(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 115

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 115 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

“ข้ากลับมาแล้ว อเลกเซีย”

 

“ยินดีต้อนรับกลับค่ะท่านเฮเลนา”

 

ในวังหลัง ที่ห้องของตัวเอง

เมื่อเข้าไป ก็พบอเลกเซียรออยู่เหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดา ดูเหมือนว่าเธอจะทำความสะอาดทั่วห้องอย่างดี บนพรมไม่มีรอยฝุ่นเลยสักรอย และกำแพงก็ได้รับการขัดจนเงาวับ ยิ่งไปกว่านั้นผ้าปูบนเตียงก็ได้รับการจัดไว้อย่างเรียบร้อยสมบูรณ์แบบ

‘โอ้’ เธอหลุดอุทานออกมาอย่างชื่นชม

 

“ทำซะสะอาดขนาดนี้เชียวรึ”

 

“ระหว่างที่ท่านเฮเลนาไม่อยู่ข้าก็ไม่มีงานอะไร เลยจดจ่อกับการทำความสะอาดมากไปหน่อยค่ะ”

 

“จะพักผ่อนก็ได้แท้ ๆ”

 

“ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะต่อให้ท่านเฮเลนาไม่อยู่ข้าก็ยังเป็นนางกำนัลติดห้องอยู่ดีนี่คะ”

 

เฮเลนาไม่ค่อยรู้เรื่องงานของนางกำนัลละเอียดนัก

ทว่า แตกต่างจากสาวใช้ที่ปรนนิบัติรับใช้คน อเลกเซียนั้นเป็นนางกำนัลติดห้อง บางทีอาจมีกฎว่าต่อให้เจ้าของห้องจะไม่อยู่เธอก็ต้องคอยอยู่ที่ห้องก็เป็นไปได้

 

“ไปเที่ยวเป็นอย่างไรบ้างคะ?”

 

“อา ก็สนุกดี ได้ไปสูดอากาศข้างนอกบ้างก็ดีเหมือนกันนะ”

 

“เช่นนั้นก็ยอดเยี่ยมแล้วค่ะ อีกไม่นานก็จะถึงเวลามื้อเย็นพอดี……”

 

‘หืม’ พูดถึงตรงนั้น อเลกเซียก็หยุด แล้วเหลือบตามอง

มองไปที่ถุงกระสอบซึ่งกำลังดิ้นไปมาอยู่ที่เอวของเฮเลนา

 

“……นั่นมัน เหมือนจะเป็นถุงกระสอบที่ข้าได้จัดเตรียมนะคะ”

 

“อา เตรียมถุงที่ทนทานแบบนี้มาให้มันช่วยได้มากเลยล่ะ เอามาถึงนี่ยังไม่มีขาดสักจุดเลย”

 

“……มีอะไรอยู่ข้างในหรือคะ?”

 

“งูน่ะ”

 

มันไม่ใช่เรื่องต้องปิดบังอะไรเป็นพิเศษอยู่แล้ว เธอจึงตอบไปตามนั้น

แต่แรกเริ่มเดิมทีเธอก็ขอถุงที่แข็งแรงทนทานเพื่อที่งูดิ้นไปมามันจะได้ไม่ขาดอยู่แล้ว

 

“ท่านเฮเลนาคะ”

 

“หืม?”

 

“ก่อนอื่นโปรดนั่งลงตรงนั้นก่อนค่ะ”

 

อเลกเซียผายมือเชื้อเชิญ

ไปยังพื้นปูพรมตรงที่ไม่มีทั้งโซฟาหรือเก้าอี้อะไรให้นั่งทั้งนั้น

 

“เอ๋……?”

 

“โปรดนั่งลงตรงนั้นก่อนค่ะ”

 

เมื่อเจอกับคำพูดที่มีแรงกดดันอันยากจะอธิบาย เฮเลนาก็ไม่กล้าทวนถามอีก

อเลกเซียไม่ได้กำลังชี้ไปที่โซฟา แต่กำลังสั่งให้เธอนั่งลงตรงพื้นซะ

ทว่าเฮเลนาก็ไม่สามารถต้านทานแรงกดดันของอเลกเซีย แล้วก็นั่งลงกับพื้นทั้งแบบนั้น

 

ในท่าคุกเข่าแบบเบญจางคประดิษฐ์

 

“อันดับแรกเลย ถุงกระสอบนั้น เพราะท่านเฮเลนาสั่งว่าให้เตรียม ข้าจึงได้จัดเตรียมให้”

 

“อืม”

 

“ข้าเองก็มีส่วนผิดเหมือนกันค่ะที่ไม่ได้ถามว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร แต่ว่าท่านเฮเลนาได้นำถุงนั้นติดตัวออกไปขี่ม้าท่องเที่ยวทางไกล”

 

“อืม”

 

“แล้วก็ไปจับงูที่ปลายทางที่ไปเที่ยว สินะคะ”

 

“อืม”

 

“คิดอะไรของท่านอยู่กันคะ”

 

‘หืม’ เฮเลนาเอียงศีรษะอย่างฉงนใจเมื่อได้ยินวาจาของอเลกเซีย

แต่เริ่มเดิมทีเธอก็คิดที่จะจับงูมาอยู่ก่อนแล้ว เพราะมาริเอลหรือคลาริสซาบอกว่าไม่เคยกินมาก่อน เธอก็เลยคิดว่าจะให้พวกเธอได้ลิ้มรสดู

ไหน ๆ ก็มีโอกาสได้ออกไปเที่ยวแล้ว การที่เธอจะถือจังหวะนี้จับมันมาด้วยเลยมันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาไม่ใช่หรือไงกัน

 

“เอ่อ……ก็ งูอ่ะ”

 

“ไปจับมาจากที่ปลายทางที่ไปท่องเที่ยวทางไกลมา ข้าเข้าใจถูกใช่ไหมคะ?”

 

“อ อื้ม……”

 

“……ทำไมได้ถึงมีจิตวิญญาณนักเอาตัวรอดล้นเหลือซะขนาดนั้นกันคะ”

 

“ถึงจะพูดงั้นก็เหอะ……”

 

‘อา ปัดโธ่’ อเลกเซียดูจะหัวเสียขึ้นไปเรื่อย ๆ

เฮเลนาไม่เห็นรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรที่มันพิสดารขนาดนั้นเลยแท้ ๆ

 

“ไปจับมาตอนไหนกันคะ”

 

“เอ่อ……ตอนแรกก็ขี่ม้าแข่งกันไปจนถึงลำธาร แล้วฝ่าบาทก็เริ่มนอนกลางวันตรงแถวนั้น ระหว่างนั้นข้าก็เลยแยกตัวออกไปจับมา”

 

“……เฮ้อ ปัดโธ่”

 

อเลกเซียกุมขมับอย่างคิดไม่ตกว่าควรจะเริ่มตักเตือนจากตรงไหนก่อนกันแน่

ก่อนที่จะพูดถึงการตักเตือน เจ้าตัวยังไม่คิดสักนิดเลยด้วยซ้ำว่าทำได้อะไรไม่ดีลงไป

 

“ก่อนอื่นนะคะท่านเฮเลนา……คิดจะเอางูนั่นมาใช้ทำอะไรหรือคะ?”

 

“กิน”

 

“ไม่ได้ค่ะ”

 

อเลกเซียส่ายหน้าทั้งที่ยังยืนกอดอก

ซึ่งเฮเลนาก็ได้แต่คุกเข่าแหงนหน้ามองอเลกเซีย

ทั้งที่เจ้านายของห้องนี้คือเฮเลนาแท้ ๆ ทำไมจุดยืนมันถึงได้กลับตารปัดกันแบบนี้นะ

 

“ปกติแล้วงูไม่ใช่ของกินนะคะ”

 

“งั้นหรอกรึ!?”

 

“ทำไมถึงตกใจเรื่องนั้นกันคะ……”

 

เมื่อได้ยินคำพูดที่คาดไม่ถึง เฮเลนาจึงเผลอขึ้นเสียง

สำหรับเฮเลนาแล้ว งูก็คือของกิน ไม่ได้เป็นอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น มันนับว่าเป็นแหล่งโปรตีนซึ่งหาได้ยากยิ่งในศึกสู้รบกลางป่า

การได้ยินว่ามันไม่ได้เอาไว้กิน จึงเป็นความจริงที่น่าตกใจอย่างยิ่ง

 

“แน่นอนว่าฝ่าบาทเองก็ได้เห็นเหมือนกันใช่ไหมคะ?”

 

“อา พอโดนถามว่ามีอะไรอยู่ในถุง ก็เลยตอบไปว่าเป็นงูน่ะ”

 

“แล้วไม่ได้โดนถามว่าจับมาทำไมหรือคะ?”

 

“ก็ตอบไปว่าจับมากิน”

 

“……แล้วฝ่าบาท ว่าอย่างไร?”

 

“พูดแค่ว่า ‘งั้นรึ’ น่ะ”

 

“นั่นมันปลงสนิทแล้วไม่ใช่หรือไงกันคะ”

 

เป็นแบบนั้นหรอกรึ

จะว่าไปแล้วเขาก็ทำหน้าเหมือนเหนื่อย ๆ อยู่จริง ๆ

 

“ท่านเฮเลนาคะ”

 

“อืม”

 

“หลังจากนั้น ก็ไปเพลิดเพลินกับการขี่ม้าท่องเที่ยว ทั้งที่มีงูคาอยู่ไว้ที่เอว สินะคะ”

 

“อื้ม”

 

“คนระดับอย่างข้ามาพูดอะไรแบบนี้ก็อาจเป็นการหมิ่นเบื้องสูง แต่ก็ต้องบอกว่าอดสงสารฝ่าบาทไม่ได้เลยค่ะ”

 

“ทำไมล่ะ”

 

ฟาร์มาสเองก็ดูจะสนุกดีนี่นา

เฮเลนาก็สนุก ฟาร์มาสก็สนุก ไม่ว่าจะคิดยังไง การไปขี่ม้าเที่ยวครั้งนี้ก็เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงไม่ใช่รึ

เช่นนั้นแล้วทำไมอเลกเซียถึงต้องมาสงสารด้วย

 

“อ่า……ช่างมันเถอะค่ะ เท่านี้ฝ่าบาทเองก็คงจะเข้าใจแล้วกระมังว่าท่านเฮเลนาเป็นคนแบบไหนกันแน่”

 

“……หมายความว่าไงน่ะ?”

 

“ถึงได้บอกแล้วไงค่ะ ว่าให้ทำตัวสงบเสงี่ยมหน่อยน่ะ……”

 

‘เฮ้อ’ อเลกเซียถอนหายใจแรงอย่างไม่คิดปิดบัง

ทว่า เฮเลนาก็ยังรู้สึกยากจะยอมรับอยู่ดี เธอทำผิดอะไรตรงไหนกัน ก็แค่จับงูกลับมาแท้ ๆ

ถึงหน้าตามันจะดูไม่น่าเอ็นดู แต่รสชาติก็เรียบง่ายสดชื่นคล้าย ๆ เนื้อไก่ ยิ่งกว่านั้นยังมีสรรพคุณชูกำลังอย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

 

“เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้วมันก็ช่วยไม่ได้ค่ะ เอาเป็นว่าตอนนี้ข้าจะไปนำมื้อเย็นมาก่อนนะคะ”

 

“อ อา……เอ่อ ข้ายืนขึ้นได้รึยัง?”

 

“เชิญนั่งที่โซฟาได้ค่ะ”

 

ดูเหมือนช่วงการเทศนาจะจบลงแล้ว

แต่อันที่จริง ไม่รู้ทำไมมันรู้สึกอเลกเซียจะปลงไปแล้วซะมากกว่า

 

อ๊ะ จริงสิ—เธอนึกขึ้นมาได้ในจังหวะนั้น

 

“อเลกเซีย”

 

“ค่ะ”

 

“ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป……ข้าจะต้องจัดการฝึกให้ห้าคนโดยมีท่านแองเจลิกาเป็นตัวหลัก เป็นเวลาหนึ่งเดือน”

 

“ค่ะ ก็ได้รับทราบมาแล้วนะคะ”

 

“เกี่ยวกับเรื่องนั้นน่ะ ข้าตั้งใจว่าจะให้ทั้งห้าคนนอนค้างกันที่นี่ แล้วก็คิดว่าอยากจะให้สาวใช้หรือนางกำนัลพยายามอย่าเข้าใกล้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย”

 

“อ่า……เช่นนั้น แล้วเรื่องมื้ออาหารหรืออะไรทำนองนั้นล่ะคะ”

 

“แค่ห้ามเข้าใกล้ระหว่างการฝึกเท่านั้นเอง การเตรียมอาหารก็ขอให้เตรียมทุกมื้อตามเดิม ข้าอยากจะให้อเลกเซียช่วยรับหน้าที่คอยสั่งการคนรับใช้ของทั้งห้าคนนั้นน่ะ”

 

หากมีสาวใช้หรือนางกำนัลอยู่ด้วย ก็อาจนำไปสู่ความเหลาะแหละของพวกเธอเหล่านั้นได้ และในการฝึกทหารใหม่นั้น เราจะต้องขจัดความเหลาะแหละออกไปให้ได้มากที่สุด

ทว่า แม้จะกล่าวเช่นนั้นแต่จะให้ละเลยมื้ออาหารก็ไม่ถูกต้องนัก ถึงจะมีแผนฝึกให้พวกเธอได้มีประสบการณ์ต่อความหิวโหยอยู่ด้วยก็จริง แต่โดยปกติแล้วก็ต้องได้รับประทานอาหารครบถ้วนสามมื้อ มันถึงจะนำไปสู่การเสริมสร้างพลังกายได้

และผู้ที่เฮเลนาจะมอบหมายหน้าที่เช่นนี้ให้ได้ ก็มีแค่อเลกเซียซึ่งเธอไว้วางใจมากที่สุดเท่านั้น

 

“อย่างนี้นี่เอง……รับทราบแล้วค่ะ”

 

“อืม ก็แค่บอกว่าอย่าโผล่หน้ามาที่ห้องนี้หรือสถานที่ฝึกจนกว่าจะถึงเวลาอาหารเท่านั้นเอง แต่หากพวกสาวใช้หรือนางกำนัลทำอะไรตามอำเภอใจทางนี้เองก็ลำบากเหมือนกัน ก็เลยอยากจะฝากให้ดูแลเรื่องนั้นทีน่ะ”

 

“ค่ะ รับทราบค่ะ”

 

‘อื้ม’ เมื่อเห็นอเลกเซียคำนับรับคำเรียบร้อย เฮเลนาก็พยักหน้าอย่างพอใจ

ตอนนี้ปูทางไว้เท่านี้ก่อนก็น่าจะเพียงพอแล้วกระมัง

ที่เหลือก็แค่เริ่มจัดการฝึกจริง ๆ เท่านั้น

 

บู้ตแคมป์นรกกำลังจะเปิดม่านแล้ว—

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 115

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 115 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

“ข้ากลับมาแล้ว อเลกเซีย”

 

“ยินดีต้อนรับกลับค่ะท่านเฮเลนา”

 

ในวังหลัง ที่ห้องของตัวเอง

เมื่อเข้าไป ก็พบอเลกเซียรออยู่เหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดา ดูเหมือนว่าเธอจะทำความสะอาดทั่วห้องอย่างดี บนพรมไม่มีรอยฝุ่นเลยสักรอย และกำแพงก็ได้รับการขัดจนเงาวับ ยิ่งไปกว่านั้นผ้าปูบนเตียงก็ได้รับการจัดไว้อย่างเรียบร้อยสมบูรณ์แบบ

‘โอ้’ เธอหลุดอุทานออกมาอย่างชื่นชม

 

“ทำซะสะอาดขนาดนี้เชียวรึ”

 

“ระหว่างที่ท่านเฮเลนาไม่อยู่ข้าก็ไม่มีงานอะไร เลยจดจ่อกับการทำความสะอาดมากไปหน่อยค่ะ”

 

“จะพักผ่อนก็ได้แท้ ๆ”

 

“ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะต่อให้ท่านเฮเลนาไม่อยู่ข้าก็ยังเป็นนางกำนัลติดห้องอยู่ดีนี่คะ”

 

เฮเลนาไม่ค่อยรู้เรื่องงานของนางกำนัลละเอียดนัก

ทว่า แตกต่างจากสาวใช้ที่ปรนนิบัติรับใช้คน อเลกเซียนั้นเป็นนางกำนัลติดห้อง บางทีอาจมีกฎว่าต่อให้เจ้าของห้องจะไม่อยู่เธอก็ต้องคอยอยู่ที่ห้องก็เป็นไปได้

 

“ไปเที่ยวเป็นอย่างไรบ้างคะ?”

 

“อา ก็สนุกดี ได้ไปสูดอากาศข้างนอกบ้างก็ดีเหมือนกันนะ”

 

“เช่นนั้นก็ยอดเยี่ยมแล้วค่ะ อีกไม่นานก็จะถึงเวลามื้อเย็นพอดี……”

 

‘หืม’ พูดถึงตรงนั้น อเลกเซียก็หยุด แล้วเหลือบตามอง

มองไปที่ถุงกระสอบซึ่งกำลังดิ้นไปมาอยู่ที่เอวของเฮเลนา

 

“……นั่นมัน เหมือนจะเป็นถุงกระสอบที่ข้าได้จัดเตรียมนะคะ”

 

“อา เตรียมถุงที่ทนทานแบบนี้มาให้มันช่วยได้มากเลยล่ะ เอามาถึงนี่ยังไม่มีขาดสักจุดเลย”

 

“……มีอะไรอยู่ข้างในหรือคะ?”

 

“งูน่ะ”

 

มันไม่ใช่เรื่องต้องปิดบังอะไรเป็นพิเศษอยู่แล้ว เธอจึงตอบไปตามนั้น

แต่แรกเริ่มเดิมทีเธอก็ขอถุงที่แข็งแรงทนทานเพื่อที่งูดิ้นไปมามันจะได้ไม่ขาดอยู่แล้ว

 

“ท่านเฮเลนาคะ”

 

“หืม?”

 

“ก่อนอื่นโปรดนั่งลงตรงนั้นก่อนค่ะ”

 

อเลกเซียผายมือเชื้อเชิญ

ไปยังพื้นปูพรมตรงที่ไม่มีทั้งโซฟาหรือเก้าอี้อะไรให้นั่งทั้งนั้น

 

“เอ๋……?”

 

“โปรดนั่งลงตรงนั้นก่อนค่ะ”

 

เมื่อเจอกับคำพูดที่มีแรงกดดันอันยากจะอธิบาย เฮเลนาก็ไม่กล้าทวนถามอีก

อเลกเซียไม่ได้กำลังชี้ไปที่โซฟา แต่กำลังสั่งให้เธอนั่งลงตรงพื้นซะ

ทว่าเฮเลนาก็ไม่สามารถต้านทานแรงกดดันของอเลกเซีย แล้วก็นั่งลงกับพื้นทั้งแบบนั้น

 

ในท่าคุกเข่าแบบเบญจางคประดิษฐ์

 

“อันดับแรกเลย ถุงกระสอบนั้น เพราะท่านเฮเลนาสั่งว่าให้เตรียม ข้าจึงได้จัดเตรียมให้”

 

“อืม”

 

“ข้าเองก็มีส่วนผิดเหมือนกันค่ะที่ไม่ได้ถามว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร แต่ว่าท่านเฮเลนาได้นำถุงนั้นติดตัวออกไปขี่ม้าท่องเที่ยวทางไกล”

 

“อืม”

 

“แล้วก็ไปจับงูที่ปลายทางที่ไปเที่ยว สินะคะ”

 

“อืม”

 

“คิดอะไรของท่านอยู่กันคะ”

 

‘หืม’ เฮเลนาเอียงศีรษะอย่างฉงนใจเมื่อได้ยินวาจาของอเลกเซีย

แต่เริ่มเดิมทีเธอก็คิดที่จะจับงูมาอยู่ก่อนแล้ว เพราะมาริเอลหรือคลาริสซาบอกว่าไม่เคยกินมาก่อน เธอก็เลยคิดว่าจะให้พวกเธอได้ลิ้มรสดู

ไหน ๆ ก็มีโอกาสได้ออกไปเที่ยวแล้ว การที่เธอจะถือจังหวะนี้จับมันมาด้วยเลยมันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาไม่ใช่หรือไงกัน

 

“เอ่อ……ก็ งูอ่ะ”

 

“ไปจับมาจากที่ปลายทางที่ไปท่องเที่ยวทางไกลมา ข้าเข้าใจถูกใช่ไหมคะ?”

 

“อ อื้ม……”

 

“……ทำไมได้ถึงมีจิตวิญญาณนักเอาตัวรอดล้นเหลือซะขนาดนั้นกันคะ”

 

“ถึงจะพูดงั้นก็เหอะ……”

 

‘อา ปัดโธ่’ อเลกเซียดูจะหัวเสียขึ้นไปเรื่อย ๆ

เฮเลนาไม่เห็นรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรที่มันพิสดารขนาดนั้นเลยแท้ ๆ

 

“ไปจับมาตอนไหนกันคะ”

 

“เอ่อ……ตอนแรกก็ขี่ม้าแข่งกันไปจนถึงลำธาร แล้วฝ่าบาทก็เริ่มนอนกลางวันตรงแถวนั้น ระหว่างนั้นข้าก็เลยแยกตัวออกไปจับมา”

 

“……เฮ้อ ปัดโธ่”

 

อเลกเซียกุมขมับอย่างคิดไม่ตกว่าควรจะเริ่มตักเตือนจากตรงไหนก่อนกันแน่

ก่อนที่จะพูดถึงการตักเตือน เจ้าตัวยังไม่คิดสักนิดเลยด้วยซ้ำว่าทำได้อะไรไม่ดีลงไป

 

“ก่อนอื่นนะคะท่านเฮเลนา……คิดจะเอางูนั่นมาใช้ทำอะไรหรือคะ?”

 

“กิน”

 

“ไม่ได้ค่ะ”

 

อเลกเซียส่ายหน้าทั้งที่ยังยืนกอดอก

ซึ่งเฮเลนาก็ได้แต่คุกเข่าแหงนหน้ามองอเลกเซีย

ทั้งที่เจ้านายของห้องนี้คือเฮเลนาแท้ ๆ ทำไมจุดยืนมันถึงได้กลับตารปัดกันแบบนี้นะ

 

“ปกติแล้วงูไม่ใช่ของกินนะคะ”

 

“งั้นหรอกรึ!?”

 

“ทำไมถึงตกใจเรื่องนั้นกันคะ……”

 

เมื่อได้ยินคำพูดที่คาดไม่ถึง เฮเลนาจึงเผลอขึ้นเสียง

สำหรับเฮเลนาแล้ว งูก็คือของกิน ไม่ได้เป็นอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น มันนับว่าเป็นแหล่งโปรตีนซึ่งหาได้ยากยิ่งในศึกสู้รบกลางป่า

การได้ยินว่ามันไม่ได้เอาไว้กิน จึงเป็นความจริงที่น่าตกใจอย่างยิ่ง

 

“แน่นอนว่าฝ่าบาทเองก็ได้เห็นเหมือนกันใช่ไหมคะ?”

 

“อา พอโดนถามว่ามีอะไรอยู่ในถุง ก็เลยตอบไปว่าเป็นงูน่ะ”

 

“แล้วไม่ได้โดนถามว่าจับมาทำไมหรือคะ?”

 

“ก็ตอบไปว่าจับมากิน”

 

“……แล้วฝ่าบาท ว่าอย่างไร?”

 

“พูดแค่ว่า ‘งั้นรึ’ น่ะ”

 

“นั่นมันปลงสนิทแล้วไม่ใช่หรือไงกันคะ”

 

เป็นแบบนั้นหรอกรึ

จะว่าไปแล้วเขาก็ทำหน้าเหมือนเหนื่อย ๆ อยู่จริง ๆ

 

“ท่านเฮเลนาคะ”

 

“อืม”

 

“หลังจากนั้น ก็ไปเพลิดเพลินกับการขี่ม้าท่องเที่ยว ทั้งที่มีงูคาอยู่ไว้ที่เอว สินะคะ”

 

“อื้ม”

 

“คนระดับอย่างข้ามาพูดอะไรแบบนี้ก็อาจเป็นการหมิ่นเบื้องสูง แต่ก็ต้องบอกว่าอดสงสารฝ่าบาทไม่ได้เลยค่ะ”

 

“ทำไมล่ะ”

 

ฟาร์มาสเองก็ดูจะสนุกดีนี่นา

เฮเลนาก็สนุก ฟาร์มาสก็สนุก ไม่ว่าจะคิดยังไง การไปขี่ม้าเที่ยวครั้งนี้ก็เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงไม่ใช่รึ

เช่นนั้นแล้วทำไมอเลกเซียถึงต้องมาสงสารด้วย

 

“อ่า……ช่างมันเถอะค่ะ เท่านี้ฝ่าบาทเองก็คงจะเข้าใจแล้วกระมังว่าท่านเฮเลนาเป็นคนแบบไหนกันแน่”

 

“……หมายความว่าไงน่ะ?”

 

“ถึงได้บอกแล้วไงค่ะ ว่าให้ทำตัวสงบเสงี่ยมหน่อยน่ะ……”

 

‘เฮ้อ’ อเลกเซียถอนหายใจแรงอย่างไม่คิดปิดบัง

ทว่า เฮเลนาก็ยังรู้สึกยากจะยอมรับอยู่ดี เธอทำผิดอะไรตรงไหนกัน ก็แค่จับงูกลับมาแท้ ๆ

ถึงหน้าตามันจะดูไม่น่าเอ็นดู แต่รสชาติก็เรียบง่ายสดชื่นคล้าย ๆ เนื้อไก่ ยิ่งกว่านั้นยังมีสรรพคุณชูกำลังอย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

 

“เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้วมันก็ช่วยไม่ได้ค่ะ เอาเป็นว่าตอนนี้ข้าจะไปนำมื้อเย็นมาก่อนนะคะ”

 

“อ อา……เอ่อ ข้ายืนขึ้นได้รึยัง?”

 

“เชิญนั่งที่โซฟาได้ค่ะ”

 

ดูเหมือนช่วงการเทศนาจะจบลงแล้ว

แต่อันที่จริง ไม่รู้ทำไมมันรู้สึกอเลกเซียจะปลงไปแล้วซะมากกว่า

 

อ๊ะ จริงสิ—เธอนึกขึ้นมาได้ในจังหวะนั้น

 

“อเลกเซีย”

 

“ค่ะ”

 

“ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป……ข้าจะต้องจัดการฝึกให้ห้าคนโดยมีท่านแองเจลิกาเป็นตัวหลัก เป็นเวลาหนึ่งเดือน”

 

“ค่ะ ก็ได้รับทราบมาแล้วนะคะ”

 

“เกี่ยวกับเรื่องนั้นน่ะ ข้าตั้งใจว่าจะให้ทั้งห้าคนนอนค้างกันที่นี่ แล้วก็คิดว่าอยากจะให้สาวใช้หรือนางกำนัลพยายามอย่าเข้าใกล้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย”

 

“อ่า……เช่นนั้น แล้วเรื่องมื้ออาหารหรืออะไรทำนองนั้นล่ะคะ”

 

“แค่ห้ามเข้าใกล้ระหว่างการฝึกเท่านั้นเอง การเตรียมอาหารก็ขอให้เตรียมทุกมื้อตามเดิม ข้าอยากจะให้อเลกเซียช่วยรับหน้าที่คอยสั่งการคนรับใช้ของทั้งห้าคนนั้นน่ะ”

 

หากมีสาวใช้หรือนางกำนัลอยู่ด้วย ก็อาจนำไปสู่ความเหลาะแหละของพวกเธอเหล่านั้นได้ และในการฝึกทหารใหม่นั้น เราจะต้องขจัดความเหลาะแหละออกไปให้ได้มากที่สุด

ทว่า แม้จะกล่าวเช่นนั้นแต่จะให้ละเลยมื้ออาหารก็ไม่ถูกต้องนัก ถึงจะมีแผนฝึกให้พวกเธอได้มีประสบการณ์ต่อความหิวโหยอยู่ด้วยก็จริง แต่โดยปกติแล้วก็ต้องได้รับประทานอาหารครบถ้วนสามมื้อ มันถึงจะนำไปสู่การเสริมสร้างพลังกายได้

และผู้ที่เฮเลนาจะมอบหมายหน้าที่เช่นนี้ให้ได้ ก็มีแค่อเลกเซียซึ่งเธอไว้วางใจมากที่สุดเท่านั้น

 

“อย่างนี้นี่เอง……รับทราบแล้วค่ะ”

 

“อืม ก็แค่บอกว่าอย่าโผล่หน้ามาที่ห้องนี้หรือสถานที่ฝึกจนกว่าจะถึงเวลาอาหารเท่านั้นเอง แต่หากพวกสาวใช้หรือนางกำนัลทำอะไรตามอำเภอใจทางนี้เองก็ลำบากเหมือนกัน ก็เลยอยากจะฝากให้ดูแลเรื่องนั้นทีน่ะ”

 

“ค่ะ รับทราบค่ะ”

 

‘อื้ม’ เมื่อเห็นอเลกเซียคำนับรับคำเรียบร้อย เฮเลนาก็พยักหน้าอย่างพอใจ

ตอนนี้ปูทางไว้เท่านี้ก่อนก็น่าจะเพียงพอแล้วกระมัง

ที่เหลือก็แค่เริ่มจัดการฝึกจริง ๆ เท่านั้น

 

บู้ตแคมป์นรกกำลังจะเปิดม่านแล้ว—

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ 115

Now you are reading (นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ Chapter 115 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

“ข้ากลับมาแล้ว อเลกเซีย”

 

“ยินดีต้อนรับกลับค่ะท่านเฮเลนา”

 

ในวังหลัง ที่ห้องของตัวเอง

เมื่อเข้าไป ก็พบอเลกเซียรออยู่เหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดา ดูเหมือนว่าเธอจะทำความสะอาดทั่วห้องอย่างดี บนพรมไม่มีรอยฝุ่นเลยสักรอย และกำแพงก็ได้รับการขัดจนเงาวับ ยิ่งไปกว่านั้นผ้าปูบนเตียงก็ได้รับการจัดไว้อย่างเรียบร้อยสมบูรณ์แบบ

‘โอ้’ เธอหลุดอุทานออกมาอย่างชื่นชม

 

“ทำซะสะอาดขนาดนี้เชียวรึ”

 

“ระหว่างที่ท่านเฮเลนาไม่อยู่ข้าก็ไม่มีงานอะไร เลยจดจ่อกับการทำความสะอาดมากไปหน่อยค่ะ”

 

“จะพักผ่อนก็ได้แท้ ๆ”

 

“ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะต่อให้ท่านเฮเลนาไม่อยู่ข้าก็ยังเป็นนางกำนัลติดห้องอยู่ดีนี่คะ”

 

เฮเลนาไม่ค่อยรู้เรื่องงานของนางกำนัลละเอียดนัก

ทว่า แตกต่างจากสาวใช้ที่ปรนนิบัติรับใช้คน อเลกเซียนั้นเป็นนางกำนัลติดห้อง บางทีอาจมีกฎว่าต่อให้เจ้าของห้องจะไม่อยู่เธอก็ต้องคอยอยู่ที่ห้องก็เป็นไปได้

 

“ไปเที่ยวเป็นอย่างไรบ้างคะ?”

 

“อา ก็สนุกดี ได้ไปสูดอากาศข้างนอกบ้างก็ดีเหมือนกันนะ”

 

“เช่นนั้นก็ยอดเยี่ยมแล้วค่ะ อีกไม่นานก็จะถึงเวลามื้อเย็นพอดี……”

 

‘หืม’ พูดถึงตรงนั้น อเลกเซียก็หยุด แล้วเหลือบตามอง

มองไปที่ถุงกระสอบซึ่งกำลังดิ้นไปมาอยู่ที่เอวของเฮเลนา

 

“……นั่นมัน เหมือนจะเป็นถุงกระสอบที่ข้าได้จัดเตรียมนะคะ”

 

“อา เตรียมถุงที่ทนทานแบบนี้มาให้มันช่วยได้มากเลยล่ะ เอามาถึงนี่ยังไม่มีขาดสักจุดเลย”

 

“……มีอะไรอยู่ข้างในหรือคะ?”

 

“งูน่ะ”

 

มันไม่ใช่เรื่องต้องปิดบังอะไรเป็นพิเศษอยู่แล้ว เธอจึงตอบไปตามนั้น

แต่แรกเริ่มเดิมทีเธอก็ขอถุงที่แข็งแรงทนทานเพื่อที่งูดิ้นไปมามันจะได้ไม่ขาดอยู่แล้ว

 

“ท่านเฮเลนาคะ”

 

“หืม?”

 

“ก่อนอื่นโปรดนั่งลงตรงนั้นก่อนค่ะ”

 

อเลกเซียผายมือเชื้อเชิญ

ไปยังพื้นปูพรมตรงที่ไม่มีทั้งโซฟาหรือเก้าอี้อะไรให้นั่งทั้งนั้น

 

“เอ๋……?”

 

“โปรดนั่งลงตรงนั้นก่อนค่ะ”

 

เมื่อเจอกับคำพูดที่มีแรงกดดันอันยากจะอธิบาย เฮเลนาก็ไม่กล้าทวนถามอีก

อเลกเซียไม่ได้กำลังชี้ไปที่โซฟา แต่กำลังสั่งให้เธอนั่งลงตรงพื้นซะ

ทว่าเฮเลนาก็ไม่สามารถต้านทานแรงกดดันของอเลกเซีย แล้วก็นั่งลงกับพื้นทั้งแบบนั้น

 

ในท่าคุกเข่าแบบเบญจางคประดิษฐ์

 

“อันดับแรกเลย ถุงกระสอบนั้น เพราะท่านเฮเลนาสั่งว่าให้เตรียม ข้าจึงได้จัดเตรียมให้”

 

“อืม”

 

“ข้าเองก็มีส่วนผิดเหมือนกันค่ะที่ไม่ได้ถามว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร แต่ว่าท่านเฮเลนาได้นำถุงนั้นติดตัวออกไปขี่ม้าท่องเที่ยวทางไกล”

 

“อืม”

 

“แล้วก็ไปจับงูที่ปลายทางที่ไปเที่ยว สินะคะ”

 

“อืม”

 

“คิดอะไรของท่านอยู่กันคะ”

 

‘หืม’ เฮเลนาเอียงศีรษะอย่างฉงนใจเมื่อได้ยินวาจาของอเลกเซีย

แต่เริ่มเดิมทีเธอก็คิดที่จะจับงูมาอยู่ก่อนแล้ว เพราะมาริเอลหรือคลาริสซาบอกว่าไม่เคยกินมาก่อน เธอก็เลยคิดว่าจะให้พวกเธอได้ลิ้มรสดู

ไหน ๆ ก็มีโอกาสได้ออกไปเที่ยวแล้ว การที่เธอจะถือจังหวะนี้จับมันมาด้วยเลยมันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาไม่ใช่หรือไงกัน

 

“เอ่อ……ก็ งูอ่ะ”

 

“ไปจับมาจากที่ปลายทางที่ไปท่องเที่ยวทางไกลมา ข้าเข้าใจถูกใช่ไหมคะ?”

 

“อ อื้ม……”

 

“……ทำไมได้ถึงมีจิตวิญญาณนักเอาตัวรอดล้นเหลือซะขนาดนั้นกันคะ”

 

“ถึงจะพูดงั้นก็เหอะ……”

 

‘อา ปัดโธ่’ อเลกเซียดูจะหัวเสียขึ้นไปเรื่อย ๆ

เฮเลนาไม่เห็นรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรที่มันพิสดารขนาดนั้นเลยแท้ ๆ

 

“ไปจับมาตอนไหนกันคะ”

 

“เอ่อ……ตอนแรกก็ขี่ม้าแข่งกันไปจนถึงลำธาร แล้วฝ่าบาทก็เริ่มนอนกลางวันตรงแถวนั้น ระหว่างนั้นข้าก็เลยแยกตัวออกไปจับมา”

 

“……เฮ้อ ปัดโธ่”

 

อเลกเซียกุมขมับอย่างคิดไม่ตกว่าควรจะเริ่มตักเตือนจากตรงไหนก่อนกันแน่

ก่อนที่จะพูดถึงการตักเตือน เจ้าตัวยังไม่คิดสักนิดเลยด้วยซ้ำว่าทำได้อะไรไม่ดีลงไป

 

“ก่อนอื่นนะคะท่านเฮเลนา……คิดจะเอางูนั่นมาใช้ทำอะไรหรือคะ?”

 

“กิน”

 

“ไม่ได้ค่ะ”

 

อเลกเซียส่ายหน้าทั้งที่ยังยืนกอดอก

ซึ่งเฮเลนาก็ได้แต่คุกเข่าแหงนหน้ามองอเลกเซีย

ทั้งที่เจ้านายของห้องนี้คือเฮเลนาแท้ ๆ ทำไมจุดยืนมันถึงได้กลับตารปัดกันแบบนี้นะ

 

“ปกติแล้วงูไม่ใช่ของกินนะคะ”

 

“งั้นหรอกรึ!?”

 

“ทำไมถึงตกใจเรื่องนั้นกันคะ……”

 

เมื่อได้ยินคำพูดที่คาดไม่ถึง เฮเลนาจึงเผลอขึ้นเสียง

สำหรับเฮเลนาแล้ว งูก็คือของกิน ไม่ได้เป็นอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น มันนับว่าเป็นแหล่งโปรตีนซึ่งหาได้ยากยิ่งในศึกสู้รบกลางป่า

การได้ยินว่ามันไม่ได้เอาไว้กิน จึงเป็นความจริงที่น่าตกใจอย่างยิ่ง

 

“แน่นอนว่าฝ่าบาทเองก็ได้เห็นเหมือนกันใช่ไหมคะ?”

 

“อา พอโดนถามว่ามีอะไรอยู่ในถุง ก็เลยตอบไปว่าเป็นงูน่ะ”

 

“แล้วไม่ได้โดนถามว่าจับมาทำไมหรือคะ?”

 

“ก็ตอบไปว่าจับมากิน”

 

“……แล้วฝ่าบาท ว่าอย่างไร?”

 

“พูดแค่ว่า ‘งั้นรึ’ น่ะ”

 

“นั่นมันปลงสนิทแล้วไม่ใช่หรือไงกันคะ”

 

เป็นแบบนั้นหรอกรึ

จะว่าไปแล้วเขาก็ทำหน้าเหมือนเหนื่อย ๆ อยู่จริง ๆ

 

“ท่านเฮเลนาคะ”

 

“อืม”

 

“หลังจากนั้น ก็ไปเพลิดเพลินกับการขี่ม้าท่องเที่ยว ทั้งที่มีงูคาอยู่ไว้ที่เอว สินะคะ”

 

“อื้ม”

 

“คนระดับอย่างข้ามาพูดอะไรแบบนี้ก็อาจเป็นการหมิ่นเบื้องสูง แต่ก็ต้องบอกว่าอดสงสารฝ่าบาทไม่ได้เลยค่ะ”

 

“ทำไมล่ะ”

 

ฟาร์มาสเองก็ดูจะสนุกดีนี่นา

เฮเลนาก็สนุก ฟาร์มาสก็สนุก ไม่ว่าจะคิดยังไง การไปขี่ม้าเที่ยวครั้งนี้ก็เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงไม่ใช่รึ

เช่นนั้นแล้วทำไมอเลกเซียถึงต้องมาสงสารด้วย

 

“อ่า……ช่างมันเถอะค่ะ เท่านี้ฝ่าบาทเองก็คงจะเข้าใจแล้วกระมังว่าท่านเฮเลนาเป็นคนแบบไหนกันแน่”

 

“……หมายความว่าไงน่ะ?”

 

“ถึงได้บอกแล้วไงค่ะ ว่าให้ทำตัวสงบเสงี่ยมหน่อยน่ะ……”

 

‘เฮ้อ’ อเลกเซียถอนหายใจแรงอย่างไม่คิดปิดบัง

ทว่า เฮเลนาก็ยังรู้สึกยากจะยอมรับอยู่ดี เธอทำผิดอะไรตรงไหนกัน ก็แค่จับงูกลับมาแท้ ๆ

ถึงหน้าตามันจะดูไม่น่าเอ็นดู แต่รสชาติก็เรียบง่ายสดชื่นคล้าย ๆ เนื้อไก่ ยิ่งกว่านั้นยังมีสรรพคุณชูกำลังอย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

 

“เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้วมันก็ช่วยไม่ได้ค่ะ เอาเป็นว่าตอนนี้ข้าจะไปนำมื้อเย็นมาก่อนนะคะ”

 

“อ อา……เอ่อ ข้ายืนขึ้นได้รึยัง?”

 

“เชิญนั่งที่โซฟาได้ค่ะ”

 

ดูเหมือนช่วงการเทศนาจะจบลงแล้ว

แต่อันที่จริง ไม่รู้ทำไมมันรู้สึกอเลกเซียจะปลงไปแล้วซะมากกว่า

 

อ๊ะ จริงสิ—เธอนึกขึ้นมาได้ในจังหวะนั้น

 

“อเลกเซีย”

 

“ค่ะ”

 

“ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป……ข้าจะต้องจัดการฝึกให้ห้าคนโดยมีท่านแองเจลิกาเป็นตัวหลัก เป็นเวลาหนึ่งเดือน”

 

“ค่ะ ก็ได้รับทราบมาแล้วนะคะ”

 

“เกี่ยวกับเรื่องนั้นน่ะ ข้าตั้งใจว่าจะให้ทั้งห้าคนนอนค้างกันที่นี่ แล้วก็คิดว่าอยากจะให้สาวใช้หรือนางกำนัลพยายามอย่าเข้าใกล้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย”

 

“อ่า……เช่นนั้น แล้วเรื่องมื้ออาหารหรืออะไรทำนองนั้นล่ะคะ”

 

“แค่ห้ามเข้าใกล้ระหว่างการฝึกเท่านั้นเอง การเตรียมอาหารก็ขอให้เตรียมทุกมื้อตามเดิม ข้าอยากจะให้อเลกเซียช่วยรับหน้าที่คอยสั่งการคนรับใช้ของทั้งห้าคนนั้นน่ะ”

 

หากมีสาวใช้หรือนางกำนัลอยู่ด้วย ก็อาจนำไปสู่ความเหลาะแหละของพวกเธอเหล่านั้นได้ และในการฝึกทหารใหม่นั้น เราจะต้องขจัดความเหลาะแหละออกไปให้ได้มากที่สุด

ทว่า แม้จะกล่าวเช่นนั้นแต่จะให้ละเลยมื้ออาหารก็ไม่ถูกต้องนัก ถึงจะมีแผนฝึกให้พวกเธอได้มีประสบการณ์ต่อความหิวโหยอยู่ด้วยก็จริง แต่โดยปกติแล้วก็ต้องได้รับประทานอาหารครบถ้วนสามมื้อ มันถึงจะนำไปสู่การเสริมสร้างพลังกายได้

และผู้ที่เฮเลนาจะมอบหมายหน้าที่เช่นนี้ให้ได้ ก็มีแค่อเลกเซียซึ่งเธอไว้วางใจมากที่สุดเท่านั้น

 

“อย่างนี้นี่เอง……รับทราบแล้วค่ะ”

 

“อืม ก็แค่บอกว่าอย่าโผล่หน้ามาที่ห้องนี้หรือสถานที่ฝึกจนกว่าจะถึงเวลาอาหารเท่านั้นเอง แต่หากพวกสาวใช้หรือนางกำนัลทำอะไรตามอำเภอใจทางนี้เองก็ลำบากเหมือนกัน ก็เลยอยากจะฝากให้ดูแลเรื่องนั้นทีน่ะ”

 

“ค่ะ รับทราบค่ะ”

 

‘อื้ม’ เมื่อเห็นอเลกเซียคำนับรับคำเรียบร้อย เฮเลนาก็พยักหน้าอย่างพอใจ

ตอนนี้ปูทางไว้เท่านี้ก่อนก็น่าจะเพียงพอแล้วกระมัง

ที่เหลือก็แค่เริ่มจัดการฝึกจริง ๆ เท่านั้น

 

บู้ตแคมป์นรกกำลังจะเปิดม่านแล้ว—

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+