๆ แต่ตอนนี้เอาเป็นว่าไปที่คนต่อไปก่อนแล้วกัน

คราวนี้คนที่อยู่ถัดมา—ก็คือชาร์ลอตเตที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตลอดตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

 

“บอกชื่อมา!”

 

“ช ชาร์ลอตเตเจ้าค่ะ!”

 

“เสียงเบาไป! ไม่ได้ยินที่บอกรึไง! บอกให้เปล่งเสียงออกมาจากท้อง!”

 

“ชาร์ลอตเตเจ้าค่ะ!!”

 

“ถ้าหูมันฟังไม่รู้เรื่องงั้นเฉือนทิ้งซะดีไหม! อีกที!”

 

“ชาร์ลอตเตเจ้าค่ะ!!!”

 

แม้จะหอบ ‘แฮ่ก แฮ่ก’ ไปด้วย ทว่าเธอก็ขานชื่อออกมาได้ดี

นึกว่าจะทำตัวต่อต้าน แต่ดูเหมือนจะมีความตั้งใจผิดคาดแฮะ นับว่าคาดการณ์ผิดไปเหมือนกัน

 

“ใครคือคนที่เจ้ารัก!”

 

“ไม่มีใครทั้งนั้นเจ้าค่ะ!!”

 

“อย่ามาโกหก! เดี๋ยวก็เอาไอ้นี่ยัดก้นซะหรอก!”

 

“อออุ……ม ไม่อยากพูดเจ้าค่ะ!”

 

“พูดมา!!”

 

“ด ดิฉัน!!”

 

ชาร์ลอตเตแม้แก้มจะขึ้นสีแดง แต่ก็ยังกัดฟันไม่ยอมพูดมันออกมา

เป็นใครที่พูดถึงไม่ได้ถึงขนาดนั้นเชียวรึ

ทว่าขนาดคลาริสซาเธอก็สั่งให้ทำไปแล้ว จะให้ละเว้นแค่ชาร์ลอตเตมันก็ไม่ได้หรอก

 

“ดีล่ะ! หันก้นมา! จะยัดเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ!”

 

“จ จะพูดแล้วเจ้าค่ะ!!”

 

“ใคร!”

 

“ฝ่าบาทฟาร์มาสเจ้าค่ะ!!”

 

“ชอบที่ตรงไหน!”

 

“เพราะเท่ดีเจ้าค่ะ!!”

 

“งั้นก็ตะโกนออกมาว่ารักซะ!”

 

“รักเจ้าค่ะ!! ทำไมถึงไม่ยอมมาเยือนดิฉันเลยเจ้าคะ!! ฝ่าบาท—!!”

 

“……ดี!!”

 

รู้สึกซับซ้อนแบบแปลก ๆ

แน่นอนว่าความรู้สึกของชาร์ลอตเตนั้นคือสิ่งที่ถูกต้องแล้วสำหรับนางสนม แต่เดิมทีการที่พวกเธอได้รับการเรียกตัวมารวมกันในวังหลังแห่งนี้ ทั้งหมดก็เพื่อฟาร์มาสนั่นเอง

ฟรองซัวส์ซึ่งทั้งที่เป็นแบบนั้นแต่ก็ยังประกาศอย่างเปิดเผยว่าชอบบาร์โตโลเมต่างหากที่ประหลาด

 

จากนั้น เฮเลนาก็เบนสายตาไปยังคนถัดไป

ฟรองซัวส์ที่ขึงขัง คลาริสซาที่สั่นกลัว ชาร์ลอตเตที่แสดงความไม่พอใจอย่างไม่ปิดบัง

แล้วก็คนที่แตกต่างจากที่กล่าวมาทั้งหมด

 

มาริเอลนั้น กำลังยิ้ม

 

“บอกชื่อมา!”

 

“มาริเอลค่ะ!!”

 

“มุ……”

 

นี่ครั้งแรก แต่ระดับเสียงมันกลับดังกว่าที่คิดไว้

ดูคร่าว ๆ แล้วมีความตั้งใจทำกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัวเลยกระมัง นึกว่านอกจากฟรองซัวส์แล้วจะไม่มีใครอยากทำกันซะอีก

 

“ใครคือคนที่เจ้ารัก!”

 

“อิฉัน!! รัก!! ท่านพี่หญิงเฮเลนา เรลโนตค่ะ!!”

 

……

……

……

 

“……เอ๋?”

 

เพราะเป็นคำพูดที่คาดไม่ถึงจนเกินไป แม้แต่เฮเลนาเองก็พูดอะไรไม่ออกไปด้วยเช่นกัน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+